คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2 ลักพาตัว
งานเลี้ยงพิธีสมรส จวนได้เวลาที่เจ้าสาวจะออกไปต้อนรับแขก เจสสิก้ายังคงอยู่ในห้องที่จัดไว้เพื่อรอเวลาที่เจ้าสาวจะออกไปหาเจ้าบ่าว
“สวยจังเลยนะคะ” ทิฟฟานี่เข้ามาให้ห้องของเจสสิก้า
“ขอบคุณนะฟานี่ที่มางานแต่งพี่” เจสสิก้ายิ้มให้กับน้องสาวต่างมารดา
“ก็งานแต่งพี่สาวทั้งคนนี่คะ ไม่มาได้ยังไง” ทิฟฟานี่หยิบสร้อยคอมาสวมให้เจสสิก้าอย่างเบามือ สายตาที่ริษยาต้องเก็บไว้ชั่วคราว อิจฉา เป็นคำเดียวที่ทิฟฟานี่มีให้พี่สาวเท่านั้น
เจสสิก้าเกิดมาก็มีพร้อมทุกอย่างต่างจากเธอลูกเมียน้อย ทิฟฟานี่ได้แต่คิดน้อยใจมาตลอดกับความรักที่ไม่เท่าเทียมกันของผู้เป็นพ่อ
“ไม่นานก็ถึงคราวเธอแหละฟานี่ แทยอนออกจะใส่ใจเธอขนาดนี้” เจสสิก้าแซวน้องสาวแต่ทิฟฟานี่กับทำหน้าเบื่อหน่ายอย่างเสียไม่ได้
ลูกเมียน้อยต้องคู่กับลูกคนใช้งั้นซิ แต่เสียใจเจสสิก้าคนอย่างฉันต้องได้คนที่ดีกว่าเธอเท่านั้น
“อืม ฉันออกไปรอข้างนอกนะ” ทิฟฟานี่เดินออกจากห้องไปเหลือแต่เจ้าสาวที่กำลังเช็คความเรียบร้อยของตนเอง
ก๊อกๆๆ
“ใครคะ” เจสสิก้าเดินไปเปิดประตูอีกครั้ง
“สวัสดีค่ะคุณเจสสิก้า ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” ร่างสูงของยูริยิ้มทักทายก่อนจะใช้ผ้าปิดจมูกของเจสสิก้าทันที
อุ๊บ!!!!
เพียงเวลาไม่นานร่างบางก็อ่อนแรงและสลบไปทันที ยูริอุ้มเจสสิก้าพาดบนบ่าและจะทิ้งจดหมายไว้ที่บนเตียงนอน ก่อนจะอุ้มเจสสิก้าหนีออกไปทางหนีไฟ เพื่อไปยังลานจอดรถของโรงแรมทันที ยูริแบกเจสสิก้าจนมาถึงรถของเธอก่อนจัดการมัดมือมัดเท้าของเจสสิก้าให้ติดกับเบาะรถเรียกได้ว่าไม่มีทางที่เจสสิก้าจะหนีได้เลย เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อย ยูริก็ได้สังเกตใบหน้าของเจสสิก้าอีกครา “สวย” เป็นคำเดียวที่ยูริคิดได้ แต่เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ซูยองเล่า สีหน้าของยูริก็เปลี่ยนทันที
“คิดว่าสวยสินะ ถึงได้ชอบปั่นหัวคนเค้าไปทั่ว” ยูริหยุดจ้องหน้าสวยที่ไม่ได้สติก่อนจะสตาร์ทรถ ขับออกไปทันที
“ฟานี่ไปตามเจสมาได้แล้วลูก ได้เวลาพิธีแล้วละ” จอง อีมิน สั่งลูกสาวคนเล็กให้ไปตามลูกสาวคนโต ที่อยู่ในห้องเพื่อมารับแขกที่เริ่มทยอยกันมาในงาน
“ค่ะพ่อ” ทิฟฟานี่แสร้งยิ้มและเข้าไปเรียกเจสสิก้า
“ตื่นเต้นจังเลยค่ะคุณลุง เจสต้องสวยแน่ๆ” เยอึนที่แต่งตัวด้วยชุดสูทเข้ารูปสีขาวรวบผมไว้ทำให้ดูสวยและหล่อในคราวเดียว เพ้อถึงคนรัก
