ตอนที่ 4 : `ตอนที่ 4 : ชาเขียวสตรอเบอร์รี่ป็อป
แสงจากหลอดไฟเล็กๆนับร้อยยาวเรียงรายกันไปเป็นแนวยาว กลิ่นหอมของอาหารหลายพันชนิดตลบอบอวนตลอดสองข้างทาง ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาจนเต็มทางเดินและเกิดแถวเดินมากกว่า 4 แถว เสียงพ่อค้าแม่ค้าตะโกนเรียกลูกค้าอย่างไม่มีใครยอมใคร คู่รักหนุ่มสาวที่พร้อมใจกันใส่เสื้อคู่เดินกระหนุงกระหนิงกินไอติมกันสวีทหวานจนออกนอกหน้า
บรรยากาศตอนเย็นหกโมงที่มีความชื้นนิดหน่อยในวันนี้ทำให้รู้สึกดีและปลอดโปร่ง
คยองซูชวนแบคฮยอนมาเดินตลาดทางเท้าที่อยู่ไกลถัดจากซอยคอนโดสองบล็อก ก่อนจะพาร่างกายเบียดดันจนสามารถไปยืนอยู่ที่ร้านเคปญี่ปุ่นได้ ร้านที่คยองซูอยากกิน
“มึงเอาป่ะ”
“เอา”
ร่างเล็กทั้งสองคนพากันไหลไปตามกระแสฝูงชนที่เดินกันไปมาตั้งแต่ 4 โมงและไม่มีท่าทีว่าคนจะน้อยลง แบคฮยอนเดินผ่านร้านที่สนใจไปแล้วห้าร้าน เพราะไม่สามารถเดินเบียดเข้าไปดูได้
สร้อยข้อมือ... แบคฮยอนจับคอเสื้อของคยองซูให้หยุดเดินก่อนที่จะเดินหายไปไกลและจะหลงกันได้ ยืนมองกำไลข้อมือสแตนเลสสีเงินสวยงามที่สะท้อนแสงไฟอยู่ตรงหน้าด้วยตาวาว แบคฮยอนชอบอะไรแบบนี้ อะไรที่ดูอ่อนแอแต่น่าดึงดูด
“อันนี้สวยป่ะว่ะ”
“ไม่” คยองซูปฏิเสธทันทีที่แบคฮยอนหยิบสร้อยข้อมือที่ลักษณะคล้ายโซ่ พอเห็นว่าเพื่อนไม่พอใจ ก็เลื่อนมือไปหาอันอื่น
สร้อยข้อมือ... รอบข้างพันกันเป็นโซ่ที่มีลักษณะสีเหลี่ยม และมีหน้าเส้นที่เป็นสี่เหลี่ยมยาวจนกินพื้นที่ข้อแขนด้านหน้า แบคฮยอนมองดูที่ข้อมือตัวเองและหมุนมันไปมา ก่อนจะหันไปหาคยองซูที่อยู่ขะ...ข้างๆ
ชานยอล กับ จงอิน !!
มาได้ไงว่ะ !!
เพราะอาการตกใจเลยทำให้แบคฮยอนหน้าเหวอไปอย่างเก็บไม่อยู่ แต่จงอินกับชานยอลไม่ได้รู้ว่าแบคฮยอนอยู่ตรงนี้ถ้า...เพื่อนตัวดีของเค้าไม่ทักขึ้นมาซะก่อน
“มากับแบคฮยอนน่ะ”
“หรอ พี่มาทำไมไม่ชวนผมบ้างละ” จงอินทำหน้างอ หวังให้คนที่อ้อนรู้สึกเอ็นดู คยองซูตีแก้มจงอินเบาๆก่อนจะหันมาหาแบคฮยอนที่...
เหวอแดก
“เอ่อ...”
