◈ธาราที่10◈
บนท้องฟ้ายามค่ำคืนมองเห็นดวงดาวส่องประกายประปายบนท้องฟ้าไม่เหมือนกับบนเกาะที่ผมเคยอยู่ ที่นั่นพอตกกลางคืนก็จะมีกลุ่มดาวนับล้านทอประกายอย่างน่ามอง ยิ่งนอนแช่น้ำแล้วแหงนหน้าขึ้นไปยิ่งทวีความรู้สึกสุดยอดเข้าไปอีก
ถึงผมจะชอบเกาะนั่นแต่ก็ไม่เท่ากับความโหยหาที่มีต่อคนคนหนึ่งเลยสักนิดเดียว
ตลอดเวลาหนึ่งปีสองเดือนผมพยายามเรียนรู้และทำทุกอย่างเพื่อวันหนึ่งที่ได้กลับมาเจอกัน และพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างเขาได้
“สาม”ผมเรียกชื่อคนที่ก้าวมาหาผมยังริมระเบียงโดยไม่หันกลับไปมอง
กลิ่นของสามเป็นหนึ่งในกลิ่นแรกๆที่ผมสามารถจดจำได้อย่างแม่นยำ
“ออกมายืนแบบนี้เดี๋ยวไม่สบายนะ ฝนพึ่งหยุดตกไปเอง”เสียงทุ้มออกนุ่มเอ่ยเตือนระหว่างเดินมายืนข้างๆ
“แค่อยากรู้ว่าที่นี่จะเห็นดาวไหม”
“ก็พอจะเห็นอยู่...ถ้าให้เดาที่เกาะคงมีดาวเยอะกว่าแน่”ระหว่างพูดสามกเงยหน้าขึ้นไปมองบนฟ้าบ้าง
“ใช่...ที่นั่นมีเยอะมาก”
“ลูก้าชอบที่นั่นสินะ”
“อืม”
“อยู่นี่ไม่รู้สึกคิดถึงที่นั่นบ้างเหรอ”สามถามต่อ
“คิดถึงเหรอ...ไม่นี่”แต่ถ้าเป็นตอนอยู่ที่นั่นสิ่งที่ผมคิดถึงก็มีนะ
คิดถึงสามไง
“...เข้าห้องเถอะเดี๋ยวจะป่วยจริงๆ”พูดจบสามก็เดินกลับเข้าไปในห้องโดยมีผมเดินตามเข้าไปติดๆ
เตียง5ฟุตภายในห้องถูกเปลี่ยนเป็น6ฟุตเมื่ออาทิตย์ก่อนตามคำแนะนำของผมที่ไม่ยอมไปอยู่อีกห้อง กว่าจะเปลี่ยนได้ผมก็นอนอยู่มาเกือบเดือนแล้ว
“มีงานเหรอ”ผมถามเมื่อเห็นสามยกโทรศัพท์ขึ้นมาดู
“ก็ไม่เชิง...วุธไลน์มาว่ารวบรวมข้อมูลเสร็จแล้ว”สายตาของสามยังคงอยู่ที่เครื่องมือสื่อสารระหว่างพูด
“พรุ่งนี้จะไปเช้าสินะ”เวลามีงานสามมักจะตื่นเช้าเสมอ
“อืม...แต่ไม่ต้องเช้ามากหรอกกว่าคนอื่นจะมาก็เวลาเดิมแหละ”
“ครั้งนี้เรื่องอะไร”ผมถามถึงงานที่อีกฝ่ายต้องทำ
เรื่องการวิจัยผมไม่ค่อยสนใจเลยไม่รู้เรื่องนักว่าต้องทำอะไรบ้าง
สามถึงจะดูเหนื่อยเวลาทำงานแต่พอทำสำเร็จรอยยิ้มนั่นแสดงให้เห็นว่าเขาชอบงานที่ทำอย่นี่จริงๆ
“ครั้งนี้เป็นการเพาะพันธ์สาหร่ายเคลป์ในทะเลน้ำอุ่นน่ะ”
“สาหร่ายเคลป์?”สาหร่ายนี่มันมีแยกชื่อด้วยเหรอ
“สาหร่ายเคลป์ปกติจะเติบโตในทะเลน้ำเย็นที่มีแสงแดดส่งถึง เมื่อก่อนที่อุณหภูมิบ้านเราไม่สูงขนาดนี้สาหร่ายเคลป์ก็ยังสามารถขึ้นได้แต่พออุณหภูมิสูงขึ้นจำนวนของสาหร่ายเคลป์ก็ลดลงอย่างรวดเร็ว”สามอธิบายให้ฟัง
“สาหร่ายนั่นเป็นอาหารของสัตว์สินะ”
“ใช่...มีสัตว์หลายชนิดที่กินสาหร่ายเคลป์ แต่ลูก้าไม่ใช่พวกกินพืชนี่นะ”สามหันมาบอกยิ้มๆ
“ก็ไม่เคยลองกินนะ ถ้าลองอาจกินได้ก็ได้”
“ในร่างมนุษย์น่ะกินได้แต่ถ้าในร่างไดโนเสาร์อย่างกินดีกว่า ระบบการย่อยของสัตว์กินพืชกับสัตว์กินเนื้อมันไม่เหมือนกัน ขืนฝืนกินไปจะปวดท้องเอานะ”
“เข้าใจแล้ว”น้ำเสียงห่วงๆนั่นทำให้ผมยิ้มออก
การมีคนห่วงมันทำให้รู้สึกดีจริงๆ
ยิ่งคนคนนั้นเป็นสามยิ่งทำให้รู้สึกดีเข้าไปใหญ่
“เรานอนกันดีกว่า”
“ผมไปปิดไฟให้”พูดจบผมก็เดินไปปิดไฟแล้วกลับมาล้มตัวลงนอนบนเตียงข้างๆสาม
“นี่ลูก้า”สามเรียกพร้อมกับพลิกตัวหันมาทางผม
“อะไร”
“ในความมืดแบบนี้มองเห็นสินะ”ดวงตาสีน้ำตาลของสามหรี่ลงเล็กน้อยราวกับกำลังพยายามมองผมในความมืด
“อืม...มองเห็น”
“ชัดไหม?”
