[SF] Good night (JunHuyk) - [SF] Good night (JunHuyk) นิยาย [SF] Good night (JunHuyk) : Dek-D.com - Writer

    [SF] Good night (JunHuyk)

    มันนอนไม่หลับนะ..

    ผู้เข้าชมรวม

    2,078

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    2.07K

    ความคิดเห็น


    26

    คนติดตาม


    17
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  12 มิ.ย. 57 / 01:51 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    [SF] Good night (JunHuyk)

    เป็น SF ที่ต่อจาก SF ก่อนๆๆๆๆ นะคะ 555
    เพื่ออรรถรสที่ดี แนะนำให้อ่านเรื่องก่อนๆๆด้วยโนะ
    ทุกเรื่องต่อกันหมด แต่ก็จบในตอนเดียว (งงป่ะะ??? 5555)
    แต่อ่านเรื่องนี้อย่างเดียวก็ได้มั้ง 555 รู้เรื่องๆ
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                      เคยรู้สึกไหมว่าบางทีทำไมตัวเลขแค่ไม่กี่ตัวถึงทำร้ายจิตใจเราได้ตั้งมากมาย  จริงๆผมก็ไม่รู้หรอกว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น แต่ที่แน่ๆวันนี้ เวลานี้ วินาทีนี้...

       

      ผม..

      กำลังโดนทำร้าย.

       

       

      .

       

      .

       

      “ดงฮยอกมึงดูคะแนนยัง?”  ผมไม่อยากคุยกับใครเลยจริงๆ แม้แต่เพื่อนสนิทอย่างยุนฮยองที่ยืนประจันหน้ากับผมอยู่ในตอนนี้ ไม่อยากคุย ไม่อยากคุยอะไรทั้งนั้น

       

      “อืม”

       

      “เป็นไง?”

       

      “....ดูหน้ากู”

       

      “........”

       

      “มึงว่ากูเป็นไง?”

       

      “โอเค กูไม่อยากรู้แล้ว” เพียงแค่อ่านจากสีหน้าของผม ยุนฮยองก็พยักหน้าเบาๆเชิงเข้าใจในความหมายที่ผมพยายามจะสื่อออกไปอย่างง่ายดาย

       

      “ขอบคุณ”

       

       

       

       

      เวลานี้คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการกลับคอนโดแล้วนอนพักผ่อนสมองให้หายเครียดจากคะแนนสอบที่ประกาศออกมาเมื่อเช้า.. ให้ตายเถอะผมเพิ่งเคยสอบตกครั้งแรก จะว่าครั้งแรกในชีวิตเลยก็ได้มั้ง มันเจ็บปวด มันเสียใจ มันรู้สึกพลาดไปหมด ทำอะไรไม่ถูก ขนาดกับเพื่อนสนิทผมยังไม่อยากคุยด้วยเลย แล้วถ้าคุยกับ...

       

      .

      .

       

      “มาแล้วเหรอครับ?” ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็เจอกับร่างสูงคุ้นตายืนอยู่อย่างกับรู้ว่าผมจะกลับมายังไงอย่างงั้น

       

      “อื้อ..”

       

      “เหนื่อยเหรอ?”  คนอะไรรู้ดีชะมัด..

       

      “มาก..”

       

      “...งั้นมานี่มา”   จุนฮเวดึงผมไปกอดไว้หลวมๆ พลางลูบหัวเบาๆแบบที่เคยทำอยู่บ่อยๆ ...เพียงแค่นั้นก็รู้สึกว่าคนที่กำลังกอดผมอยู่ตอนนี้แบกรับเอาความรู้สึกแย่ๆนั้นออกไปจนหมด

       

       

      กูจุนฮเว...

      รู้ดีไปหมดว่าทำแบบไหนแล้วหายเหนื่อย

      รู้ดีไปหมดว่าผมชอบอะไร

      รู้ดีไปหมดเลยจริงๆ..

                     

       

       

      อาหารเย็นที่คนเอาแต่ใจแถวนี้บ่นว่าอยากกินมาหลายวันถูกจัดวางบนโต๊ะอาหารเรียบร้อย เห็นเหนื่อยๆเลยเอาใจซะหน่อย ...ก็ถ้าไม่ตามใจเดี๋ยวจะหาว่าผมไม่รักอีกนั่นแหละ คิมดงฮยอกนี่ที่สุดของความเอาแต่ใจจริงๆนะ

      .

