คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : รักในตลาดสด(4)
“รับรองจ้ะ วันนี้ฉันอยู่บ้านจะนอนให้ท้องขึ้นไปเลย”คนเป็นลูกส่งยิ้มรับปากอย่างแข็งขันแต่ในใจกลับคิดไม่ตรงกับปาก
“ขอให้มันจริงเถอะ เอ้...ไอ้จ่อยทำไมยังไม่โผล่หัวมาอีก”กาแฟถูกซดจนหมดถ้วย แต่เจ้าสารถีตัวดียังไม่โผล่หน้า เมื่อเห็นเมี้ยนกำลังยกข้าวขึ้นตั้งโต๊ะแสนจึงถามขึ้น
“เมี้ยนมาก็ดีแล้วไปดูหลานชายตัวดีของแกสิ ป่านนี้แล้วมันแต่งองค์ทรงเครื่องเสร็จหรือยัง ข้าต้องเข้าประชุมที่อำเภอแต่เช้า”
“ตายจริง! ฉันนึกว่ามันจะเสร็จแล้วนะเนี่ย อุตส่าห์ไปปลุกตั้งแต่เช้า จะลงไปดูเดี๋ยวนี้ละจ้ะ”พอเมี้ยนหันหลังเดินลงบันไดก็เห็นจ่อยก็วิ่งกระหืดกระหอบ
“ฉันมาแล้ว จะไปกันหรือยังจ๊ะลุงฉันพร้อมแล้ว”
คนที่บอกว่าพร้อมผมเผ้ายุ่งเหยิงไม่เป็นทรง รองเท้าผ้าถูกสวมได้เพียงข้างเดียว ส่วนอีกข้างพ่อก็หนีบไว้ที่ซอกคอ เพราะมือกำลังติดกระดุมเสื้อยังไม่ครบแถวดี
“นี่เหรอพร้อมแล้วของเอ็ง สารรูปดูไม่ได้ข้าให้เวลาห้านาทีรีบจัดการกับตัวเองให้เรียบร้อยแล้วเอารถออกไปรอที่หน้าบ้าน”
“พ่อไม่กินอะไรสักหน่อยเหรอ”หญิงสาวหันไปถามบิดาเมื่อเห็นว่ากำนันแสนเตรียมตัวลงจากเรือน
“นั้นสิ กำนันจะรองท้องสักหน่อยไหม ฉันเตรียมข้าวต้มไว้แล้ว”เมี้ยนสมทบอีกคน
“ไม่ดีกว่าสายมากแล้ว เข้าประชุมช้ามีหวังถูกไอ้แอ๊ดมันแขวะ...ข้าขี้เกียจจะฟัง”กำนันแสนหมายถึงกำนันอีกตำบลที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันตั้งแต่สมัยหนุ่ม
ได้ยินแบบนั้นเมี้ยนจึงเก็บสำรับดูท่าข้าวต้มเป็นหม้าย เพราะกุ้งนางก็กำลังเดินหาวเข้าห้องตัวเองไปอีกคน
“เออ..! เมี้ยน”กำนันแสนก้าวลงบันไดไปไม่กี่ขั้นก็หยุดเมื่อนึกอะไรขึ้นได้
“มีอะไรหรือกำนัน”เมี้ยนจำต้องวางถาดในมือลง
“อยู่บ้านดูลูกข้าให้ดี อย่าปล่อยให้ออกไปก่อเรื่องเด็ดขาด”
เมื่อเห็นว่าบุตรสาวเดินเข้าห้องไปแล้ว กำนันแสนก็หันมากำชับคนเก่าคนแก่ที่เลี้ยงดูกันมาตั้งแต่เล็ก
“ไม่ต้องห่วง ฉันจะดูแลเป็นอย่างดี ไม่ปล่อยให้คาดสายตา”เมี้ยนรับปากอย่างแข็งขัน
“ให้มันจริงสิน่า! คราวที่แล้วปล่อยให้ไปตลาดกับเอ็งไม่กี่ชั่วโมง ดันไปมีเรื่องกับจิ๊กโก๋”แสนตวัดตามองอีกฝ่ายอย่างนึกเคือง