“โทษทีว่ะ กูลืม” คยองซูหันหน้ามากระซิบแบคฮยอนที่กำลังจ้องหน้าซะอย่างกะถลกหนังออกมาซะให้ได้
“ไปหาที่นั่งกันดีกว่าครับ ตรงนี้คนเยอะ”
ฟิ้ววววว ~
แบคฮยอนเดินตัวปลิวไปพร้อมกับกำไลข้อมือที่จ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว คิดว่าจะหนีกลับบ้านซะเลย แต่เจอหน้ากันจังๆแบบนี้จะหลบออกไปก็ดูจะมีพิรุธมากเกิน ดังนั้นก็เผชิญหน้ากันไปเลย กลัวอะไรฟร่ะ!
จับไม่ได้หรอก จับไม่ได้หรอก จับไม่ได้หรอก แบร่
เพราะความคิดที่แสนตื่นเต้นทำให้แบคฮยอนเผลอแลบลิ้นออกมาด้วย ชานยอลที่มองเห็นพอดีเลยหัวเราะขำๆเล็กน้อย แต่แบคฮยอนไม่ได้สังเกต
ทั้งสี่คนลงนั่งกันที่โต๊ะในร้านเนื้อย่างที่แบคฮยอนเดินตัวลอยเข้ามาเพราะจมูกรับรู้ถึงกลิ่นของสวรรค์ หนุ่มม.ปลายสองคนนั่งตรงข้ามกับเขาและคยองซู แบคฮยอนนั่งชิดริมใน และมีชานยอลนั่งอยู่ตรงข้าม
เพราะวันนี้เป็นวันเสาร์เลยทำให้เขาเห็นชานยอลและจงอินอยู่ในชุดไปรเวทธรรมดาที่โคตรจะหล่อมาก ชานยอลใส่เสื้อเชิตสีดำคลุมทับด้วยสเวตเตอร์สีน้ำเงินเข้มและกางเกงยีนสีดำกับรองเท้าผ้าใบ ที่บอกได้คำเดียวว่าหล่อสุดๆ สาวๆนี่กรี๊ดและมองกันใหญ่
จงอินใส่เสื้อกันหนาวแขนยาวสีน้ำตาลลายหมีบราวน์และใส่กางเกงยีนสีสนิม เพิ่มความชิคที่หัวด้วยหมวกไหมพรมสีดำ บอกได้คำเดียวว่าฮอตกว่าใส่ชุดนักเรียนม.ปลายเยอะ
มองสำรวจเสื้อผ้าของหนุ่มทั้งสองคนที่นั่งตรงข้ามอย่างพอใจ ก่อนจะวนสายตามาที่ตัวเอง อืม... เสื้อแขนยาวสีขาวสกรีนคำว่า Soul mate และกางเกงวอร์มสีดำ ถึงจะแต่งตัวคล้ายจงอิน แต่ฟิลมันคนละอย่างกันเลย เหอะ คนหล่อแต่งยังไงก็หล่อสินะ
“พี่จ้องหน้าผมแล้วทำไมทำหน้าบึ้งละครับ”
ชานยอลพูดเรียกสติแบคฮยอนที่เอาแต่จ้องคนตรงหน้าและเผลอด่าไปในใจ แบคฮยอนมองหน้าชานยอลก่อนจะยิ้มเจื่อนให้ ก่อนจะก้มหน้ามองเมนูที่ถูกส่งมาจากคยองซู
“เอาเนื้อสองที่ครับ”
“สามสิ”
“เยอะไปมั้ง”
“สาม”
แบคฮยอนที่เถียงกับคยองซูเรื่องจำนวนเนื้อที่จะสั่งมากิน สองมันจะไปพออะไร แบคฮยอนคนที่ชอบกินเนื้อย่างกับอะไรดีเนี่ยนะ ต้องสามสิ
ดูเหมือนจะต้องสั่งสามที่ คยองซูรวบรวมเมนูส่งกลับคืนพนักงาน
“ผมไม่ได้เจอพี่ตั้งหลายวันแนะ”
“ก็ได้เจอแล้วนี่ไง”
“เอ่อ...นี่พี่ชายของโซยอนหรอครับพี่คยองซู” ชานยอลเอ่ยถามคำถามที่ทำให้แบคฮยอนสะอึก คยองซูที่ดูไม่ค่อยสะทบสะท้านกับการเจอกันของชานยอลและแบคฮยอน ทำเอาแบคฮยอนรู้สึกขัดใจเป็นอย่างมาก แทนที่จะช่วยกันกันชานยอลออกห่างแบคฮยอน แต่ดันทำเหมือนไม่มีอะไรเกินขึ้นซะได้
ใจเย็นๆ จับไม่ได้หรอก จับไม่ได้หรอก จับไม่ได้หรอก
แค่ทำเป็นแบคฮยอนเหมือนที่เป็น
“อ้อใช่ นี่ บยอน แบคฮยอน พี่ชายของโซยอนน่ะ”
“หวัดดีชานยอล หวัดดีจงอิน” แบคฮยอนส่งยิ้มทักทายอย่างเป็นมิตร ชานยอลทำหน้างงนิดหน่อย ก่อนจะหันหน้าไปสบตากับจงอินและหันหน้ามาทางแบคฮยอนอีกครั้ง
“รู้จักชื่อพวกเราด้วยหรอครับ?”
