ภรรยาข้าเจ้าช่างร้ายกาจยิ่งนัก
-
นิยาย-เรื่องยาว :
ฟรีสไตล์/ อดีต ปัจจุบัน อนาคต Tags : ไม่ฮาเล็ม, แย่งชิง, สงคราม, การต่อสู้แย่งชิง, ความรักหวาน
ผู้แต่ง : ไห่ถาง/เพลงนารา
My.iD :
https://my.dek-d.com/nicedear/writer/
ตอนที่ 13 : มารนักฆ่า
“พาหยวนฟางกลับไปด้วยนะเพค่ะ อย่าให้เขาอยู่ในวังวนอำนาจใดๆอีกเลย”
“พี่เห็นด้วยน้องหญิง เราจะไม่เสียหยวนฟางไปอีกคน”
ฟิ้ว! ฉึกๆ! อ๊ากกก!เสียงร้องด้วยความเจ็บปวด ฮี่! ม้าแตกตื่น อ๋องเจ็ดรีบกดหัวภรรยาให้ก้มลงต่ำ อะไรกันนี่เขามิได้ทำอันใดให้แก่ใคร ไยถึงมีคนคิดทำร้าย หรือจะเป็นโจรป่าแต่มิน่าเป็นไปได้ใกล้เมืองหลวงขนาดนี้ โจรมิกำแหงออกปล้นสะดมอย่างแน่นอน แส้กระดูกเหล็กถูกนำออกมา ก่อนร่างสูงกำยำจะพุ่งไปทางประตูรถม้า เวลานี้เหล่าองครักษ์คนสนิท ต่างพากันห้อมล้อมรถม้าเอาไว้
“โจรชั่วกล้าลงมือต่อข้าอย่าอยู่เลย”
เสียงกัมปนาทดังก้องไปทั่วบริเวณ กลุ่มชายชุดดำได้ปรากฏตัวขึ้น บุกเข้าสู่วงล้อมด้วยมิกลัวตาย พระชายามู่ตานมิได้ทรงหมอบอยู่เช่นคราแรก เมื่อพระสวามีออกไปด้านนอกเพื่อต่อสู้ มือเรียวเอื้อมหยิบอาวุธประจำกายตามออกมาเช่นกัน เสื้อคลุมตัวยาวถูกปลดออกร่างงามพุ่งไปทางเดียวกับสวามี ไม่มีเวลาสนใจอะไรเพราะขบวนที่มีคนมิมากกำลังถูกล้อมกรอบเอาไว้ การต่อสู้เริ่มดุเดือด โฮ่งๆ กรร!ก่อนที่สุนัขตัวใหญ่เท่าลูกวัวจะกระโดดงับคอของคนชุดดำที่กำลังจะสังหารชายามู่ตาน เหยาเหยาสะบัดหัวสองทีคนร้ายถึงกับคอขาดกระเด็น ถงเหยียนเจี๋ยได้เข้าร่วมวงในทันที มิใช่โจรแล้วพวกมันมีแต่นักฆ่าที่มีฝีมือมิธรรมดา
“ท่านอ๋องทรงปลอดภัยดีหรือไม่”
“ขอบใจเจ้ามากเจี๋ย”
เจ้านายทั้งสามหันหลังชนกัน อ๋องเจ็ดโม่เหยาเองแม้จะเก่งกาจ แต่เมื่อต้องต่อสู้กับวิชามารย่อมลำบากมิน้อย นับตั้งแต่พรรคโลกันต์หายไปเหล่าพรรคมารกำแหงได้อีกครั้ง แต่ไม่คิดว่าพวกมันจะทำตัวต่ำช้าเข้าไปอีกเมื่อกลายมาเป็นนักฆ่ารับจ้างด้วยเช่นนี้ หนึ่งพันปีพรรคโลกันต์จะปรากฏเมื่อผู้เป็นเจ้าของไข่มุกโลกันต์ถือกำเนิดเท่านั้น แล้วนี่มิรู้คนผู้นั้นจะเกิดตอนไหนกัน
“เอาหัวอ๋องเจ็ดมาให้ได้”
คนเพียงหยิบมือหรือจะสู้พวกนั้นได้ เหยียนเจี๋ยตัดสินใจพลักบิดาของเพื่อนไปด้านหลังพร้อมพระชายา ตัวเขาตั้งรับด้วยความทรนงดุจหินผา
“คุ้มกันท่านอ๋องและพระชายาหนีไปเร็ว มิต้องห่วงข้าอย่าให้การเสียสละเปล่าประโยชน์”