“ชัดสิ...สามกำลังหรี่ตาและขมวดคิ้วด้วย”ผมบอกสิ่งที่เห็นออกไป
“มืดขนาดนี้ยังเห็นอีกนะ...แบบนี้ใต้ทะเลจะมองเห็นรึเปล่า”คำถามนั่นทำเอาผมต้องขมวดคิ้วเพราะไม่เคยดำลงไปลึกๆช่วงกลางคืน ส่วนมากก็จะลอยเล่นอยู่แถวชายหาด
“ไม่แน่ใจเหมือนกัน”
“ไว้ไปลองกันไหม”
“เอาสิ”ผมตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม
จะได้ดำน้ำตอนกลางคืน แถมยังมีสามไปด้วยอีก
“ไว้ผมหาเวลาว่างได้เราไปกัน”
“อืม...อยากไปเร็วๆ”แค่คิดก็น่าสนุกแล้ว
“แต่ตอนกลางคืนก็อันตรายอยู่...ถ้าจะดำคงต้องแถวชายฝั่งก่อน”
“ได้...ลองแถวชายหาดก่อนถ้าผมมองเห็นก็ค่อยไปลึกขึ้น”ผมบอก
“ผมว่าลูก้ามองเห็นอยู่แล้ว...เพียงแต่ว่าจะมองเห็นในระดับลึกเท่าไหร่”
“หมายถึงยังไง”ระดับมองเห็นที่ว่าไม่เห็นเข้าใจเลย
“ยิ่งดำลงไปลึกแสงจากดวงอาทิตย์ก็จะส่องลงไปไม่ถึง ในระดับน้ำทะเลตั้งแต่1000เมตรไปก็ถือว่าลึกมาก สัตว์น้ำปกติยังไม่สามารถอาศัยในระดับความลึกขนาดนั้นได้เพราะแรงดันที่มีมากขึ้น”
“แปลว่าจะไม่มีสิ่งมีชีวิตสินะ”
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอก...ในระดับน้ำที่ลึกกว่า1000เมตรยังมีสัตว์ที่สามารถอาศัยอยู่ได้เพียงแต่พวกมันจะมีวิวัฒนาการอย่างดวงตาที่สามารถมองเห็นในความมืดมิดหรือสามารถเปล่งแสงเพื่อล่อเหยื่อให้เข้ามาติดกับ”สามอธิบายต่อ
“ถ้าเจอคงต้องระวังตัวสินะ”
“ยิ่งกว่าต้องระวังอีกลูก้า...รู้ไหมว่าปลาที่อาศัยอยู่ในระดับความลึกนั้นได้มีแต่พวกนักล่าที่นอกจากหน้าตาจะน่ากลัวแล้วยังมีฟันแสนคมกริบอีก บางตัวถึงกับมีพิษเลยนะ...ทางที่ดีถ้าเจอต้องรีบจัดการไม่ก็ต้องหลีกเลี่ยง”
“สามคิดว่าผมจะแพ้เหรอ”
“มันไม่เกี่ยวว่าจะแพ้หรือชนะ บางทีการหลีกเลี่ยงก็ถือเป็นทางออกที่ดีกว่าการสู้ตรงๆ...ผมไม่อยากให้ลูก้าต้องเจ็บเพราะงั้นถ้าเข้าไปสู้กับอะไรที่เสี่ยงๆ เข้าใจนะ”น้ำเสียงห่วงๆกับสายตาที่จับจ้องมานั่นทำให้หัวใจรู้สึกอุ่นวาบอย่างไม่ทราบสาเหตุ
“อืม...เข้าใจแล้ว”
“ดีมาก...นอนกันได้แล้ว”
“ไม่ชมว่าเด็กดีเหรอ”ผมพึมพำเสียงเบาพร้อมกับดวงตาสีเงินที่ค่อยๆหลับลง
“อยากให้ชมเหรอ”
“อืม”สัมผัสของฝ่ามือพร้อมน้ำเสียงที่พูดว่าเด็กดียังติดอยู่ในความทรงจำอยู่เลย
รู้สึกดีจริงๆ
อยากได้รับสัมผัสแบบนั้นอีกสักครั้ง
“...เด็กดีลูก้า”น้ำเสียงที่อยู่ในความทรงจำกลับปรากฏขึ้นพร้อมฝ่ามืออุ่นๆที่สัมผัสใบหน้าผมอย่างอ่อนโยนจนเผลอขยับหน้าเพื่อรับสัมผัสนั้นมากขึ้นอีก
รู้สึกดีทุกครั้งที่ถูกสัมผัส
“นี่สาม”
“...ฮืม”
“คำตอบของคำถามเมื่อวันก่อนผมยังไม่ได้เลย”ไหนๆก็นึกขึ้นได้ก็อยากจะได้คำตอบ
“...คำถาม...อะไร”น้ำเสียงแบบนั้นแปลว่าสามจำได้แต่เหมือนอยากเลี่ยงทำเป็นจำไม่ได้มากกว่า
“สามมาเป็นของผมได้ไหม”คำถามเดียวกันกับวันก่อนถูกเอ่ยถึงอีกรอบ
“...ที่พูดมาน่ะ เข้าใจความหมายของมันรึเปล่า”สามนิ่งไปสักพักก่อนจะถามกลับมา
“เข้าใจสิ”เข้าใจดีด้วย
อยากให้สามมาเป็นของผม
เป็นของผมเพียงคนเดียว
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เกิดความรู้สึกนี่ขึ้น
ช่วงเวลาที่อยู่บนเกาะทุกๆวันผ่านไปโดยไม่มีสาม ผมกล้าพูดเลยว่ามันเป็นชีวิตที่น่าเบื่อมาก
ทุกๆวันในหัวก็มีแต่เรื่องของสาม
มีแต่ภาพใบหน้านั้นยามยิ้มและหัวเราะ
“ลูก้า...”