“รักลูกสาวลุงให้มากๆนะเยอึน” อีมิน แม้ในใจจะอยากให้ลูกมีความรักเหมือนกับคนทั่วไปแต่หากลูกเธอตัดสินใจรักใครแล้วเค้าก็ไม่อยากขัดขวางเพราะมันเป็นความสุขของคนที่เค้ารัก
“หนูจะรักเจสเท่าที่คนคนหนึ่งจะรักใครได้ค่ะ” เยอึนให้คำมั่นกับคุณจอง อย่างจริงใจ อีมิน ตบบ่าลูกสาวอีกคนหนึ่งด้วยว่าฝากความเชื่อใจทั้งหมด
“พ่อคะ” ทิฟฟานี่มาถึงก็ยื่นซองจดหมายให้กับบิดาโดยที่ไม่ได้พูดอะไร
เยอึน ฉันขอโทษที่ต้องทำอย่างนี้เพราะฉันกลัวกับการแต่งงาน อีกอย่างฉันไม่คิดว่าฉันจะรักเธอจริงๆ ขอโทษอีกครั้งกับความโลเลของฉัน แล้วก็ไม่ต้องออกตามหาฉันหรอกเพราะฉันอยากพักผ่อน...เจสสิก้า
“ไม่จริงอ่ะ เจสไม่มีวันทำอย่างนี้” เยอึนเปลี่ยนสีหน้าไปทันทีที่อ่านจดหมายเสร็จ
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นคุณจอง ทำไมลูกสาวคุณทำอย่างนี้” ปาร์ค แทยัง พ่อของเยอึนถึงกับหัวเสียอย่างมากที่โดนหักหน้า
“ฟานี่ติดต่อเจสได้มั้ย” อีมิน ถามทิฟฟานี่อีกครั้ง
“ไม่ได้ค่ะพ่อ” ทิฟฟานี่ส่ายหน้าเศร้าเป็นคำตอบทั้งที่ในใจแสนจะลิงโลดกับความหายนะของงานในวันนี้
“ไม่ใช่ลายมือเจสนะคะพ่อ พ่ออย่างเพิ่งโกรธสิ เรื่องนี้มันต้องมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากล”
เยอึนดูเหมือนจะมีสติที่สุดเพราะได้อ่านจดหมายอีกครั้งหนึ่งก็พบว่าไม่ใช่ลายมือของเจสสิก้า อีกทั้งก็เชื่อมั่นในตัวของคนรักที่จะไม่มีวันทำเหตุการณ์อย่างนี้แน่นอน
“จะอะไรฉันไม่รู้ทั้งนั้นเยอึน แกต้องกลับบ้านกับพ่อ” แทยัง ออกคำสั่งกร้าว
“พ่อ!!!!!”
“ถ้าแกไม่กลับก็ไม่ต้องเอาหน้ามาให้ฉันเห็น ส่วนงานวันนี้ยกเลิกครับทุกคน” แทยังประกาศทำเอาเยอึนถึงกับเสียใจ ที่พ่อไม่เข้าใจอีกทั้งแฟนสาวก็หายตัวไปแต่เธอก็ต้องกลับบ้านพร้อมบิดาอยู่ดี
“พ่อคะ” ทิฟฟานี่พัดให้ อีมิน ที่ทำท่าว่าจะเป็นลมเพราะเป็นห่วงลูกสาว
“พ่อไม่เป็นไรฟานี่เจสคงมีเหตุผล กลับบ้านเราเถอะ” อีมินบอกลูกสาวคนเล็กแม้ในใจจะเป็นห่วงเจสสิก้ามาเท่าใดก็ตาม แทยอนที่สังเกตการณ์อยู่ก็เข้ามาประชิดถามทิฟฟานี่เบาๆ
“หวังว่าคงไม่ใช่ฝีมือเธอนะฟานี่” แทยอนกระซิบถามเมื่อ อีมิน ขึ้นรถเป็นที่เรียบร้อย
“ฉันไม่ได้ทำ แล้วก็อย่าตีตัวเสมอฉันให้มันมากนักนะ แทยอน” ทิฟฟานี่ตอกกลับก่อนจะขึ้นรถไปนั่งข้างๆบิดา ส่วนแทยอนซึมไปเล็กน้อยก่อนจะอ้อมไปฝั่งคนขับ
ซ่าาาา ซ่าาา ~~~
เจสสิก้า ลืมตาตื่นขึ้นมากระพริบตาน้อยๆเพื่อไล่ความมึนงงที่เกิดขึ้นสายตาปรับกับแสงที่จ้า
“อ๊าว อ่าว อ้าว ตื่นแล้วเหรอคะคุณผู้หญิง” เสียงห้าวทุ้มต่ำกล่าวทักทายเป็นคำแรกอย่างยียวนกวนประสาทที่สุดในความคิดของเจสสิก้า
