[SF] Call me 'Mom' - BobYun - [SF] Call me 'Mom' - BobYun นิยาย [SF] Call me 'Mom' - BobYun : Dek-D.com - Writer

[SF] Call me 'Mom' - BobYun

โดย iimm

ผู้เข้าชมรวม

2,156

ผู้เข้าชมเดือนนี้

3

ผู้เข้าชมรวม


2.15K

ความคิดเห็น


25

คนติดตาม


27
เรื่องสั้น
อัปเดตล่าสุด :  4 ก.พ. 58 / 01:19 น.


ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
สำหรับนักอ่านคนใหม่ๆ ทุกเรื่องเป็น SF นะคะ ^_^

จบในตอน ไม่จำเป็นต้องอ่านทุกตอนก็ได้จ้า

** แต่เพื่ออรรถรสที่ดี และถ้ามีเวลา..

แนะนำให้ไล่อ่านตั้งแต่ตอนแรกเนาะ ฮี่ฮี่ :D
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ

    Bobby : Yunhyeong









    “งั้นพี่ไปด้วย”

     

    “ฮยองไปไม่ได้นะ!

     

    ผมเดินวนไปมารอบห้องเหมือนพยายามใช้ความคิดหาทางออกของปัญหานี้...  แต่ไม่ว่าจะทางเลือกไหนมันก็ไม่โอเคทั้งนั้นอ่ะ จะให้แม่มาเยี่ยมที่คอนโดเหรอ?  ไม่ดีแน่ๆ แต่จะให้กลับบ้านก็ไม่เอาอีกนั่นแหละ

     

     


    เห้อ..

    ความจริงแล้วปัญหามันอยู่ที่ร่างสูงตรงหน้าเนี่ย

     


    ผมค่อนข้างมั่นใจว่าแม่รู้เรื่องของผมกับบ๊อบบี้ฮยองแล้ว เพราะครั้งก่อนคุณน้ายังพายูจินมาเล่นที่ห้องอยู่เลย แต่การที่แม่โทรมาปุบปับบอกจะมาเยี่ยมที่ห้องนี่มันก็ยังไงๆอยู่... เพราะถ้ามาก็ต้องเจอบ๊อบบี้ฮยองอยู่ที่นี่ แล้วพวกเขาก็ต้องพูดคุยกัน.. ต้องทำความรู้จักกัน... คือมัน....

     

    “โอ้ยยยยยยยยยยยยย คิดไม่ออก”  ผมทรุดตัวลงนั่งกับโซฟานุ่มแล้วเอามือทึ้งหัวตัวเองไปมา

     

    “ถ้าไม่ให้พี่ไปด้วย งั้นก็ให้แม่มาหาที่นี่ ตัวเลือกก็มีอยู่แค่นี้”  บ๊อบบี้ฮยองพูดพลางหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ

     

    “ไม่เด็ดขาด..”

     

    “งั้นก็ไปบ้านยุนพรุ่งนี้”

     

    “นี่ก็ไม่เอาอ่ะ...”   ยกแขนขึ้นกอดอกแน่น เบะปากไม่พอใจให้อีกคนได้รับรู้  ฮยองนี่ไม่ได้ช่วยให้มีตัวเลือกเพิ่มขึ้นเลยสักนิด ให้ตายเหอะ

     



    “แล้วจะให้พี่ทำยังไงครับ หื้ม?”  มือใหญ่ยื่นมาแกะแขนทั้งสองข้างที่กอดอกแน่นให้คลายออก แล้วเลื่อนมือมายืดแก้มออกให้เปลี่ยนจากหน้าบูดๆเป็นยิ้มจนปากจะฉีกถึงหู

     

    “โอ้ย ฮยองงง อย่า”  เอื้อมมือไปปัดมือหนาทิ้งอย่างไม่ใยดี คือคนมันกำลังหงุดหงิดป่ะ มาเล่นอะไรไม่เข้าเรื่อง

     

    “วันนี้ยุนฮยองดื้อที่สุดตั้งแต่ที่คบกันมาเลย รู้ตัวไหม?”

