[SF] Nonsense - BJIN - [SF] Nonsense - BJIN นิยาย [SF] Nonsense - BJIN : Dek-D.com - Writer

    [SF] Nonsense - BJIN

    คนรอมันทรมานเสมอ เชื่อผมเถอะ.

    ผู้เข้าชมรวม

    2,503

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    2.5K

    ความคิดเห็น


    19

    คนติดตาม


    40
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  30 ต.ค. 57 / 02:38 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    สำหรับนักอ่านคนใหม่ๆ ทุกเรื่องเป็น SF นะคะ ^_^

    จบในตอน ไม่จำเป็นต้องอ่านทุกตอนก็ได้จ้า

    ** แต่เพื่ออรรถรสที่ดี และถ้ามีเวลา..

    แนะนำให้ไล่อ่านตั้งแต่ตอนแรกเนาะ ฮี่ฮี่ :D
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                

      HANBIN :: JINHWAN




                   เสียงโทรศัพท์ดังอยู่เรื่อยๆจนจำไม่ได้แล้วว่านี่คือครั้งที่เท่าไหร่..  เอาจริงผมไม่ได้ตั้งใจจะเมินเฉยนะ รู้ว่าฮันบินโทรมาเพราะเป็นห่วง แต่ผมมางานเลี้ยงสังสรรค์ปิดเทอมเล็กๆของนักศึกษาแพทย์ปีสี่ นานๆจะได้ออกมาพักผ่อนกับเพื่อนหลังจากที่ร่ำเรียนกันแบบไม่ลืมหูลืมตา ฮันบินให้อิสระกันบ้างไม่ได้รึไง..  เล่นโทรมาทุกๆหนึ่งชั่วโมงแบบนี้มันน่าหงุดหงิดชะมัด

       


      “ว่าไง?”  กรอกเสียงไม่พอใจลงไปทันทีที่ตัดสินใจรับสาย

       

      ( พี่อยู่ไหนครับ? )

       

      “นายรู้อยู่แล้วนี่ แล้วถามอีกทำไม?”   เกลียดแอพลิเคชั่นบ้าบอนั่นชะมัด ฮันบินสามารถดูได้ตลอดเวลาเลยจริงๆ ว่าผมอยู่ส่วนไหนของโลก ตอนไหน เวลาไหน.. ฮันบินสามารถเช็คได้ทั้งหมด

       

      ( ทำไมพี่พูดไม่ดีกับผมแบบนั้นล่ะครับ.. )

       

      “ฮันบิน.. พี่ขออิสระบ้าง..”

       

      ( ถ้าพี่ซึงฮุนไม่อยู่ด้วย.. ผมคงไม่จู้จี้พี่ขนาดนี้ ผมทั้งหวงทั้งห่วงพี่เลยนะ.. )

       

      “บอกไปกี่ร้อยครั้งแล้วว่าเลิกกันแล้ว ก็คือเลิกแล้ว”  มันน่าหงุดหงิดชะมัดเลย นอกจากจะทำเหมือนไม่ให้อิสระแล้ว ยังมาคอยหวงกันแบบนี้อีก แล้วจะให้เลี่ยงยังไง? ซึงฮุนก็เรียนอยู่คณะเดียวกัน ปีเดียวกัน เพราะงั้นงานเลี้ยงวันนี้มันก็แน่อยู่แล้วว่าซึงฮุนต้องมา ...ให้ตายยังไงก็ต้องเจอกันอยู่แล้ว

       

      ( แล้วพี่ซึงฮุนเค้าคิดเหมือนพี่ไหมล่ะ.. )

       

      “ไม่รู้ พี่ไม่ได้สนใจ.. นี่.. ถ้าจะโทรมาคุยเรื่องคนอื่นแบบนี้ พี่จะวาง”

       

      ( เดี๋ยวๆๆ สรุปพี่อยู่ไหนครับ? )

       

      “ที่โชว์อยู่บนโทรศัพท์นายตอนนี้.. มันบอกนายว่าไงล่ะคิมฮันบิน” 

       

      ( NB คลับ สาขาคังนัม.. ? )

       

      “อืม โทรศัพท์แพงขนาดนั้นมันไม่โกหกนายหรอก”

       

      ( นอกจากจะอยู่กับพี่ซึงฮุนแล้ว.. พี่ยังไป NB อีกเหรอเนี่ย.. )

       

       
       

       

      นี่สรุปจะคุยเรื่องคนอื่นใช่มั้ย?

