◈ธาราที่15◈
ตึกสูงกับอาคารและบ้านเรือนนับสิบๆหลังเต็มไปด้วยกลิ่นของมนุษย์ปะปนอยู่เป็นจำนวนมาก ยิ่งเป็นในตัวเมืองยิ่งมีกลิ่นของผู้คนอัดแน่นกันมากกว่าปกติแต่ถึงอย่างนั้นกลิ่นสาบของนักล่ามันกลับเด่นชัดขึ้นมาทันทีที่เปิดกระจกออก
ด้วยประสาทสัมผัสของไดโนเสาร์กลายพันธุ์อย่างผมทำให้รู้อย่างรวดเร็วว่ากลิ่นนั่นไม่ใช่สัตว์นักล่าตัวเล็กที่มีอยู่ทั่วไปอย่างพวกงูหรือสัตว์มีพิษ
สัมผัสนั่น...
“อันตราย”ผมพึมพำพร้อมขมวดคิ้วแน่น
นอกจากจะอันตรายแล้วจำนวนยังไม่ใช่น้อยๆเลยด้วย
“เกิดอะไรขึ้นลูก้า”สามถามผมด้วยใบหน้าร้อนรน
“มีไดโนเสาร์อยู่ไม่ไกลจากนี่”
“อยู่ในรถขนย้ายรึเปล่า”
“...ไม่แน่ใจ...แต่คิดว่าไม่ได้อยู่ในรถขนย้าย”ผมนิ่งเพื่อทำสมาธิรับรู้ถึงสถานการณ์ที่อยู่ไกลออกไปก่อนตอบสามกลับ
“ถ้าไม่ได้อยู่ในรถขนย้ายเป็นไปได้ว่าอยู่ตามสวนสัตว์หรือสถานที่จัดแสดง...แถวนี้ก็มี... ไม่สิ ที่นั่นไกลเกินไป ระยะรับกลิ่นของลูก้าอยู่ประมาณ200กิโลเมตร ในขอบเขตนี้มีสวนสัตว์อยู่ก็จริงแต่ถ้าเป็นแบบนั้นลูก้าคงได้กลิ่นสัตว์อื่นด้วยไม่ใช่แค่ไดโนเสาร์”
คำพูดเพียงไม่กี่คำของผมสามารถทำให้สามวิเคราะห์สถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วจนผมลอบยิ้มออกมาโดยไม่ให้อีกฝ่ายเห็น
เป็นอย่างที่สามพูดผมไม่กลิ่นพวกสัตว์แถวกลิ่นไดโนเสาร์กลุ่มนั้นเลย
สมแล้วที่เป็นสาม
“เอายังไงต่อ?”ผมถามพลางมองสามอย่างขอความเห็น
“ไปดูกัน...ปล่อยไว้แบบนี้มันคาใจ”
“เอาสิ”ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นถึงได้มีกลิ่นไดโนเสาร์ใจกลางเมืองแบบนี้
“ผมต้องกลับรถสินะ...นำทางด้วยลูก้า”สามพูดพร้อมกับออกรถอีกครั้ง
“ได้...พอกลับรถแล้วก็ตรงไปเรื่อยๆเลย”ผมอธิบายทางให้คนขับรถรู้เป็นระยะ เส้นทางที่ขับมาบางครั้งก็ไม่สามารถขับตามที่ผมบอกได้จึงต้องใช้เวลาในการรัดเลาะพอสมควร
ยิ่งเข้าใกล้กลิ่นของไดโนเสาร์ก็ยิ่งเด่นชัดขึ้น
ไม่ใช่แค่กลิ่นของไดโนเสาร์เท่านั้นที่เด่นชัดขึ้นแต่กลิ่นของมนุษย์กำลังหวาดกลัว...ความกลัวนั่นทำเอาผมต้องกำมือแน่นเพื่อข่มอารมณ์อยากล่าที่เกิดขึ้น
มนุษย์ไม่รู้เลยว่าการวิ่งหนีด้วยความหวาดกลัวนั่นจะยิ่งกระตุ้นความอยากล่าให้มีมากขึ้น
คำว่าล่าไม่ใช่แค่เพื่อกินเท่านั้น มีหลายครั้งที่พวกเราล่าด้วยเหตุผลอื่นอย่างเช่นความสนุก ความแค้นหรือแม้แต่ความสนใจ
ปริ๊นน
ปริ๊นน
“รถติดขนาดนี้แปลว่าเกิดเรื่องแน่”สามพูดด้วยใบหน้าคลุ่นคิด สถานการณ์ตรงหน้าคือรถหลายสิบคันพากันขับฝ่าไฟแดงกันจ้าระหวั่นราวกับกำลังหนีอะไรบางอย่าง
แน่นอนว่าต่อให้ไม่ต้องถามผมก็รู้ว่าพวกเขาหนีอะไร
“ได้โนเสาร์พวกนั้นกำลังล่า”และคิดว่าไม่ได้เพราะหิวด้วย
“ผมคิดว่าคงมีคนแจ้งหน่วยปฏิบัติการพิเศษแล้ว แต่กว่าจะมาถึงคงต้องใช้เวลา”
“สาม”ผมหันไปเรียกพร้อมสบกับดวงตาสีน้ำตาลนั่นอย่างจริงจัง
ถึงไม่ต้องพูดประโยคยาวเหยียดผมก็รู้ว่าสามจะเข้าใจในสิ่งที่ผมต้องการ
“คิดเหมือนกันเลยแฮะ...ไปกันลูก้า”พูดจบสามก็หักพวงมาลัยเอารถไปจอดไว้ด้านข้างก่อนจะเปิดประตูฝั่งคนขับวิ่งออกไปโดยมีผมวิ่งตามไปติดๆ
อย่างที่ผมคิดเลยสามรู้ว่าผมต้องการอะไรแม้จะไม่พูดออกมา
ผมเองก็คิดเหมือนกันว่าอยากลงไปช่วยในสถานการณ์นี้แม้จะรู้ว่าไม่ใช่หน้าของตัวเองก็ตาม ภารกิจของผมและสามเหมือนจะส่งตรงมาจากหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษอย่างเซโคร ไม่สิ สามบอกให้เรียกคุณนี่นา
เพราะเหตุนั้นพวกเราจึงไม่เข้าไปยุ่งกับภารกิจอื่นๆของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ทว่าครั้งนี้มันต่างออกไป...บริเวณรอบๆนี่มีเพียงมนุษย์ที่หนีกันโดยไม่มีคนที่สามารถหยุดหรือจัดการกับไดโนเสาร์พวกนั้นได้
อย่างที่บอก ยิ่งหนีพวกเราก็จะยิ่งตาม จะยิ่งล่าตราบเท่าที่ขายังขยับได้
ไม่ใช่ทางที่ดีเลยการวิ่งหนีเนี่ย
สามวิ่งตรงไปยังสถานที่ที่มีกลิ่นของไดโนเสาร์กำลังรวมตัวกันอยู่ด้วยใบหน้าเหมือนกำลังวิเคราะห์สถานการณ์ สถานที่เกิดเหตุเป็นถนนสายใหญ่ที่ด้านข้างมีสวนสาธารณะตั้งอยู่ ไดโนเสาร์ไม่ทราบสายพันธ์สองชนิดกำลังวิ่งไล่ล่ามนุษย์โดยการใช้ปากที่มีเขี้ยวอันแหลมคมขย้ำเหยื่อบนพื้น
เพียงแค่การกัดครั้งเดียวมนุษย์ก็ไม่อาจรอดได้แล้วแต่เหมือนพวกมันจะไม่สะใจพอเพราะตัวที่คาบมนุษย์อยู่ในปากกลับโยนร่างไร้ชีวิตไปยังฝูงด้านหลังทำให้เกิดการฉีกกระชากร่างนั้นอย่างรุนแรงจนถนนสีเทาถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดง
นี่มันยิ่งกว่าอันตรายแล้ว
อีกอย่างจำนวนขนาดนั้น...กะคร่าวๆก็น่าจะเกิน10ตัว
“สาม”ผมหันไปเรียกคนข้างกายที่มองภาพนั่นพร้อมเม้มปากแน่น
ผมไม่รู้ว่าสามรู้สึกยังไงกับภาพนั่นแต่สำหรับผมมันเป็นธรรมชาติที่ผู้อ่อนแอกว่าต้องตกเป็นเหยื่อ
หลายคนอาจมองว่าเป็นสิ่งไม่ถูกแต่มันก็คือธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต
“ทำไมต้องเป็นเจ้าสองตัวนี่ด้วย”
“รู้จักพวกมันเหรอ”ผมหันไปถาม จริงอยู่ปกติสามจะสามารถบอกชื่อ ลักษณะรูปร่างหรือแม้แต่นิสัยของสัตว์น้ำได้อย่างแม่นยำแต่พอเป็นพวกสัตว์บกสามจะไม่มีความรู้นัก
ครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่ไม่รู้ ดวงตาสีน้ำตาลของสามกำลังสั่นซึ่งผมไม่รู้ว่าสั่นเพราะอะไรแต่ที่แน่ๆมันไม่ใช่ความหวาดกลัวอย่างไร้ทางสู้เหมือนมนุษย์ทั่วไปที่วิ่งหนีกัน
“หึ...ไม่ได้อยากรู้จักสักนิด ทั้งที่ไม่อยากรู้จักแต่ความอันตรายของพวกมันทำให้ผมจำชื่อนั้นได้แม่นเลยล่ะ เราเจอพวกอันตรายเข้าให้แล้ว”
“สาม...”
“เจ้าตัวขาวนั่นคือคาร์คาโรดอนโทซอรัสเป็นได้โนเสาร์ยาวกว่า13เมตรที่มีฟันคล้ายคลึงกับฉลามขาวโดยแต่ละซี่มีความยาวกว่าครึ่งไม้บรรทัด นั่นหมายความว่ามันมีพลังในการฉีกกระชากเนื้อเป็นอันดับต้นๆเลยทีเดียว แม้จะเป็นไดโนเสาร์ขนาดใหญ่ติดอันดับแต่มันกลับมีสมองเล็กและประสาทสัมผัสอันเชื่องช้า”
“แปลว่าเราสามารถอาศัยจุดนั้นเข้าไปโจมได้สินะ”ผมพูดออกมาหลังจากได้ยินคำอธิบาย
“ถ้าคิดแบบนั้นก็ผิดแล้ว”
“หมายความว่าไง”
“ถึงคาร์คาโรดอนโทซอรัสจะมีสมองเล็กและประสาทสัมผัสอันเชื่องช้าแต่มันกลับมีสายตาที่สามารถมองในรูปสามมิติ”
“สามมิติ?”
“ใช่...มันสามารถกะระดับในการโจมตีได้อย่างแม่นยำโดยใช้สายตานั่น”
“คาร์คาโรดอนโทซอรัสอาจอันตรายแต่ถ้าเป็นอีกตัวที่เล็กกว่าเราอาจจะจัดการกับพวกมันก่อนได้”ผมลองเสนอความเห็นเมื่อมองไปยังไดโนเสาร์อีกสายพันธุ์ที่วิ่งขนาบข้างมาติดๆ
ถ้าคาร์คาโรดอนโทซอรัสอันตรายเราก็จัดการตัวที่จัดการง่ายกว่าเพื่อลดจำนวนลง ดูจากขนาดของมันเล็กกว่าคาร์คาโรดอนโทซอรัสอยู่ค่อนข้างมาก
“ถ้าคิดว่าจะจัดการแอลเบอร์โตซอรัสได้ง่ายๆก็ขอให้คิดใหม่ซะลูก้า”สามพูดด้วยท่าทางเครียดกว่าเดิมเล็กน้อยเมื่อมองไปยังฝูงไดโนเสาร์ตรงหน้าที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
“จะบอกว่าแอลเบอร์โตซอรัสอันตรายกว่าคาร์คาโรดอนโทซอรัสงั้นเหรอ”
“จะว่าแบบนั้นก็ได้ แอลเบอร์โตซอรัสอาจจะมีขนาดตัวเพียง9เมตรซึ่งน้อยกว่าคาร์คาโรดอนโทซอรัสทว่าด้วยกรามที่เล็กและบางนั่นช่วยเพิ่มความแม่นยำในการโจมตีเหยื่อ นอกจากนี้ฟันของแอลเบอร์โตซอรัสยังเป็นแหล่งสะสมของพิษร้ายเพราะฟันของมันโค้งไปด้านหลังทำให้เวลากินมีพวกแบททีเรียไปเจริญเติบโตอยู่เป็นจำนวนมาก”
“ผมดูการเคลื่อนไหวของแอลเบอร์โตซอรัสอยู่ รู้สึกว่าจะช้ากว่าคาร์คาโรดอนโทซอรัสอยู่มาก...แปลว่ามันอาจเหนื่อยเร็วรึเปล่า”ผมลองออกความเห็นตามสิ่งที่เห็น
“ไม่ใช่เหนื่อยหรอก แอลเบอร์โตซอรัสเชื่องช้ากว่าก็จริงแต่มันสามารถวิ่งได้นานกว่านักล่าอื่นๆนั่น จึงเป็นข้อได้เปรียบเวลาแข่งล่าเหยื่อหรือการไล่ล่า”
“...พวกมันไม่ควรมาอยู่ด้วยกัน”นั่นเป็นสิ่งที่ผุดขึ้นมาหลังจากได้ยินคำอธิบายจากสาม
“เห็นด้วยเลย...ตัวหนึ่งก็ฟันยาวกว่าครึ่งไม้บรรทัดทำให้ไม่มีอะไรที่กัดไม่เข้า อีกตัวก็มีเขี้ยวที่สะสมแบททีเรียอันตรายเอาไว้แถมยังมีพละกำลังสำหรับการต่อสู้ในระยะยาวอีก เป็นการต่อสู้ที่ยากมากจริงๆ”
“แต่สามพอจะมีวิธีนี่”
“อะไรที่ทำให้คิดแบบนั้น”สามหันมามองด้วยใบหน้าสงสัยนั่นทำให้ผมยิ้มออกมาบางๆก่อจะตอบกลับไป
“ใบหน้าเครียดและกังวลก่อนหน้านี้ไม่มีแล้วน่ะสิ...อีกอย่างรอยยิ้มมุมปากนั่นเหมือนจะบอกว่าเป็นวิธีนี้ต้องจัดการได้แน่”
“...อ่านใจผมได้จริงๆใช่ไหม บอกมานะลูก้า”น้ำเสียงอึ้งๆดังขึ้นพร้อมสายตาจับผิด
“เปล่า...บอกแล้วไงว่ารู้แค่เรื่องสามเท่านั้นแหละ”เพราะเป็นสามที่คอยเฝ้ามองมาตลอดไม่ว่าจะเป็นการกระทำอะไรทำให้พลอยรู้ถึงสิ่งที่สามคิดไปด้วย
แน่นอนว่าถ้าเป็นคนอื่นผมคงตอบไม่ได้หรอกว่าคิดอะไรอยู่
ส่วนตัวผมไม่ค่อยสนใจมนุษย์คนอื่นนัก เรียกว่าพวกขาไม่ดึงดูดให้ผมสนใจก็ได้
แต่กลับสามมันไม่ใช่ ทุกอย่างของเขามันดึงดูสายตาและเรียกร้องความสนใจจากผมเสมอ
เพราะแบบนั้นถึงได้รู้
“รู้ดีจริงนะ...เอาเถอะ ก็ถูกอย่างที่ว่าผมมีแผน”
“งั้นก็รีบเถอะ...ผมจะกลับร่าง...”