เอ่อะ
“ระ รู้จักสิ โซยอน...เล่าให้ฟังบ่อยๆน่ะ”
“อ้อ ถึงว่า...เพราะพวกผมไม่เคยเจอพี่นี่ครับ ก็งงว่ารู้จักได้ไง แถมยังทักถูกคนซะด้วย” จงอินพูดหยอกล้อกับแบคฮยอนที่ส่งยิ้มแหยะไปให้ ก่อนจะหัวเราะกันกับคยองซูและชานยอล คงเป็นแบคฮยอนคนเดียวนั่นแหละที่ขำไม่ออก
“ว่าแต่... คยองซูกับจงอินไปรู้จักกันได้ไงหรอ” แบคฮยอนถามคยองซูที่นั่งคุยกับจงอินยังกับโลกนี้มีกันแค่สองคน
แบคฮยอนไม่เคยรู้ว่าคยองซูรู้จักกับใครอื่นอีกนอกจากเขาและเพื่อนในคณะ แต่จงอินกลับเป็นเด็กม.ปลายที่ไม่น่าจะมีเวลามาเจอหรือมาเดินสวนกันด้วยซ้ำ
“พ่อแม่เรารู้จักกันน่ะ รู้จักกันหลายปีที่แล้วที่กูกลับบ้านแม่ บ้านของพ่อกับแม่จงอินก็อยู่ที่หมู่บ้านเดียวกันกับกูอ่ะ”
“ระ...หรอ ทำไมมึงไม่เป็นบอกกูเลยอ่ะ”
“เพราะไม่ค่อยได้เจอ เจอกันแค่ตอนปิดเทอมมหาลัย ตอนจงอินหยุดสอบแค่ไม่กี่วันเอง”
“เพราะพี่ไม่ค่อยมาที่โซลด้วยไง เลยไม่เจอผม”
“ทีหลังจะมาบ่อยๆละกันนะ”
แหวะ... อดไม่ได้ที่จะทำท่าเบะปากใส่มัน รอไม่นานนักเนื้อสีชมพูสดก็ถูกยกมาวางไว้ที่โต๊ะ ก่อนจะเตรียมเตาเพื่อย่างเนื้อ
ฉ่า~
กลิ่นเนื้อกระทบหน้าเตาทำให้แบคฮยอนรู้สึกดีจนยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่ได้ เป็นนิสัยเล็กๆของแบคฮยอนที่ชอบยิ้มเวลาเห็นของที่ถูกใจ สี่มือช่วยกันคีบเนื้อลงบนเตาย่างที่กำลังจะอัดแน่นไปด้วยเนื้อสีชมพูวววววว ที่แบคฮยอนโปรดปรานมากที่สุด
เนื้อย่างสุกกำลังดี... ถูกวางไว้ที่จานแบคฮยอน ...โดยชานยอล
“กินสิครับ ผมเห็นพี่ยิ้มกริ่มมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว”
ชานยอลยิ้มให้ก่อนจะหันไปสนใจเนื้อย่างบนเตาแทน
เอ๋อแดก
แบคฮยอนกะพริบตาปริบๆไล่ความมึนออกไป ก่อนจะหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบเนื้อย่างที่คนตรงหน้าส่งมาให้ จิ้มกับน้ำจิ้มแล้วเอาเข้าปาก.... อ้า~ รสชาตินี้ไงละ
ความอร่อยของเนื้อย่างทำให้แบคฮยอนหลับตาเคี้ยวไปโดยไม่รู้ตัว รอยยิ้มปรากฏลงบนหน้าแบคฮยอนอีกครั้ง ราวกับกำลังแอคติ้งโฆษณาเนื้อย่างอยู่