      ก็ได้..

      Slide to power off.

       

       

       

       

                      โทรศัพท์ถูกขว้างลงบนโซฟาทันทีเมื่อได้ยินสัญญาณบ่งบอกว่าอีกคนปิดเครื่องใส่... คิมจินฮวานจะรู้ตัวมั้ยนะว่ากำลังทำให้คนแบบผมกังวลแทบบ้าอยู่อย่างนี้  และแน่นอนว่าไปNBคลับยังไงก็หนีไม่พ้นเรื่องแอลกอฮอล์ พี่จินฮวานไม่ควรไปNBคลับถ้าผมไม่ได้ไปด้วย.. สถานที่แบบนั้นมันอันตรายกับคนตัวเล็กๆแบบพี่จินฮวานจะตายไป

                     

                      ปากกาในมือถูกหมุนไปมาแบบไม่ใส่ใจนัก พลางใช้ความคิดว่าควรจัดการกับความกังวลนี้ยังไง.. หลายๆครั้งที่เอาแต่โทรเข้าเครื่องคนตัวเล็กทั้งๆที่รู้ว่าสิ่งที่ได้กลับมาคือไร้สัญญาณตอบรับ..  

       

       

      คนรอมันทรมานเสมอ

      เชื่อผมเถอะ.

       

      .

      .

       

      01.44 น.

      ขีดจำกัดสุดท้ายของความอดทนไม่มีอีกต่อไป  ผมคว้ากุญแจรถบนโต๊ะข้างเตียงพร้อมทั้งหยิบเสื้อกันหนาวติดมือไปด้วย ผมควานหาโทรศัพท์บนเตียงอยู่สักพักก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามันถูกขว้างลงบนโซฟาเมื่อสองสามชั่วโมงที่แล้วโดยผมเอง

       

      ครืดดดดดดด ครืดดดดดดดด~   โทรศัพท์สีดำเครื่องเดิมกำลังสั่นอย่างบ้าคลั่ง..  แต่ผมกำลังจะบ้ายิ่งกว่าเมื่อเห็นชื่อที่โชว์หราอยู่บนจอใหญ่นั่น

       




      “พี่จินฮวาน!!! 

       

      (......)

       

      “ผมจะไปหาเดี๋ยวนี้ พี่ไม่มีข้อแม้อะไรทั้งนั้นนะครับ”

       

      ( จินฮวานคุมตัวเองไม่อยู่แล้ว เดี๋ยวพาไปส่งเอง )  ....... คำถามแรกคือไอ้บ้าที่ไหนมายุ่งกับมือถือพี่จินฮวาน คำถามที่สองคือพี่จินฮวานเมาขนาดไหนกัน?

       

      “นั่นใคร..?”  ผมรู้ดีว่าคนที่กำลังพูดกับผมต้องอายุมากกว่าผมแน่.. แต่ให้ตายยังไงตอนนี้ก็ไม่มีอารมณ์จะไปเคารพใครทั้งนั้น

       

      ( ...ซึงฮุน )

       

      “......”    ผมชะงักกับคำตอบที่ได้ยินเมื่อสักครู่  ...แทบไม่อยากจะคิดภาพว่าอีกคนเมาแล้วมีซึงฮุนที่เป็นถึงแฟนเก่าอยู่ข้างๆมันจะเป็นยังไง  ..ความโกรธปะทุขึ้นมาเป็นระลอกๆ ความคิดบ้าบอในหัววิ่งพล่านไปหมด ...ผมควบคุมสติตัวเองลำบากเหลือเกิน

       

      .

       

      .

       

       

      ( จินฮวานเมามาก เดี๋ยวจะขับรถไปส่ง คอนโดอยู่แถวมหาลัยใช่ไหม? อีกยี่สิบนา-... )

       

      “คุณอย่าแตะต้องคนของผม..”

       

      ( ก็ว่าจะอุ้มขึ้นรถ )

       

      “ผมไม่อนุญาต!! 

       

      ( ผมไม่ได้ขอหนิ.. )  

       

      “ลีซึงฮุน!!!!!”   สติผมขาดผึงทันที ผมไม่รู้ว่าซึงฮุนต้องการอะไรจากผม ยั่วโมโหเหรอ? เพื่ออะไรกันวะ

       

      (หึ.. คิมฮันบิน.. คุณมันก็แค่เด็กปีสอง จะไปดูแลอะไรใครได้ ..ปล่อยแฟนน่ารักขนาดนี้มากับแฟนเก่าแบบผมได้ยังไง )

       


      “......”