“ไม่ได้”สามหันมาคัดค้านเสียงแข็งทันทีที่ได้ยิน
“ทำไมล่ะ?”ผมถามอย่างไม่เข้าใจ จำนวนขนาดนั้นทำไมไม่ให้ผมกลับร่างกัน
“จริงอยู่ที่ถ้านายกลับร่างอาจจัดการได้ไม่ยากแต่นั่นหมายถึงในน้ำไม่ใช่บนบกแบบนี้”
“สาม...”
“ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสองซึ่งอากาศก็อย่างที่เห็นทั้งอบทั้งร้อน ขืนนายกลับร่างเพียงไม่กี่นาทีผิวก็จะแห้ง ดีไม่ดีอาจจะไหม้ เมื่อไม่มีน้ำพิษจากแมงกะพรุนไฟก็เป็นได้แค่เส้นประดับหางเท่านั้น”สามอธิบายต่อโดยไม่ปล่อยให้ผมได้แย้งอะไร
แต่ก็เป็นอย่างที่อีกฝ่ายบอกทุกอย่าง
ร่างไดโนเสาร์ผมไม่เหมาะกับต่อสู้บนบก ครีบที่ให้เคลื่อนไหวใต้น้ำไร้ประโยชน์ทันทีเมื่อต้องมาวิ่งไล่กันบนถนนร้อนๆ
“แล้วจะทำยังไง”ผมหันไปถามสาม ความกังวลเริ่มเข้ามาทันทีที่รู้ไม่สามารถต่อสู้ในร่างที่เคลื่อนไหวได้สะดวกที่สุด
“สู้ในร่างมนุษย์”น้ำเสียงของสามราวกับจะบอกว่าเป็นเรื่องง่ายที่ใครๆก็ทำได้
“สามพูดเหมือนเป็นเรื่องง่ายที่จะสู้”
ขนาดผมที่มีสายเลือดของไดโนเสาร์อยู่ครึ่งนึงยังไม่คิดว่าร่างมนุษย์จะเอาชนะไดโนเสาร์นักล่ากว่า10ตัวได้เลยสักนิด แล้วสามที่เป็นมนุษย์ธรรมดาทำไมถึงได้กล้าพูดด้วยน้ำเสียงแบบนั้นกัน
“ไม่ยากเท่าไหร่หรอก เชื่อสิ”สามบอกพร้อมยกยิ้มขึ้น รอยยิ้มนั่นเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ
“สาม...”ก็อยากเชื่ออยู่หรอก
แต่ว่ามัน...
“ผมจะทำให้ดูลูก้า นายอาจผิดหวังกับผมที่เคลื่อนที่ช้าอย่างกับเต่าเมื่ออยู่ในน้ำแต่ตอนนี้ผมจะแสดงให้เห็นว่าผมมีความสามารถมากพอที่จะได้เป็นคู่หูของนาย”พูดจบสามก็วิ่งไปยังร่างสีขาวขนาดยักษ์ของคาร์คาโรดอนโทซอรัสที่กำลังส่งเสียงคำรามกึกก้อง
กรรรร
คาร์คาโรดอนโทซอรัสคำรามขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นสามเข้าไปใกล้ เรียวปากขนาดใหญ่อ้าออกโชว์ให้เห็นฟันยาวกว่าครึ่งไม้บรรทัดหลายสิบซี่เรียงรายกันอยู่ภายในก่อนจะใช้ฟันอันแหลมคมนั่นหมายจะโจมตีทว่าสามกลับรู้ถึงการโจมตีนั้นเลยจัดการหลบก่อนจะใช้มือกดลงยังส่วนปากขนาดใหญ่เพื่อเป็นฐานในการกระโดดขึ้นไปยังส่วนกะโหลกหนา
อาวุธที่ไม่รู้ว่าคืออะไรถูกยกขึ้นมา และเพียงเสี้ยววินาทีที่อาวุธนั้นสัมผัสกับผิวของคาร์คาโรดอนโทซอรัส ร่างกายอันใหญ่โตก็กระตุกก่อนจะล้มลงพร้อมเสียงครางสูง
ดวงตาสีเงินของผมเบิกกว้างจนแทบจะหลุดออกมาจากเบ้าเนื่องจากภาพตรงหน้าเหมือนเป็นสิ่งในจินตนาการที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นได้จริงๆ
มนุษย์ที่สูงไม่ถึงสองเมตรกลับเอาชนะนักล่าที่มีความยาวเหยียด13เมตรได้อย่างง่ายดายราวกับตกปลาขึ้นมาจากน้ำสักตัว
สามบอกว่าผมอาจผิดหวังในตัวเขา
ผมขอบอกไว้เลยว่าผมไม่เคยผิดหวังในตัวสาม
สามเป็นมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในความคิดผม
คำพูดที่ว่า... ผมจะแสดงให้เห็นว่าผมมีความสามารถมากพอที่จะได้เป็นคู่หู ของสามทำให้ผมอยากตอบกลับไปว่า
ผมต่างหากล่ะที่ต้องแสดงความสามารถให้สามเห็นว่าผมมีดีพอให้สามมาเป็นคู่หู
ในเมื่อสามทำได้ผมเองก็ต้องทำได้เหมือนกัน
แม้จะไม่มั่นใจว่าในร่างมนุษย์จะทำอะไรได้แค่ไหนแต่ผมก็วิ่งเข้าไปสบทบการต่อสู้โดยเลือกไดโนเสาร์ที่อยู่ใกล้สุดอย่างแอลเบอร์โตซอรัสเป็นตัวแรก ด้วยพละกำลังในร่างนี้ที่มีไม่มากทำให้ผมเลือกโจมตีไม่ยังส่วนขาที่ดูบอบบางกว่างส่วนอื่นจนแอลเบอร์โตซอรัสเซไปด้านหลัง
“...ไม่ไหวจริงด้วย”กะจะให้ล้มแล้วเชียวนะ
กรรรร
‘แกไม่ใช่มนุษย์’เสียงของแอลเบอร์โตซอรัสดังขึ้นพร้อมกับใช้ดวงตาสีน้ำตาลจับจ้องมายังร่างผม
