ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    #พริ้มเพียงหวา | chanbaek

    ลำดับตอนที่ #16 : พริ้มเพียงหวา : ตอนที่ ๑๕

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 22.7K
      2.97K
      11 ธ.ค. 61





    15



    ChanYeol



     

    พริ้มยืนขยำปลายเสื้อสีเทาอยู่หน้ากระจกมาหลายนาทีแล้ว

     

    เขาเพิ่งกลับเข้ามาที่ห้องพักมาสคอตหลังจากไปร่วมพิธีเปิดงาน ถึงแม้เขาจะเพิ่งผ่านเหตุการณ์เลวร้ายที่หลังห้องน้ำมาหมาด ๆ แต่ยังไงงานก็คืองาน เขาอาจจะร่าเริงในชุดปูส้มได้ไม่เท่ากับตอนแรก ๆ แต่ก็ไม่ได้แย่ถึงขนาดผิดสังเกต

     

    อีกอย่างก็คือเขาเสิร์ฟบอลข้ามเน็ตได้ด้วยล่ะ พริ้มก็เลยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย

     

    หลังจากที่ยี่หวายื่นเสื้อให้ เราก็ไม่ได้คุยอะไรกันต่อนอกจากยี่หวาถามเขาว่าเรื่องมาสคอตจะเอายังไง พริ้มก็ยืนยันว่าจะใส่ เรื่องก็เลยดำเนินมาจนถึงตอนนี้ตอนที่เขากำลังลังเลว่าจะออกไปข้างนอกด้วยเสื้อตัวนี้ดีมั้ย แต่ถ้าไม่เขาก็ต้องใส่เสื้อขาด ๆ ไปตลอดทั้งงาน ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้

     

    พริ้มสติแทบหลุดในตอนที่มุดหัวให้พ้นคอเสื้อ กลิ่นของยี่หวาที่มักจะได้กลิ่นอ่อน ๆ ตอนเดินผ่านก็ตีเข้าจมูกเสียจนหน้าแต้มสี

     

    เรื่องเลวร้ายที่ผ่านมาถูกชำระล้างด้วยเสื้อเพียงตัวเดียว…

     

    ข้างนอกเสียงดังสนั่นเมื่อกรรมการประกาศรายชื่อนักกีฬาให้ลงสนาม ถึงแม้ในหัวของเขาจะบอกว่าไม่ควรออกไปด้วยเสื้อตัวนี้ แต่การที่จะได้นั่งดูยี่หวาแข่งในรอบชิงกลับเป็นอะไรที่พริ้มไม่อยากจะพลาดเลยสักครั้งในชีวิต

     

    คนตัวเล็กแง้มประตูห้องพักมาสคอตเบา ๆ ดีที่ตรงนี้เป็นมุมอับ แต่อย่างนั้นก็ไม่มีใครคิดจะออกมาเดินเล่นในเวลาแบบนี้หรอก เสื้อแข่งสายของยี่หวาตัวใหญ่มาก ปลายเสื้อเหนือหัวเข่าเขาแค่ไม่กี่เซ็นเอง ชื่อของยี่หวาก็ตัวใหญ่ ให้ความรู้สึกเหมือนกับ

     

    ไม่หรอก อย่าคิดอะไรที่มันเข้าข้างตัวเองแบบนั้นอีกเลย

     

    เขาเดินหลบ ๆ มุมไปยังชั้นสูงสุดของอัฒจันทร์ เรียกได้ว่าบนสุดเลยก็ว่าได้ เขาไม่อยากให้ใครเห็นชื่อที่อยู่บนหลังเสื้อ ทีตอนนี้ล่ะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามันจะเป็นปัญหาใหญ่ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธฝ่ามือของยี่หวาที่ยื่นมาให้ได้นี่นา

     

    “แก ๆ ผู้ชายตัวสูง ๆ ใส่เสื้อเบอร์เก้านี่ชื่ออะไรอ่ะ”

    “ชื่อยี่หวา อยู่มอหก เป็นกัปตันทีม หล่อใช่มั้ยล่ะ แต่คนนี้กูจอง!

