คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : พริ้มเพียงหวา : ตอนที่ ๑๕
15
พริ้มยืนขยำปลายเสื้อสีเทาอยู่หน้ากระจกมาหลายนาทีแล้ว…
เขาเพิ่งกลับเข้ามาที่ห้องพักมาสคอตหลังจากไปร่วมพิธีเปิดงาน
ถึงแม้เขาจะเพิ่งผ่านเหตุการณ์เลวร้ายที่หลังห้องน้ำมาหมาด ๆ แต่ยังไงงานก็คืองาน
เขาอาจจะร่าเริงในชุดปูส้มได้ไม่เท่ากับตอนแรก ๆ แต่ก็ไม่ได้แย่ถึงขนาดผิดสังเกต
อีกอย่างก็คือเขาเสิร์ฟบอลข้ามเน็ตได้ด้วยล่ะ
พริ้มก็เลยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย
หลังจากที่ยี่หวายื่นเสื้อให้
เราก็ไม่ได้คุยอะไรกันต่อนอกจากยี่หวาถามเขาว่าเรื่องมาสคอตจะเอายังไง
พริ้มก็ยืนยันว่าจะใส่ เรื่องก็เลยดำเนินมาจนถึงตอนนี้…ตอนที่เขากำลังลังเลว่าจะออกไปข้างนอกด้วยเสื้อตัวนี้ดีมั้ย แต่ถ้าไม่…เขาก็ต้องใส่เสื้อขาด ๆ ไปตลอดทั้งงาน ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้
พริ้มสติแทบหลุดในตอนที่มุดหัวให้พ้นคอเสื้อ
กลิ่นของยี่หวาที่มักจะได้กลิ่นอ่อน ๆ ตอนเดินผ่านก็ตีเข้าจมูกเสียจนหน้าแต้มสี
เรื่องเลวร้ายที่ผ่านมาถูกชำระล้างด้วยเสื้อเพียงตัวเดียว…
ข้างนอกเสียงดังสนั่นเมื่อกรรมการประกาศรายชื่อนักกีฬาให้ลงสนาม
ถึงแม้ในหัวของเขาจะบอกว่าไม่ควรออกไปด้วยเสื้อตัวนี้
แต่การที่จะได้นั่งดูยี่หวาแข่งในรอบชิงกลับเป็นอะไรที่พริ้มไม่อยากจะพลาดเลยสักครั้งในชีวิต
คนตัวเล็กแง้มประตูห้องพักมาสคอตเบา
ๆ ดีที่ตรงนี้เป็นมุมอับ
แต่อย่างนั้นก็ไม่มีใครคิดจะออกมาเดินเล่นในเวลาแบบนี้หรอก เสื้อแข่งสายของยี่หวาตัวใหญ่มาก
ปลายเสื้อเหนือหัวเข่าเขาแค่ไม่กี่เซ็นเอง ชื่อของยี่หวาก็ตัวใหญ่
ให้ความรู้สึกเหมือนกับ…
ไม่หรอก
อย่าคิดอะไรที่มันเข้าข้างตัวเองแบบนั้นอีกเลย
เขาเดินหลบ ๆ
มุมไปยังชั้นสูงสุดของอัฒจันทร์ เรียกได้ว่าบนสุดเลยก็ว่าได้ เขาไม่อยากให้ใครเห็นชื่อที่อยู่บนหลังเสื้อ
ทีตอนนี้ล่ะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามันจะเป็นปัญหาใหญ่
แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธฝ่ามือของยี่หวาที่ยื่นมาให้ได้นี่นา
“แก ๆ
ผู้ชายตัวสูง ๆ ใส่เสื้อเบอร์เก้านี่ชื่ออะไรอ่ะ”
“ชื่อยี่หวา
อยู่มอหก เป็นกัปตันทีม หล่อใช่มั้ยล่ะ แต่คนนี้กูจอง!”
“เอ้าอีแกง!”