‘ใช่’ผมตอบกลับ ไดโนเสาร์อย่างเราคุยการได้ง่ายผ่านเสียงในระดับที่แตกต่างกัน ทำให้ไม่ว่าสายพันธุ์ไหนก็สามารถเข้าใจกันได้
อีกอย่างไดโนเสาร์มีประสาทสัมผัสอันเยี่ยมยอดเลยไม่แปลกที่จะรับรู้ได้ว่าผมไม่ใช่มนุษย์ปกติ
‘ทำไมถึงได้โจมตีพวกเดียวกัน’
‘เราไม่ใช่พวกเดียวกัน’ผมตอบกลับไปตามจริง
ต่อให้มีสายเลือดอีกครึ่งหนึ่งเป็นไดโนเสาร์แต่เส้นทางที่เลือกนั้นไม่ใช่การล่ามนุษย์หรือสัตว์โดยอาศัยสัญชาตญาณเหมือนไดโนเสาร์ปกติหรอกนะ
ตั้งแต่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรผมก็หาคำตอบมาตลอดว่าตัวเองต้องการทำอะไร
สายเลือดในร่างมันล่ำร้องให้ต่อสู้ผมจึงเลือกที่จะไม่ฝืนความรู้สึกนั้น เพียงแต่ถ้าต้องสู้กับอะไรสักอย่างก็อยากจะหาฝ่ายที่สามารถฝากชีวิตไว้ได้
จนถึงตอนนี้ฝ่ายที่ผมอยู่อาจเป็นมนุษย์แต่ไม่ใช่เพราะอยากปกป้องมนุษย์แสนอ่อนแอแต่เป็นเพราะมนุษย์เพียงคนเดียว...
มนุษย์ที่ชื่อว่าสาม!
‘คุยกันไม่รู้เรื่องสินะ’แอลเบอร์โตซอรัสคำรามผ่านคมเขี้ยวระหว่างพูด
‘ถ้าการคุยที่ว่าหมายถึงการที่ทั้งฝูงยอมอยู่นิ่งละก็นะ’
‘ใครมันจะไปยอมฟังพวกลูกครึ่งแบบแกกัน’
กรรรร
ไม่ต้องรอนานแอลเบอร์โตซอรัสก็จัดการเปิดฉากโจมตีโดยการอ้าปากขนาดใหญ่ออกกว้างพุ่งเข้าหาผมที่ยืนนิ่งอยู่ ถึงสามจะบอกว่าแอลเบอร์โตซอรัสช้าแต่เมื่อเทียบกับมนุษย์ก็ถือว่าเร็วกว่ามาก
ผมหลบการโจมตีนั่นโดยการมุดลอดผ่านหว่างขาไปยังด้านหลังเพื่อตั้งหลักแต่กลับถูกคาร์คาโรดอนโทซอรัสที่อยู่ด้านหลังลอบโจมตีจนเกือบถูกฟันยาวๆนั่นขย้ำ
กรรรร
“กรรรรร...”
กรรรรรรร
เสียงคำรามผมไม่ได้ทำให้พวกมันหวั่นเกรง ตรงกันข้ามพวกกลับเลิกสนใจมนุษย์รอบๆแล้วหันมาจ้องยังผมและสามเป็นตาเดียว
ท่าทางแบบนั้นคงคิดจะร่วมกันล่าผมและสามแน่ๆ
ก่อนหน้านี้อาจจัดการได้เพราะความเผลอ
แต่หลังจากนี้คงไม่ง่ายแล้ว
“สาม”ผมเรียกก่อนจะวิ่งไปหาสาม
“ลูก้า...เมื่อกี๊เกือบโดนเล่นงานแล้วนะ มีสมาธิหน่อย ใช้จมูกจับสัมผัสเอา”สามให้คำแนะนำโดยที่สายตาจ้องไปยังฝูงไดโนเสาร์สองสายพันธุ์ตรงหน้า
“เข้าใจแล้ว...พวกมันหันมาสนใจเราแบบนี้จัดการยากแน่”
“นั่นสิ...ถ้าอย่างน้อยให้ลูก้ากลับร่างก็คงมีทางทำอะไรมากกว่านี้”
“ผมกลับได้นะ”ผมบอกทันที
แค่กลับร่างจะให้กลับเมื่อไหร่ก็ได้
“ผมรู้ว่าลูก้ากลับได้ แต่สถานที่มันไม่อำนวยในการต่อสู้ของนาย...ถ้าอย่างน้อยมีน้ำสักหน่อยละก็...จะน้ำจืดหรือน้ำเค็มก็ได้...”สามพึมพำประโยคสุดท้ายอย่างครุ่นคิดก่อนจะละสายตาออกจากฝูงไดโนเสาร์ไปมองรอบๆแทน
กรรรรร
“สาม”ผมรีบดึงตัวสามไว้ทันทีที่คาร์คาโรดอนโทซอรัสและแอลเบอร์โตซอรัสวิ่งเข้ามาโจมตี
“นั่นมัน...”
“อะไรสาม”ผมถามระหว่างที่จับมือสามวิ่งหลบการโจมตี
“ไปตรงนั้นกันลูก้า”
“อะไร?...เดี๋ยว...”ยังไม่ทันได้ถามก็ถูกสามดึงให้วิ่งตามไปยังฝั่งของสวนสาธารณะ ฝูงไดโนเสาร์ด้านหลังก็วิ่งตามมาด้วยความเร็วที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน
“กลับร่างลูก้า”เมื่อหยุดอยู่หน้าเสาร์สีแดงเตี้ยๆสามก็หันมาบอก
“กลับได้?”ไหนบอกว่าห้ามกลับไง
“ใช่...กลับเลย เดี๋ยวทีเหลือผมจะจัดการเอง”
“จัดการอะไร”
“ถ้าสถานที่ไม่เหมาะกับการต่อสู้...ก็ทำให้มันเหมาะสิ”อาวุธสีใสถูกควงไปมาก่อนส่วนปลายแหลมจะปักเข้ากับวัตถุสีแดงด้านหลังแล้วกรีดออก
ซู่
“น้ำ?”ผมหันกลับไปมองทันทีที่ได้ยินเสียงน้ำเบาๆ
“กลับร่างแล้วโจมตีเลยลูก้า อาศัยตอนที่พวกมันตกใจแล้วจัดการซะ”สามยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยระหว่างพูด
“ตกใจอะไร...”