อ๋องเจ็ดให้องครักษ์พาชายาของตนหนีไป เขาจะอยู่ช่วยชายหนุ่ม มู่ตานมิอยากทำให้ทุกคนพะวงจำต้องหนี โดยมีองครักษ์ติดตามเพียงสี่คน
ในป่า
“ต้นนี้ใช่ชิงหลิงหรือไม่นะ สตรีหน้ารังเกียจใช้ข้าอย่างกับทาส ตัวเองเอาแต่นั่งๆนอนๆน่าตายนัก”
เสียงบ่นของหมิงจงเป่าดังไปทั่วบริเวณ โดยบนหลังแบกตระกร้าใส่สมุนไพรเต็มไปหมด ที่เอวผูกเชือกเส้นหนึ่งเอาไว้ปลายอีกด้านคือลูกเสือสีขาวคาดสีดำจางๆด้วยวัยยังน้อยจึงมิเด่นชัด ซึ่งมันมีขนาดลูกหมาตัวหนึ่ง เขาพบมันเฝ้าศพแม่อยู่จึงคิดจะนำกลับไปฝากลูกศิษย์ที่พึ่งฟื้น เสียงคนวิ่งตรงมาทางเขาด้วยความเร็ว และมิใช่มีกลุ่มเดียวเสียด้วยใบหูที่รับรู้ได้เร็วและแม่นยำทำให้หมิงจงเป่าคว้าลูกเสือสู่อ้อมแขน ก่อนจะหายไปบนต้นไม้สูงใหญ่ เขาประมาทอะไรไม่ได้ทั้งนั้น ไข่มุกโลกันต์ปรากฏพรรคมารย่อมอยู่ไม่สุข จึงจำเป็นต้องเร่งฝึกฝนนางเพื่อจะได้ส่งมอบคำภีร์โลกันต์แก่ศิษย์รัก นางต้องฝึกฝนฝ่ามือโลกันต์พิชิตมารด้วยตนเองเท่านั้น เขาทำหน้าที่เพียงชี้แนะเพราะการฝึกวิชานี้ต้องใช้จิตรวมเป็นหนึ่งกับไข่มุกโลกันต์จึงจะสำเร็จ ลานที่เขาพึ่งยืนอยู่เมื่อครู่ได้ปรากฏหญิงงามที่เดาอายุมิได้เลย พร้อมชายในชุดองครักษ์ที่มีสัญลักษ์บอกสังกัดชัดเจน ‘ไม่นะนางคงมิใช่มารดาของศิษย์เอกของข้า’ แม้จิตใจเขาเหมือนคนว่างเปล่าแต่มิได้โง่เขลา และตกข่าวสารใดๆเสียหน่อย การปลอมเป็นขอทาน พ่อค้า หรือคนพเนจรนั้นคือการหาข้อมูลที่ดี อีกกลุ่มที่ตามมาติดๆแค่การแต่งการอันแสนอุบาทว์ จงเป่าก็รู้ว่าพวกมันคือใคร เขาเป็นผู้คุ้มกันไข่มุกย่อมรู้จักกลิ่นของมารดี พวกมันพยายามตามหาผู้คุ้มกันเพื่อแย่งชิง แต่มิเคยหาเจอเพราะผุ้คุ้มกันทุกรุ่นไม่สามารถสวมใส่ไข่มุกได้ มันแค่กำไลธรรมดาหากไม่ถูกนายที่ถือกำเนิดเพรียกหา ยิ่งอยู่กับเขาต่อให้ยืนตรงหน้าพวกมันก็มิอาจรู้ว่าเขาคือใคร ‘ข้าต้องลงมืออีกแล้วหรือ ป่านนี้นางมารนั่นจะแพร่งพรายถึงตัวเขาหรือไม่นะ’“นางงามเช่นนี้จะฆ่าได้ลงคอหรือ”
“ใครจะฆ่าจับเป็นเอากลับไปต่อรองกับลูกผัวนาง”
มู่ตานกระชับกระบี่แน่นนางยอมตายดีกว่าจะเป็นต้นเหตุ ที่จะทำให้สามีและลูกต้องมาตายเพื่อตน องครักษ์พากันพุ่งเข้าหาคนร้ายที่มีจำนวนมากกว่า รวมทั้งผู้เป็นนายที่กำลังจะพุ่งเข้าช่วยเหลือคนของนาง ฟรึ๊บ! มีใครบางคนเข้าขวางนางเอาไว้ มู่ตานหมุนกระบี่หมายทำร้ายคนที่เข้าถึงตัวของตน ที่บนหลังแบกตระกร้ามือข้างหนึ่งจับปีกหมวกอีกข้างอุ้มลูกสุนัขไว้ในมือ