“คุณเป็นใคร แล้วจับฉันมาทำไม” เจสสิก้าพยายามแก้เชือกที่มัดที่ข้อมือเธออยู่ ในใจหวาดหวั่นไม่น้อยที่จู่ๆก็โดนจับตัวมาโดยไม่รู้สาเหตุ
“ฉันควอน ยูริ แต่จับเธอมาทำไมน่ะเหรอตอนนี้ยังไม่รู้แต่จับมาไว้ก่อนได้มั้ยละ ฮ่าๆ”
“ฉันไม่รู้จักคุณ ไม่เคยเจอคุณ ทำไมต้องทำอย่างนี้ด้วย” เจสสิก้ามองใบหน้าสวยคมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย
“เธอไม่รู้จักฉันหรอก แต่เธอคงไม่ปฏิเสธหรอกนะว่าเธอไม่รู้จัก อิมยุนอา” ยูริกล่าวครั้งนี้เต็มไปด้วยน้ำเสียงที่เครียดกว่าเดิมมากรวมทั้งสีหน้าที่กลับมาบึ้งตึงจนเจสสิก้าสังเกตได้
“ฉันก็ไม่รู้จักอยู่ดี ฉันว่าคุณเข้าใจผิดแล้วละคุณยูริ” คำตอบของเจสสิก้ายิ่งทำให้อารมณ์ของยูริประทุมากขึ้น
“ไม่รู้จักงั้นเหรอ!!!” ยูริบีบคางมนของเจสสิก้าให้มาเผชิญหน้ากับตนเอง
“ไม่ ฉันไม่เคยรู้จัก คนที่ชื่อ ยุนอา” เจสสิก้าตอกกลับในน้ำเสียงที่ชัดเจนจนยูริหมดความอดทน
“ผู้หญิงมารยาอย่างเธอ คงจะปั่นหัวใครมามากสินะถึงจำน้องฉันไม่ได้ ฮึ...น่าสมเพชที่สุด”
“คุณมีสิทธิ์อะไรมาว่าฉัน แล้วฉันก็ไม่เคยทำตัวอย่างที่คุณว่ากรุณาอย่าพูดจาดูถูกฉันอย่างนี้” เจสสิก้าพยายามระงับอารมณ์อย่างที่สุด หากแต่ว่าถ้ามือเธอไม่ถูกมัด คนร่างสูงนี้คงได้รับรู้ฝีมือการตบจากเธอไปแล้ว
“พูดดีแค่นี้ก็ดีจะตายอยู่แล้วค่ะคุณผู้หญิง” ยูริแกล้งเจสสิก้าโดยการกระซิบแผ่วเบาก่อนจะเม้มเบาๆที่ติ่งหูของร่างบาง เจสสิก้าถึงกับตกใจใช้มือที่ถูกมัดทุบยูริไม่ยั้งแม้จะไม่ถนัดก็ตามที เป็นการตอบแทนร่างสูง
“มาไม่เท่าไหร่ก็ลงไม้ลงมือกันซะละ อย่างนี้ซิมันถึงจะสนุก” ยูริยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เจสสิก้าอย่างกวนประสาท
“ปล่อยฉันไปเถอะนะยูริ” เจสสิก้าอ้อนวอนกับยูริอีกครั้ง
“เสียใจเจสสิก้า เธอทำให้ฉันสูญเสียคนที่ฉันรักมากที่สุด เธอทำให้เค้าเจ็บ ฉะนั้น ฉันเนี่ยแหละจะทวงความยุติธรรมให้น้องฉันเอง เธอจะต้องเสียใจมากกว่าน้องฉันร้อยเท่าพันเท่า”
“อ๋อ อยากคิดหนี เพราะข้างหน้าบ้านฉันเป็นทะเลข้างหลังเป็นป่า และเกาะทั้งเกาะนี้เป็นของฉันไม่ว่าเธอจะพยายามหนีเท่าไหร่ก็ไม่พ้นฉันอยู่ดี” ยูริโดยไม่ทิ้งช่วงให้เจสสิก้าได้อธิบาย ก่อนจะเดินออกไปข้างนอกห้อง
นี่มันเกิดบ้าอะไรกับชีวิตของฉันเนี่ย
==========================================
โหย น้อยใจอ่ะไม่มีคอมเม้นท์ชื่นใจให้ไรท์เตอร์เลย
มันไม่สนุกเหรอคะ T T แต่เห็นคนเม้นท์ให้ 3-4 คน ก็ขอบคุณมากเลยนะคะ
ส่วนเนื้อเนื้อเรื่อง ยังค่ะ มันยังเน่าได้กว่านี้ ฮ่าๆๆ
แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้านะคะ
ความคิดเห็น