ชานยอลคอยมองแบคฮยอนเป็นระยะๆตั้งแต่ตอนที่กินเนื้อเข้าไปชิ้นแรก ตามด้วยชิ้นที่สอง ที่สาม สี่ ห้า หก โดยเขาเองเป็นคนย่างให้และคีบไปวางไว้ในจาน โดยที่ตัวเองได้แตะแค่ไม่กี่ชิ้น ก็ไม่รู้ทำไมถึงทำแบบนี้เหมือนกัน แต่พอเห็นพี่ชายเพื่อนสนิทยิ้มหวานซะโลกเยิ้มมันเลยทำให้เขาอยากจะย่างเนื้อแบบนี้ให้เรื่อยๆ
“อ่ะ ...นายก็กินมั่งนะ ไม่ต้องคีบมาให้แล้ว เดี๋ยวพี่กินเอง”
ชานยอลยิ้ม... เพราะแบคฮยอนคีบเนื้อมาวางไว้ในจานของชานยอลก่อนที่เจ้าตัวจะหันไปย่างเนื้อต่อ
“แล้วโซยอนไม่มาหรอครับ”
แบคฮยอนสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อชานยอลพูดถึงน้องสาวที่อยู่ญี่ปุ่นของเขา แบคฮยอนหันหน้ามาหาชานยอลช้าๆ ก่อนจะเอาเนื้อเข้าปากเพื่อถ่วงเวลาว่าจะตอบอะไรไปดี
“คือ...อึ่ก...โซยอนบ่นว่าปวดหัวน่ะ เลยไม่มา ...นอนอยู่บ้านน่ะ”
“หรอครับ งั้นผมขอโทรหาโซยอนแปปนะครับ”
โทรหา!! ถ้าโทรหาก็ติดเบอร์โซยอนที่อยู่ญี่ปุ่นน่ะสิ แบคฮยอนเห็นท่าว่าชานยอลโทรหาแน่ๆเลยเอื้อมมือไปรั้งโทรศัพท์ของคนตรงหน้าเอาไว้ เรียกความแปลกใจบนใบหน้าของชานยอลได้เป็นอย่างดี
“มะ ไม่ต้องโทรหรอกน่า โซยอนมันไม่เป็นอะไรหรอก ก็แค่ข้ออ้างน่ะ”
“งั้นหรอครับ ปกติผมก็โทรคุยกันบ่อยอยู่แล้วนะ ...ไม่โทรก็ได้ กินต่อดีกว่าครับ พี่เอาอีกมั้ย”
ชานยอลลดโทรศัพท์ลงก่อนจะหย่อนมันลงในกระเป๋ากางเกง แบคฮยอนถอนหายใจออกมาเบาๆอย่างลืมตัว
.
.
“ฮ้า~ อิ่มจังงงงง”
ข้าวเย็นวันนี้จบลงที่เนื้อย่างห้าที่ จากตอนแรกสามที เพราะมันไม่พอท้องของแบคฮยอนน่ะสิ อิอิ
ชานยอลอาสาจ่ายค่าเนื้อย่างให้เอง ตอนแรกก็เถียงกันอยู่เหมือนกัน แต่พอแบคฮยอนคว้ากระเป๋าตังออกมา ก็พบว่ามันไม่พอจ่าย.... ไม่พอมากๆด้วย เพราะเหตุนี้ชานยอลเลยต้องจ่ายแทน
สี่คน สองคู่เดินไปเรื่อยๆ แน่นอนว่าคยองซูคู่กับจงอิน แล้วแบคฮยอนจะเดินคู่กับใครละ
“แต่พี่กับโซยอนเนี่ย หน้าตาเหมือนกันเด๊ะเลยนะครับ ยังกะถอดแบบกันออกมา”
ชานยอลโน้มหน้าลงมาคุยกับคนตัวเล็กที่อยู่ข้างๆจนแบคฮยอนตกใจเล็กน้อย
“งั้นหรอ ใครๆก็ว่าอย่างงั้นแหละ”
“แต่พี่น่ารักกว่า”
“ห้ะ? อะไรนะ?”