     

    “รู้”

     

    “นี่.. พูดกับพี่ดีๆเดี๋ยวนี้นะ”

     

    “....”

     

    “ซงยุนฮยอง”

     


    “....รู้ครับ”   ตอบกลับไปเสียงแผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน แถมก้มหน้าลงมองปลายเท้าตัวเองไม่ยอมสบตาคนที่นั่งอยู่ข้างๆอีกต่างหาก  บ๊อบบี้ฮยองน่ะไม่เข้าใจหรอก.....  บางทีมันก็ไม่พร้อมที่จะอธิบายเรื่องของเราให้ใครฟังตอนนี้นะ เรายังเรียนกันอยู่เลย แล้วอีกอย่างผมก็เป็นคนหอบข้าวหอบของย้ายมาอยู่กับฮยองเองซะด้วย...  เมื่อก่อนใจแข็งจะตายไป แถมเป็นคนดื้อเงียบอีก แม่ยังเคยพูดเลยว่าแบบยุนฮยองเนี่ยจะมีใครกล้าเข้าหา ก็มีแต่ดงฮยอกนั่นแหละที่เป็นเพื่อนกันมานานขนาดนี้

     

     


    แล้วดูเดี๋ยวนี้สิ....

     

     

     

    “ฮยอง...”    เงยขึ้นมาส่งสายตาอ้อนๆให้อีกคน เผื่อมันจะได้ผลขึ้นมาบ้าง

     

    “ว่ายังไงครับ?”

     

    “พรุ่งนี้ให้ผมกลับบ้านเองคนเดียวเถอะนะ... นะ..นะๆ ฮยองรออยู่นี่แหละ”  พูดพลางเอื้อมมือไปเขย่าต้นแขนแกร่งเบาๆสองสามที แต่ดูเหมือนอีกคนจะมีภูมิต้านทานสูงแล้วมั้งเดี๋ยวนี้  ในแววตานั่นไม่มีความวูบไหวใดๆเกิดขึ้น ขนาดพยายามส่งสายตาอ้อนวอนขนาดไหนก็ได้แต่การตอบสนองนิ่งๆของอีกคนกลับมา

     



    แต่ยังไงซะวันนี้ก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง... แล้วผมต้องได้คำตอบในแบบที่ผมอยากได้ด้วย

     

     


    “ไม่ครับ พี่ไม่ยอมปล่อยให้เราขับรถกลับบ้านคนเดียวหรอก ไกลขนาดนั้น”

     

    “ทำไม-...”

     

    “ที่ยอมคบกับพี่เพราะชอบให้มีคนดูแลไม่ใช่หรือไง?”

     

    “....”

     

    “แล้วตอนนั้นใครกันที่บอกว่าขี้เกียจขับรถ?”

     

    “ฮยอง...”

     

    “บอกแล้วใช่มั้ยว่าถ้าพี่ว่าง พี่จะขับให้  แล้วพรุ่งนี้พี่ก็ว่าง... เพราะงั้นไม่มีเหตุผลที่ยุนจะงอแงขอขับรถกลับบ้านเองนะ”

     

    “มันมีเหตุผลนะ....”    ยอมลดมือลงจากต้นแขนของบ๊อบบี้ฮยองช้าๆ แล้วเบนสายตากลับไปมองปลายเท้าตัวเองอีกรอบ

     

    “อะไรล่ะ?  บอกพี่สิครับ มางอแงแบบนี้ไม่น่ารักเลย”

     

    “ฮยองอย่าดุ... พอแล้ว” 

    บ๊อบบี้ฮยองถอนหายใจแล้วส่ายหัวไปมาเบาๆ ก่อนจะเลื่อนมือมารั้งเอวของผมให้เข้าไปหาใกล้ๆ อาจจะเป็นเพราะกลัวอีกคนจะดุหรือจะอะไรก็ช่าง ผมเลยเอาหัวแนบลงกับลาดไหล่ของคนข้างๆพลางสอดมือเข้าไปโอบกอดร่างสูงไว้อย่างนั้น

