ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    -จบ-✉ CorrespondencE สื่อรักทางจดหมาย!✉ {ํYaoi/BL}

    ลำดับตอนที่ #36 : ✉ จดหมายฉบับสุดท้าย✉

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.71K
      66
      11 มิ.ย. 58

    จดหมายฉบับสุดท้าย

     

     

    ผมว่ามันต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับเทมแน่ๆเลย

     

     

    ดูเหมือนว่าเขาจะมีพิรุธอยู่นะผมว่า...

     

     

    ปกติเทมจะโทรมาหาตั้งแต่เช้าก่อนที่ผมจะออกไปทำงาน แล้วก็จะโทรมาตอนที่พักกลางวัน...ส่วนตอนเย็นเทมจะโทรมาประมาณสามสี่ทุ่มและเนื้อหาที่คุยกันส่วนมากก็จะถามว่าผมทำงานเป็นยังไงบ้าง?...กินอะไรเป็นข้าวเย็น?...

     

     

    โดยที่ตอนสุดท้ายเทมมักจะบอกผมด้วยน้ำเสียงหง๋อยๆว่า...

     

     

    ผมอยากไปหาพี่นัทจัง

     

     

    ประมาณนั้นแหละ

     

     

    แต่ที่ผมบอกว่าเทมมีพิรุธน่ะเหรอ?

     

     

    ขอย้อนกลับไปบทสนทนาของเมื่อคืนละกันนะ

     

     

    (พี่นัทวันนี้ทำงานเป็นไงบ้างครับ?)

     

     

    เสียงของเทมที่ผมได้ยินมันดูร่าเริงจนผิดปกติ...

     

     

    ก็จริงที่เทมมักจะทำเสียงร่าเริงขี้เล่นอยู่เสมอแต่ผมว่าครั้งนี้มันดูจะมากเกินปกติไปหน่อย

     

     

    “ก็ปกติแหละ...ใกล้จะสิ้นเดือนแล้วพี่คงต้องรีบลงบัญชีหน่อยน่ะ...ว่าแต่...มีเรื่องอะไรดีๆเหรอเทม?”ผมตอบกลับพร้อมกับแอบถามไปด้วย

     

     

    (...ทำไมพี่นัทคิดแบบนั้นล่ะครับ?)เทมเงียบไปแป๊บนึงก่อนจะตอบผมกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ

     

     

    “ก็เล่นพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงขนาดนั้นนี่นา”ผมบอกไปตามตรง

     

     

    (...ไม่มีอะไรหรอกครับพี่นัท...ว่าแต่พี่ยังไม่ได้ตอบจดหมายผมใช่ไหมครับ?...วันนี้ผมไม่เห็นได้จดหมายจากพี่เลย)เทมเปลี่ยนเรื่องเฉยเลย...มันยิ่งเพิ่มความสงสัยของผมมากไปอีก

     

     

    “พอดีช่วงบ่ายพี่มีประชุมเลยต้องเตรียมเอกสารนิดหน่อยพอเลิกก็ปาไปจะ5โมงแล้วนะ...ขอโทษด้วยนะเทม”ผมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด

     

     

    ไม่คิดว่าจะมีการประชุมกะทันหันแบบนั้น

     

     

    (ไม่เป็นไรครับผมแค่เสียใจนิดหน่อยเท่านั้นเอง)เทมตอบกลับทันทีด้วยน้ำเสียงงอนๆ

     

     

    “ขอโทษนะพรุ่งนี้พี่จะไปส่งให้เลย”

     

     

    (อ่อ...คือเรื่องนั้น...ผมจะโทรมาบอกพี่พอดีเลยล่ะ...)

     

     

    “...??”ผมตั้งใจฟังสิ่งที่เทมกำลังจะพูดออกมา

     

     

    (...พี่นัท...พี่ไม่ต้องส่งจดหมายมาหาผมแล้วนะครับ)เทมบอกผมด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ

     

     

    “...”

     

     

    ผมถึงกับพูดไม่ออกเมื่อได้ยินสิ่งที่เทมพูด

     

     

    หมายความว่ายังไง?

     

     

    ไม่ให้ส่งจดหมายไปหาแล้ว?

     

     

    ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมาจุกอยู่ในอกจนพูดอะไรไม่ออกเลยสักนิดเดียว...ในหัวผมตอนนี้มีเพียงคำว่า...

     

     

    ทำไม ทำไมล่ะ?