เพราะเสียงเพลงที่เปิดดังมาจากร้านขายเพลงข้างๆดังมากจนแบคฮยอนไม่ได้ยินที่ชานยอลพูด เลยหันไปหา แต่ชานยอลกลับยิ้มแล้วส่ายหน้ามาให้
ทางทางซ้ายที่แบคฮยอนเดินอยู่มันเป็นทางไปและทางขวาเป็นทางเดินกลับออกจากตลาด เพราะถ้าเดินไปจนสุดทางมันเป็นทางตัน ตลาดเลยมีรูปคล้ายตัวยู แต่กลับมีกลุ่มขาโจ๋เดินสวนทางกับทางที่แบคฮยอนเดินอยู่ซะได้ เดินเบียดกระแทกผู้คนอย่างไม่มีความเกรงใจ ชนแบคฮยอนจนเซไปเกือบจะล้ม ...ถ้าไม่ได้มือชานยอลมาช่วยไว้
จะว่าน้ำเน่าก็เหอะ แต่ใจมันเต้นจริงๆ
“ขอบใจ”
“เดินอะไรไม่มองเลยเนอะ ถ้าพี่ล้มขึ้นมาจะทำยังไง” ชานยอลหันไปมองข้างหลังด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ ก่อนจะช่วยพยุงแบคฮยอนให้ยืนอยู่กับที่ได้ แค่นี้ก็เบียดกันจนไม่มีที่จะหายใจแล้ว
“อ้าว ไอจงอินหาย”
“คยองซูด้วย”
เพราะไอ้พวกขาโจ๋มะกี้นะสินะ ที่ทำให้แบคฮยอนพลัดหลงกับคยองซู
แม่เว้ยยยยย !!
ทางด้านคยองซูกับจงอิน
เดินดีๆกันหน่อยไม่ได้หรือไงว่ะ เฮ้อออออ เป็นเพราะพวกนักเลงเมื่อกี้มาเบียดคยองซูและจงอิน จนเค้าทั้งสองต้องยืนเบียดกันจนแถบจะกอดกันกลมดิ๊กกันแล้วอยู่
เพราะใกล้กันมากเกินไป คยองซูไม่อยากให้จงอินได้ยินเสียงหัวใจเต้นของตัวเอง
เขารู้ว่าจงอินเป็นเด็กที่ฉลาด เซ้นต์แรง รู้ดีจนติดจะรู้มากด้วยซ้ำ ตอนเจอกันที่บ้านแม่เมื่อหลายปีก่อน จงอินก็มาทักทายเค้าและพูดกับเค้าอย่างกะคนวัยเดียวกัน ทั้งที่เค้ากับจงอินห่างกันตั้งสองปี
พ่อแม่ของจงอินเป็นเจ้าของธุรกิจอหังสาริมทรัพย์ เป็นเจ้าของหมู่บ้านที่พ่อกับแม่คยองซูซื้อที่อยู่ พ่อแม่ของคยองซูทำกิจการเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย และได้มีการจับมือกันระหว่างสองบ้านนี้
จงอินเป็นเด็กขี้อ้อน และขี้งอแงเวลาอยากได้อะไรจากเขา มันทำให้คยองซูรู้สึกดีที่มีใครซักคนต้องการ ...ไม่สิ...