      .

       

      “ค่อยๆกินก็ได้น่า ซื้อมาให้กินคนเดียวนั่นแหละ” นี่ทั้งวันไม่ได้กินข้าวรึไงเนี่ย

       

      “ก็มันอร่อยนี่.. ค..แค่กๆๆๆๆ”

       

      “อ่าวๆ ติดคอแล้ว อ่ะนี่.. น้ำครับ” ผมยื่นแก้วน้ำให้ดงฮยอก ขณะเดียวกันก็ลูบหลังอีกคนไปด้วย

       

      “...”

       

      “แล้ววันนี้เป็นอะไรมา หน้าตาดูอย่างกับคนสอบตกแหนะ หื้ม?” พูดแซวเล่นพร้อมกับยีหัวเพื่อให้หมอคลายเครียดไปอย่างนั้น รู้อยู่แล้วว่าคนเก่งของผมไม่มีทางสอบตกหรอกครับ

       

      ปึง!

        

      แก้วน้ำถูกกระแทกลงบนโต๊ะอย่างแรงจนผมคิดว่าถ้าแรงกว่าอีกนิดเดียวผมได้เห็นแก้วแตกคามือดงฮยอกแน่ๆ  และแทบจะในทันทีที่ดงฮยอกลุกขึ้นแล้วเดินเข้าห้องนอนปิดประตูเสียงดังสนั่น ทิ้งให้ผมนั่งงุนงงกับเหตุการณ์เมื่อครู่อยู่เพียงลำพัง

       

       

      เกิดอะไรขึ้น..

      ผมพูดอะไรผิดรึเปล่าครับ?

       

       

       

      ก็อกๆๆๆๆๆ

       

      “เฮ้.. นี่เป็นอะไร? เปิดประตูเหอะ เคาะจนมือหงิกแล้วนะ” ผมเอาหูแนบกับประตูพลางเงี่ยหูฟังว่าดงฮยอกกำลังทำอะไร

       

      “......”

       

      “คิมดงฮยอก... เปิดประตูหน่อยครับบบบบบบบบ”  เสียงดังขนาดนี้ผมมั่นใจยังไงก็ต้องได้ยิน เปิดเถอะ ขอร้องล่ะ เปิด..

       

      “...ก็เปิดสิ”   เสียงดงฮยอกดังอยู่ใกล้แค่หลังประตูนี้เอง

       

      “......”

       

      .

      .

       

      “ไม่ได้ล็อคซะหน่อย...   ซื่อบื้อ” ประตูบานที่กั้นเราสองคนถูกเปิดออกด้วยฝีมือของดงฮยอกเอง ผมทำอะไรไม่ถูกได้แต่ยืนนิ่งทบทวนความงี่เง่าของตัวเองที่ยืนเคาะประตูอยู่ตั้งนานสองนาน

       

      “ก็นึกว่าล็อคนี่.....” ก้มหน้ามองพื้นด้วยความอาย ไม่กล้าสบตาคนตัวเล็กกว่า

       

      “ยืนเคาะประตูอยู่ได้.. รอให้มาง้อตั้งนาน... จนรอไม่ไหว”

       

      “...ว่าไงนะ”

       

      “คนอะไร ซื่อบื้อสุดๆไปเลย” ดงฮยอกเอื้อมมาดีดหน้าผากผมอย่างแรงไปหนึ่งที อา.. เจ็บนะ

       

       

                      จากการสอบถามเหตุผลของอาการงอนเมื่อสักครู่ได้ความว่า คนเก่งของผมสอบตก ละผมก็ไปแซวถูกจุดที่เขากำลังเสียใจ.. ก็ผมไม่รู้นี่นา..  แต่เอาจริงคำว่าสอบตกของดงฮยอกกับของผมมันต่างกันครับ ดงฮยอกได้คะแนนคะแนนต่ำกว่ามีนอยู่สามคะแนนครับ นั่นคือการสอบตของเขา ซึ่งคะแนนเต็มคือร้อยคะแนน... มีนคณะนี้อยู่ที่แปดสิบสี่ บอกผมทีว่านั่นคือค่าเฉลี่ยแล้ว...