     

     

     

    (พี่นัทครับ...คือผมไม่ได้จะตัดการติดต่อกับพี่นะครับ...ผมแค่เห็นว่าช่วงนี้งานพี่ค่อนข้างหนักผมเลยอยากให้พี่ได้พักเยอะๆแถมผมก็มีเบอร์พี่อยู่แล้วด้วย...ผมจะโทรหาพี่เช้ากลางวันเย็นเลย...พี่อย่าคิดมากนะครับ)เทมรีบอธิบายด้วยน้ำเสียงที่เร่งรีบแทบจะทันทีที่ผมนิ่งไป

     

     

     

    คำอธิบายพอจะทำให้ผมใจชื้นขึ้นบ้างแต่ก็ยังไม่ทั้งหมด

     

     

    ผมว่ามันน่าจะมีอะไรที่มากกว่านั้น...อะไรที่เทมไม่ยอมบอกผม

     

     

    “...อืม”

     

     

    (พี่นัททท~...พี่อย่างอนผมนะ...พี่นัทททท~)เทมเรียกชื่นผมยานๆด้วยน้ำเสียงออดอ้อนเหมือนเด็กเล็กๆเลย

     

     

    “...ฮิ”ผมหัวเราะออกมาเล็กน้อยเมื่อคิดภาพเทมตอนทำเสียงแบบนั้น

     

     

    (พี่นัทหัวเราะแล้ว....ผมอยากบอกพี่นะว่าผมน่ะรักพี่มาก...รักมากๆนะครับ)

     

     

    “...ถ้ารักคงไม่มีเรื่องปิดบังกันหรองมั้ง”ผมบอกไปตามตรง

     

     

    (โหยพี่นัท...ผมไม่ได้ปิดปังอะไรจริงๆนะ)เทมย้ำอีกครั้ง

     

     

    “พี่ไม่เชื่อ”

     

     

    (พี่นัทอ่า...เฮ่อ!....ก็ได้ๆพรุ่งนี้...พรุ่งนี้พี่ก็รู้แล้วล่ะครับ)เทมถอนหายใจก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อยๆแบบไม่เต็มใจ

     

     

    “พรุ่งนี้ทำไม?”ผมถามต่ออีก

     

     

    รู้แค่นี้ก็เหมือนไม่รู้อะไรเลยนั่นแหละ

     

     

    (พี่ครับ...ไว้พรุ่งนี้ก็รู้เองล่ะครับผมไม่บอกแล้ว...ฝันดีนะครับพี่นัทของผม)

     

     

    ติ๊ด!

     

     

    “...อ่ะ!...”เทมวางสายทันทีที่พูดจบโดยปล่อยให้ผมมองโทรศัพท์ในมืออย่างงงๆ

     

     

    สรุปแล้วผมรู้เรื่องอะไรเพิ่มขึ้นมาบ้างเนี่ย!!!??

     

     

    นั่นคือบทสนทนาทั้งหมดคือเมื่อคืน...

     

     

    แม้ว่าผมจะนั่งคิด นอนคิด อาบน้ำคิด ผมก็ไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าเทมต้องการจะบอกอะไรกับผมกันแน่...

     

     

    เทมบอกว่าผมจะรู้พรุ่งนี้

     

     

    พรุ่งนี้มันกลายมาเป็นวันนี้แล้วล่ะ...ตอนนี้ผมยังไม่เห็นรู้อะไรเพิ่มเลยสักนิดเดียว!

     

     

    “เฮ่อ~...”ผมถอนหายใจก่อนจะเดินไปที่บริษัทของตัวเองเหมือนปกติทุกวัน...

     

     

    ในหัวผมตอนนี้คิดแต่เรื่องของเทมอยู่เต็มไปหมด...

     

     

    น้ำเสียงร่าเริงที่ผิดปกตินั่นอาจหมายความว่าเขาเจอเรื่องอะไรดีๆมา

     

     

    หรือว่าเทมจะเจอคนอื่นที่ถูกใจแล้ว!!!

     

     

    “...ไม่จริงน่า!”ผมชะงักก่อนจะพึมพำด้วยความกังวล

     

     

    จะว่าไปก็บอกไม่ให้ผมส่งจดหมายไปหาแล้วด้วย

     

     

    หรือว่าจะพากันมาอยู่ที่ห้องแล้ว!!

     

     

    เพราะงั้นเลยห้ามผมส่งจดหมายไป!!!

     

     

    หมายความว่าที่บอกว่าผมจะรู้วันนี้คือ...