    “เอ้าอีแกง!

    “อะไรล่ะ มึงไม่เข้าโรงเรียนนี้กับกูเองปะ”

    “ก็ถ้ารู้ว่าโรงเรียนมึงหล่อยกทีมขนาดนี้ กูก็จะขยันอ่านหนังสือ”

    “ช้าไปย่ะ!!

     

    เหลือบมองสองสาวที่นั่งคุยกันถึงยี่หวา อีกคนเป็นเด็กโรงเรียนเขา ส่วนอีกคนไม่ใช่ แต่ยูนิฟอร์มแบบนี้ก็น่าจะเป็นเด็กของทีมไอโซระ เขาหันกลับไปสนใจที่สนามต่อ เห็นคนอื่น ๆ กำลังวอร์มกันอยู่ในสนาม น่าจะได้วอร์มก่อนทีมไอโซระ

     

    โค้ชเป็นคนโยนลูกให้คนในทีมตบ ส่วนตัวสำรองก็ไปรอรับที่อีกฟากของสนาม นี่เป็นช่วงเวลาให้วอร์มก่อนแข่งทีมละสิบนาที ส่วนอีกทีมที่ต้องรอต่อก็จะวอร์มกันที่ขอบสนามแทน เสื้อสีม่วงของคาลันโชสวยงามเหลือเกินเมื่อมองจากมุมไกล ๆ โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ น้อยคนที่จะเลือกเอาสีม่วงมาเป็นเสื้อทีม แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลย

     

    ในสนามมีคนเป็นสิบเป็นร้อยแต่สายตาคู่นี้กลับเห็นแค่เพียงยี่หวาคนเดียวได้อย่างไร จะว่าไปเขาก็เริ่มได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ โปรยมาจากผ้าตัวนี้อีกแล้ว ทั้งที่ซักจากน้ำยาปรับผ้านุ่มถุงเดียวกันแท้ ๆ แต่กลับคิดว่ามันหอมมากกว่าทุกทีได้ยังไง

     

    “นี่อุ่น คนชื่อยี่หวามีแฟนหรือยังอ่ะ”

    “ยังมั้งน่าจะยังอ่ะ ก็ไม่เห็นคุยเล่นกับใครมานานแล้วนะ นอกจากพู่กัน”

    “พู่กัน? ใช่พู่กันห้องสองปะ ตอนมอต้นอ่ะ”

    “เออ พู่กันนั่นแหละ ก็เห็นสนิทสนมกับยี่หวาตอนมอสาม รู้สึกตัวอีกทีก็ไม่เห็นมันจะเข้าไปคุยกับยี่หวาแล้วอ่ะ”

     

    เรื่องพู่กันกับยี่หวาดูท่าว่าจะมีอะไรสักอย่างแน่ ๆ พริ้มมาไม่ทันตอนมอต้น เขารู้แค่ว่ายี่หวาอยู่มอต้นโรงเรียนนี้ แต่ตอนนั้นพริ้มอยู่คนละโรงเรียน พอได้เข้ามาเรียนก็ไม่ได้สนใจเรื่องของคนอื่นเลยเพราะเอาแต่แอบมองยี่หวาไปวัน ๆ แถมเพื่อนก็ไม่มีให้รู้ข่าวคราวของใคร ดังนั้นเรื่องที่ทั้งสองคนข้าง ๆ คุยกัน พริ้มเองก็เพิ่งรู้

     

    ในจังหวะที่พริ้มกำลังส่ายสายตาหายี่หวา ดันสบตาเข้ากับผ้าเสียก่อน เพื่อนตาโตรีบกวักมือเรียกยกใหญ่ ทำเอาคนบนอัฒจันทร์แตกตื่น ผ้าก็เรียกได้ว่าหน้าตาดี ติดที่ตัวเล็กไปนิดเท่านั้นเอง พริ้มทนสายตาของคนอื่นที่มองขึ้นมาไม่ไหว เหมือนทุกคนจะรู้แล้วว่าผ้ากวักมือเรียกใคร เขาจึงลุกขึ้น เดินลงจากอัฒจันทร์เพื่อไปที่ข้างสนาม

     

    “เฮ้ย นั่นมันชื่อของยี่หวาไม่ใช่หรอ?”