       

       

      “หายเครียดรึยัง?”  หันไปถามคนที่กำลังใช้แขนผมเป็นหมอนอยู่ในตอนนี้

       

      “ก็... ยังหรอก”

       

      “แล้วให้ทำไงอ่ะ”

       

      “นี่... จุนฮเว”  อยู่ๆดงฮยอกก็ลุกพรวดพราดขึ้นนั่ง พร้อมกับจ้องตาผมไม่กระพริบ

       

      “ครับ?”

       

      “เค้าโง่แบบนี้ ยังรักอยู่อีกเหรอ?”  ทำไมอยู่ดีๆมาเปลี่ยนเรื่องคุยแบบนี้เนี้ย แล้วดูคำถาม.. ถามออกมาได้ยังไง

       

      “เกี่ยวกันตรงไหน?”

       

      “ตอบมา”

       

      “ไม่ตอบ เพราะมันไม่เกี่ยวกัน”

       

      “ตอบบบบบ”

       

      “หมออย่าดื้อสิ มันไม่เกี่ยวกันเลยนะ”

       

      “ทำไม!? ดื้อแล้วจะไม่รักเหรอ?”  นั่นไง.. ลามไปโน่น เห้ออ นี่วันนี้จะงอแงแบบนี้อีกนานมั้ยเนี่ย? ผมก็ได้แต่บ่นอยู่ในใจนั่นแหละครับ จากที่ผมนอนเล่นอยู่สุดท้ายก็ต้องลุกขึ้นมานั่ง แล้วรวบตัวแฟนขี้งอแงมากอดไว้หลวมๆ

       

       

      “รัก... ดื้อยังไงก็รักครับ”

       

      “แล้วโง่ล่ะ? ถ้าโง่อีกจะทำไง!!?? จะรักเหมือนเดิมมั้ย?”  โง่ตรงไหนวะเนี่ย ผมไม่เข้าใจนิยามคำว่าโง่ของดงฮยอกเลย ให้ตายเถอะครับ

       

      “คนดีไม่เอาน่า.. ไม่มีใครโง่หรอก”

       

      “มีนะ.. ก็เค้าไง”

       

      “ถ้าไม่หยุดพูดแบบนี้ จะไม่รักแล้วนะ” ผมดันไหล่ดงฮยอกให้ออกจากอ้อมกอด  เห้อ.. สุดท้ายก็ต้องงัดไม้ตายออกมาจนได้  ไม่อยากพูดคำว่าไม่รักเลยนะ แต่วันนี้หมอดื้อเกินไป ดื้อเกินไปจริงๆ

       

      “.....”  

       

      “ถ้าสอบครั้งหน้าคะแนนดี เดี๋ยวมีรางวัล”

       

      “รางวัลอะไร”

       

      “พาไปเลี้ยงข้าว โอเคนะ?”

       

      “นั่นมันหน้าที่นายอยู่แล้ว”

       

      “เดี๋ยวจะไปรับไปส่งทุกวันด้วย”

       

      “นั่นก็หน้าที่นาย..”

       

      “เดี๋ยวให้จูบ”

       

      “นั่นก็หน้าทะ....    บ้า...”  หมอก้มหน้างุดเพื่อหลบหลีกสายตาผม แต่ยังไงก็เก็บแก้มแดงๆนั่นไม่พ้นผมหรอกน่า

       

       

       

      จะว่าไป..

      ให้นั่นเป็นหน้าที่ของผมคนเดียวก็ได้ครับ

      อย่ามาแย่งละกัน

      ผมยินดีทำนะ.

       

       

       

       

       

       

                      ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเวลานอนกอดกันแบบนี้แล้วรู้สึกดีชะมัด.. รู้สึกว่าเรื่องที่เครียดทั้งหมดมันเบาบางลงแทบไม่เหลืออีกเลย จุนฮเวทำได้ยังไงกันนะ?  แต่ก็ช่างเถอะ แค่รู้ว่าเค้ายังอยู่ข้างๆผมแบบนี้ ผมก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น สอบครั้งหน้าสัญญาจะทำให้ดีกว่าเดิม ผมต้องทำได้สิ ผมต้องทำให้ได้..

       

      อยากได้รางวัลจากจุนฮเวเหรอ?