ตู้มมม
ไม่ต้องรอให้สามตอบคำถามเสียงของน้ำที่เบาหวิวจากการปริแตกเมื่อครู่กลับกลายเป็นเสียงระเบิดขนาดย่อย สายน้ำจากเสาสีแดงพุ่งทะยานอย่างรุนแรงก่อนจะโปรยปรายลงโดยรอบราวกับพายุฝน
ดูจากกลิ่นไม่ใช่น้ำทะเลแต่นั่นไม่ใช่ปัญหาแค่ได้ชื่อว่าเป็นน้ำก็พอแล้ว
กรรรร
ผมไม่รอช้ารีบกลับร่างไดโนเสาร์ซึ่งยาวกว่า10เมตรพร้อมทั้งใช้ปากขนาดใหญ่ขย้ำคอคาร์คาโรดอนโทซอรัสที่อยู่หน้าสุด สายน้ำที่กระจายอยู่รอบๆช่วยให้การเคลื่อนไหวบนพื้นถนนราบลื่นขึ้นจนสามารถถไหลร่างไปตามพื้นเพื่อโจมตีแอลเบอร์โตซอรัสอีกตัวได้
แน่นอนว่าการเข้าไปยังฝูงไดโนเสาร์ย่อมถูกโจมตีกลับทว่าคาร์คาโรดอนโทซอรัสพลาดที่โจมตียังแผ่นหลังผมซึ่งมีเกราะอันแข็งแกร่งควบด้วยพิษของปลาหิน
งี๊ดดดดด
เสียงครวญครางดังขึ้นทันทีที่ผมสะบัดหางที่มีหนวดของแมงกะพรุนกล่องสยายอยู่รอบๆไปโดนร่างอันใหญ่โตของแอลเบอร์โตซอรัส ด้วยพิษอันร้ายแรงสร้างความเจ็บปวดได้โดยฉับพลัน เรื่องยาถอนพิษสามมีติดตัวไว้เสมอเผื่อกรณีแบบนี้อยู่แล้วจึงหมดห่วงไปได้
สาม
ระหว่างที่สู้ก็นึกได้ว่าไม่เห็นสามดวงตาสีเงินของผมจึงหันไปมองโดยรอบเพื่อหาร่างของมนุษย์เพียงหนึ่งเดียวในสถานที่แห่งนี้ สามในตอนนี้ใช้มือข้างหนึ่งจับเขาของแอลเบอร์โตซอรัสไว้แน่นเพื่อไม่ให้กระเด็นหลุดเพราะแอลเบอร์โตซอรัสสะบัดหัวไปมาแรงๆ
ผ่านไปไม่กี่วิสามก็กระโดดขึ้นเหนือหัวแอลเบอร์โตซอรัสทำให้มันหยุดขยับเพราะคิดว่าสามล่วงลงไปแล้ว นั่นสร้างโอกาสให้สามใช้อาวุธในมือจัดการแอลเบอร์โตซอรัสได้สำเร็จ
“ลูก้า...ด้านหลัง”เสียงตะโกนของสามทำให้ผมหันกลับไปมองทว่าการโจมดีจากคมเขี้ยวของคาร์คาโรดอนโทซอรัสกลับมาถึงก่อน
งี๊ดดดด
ผมร้องเสียงสูงเมื่อถูกฟันอันแหลมคมขย้ำเข้าที่คอ ส่วนที่ถือเป็นหนึ่งในจุดอ่อนของผม ในร่างนี้ผมไม่มีกรงเล็บไว้ในการต่อสู้ ครีบอ่อนๆแทบทำอะไรไม่ได้เลยในสถานการณ์นี้
แต่ใครจะยอมแพ้กัน
ขนาดสามยังพยายามขนาดนั้นแล้วจะให้ผมมายอมแพ้งั้นเหรอ
ไม่มีทาง
กรรรรร
เสียงคำรามของผมดังขึ้นก่อนจะใช้แรงสะบัดหางโจมตีคาร์คาโรดอนโทซอรัสโดยการใช้ส่วนหางนั่นรัดคอจนคาร์คาโรดอนโทซอรัสปล่อยฟันที่กัดคอผมไว้
แม้ในร่างนี้จะไม่มีแรงมากเท่าอยู่ในน้ำแต่ก็ยังสามารถใช้การทิ้งน้ำหนักตัวกดทับร่างของคาร์คาโรดอนโทซอรัสไม่ให้ดิ้นหนีไปไหนได้ การกระทำนี้เรียกแอลเบอร์โตซอรัสกับคาร์คาโรดอนโทซอรัสรอบๆวิ่งกรูเข้ามาโจมตีผมเลยม้วนส่วนหัวและหดส่วนครีบเข้าไปใต้ท้องปล่อยให้ฝูงไดโนเสาร์โจมตีเข้ายังเกราะบนหลังเคลือบพิษแทน
จำนวนมันเยอกเกินไปที่จะสู้ด้วยสองคน
ถ้าในน้ำคงจะไม่ยากแต่บนบกนี่เคลื่อนไหวลำบากชะมัด
ถึงจะมีน้ำมาช่วยแต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร
“ลูก้า!”เสียงตะโกนเรียกของสามดังขึ้น
กรรรร
ผมก็อยากจะไปหาสามอยู่หรอกแต่การจะออกจากการโดนรุมกัดนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
หื้ม?...กลิ่นนั่น
อยู่ๆจมูกผมมันก็ได้กลิ่นอะไรบางอย่าง
กลิ่นแบบนั้นมัน...