     

     

    เทมจะบอกเลิกผม!!!

     

     

    “บ้า!....คิดอะไรบ้าๆน่า”ผมบอกตัวเองก่อนจะเดินต่อไปเรื่อยๆด้วยความกังวลที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

     

     

    ถ้าเทมมาขอเลิกผมจริงๆ...ผมควรจะทำยังไงดีล่ะ

     

     

    ผมจะกล้าพอที่จะปล่อยให้เขาไปรึเปล่า?

     

     

    แล้วผมล่ะ....ต้องกลับมาอยู่เพียงลำพังอีกงั้นเหรอ?

     

     

    ไม่เอานะ!!

     

     

    “....บ้าเอ้ย!”ผมไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงได้อ่อนแอมากขนาดนี้นะ

     

     

    ผมเดินเข้ามาในบริษัทพร้อมกับความคิดในหัวที่ตีกันจนวุ่นไปหมด

     

     

    “...หื้อ?”ผมมองรอบๆภายในบริษัทอย่างสงสัย...ปกติบริษัทก็มีคนไม่น้อยนะแต่นี่ดูจะเยอะกว่าปกติรึเปล่านะ?

     

     

    แถมยังได้ยินเสียงของพนักงานจับกลุ่มคุยกันเสียงดังจนแยกไม่ออกว่าเสียงใครเป็นเสียงใครแล้ว...ผมก็ได้แต่ฟังบทสนทนาพวกนั้นแบบผ่านๆหู

     

     

    นี่ๆ...รู้รึเปล่าที่เขาลื้อกันน่ะ...

     

     

    รู้สิๆ...มันจริงงั้นเหรอ?...นึกว่าเป็นแค่ข่าวโคมลอยซะอีก

     

     

    นั่นสิ...ใครจะคิดล่ะว่าจะเร็วขนาดนี้

     

     

    “...”ผมเดินผ่านกลุ่มพนักงานพร้อมกับขมวดคิ้วได้ด้วย

     

     

    ข่าวลืออะไร?

     

     

    ข่าวโคมลอยเรื่อง?

     

     

    แล้วอะไรที่ไม่คิดว่าเร็วขนาดนี้?

     

     

    ...ตึกข้างๆเหรอ?

     

     

    เฮ้ย!...ข่าวใหญ่เลยนะเนี่ย!’

     

     

    พวกเขารู้จักกันงั้นเหรอ?

     

     

    แบบนี้บริษัทเราจะเป็นยังไงล่ะ?

     

     

    เห็นว่าพึ่งสร้างหอพักเสร็จด้วย

     

     

    “...??”ผมพยายามฟังบทสนทนาต่างๆให้มากที่สุดแล้วทำความเข้าใจพร้อมกับหาจุดเชื่อมโยงของพวกมัน...แต่ผมไม่ยักกะเจอเลยสักนิด

     

     

    ผมคิดตั้งแต่ขึ้นลิฟต์จนตอนนี้เข้ามานั่งในห้องทำงานส่วนตัวเรียบร้อยแล้วก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้สักที...มีใครพอจะบอกผมได้บ้างไหม?...

     

     

    สรุปว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นเหรอ?

     

     

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

     

     

    “...เชิญครับ”ผมกล่าวออกไปพร้อมกับหยิบเอกสารออกมาจากกระเป๋าของตัวเองแล้วจัดวางไว้ที่โต๊ะข้างหน้าตัวเอง

     

     

    “คุณนัท...สวัสดีครับ”เสียงของชาญหรือนาย อาชาญ  นิติยวัล หนึ่งในพนักงานบัญชีของบริษัทเดินเข้ามาหาพร้อมกับทักทายด้วยรอยยิ้มเหมือนปกติทุกวัน

     

     

    อ่า...ใช่...ชาญเขาเข้ามาทักทายผมแบบนี้ทุกเช้าแหละไม่รู้ว่าทำไมถึงสนใจผมนัก...ตั้งแต่ผมกลับมาจากกรุงเทพฯดูเหมือนจะเริ่มรุกหนักขึ้นเรื่อยๆด้วย

     

     

    ที่ว่ารุกหนักก็ไม่ได้มีอะไรร้ายแรงนักเพียงแค่เข้ามากินข้าวกับผมในช่วงกลางวันแถมบางวันก็ชวนผมไปกินข้าวด้วยกันข้างนอกซึ่งผมปฎิเสธแน่นอนอยู่แล้ว