“ผมน่ะ...ชอบสามนะ”ผมบอกพร้อมขยับเข้าไปใกล้อีกฝ่ายมากขึ้น
“ผมก็ชอบลูก้า...เพียงแต่คำว่าชอบมันไม่พอที่จะทำให้ผมเป็นของลูก้าหรอกนะ”
“หมายความว่ายังไง”
“ถึงร่างกายจะโตแต่ประสบการณ์การใช้ชีวิตเหมือนจะยังไม่มากพอนะ...เรื่องพวกนี้ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง อีกอย่างผมยังไม่คิดจะเป็นของใครด้วย”
“สาม...”
“ลูก้ายังมีเวลาอีกมากที่จะพบเจอกับหลายๆสิ่ง...ตอนอยู่เกาะไม่ได้เจอสาวที่สนใจเลยเหรอ”สามถามพลางพลิกตัวนอนหงายมองดูเพดานด้านบน
“สาวน่ะเจอ...แต่ไม่ได้สนใจ”
“สาวที่เจอเป็นมนุษย์หรือไดโนเสาร์กลายพันธุ์ล่ะ”
“ก็ทั้งคู่”
“เหรอ...ไม่มีใครที่รู้สึกสนใจเลยสินะ”
“มีสิ”ถ้าเป็นคนที่สนใจล่ะก็
“ใคร?”
“สามไง”คนคนเดียวที่ไม่ว่าจะทำไรก็เรียกความสนใจได้เสมอ
ทุกท่าทาง ทุกการกระทำ ทุกอย่างของสามทำให้ผมสนใจ
“กลับมาที่ผมจนได้นะ”
“...ก็สนใจแค่สามนี่”
“รู้แล้วๆ...เอางี้นะลูก้า เรื่องนี้ปล่อยให้เวลามันตัดสินเถอะ...จากนี้ไปเราจะอยู่ด้วยกันไม่ว่าจะเมื่อไหร่หรือที่ไหน ความสนใจที่มีมันอาจเปลี่ยนไปก็ได้...ไม่แน่ใจอาจเจอคนอื่นที่ลูก้าสนใจกว่า”
“แล้วถ้าไม่เจอล่ะ...ถ้าคนที่ผมสนใจยังเป็นสามอยู่จะทำยังไง”ผมถามกลับ
“ถึงตอนนั้น...ค่อยว่ากัน”
“ว่าอะไร?”
“ก็...เอาเป็นว่าตอนนั้นค่อยคิดละกัน นอนได้แล้วลูก้า”พูดจบสามก็พลิกตัวไปอีกข้างปล่อยให้ผมนอนจ้องแผ่นหลังนั่นเรื่อยๆก่อนจะหลับไปทั้งๆแบบนั้น
สติที่หายไปพร้อมกับการหลับใหลกลับเข้าร่างเมื่อความร้อนอยู่ๆก็เกิดปะทุขึ้น ดวงตาสีเงินของผมเบิกขึ้นก่อนจะเด้งตัวขึ้นนั่งบนเตียงด้วยเสียงหายใจหอบเบาๆ
ร้อน
ทั้งร่างมันร้อนไปหมด
ความรู้สึกนี่มัน...
“สาม...”ผมหันไปมองร่างข้างกายที่หลับสนิทอย่างข่มอารมณ์ มือทั้งสองข้างขย้ำผ้าปูที่นอนแน่นจนยับยู่ยี่ไปหมด
ผมจำมันได้ความรู้สึกแบบนี้
นี่เป็นครั้งที่3ที่รู้สึกถึงมัน
ครั้งแรกและครั้งที่2เกิดขึ้นบนเกาะ จำได้เลยว่าวันแรกที่ร่างกายเกิดปฏิกิริยาแบบนี้ขึ้นคือสามเดือนแรกหลังจากกับสาม อาการของมันเหมือนถูกอารมณ์ครอบงำจนไม่เป็นอันทำอะไร...ตอนนั้นเซโครกับยูทาร์เข้ามาพอดีและพอดูอาการของผมไม่นานเซโครก็ถามคำถามเพียงข้อเดียวเท่านั้น
คนที่อยู่ในหัวตอนนี้คือใคร
คำถามนั่นผมแทบไม่ต้องคิดคำตอบเลย
ไม่ว่าจะเป็นตอนไหนคนที่อยู่ในหัวผมก็มีแค่คนเดียว...