     

     



    ทำแบบนี้ไม่โดนดุหรอก

    มั่นใจ

     



    “แล้วมีเหตุผลอะไรที่ไม่ให้พี่ไปบ้านด้วยครับ?”   มือหยาบของคนเป็นพี่เลื่อนมาเกลี่ยผมที่ปรกอยู่บนหน้าผากให้เบาๆแล้วก้มลงมาจ้องตาพลางเลิกคิ้วขึ้นเหมือนรอคำตอบ

     

    “ก็....ม..แม่  ฮยองต้องเจอแม่นะ..”

     

    “แล้วมันไม่ดีตรงไหนอ่ะ?  พี่ไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อย”

     

    “ไม่กลัวเหรอครับ?”

     

    “ไม่”

    .

    .

     

     



    “แม่ผมดุนะ.....”   

     

     

     

     

                    รถยนต์ฟิล์มดำสนิทคันเดิมจอดอยู่หน้าบ้านขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กของคนที่หลับอยู่ข้างๆ  อกบางกระเพื่อมขึ้นลงอย่างสม่ำเสมอ เปลือกตาหลับพริ้มเห็นขนตาเรียงสวยชัดเจนเมื่อได้มองใกล้ๆ ...ละไหนจะแก้มขาวๆนี่อีก

     




    ให้ตายเถอะ

    ใครจะไปอดใจไหว

     

     

    ก๊อก ก๊อก~

    ยังไม่ทันที่ปลายจมูกโด่งจะได้กดลงบนแก้มนุ่มๆของยุนฮยองก็ต้องชะงักไว้ซะก่อน เพราะเสียงเคาะกระจกเบาๆนั่น พอเงยหน้าขึ้นไปมองก็พบกับผู้หญิงหน้าตาดีคนหนึ่งกำลังยืนเอามือเท้าเอวข้างหนึ่งไว้ ส่วนอีกข้างก็กำลังเคาะลงมาที่กระจกรถไม่หยุดหย่อน

     


    “ยุน.. ตื่นเถอะ”  สะกิดเพียงเบาๆอีกคนก็รู้สึกตัวอย่างง่ายดาย ก่อนจะหรี่ตาน้อยๆมองไปรอบๆ พอเห็นว่าตัวเองอยู่ที่ไหนก็เบิกตากว้างขึ้น แล้วมันก็กว้างขึ้นไปอีกเมื่อเห็นว่าคนที่อยู่นอกรถนั่นคือใคร

     

    “แม่!!”   ร่างบางเปิดประตูพรวดลงไปหาคนที่เรียกว่า...เอ่อ... แม่?  แม่เหรอ?  ถามจริง????  ทำไมสวยขนาดนั้น!??

     

     

    ซงยุนฮยองโถมตัวเข้ากอดคุณผู้หญิงคนนั้นเข้าไปเต็มรัก พร้อมโยกไปมา โอเค... คุณน้าคนนั้นคงเป็นคุณแม่ของยุนฮยองจริงๆ  เพราะดูจากดวงตาสวยๆนั่นแล้ว ซงยุนฮยองถอดแบบมาเต็มๆเลย

     

    หลังจากนั่งสังเกตการณ์อยู่ภายในรถสักพักก็สมควรแก่เวลาที่ผมจะต้องเดินลงไปทักทายเจ้าของบ้านบ้างแล้วล่ะ แต่พอก้าวขาลงจากรถ อยู่ดีๆมันก็เกิดอาการหวิวๆขึ้นมาในใจ...  สุดท้ายก็ได้แค่ทำเป็นวุ่นวายกับข้าวของตรงเบาะหลังเพื่อฆ่าเวลา

     

     

     

    “ฮยองงง มานี่...”   ผมละสายตาออกจากข้างของด้านหลังรถแล้วมองไปตามเสียงเรียก ซงยุนฮยองกำลังกวักมือให้เขาเดินเข้าไปหา สีหน้าดูกังวลเล็กๆนั่น ผมพอจะเดาได้

     

    มือหยาบค่อยๆดันบานประตูรถให้ปิดลง ก่อนจะเอามือปัดกันไปมา พลางสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วก้าวยาวๆตรงดงไปยืนข้างๆร่างบาง

     

     

    “แม่.. นี่คือ..”