“ช้าก่อนแม่นางข้ามาช่วยท่าน อย่าได้กังวลไป”
อั๊ก! มือข้างที่จับหมวงในคราแรกตอนนี้อยู่ที่ลำคอ ของหนึ่งในคนร้ายที่เข้ามาขัดขวางการพูดคุยของเขา ก่อนจงเป่าจะกางมืออกร่างในชุดดำร่วงลงสู่พื้นทันที มู่ตานยังคงมิไว้ใช้ชายตรงหน้า คนผู้มีพลังมหาศาลซ้ำความแม่นยำดั่งจับวาง ทั้งที่นางเห็นกับตาว่าเขาหันหน้ามาทางนางแท้ๆไยถึงทำได้เล่า หมิงจงเป่ากระตุกเชือกที่เอวออกก่อนจะก้าวยาวๆเพียงครู่เขาประชิดร่างงามในทันที ก่อนจะพุ่งเข้าจัดการกับนักฆ่ามารอย่างรวดเร็ว มู่ตานมองดูที่เอวของตนมีเชือกผูกเอาไว้ ปลายอีกด้านมืลูกสุนัขหรือมิใช่กัน เมื่อมองดีๆนางถึงกับหน้าซีดนี่คือลูกเสือขาวมิใช่หรือ ใช้เวลาเพียงไม่นานคนร้ายก็ถูกสังหารด้วยมือเปล่าจนหมดเกลี้ยง องครักษ์ทั้งสี่ต่างลอบกลืนน้ำลายลงคือ เป็นไปได้อย่างไรกันคนผู้นี้ลงมือสังหารเหล่านักฆ่าได้ด้วยมือเปล่า เมื่อทุกอย่างจบลงชายลึกลับได้เดินเข้าไปแบบมือต่อหน้า สตรีเพียงหนึ่งเดียว
“หากท่านกรุณาช่วยสามีข้าจากคนร้าย ที่อยู่ตรงป่าข้างถนนหลักได้ ข้ายินดีมองรางวัลและของมีค่าให้แก่ท่านจอมยุทธ์”
“หะ!..สามีท่าน ทำไมพึ่งมาบอกมิใช่ถูกหั่นศพไปแล้วหรือ ตามมาอุ้มหลานข้ามาด้วยละ”
มือหนาชี้ไปที่ลูกเสือก่อนที่ตัวเขาจะหายไปยังด้าน ที่เห็นคนทั้งห้าวิ่งมาคราแรก มิต้องให้ใครนำทางสายตาเขาแหลมคมดุจพญาเหยี่ยวร่องรอย ที่คนสองกลุ่มทิ้งไว้มากมายชัดเจน เมื่อเข้าใกล้ถนนเสียงการต่อสู้ดังสนั่น มันชัดเจนมากว่าคนร้ายคือพรรคมาร วิชาที่ใช้ช่างสกปรกนัก และหนึ่งในสองบุรุษนั่นถูกพิษร้ายเข้าแล้ว ถ้าจะมิช่วยหากลูกศิษย์รู้จะหาว่าใจดำ แต่หากเขาลงมือแล้วหนึ่งในพวกมารรอดไปได้ ต้องรู้แน่ว่าเขาคือใครและศิษย์เอกที่ยังอ่อนปวกเปียกต้องลำบากแสนสาหัส ถ้าให้สู้แบบมิเต็มที่ก็จะเหนื่อยเปล่าเหมือนเล่นกับพวกมัน ‘เอาไงดีละทีนี้ข้า เอาว่ะช่วยหรือไม่ไป๋หลานนางมีชะตาที่ทรหดอยู่แล้ว’ เมื่อตัดสินใจได้หมวกถูกดึงลงเล็กน้อยเพื่อกำบังใบหน้า เขาไม่อยากช้าจำต้องใช้อาวุธเสียแล้ว ปลอกมือเหล็กถูกนำออกจากตะกร้ามาสวมอย่างรวดเร็ว หากมิใช่ดาบเขากิเลนก็มิอาจฟันผ่านปลอกมือเขาได้ แส้กระดูกเหล็กพันรอบดาบของศัตรู อ๋องเจ็ดรวบรวมกำลังเพื่อกระชากอีกฝ่าย แต่ด้วยการต่อสู้ที่ผ่านมาทำให้ตัวเขาที่บาดเจ็บภายในอยู่ตอนนี้แทบไร้ซึ่งเรี่ยวแรง เพื่อปกป้องชายหนุ่มเขาจึงได้รับบาดเจ็บ แต่ใช่แค่เพียงเขาเท่านั้น