       



      ( ผมให้เวลาคุณยี่สิบนาที ..ขับรถมารับตัวเล็กของคุณกลับไปซะ ตอนนี้คนในคลับใช้แม้กระทั่งสายตาแทะโลมจินฮวานไม่หยุด เพราะงั้นถ้าคุณมาช้า.. ผมจะพาไปส่งเอง)

       

      “ได้ ผมกำลังจะไป..  แต่ผมขอร้องอะไรอย่างนึง...”

       


      (.......)

       


      “พี่อย่าแตะต้องพี่จินฮวานของผม... ได้โปรด”

       


      ( มาให้ทัน )

       

       




      ผมจะจำไปจนตายเลย

      ว่าครั้งหนึ่งผมเคยขอร้อง ขอความเมตาจากพี่..

      ลีซึงฮุน.

       

       

       

      ทันทีที่ผมไปถึงคลับหรูย่านคังนัม ผมก็เดินเข้าไปโซนวีไอพีของร้าน ใช้เวลาไม่ถึงสามนาทีก็พบร่างเล็กคุ้นตานอนหลับอยู่บนโซฟาตัวยาว โดยโซฟาด้านตรงข้ามคือลีซึงฮุน... หวังว่าพี่จะรักษาเรื่องที่ผมขอร้อง..

       

      “ผมทำตามสัญญาทุกอย่าง ไม่ต้องห่วง” คำทักทายจากลีซึงฮุนที่ดูคล้ายกับการอ่านคำถามในใจผมมากกว่าถูกเอ่ยขึ้นทันทีที่เจอกัน

       

      “....”

       

      “เพื่อนของจินฮวานเป็นคนแบกจินฮวานมานอนตรงนี้  ผมแค่มานั่งเฝ้า.. ไม่งั้นเดี๋ยวโดนลากไปไหนต่อไหนแน่ๆ”

       

      “...ขอบคุณ”   คำกล่าวขอบคุณแผ่วเบาถูกเอ่ยออกไปอย่างช่วยไม่ได้ แน่นอนว่าถ้าไม่มีพี่ซึงฮุน.. ป่านนี้ตัวเล็กของผมจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้

       

      “คราวหลังอย่าปล่อยจินฮวานมาคนเดียวแบบนี้อีก...”

       

      “ผมไม่ได้ปล่อ-...”

       

      “ฮ่ะๆ จินฮวานก็คงดื้ออยากมาเองเหมือนเดิมสินะ..”  ลีซึงฮุนเอาขาไขว่ห้างทำท่าทางสบายใจเมื่อพูดถึงคนตัวเล็ก ให้ตายเหอะอย่าพูดเหมือนสนิทกันขนาดนั้นได้ไหม

       

      “....”

       

      “นี่จะบอกอะไรให้นะ.. คนแบบจินฮวานน่ะ-..”

       

      “พี่ไม่ต้องบอกอะไรผมทั้งนั้น ผมเรียนรู้ด้วยตัวเองได้และขอบคุณสำหรับเรื่องวันนี้ คราวหน้าพี่ก็คงจะไม่ต้องมาลำบากแบบนี้อีก..”

       

      “.....”

       

      “เพราะผมคงไม่ให้พี่จินฮวานมาแล้ว”

       

       

       

       

      ร่างเล็กของพี่จินฮวานถูกวางลงบนเบาะรถอย่างเบามือ เบาะที่ในตอนแรกดูเหมือนจะนอนไม่สบายก็ถูกปรับให้เหมาะกับการนอนของคนตัวเล็กเป็นที่เรียบร้อย ไม่นานนักรถก็เคลื่อนไปยังจุดหมายที่แปลกไปจากทุกวัน...

       

       


      นอนโรงแรมแถวคังนัมซักคืนมันจะเป็นไรไป.

       

       

       

       

                      หนาว..  ความรู้สึกเดียวที่สมองพอจะประมวลผลได้ และก็ไม่แน่ใจว่าปากได้ขยับคำพูดอะไรออกไป แต่เพียงไม่นานก็มีเสื้ออุ่นๆคลุมหัวลงมา พร้อมทั้งสัมผัสแผ่วเบาบริเวณข้างแก้มนั่น... มันช่างคุ้นเคยเสียจริง.. ไหนจะกลิ่นน้ำหอมผู้ชายจางๆบนเสื้อนี่อีก ไม่ผิดแน่..