สาม
คำตอบของผมดูเหมือนจะสร้างความตกใจให้ทั้งคู่มากพอดู เซโครบอกกับผมว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติมนุษย์ทุกคนล้วนมีอารมณ์แบบนี้เพียงแต่สายเลือดของไดโนเสาร์ทำให้ความต้องการเข้มข้นขึ้นในช่วงนั้น
จากที่ฟังอธิบายดูเหมือนไดโนเสาร์กลายพันธุ์ที่มีอาการแบบนี้จะเป็นพวกที่มีคู่
แต่ว่าผมไม่มีเลยไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงเกิดความรู้สึกแบบนี้ขึ้นมาได้
หลังจากผ่านครั้งแรกไปได้อย่างอยากลำบากผมก็ศึกษาหาข้อมูลก่อนจะรู้ว่าสิ่งที่เป็นอยู่นี่คืออารมณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงของการผสมพันธ์ เป็นอย่างที่เซโครพูดว่ามันเป็นธรรมชาติที่ต้องเกิดขึ้นแต่สิ่งที่ยังหาคำตอบไม่ได้คือทำไมผมถึงมีอารมณ์แบบนี้ทั้งที่ไม่มีคู่
ครั้งต่อมาที่เกิดอารมณ์ผมก็เข้าใจ ภายในหัวมันมีแต่ภาพของสามอยู่เต็มไปหมด ความทรงจำตอนอยู่กับสามมันวนไปมาพร้อมกับร่างกายที่ร้อนขึ้นจนแทบทนไม่ได้
ตอนนั้นผมก็ได้รู้
รู้ว่าคู่ของตัวเองก็คือสาม
“...สาม...”ผมเอ่ยเสียงเบาพลางข่มอารมณ์ที่เกิดขึ้นนี่ซะ
กลิ่นของสาม...
น่ากิน
“อึก...”บ้าจริง
ไม่ชอบเลยความรู้สึกนี่ เหมือนร่างกายไม่ใช่ของตัวเอง
ครั้งก่อนๆยังพอควบคุมตัวเองได้แต่ครั้งนี้พอมรสามอยู่ใกล้ๆความร้อนของร่างกายที่กำลังจะปะทุนี่มันมีมากกว่าทุกครั้งอีก
อยากสัมผัสจนแทบทนไม่ไหว
“ไม่...”ไม่ได้
ยังไม่ได้
สามบอกว่าตอนนี้ยังไม่อยากเป็นของใคร
เพราะงั้นไม่ได้
ตลอดทั้งคืนผมกลั้นใจข่มทั้งอารมณ์และความรู้สึกจนไม่ได้นอน พอถึงช่วงเช้าดูเหมือนอารมณ์ที่มีจะพอควบคุมได้มากกว่าช่วงกลางคืนผมเลยรีบก้าวยาวๆเดินเข้าห้องน้ำไป การแช่น้ำเป็นหนึ่งในสิ่งที่ช่วยผมให้สงบลงได้
น้ำในอ่างไหลนองไปตามพื้นกระเบื้องเมื่อผมทิ้งตัวลงใต้น้ำเย็นๆนี่ แม้ว่าอ่างนี้จะแคบกว่าตอนที่ผมอยู่บนเกาะก็ตามที บนเกาะผมได้ห้องที่มีอ่างขนาดใหญ่สามารถมุดลงไปใต้น้ำแล้วเหยียดทั้งร่างได้โดยเท้าไม่ติดขอบอ่าง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ลูก้า”
พรึ่บ
ผมรีบดันตัวโผล่ขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเสียงของสาม ส่วนกลางลำตัวที่สงบนิ่งกลับตื่นขึ้นเพียงแค่ได้ยินเสียงเรียกเท่านั้น
อุตส่าห์สงบแล้วแท้ๆ
“มีอะไร”ผมตะโกนกลับไป
“แช่นานไปแล้วนะ...ออกมาเร็วผมจะได้อาบต่อ”
“รู้แล้ว”ผมตะโกนตอบก่อนจะลุกขึ้นจากน้ำ สภาพตอนนี้อยากจะเอาออกเพื่อให้สบายตัวแต่สามยืนรออยู่หน้าประตูถ้านานคงได้ตะโกนเรียกอีกแน่
สามนะสาม
ผมรีบจัดการแต่งตัวก่อนจะเปิดประตูห้องน้ำออกไป หน้าห้องน้ำมีร่างของสามยืนกอดอกหันหลังพิงผนังห้องอยู่ พอเห็นผมเดินออกมาสามก็ค่อยๆก้าวเข้ามาใกล้
กลิ่นของสามปกติจะหอมอ่อนๆอยู่แล้วตอนนี้กลับยิ่งหอมจนอยากคว้าอีกฝ่ายมาฟัดแรงๆสักทีสองที ความคิดนั่นทำให้ผมก้าวถอยหลังเว้นระยะห่างจากอีกฝ่ายมากกว่าเดิม
“ถอยหนีทำไม”สามถามโดยที่ก้าวตามผมใกล้มากขึ้นอีก
“เปล่าสักหน่อย”ใครจะบอกได้ล่ะว่ากำลังมีอารมณ์แถมยังค้างอยู่เพราะเสียงเรียกของคนตรงหน้าอีก
“ไม่เชื่อ...แล้วทำไมขอบตาคล้ำ นอนไม่พอเหรอ”ไม่ใส่แค่เสียงที่ดังขึ้นแต่ยังมีฝ่ามืออุ่นที่ทาบลงหน้าผมพร้อมให้นิ้วเกลี่ยใต้ตาผมไปมา
“อึก...”ไม่คิดว่าพออยู่ใกล้กันสามจะมีอิทธิพลมากขนาดนี้
ตอนอยู่ไกลกันว่าข่มอารมณ์ยากแล้ว พูดเลยว่าตอนนี้ยากกว่าหลายสิบเท่า
แต่เจ้าตัวดูเหมือนจะไม่รู้เลยว่าทำให้ผมต้องข่มอารมณ์ตัวเองมากแค่ไหน
“ลูก้า?”