กรรรรรร
กรรรรรร
เสียงขู่คำรามของไดโนเสาร์ที่ไม่ใชทั้งของแอลเบอร์โตซอรัสและคาร์คาโรดอนโทซอรัสดังขึ้นก่อนคมเขี้ยวที่ระดมกัดหลังผมจะทยอยหายไป นั่นทำให้ผมเอาหัวออกมามองดูสถานการณ์โดยมีร่างของคาร์คาโรดอนโทซอรัสกำลังดิ้นไปมาอยู่ใต้ร่างผมที่ทับไว้
สภาพตอนนี้ต่างจากก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง ตรงหน้ามีไดโนเสาร์สองเท้าไม่ทราบสายพันธุ์แน่ชัด2ตัวกับไดโนเสาร์สี่เท้าอีกตัววิ่งเข้าไปโจมตีแอลเบอร์โตซอรัสและคาร์คาโรดอนโทซอรัสจนกระจายกันไปคนละทาง
ไม่ใช่แค่ไดโนเสาร์ที่เข้ามาร่วมวงแต่ก็ยังมีมนุษย์อีกสมคนเข้าร่วมการต่อสู้ด้วย
ถึงไม่ต้องถามก็รู้ได้ทันทีว่าพวกเขาเป็นใคร
หน่วยปฏิบัติการพิเศษของประเทศไทย
กรรรรร
กรรรรร
สาม
ผมคำรามพร้อมใช้แรงทั้งหมดกระโดดพุ่งไปยังคาร์คาโรดอนโทซอรัสที่หมายจะโจมตีสามจากด้านหลัง ฟันอันแหลมคมของผมขย้ำเข้ายังบริเวณคอและยังคงกดลึกเข้าไปเรื่อยเมื่อร่างนั้นยังคงพยายามขืนดิ้นให้หลุด
คิดว่าผมจะยอมให้หลุดไปทำร้ายสามรึไงกัน
“ลูก้า”สามกระโดดลงมาจากร่างของแอลเบอร์โตซอรัสที่ล้มลงแน่นิ่งแล้วเดินมาหาผมที่ยังคงกดเขี้ยวลึกลงไปยังคอสีขาวนั่นมากขึ้น
“ปล่อยได้แล้วลูก้า”
ไม่รู้ว่าสามทำอะไรแต่ร่างของคาร์คาโรดอนโทซอรัสที่ดิ้นไปมาเมื่อครู่กลับสงบลงอย่างง่ายดายผมเลยค่อยๆวางว่างนั้นให้นอนลงกับพื้น
งี๊ดดด
ผมรีบเข้าไปคลอเคลียพลางมองดูว่าสามได้รับบาดเจ็บอะไรไหมโดยไม่สนว่ารอบข้างจะเป็นยังไง ที่ผมสนตอนนี้คือสามปลอดภัยรึเปล่า
ตลอดการต่อสู้ผมไม่ได้มีโอกาสให้เข้าไปช่วยสามนักเลยไม่แน่ใจว่าสามเป็นอะไรไหม
อย่างน้อยๆผมก็เบาใจที่ไม่ได้กลิ่นเลือดมากมายของสาม
“ผมไม่เป็นไรลูก้า...ไม่ต้องห่วง”
งี๊ดดดด
จะไม่ให้ห่วงได้ยังไง
“คนที่น่าห่วงคือนายนั่นแหละ...แผลนี่ลึกเหมือนกันนะ”ผมพูดพลางลูบยังแผลบริเวณคอผมเบาๆ
งี๊ดดดด
ไม่เป็นไร
“เอ่อ...ขอโทษนะครับ”บทสนทนาของผมกับสามถูกขัดเมื่อมีคนเรียก
พอหันไปมองก็พอกับมนุษย์สามคนและไดโนเสาร์อีกสามตัวที่เดินเข้ามาหาโดยมีฉากหลังเป็นร่างของคาร์คาโรดอนโทซอรัสกับแอลเบอร์โตซอรัสนอนกองอยู่กับพื้น
“พวกคุณเป็นคนของหน่วยปฏิบัติการพิเศษสินะ”สามถามออกไปทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้ว
“ใช่ครับ...ผมแบ็งค์เป็นหัวหน้าของหน่วยปฏิบัติการที่ประเทศไทย ส่วนนี่ไข่ต้มไดโนเสาร์กลายพันธุ์ของผม”ชายผมดำแนะนำตัวเองก่อนจะแนะนำคู่หูสี่เท้าด้านหลังด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม รูปร่างของเขาดูสูงกว่าสามเล็กน้อยแต่นั่นก็มากพอให้ผมแปลกใจกับคำว่าหัวหน้าที่หลุดออกมาจากปาก ขนาดตัวแค่นั้นเป็นหัวหน้างั้นเหรอ
“...คุณตั้งชื่อไดโนเสาร์กลายพันธุ์ซะน่ารักเลยนะ”ผมเองก็เห็นด้วยกับคำพูดสามนะ
ชื่อไข่ต้มมันดูน่ารักเกินไปหน่อย
อีกอย่างการจะตั้งชื่อให้ไดโนเสาร์กลายพันธุ์ได้แปลว่าเป็นคนที่ได้รับการคัดเลือกจากหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษไทรแอสซิก เบนซ์ ฟงเซ่โดยตรงเมื่อหลายปีก่อนที่พึ่งเริ่มก่อตั้งหน่วยปฏิบัติการพิเศษอย่างเป็นทางการ
เรื่องนี้คุณเซโครเคยเล่าให้ฟังตอนอยู่บนเกาะ
“พอดีผมชอบพวกอะไรน่ารักๆน่ะ...เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะ พวกคุณเป็นใคร...ไม่สิ...ต้องถามว่าทำไมถึงได้มีไดโนเสาร์กลายพันธุ์ได้”สายตาที่จับจ้องมายังสามดูแตกต่างจากน้ำเสียงแสนสุภาพซะเหลือเกิน
กรรร
ผมส่งเสียงขู่เบาๆเพื่อบอกให้อีกฝ่ายเลิกจ้องสามด้วยสายตาเหมือนทำอะไรผิดซะ
“ไม่เอาลูก้า...ใจเย็นๆนะ”สามยกมือขึ้นมาลูบเรียวปากผมไปมาเบาๆทำเอาเคลิ้มไป
งี๊ดดด
“ผมเองก็เป็นเหมือนพวกคุณแหละ เป็นหนึ่งในหน่วยปฏิบัติการพิเศษเหมือนกัน”พอทั้งสามได้ฟังก็หันหน้ามองกันอย่างงงๆ
“หมายความว่าไงกัน ถ้าเป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษเหมือนกันผมก็ต้องรู้จักคุณสิ”คนชื่อแบ็งค์ถามกลับด้วยใบหน้าสงสัย
“ผมไม่ได้เข้าร่วมหน่วยปฏิบัติการพิเศษของประเทศหรอก เรียกว่าเป็นคู่หูพิเศษจะถูกกว่า...อย่างที่เห็นว่าคู่หูผมมีร่างแบบนี้ทำให้งานส่วนใหญ่ของพวกเราอยู่ในทะเลและจะรับภารกิจจากไทรแอสซิก เบนซ์ ฟ่งเซ่เท่านั้น”สามอธิบายไปตามตรง