       

       

      “ฮันบิน..”   ทันทีที่รู้สึกตัว ปากมันก็ขยับเรียกชื่ออีกคนแบบไม่ทันได้คิด

       

      “ครับ.. ผมอยู่นี่นะ”  มือใหญ่นั่นผละออกจากพวงมาลัยรถมาข้างหนึ่งแล้วเอื้อมจับมือผมไว้แน่น..  ผมขยับตัวเล็กน้อยพลางกระชับเสื้อแขนยาวที่อีกคนเอามาคลุมให้กระชับขึ้นไปอีก และนั่นเป็นความรู้สึกสุดท้ายก่อนที่จะผลอยหลับไปอีกรอบ

       

       

      แอลกอฮอล์ทำให้ประสาทการรับรู้สูญเสียไปอย่างมาก.. ผมไม่สามารถรับรู้เรื่องราวแบบประติดประต่อกันได้เลยสักนิด อย่างตอนนี้.. รู้สึกว่าตัวเบาหวิวอย่างกับลอยได้ยังไงอย่างงั้น.. และหลังจากนั้นอีกสักพักก็รู้สึกเหมือนกับว่าร่างกายถูกลดระดับลงจนแผ่นหลังแตะสัมผัสอะไรบางอย่างที่นุ่มและดูท่าจะสบายกว่าเบาะบนรถยนต์หลายสิบเท่า

       

       

      หนาว..  ความรู้สึกนี้กลับมาอีกครั้ง แต่มันหนาวกว่าครั้งแรก..

      อาจจะเป็นเพราะเสื้อถูกถอดออกไปตอนไหนไม่รู้

      ให้ตายดิหนาวชะมัด..

       

       

      แต่แล้วอยู่ดีๆก็ร้อน..

      ร้อนเพราะอะไรบางอย่าง?

      เม็ดเหงื่อผุดพรายขึ้นเต็มร่างกายไปหมด ร้อนจนแทบจะสร่างเมาให้ได้...

      แต่ถึงอย่างนั้นสมองก็ไม่ประมวลผลใดๆ..  มีเพียงร่างกายที่ยังตอบสนองสัมผัสวาบหวามอย่างต่อเนื่อง

      เสียงหอบหายใจเพียงแผ่วเบา รวมไปถึงลมหายใจร้อนที่ข้างหู..

      เสียงครางเล็กๆดังขึ้น...  แต่เมื่อคิดดูอีกทีเหมือนว่าจะเป็นเสียงของตัวเองมากกว่า..

       

      ไม่รู้อะไรสักอย่าง

      ทุกอย่างขาวโพลน.. และสุดท้ายก็กลับเข้าสู้ห้วงนิทรา.

       

      .

       

       

       

                      ช่วงเช้าของวันนี้ดูค่อนข้างแปลกตาเมื่อลืมตาตื่นขึ้น..  แน่สิก็ตอนนี้ยังนอนอยู่ห้องพักหรูของโรงแรมย่านคังนัม แถมยังอยู่ชั้นสูงๆแบบนี้อีกต่างหาก วิวข้างล่างคงสวยใช่ย่อย ....น่าเสียดายที่ไม่ได้ชวนคนตัวเล็กในอ้อมกอดให้ดูไนท์วิวแสนสวยเมื่อคืน

       




      เออ จะเอาเวลาไหนไปชวนล่ะ

      ก็มัวแต่...

       


      ก้มลงมองใบหน้าเล็กในที่แนบอยู่บนอกเปลือยเปล่าแบบนี้แล้วนึกถึงเรื่องเมื่อคืนชะมัด..   จะว่าไปผมกับพี่จินฮวานยังไม่ทันได้มานั่งคุยกันเรื่องที่พี่จินฮวานปิดโทรศัพท์หนีผมเลย... แต่เราสองคนกลับคุยกันด้วยภาษากายแทนซะแล้ว

       

       

       

      “..ฮื้ออ..”   ร่างเล็กดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดไปมา..  ผมว่าผมบ่นในใจแล้วนะ นี่มันดังขนาดทำให้อีกคนตื่นเลยเหรอ?

       

      “ตื่นแล้วเหรอครับ ไม่ต้องรีบก็ได้นะ นอนต่อเลย..”  เอื้อมมือไปลูบหัวเบาๆ ราวกับกล่อมให้หลับ

       

      “..นอนไม่สบายเลย.. ปวดหลัง”

       

      “หื้ม?”