“ไปอาบน้ำเถอะ จะสายแล้วนะ”ผมเลือกที่จะไม่ตอบคำถามแล้วเดินหนีสัมผัสของฝ่ามือไปนั่งรออยู่บนโซฟาริมห้อง
การกระทำของผมทำให้สามจ้องมาอย่าจับสังเกตสักพักก่อนจะเข้าห้องน้ำไป เสียงปิดประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงถอนหายใจยาวของผมที่ยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก
“สงบซะ...สงบซะ”ผมพร่ำบอกตัวเองอยู่ตลอดจนสามเปิดประตูออกมาหลังอาบน้ำเสร็จ
หลังจากนั้นพวกเราก็ลงไปยังชั้น1เพื่อกินข้าวยังโรงอาหาร ตลอดระยะทางตั้งแต่ออกจากถึงห้องอาหารผมพยายามอย่างหนักที่จะเดินตามสามไปโดยไม่ให้ผิดสังเกตว่าตอนนี้ผมกำลังข่มอารมณ์อยู่
“พี่ครับ...ขอต้มเลือดหมูกับข้าวสวยร้อนๆด้วยครับ ลูก้ากินอะไรดี”สามตะโกนสั่งก่อนจะหันกลับมาถามผมที่เดินตามมา
“ต้มเลือดหมูเหรอ”เหมือนจะไม่เคยได้ยินชื่ออาหารชนิดนี้มาก่อนเลย
ได้ชื่อว่าเป็นเลือดหมูแปลว่าต้องเป็นน้ำแดงๆรึเปล่านะ
หรือจะกินสด
ถ้ากินสดๆคงไม่เรียกต้มหรอกมั้ง
“ลูก้าไม่เคยกินสินะ”
“อืม...ไม่เคย”
“อร่อยนะ ลองดูไหม”
“อืม”ผมพยักหน้าตอบไป
“ได้เลย พี่ครับขอเพิ่มอีกที่แต่ขอแบบพิเศษสุดๆเลยนะครับ”
“ไม่ต้องพิเศษขนาดนั้นก็ได้”ช่วงเวลานี้ผมไม่รู้สึกอยากอาหารสักนิด
ที่ต้องการมันไม่ใช่อาหาร
“ถ้าไม่พิเศษเดี๋ยวก็ไม่อิ่มหรอก”
“...อืม”ผมพยักหน้าเบาก่อนจะเดินตามสามไปนั่งโต๊ะติดกับกระจกใส บรรยากาศของเทศด้านนอกทำให้อารมณ์ที่มีสงบลงเยอะ
ใช้เวลาสักพักชามต้มเลือดหมูควันฉุยก็วางเสิร์ฟลงตรงหน้า ภาพของต้มเลือดหมูที่คิดไว้กับความเป็นจริงดูจะแตกต่างกันมากพอควร ในชามมีก้อนเลือดสีเลือดหมูกับพวกตับและหมูสับใส่ไว้โดยมีผักใบเขียวที่ไม่เคยเห็นใส่ไว้ด้วย
“ทำหน้าแบบนั้นแปลว่าคิดภาพไว้ว่าน้ำต้องเป็นสีแดงเหมือนเลือดสินะ”เสียงของสามดังพร้อมกับรอยยิ้มที่ปรากฏขึ้น
“...นี่ใบอะไร”ผมถามหลังจากที่ใช้ช้อนตักผักใบเขียวขึ้น
“นั่นคือตำลึง...อร่อยนะ เป็นผักโปรดของผมเลย”
“สามชอบตำลึง”
“ใช่...อร่อยมาก”
“...”ผมตักผักใบเขียวเข้าปากเขี้ยวตุ้ยๆกลืนลงคอไป รสชาติของมันทำให้ผมนิ่งไป
ถ้าถามความเห็นผมก็พูดได้เลยว่าไม่เห็นจะต่างกับผักชนิดอื่นตรงไหน
รสชาติของผักถ้าเป็นใบสีเขียวสำหรับผมรสชาติมันเหมือนกันหมดแหละ
แต่ถ้าเป็นเนื้อผมรับรู้ถึงความแตกต่างของแต่ละชนิดได้อย่างชัดเจน
“เป็นไง...ไม่ชอบเหรอ”สามมองมาเหมือนรอคำตอบ
“...เปล่า ก็เฉยๆ”
“คิก”
“ขำอะไร”ผมขมวดคิ้วเมื่อเห็นอีกฝ่ายขำ
“เฉยๆอีกแล้ว...ตำลึงเฉยๆแต่กับผมคือชอบสินะ”สามพูดโดยที่ยังไม่ยอมหยุดหัวเราะ
“อืม...ชอบสาม”
“...”คำพูดผมทำให้เสียงหัวเราะนั่นหายไปแทนที่ด้วยใบหน้าสีน้ำผึ้งที่แดงขึ้นเล็กน้อย สามเม้มปากแน่นสักพักก่อนจะเปลี่ยนเป็นก้มลงไปกินต้มเลือดหมูของตัวเองต่อเงียบๆ
“สาม”ทำไมเงียบล่ะ
“...กินต่อเถอะ”เสียงอู้อี้ตอบกลับมา
“หน้าแดง...”