“...ก็เคยได้ยินว่ามีคู่หูพิเศษอยู่ที่นี่ก็จริงแต่...”สายตาของแบ็งค์มองมายังสามเหมือนจะไม่เชื่อว่าด้วยรูปร่างแบบนั้นจะสามารถต่อสู้กับไดโนเสาร์ได้ ยังไงถ้าเทียบรูปร่างพวกแบ็งค์กับอีกสองคนก็กำยำกว่าสามมาก
“ผมดูอ่อนแอสินะ”สามพูดพร้อมยกยิ้มขึ้น
“ก็ใช่อยู่...แต่พอดูแอลเบอร์โตซอรัสกับคาร์คาโรดอนโทซอรัสที่ถูกจัดการก็รู้ว่าคุณไม่ใช่มนุษย์แน่ๆ”
“อย่าพูดเหมือนเจอผีน่า...ผมก็แค่คนธรรมดาเท่านั้นเอง”
“คนธรรมดาที่ไหนจัดการกับไดโนเสาร์ได้ง่ายๆขนาดนั้น...แต่ก็สมกับเป็นที่หัวหน้าเลือกให้เป็นคู่หูกับเขาละนะ”แบ็งค์พูดต่อโดยที่ประโยคสุดท้ายมองมาทางผม
“ก็ไม่ขนาดนั้น...ผมนาทีธาร เรียกสามก็ได้...ส่วนนี่คู่หูผมชื่อลูก้า”สามแนะนำทั้งตัวเองและผม
“งั้นฉันขอแนะนำตัวบ้างละกัน...ฉันเกล้า และนี่สาวสวยของฉันชื่อเกรซ”ชายผมคล้ำแดดร่างกายบึกบึนแนะนำทั้งตัวเองและไดโนเสาร์สองเท้ารูปร่างปราดเปรียวด้านหลังที่เชิดคอขึ้นเล็กน้อยเมื่อถูกพูดถึง
“ผมชื่อไม้ ส่วนนี่วินคู่หูผม”คนสุดท้ายในหน่วยปฏิบัติการพิเศษแนะนำตัว
“ยินดีที่รู้จักนะ...ว่าแต่นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ”สามถามพลางมองไปยังร่างของแอลเบอร์โตซอรัสและคาร์คาโรดอนโทซอรัส
“รถขนย้ายพังจนพวกมันออกมาน่ะสิ...เห็นว่าง่วงเลยเหม่อระหว่างขับจนเกิดอุบัติเหตุจนพวกมันหลุดออกมาเพ่นพ่านอย่างที่เห็น”เกล้าอธิบาย
“พวกคุณมาช้ากันไปหน่อยรึเปล่า รู้ไหมว่ามีคนโดนลูกหลงไปเยอะน่ะ”
“พวกเราก็มาเร็วที่สุดแล้ว...บ้านเราพอเกิดเรื่องการจราจรก็ติดกันอย่างงี้ตลอด อีกอย่างพวกเราใช้เวลาเดินทางประมาณ15นาทีหลังได้รับแจ้งซึ่งก็ถือว่าไม่ได้ช้าแต่มันก็ทำให้เกิดการสูญเสียจำนวนไม่น้อย โชคดีที่ได้พวกคุณมาช่วยไม่งั้นกว่าพวกเราจะมาถึงคงเกิดการสูญเสียมากกว่านี้เป็นแน่น ขอบคุณมากครับ”พูดจบแบ็งค์ก็ก้มหัวขอบคุณ
“ไม่เป็นไร...ผมกับลูก้ายินดีช่วย งั้นพวกเราขอตัวเลยละกัน”
“อ่า...ได้ครับ พวกเราเองก็ต้องไปจัดการพาแอลเบอร์โตซอรัสกับคาร์คาโรดอนโทซอรัสไปส่งที่เดิมด้วย”
“ให้ช่วยไหม?”
“ไม่ป็นไรครับ มันเป็นหน้าที่ของพวกเราอยู่แล้ว ไว้เจอกัน”
“ครับ ลูก้า...กลับร่างมนุษย์ได้แล้ว อ้อ นี่เสื้อผ้า”สามพูดก่อนจะหยิบเสื้อตัวตออกมาจากกระเป๋า
ผมในร่างไดโนเสาร์พยักหน้าไปมาก่อนจะเปลี่ยนร่างให้กลับมาอยู่ในร่างมนุษย์ตามเดิม เสื้อตัวโตถูกผมคว้ามาสวม อีกฝั่งร่างของไดโนเสาร์ทั้งสามตัวก็เปลี่ยนมาอยู่ในร่างมนุษย์เช่นกัน
เส้นผมสีแปลกตาของพวกเราพอมาอยู่รวมกันดูเหมือเป็นเรื่องปกติไปเลย
ไดโนเสาร์กลายพันธุ์ทั้งสามคนมองมาทางผมนิ่งๆซึ่งผมก็สบสายตากลับไป ไม่จำเป็นต้องมีคำพูดอะไรมากมายเพียงแค่ได้กลิ่นพวกเราต่างก็รับรู้ว่าเป็นพวกเดียวกันได้ทันที
ไม่เหมือนมนุษย์ที่ต้องมาทำความรู้จักกันหรอก
หลังจากเหตุการณ์ไดโนเสาร์หลุดใจกลางเมื่อผมก็ถูกสามลากไปทำแผลบริเวณคอที่ปรากฏรอยเขี้ยวถึงสี่คู่ตามลำคอ สายตาห่วงๆของสามทำให้ผมรู้สึกดีกับบาดแผลนี้มากขึ้น
ปกติสามเป็นคนชอบห่วงอยู่แล้วแต่พอผมเจ็บกลับยิ่งห่วงมากกว่าเดิมหลายเท่า
อย่างตอนอาบน้ำก็คอยเตือนว่าห้ามน้ำโดนแผลนะ
ตอนกินข้าวเองก็จะบอกว่าให้กินนี่แผลจะได้สมานกัน
แม้แต่ตอนนอนก็ยังบอกว่าห้ามพลิกไปทางแผลเดี๋ยวจะเจ็บ
สามคอยเป็นห่วงผมตลอดจนไม่อยากหายเร็วเลยล่ะ
แต่ถึงจะอยากหายช้าขนาดไหนร่างกายที่มีเลือดของไดโนเสาร์ไหลเวียนอยู่ก็ไม่สามารถฝืนการรักษาตัวเองอย่างรวดเร็วได้ ภายในไม่กี่วันบาดแผลซึ่งลึกพอสมควรกลับหายเกือบสนิทแล้ว
ภายในห้องน้ำผมนอนแช่น้ำอยู่ภายในอ่างสีขาวพลางยกมือขึ้นลูบบริเวณที่ถูกัดเบาๆ บาดแผลเมื่อวันวานกลับหายเร็วจนน่าตกใจ
วันนี้เป็นอีกวันของการเริ่มต้นวันใหม่ซึ่งผมมักจะอาบน้ำก่อนสามเสมอด้วยเหตุผลที่ว่าสามจะได้นอนต่ออีกหน่อยระหว่างรอผมอาบเสร็จ เคยมีหลายครั้งที่ผมแกล้งอาบช้าจนสามไปทำงานสาย
แน่นอนว่าผมถูกดุ แต่การถูกสามดุไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกกลัวสักนิด
ดวงตาสีน้ำตาลที่หรี่ลง ริมฝีปากที่พ่นคำดุ ท่าทางเอาเรื่องราวกับไม่ยอมใคร
นั่นคือสามเวลาดุผม
ไม่รู้ว่าคนอื่นมองยังไงแต่ผมคิดว่าน่ารักมากๆเลย