       

      “ทั้งปวดหลัง ทั้งปวดเอว.. โรงแรมอะไรเตียงห่วยแตกชะมัด คราวหลังกลับไปนอนหอเหอะ..”  ผมว่าเตียงมันไม่ได้ห่วยแตกอะไรเลยนะ....

       

      “พี่จินฮวาน...”   เอาสองมือประคองใบหน้าเล็กบังคับให้เงยขึ้นมาสบตากันตรงๆ

       

      “..อะไร?”

       

      “เมื่อคืนพี่เก่งจังเลยครับ...”  ดูสีหน้าคนตัวเล็กเหมือนจะงงๆนิดหน่อย แต่เพียงไม่นานเมื่อเริ่มสำรวจอะไรหลายๆอย่างรอบๆ ก็คงพบคำตอบแล้วล่ะ

       

      .

       

      .

       

       

      “..............ฮันบินนิสัยไม่ดี”

       

      “พี่ต่างหากที่นิสัยไม่ดี”

       

      “นิสัยไม่ดีๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”  มือเล็กทั้งสองข้างฟาดลงมาบนไหล่รวมไปถึงต้นแขนแบบไม่ยั้ง แก้มกลมๆนั่นก็ขึ้นสีอย่างต่อเนื่อง 

       

      “ฮ่าๆๆ ผมยังไม่คิดบัญชีเรื่องเมื่อวานที่พี่ปิดเครื่องใส่ผมเลยนะครับ”  ได้จังหวะเลยรวบข้อมือนั่นให้หยุดทำร้ายร่างกายผมซักที

       

      “ก็นายวุ่นวายพี่อ่ะ”

       

      “ผมห่วงพี่ต่างหากเล่า..  พี่ซึงฮุนอยู่แบบนั้น”  แต่เอาจริงถ้าไม่มีพี่ซึงฮุน ก็คงแย่เหมือนกัน..

       

      “ฟังนะคิมฮันบิน...   ซึง-ฮุน-มี-แฟน-ใหม่-แล้ว”

       

      “ผมไม่เชื่อหรอก”

       

      “ตามใจ พี่ไปอาบน้ำละ”  พอเห็นว่าอีกคนทำท่าจะลุกออกจากเตียงไปอาบน้ำ เลยเอื้อมมือฉุดรั้งข้อมือเล็กนั่นแล้วดึงกลับมากอดแน่น

       

      .

       

      .

       

      “ย๊า!! ปล่อยพี่นะ ดึงแรงชะมัด.. คนยิ่งปวด-...”

       

      “ปวดตรงไหนครับคนดี หื้ม?”  อดไม่ได้ที่จะยื่นหน้าเข้าไปจนจมูกของผมชนกับจมูกรั้นๆของพี่จินฮวาน

       

      .

      .




      “ฮันบินไม่เอาน่า...  อย่ารุมร่าม”

       

      “.....”

       

      “กลับคอนโดกันเถอะนะ..”

       


      “พี่จะรีบกลับไปไหน..”

       



      “.....”

       



      “อยู่เล่นอะไรๆกับผมก่อนดิ”

       
      .


      .

       

       

       

       

       

      เช็คเอ้าท์เที่ยงตรง อีกตั้งหลายชั่วโมง

      มาเล่นกันเถอะครับ

      เล่นได้ตั้งหลายรอบ.


      END.

       

      SF นี้ถือเป็นด้านมืดดดดดดดดด  ไม่เอาแล้วววว

      จะไม่ทำแบบนี้อีกกกกก 5555555555555555555555555555

      สมองตื้อตันขั้นสุด อาจจะไม่พลิ้วไหวเท่าไหร่ ก็ช่างมันเนอะ

      สารภาพเลยว่าถนัดจุนฮยอกมากกว่าจริงๆ เก๊าขอโทษษษษ  _/\_

      ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ เค้านั่งอ่านทุกอันเลย ไม่ว่าจะเม้นลง SF อันเก่าแค่ไหน เค้าก็อ่านนะ *O*

       ขอบคุณทุกแท็ก #ฟิคสามหมอ ใน Twitter ด้วยนะคะ  น่ารักสุดไรสุดดดดดด

      รักมากจริงๆ -3-

      >>>> ติชม ด่าทอ ต่อว่า บอกรัก ทวงฟิค หรือบ่นอะไรก็เชิญได้ที่แท็ก  #ฟิคสามหมอ  นะคะ ^_^

      ฝันดีฮะ.

       

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×