“อย่าพูดนะ”สามเงยหน้าขึ้นพร้อมกับพูดเสียงดัง ใบหน้านั่นแดงกว่าเมื่อครู่อีก
“...”ใบหน้าแดงๆนั่น
น่ามอง
“...เงียบทำไม”สามที่เห็นผมเงียบอยู่ๆก็พูดขึ้น
“ก็สามบอกว่าอย่าพูดนี่”
“...พูดยังดีกว่าเงียบแบบนี้”
“สาม...น่ารัก”
“จะ...จะกวนกันรึไง”น้ำเสียงติดขัดนั่นยิ่งทำให้น่ามองเข้าไปใหญ่
“เปล่า...น่ารักจริงๆ”
“หยุดพูดเลยนะ”
“ก็สามบอกว่าให้พูด...”สรุปจะให้พูดหรือไม่พูดเนี่ย
งงแล้วนะ
“ถ้าจะพูดก็อย่าพูดอะไรแบบนั้นสิ”
“แบบไหนล่ะ”
“ก็...น่ารักอะไรแบบนั้น”
“ผมแค่พูดจริง”
“ลูก้า!”
“ครับ”ตะโกนเสียงดังๆนั่นไม่ได้ทำให้ผมกลัวสักนิด
“...กินข้าวกันต่อเถอะ”สามทำท่าเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็เปลี่ยนเป็นแบบนี้แทน
“ผมอิ่มแล้ว”ผมพึมพำแล้ววางช้อนลง
“อิ่ม?...นายยังกินไม่ถึงครึ่งเลยนะ”สายตาของสามมองลงมายังชามของต้มเลือดหมูสลับกับถ้วยใส่ข้าวที่ยังเหลือเกินครึ่งด้วยความตกใจ
“ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่”ช่วงนี้ความอยากอาหารไม่มีหรอก
“ไม่สบายตรงไหนรึเปล่าลูก้า...ปวดหัว ตัวร้อนหรือว่าเป็นอะไร”น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใยนั่นทำให้ผมยิ้มออกมาบางๆ
“ไม่เป็นไร”สิ่งที่เป็นมันไม่ใช่อาการป่วย
“ถ้าไม่ป่วยแล้วทำไมถึงได้กินน้อยล่ะ”
“...สายแล้วนะ ไม่ไปทำงานเหรอ”ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง
“จริงด้วย...ไม่สิ อย่าเปลี่ยนเรื่องลูก้า”ดวงตาสีน้ำตาลนั่นจ้องมาอย่างคาดคั้นซึ่งใช้กับผมไม่ได้
“ผมไม่เป็นไรจริงๆ”
“แน่ใจนะ”
“อืม”ผมย้ำอีกรอบ
“งั้นไปห้องวิจัยกับผมนะ”
“วันนี้ผมอยากแช่น้ำอยู่ในห้อง...สามไปเถอะ”ผมบอกไปตามตรง
ขืนให้ไปอยู่โดยที่อารมณ์ยังเป็นแบบนี้เดี๋ยวจะแย่เอาเปล่าๆ
“แน่ใจนะว่าไม่ไปด้วย”
“อืม...เดี๋ยวผมเดินไปส่ง”
“ลูก้า...”
“สามกินเสร็จแล้วใช่ไหม ไปกันเถอะ”ผมไม่เปิดโอกาสให้สามได้ถามอะไรจัดการพาอีกฝ่ายตรงไปยังห้องทดลองก่อนจะกลับขึ้นมาแช่น้ำในอ่างบนห้องอีกครั้ง
การกลับมาอยู่ห้องช่วยให้ผมไม่ต้องเผชิญหน้ากับสามโดยตรงแต่การมาอยู่นี่ก็มีกลิ่นของสามลอยอยู่แทบทุกที่ของห้อง ไม่ว่าจะเป็นในห้องน้ำหรือแม้แต่บนเตียงที่ผมทิ้งตัวคว่ำหน้าลงอยู่ตอนนี้
“สาม...”กลิ่นของสามเต็มเตียงไปหมด
ถึงไม่เห็นตัวแต่กลิ่นพวกนี้ทำให้อารมณ์ที่เริ่มสงบกลับมาปะทุอีกครั้ง
หรือผมคิดผิดที่ขึ้นมาบนห้องกัน
“อึก...ร้อน...”ร่างกายมันเหมือนจะระเบิด
“สาม...สาม...สาม...”
ผมไม่หวังว่าเขาจะมาตามเสียงเรียก ถ้ามาจริงผมคงทนไม่ไหวแล้วคว้าตัวอีกฝ่ายกดลงบนเตียงแน่
“สาม...”
“ลูก้า...เป็นอะไร”เสียงที่คุ้นเคยทำเอาผมที่คว่ำหน้าอยู่กับเตียงเงยขึ้นไปมอง ดวงตาตอนนี้เหมือพล่าไปหมด นอกจากจะได้ยินเสียงสามแล้วยังเห็นสามมายืนอยู่ข้างๆอีก
ละเมอเหรอ หรือเป็นความฝันกัน
สามตอนนี้อยู่ที่ห้องวิจัย
ไม่ใช่ที่นี่
“สาม...สาม...”ผมไม่สนว่าภาพตรงหน้าจะเป็นฝันหรือละเมอ เพียงแค่รู้ว่าเป็นสามผมก็ดึงร่างนั้นจนล้มลงมานอนแผ่บนเตียงก่อนจะขึ้นคร่อมแล้วซุกไซ้ตามลำคออย่างมัวเมา
ความนุ่มของต้นคอกับกลิ่นของสามยิ่งทำให้สติที่มีขาดหายไป
“อื้อ...ลูก้า...ทำอะไร...หยุด...”