     

    “เธอเป็นใคร?”     โอ้โห.. คำถามแรกถูกยิงมาเต็มๆแบบไม่ให้ตั้งตัวเลยสักนิด

     

    “คนนี้ชื่อจีวอนฮยองฮะแม่”

     

    “ยุนฮยอง แม่ไม่ได้ถามเรา”   คุณน้าหันไปดุลูกชายเบาๆ ก่อนจะหันมาหาผมอีกรอบ “สรุปว่ายังไง...?”

     

    “เอ่อ... ผมชื่อคิมจีวอนครับ”  พูดจบแล้วก็โค้งต่ำทำความเคารพคนตรงหน้าทันที

     

    “แล้วเป็นใคร?”

     

    “ครับ?”

     

    “ถามว่าเป็นใคร?”

     

    “ก..ก็...คิมจีวอนครับ..”    ขอถอนคำพูดว่าไม่กลัวแม่ยุนฮยองได้ไหมครับ ตอนนี้กลัวแล้วครับ ยุนฮยองดุยังไง คุณแม่คูณไปอีกสิบเท่า

     

    “ชื่อน่ะรู้แล้ว แต่ถามว่าเป็นใคร? เป็นอะไรกับยุนฮยอง? ถ้าไม่บอกว่าเป็นอะไรกับยุนอยองจะไม่ให้เข้าบ้านนะ จะถือว่าเป็นคนแปลกหน้าทันที”

     

     

     

    คุณแม่ครับ..

    ทำไมดุจังเลยครับ T_______T

     

     

     

     


    “เอ่อแม่... คือพี่เค้า-...”   ดูเหมือนร่างเล็กข้างๆจะพยายามช่วยกันหาทางออกสุดฤทธิ์

     

    “ซงยุนฮยอง ครั้งที่สองแล้วนะ แม่ไม่ได้ถาม-...”

     

     

    “เป็นแฟนครับ”  

     

    !?????????

     

     

    “....”

     

     

     



    “ผมเป็นแฟนน้องหมอครับ” 


    ทันที่ตัดสินใจพูดแบบนั้นออกไป มือเล็กของยุนฮยองก็กำรอบข้างเสื้อของผมแน่นพลางเคลื่อนตัวเองอย่างช้าๆไปที่ตำแหน่งข้างหลังของผม แล้วก็ซ่อนตัวเองอยู่อย่างนั้น

     

     

    ส่วนผมเองก็ไม่รู้ว่าลืมหายใจไปตั้งแต่เมื่อไหร่

     

     

     

    “ก็แค่นั้น....”    คำพูดแผ่วเบาดังเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากเรียวสวยของคุณน้า

     

    “.....ครับ?”

     

    “ไปยกของเข้าบ้านซะ”

     

    “อะไรนะครับ?”

     

    “ไปยกของเข้าบ้านได้แล้ว ก็ไม่ได้เป็นคนแปลกหน้าแล้วนี่ หรือจะนอนข้างนอกตรงสนามหญ้า?” 

     

    “........ฮะ?..  อ๋อออ..ครับผม! ไปยกเดี๋ยวนี้เลยครับ”  ทันทีที่สมองประมวลความหมายของประโยคนั้น หัวใจที่ห่อเหี่ยวอยู่ในตอนแรกกลับพองโตขึ้น แล้วมันก็อดไม่ได้เลยจริงๆที่จะฉีกยิ้มกว้างๆเหมือนที่ทำอยู่ตอนนี้

     

     

     

     

    ผมไม่ได้เป็นคนแปลกหน้าแล้วนะ.