รู้สึกดีที่จงอินต้องการต่างหาก
“พี่ครับ... เราพลัดหลงกับพี่แบคฮยอนและชานยอลแล้วครับ เอาไงดี”
คยองซูดึงสติกลับมาเพราะหน้าจงอินที่โน้มเข้ามาใกล้มากจนคยองซูต้องถอยห่าง แต่คงจะไม่ได้ เพราะมันไม่สามารถถอยไปได้มากกว่านี้ ไม่งั้นคงได้สบอกคนข้างหลังแล้วละ
“จงอินเอาโทรศัพท์มาหรือเปล่าละ”
“เอามาครับ จะให้ผมโทรหาหรอ”
“อือ โทรบอกว่าเจอกันที่ทางเข้า”
“โอเคครับ”
สองเท้าคยองซูเดินนำหน้าไปทีละนิด ละนิด โดยที่มีจงอินซ้อนอยู่ข้างหลัง และเดินคุยโทรศัพท์ตามมา
“พี่อยากกินอะไรมั้ย”
“สายไหม”
“ฮ่าๆๆๆ ไม่เปลี่ยนไปเลยนะครับ”
คยองซูเดินนำไปที่ร้านตามมาด้วยจงอินที่ยืนอยู่ด้านหลังจนอกชนกับหลังของเขา บรรยากาศที่ใครหลายๆคนบอกว่าเย็นกำลังดี กลับทำให้คยองซูส่ายหน้า เพราะตอนนี้มันโคตรจะร้อน ...ร้อนเพราะลม
ลมหายใจของจงอิน
“ไม้นึงครับ”
“500 วอนครับ”
จ่ายไม่ทัน ...เพราะจงอินควักเงินแล้วยื่นไปจ่ายให้เรียบร้อยแล้ว ความรู้สึกเหมือนถูกกอดเลย ...ใจเย็นๆๆๆ
“ทีหลังไม่ต้องจ่ายให้นะ เดี๋ยวพี่จ่ายเอง”
คยองซูทำหน้างอใส่จงอินที่เอาแต่ใจตัวเอง คอยจ่ายเงินให้อยู่เรื่อยเลย ถ้าชานยอลไม่มากินด้วยกันที่ร้านเนื้อ ป่านนี้จงอินก็เป็นคนจ่ายไปแล้ว
“ก็ผมอยากซื้อให้นี่นา กินๆเข้าไปอย่าบ่นมากน่า”
จงอินยิ้มตาหยี ฉีกสายไหมมาแล้วยัดเข้าไปในปากของคยองซูที่กำลังอ้าปากจะด่าเขา จงอินหัวเราะชอบใจที่เห็นคยองซูเคี้ยวแก้มตุ้ยพร้อมกับขมวดคิ้วไปด้วย
มีใครบอกพวกเขาหรือยังนะ ...ว่าภาพของพวกเขาตอนนี้
...เหมือนแฟนกันเลย
“เออได้ โอเคๆ” ชานยอลลดโทรศัพท์ลงหลังจากจงอินโทรมาตอนที่ทั้งคู่พลัดหลงกัน
“ว่าไงบ้าง”
“พี่คยองซูบอกว่าให้เจอกันหน้าทางเข้า”
“ชิ... หนีไปสวีทกันละสิ”
แบคฮยอนหงุดหงิด คิ้วผูกกันเป็นปมจนคนข้างๆอดยิ้มไม่ได้ ไม่ว่าแบคฮยอนจะทำอะไรมันก็ดูน่าขำสำหรับชานยอลไปจนหมด พี่ชายของเพื่อนสาวคนสนิทของเขาทำไมน่ารักแบบนี้ก็ไม่รู้
“ไปเดินเล่นกันเถอะๆๆ”
ชานยอลดันไหล่แบคฮยอนให้ไปข้างหน้า คนโดนดันทำหน้าเหวอเพราตกใจ แบคฮยอนพยายามเอี้ยวตัวให้หลุดจากการถูกเกาะกุมที่ไหล่ทั้งสองข้างโดยมือของชานยอล แต่ดูเหมือนจะไม่ยอมปล่อยง่ายๆด้วยสิ