     

     

    ชาญเลยมักจะเข้ามากินข้าวกลางวันในห้องกับผมพร้อมกับเรื่องเล่าใหม่ๆ...ความจริงมันก็เพลินๆดีนะ...แถมท่าทางของชาญก็คล้ายๆกับเทมด้วยมันเลยทำให้ผมเปิดใจกับเขามากกว่าเดิมได้ไม่ยากนัก

     

     

    แต่ผมไม่ได้บอกเรื่องนี้ให้เทมรู้หรอกนะ

     

     

    เพราะผมพอจะรู้ว่าเทมค่อนข้างจะขี้หึงอยู่ถ้าผมบอกไปเทมต้องหาเรื่องมาหาผมที่บริษัทแน่ๆเลยแถมคงจะได้หาเรื่องอะไรกับชาญชัวๆ

     

     

    “สวัสดีชาญ...มีธุระอะไรล่ะ?”ผมถามชาญไปตรงๆแล้วเงยหน้าขึ้นสบตากับคนตรงหน้า

     

     

    “ถ้าผมไม่มีธุระก็มาไม่ได้เหรอครับ?”ชาญถามด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าโต๊ะทำงานผม

     

     

    “คุณมีงานที่ยังไม่ได้ส่งผมนะครับ”ผมบอกออกไปด้วยท่าทางนิ่งๆ

     

     

    “โหยคุณนัท...เดี๋ยววันนี้ผมเอามาให้เลยครับไม่เกินเที่ยงแน่นอน”

     

     

    “ขอบคุณครับ”ผมบอกเบาๆก่อนจะก้มลงอ่านเอกสารที่อยู่ในมือต่อ

     

     

    “คุณนัทครับ...กลางวันนี้ไปกินข้าวข้างนอกกับผมนะครับ?”ชาญบอกผมด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ

     

     

    “ขอปฎิเสธครับ”ผมตอบกลับเหมือนกับทุกครั้ง

     

     

    แม้ว่าชาญจะถามผมด้วยน้ำเสียงออดอ้อนมากขนาดไหนมันก็ยังเทียบไม่ได้กับน้ำเสียงที่ผมได้ยินออกมาจากปากเทมเลยสักนิด

     

     

    “คุณนัทจะไม่ให้โอกาสผมสักนิดเลยเหรอครับ?”ชาญถามผมด้วยน้ำเสียงจริงจัง

     

     

    “ผมมีแฟนอยู่แล้วนะครับ”ผมตัดสินใจวางเอกสารในมือลงแล้วบอกความจริงกับชาญไป...ผมไม่เคยบอกเขาว่าผมมีแฟนแต่ดูท่าการบอกให้รู้จะทำให้เขาตัดใจได้ง่ายกว่าใช่ไหม?

     

     

    “...ผมไม่เชื่อหรอก...คุณนัทหลอกผมแน่ๆไม่อยากให้ผมมายุ่งกับคุณถึงขนาดต้องโกหกเลยเหรอครับ?”ชาญนิ่งไปสักก่อนจะพูดขึ้นต่อ

     

     

    “ผมไม่จำเป็นต้องโกหกอะไร...เพราะมันเป็นความจริง”ผมมองหน้าชาญพร้อมกับบอกออกไปด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ

     

     

    “...ใครกันครับ?...อยู่ในบริษัทนี้ใช่ไหม?”ชาญถามผมด้วยน้ำเสียงที่สั่นนิดหน่อย

     

     

    “ไม่...เขาไม่ได้อยู่ที่นี่”ผมบอกออกไปตามตรง

     

     

    “เขาเหรอ?...แปลว่าคุณนัทคบกับผู้ชาย?”ชาญมองผมอย่างอึ้งๆพร้อมกับพยายามเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ติดขัดอย่างชัดเจน

     

     

    “ครับ...เขาเป็นผู้ชาย”

     

     

    “ตอนไหนครับ...คุณนัทคบกับเขาตั้งแต่เมื่อไหร่?”ชาญถามผมต่อทันที

     

     

    “ตอนนี้ก็เกือบจะ2เดือนแล้วล่ะครับ”

     

     

     

    “แปลว่าตั้งแต่ตอนที่คุณนัทย้ายไปที่กรุงเทพฯ...ทำไมถึงเป็นเขาล่ะ?....ทั้งๆที่ผมมาก่อนตั้งนาน....ผมจีบคุณนัทมาเป็นปีแล้วแท้ๆทำไมคุณถึงเลือกมันล่ะ?”ชาญตะโกนถามผมด้วยแววตาที่สั่นระริก....ดูท่าชาญจะชอบผมมากว่าที่คิดแหะ