     

     

     

     

     

     

                    บรรยากาศบนโต๊ะอาหารมันก็ไม่ได้อึดอัดขนาดที่อีกคนคิดกันไว้ในตอนแรก  แม่ต้อนรับเราด้วยอาหารเยอะแยะๆไปหมด แต่บทสนทนาส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นผมมากกว่าที่เป็นคนคุยกับแม่เอง ส่วนคนเป็นพี่นั้นได้แต่นั่งกินข้าวเงียบๆไปคนเดียว

     

     



    ....ไหนบอกไม่กลัวไง?

    คิมจีวอนคนขี้โม้.

     

     

     

    “ยุนฮยองคืนนี้นอนกับแม่นะลูก”

     

    “ได้ครับ  แล้ว...ฮยอง...”  

     

    “ส่วนจีวอน..   ห้องยุนฮยองยังว่าง ขึ้นบันไดเลี้ยวขวาไป ห้องแรกเลย”

     

    “ขอบคุณครับคุณน้า”  คิมบับฮยองเอามือรวบเก็บช้อนก่อนจะโค้งให้แม่ผมเบาๆ

     

    “เรียกใหม่ซิ คิมจีวอน”

     

    “อะไรนะครับ?” 

     

    “ยุนฮยองเรียกแม่ว่า แม่  เพราะงั้นจีวอน...”    นี่แม่อย่าบอกนะว่าจะ...

     

     

    “.....”

     

     

     

    “จีวอนเรียกแม่ว่า แม่  เหมือนที่ยุนฮยองเรียกก็ได้ลูก”

     

     

     

     

    โธ่...  หมดกัน

    อุตส่าห์ขอร้องให้แม่ทำตัวดุๆแล้วแท้ๆ...

    นี่หน้าตาคิมจีวอนมันน่าสงสารขนาดนั้นเลยรึไงกัน แม่ถึงยอมใจอ่อนเร็วขนาดนี้เนี่ยยยยยยย

     

     

    ผิดแผนหมด

    แม่ทำให้แผนที่คิดไว้ผิดไปหมดเลยยยยย

     

     

     

    หลังจากเดินไปส่งสมาชิกใหม่(?)ของบ้านเข้าห้องนอนเรียบร้อย ขาทั้งสองข้างก็พาตัวเองมาล้มตัวลงนอนข้างๆผู้หญิงที่สวยที่สุดของบ้านพลางนึกย้อนกลับไปตอนที่แม่บอกให้จีวอนฮยองเรียกว่า แม่ ...... 

     

    สีหน้าท่าทางตกอกตกใจของฮยองก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มกว้างจนตาหยียังฉายชัดอยู่ในหัว ฮยองดูมีความสุขมากจริงๆ ขนาดเดินไปส่งที่ห้องเมื่อกี้ยังเห็นอีกคนแอบยิ้มอยู่บ่อยๆ ....เอาจริงก็ดีใจแหละ ที่แม่ไม่ได้ว่าอะไรเรื่องนี้ แถมยังต้อนรับฮยองได้ดีกว่าที่คิดไว้ซะอีก แต่ติดอยู่เรื่องเดียวเลยคือ...

     

     

    ไอ้เรื่องที่อุตส่าห์เตี๊ยมไว้กับแม่นี่มันได้ผลแค่แป๊บเดียวเอง

     

     


    “แม่...”    ส่งเสียงเรียกพลางเขยิบไปหนุนแขนแม่ที่นอนอยู่ข้างๆ

     

    “ว่าไงคุณหมอตัวแสบ?”   แม่พูดพลางยกมือขึ้นมาขยี้ผมให้เบาๆ

     

    “ก่อนจะเจอจีวอนฮยองผมบอกว่าไง?  อุตส่าห์โทรมาเตรียมไว้ก่อน นี่แม่ดุได้แค่นี้เหรอ?  โธ่เอ้ย.. คิมจีวอนได้ใจพอดี แม่ไม่เห็นรึไง ฮยองยิ้มไม่หุบเลยอ่ะ ฮึ่ยยย”

     

    “ฮ่าๆๆ เราอ่ะชอบแกล้งนะยุนฮยอง... ตอนคิมจีวอนโดนดุ หน้าหงอยจะตายไป ไม่สงสารพี่เค้าเหรอ?”

     

    “ไม่อ่ะ อยากแกล้งมานานละ”

     

    “จีวอนน่ะ.. หน้าตาดูซื่อๆดีจัง แถมดูเป็นเด็กร่าเริงด้วย”

     

    “ก็ซื่อนะ...”

     

    “ดีแล้ว”

     

    “ซื่อบื้อน่ะแม่   โอ้ย!!!    มือเรียวเล็กของแม่ฟาดแรงๆลงหัวไหล่หนึ่งที

     

    “ไปพูดอย่างนั้นได้ยังไง จีวอนเป็นพี่เรานะยุนฮยอง”

     

    “แม่ต้องเข้าข้างผมสิ!!!!!

     

    “แม่น่ะเข้าข้างยุนฮยองอยู่แล้วลูก แต่ยังไงจีวอนก็เป็นพี่นะ.. นี่เลิกพูดมากได้แล้ว ไปเอาผ้าห่มอีกผืนในตู้ไปให้จีวอนหน่อยไป รู้สึกว่าห้องยุนจะมีแค่ผืนเดียว เดี๋ยวจีวอนหนาวตายแล้วคนแถวนี้จะร้องไห้ครวญคราง แม่ขี้เกียจฟัง” 

     

    “แม่อ่ะ!”  

     

    “เอาผ้าห่มไปให้พี่เค้า แล้วอย่าลืมกลับมานอนกับแม่ด้วยล่ะ แม่นอนนะ.. ฝันดีตัวแสบ”

     

    ทำได้แค่ฟึดฟัดกับตัวเองในใจเพราะแม่นอนหันหลังให้เป็นที่เรียบร้อย ผ้าห่มผืนหนาถูกหอบโดยแขนทั้งสองข้างแล้วเดินตรงไปยังห้องนอนที่คุ้นเคยของตัวเอง  ประตูสามารถเปิดเข้าไปได้ในทันทีอาจเป็นเพราะร่างสูงที่อยู่ข้างในนั้นลืมล็อคห้อง...

     



    หรือจงใจจะไม่ล็อค?

     

     

    ร่างสูงนอนเหยียดยาวเต็มเตียง ขายาวๆนั่นแทบจะเลยออกมานอกเตียงอยู่แล้วเชียว... เสื้อก็ไม่ใส่ เออเอาดิ ให้มันได้อย่างนี้ ขอบคุณที่แม่บอกให้เอาผ้าห่มมาให้ เพราะไม่งั้นอีกคนได้นอนปอดบวมตายแน่ๆ

     

    ผ้าห่มในอ้อมแขนถูกคลี่ออกแล้วคลุมไปยังร่างสูงบนเตียงจนถึงคอ ก่อนจะใช้แรงทั้งหมดที่มีพลิกตัวคนหลับเพื่อดึงไอแพดออกจากใต้ต้นแขนแล้วนำไปวางไว้ข้างหัวเตียง..  แต่มือกลับชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นหน้าจอเปิดโปรแกรมแชทที่ใช้ประจำค้างไว้

     

     

    วันนี้ไม่ได้นอนกอดยุน  แล้วพี่จะนอนหลับมั้ยอ่ะ?

     

     


    ยังไม่ได้กดส่งอีกต่างหาก?

    นี่สงสัยพิมพ์ค้างไว้แล้วเผลอหลับแหงๆ

     



    เออ..
    แล้วยังจะมาถามอีกนะว่าพี่จะนอนหลับมั้ย?

    คิมจีวอนนี่มันคิมจีวอนจริงๆ.

     

     

    ส่ายหัวเบาๆให้กับความเป็นคิมจีวอนอยู่สองสามที แล้วตัดสินใจนั่งลงข้างเตียงพลางไล่สายตาสำรวจหน้าตาคนหลับอยู่สักพัก.. โครงหน้าชัดเจน ทั้งสันจมูก ทั้งสันกราม..  ริมฝีปากหยักที่คอยส่งยิ้มมาให้เสมอๆ  กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เผลอเอามือลูบไล้ใบหน้าของคนหลับไปซะแล้ว เรียวนิ้วเลื่อนลงมาจากปลายจมูกโด่งก่อนจะแตะลงบนริมฝีปากล่างเบาๆ แล้วโน้มตัวลงประทับจูบคนที่หลับไม่รู้เรื่องอยู่นานสองนาน... ในเมื่ออีกคนนิ่งสนิทไม่ไหวติงใดๆจึงลองขบเม้มปากหยักนั่นไปมาจนพอใจแล้วค่อยๆผละออกเบาๆ

     

     



    หึ..

    คิมจีวอนโดนแกล้งแล้วล่ะ.

     

     

    ทำการจัดแจงผ้าห่มของคนตัวสูงให้เข้าที่อีกครั้งก่อนจะยันตัวเองให้ลุกยืนขึ้น แต่ยังไม่ทันได้ยืนเต็มความสูงดี ก็มีมือหนาของคนที่คิดว่าหลับไปแล้วคว้าเข้าที่ข้อมือแล้วดึงรั้งแรงๆจนร่างทั่งร่างเซถลาล้มลงไปบนตัวของร่างสูง มือซนอีกข้างของจีวอนฮยองเกี่ยวกระหวัดเข้าที่เอวอย่างรวดเร็วแล้วกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น  รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นบางๆที่มุมปากทั้งที่ยังหลับตาอยู่

     

     

    “ฮ..ฮยอง.. ยังไม่หลับเหรอ?”

     

    “หลับแล้วครับ..  แต่พี่โดนแกล้ง...”  ใบหน้าคมเลื่อนเข้ามากระซิบที่ข้างหู ก่อนจะกดปลายจมูกลงบนข้างแก้มเบาๆ เพียงแค่นี้ก็เรียกเลือดร้อนๆให้มารวมกันที่หน้าได้อย่างง่ายดาย

     

     

    “......”

     

     

    “คนไหนแกล้งพี่... พี่ไม่ยอมหรอกนะ”

     

     

    “......”

     

     

    “พี่ขอเอาคืนสิบเท่า”

     

    .

     

    .

     

     

     




    “อื้อออออออออออออ...ออ..ออ”

     

     

     

    END.

     

     

    Special :

     


    เวลาอาหารเช้าก่อนหลับคอนโด

     

    “ยุนฮยอง...  ไหนเมื่อคืนสัญญาจะนอนกับแม่ ตื่นมาแม่ไม่เจอเราเลย หายไปไหนมา?”  

     

     

    แกร๊ง~   

    เสียงช้อนของผมหล่นเองครับ ไม่ใช่ของใครทั้งนั้น  ตายแน่......  เมื่อคืนยุนฮยองอยู่กับผมทั้งคืนเลยอ่ะ... ที่พยายามทำตัวดีๆเพื่อให้คุณแม่ยอมรับนี่ต้องพังแน่ๆ พังแน่....

     



    ยุนฮยอง..

    พี่ขอโทษ T______T

     

     

     

    “ว่ายังไง? ทำไมตื่นมาแล้วแม่ไม่เจอลูกเลย”

     

    .

    .

     

    .




    “ผมตื่นเช้า...”

     

    “จะเช้าขนาดไหนกันเชียว”

     

     

     

    “เช้ามืด”

     


    END.

     





    น้องยุนเป็นเด็กฉลาดค่ะ 55555555555555555555 
    ไปนอนละนะ พรุ่งนี้เรียน8โมงงงง –w-

    รักนะค้าบบบบบบ คิดถึงมากด้วย 

    ฝันดีฮะ J

     

    เอ้อออ ใครเล่นทวิตเชิญได้เลยยย อ่านทุกวัน  >> #ฟิคสามหมอ

    จุ้บบบบบบบบบบ :3

     

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น

    ×