“สาม...สาม...”อยากครอบครอง
อยากจนแทบทนไม่ไหว
“บอกให้หยุดก่อนไงลูก้า”เสียงตะโกนดังขึ้นพร้อมเข่าที่ลอยมาโดยหน้าท้อง
“อึก...”ความเจ็บปวดแล่นเข้ามาอย่างฉับพลันจนผมล้มไปนอนขดอยู่บนเตียง
สติที่พล่าเลือนตอนนี้ชัดเจนขึ้นทันตา
“เกิดอะไรขึ้นลูก้า”สามที่อยู่ด้านข้างจ้องมาด้วยสายตาโกรธๆ
“สาม...”ตัวจริงนี่
ทำไมถึงมาอยู่นี่ได้
ไม่สิ ทำไมผมถึงไม่ได้ยินตอนเปิดประตูหรือแม้แต่กลิ่น
จะบอกว่าสติมันหายไปขนาดนั้นเลยเหรอ
“ดีนะที่สังหรณ์ไม่ได้เลยขอลางาน...เกิดอะไรขึ้น ถ้าป่วยก็บอกกันสิ”อีกฝ่าบ่นก่อนจะใช้มือสัมผัสกับหน้าผากผมเบาๆ
“ผมไม่เป็น...”
“ห้ามพูดว่าไม่เป็นไร เป็นถึงขนาดนี้จะไม่เป็นไรได้ยังไง”
“...สาม”
“ไม่ต้องมาทำเสียงอ่อย บอกมาว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ผม...”จะต้องอธิบายยังไงให้สามเข้าใจ
“เฮ้อ...ผมไม่ใช่หมอคงไม่รู้อะไรมาก ถ้ายังไงเรียกหมอมาดีไหม”
“ไม่ต้อง...ถึงเรียกมาก็ไม่ช่วย”ไม่ช่วยอะไรหรอก
“หมายความว่าไง”สามถามกลับ
“...เหมือนช่วงนี้เป็นฤดูติดสัด”ผมคิดว่าสิ่งที่พูดไปนั่นสามสามารถทำความเข้าใจได้ง่ายกว่ามานั่งอธิบาย
“วะ...ว่าไงนะ...ฤดูติดสัดเหรอ”ดวงตาสีน้ำตาลของสามเบิกกว้างขึ้นทันทีที่ได้ยิน
“...อืม”
“เอ่อ...ผมควรไปพาผู้หญิง...”
“ผมไม่ต้องการผู้หญิง”ไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายพูดจบผมก็สวนกลับทันที
“หา?”
“ผมต้องการสาม...ต้องการแค่สาม”สิ่งที่คิดอยู่ถูกพูดออกไปอย่างไม่ทันคิดเพียงแค่ได้ยินว่าอีกฝ่ายคิดจะหาผู้หญิงมาให้
“ละ...ลูก้า...พูดอะไรน่ะ...”
“ต้องการสาม...”ผมบอกพร้อมเงยหน้าขึ้นไปสบกับดวงตาที่กำลังสั่นระริกเพราะกำลังประมวลสิ่งที่ได้ยินอยู่
“...ไม่ๆๆ...เดี๋ยวก่อน...เอ่อ ผมว่ามันไม่ใช่แล้ว”
“อะไรที่ว่าไม่ใช่”
“คือผมกับลูก้าเป็นผู้ชายเหมือนกันนะ”
“ผมรู้...เซโครกับยูทาร์เองก็ผู้ชายเหมือนกันนี่”
“...”คำพูดผมทำให้สามนิ่งไป
“ผมไม่คิดจะบังคับสาม...ผมอยากบอกแค่ว่าถ้าไม่ใช่สามผมก็ไม่ต้องการใครทั้งนั้น”ต่อให้ต้องทรมานมากเท่าไหร่ถ้าไม่ใช่สามผมก็ไม่ต้องการ
ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นได้ขนาดนี้
“ลูก้า...”
“ช่วงนี้ผมไม่ควรอยู่ใกล้สาม”ถึงจะอยากอยู่ใกล้แต่มันไม่เหมาะ
อารมณ์ที่ปะทุกับสติที่มีเพียงน้อยนิดไม่รู้ว่าจะจับสามทำอย่างก่อนหน้านี้อีกเมื่อไหร่
ครั้งนี้สติอาจกลับมาแต่ถ้าครั้งหน้าสติไม่กลับมาคนที่จะแย่คือสาม
สามเก่งและแข็งแรงกว่าที่เห็นมาก ผมยอมรับแต่ถึงจะแข็งแรงก็ไม่อาจเทียบผมได้
สายเลือดของไดโนเสาร์มันไม่ได้อ่อนแอถึงขนาดจะถูกมนุษย์เอาชนะได้โดยง่าย
“คิดจะไปไหนน่ะ”สามรั้งแขนผมไว้เมื่อเห็นว่าผมลุกขึ้นจากเตียง
“ห้องข้างๆสามเคยบอกว่าเป็นของผมสินะ...ขอผมอยู่ที่นั่นจนกว่าจะหมดฤดู”
“แต่นายจะทรมาน...เอ่อ อย่างน้อยถ้าเอาออกเอง...”
“ผมทำแล้ว...แต่สามก็รู้ว่าสัตว์ในฤดูติดสัดเป็นยังไง...แค่นั้นมันไม่พอ”ไม่พอเลยสักนิด
แค่ทำด้วยตัวเองมันไม่พอ
“...งั้น...ถ้าผมทำให้จะพอรึเปล่า”
“...”เสียงเบาๆของสามทำให้ผมถึงกับนิ่งไป
ที่ว่าทำนี่...
“ลูก้า...”