     

     

     

    “เพราะผมรักเขา”ผมตอบคำถามของชาญในทันที

     

     

    “....ทำไมถึงไม่ใช่ผม?”ชาญอึ้งไปสักพักก่อนจะถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเศร้าอย่างเห็นได้ชัด

     

     

    “เพราะคุณไม่ใช่เทม”ผมสบตากับชาญนิ่งก่อนจะพูดออกไป

     

     

    เพราะชาญไม่ใช่เทม...

     

     

    ผมเลยไม่ได้รักชาญ

     

     

    “....เทม...ชื่อของผู้ชายที่คุณนัทคบด้วยเหรอครับ?”ชาญถามต่อด้วยแววตาเศร้าๆ

     

     

    “ใช่...ผมขอโทษที่ตอบรับความรู้สึกของคุณไม่ได้”ผมบอกชาญตามที่ผมรู้สึก

     

     

    ชาญไม่ได้ผิดที่มาชอบผม...เพียงแต่ผมไม่อาจตอบรับความรู้สึกของชาญได้เท่านั้นเอง

     

     

    “...ครับ...ผมจะพยายามตัดใจ...คุณนัทผมขออะไรสักอย่างได้ไหม?”ชาญถามผมเบาๆ

     

     

    “ลองบอกมาสิ”

     

     

    “...ขอกอดคุณสักครั้งได้ไหม?....ครั้งเดียวแล้วมันจะไม่มีครั้งต่อไปแน่นอน”ชาญบอกผมเบาๆด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหวัง

     

     

    “...เอาสิ”ผมตกลงพร้อมกับลุกขึ้นแล้วเดินไปหาชาญ

     

     

    แค่กอด...

     

     

    ไม่ได้เสียหายอะไรสักหน่อย

     

     

    “...ขอบคุณครับ”ชาญยิ้มออกมาบางๆพร้อมกับเดินเข้ามากอดผมช้าๆ

     

     

    “....”ผมไม่ได้กอดตอบแต่แค่ใช่มือตัวเองเตะที่หลังของชาญเบาๆ

     

     

    “หวังว่าผมคงมีโอกาสได้เจอผู้ชายที่คุณรักนะ”ชาญกระซิบเบาๆให้ผมได้ยิน

     

     

    “...ครับ”

     

     

    ครื่นนน~

     

     

    “พี่นัท~...เฮ้ย!....แกทำอะไรพี่นัทน่ะ!!!

     

     

    หมับ!

     

     

    ตุบ!

     

     

    เหตุการณ์ทุกอย่างมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนผมแทบตามไม่ทัน

     

     

    เท่าที่เห็นคือระหว่างที่ผมปล่อยให้ชาญกอดอยู่ก็มีเสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมๆกับเสียงที่แสนคุ้นเคยก่อนที่ร่างกายผมจะถูกดึงให้ออกห่างจากชาญและแทนที่ด้วยอ้อมกอดอุ่นๆที่แสนคิดถึง

     

     

    “...เทม??”ผมเรียกคนตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา

     

     

    ทำไมเทมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ!

     

     

    นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!!

     

     

    “พี่นัท!...ถ้าพี่บอกว่าไม่มีอะไรผมคงเชื่อไม่ลงหรอกนะ!”ผมบอกผมพร้อมกับจ้องมาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ

     

     

    “อ่อ...คือพี่อธิบายได้นะ”ผมรีบบอกทันที...สิ่งที่เทมเห็นมันไม่ใช่อย่างที่เข้าใจนะ

     

     

    ผมไม่รู้ว่าเทมเข้าใจไปในทางไหน?

     

     

    แต่เท่าที่ดูคงไม่ใช่ทางที่ดีนักหรอก

     

     

    “ฮะฮะฮะ...นี่เหรอเทมที่คุณนัทพูดถึงน่ะ”ชาญหัวเราะเบาๆก่อนจะถามผมพร้อมกับมองหน้าเทมไปด้วย

     

     

    “นายเป็นใคร?”เทมถามชาญด้วยน้ำเสียงที่หาเรื่องสุดๆ

     

     

    “อู้ย~...น่ากลัวชะมัด...ผมเป็นแค่พนังงานบัญชีธรรมดาๆเท่านั้นเอง...ผมไปก่อนนะครับคุยกันดีๆล่ะคุณนัท”ชาญตอบเทมด้วยรอยยิ้มก่อนจะหันมาบอกผมพร้อมกับโบกมือบ๊ายบายแล้วเดินออกจากห้องไป

     

     

    ผลัก!

     

     

    ตุบ!

     

     

    “...เทม...”ผมเอ่ยเบาๆเมื่อหลังของผมตอนนี้ติดกับกำแพงโดยมีแขนทั้งสองข้างของเทมกั้นไว้ไม่ให้ผมหนีออกไปไหนได้

     

     

    “ผมต้องการคำอธิบายเดี๋ยวนี้....ไม่งั้นพี่ถูกผมปล้ำที่นี่แน่ๆ”เทมบอกผมด้วยน้ำเสียงโกรธๆก่อนจะเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ๆ

     

     

     

    “ขะ...เข้าใจแล้วๆ...พี่แค่ให้ชาญกอด...อุ๊บ!...อื้อออ~...”ผมยังอธิบายไม่เสร็จเทมก็จัดการประกบจูบปากผมอย่างร้อนแรง...ลิ้นร้อนของเทมเข้ามาในโพรงปากผมได้อย่างง่ายดายก่อนลิ้นนั้นจะเกี่ยวกับกับลิ้นผมจนผมแทบจะขาดอากาศหายใจ

     

     

     

    “อื้มมม~....อึก!....อื้อออ~...”สัมผัสอันร้อนแรงที่เทมมอบให้ทำให้ผมแข่งขาอ่อนดีนะที่เทมเข้ามาพยุงผมไว้โดยที่ยังไม่ยอมละออกมาจากปากผม

     

     

    “อึก!...อื้ออออ~...อื้อ!....”ผมสัมผัสได้ถึงความโกรธเกี้ยวผ่านมาทางจูบที่ได้รับอย่างชัดเจน...จูบครั้งนี้เหมือนกับเป็นการลงโทษของเทม

     

     

    ลิ้นร้อนของเทมยังคงควานหาความหวานภายในโพรงปากผมอย่างต่อเนื่องจนผมแทบจะหมดสติเพราะความร้อนแรงและเกรี้ยวกราดที่ได้รับ

     

     

    “อื้อ!.....อึก!....อื้อออ~”ผมครางในลำคอเบาๆเมื่อเทมไม่ยอมปล่อยให้ผมหายใจสักที

    ตอนนี้ผมใกล้จะหมดสติแล้ว

     

     

    “อื้มม~...อึก!...อ่า!...แฮ่ก!...”ในที่สุดเทมก็ยอมปล่อยให้ผมหายใจสักที

     

     

    ผมแทบจะลงไปกองกับพื้นถ้าไม่ได้เทมเข้ามาพยุง...ไม่สิ...เรียกว่าเข้ามากอดผมแน่นเลยล่ะ

     

     

    “พี่เป็นของผม...ห้ามให้ใครกอดทั้งนั้น”เทมกระซิบเบาๆก่อนจะจูบที่แก้มทั้งสองข้างของผมอีกครั้งนึงก่อนที่พวกเราจะสบตากันอีกครั้งโดยที่ผมยังคงอยู่ในอ้อมกอดเทม

     

     

    “...เทม...ฟังพี่ก่อนสิ”ผมบอกเบาๆพร้อมกับจ้องตาสีเขียวอมน้ำตาลของเทมด้วยสายตาเคืองๆ

     

     

    ยังฟังไม่ทันจบก็เล่นเข้ามาจูบกันแบบนี้มันน่าโกรธไหมล่ะ?

     

     

    “...ก็พี่ให้มันกอดทำไมล่ะ?”เทมเริ่มมองผมด้วยสายตางอนๆแล้วบอกพร้อมกับทำปากแบะๆ...ภาพของชายหนุ่มสูงกว่า180มายืนส่งสายตาอ้อนๆพร้อมทำปากแบะๆมันน่าดูงั้นเหรอ?

     

     

    “ฮะฮะฮะ...”ผมขำออกมาเมื่อมองท่าทางของเทมเมื่อครู่

     

     

    ไม่น่ารักสักนิด...น่าขำสุดๆเลย

     

     

    “พี่นัท...ผมไม่ขำนะ!”เทมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงโกรธๆจนผมต้องรีบหยุดหัวเราะทันที

     

     

    แปะ!

     

     

    “ฟังพี่นะเทม”ผมใช้มือทั้งสองข้างสัมผัสกับแก้มของเทมจนเกิดเสียงดังแปะ

     

     

    “....”เทมไม่ตอบแต่พยักหน้าให้ผมเบาๆ

     

     

    “ชาญเขามาจีบพี่...”

     

     

    “ว่าไงนะ!!!”ผมพึ่งได้เริ่มพูดยังไม่ถึงประโยคเทมก็ดันตะโกนแทรกซะแล้ว

     

     

    จะฟังให้จบก่อนไม่ได้รึไง?

     

     

    “เทม...ถ้าไม่ฟังพี่จะไม่อธิบายแล้วนะ”ผมบอกเทมด้วยน้ำเสียงแข็งๆจนเทมมุ่ยหน้า

     

     

    “...ขอโทษครับ”เทมบอกผมเสียงเบา

     

     

    “ชาญเขามาจีบแต่พี่บอกปฎิเสธอย่างชัดเจนไปแล้ว...พี่บอกว่าพี่มีคนที่คบด้วยและก็รักมากด้วย...เพราะงั้นเขาเลยจะยอมตัดใจและขอกอดพี่แค่นั้นเอง”ผมอธิบายให้เทมฟังตามความจริงทั้งหมด

     

     

    “...ไม่เห็นต้องกอดเลยนี่”เทมบ่นอุบอิบแถมยังทำปากจู๋อีก

     

     

    รู้สึกว่าอายุลดลงรึเปล่านะเทม?

     

     

    หรือเทมกำลังคิดว่าตัวเองเป็นเด็กอายุสัก5ขวบ?

     

     

    “แค่นิดเดียวเองน่า...ว่าแต่เทมเถอะมานี่ได้ยังไง?...อย่าบอกนะว่าโดดงานมาน่ะ!”ผมถามเสียงแช็งอีกครั้งนึงแล้วจ้องเทมอย่างต้องการคำตอบ

     

     

    “เปล่านะครับ...พี่ถามผมเมื่อวานว่ามีเรื่องอะไรดีๆใช่ไหม?”

     

     

    “ใช่...แต่เทมไม่บอกพี่แถมยังไม่ยอมให้พี่ส่งจดหมายไปหาอีก”ผมบอกต่ออีก

     

     

    “อ่า...ครับๆพี่อย่าพึ่งงอนผมสิ...ความจริงคือผมย้ายมาทำงานที่นี่แล้วครับ”เทมบอกผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเรียกว่ายิ้มจนเห็นฟันหมดทุกซี่เลยน่าจะเหมาะกว่า

     

     

    “ห๊ะ?...ย้ายมา!!!...ได้ยังไง?!!”ผมถามต่อด้วยความตกใจ

     

     

    เรื่องมันเป็นไงมาไงกันแน่เนี่ย!

     

     

    ผมงงไปหมดแล้วนะ!!

     

     

    “ไม่ใช่แค่ผมที่ย้ายมาหรอกนะครับ”ผมบอกผมต่อ

     

     

    “หมายความว่าไง?”

     

     

    “ย้ายมาเกือบทั้งบริษัทแหละครับ”

     

     

    “หา!!!?...”ยิ่งฟังผมยิ่งงง

     

     

    ย้ายมาเกือบทั้งบริษัทงั้นเหรอ!!?

     

     

     

    “ท่านประธานปล่อยให้คนที่ยักยอกเงินขึ้นเป็นประธานแทนโดยที่ได้วางแผนให้บริษัทล้มละลายไว้ล่วงหน้าแล้ว...เมื่อวานท่านประธานได้บอกกับพนักงานที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องว่าให้ย้ายมาทำงานที่นี่เพราะได้จัดการคุยกับประธานของที่นี่ไว้เรียบร้อยแล้วหรือถ้าอยากไปทำงานที่อื่นก็ไม่มีปัญหา...ตอนแรกผมกะจะบอกพี่ตั้งแต่เมื่อคืนแต่ผมอยากเซอร์ไพรส์พี่มากกว่าที่ผมไม่ให้พี่ส่งจดหมายมาแล้วเพราะผมคงไม่ได้อยู่รับไว้ค่อยมาอ่านที่นี่เลยดีกว่า...พี่นัทครับ...ตอนนี้พวกเราก็ได้อยู่ด้วยกันแล้วนะครับ”เทมอธิบายทุกอย่างให้ผมฟังพร้อมรอยยิ้ม

     

     

     

    “....”ผมเม้มปากแน่นโดยพยายามข่มอารมณ์เมื่อได้ยินเรื่องราวทั้งหมด

     

     

    ทำไมผมถึงไม่นึกเอะใจให้มันเร็วกว่านี้นะ

     

     

    ทั้งสิ่งที่ท่านประธานเคยบอก...