เหยียนเจี๋ยถูกพิษจากอาวุธของนักฆ่าแทนท่านอ๋องเจ็ดจนมิอาจปกป้องตนเองได้ เลือดสีดำไหลออกตามปากและจมูกของชายหนุ่ม มิคิดว่าพรรคมารจะกลายเป็นนักฆ่ารับจากเช่นนี้ ท่านอ๋องมิใช่ชาวยุทธไยพวกมันต้องเล่นงานด้วย เรื่องนี้ย่อมมีเบื้องหลังอย่างแน่นอน ตุ๊บ!อั๊ก! เพียงหมัดเดียวชายที่ยื้อยุดอยู่กับท่านอ๋องถึงกับคอหักพับ หมิงจงเป่ามิได้ชัดที่หัวแต่เป็นลำคอแทน ความเร็วและเงียบจนไม่มีใครรับรู้การมาของเขานั้น เป็นที่ตื่นตกใจให้แก่คนร้าย ผู้ที่ทำแบบนี้ได้มีเพียงพรรคโลกันต์ที่หายสาบสูญไปแล้วเท่านั้น เป้าหมายจากอ๋องเจ็ดมาเป็นชายแปลกหน้าที่สวมหมวกปีกกว้างลวดลายสดใส หากเป็นเวลาอื่นพวกเขาคงหัวเราะเยาะไปแล้วแต่มิใช่ตอนนี้ เพราะคนนับสิบร่วงลงอย่างกับใบไม้ ถงเหยียนเจี๋ยทรุดลงนั่งกับพื้นกระอักเลือดสีดำออกมาเป็นกอง หากเป็นท่านอ๋องได้รับคงมิอาจทนพิษนี้ได้นานเท่าเขา ชายหนุ่มนั่งลงโคจรพลังเพื่อขับพิษบางส่วนออกมา ตระกร้าสมุนไพรตกอยู่ตรงหน้าอ๋องเจ็ด
“ดอกสีม่วงๆเอาให้เขากินเร็วเข้า ช้าไปเจ้าหน้าขี้ริ้วนั่นได้ตายแน่”
อ๋องเจ็ดมิได้รอช้ารีบนำตระกร้าตรงไปยังชายหนุ่ม เขาค้นหาดอกไม้สีม่วงตามคำบอกของชายแปลกหน้า ที่ได้ยื่นมือมาช่วยตนเอาไว้ การต่อสู้เหมือนจะจบลงด้วยดี แต่เสียงขยับอยู่บนต้นไม่มิไกลทำให้หมิงจงเป่า เก็บก้อนหินขนาดเท่ากำปั้นปาออกไปด้วยพลังแฝง ปึ๊ก!ตุ๊บ! เสียงอะไรบางอย่างร่วงลงสู่พื้นอย่างแรง ก่อนที่เขาจะเดินไปยังที่มาของเสียงนั่น เป็นเวลาเดียวกับที่พระชายามู่ตานได้กลับมายังจุดที่ถูกลอบโจมตี ในมือของนางยังอุ้มลูกเสือขาวเอาไว้แน่น ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาสวามีและชายหนุ่ม
“ท่านพี่ปลอดภัยดีหรือไม่เพค่ะ ลูกเจี๋ยเป็นอันใดไป”
คำเรียกขานนั้นมิเป็นที่แปลกใจของใคร ยกเว้นเพียงผู้ที่พึ่งเดินกลับมา หมิงจงเป่ากอดอกแล้วเอามือลูบเคราเล่น เหมือนคนกำลังใช้ความคิดอย่างมาก อ๋องเจ็ดกับพระชายาเรียกถงเหยียนเจี๋ยเช่นนี้มานานแล้ว นับตั้งแต่วัยเยาว์
“เขาถูกพิษของพรรคมาร ทางรักษาไม่มีคงต้องสั่งเสียกันได้เลย”
“โปรดชี้แนะพวกเราด้วยท่านผู้มีพระคุณ หากช่วยหลานชายข้าได้ ท่านต้องการสิ่งใดหากมิเกินกำลังข้ายินดีจะหามามอบให้”