น่ารักจนเผลอรักไปโดยไม่รู้ตัว จนตอนนี้ก็รักมากจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว
สามเองก็คงรักผมเหมือนกันเพียงแต่เขายังไม่ยอมรับความรู้สึกนั้น
ตอนแรกผมก็ไม่มั่นใจหรอกแต่พอได้เห็นใบหน้าแดงๆ น้ำเสียงเขินๆ ท่าทางอายๆพวกนั้นผมก็รู้ทันทีว่าตัวเองมีความหวังที่สามจะคิดเหมือนกัน
“สาม...”ผมเรียกเมื่อเปิดปรระตูออกมาจากห้องน้ำทว่าสามที่ควรจะนอนอยู่บนเตียงกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย
แม้จะหาทั้งห้องก็ยังไม่เจอ
สามไม่เคยไปไหนโดยไม่บอกผม
อาจจะมีที่ไปก่อนแต่ก็จะเขียนโน้ตบอกไว้ไม่ใช่หายไปแบบนี้
“สาม...”ยิ่งไม่เห็นตัวยิ่งว้าวุ่นจนเกิดความกังวลขึ้นมา
นี่ผมนอนแช่น้ำเพลินเกินไปสินะถึงไม่รู้ว่าสามออกไปจากห้องแล้ว
การจะหาสามเป็นสิ่งที่ไม่อยากเกินความสามารถผม เพียงแค่ใช้กลิ่นในการตามหาผมก็สามารถตามสามมาจนถึงลานจอดรถด้านข้างศูนย์วิจัย
ภาพของสามที่ถูกชายคนหนึ่งที่ลงจากรถคว้าตัวไปกอดแน่นนั่นทำเอาความหวงแล่นเข้ามาในหัว ยิ่งเห็นว่าสามไม่ขัดขืนแถมยังใช้มือชกอีกฝ่ายเป็นเชิงเล่นก็ยิ่งสร้างความไม่พอใจให้กับผมมากขึ้น
ปกติสามไม่ใช่คนชอบเล่นแบบถึงเนื้อถึงตัว ขนาดผมที่ชอบแอบกอดตอนนอนยังโดนขยับหนีแต่หมอนั่นเป็นใครสามถึงเข้าไปกอดแน่แบบนั้น
อิจฉา
อยู่ๆความรู้สึกนี้ก็แผ่เข้ามาภายในหัวใจ
ไม่ชอบให้สามไปกอดคนอื่นด้วยรอยยิ้มมีความสุขแบบนั้น
“สาม”เหมือนร่างกายจะทำงานโดยไม่ผ่านสมองรู้ตัวอีกทีผมก็เดินเข้าไปคว้าแขนสามดึงออกมาจากอ้อมกอดนั่นแล้วเปลี่ยนมาเป็นผมที่สวมกอดสามจากด้านหลังแทน
“ลูก้า?”สามเงยหน้าขึ้นมามองงงๆเมื่อเห็นผมตามมาถูก
“นั่นใครสาม”
“ใครน่ะสาม”
ทั้งผมและชายผิวเข้มตรงหน้าพูดออกมาด้วยรูปประโยคที่แทบจะเหมอนกัน ดวงตาสีเงินของผมกับดวงตาสีน้ำตาลของชายตรงหน้าจ้องกันด้วยความไม่ยอมใคร คนปกติถ้าเห็นผมจ้องคงละสายตาไปนานแล้วแต่คนๆนี้กลับไม่ใช่
ไม่มีวี่แววว่าจะกลัวเลยสักนิด
คนคนนี้เป็นใครกัน
“เอ่อ...ลูก้า”
“สามนั่นใคร”ผมก้มลงไปถามพลางกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นอีก
“คือว่า...”
“แล้วนายล่ะเป็นอะไรกับสาม”ยังไม่ทันที่สามจะตอบชายผิวเข้มก็เดินมาเผชิญหน้าพร้อมกับถามด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
แววตาและท่าทางนั่นเหมือนกำลังจะบอกให้ผมพูดความจริงออกไป
แน่นอนว่าต่อให้ไม่ถูกสายตานี่จ้องผมก็ไม่คิดจะปิดบังหรือโกหกอยู่แล้ว
ผมเป็นอะไรกับสามน่ะเหรอ
คำตอบนั่น...
ไม่ต้องคิดสักนิด
“สามเป็นคู่ของผม”
.......................................................................
เอาล่ะสิ
ตัวละครใหม่โผล่ขึ้นมาอีกแล้ว ผู้ชายคนนี้จะเป็นใครกัน
จะมีมาม่าไหม ขอตอบเองเลยว่าไม่มีหรอกค่ะ 555
ถ้าให้ทายคิดว่าทุกคนน่าจะทายถูกกันเกือบหมด
เราชอบการแต่งฉากต่อสู้มากเลย เคยคิดอยู่เหมือนกันว่าอยากลองเรียนศิลปะการต่อสู้แต่คงไม่ไหว งั้นก็ให้ตัวละครสู้แทยเราไปละกันเนอะ อิอิ
ไว้เจอกันในตอนต่อไปนะคะ
ขอบคุณสำหรับทุกๆ กำลังใจที่มีให้เสมอนค่ะ
บ๊ายบาย
-----มุมให้ความรู้เรื่องไดโนเสาร์-----
วันนี้ขอเสนอ...คาร์คาโรดอนโทซอรัส
คาร์คาโรดอนโทซอรัส นักฆ่าขนาดมหึมานี้น่าดูมากทีเดียว มันมีน้ำหนัก 7 ตันและวัดความยาวได้ 13 เมตร ถือว่าตัวใหญ่มฬาร ฟันคืออาวุธหลักของมัน แต่ละซี่ยาว 16 เซนติเมตร เป็นฟันเลื่อยรูปโค้ง ไม่มีอะไรที่มันกัดไม่ขาย ฟันของคาร์คาโรดอนโทซอรัสคล้ายคลึงกับฉลามขาวเป็นอย่างมาก และเราต่างรู้ดีว่าฟันของฉลามขาวสร้างความเสียหายได้มากแค่ไหน เป็นไดโนเสาร์มีสมองเล็กและประสาทสัมผัสเชื่องช้าเมื่อเทียบกับมาตรฐานของมนุษย์ แต่เชื่อกันว่าคาร์คาโรดอนโทซอรัสสมองเห็นเป็นสามมิติ หมายความว่ามันกะระยะลึกตื้นเพื่อหาระยะห่างระหว่างตัวมันกับเหยื่อได้อย่างแม่นยำ
เครดิต : รูปภาพจากเด็กดี.คอม ข้อมูลจากหนังสือไดโนเสาร์ประจัญบานของสนพ.อมรินทร์
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ชอบชื่อไข่ต้มอ่ะ ตั้งน่ารักจนผู้หญิงอย่างเร่ยังอายเลย555
พี่สามใช่มะ แบบมีชกเล็กๆ ถ้าพ่อคงไม่เล่นขนาดนี้ใช่มั๊ยคะ5555
เอ็นดูความขี้หวง แอบสงสารต้องไปสู้บนบก บาดเจ็บเลย
O.o นั้นใครรรรร มีแววว่าหล่อ 555