     

     

    พวกมันต้องการบริษัทนี้มาก...ถ้ามันต้องการผมก็จะยกให้...อีกไม่นานเรื่องก็จะจบแล้ว...”

     

     

    คำพูดของพนักงานในบริษัทในตอนเช้าด้วย...

     

     

    นี่ๆ...รู้รึเปล่าที่เขาลื้อกันน่ะ...

     

     

    รู้สิๆ...มันจริงงั้นเหรอ?...นึกว่าเป็นแค่ข่าวโคมลอยซะอีก

     

     

    นั่นสิ...ใครจะคิดล่ะว่าจะเร็วขนาดนี้

     

     

    ‘...ตึกข้างๆเหรอ?’

     

     

    เฮ้ย!...ข่าวใหญ่เลยนะเนี่ย!!’

     

     

    พวกเขารู้จักกันงั้นเหรอ?’

     

     

    แบบนี้บริษัทเราจะเป็นยังไงล่ะ?’

     

     

    เห็นว่าพึ่งสร้างหอพักเสร็จด้วย

     

     

    ทำไมผมถึงคิดไม่ออกกันนะ

     

     

    “พี่นัท...ผมไปอยู่กับพี่ได้ไหม?”เทมถามผมด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนพร้อมรอยยิ้ม

     

     

    “...หา?”ผมมองเทมอย่างอึ้งๆ

     

     

    ผมรู้สึกว่าอารมณ์มันจะเปลี่ยนเร็วไปหน่อยไหม?

     

     

    เมื่อกี๊ผมกำลังโทษตัวเองที่ไม่รู้เรื่องอะไรแล้วจู่ๆเทมก็มาตัดอารมณ์ซึ้งๆของผมเฉยเลยเนี่ยนะ...แถมยังบอกว่าอะไรนะ?

     

     

    มาอยู่กับผมได้ไหม?

     

     

    “ผมไปอยู่บ้านพี่ได้ไหมครับ?”เทมถามผมอีกครั้งนึง

     

     

    “อ่า...แล้วที่พักที่เตรียมไว้ล่ะ?”ผมถามเทมด้วยความสงสัย

     

     

    “เขาไม่ให้คนที่อยู่ในพื้นที่แบบผมอยู่หรอกครับ”เทมอธิบาย

     

     

    “...งั้นที่บ้านเทมล่ะ?”ผมถามต่ออีก

     

     

    “มันไม่เหมือนกันครับ”เทมส่ายหัวเบาๆแล้วบอกผม

     

     

    “ไม่เหมือนยังไง?”ผมถามด้วยความสงสัย

     

     

    “ก็บ้านผมไม่มีพี่นัทไงครับ”เทมขยับเข้ามาพร้อมกับกระซิบข้างหูผมเบาๆ

     

     

    “บ้า!”ผมผลักเทมออกแล้วบอกด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีจัด

     

     

    “บ้ารักพี่นัทนั่นแหละ”

     

     

    “...ไม่ให้อยู่”ผมบอกเสียงติดขัด

     

     

    หมับ!

     

     

    “ไม่ได้จริงๆเหรอครับ?...ผมเลี้ยงง่ายนะกินได้ทุกอย่างที่พี่นัททำ...นอนได้ทุกที่ที่พี่นัทอยู่...ทำงานได้ทุกอย่างที่พี่อยากให้ทำ....และก็รักพี่นัทมากกว่าใครทั้งนั้นเลยด้วย”ผมคว้าตัวผมเข้ามาในอ้อมกอดพร้อมกับกระซิบเบาๆด้วยน้ำเสียงออดอ้อน

     

     

    น้ำเสียงอ้อนๆแบบนั้นอีกแล้ว

     

     

    ผมล่ะไม่เคยชนะเทมได้เลยจริงๆ

     

     

    ทำไมน่ะเหรอ?

     

     

    ก็เพราะ...

     

     

    “...พี่ก็รักเทมมากกว่าใครทั้งนั้นเหมือนกัน”

     

     

    ..................................................................จบบริบูรณ์..........................................................

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×