“ข้าช่วยเพราะจำเป็นหรอก มิใช่ใจดีเงินทองข้าก็ต้องการอยู่แต่ไม่มีประโยชน์อันใดที่ต้องเอามาให้ข้า เห้อ!สรุปข้าต้องช่วยเจ้าอัปลักษณ์นั่นสินะ ถ้าเช่นนั้นให้คนของท่านเข้าเมืองไปตามปกติ ส่วนพวกท่านพาเจ้าหนุ่มนี่ตามข้ามา หากจะช่วยลูกเจี๋ยของท่านมีอยู่ทางเดียวเท่านั้น ข้ามิอาจตัดสินใจได้ต้องให้ทั้งสองไปตัดสินใจด้วยตนเอง”
จะบอกได้อย่างไรพิษนี้คือวิวาห์สลายของนางมารไร้รัก จะแก้พิษต้องใช้ ‘หนักใจโดยแท้ศิษย์ข้าแค่เดินยังไม่ไหวจะช่วยยังไงกันละทีนี้’ ซ้ำเรื่องของไป๋หลานอาจมีคนล่วงรู้ จะให้สองสามีภรรยาเข้าเมืองหลวงพร้อมขบวนก็กลัวตายก่อนพบลูกชาย ถ้าจะพาไปด้วยพวกเขาก็เหมือนระแวงอยู่ในที จะบอกเรื่องธิดาของทั้งคู่ไปก็กลัวหนอนที่อาจแฝงอยู่ในคนที่ติดตามนี้เอาไปพูด เมื่อตัดสิ้นใจไปแล้วก็ต้องทำ หากต้องกำจัดทุกคนจนกว่าศิษย์เอกจะฝึกสำเร็จมันก็คือหน้าที่ของเขาอยู่แล้ว
คำพูดท่าทางมิค่อยสมประกอบเท่าใดนั้นขัดกับฝีมือล้ำเลิศของชายแปลกหน้ายิ่งนัก ถงเหยียนเจี๋ยเห็นปลอกมือเหล็กในตำนานของเหล่าชาวยุทธที่มีการกล่าวขวัญมานานว่า ผู้คุ้มกันไข่มุกโลกันต์เท่านั้นที่จะมีในครอบครอง ท่าทางบ้าๆบอๆแต่วิชาการต่อสู้นั้นลำเลิศยิ่งนักเหล่ามารต่างตามหาคนผู้นี้มานาน เรื่องเล่าที่เขาเคยได้ยินนั้นคือคนพวกนี้จะมีจิตใจไร้ความฝักใฝ่ เพื่อมิให้คิดหักหลังผู้ถือครองหรือนายของไข่มุกโลกันต์นั่นเอง เมื่อครู่เท่ากับเป็นการเปิดเผยตัวตนซึ่งมันอันตรายต่อชายแปลกหน้าผู้นี้ยิ่งนัก
.............................
มาแล้วคร้า ตอนนี้ฉากต่อสู้รวบรัดไปบ้าง ต้องขออภัยคร้า เรื่องคำผิดไรท์อ่านทวนยอมรับว่ามีคร้า แต่ขอชี้แจงว่า จะรีไรท์ทีเดียวก่อนจะส่งต้นฉบับและจะลดเพิ่มเนื้อในรีไรท์ จะลงให้อีกทีคร้า เข้าใจไรท์นิดหนึ่งนะคะ นอนตี5-6โมงเช้า ตื่นทำงานตอน10โมง เสร็จงานที่บ้านก็ต่อให้ถึงเช้า ความง่วงไม่ต้องถามค่ะ รู้ๆกัน บางทีลบเกิน ลบไม่หมดจะค้างในตอน ต้องขออภัยจริงๆค่ะ ไฟลนก้นไรท์มาติดๆจะพยายามเร่งให้ทั้งนักอ่านและ บก.นะคะ ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจคร้า ปมเริ่มต้นแล้วมาช่วยสืบว่ามารคือคนของใครกัน
นิยายสนุกนะคะแต่ปรับตัวอักษรหน่อยค่ะ ตัวเล็กมากอ่านในคอมแล้วปวดตา
สนุกมากค่ะ รอนะคะ
แต่รอตามตอนต่อไปนะคะ