แบคฮยอนคิดว่าชานยอลคงคิดว่าเขาเป็นพี่ชายโซยอนและไม่ติดใจอะไรมากมาย เพราะชานยอลไม่ได้แสดงท่าทีสงสัยอะไรในตัวเขาออกมา และแบคฮยอนก็ไม่ได้ทำตัวพิรุธ...มั้งนะ
“ผมอยากกินน้ำอ่ะ”
ชานยอลดันไหล่ที่ตัวเองจับอยู่ทั้งสองข้างของแบคฮยอน ไปที่หน้าร้านน้ำคล้ายกับร้านน้ำในห้าง เมนูก็เช่นกัน
“เอาชาเขียวสตรอเบอร์รี่ป็อปครับ”
น้ำสีแดงแก้วใหญ่ที่มีลูกอะไรกลมๆสีแดงอยู่ใต้ล่างถูกส่งมาให้ชานยอล แต่ชานยอลสะกิดให้แบคฮยอนรับแทน ก่อนที่ตัวเองจะหยิบกระเป๋าตังจ่ายเงิน
“พี่ลองกินดูสิ”
“ไม่อ่ะ”
“ทำไมละ กินได้นะ อร่อยออก ผมชอบมากอ่ะ”
แบคฮยอนมองหน้าชานยอลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยกแก้วขึ้นดูดน้ำพร้อมกับลูกกลมๆสีแดงที่ไหลขึ้นไปในหลอด
“กัดสิครับ”
แบคฮยอนพยายามกัดลูกสีแดงในปาก แต่เพราะมันลื่นมากเลยพยายามกัดจนหน้ายู่ยี่ไปหมด
เป๊าะ! ของเหลวสีแดงไหลออกมาจากลูกป็อปปิ้ง มันไหลลงมาเรื่อยๆที่มุมปากแบคฮยอนโดยที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่อง รสชาติมัน...ดีมาก...จน...เผลอยิ้มออกมา
“อุ๊ อร่อยอ่ะ” แบคฮยอนยิ้มตาหยีจนลืมตัว ชานยอลมองคนตรงหน้าที่กำลังส่งยิ้มสุดน่ารักมาให้ น่ารักจนคนข้างๆทั้งข้างหน้าข้างหลังที่เห็น...ยิ้มตาม
“เลอะแล้วครับ”
ชานยอลเอื้อมมือไปที่หน้าแบคฮยอน ใช้นิ้วโป้งปาดของเหลวสีแดงที่ไหลอยู่ที่มุมปากอย่างกะคนที่เพิ่งกินเลือดมา
“อร่อยดีนะครับ เอามากินมั่งสิ”
นิ้วโป้งที่ปาดน้ำออกจากมุมปากแบคฮยอนถูกลิ้นเรียวของคนตรงหน้าปาดเข้าปากไปหน้าตาเฉย
“อะ...เอาไปสิ”
ก้มหน้างุด... เดินไปไม่รอคนที่มาด้วยกัน ไม่ไหวแล้ว แบคฮยอนไม่กล่ามองหน้าชานยอลเลย เพราะอะไรน่ะหรอ
เลียเสร็จแล้วยิ้มให้เนี่ยนะ
โฮ่กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
.
.
หน้าทางเข้าที่คยองซูเป็นคนนัดตอนที่พลัดหลงกัน คยองซูกับจงอินนั่งรอแบคฮยอนกับชานยอลมานานมากแล้ว ดีที่จงอินไม่รีบกลับ และตั้งใจที่จะนั่งรอเป็นเพื่อน
“พี่อยู่ที่นี่อีกนานมั้ยครับ”
“ก็อยู่นี่แหละ ไม่ได้ไปไหนหรอก ไม่อยากกลับบ้านแม่น่ะ”
“งั้นพี่ก็มา...”