    “คนนั้นชื่อพริ้มปะวะ”

    “ทำไมถึงใส่เสื้อกีฬาของยี่หวาอ่ะ แฟนหรอ?”

    “แฟนยี่หวาหรอวะ ทำไมไม่เคยเห็นหน้าเลย”

     

    เสียงซุบซิบจากริมฝีปากของเด็กสาวรอบสนามที่เกินครึ่งมาเพื่อชมยี่หวาไม่ใช่การแข่งขัน พริ้มลืมไปเสียสนิทว่าตัวเองใส่เสื้อของใครอยู่ เอามือเล็ก ๆ เอี้ยวไปปิดที่แผ่นหลัง แต่ปิดได้แค่ส่วนหนึ่งของเบอร์เท่านั้นเพราะชื่อยี่หวาอยู่สูงเกินไป เขากลายเป็นคนเงอะงะทันทีที่เจ้าของเสื้อหันมา

     

    “ทำไมมึงขึ้นไปนั่งอยู่ข้างบนวะพริ้ม”

    “เอ่อเราอยากมองเห็นชัด ๆ”

    “นั่งข้างสนามเห็นชัดกว่ามั้งกูว่า”

    “เราก็ลงมาแล้วนี่ไง”

     

    ผ้าหรี่ตา แอบยิ้มมุมปากเมื่อเห็นเสื้อของใครบนตัวพริ้ม เรื่องที่พริ้มชอบยี่หวาน่ะมองออกง่ายจะตายไป แต่ยี่หวาชอบพริ้มมั้ยอันนี้ดูไม่ออกเลย มันไม่เคยแสดงออกว่าชอบใคร หรือสนใจใคร บางครั้งที่ต้องช่วยใครสักคนก็ช่วยลงไปโดยไม่ได้คิดอะไร นั่นเลยทำให้ผ้าไม่อยากคิดไปก่อน

     

    “มา ๆ มาช่วยกันดูแลทีมตอนแข่ง”

    “อโอเค”

     

    พริ้มรู้สึกถึงสายตาของคนรอบสนามที่มองมายังเขา ถึงแม้เสื้อสีเทาจะไม่เด่นมาก แต่ชื่อของเจ้าของเสื้อน่ะเด่นสุด ๆ ไปเลย แต่มันก็ไม่ใช่เวลาที่จะมาสนใจ ผ้ามอบงานชิ้นใหม่ให้กับเขา นั่นก็คือดูแลทีม โดยการเสิร์ฟน้ำ ยื่นผ้าเย็น เป็นหลัก

     

    ข้างถังคูลเลอร์มีแพ็คน้ำวางตั้งไว้อยู่ ด้านบนเป็นผ้าเย็นที่ไม่มีใครหยิบมันมาแช่ พริ้มจัดการทำทุกอย่างด้วยความคล่องแคล่ว ไม่ลืมที่จะเขียนชื่อลงบนขวดน้ำแสดงความเป็นเจ้าของก่อนจะดันมันลงไปในถังน้ำแข็ง

     

    เขาตรวจเช็คงานตัวเองอีกครั้ง เพราะเหมือนจะลืมอะไรไปสักอย่าง เงยหน้ามองไปที่สนาม ยังเห็นทุกคนขะมักเขม้นวอร์มอัพกันอย่างไม่ลดละ น่าจะคึกได้ที่กันเลยเชียวล่ะ แล้วจู่ ๆ ก็นึกออก พริ้มผละตัวออกไปในตอนที่ทุกคนวุ่นวายกับการย้ายตัวเองออกจากสนามเนื่องจากหมดเวลาวอร์ม และกลับมาใหม่พร้อมกับลูกอมเม็ดสีเหลืองที่ใครสักคนในทีมชอบกิน

     

    “ยุ่งไม่เข้าเรื่อง”

     

    ซานพึมพำออกมาเบา ๆ เมื่อเห็นว่าพริ้มเดินถืออะไรมา เขาไม่ได้ตั้งใจมอง แต่ในตอนที่พักสายตาดันหันไปเห็นพอดี ซานเพิ่งมานึกได้ว่าลูกอมมะนาวเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดของเขาหมด ในห้องพักก็ไม่เหลือเลยสักเม็ด แต่จะให้ออกไปซื้อตอนนี้ก็ไม่น่าทัน โค้ชไม่อนุญาตให้ใครออกจากสนามแล้ว

     

    “มองไรวะ พริ้มหรอ?”

    “เปล่า”

    “ก็เห็นว่ามองอยู่ชัด ๆ มึงอย่าอคติกับคนอื่นเพราะข่าวลือดีกว่า”

    “อย่างน้อยมันก็ไม่ได้มากเท่าตอนแรกแล้ว”

    “หรอ งั้นก็ดี กูก็แค่ไม่อยากให้มึงเสียเพื่อนที่เขาดีกับมึงก็เท่านั้น”

     

    จอมทัพตบไหล่กว้างเบา ๆ ก่อนที่กรรมการจะเป่านกหวีดหมดเวลาวอร์ม เริ่มเข้าสู่การแข่งขันที่แท้จริงแล้ว เสียงกรี๊ดและเสียงกลองดังลั่นทันทีที่นักกีฬาแต่ละทีมลงสนามเพื่อเช็คตำแหน่ง จากนั้นนกหวีดแรกของการแข่งขันก็ดังขึ้น

     

    คาลันโชเป็นฝ่ายรุกก่อน เริ่มเกมด้วยลูกเสิร์ฟของจอมทัพ ที่แรงและสั่นเนื่องจากจอมทัพกระโดดตบ แต่กลับไม่สร้างความเสียหายให้แก่ทีมตรงข้าม เพราะนี่เป็นรอบชิง ถ้าหากรับลูกเสิร์ฟแบบนั้นไม่ได้ ก็คงไม่ผ่านมาจนถึงรอบนี้

     

    กัปตันทีมของไอโซระตบลูกที่สามพลิกเน็ตทำให้ทีมคาลันโชเสียจังหวะ แต่ยังดีที่ซานเอาเท้าไปกันไว้ได้ก่อนบอลจะตกถึงพื้น โต้กันไปมาราว ๆ สี่รอบ คาลันโชถึงจะได้หนึ่งแต้มจากบอลลูกนั้นมา เกมนี้อาจจะหืดขึ้นคอเลยก็ได้

     

    สกอร์ไม่ลื่นไหลเพราะต่างฝ่ายต่างไม่ยอมให้แต้มกันง่าย ๆ ไม่มีลูกเสิร์ฟพลาดจากทีมคาลันโชเลยสักลูก พวกเขาไม่กดดันแม้คะแนนจะถูกไล่ตาม ยี่หวาใจเย็นมากกว่าที่เห็น ทั้งที่นอกสนามเป็นคนใจร้อนและดุยิ่งกว่าอะไรดี

     

    ผ่านมาครึ่งเกมก็เป็นเวลาพัก เหล่านักกีฬาต่างเดินออกจากสนามและมีคนถูพื้นเข้าไปแทน พริ้มรีบแจกจ่ายขวดน้ำให้แต่ละคนตามชื่อที่เขียนไว้บนขวดด้วยลายมือน่ารัก ๆ ที่คนในชมรมไม่เคยเห็นมาก่อน เทคลอบยิ้มให้กับลายมือนั้น ก่อนจะเปิดฝากระดกดื่ม

     

    “เล่นได้ดีแล้ว ไม่ต้องเครียด แต่นำเขาให้ห่างหน่อยไม่งั้นเราจะเหนื่อย”

    “ครับโค้ช” ทุกคนส่งเสียงตอบรับ

    “ยี่หวา ถ้าปวดข้อมือก็ให้บอกเลย ห้ามฝืนเล่นต่อ เข้าใจมั้ย?”

    “รู้”

     

    อยากจะโบกหัวไอ้เด็กนี่สักที แต่ก็ต้องง้างมือเก็บไว้ก่อน โค้ชบอกถึงวิธีการรับมือไปตามแผนที่เราได้วางเอาไว้ มีเพิ่มเติมบ้างหลังจากที่เห็นแล้วว่าฝ่ายตรงข้ามเขาเล่นกันยังไง พริ้มเอ่ยถามตัวจริงว่าต้องการผ้าเย็นมั้ย เพราะว่านี่เพิ่งเริ่มแข่ง เหงื่อแต่ละคนยังไม่ออกเท่าไรก็เลยถามเผื่อไว้ก่อน

     

    “เหนื่อยมั้ยหนู”

    “เราไม่เหนื่อย ผ้านั่นแหละเหนื่อยมั้ย”

    “ผ้าไม่เหนื่อย”

     

    ผ้าล้อเลียนคำพูดของพริ้มพลางหัวเราะคิกคัก พอเดินออกจากสนามแข่งก็ตรงเข้ามานวดไหล่เล็กเล่นไม่ยอมรับน้ำไปกิน ผ้าหยอกพริ้มเล่นนิดหน่อยก่อนจะโดนขัดโดยจอมทัพที่เข้ามาแจม มันเอาขวดน้ำเย็นเจี๊ยบแนบเข้าที่แก้มพริ้มจนสะดุ้งโหยง หลังจากนั้นก็ขำออกมา

     

    “มึงหยิบลูกอมไอ้ซานมาทีดิ๊”

    “แปป อ่ะนี่”

    “มึงเคยกินยังพริ้ม อร่อยนะเว้ย”

    “ไม่เอาดีกว่า”

     

    พริ้มดันมือจอมทัพที่ฉีกซองลูกอมออกพร้อมที่จะปาเม็ดนั้นเข้าปากเขา คนตัวเล็กยังคงคิดว่าถ้าเป็นของของซานที่ไม่ค่อยจะชอบพริ้ม พริ้มก็จะไม่ยุ่งให้เจ้าของหงุดหงิดใจ แต่แท้จริงแล้วจอมทัพก็แค่อยากแกล้งเท่านั้น ถ้าไอ้ซานมันจะทวงคืน จอมทัพนี่แหละที่จะถีบมันให้ไปซื้อใหม่เอง

     

    “น่า ๆ อร่อยนะขอบอก กินแล้วตาแตกแน่นอน”

    “ไม่เอา เราไม่กิน”

    “นิดหนึ่ง”

     

    เมื่อพริ้มไม่ยอมทำตามที่ขอ ผ้าจึงสบโอกาสข่มขู่

     

    “จะกินดี ๆ หรือจะให้ยี่หวาป้อน”

    !!!

    “งั้นก็อ้าปากเร็วพริ้มจัง”

     

    พริ้มบึนปากใส่จอมทัพก่อนจะอ้าปากรับลูกอมเม็ดนั้นเข้าไป ซานที่ลอบมองสะกิดใจกับการบึนปากของพริ้มเป็นครั้งที่สอง เพราะแบบนั้นเลยต้องสะบัดหน้าหนี ปฏิกิริยานั่นพริ้มเห็นเข้าพอดีเลยทำให้คนตัวเล็กไม่สบายใจที่กินลูกอมเม็ดนั้นเข้าไป

     

    แย่แล้วสิซานไม่พอใจที่เขากินลูกอมของตัวเองไปแน่ ๆ เลย

     

    “อ๊า!!

    “ตาแตกเลยเห็นมะ”

    “งื้ออออออ”

     

    เอาล่ะสิเสียงงื้อทำเอาคนที่แกล้งสะอึกไปตาม ๆ กัน คิ้วของพริ้มงอเป็นรูปตัวยูกับตาที่หลับปี๋เล่นเอาจอมทัพไปไม่เป็น ปฏิกิริยาหลังจากกินลูกอมตาแตกเข้าไปแล้วน่ารักขนาดนี้ก็เพิ่งจะเห็นมันจากพริ้มนี่แหละ

     

    “เชี่ย กูเกือบพลาดซะแล้ว”

    “กูก็ด้วย”

    “ขอโทษนะพริ้ม คายออกมาก็ได้นะถ้าไม่ไหว”

     

    ผ้ายื่นมือตัวเองมารองที่ใต้คาง แต่พริ้มส่ายหน้า พออมไปอมมา จากเปรี้ยวก็เริ่มหวานขึ้น ที่แท้มันก็คือหมากฝรั่งนี่เอง อร่อยกว่าที่คิดอีกแฮะ

     

    “อร่อยใช่ปะล่ะ?”

    “อื้อ! อร่อย!

     

    พอเห็นว่ามีคนเล่นด้วย พริ้มก็ยิ่งสดใสเข้าไปใหญ่ มีอย่างที่ไหนพยักหน้าตอบรับพร้อมกับฉายรอยยิ้มออกมาด้วย ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมข่าวลือแย่ ๆ ถึงออกมาจากตัวพริ้มได้ ดูไม่น่าจะเป็นคนแบบนั้นเลย

     

    กรรมการเป่านกหวีดเป็นสัญญาณว่าเซ็ตในครึ่งหลังได้เริ่มขึ้นแล้ว คะแนนในตอนนี้คาลันโชทิ้งห่างทีมไอโซระแค่สองแต้ม เป็นระยะห่างที่อันตรายสำหรับการแข่งขันในรอบชิงเป็นอย่างมาก เพราะถ้าเผลอเพียงแปปเดียวหรือแค่สติหลุดชั่วครู่ ก็อาจจะโดนนำไปสามถึงห้าลูกได้เลย

     

    นับว่าการนั่งชมข้างสนามเป็นอะไรที่พริ้มไม่เคยคิดว่าจะได้อยู่ตรงนี้มาก่อน ไม่เคยเห็นยี่หวากระโดดขึ้นตบลูกบอลใกล้เท่านี้ เวลาร่างสูงกระโดดแต่ละที ตัวก็จะเลยขอบเน็ตอยู่หลายคืบเลยทีเดียว อีกทั้งเวลามือกระทบบอล ปลายเสื้อก็จะกระพือขึ้นจนเห็นหน้าท้องหนาที่ขึ้นเงาของกล้ามเนื้อเป็นลอนสู่สายตาประชาชน

     

    เป็นลูกที่ไม่ได้แต้มเพราะฝ่ายนั้นเขารับได้ แต่ทุกคนก็กรี๊ด

     

    พริ้มกำลังใจจดใจจ่อกับการแข่งในสนามจนไม่ทันได้รู้สึกตัวว่ามีใครบางคนเดินลงมานั่งข้างกันกับเขา สติของเขาถูกกระชากเพราะเสียงของคนด้านข้างที่ดังแทรกขึ้นมา พริ้มหันไปหาและได้เห็นว่าเป็นใคร

     

    “พริ้มใช่ปะ?”

    “หวัดดีพู่กัน”

    “นั่งด้วยนะ”

     

    สาวเจ้ายิ้มรับก่อนจะเลื่อนสายตามองไปยังสนาม พริ้มตัวเกร็ง เขาไม่ได้กลัวพู่กันแต่แค่รู้สึกเกร็ง ๆ เวลาอยู่ด้วยเฉย ๆ แตกต่างจากข้าวฟ่างและหม่อนที่ไม่ได้ให้บรรยากาศแบบนั้นกับเขาเลย

     

    คนตัวเล็กแก้เขินด้วยการหยิบขวดน้ำขึ้นมายกดื่ม และไม่ลืมที่จะถามคนข้าง ๆ ด้วยว่าต้องการมันมั้ย

     

    “น้ำมั้ย?”

    “ไม่ล่ะ”

     

    ยิ้มให้อีกแล้ว

     

    ไอโซระขอเวลานอก เบรกเกมของคาลันโชที่แต้มไหลลื่นจนเกือบจะปิดเซ็ตได้อยู่แล้ว แต่เพราะทีมนั้นเขาก็ตามอยู่ไม่ห่าง เลยคุ้มที่จะยื้อเกมเอาไว้ พวกตัวจริงเดินเข้ามาล้อมถังคูลเลอร์เป็นครึ่งวงกลมที่มีพู่กันเพิ่มเข้ามาด้วย คนในทีมดูจะไม่ได้แปลกใจอะไร อีกทั้งเธอยังยื่นน้ำเปล่าให้แต่ละคนก่อนมือของพริ้มจะถึงขวดเสียอีก

     

    “ดูผู้ชายเล่นกีฬาแบบนี้ก็ดีเหมือนกันเนอะกล้ามท้องแต่ละคน”

    “ทะลึ่งว่ะ” ซานทำท่าเหนียมอายเอามือปิดอกตัวเอง

    “จะหวงไปทำไมเล่า ของดีต้องโชว์ปะ”

    “โรคจิต”

     

    เทคกับซานคุยกับพู่กันอย่างสนิทสนมจนพริ้มรู้สึกอิจฉา เขาเองก็อยากคุยกับซานแบบนี้เหมือนกัน แต่ความฝันนั่นคงอีกยาวไกลเลยล่ะ

     

    พอพู่กันเข้ามา ก็ดูเหมือนพริ้มจะกลายเป็นฟองอากาศไปโดยปริยาย ทุกคนคุยเล่นอยู่กับกัปตันทีมหญิงที่รายงานการเล่นของอีกฝ่ายให้ฟังอย่างละเอียด คงเพราะเธอเป็นนักกีฬาเหมือนกัน ดังนั้นเลยเป็นประโยชน์ให้คนในทีมเป็นอย่างมาก

     

    แตกต่างจากเขาที่ทำได้แค่ยื่นน้ำกับผ้าเย็นให้เท่านั้น

     

    “พริ้ม”

    !!

    “ขอผ้าเย็นหน่อย”

    “หือ? อ๊ะนี่ครับ”

     

    ยี่หวาเลิกคิ้วแปลกใจที่อยู่ ๆ พริ้มก็สุภาพใส่ พาลให้นึกไปถึงตอนที่เราอยู่ในห้องพักมาสคอตด้วยกันครั้งแรก ยี่หวาลอบมองพริ้มอีกครั้งเมื่อคนตัวเล็กก้มหน้ามองรองเท้าของทุกคนเงียบ ๆ ท่ามกลางคนอื่น ๆ ที่แหกปากคุยกัน ที่แก้มยังมีพลาสเตอร์แผ่นใหญ่แปะเอาไว้อยู่ แต่รอยแดงรอบ ๆ เริ่มจางลงแล้ว

     

    เจ็บแผลก็คงไม่ใช่

     

    “พริ้ม เอาผ้าล็อคพันนิ้วไอ้หวาให้ใหม่หน่อย มึงเล่นบอลยังไงหลุดหมดแล้วเนี่ย”

    “ไปถามไอ้ซาน มันเป็นคนพันให้”

     

    ยี่หวาตอบโค้ชที่ยื่นผ้าล็อคมาให้พริ้มแต่ปากก็เอาแต่บ่นใส่กัปตันทีม เขาเรียนรู้มามากตั้งแต่ตอนที่ไปช่วยดูแลครั้งนั้น เรียกว่าลักจำเอาดีกว่า ยี่หวายื่นนิ้วที่เคยเคล็ดครั้งนั้นมาให้ ผ้าล็อคที่ใส่ตอนเริ่มแข่งหลุดลุ่ยเหมือนที่โค้ชบ่นจริง ๆ

     

    เขาค่อย ๆ เอาผ้าเส้นนั้นออก มันมีลักษณะแข็งเล็กน้อย พันเอาไว้กันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับอวัยวะที่ต้องใช้กระทบบอลบ่อย ๆ อย่างมุกก็ต้องพันให้ครบทุกนิ้ว เพราะเป็นตัวเซ็ต นิ้วมือสำคัญที่สุด

     

    แต่ความสูงของยี่หวาทำให้พริ้มพันลำบาก ร่างเล็กไม่กล้าบอกให้หวาโน้มตัวลงมาอีกหน่อย มือจะได้พอดีกับระดับสายตา แต่เพราะยี่หวาทำหน้าตั้งใจฟังโค้ชมาก ๆ พริ้มก็เลยไม่อยากขัด เขาพันผ้าเส้นใหม่ด้วยความทุลักทุเลจนเมื่อเจ้าของมือสังเกตเห็น

     

    ยี่หวาก็ทรุดตัวลงนั่งยอง ๆ ด้านหน้าเขา

     

    “พันลำบากทำไมไม่บอก”

    เห็นหวาตั้งใจฟังโค้ชอยู่ เรากลัวหวาไม่ได้ยิน”

    “เรื่องแค่นี้เอง”

     

    พริ้มที่ก้มหน้างุดไม่ทันเห็นรอยยิ้มที่มุมปาก ยี่หวาวางมือตัวเองลงบนหน้าขาภายใต้กางเกงวอร์มสีดำแล้วหันกลับไปสนใจโค้ชดังเดิม ทำเอาผู้ดูแลตัวน้อยหน้าขึ้นสี มือสั่นหงึก ๆ พันลำบากกว่าตอนแรกเสียนี่

     

    “พริ้ม ให้เราช่วยพันมั้ย”

     

    พู่กันยื่นหน้าเข้ามาใกล้ เธอหลุบตามองที่มือของยี่หวาก่อนจะหันหน้ามายิ้มให้เขา

     

    “เอ่อ

    “ไม่ต้องหรอก ใกล้เสร็จแล้ว”

     

    เป็นยี่หวาที่ตอบพู่กันกลับไป เธอกระตุกนิดหน่อยก่อนจะปรับหน้ายิ้มให้แล้วดึงตัวเองกลับไป พริ้มกลัดตัวรัดไว้เป็นขั้นตอนสุดท้ายแล้วแอบเอามือแปะเบา ๆ สองสามที ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับยี่หวาที่มองมาอยู่ก่อนแล้ว

     

    หัวใจของพริ้มเต้นรัว ไม่มั่นใจเลยว่าเมื่อกี้ยี่หวาเห็นหรือเปล่า แต่พริ้มไม่ได้ออกเสียง หน้าก็ไม่ได้ออกอาการ หรือออกแต่เขาไม่รู้ตัวกันนะ

     

    “เอ่อเสร็จแล้ว”

    “แอบร่ายอะไรไว้หรือเปล่า”

    …!!

     

    ยี่หวารู้หรอ?!

     

    “ดูออกง่ายจังเลยนะ”

     

    เมื่อกี้เดาหรอกหรอ

    ถ้าทำตัวปกติยี่หวาก็ไม่รู้อยู่แล้วเชียว ทำไมถึงได้ตื่นง่ายอย่างนี้นะพริ้ม



    #พริ้มเพียงหวา












    เรื่องนี้ใครผิด คำตอบคือไฟนอลค่ะ นังกินเวลานานมากกกกก ยากมากเช่นกัน5555

    เราปิดเทอมละ น่าจะได้อัพบ่อยขึ้นด้วย ไม่รู้จะคุยอะไร ทำเหมือนไม่เคยอัพฟิคเลยอ่ะ ตื่นเต้นไปไหน

    ขอบคุณที่ยังมีคนรอน้อง เห็นปุ๊บก็มาอ่านปั๊บ กำลังใจจะได้รับแบบเรียลไทม์ ><!

    รักพริ้ม รักหวา รักคาลันโช 5555555555

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×