“หมายถึงอะไร”ที่ว่าสามจะทำให้คืออะไร
“ก็...ฮึ้ย อย่าให้ต้องพูดเรื่องน่าอายสิ มานั่งดีๆ”สามบอกแล้วพยายามดึงผมให้ขึ้นไปนั่งบนเตียงดีๆซึ่งผมก็ทำตามอย่างไม่เข้าใจนัก
เมื่อผมนั่งเรียบร้อยสามก็หลับตาพร้อมหายใจเข้าออกหลายต่อหลายครั้งก่อนจะขยับตัวมานั่งอยู่บนหน้าขาผม กางเกงที่ใส่อยู่ถูกปลดซิปเร็วๆจนดวงตาสีเงินของผมเบิกกว้างขึ้น
“สาม...”
“อยู่เฉยๆลูก้า”สามบอกด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ แม้ผิวจะไม่ขาวแต่ผมก็เห็นใบหน้าแดงๆนั่นได้อย่างชัดเจน
ฝ่ามืออุ่นๆลูบคลำพลางกอบกุมส่วนกลางลำตัวที่แข็งขืนขึ้นด้วยใบหน้ากระอักกระอ่วนพอสมควร แรงขยับของมือทำเอาภายในหัวขาวโพลนไปหมด
ความรู้สึกดีแล่นเข้ามาจนต้องกำผ้าปูที่นอนแน่นไม่ให้เผลอคว้าตัวอีกฝ่ายกดลงกับเตียง
“สาม...”ไม่เคยคิดว่าจะรู้สึกดีได้ขนาดนี้
มันดีมากจนเทียบกับมือตัวเองไม่ติด
“โอเคไหม...ดีรึเปล่า คือผมไม่ค่อยทำพวกนี้ก็เลยไม่ค่อย...”
หมับ
แม้จะบอกตัวเองไม่ให้กดอีกฝ่ายลงกับเตียงแต่คำพูดนั่นทำให้ผมอดใจไม่ไหวคว้าตัวอีกฝ่ายเข้ามากอดแน่นพร้อมกดจมูกลงสูดดมกลิ่นของอีกฝ่ายในระยะประชิด
“รู้สึกดี...รู้สึกดีมากเลยสาม”ผมกระซิบบอกไป อารมณ์ตอนนี้กำลังพุ่งขึ้นถึงขีดสุด
“อย่าทำเสียงแบบนั้น...”น้ำเสียงของสามดูสั่นเล็กน้อย ไม่ใช่เสียงแต่มือที่สัมผัสกับส่วนกลางของผมก็สั่นเล็กน้อยด้วย แต่ถึงสั่นสามก็ยังขยับมืออยู่ไม่หยุด
“...สาม...สาม”จะไม่ไหวแล้ว
“ลูก้า”
ทั้งเสียง ทั้งกลิ่น ทั้งสัมผัส
ทุกอย่างมันทำให้รู้สึกดีจนแทบควบคุมตัวเองไม่ได้
“อึก...”ลำคอสีน้ำผึ้งตรงหน้าช่างยั่วยวนผมเลยขบเม้มแรงๆก่อนที่อารมณ์ภายในร่างจะปะทุออกมา
น่าแปลกที่พอสามทำให้อารมณ์กลับสงบลงไม่เหมือนกับครั้งก่อนที่ไม่ยอมสงบลงสักทีไม่ว่าจะทำยังไง
“ลูก้า...นาย...เอ่อ...โอเคแล้วนะ”สามถามพลางยกมือข้างที่ไม่ได้สัมผัสผมขึ้นมาแตะหลังเบาๆ
“อืม...ดีขึ้นเยอะเลย...”หรือเพราะมีสามช่วยอารมณ์ถึงได้สงบลงเร็วขนาดนี้
“งั้น...ผมก็ขอตัว...”
“สาม”ผมกดสะโพกอีกฝ่ายไม่ให้สามารถลุกขึ้นได้
“อะ...อะไร”สามถามเสียงสั่น
“ขออีกรอบได้ไหม”
“ห๊ะ?”
“มันเหมือนไม่พอ”ถึงจะสงบลงแต่ความอยากยังมีอยู่
“เดี๋ยวๆๆ...ผมว่าผมไม่...”
“สาม...ช่วยผมที”
“...บอกแล้วไงว่าอยู่พูดด้วยเสียงแบบนั้น”
“สาม...”
“ระ...รู้แล้วน่า รอเดี๋ยวไม่ได้รึไง”พูดจบไม่นานฝ่ามืออุ่นๆก็กอบกุมส่วนกลางของผมอีกรอบ
ไม่รู้หรอกว่าผมให้สามทำให้กี่รอบ
รู้แค่ว่าแค่รอบสองรอบมันไม่พอหรอก
กับสาม...ผมไม่มีวันพอ
...............................................................
สวัสดีค่ะ
ก่อนอื่นต้องขอโทษที่ตอนนี้มากช้ามากกก
เราว่าทุกคนคงจะยกโทษให้เราแล้วหลังอ่านตอนนี้จบ 55
หลายคนเรียกร้องฤดูนี้กันมาก ประจวบเหมาะกับหลายๆอย่างเลยแต่งตอนนี้ออกมาค่ะ
อาจดูเหมือนยังไม่สุด...ซึ่งเราอยากให้สามรับรู้ถึงความรู้สึกตัวเองที่มีต่อลูก้าก่อนซึ่งคงอีกนาน
เนื้อหาของวันนี้ก็ยังไม่มีฉากบู๊ ไม่ต้องห่วงนะคะอีกไม่นานได้อ่านฉากบู๊กันแบบเต็มอิ่มแน่นอนค่ะ
สุดท้ายนี้ขอบคุณทุกคนที่คอยติดตามและคอยให้กำลังใจอยู่เสมอนะคะ
ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้า
บ๊ายบายค่ะ
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย