[SF] Stay together (BobYun) - [SF] Stay together (BobYun) นิยาย [SF] Stay together (BobYun) : Dek-D.com - Writer

    [SF] Stay together (BobYun)

    โดย iimm

    แน่จริงหน้าแดงให้มากกว่านี้อีกดิ....

    ผู้เข้าชมรวม

    2,738

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    2.73K

    ความคิดเห็น


    20

    คนติดตาม


    21
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  26 เม.ย. 57 / 01:54 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้


    *เปิดเพลงฟังนะ เพลงเพราะนะรู้ป่ะะะ 5555

    SF : Stay together (BobYun)
    เป็น SF ที่ต่อจาก SF ก่อนๆๆๆๆ นะคะ 555
    เพื่ออรรถรสที่ดี แนะนำให้อ่านเรื่องก่อนๆๆด้วยโนะ
    ทุกเรื่องต่อกันหมด แต่ก็จบในตอนเดียว (งงป่ะะ??? 5555)
    แต่อ่านเรื่องนี้อย่างเดียวก็ได้มั้ง 555 รู้เรื่องๆ
     
    Enjoy reading ฮะ ^^
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                      นาฬิกาข้อมือเรือนสวยถูกยกขึ้นมาดูเวลาทุกๆ 10 นาที อย่างไม่จำเป็น  ในใจได้แต่ภาวนาให้หมดคาบเรียนสุดท้ายเร็วๆ   และสาเหตุที่ทำให้ผมดูรุกรี้รุกรนขนาดนี้เพราะเมื่อเช้ามีคุณหมอบางคนชวนไปกินข้าวเย็นด้วยกันสองคน..

        

      “ฮันบิน.. วันนี้กูลากิจ หนึ่งวัน”   สะพายกระเป๋าเตรียมลี้ภัยทันทีที่หมดคาบเรียน

      “ไม่อนุญาตครับ ต้องไปซ้อมนะครับบ๊อบบี้ฮยอง ”

      “ให้กูไปเห๊อะ”

      “ไปไหน”

      “กินข้าวกันยุน ไปส่งน้องที่หอด้วย”

      “ก็เจอกันอยู่ทุกวัน ไม่ให้ไป”    ไอ้ลีดเดอร์... มึงนะมึง

      “ก็แค่ไปรับไปส่งมั้ยวะ ไม่ได้อยู่ด้วยกันแบบคู่มึงซะหน่อย”

      “ฮะ?  อย่าบอกนะว่ายังแยกกันอยู่”

      “เออ”

      “พี่บ้ารึเปล่า ทนคิดถึงได้ไงวะ  ฮ่าฮ่า”    ตอกย้ำทำบ้าอะไร ไอ้นี่

      “.............”

      “โอเคๆ ไม่ต้องทำหน้างั้น พี่ไปเหอะ ให้วันนึง กอบโกยซะนะ ฮ่าฮ่าฮ่า”  หัวเราะหา...   -_-

       

      .

      .

      .

       

       เอาจริงผมก็คิดนะ.. เรื่องย้ายมาอยู่ด้วยกันอ่ะ..

      แต่น้องไม่เคยพูดถึง ยิ่งเวลาผ่านไปนานๆเข้า เลยกลายเป็นว่าผมไม่กล้าถามไปซะอย่างนั้น

       

      “พี่รอนานมั้ยครับ? ^^   เสียงสดใสทักขึ้นนั้นทำให้ผมหลุดจากภวังค์ความคิด

      ^_____^ ไม่ครับ ป่ะกินข้าวกัน”   

       

      ยื่นมือออกไปรับของมาช่วยถือเหมือนเดิม

      มืออีกข้างก็ยื่นออกไปจับมืออีกคน

       เหมือนเดิม.. :)

       

      .

      .

      .

       

      “ยุนอยากกินอะไร”

      “พี่เลี้ยงนะ”

      “พี่เคยให้นายจ่ายเหรอ?”

      “ฮ่าฮ่า ไม่ครับ ^-^” 

       คนอะไรสดใสชะมัด ไม่แปลกใจเลยทำไมผมถึงหลงรอยยิ้มนั่นตั้งแต่วันแรกที่เจอ..

      .

      .

       

      สุดท้ายยุนฮยองก็ยังคงคอนเซปยุนฮยองต่อไป..

      อาหารญี่ปุ่น แต่รอบนี้น้องลากแขนผมไปฟูจิ

       

      “อิ่มมั้ย หื้มมมม”    ยีผมอีกคนอย่างหมั่นเขี้ยว    ดูแก้มบวมๆนั่นสิ อะไรไม่รู้เต็มปากจนแก้มพองไปหมด

      “ฮู่วว พี่บ๊อบอย่าสิ ผมยุ่งหมดแล้ว  นี่.. ถ้าอยากกินอย่างอื่นอีก จะเปลืองป่ะ? ”

      “เปลือง...”       คนอะไรน่าแกล้งชะมัด

      “...ไม่กินก็ได้”

      “ล้อเล่นน่า มีบัตรนี้อยู่ กลัวอะไร ”  พลางยกโชว์บัตรสี่เหลี่ยมใบเล็กให้ดู

      “บัตรอะไร รูปร่างแปลกๆ”

      “บัตรที่มีเฉพาะทายาทของห้าง”

      “เหรอออ แล้วไปเอามาได้ไงอ่ะ

      “..............”

      “บอกมา ไปเอามาจากไหน เพื่อนพี่ให้ยืมเหรอ”   ยุนฮยองทำไมไร้เดียงสาขนาดนี้อ่ะ ผมชักจะหนักใจแล้วนะ จริงๆ

      “.....ยุนเรียนคณะอะไรครับ?”

      “หมอครับผม”  ยัง.. ยังไม่หยุดทำตาใสๆ

      “พี่บอกว่านี่เป็นบัตรของทายาทห้างนี้  ...แล้วทำไมพี่ถึงมีครับ หมอคิดเร็วๆครับ”

      “..พี่บ๊อบ..จริงเหรอเนี่ย”  ดูเหมือนน้องจะคิดคำตอบออกแล้ว

      “จริงครับ”

      .

      .

       

      “.......งั้นเราเลิกกันเถอะครับ”

      “เห้ยยยยย ทำไมอ่ะ!??”  

       

        อะไรกัน.. ผมไม่เหมาะกับน้องเหรอ? ส่วนเรื่องที่น้องไม่เหมาะกับผม ผมไม่เคยคิดเลย ผมไม่ซีเรียสเรื่องฐานะอะไรทั้งนั้น

      แค่คนนี้ผมโอเค มันก็พอแล้ว.. เพียงพอแล้ว



      “.......ผมอาย”

      “อะไรนะ”           ผมดีไม่พอเหรอ......   ทำไมกัน

       

      “พี่ก็ดูดิ.. ผมกินเยอะขนาดนี้  มากินบ่อยด้วย เดี๋ยวพนักงานเอาไปฟ้องป๊าพี่ ว่าผมกินเยอะ.. มันไม่โอเคเลย”

       

      เดี๋ยวนะ...

       

      จบคำสารภาพของยุนฮยองทำให้ผมแทบกลั้นขำไม่อยู่ 

      อีกคนก็คิ้วขมวด หน้ามุ่ยคิดมาก นั่งบ่นอุบอิบกับตัวเองอยู่แบบนั้น  ตลกชะมัด

      ดูเหตุผลซิ.. มันเรื่องใหญ่ตรงไหน แล้วมาบอกเลิกผมแบบนั้น ผมหัวใจจะวายให้ได้เลยจริงๆ ให้ตายดิ

      ที่สำคัญพ่อผมก็รู้อยู่แล้วว่าผมคบใครอยู่ ไม่เคยปิดบัง

       

      “พี่ขำอะไรอ่ะ  มันไม่ขำนะ”

      “รู้มั้ยว่าป๊าบอกพี่ว่าไง?”

      “ฝากพี่มาบอกให้ผมเลิกกินเยอะใช่มั้ย ผมรู้นะ”   ดูทำเข้า ทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้ไปได้

      “ป่าวซะหน่อย..”

      “....................”

      “ป๊าบอกให้ดูแลหมอดีๆ รักให้มาก ตามใจเยอะๆ”  

      “ล้อเล่นเหรอ!??

      ยุนยกสองมือขึ้นมาจะฟาดผม เลยถือโอกาสรวบมือข้อนั่นซะ แล้วดึงมาใกล้ๆ จบด้วยการจ้องตาน้องไม่กระพริบ หึ..

      “ไม่เคยล้อเล่นนะ  อย่างเรื่องรักก็บอกว่ารัก ไม่เคยล้อเล่นสักครั้งเดียว”

       

                                         แน่จริงหน้าแดงให้มากกว่านี้อีกดิ....  

                     


           


                        นานๆจะเลิกเรียนเร็ว แถมยังได้ไปกินข้าวกับพี่บ๊อบอีกต่างหาก.. วันนี้มีความสุขชะมัด

      ก่อนกลับหอผมเลยขอให้พี่เค้าพาไปขับรถเล่นรอบเมืองสักรอบ แสงสียามค่ำคืนมันน่าหลงไหลจริงๆนะ

       

      ป่าวหรอก

      ก็แค่อยากอยู่ด้วยกันนานๆ...

       

      “นี่.. คิดอะไรอยู่  อิ่มละเงียบเชียว  โอ้ยย! ฟาดลงมาได้ เจ็บนะ”

      “พี่ก็อย่าล้อเรื่องกินดิ..”   หมอหน้าบูด แต่ผมมองว่าน่ารักนะ  ผมเป็นอะไร?

      “ครับๆ ไม่ล้อแล้ว ฮ่าฮ่า”

      “ยังจะขำอีก”

       .

      .

      “ง่วงอ่ะ”

      “ตัวเองเป็นคนชวนให้ขับรถเล่นนะ ง่วงได้ไง”     ก็ผมง่วงงงง มันห้ามได้มั้ยเล่า

      “............”

      “.....ยุนฮยอง”

      “............”

      “เอาหัวมาซบไหล่พี่แบบนี้ พี่คิดไกลนะ”   คิดอะไรก็คิดไป ไม่สนละ

      “...........”

      “รักกันบ้างป่ะเนี่ย ถามจริง”       รักดิ....

      “.......พี่ถามอะไรงี่เง่าชะมัด”หลับตาคุยดีกว่าเห็นๆ  ผมไม่รู้จะทำหน้ายังไง เล่นถามคำถามอะไรไม่รู้


      “ก็ไม่เห็นจะเคยพูด...”

      “ไม่เอาอ่ะ ไม่เห็นสำคัญตรงไหน”   พูดทำไม ทำไมต้องพูดเล่า

      “.........อืม ไม่สำคัญ” 

       

      อย่าบอกนะว่างอน?

      ไม่ง้อนะโว้ยยยย

       

      “แล้วพี่.. รักมั้ย?”  แกล้งถามไปงั้นแหละ..   พี่บ็อบก็พูดให้ฟังอยู่ทุกวัน..

      “รักใคร?”

      “...........”   ยังจะมาถามอีก

      “... รักสิครับ รักมาก..”

      “อื้อ..รักเหมือนกัน”  

      “อะไรนะ”

      “ร้องเพลงให้ฟังหน่อย ง่วงแล้ว”     ใครจะพูดอีกรอบ ไม่มีทาง

      “...........”

      “ไม่ได้เหรอ..”  

      .

      .

      If I told you I was perfect , I’d be lying.

      If there’s something I’m not doing , I am trying…

      I know I’m no angel..  But I’m not so bad..  No,no,no..”

       

      รู้รึยังทำไมผมถึงมีความสุขทุกครั้งที่เราได้อยู่ด้วยกัน..

      ไม่มีใครตามใจผมได้ขนาดนี้อีกแล้ว

      จริงๆ..

       

                     

                     

       


       คนอะไรหลับง่ายชะมัด..  เอาหัวมาซบไหล่ตอนขับรถ แถมอ้อนให้ร้องเพลงให้ฟังแบบเนียนๆนั่นอีก..

      ซงยุนฮยอง..  จะทำให้หลงไปถึงไหนกัน แค่นี้ผมก็จะแย่อยู่แล้ว ไม่อยากแยกกันเลย ให้ตาย

       

      “คนเก่ง.. ถึงแล้วครับ”  สะกิดเพียงเบาๆอีกคนก็ตื่นอย่างง่ายดาย

      “.. ถึงเร็วจัง...”

      “หื้ม?”

      “ขอบคุณนะครับ... สำหรับวันนี้ผมมีความสุขจัง ^^   ยิ้มทีนึงผมจะตายให้ได้เลย

      “...........”

      “ร้องเพลงให้ผมฟังบ่อยๆนะ”

      “...........”

      “มันเจ๋งกว่าตอนนั่งมองพี่แต่งเพลงอีก ...ชอบแบบนี้มากกว่า”

      .

      .

      “ยุนฮยอง...”

      “..............”

      “ไม่รู้ว่านายเคยคิดเรื่องนี้มั้ยนะ..   แต่มาอยู่ด้วยกันเถอะ..”

      “.............”

      “ไม่อยากทนคิดถึงตอนดึกๆอีกแล้วอ่ะ”

      “............”

      “ยิ่งนานยิ่งคิดถึง  ขอโทษที่เห็นแก่ตัวนะ แต่มาอยู่กับพี่ได้ไหม?”

      “รู้อะไรมั้ย.....”

      “..........................”

      .

      .

      .

      “...พี่โคตรความรู้สึกช้าเลยให้ตาย”

      “อะไร”

      “..........คนเค้าอยากไปอยู่ด้วยตั้งนานแล่ว”

      “ว่าไงนะ?”

      “ไม่พูดซ้ำหรอก  งั้นไปละนะ ขอบคุณที่มาส่งครับ

       

      บางทีสมองผมก็ไม่เป็นมิตรกับผมเท่าไหร่ ผมใช้เวลาประมวลผลคำพูดของยุนฮยองนานเกินไป

      จนอีกกำลังจะหายเข้าตึกไป  ผมจึงต้องเร่งฝีเท้าให้เร็วที่สุดเพื่อจะรั้งอีกคนไว้

      จนในที่สุดผมก็คว้าข้อมืออีกคนไว้ได้สำเร็จ

       

      “ยุน..”

      “ทำไมยังไม่กลับอีกเนี่ย”

      “ก็บอกแล้วไง ว่าจะไม่ทนคิดถึงตอนดึกๆอีกแล้ว”

      “...........”

      “คืนนี้ขอนอนนี่ก่อนละกันนะครับ..   เดี๋ยวค่อยย้ายไปอยู่ด้วยกัน..”

      “.............”

      “นะครับ...”
      .
      .

       

      “งั้น.. คืนนี้ร้องเพลงให้ผมฟังด้วยได้ไหมครับ?.. 

      “..............”

      “กอดด้วยนะ.... ห้ามปล่อยล่ะ”

       

      .

      .

      .

      ประโยคนั้นของยุนฮยองมันยิ่งกว่าคำว่าตกลงซะอีก

      แล้วแบบนี้จะไม่ให้หลงคนๆนี้ได้ยังไงครับ..

       

       

      END.

       

       

       

       Special ::

                 "วันนี้มึงจะโดดไปไหนอีกมั้ยครับ บ๊อบบี้ฮยอง"    ผมถามพี่เขาเผื่อไว้งั้นแหละ ผมไม่ให้ไปหรอก
                 "...ไม่แล้วว่ะ"
                 
                 "พี่กับน้องยุนย้ายมาอยู่ด้วยกันเหอะ ดีกว่าเห็นๆ ตื่นมาเจอหน้าเค้าก่อนใคร 
                  มีความสุขไปทั้งวัน เชื่อผม"     แกล้งแหย่หนวดเสือเล่น 555

                 "เออ.. รู้แล้ว     ย้ายมาแล้ว"
                 "เฮ้ จริงป่ะเนี่ย?!"
                 "เออ"  
          
                  .
                  .
                  
                  "งั้นแปลว่าผมยุได้ผล..  พี่งี่เง่าเหมือนที่น้องยุนบอกจริงๆด้วย ไม่อยากเชื่อเลย"

                  "ฮันบินมึงว่าไงนะ..   ยุนฮยองให้มึง.."
                  "น้องมาบอกผมว่า ทำไงก็ได้ให้พี่เลิกงี่เง่าซะที"
                  ".........."

                  "ถ้าขอเร็วกว่านี้ กำไรเห็นๆ  สมน้ำหน้า พี่บ๊อบโคตรงี่เง่า ทนอยู่ทำไมตั้งนาน"


      ให้ตายสิ...

      คิมบ๊อบบี้เป็นมนุษย์ซื่อครับ  
      ซื่อบื้อ 55555555555555555555

      END.  :P


      ไหนบอกมีสอบบบบบ!? ว๊ากกกกกกกกกกกก ยังอ่านหนังสือไม่จบ
      แต่มันทนไม่ไหวอ่ะ ฮือออออ เอาฟิคมาลงก่อน -.,-

      ชอบไม่ชอบยังไง ติชมเค้าได้เน่อ เค้าชอบอ่านคอมเม้นจริงๆนะ มันตื้นตันใจอ่ะ 555555
      ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านฮะ ^^ เลิฟฟฟฟฟ


       

       

       

      .

      .

       

       

       

       

       

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×