“เฮ้ออออออ กว่าจะออกมาได้ คนเยอะชิบหายเลยว่ะ” ชานยอลเดินมากับแบคฮยอน ตัดขำที่จงอินพูดจะชวนคยองซูไปเที่ยวด้วยกันอย่างไม่ได้ตั้งใจ ก่อนที่จงอินจะลอบถอนหายใจเบาๆ
“กลับกันเหอะ ง่วงละ”
“โอเค กลับละนะ” แบคฮยอนโบกมือลา ก่อนจะเดินเพื่อที่จะกลับบ้าน
แต่มีใครเดินมาด้วย
“ตามมาทำไม ไม่กลับบ้านหรอ”
ยิ้มมมมมม
มึงจะยิ้มอะไรนักหนา ทีอยู่ที่โรงเรียนเอาแต่จ้อง
ไม่เห็นพูดมากแบบนี้เลย
ชานยอลยิ้มให้เป็นคำตอบ ก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินตีคู่มาที่ข้างๆแบคฮยอน คนตัวเล็กมองอย่างไม่เข้าใจ
“เดี๋ยวผมเดินไปส่ง”
“เฮ้ยยยย ไม่ต้องหรอก กลับเองได้ บ้านอยู่แค่นี้”
“พอดีว่าผมจะไปหาโซยอนด้วยน่ะ”
ไปหามันทำมายยยยยยยยยย
“เอ่อ ไปหาทำไมหรอ”
แบคฮยอนกับชานยอลเดินคุยกันมาเรื่อยๆเพราะเจ้าตัวยืนยันว่าจะเดินไปส่งให้ได้ แม้จะขัดไปหลายสิบรอบ
“เมื่อวานโซยอนกลับบ้านเร็วน่ะ เลยไม่ทันรู้”
“ไม่ต้องไปหาหรอก ฝากพี่มาก็ได้ เดี๋ยวไปบอกให้”
ขืนไปเจอแผนก็แตกพอดีน่ะสิ
ชานยอลมองหน้าแบคฮยอนชั่วอึดใจก่อนที่เจ้าตัวจะอ้าปากพูดต่อ
“เพราะงานกีฬาใกล้เข้ามาแล้ว ห้องเราก็เลยจะจัดการงานตั้งแต่เนิ่นๆ โซยอนกลับบ้านไปก่อนเลยไม่รู้ว่าต้องมาทำงานวัน....พรุ่งนี้”
“ห้ะ! พรุ่งนี้”
“ครับ พี่ตกใจอะไร”
ลืมตัว
เดินมาเรื่อยๆก็มาถึงหน้าคอนโดของแบคฮยอนซะแล้ว ทำไมไวจัง แบคฮยอนหยุดยืนหน้าคอนโดก่อนจะหันหน้าคุยกับชานยอลที่เดินมาส่ง
“ขอบคุณที่เดินมาส่งนะ เดี๋ยวเรื่องโซยอนจะบอกให้ละกัน ดึกแล้ว กลับบ้านไปได้แล้ว”
“ดึกตรงไหนครับ ทุ่มครึ่งเอง” ชานยอลหัวเราะ
“นั่นแหละ ไปละ อ่อ...เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเอาเงินไปคืนนะ”
“หือ?”
“เงินค่าเนื้อย่างวันนี้น่ะ” แบคฮยอนอธิบายที่ชานยอลเอาแต่ทำหน้างงตรงหน้า
“อ้อ ไม่ต้องหรอกครับ ..แต่ถ้าพี่อยากคืนก็...ยินดีครับ”
“โอเค ไปละ ขอบคุณที่มาส่ง”
“ครับ บาย”
แบคฮยอนโบกมือลาชานยอลพอเป็นพิธี ก่อนจะเดินขึ้นห้องไปอย่างด่วนจี๋
ชานยอลไม่เอะใจอะไรเลย ไม่นึกสงสัยอะไรเลยด้วยซ้ำ เพราะไม่รู้
หรือแกล้งไม่รู้...
Talk : มาแล้ววววว ขอบอกไว้ก่อนตอนหลังอาจจะไม่ฮาแต่จะมาหวานแทน ชอบแบบหวานกันหรือเปล่าคะ เพราะจะแต่งให้สวีทแบบหวานเฟ่อร์เลย เม้นเจิมกันหน่อยนะคะ #นสแบคฮยอน ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ชอบก็อย่าลืมเฟบไว้นะคะ บุ่ยยยย~
t
h
e
m
y
b
u
t
t
e
r
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 15 กุมภาพันธ์ 2560 / 16:49