“โธ่! กำนัน ไอ้พวกนั้นสมควรโดน ปากเสียแบบนั้นเอารองเท้าล้างปากเสียมั้งก็ดี”พอพูดถึงพวกไอ้พวกนี้ที่ไร เมี้ยนก็ฮึดฮัดขึ้นมาทันที
“เอ็งก็เป็นซะแบบนี้ตามใจให้ท้ายกันอยู่เรื่อย”
“ก็มันจริงนะกำนัน มีอย่างที่ไหนมาว่าคุณหนูของเมี้ยนหาผัวไม่ได้”
“ใครวะที่กล้าว่าลูกข้า”ได้ยินคำนั้นกำนันแสนก็หน้าตึง ถึงใจจะเห็นด้วยแต่ก็ยอมไม่ได้ที่จะให้ใครมาตำหนิคนของตน
“ก็จะใครที่ไหน พวกไอ้เป้ลูกกำนันแอ๊ดไง หน็อยพูดออกมาได้ คนของเราใช่ว่าจะขี้ริ้วขี้เหร่เสียเมื่อไร แค่นั้นมันยังน้อยไปเสียด้วยซ้ำ”
“ไอ้เป้อีกแล้วเหรอวะ สมน้ำหน้ามันพ่อมันคงไม่มีเวลาสั่งสอน ลูกถึงเกเรระรานคนอื่นเขาแบบนี้”แสนเออออเห็นด้วยพาลนึกเคืองไปถึงพ่อของเจ้าเป้
“จะว่าไป คุณหนูของเมี้ยนธรรมดาเสียที่ไหน เรียนหนังสือก็เก่ง หน้าที่การงานก็ดี”เมี้ยนนึกฉุนคนปากเปราะที่กล้าว่าคุณหนูของตน
“อืม..อันนี้มันก็ถูกของเอ็ง”กำนันแสนพยักหน้าเห็นด้วย ความเป็นพ่อย่อมเห็นลูกตัวดีกว่าคนอื่นเสมอ
“ฐานะทางบ้านก็ใช่ย่อย เป็นถึงลูกกำนันดังเศรษฐีติดอับดับต้นๆของบ้านดงตาล”
“เออ..อันนี้ยิ่งถูกเข้าไปใหญ่นังเมี้ยน”กำนันแสนยืดอกผึ่งขึ้นมาทันที
“เสียอยู่อย่างเดียว...เฮ้อ!”
มาถึงตอนนี้เมี้ยนเว้นไว้ในฐานที่เข้าใจกันดี กำนันแสนเองก็เหล่ตามองเมี้ยน อกที่ยืดไว้ผึ่งเมื่อครู่ถึงกลับเหี่ยวลงทันที แล้วทำปากขมุบขมิบก่อนจะเอ่ยออกมา
“ยังขาดความเป็นกุลสตรี”
“แหม่! กำนันรู้ได้ไง ฉลาดสมกับที่เคยเป็นกำนันดีเด่นจริงๆ”
เมี้ยนยกนิ้วขึ้นดีดดังเป๊าะไม่วายเอ่ยปากยอเจ้าของบ้าน แต่อีกฝ่ายเหลือบมองเมี้ยนพลางนึกค่อนขอดในใจ
‘โธ่! นังเมี้ยน แกก็ใช่ย่อยไม่อย่างนั้นคงไม่อยู่บนคานจนแก่ป่านนี้ แล้วไอ้นิสัยห่ามๆของเอ็งไม่ใช่หรือที่ติดมาถึงลูกข้า’
คิดแล้วก็กลุ้มจนต้องถอนหายใจออกมา กำนันแสนเดินตรงไปยังรถที่จ่อยกำลังติดเครื่องยนต์รอไว้
“ข้าคิดผิดหรือเปล่าวะที่ปล่อยให้เอ็งมาเลี้ยงลูกข้า...นังเมี้ยน”
“เดี๋ยวสิกำนันพูดแบบนี้...หมายความว่าไง เมี้ยนงงนะ”
สาวใหญ่วัยทองยืนเกาหัวตัวเองแก๊ก ตะโกนไล่หลังคนที่กำลังเดินขึ้นรถโดยไม่คิดจะหันหลังมาสักนิด
ความคิดเห็น