      คำตอบคือเปล่าเลย

      จะไปอยากได้ทำไมกัน

      .

       

      .

       

      ปกติก็ได้ทุกวันอยู่แล้วนี่ ._.

       

       

      .

       

      .

       

       

      “จุน... หลับแล้วเหรอ?”   เงยหน้าขึ้นไปมองหน้าอีกคนในความมืด

       

      “ยังครับ ทำไมยังไม่นอน ..หนาวเหรอ?”  จุนฮเวกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นไปอีกเท่าตัว

       

      “ป..เปล่า คือ.. ก่อนนอนวันนี้จะไม่.. เอ่อ.......”

       

      “อะไร”

       

      “ก็.... ก่อนนอนนายจะ....”

       

      “อะไรล่ะ”

       

      “ฮื้ออ.. ไม่ก็ได้ นอนแล้ว”  โอเคไม่พูดแล้ว ไม่ต้องก็ได้... เฮอะ!

       

      “แค่พูดว่าอยากได้อะไร นี่จะตายรึไง”

       

      “ก็แล้วทำไมต้องให้พูด ปกติกะ..ก็.. ไม่เห็นต้องพูดเลย” บ้าจริงๆ บ้ามากๆ ทำไมอยู่ดีๆมาเรื่องมากอะไรเนี่ย

       

      “ก็อยากรู้.. ว่าชอบไหม ไม่ใช่ทำไปทุกวันเพราะความเคยชิน” น้ำเสียงตัดพ้อเบาๆนั่นคืออะไร  ก็ใช่.. ก็เคยชินไง ก็เพราะว่าเคยชินนี่ไง ถึงได้รู้สึกว่าวันนี้มันขาด.. ก็ไม่อยากให้ขาดไง ไม่เข้าใจเหรอ?

       

      “ถามอะไรก็ไม่รู้..”

       

      “คิมดงฮยอก”

       

      “เออชอบ..”

       

      “.....”

       

      “ชอบมาก ได้ยินมั้ย..”

       

      “.....”

       

      “มันนอนไม่หลับนะ...”

       

      “.....”

       

      “ขอเถอะ...”

       

      “.....”

       

      “....จูบซะที”

       

      .

       

      .

      .

      “ก็แค่นั้น..”

       

       

       

       

      “ฝันดีนะคนเก่ง”  จูบสุดท้ายหยุดลงที่หน้าผากมนๆของคนในอ้อมกอด ที่ขณะนี้ได้หลับสนิทไม่รับรู้อะไรอีกต่อไป  หึ.. ทำเป็นบอกว่านอนไม่หลับ

      รู้มั้ยครับว่าจริงๆแล้วคนแบบคิมดงฮยอกเห็นดื้อๆแบบนั้นน่ะ.. จริงๆเลี้ยงง่ายนะ การกล่อมดงฮยอกให้หลับนั้นไม่ได้ยากอะไรเลย แค่ทำ... แบบนั้น  ปลุกให้ตื่นก็ไม่ยาก.. ใช้วิธีเดียวกัน

       

       

       

                     

      แต่มีข้อแม้อยู่ข้อนึง

      คนที่ทำได้..

       

      .

      .

       

      มีแค่ผมเท่านั้น

      กู จุน ฮเว.

       

       

       

      END.

       

      จุนฮเววววววว   เจ้นอนไม่หลับเลอออออ 555555555555555  *โดนตรบบบ

      คือมีคนแถวนี้ทวงฟิค (ใคร?) เลย.. เออๆ เอาไปก็ได้ ฮี่ฮี่

      คือมาดึกตลอดดดด  ง่วงตลอด คำผิดงี้ ไม่เคยแก้ 55555 ค่อยมาแก้โนะ

      ขอบพระคุณทุกกกกกคน ที่เข้ามาอ่าน เยอะไม่เยอะก็ช่างเหอะ ดีใจจจ ^^

      คนเม้นนี่คือคนที่มีบุญคุณแก่เรามากจริงๆนะ  คือชอบอ่านเม้นไง สนุกกก 55555

      ไม่ซีเรียสนะคะ ชิวๆ รักทุกคนเหมือนเดิม จุ๊บบบบบบบ -3- 

      Twitter Tag #ฟิคสามหมอ   เยิฟๆ

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×