“อะไรล่ะ
มึงไม่เข้าโรงเรียนนี้กับกูเองปะ”
“ก็ถ้ารู้ว่าโรงเรียนมึงหล่อยกทีมขนาดนี้
กูก็จะขยันอ่านหนังสือ”
“ช้าไปย่ะ!!”
เหลือบมองสองสาวที่นั่งคุยกันถึงยี่หวา
อีกคนเป็นเด็กโรงเรียนเขา ส่วนอีกคนไม่ใช่ แต่ยูนิฟอร์มแบบนี้ก็น่าจะเป็นเด็กของทีมไอโซระ
เขาหันกลับไปสนใจที่สนามต่อ เห็นคนอื่น ๆ กำลังวอร์มกันอยู่ในสนาม
น่าจะได้วอร์มก่อนทีมไอโซระ
โค้ชเป็นคนโยนลูกให้คนในทีมตบ
ส่วนตัวสำรองก็ไปรอรับที่อีกฟากของสนาม นี่เป็นช่วงเวลาให้วอร์มก่อนแข่งทีมละสิบนาที
ส่วนอีกทีมที่ต้องรอต่อก็จะวอร์มกันที่ขอบสนามแทน
เสื้อสีม่วงของคาลันโชสวยงามเหลือเกินเมื่อมองจากมุมไกล ๆ โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์
น้อยคนที่จะเลือกเอาสีม่วงมาเป็นเสื้อทีม แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลย
ในสนามมีคนเป็นสิบเป็นร้อย…แต่สายตาคู่นี้กลับเห็นแค่เพียงยี่หวาคนเดียวได้อย่างไร จะว่าไปเขาก็เริ่มได้กลิ่นหอมอ่อน
ๆ โปรยมาจากผ้าตัวนี้อีกแล้ว ทั้งที่ซักจากน้ำยาปรับผ้านุ่มถุงเดียวกันแท้ ๆ แต่กลับคิดว่ามันหอมมากกว่าทุกทีได้ยังไง
“นี่อุ่น
คนชื่อยี่หวามีแฟนหรือยังอ่ะ”
“ยังมั้ง…น่าจะยังอ่ะ ก็ไม่เห็นคุยเล่นกับใครมานานแล้วนะ นอกจากพู่กัน”
“พู่กัน?
ใช่พู่กันห้องสองปะ ตอนมอต้นอ่ะ”
“เออ พู่กันนั่นแหละ
ก็เห็นสนิทสนมกับยี่หวาตอนมอสาม รู้สึกตัวอีกทีก็ไม่เห็นมันจะเข้าไปคุยกับยี่หวาแล้วอ่ะ”
เรื่องพู่กันกับยี่หวาดูท่าว่าจะมีอะไรสักอย่างแน่
ๆ พริ้มมาไม่ทันตอนมอต้น เขารู้แค่ว่ายี่หวาอยู่มอต้นโรงเรียนนี้
แต่ตอนนั้นพริ้มอยู่คนละโรงเรียน
พอได้เข้ามาเรียนก็ไม่ได้สนใจเรื่องของคนอื่นเลยเพราะเอาแต่แอบมองยี่หวาไปวัน ๆ
แถมเพื่อนก็ไม่มีให้รู้ข่าวคราวของใคร ดังนั้นเรื่องที่ทั้งสองคนข้าง ๆ คุยกัน
พริ้มเองก็เพิ่งรู้
ในจังหวะที่พริ้มกำลังส่ายสายตาหายี่หวา
ดันสบตาเข้ากับผ้าเสียก่อน เพื่อนตาโตรีบกวักมือเรียกยกใหญ่ ทำเอาคนบนอัฒจันทร์แตกตื่น
ผ้าก็เรียกได้ว่าหน้าตาดี ติดที่ตัวเล็กไปนิดเท่านั้นเอง
พริ้มทนสายตาของคนอื่นที่มองขึ้นมาไม่ไหว
เหมือนทุกคนจะรู้แล้วว่าผ้ากวักมือเรียกใคร เขาจึงลุกขึ้น เดินลงจากอัฒจันทร์เพื่อไปที่ข้างสนาม
“เฮ้ย
นั่นมันชื่อของยี่หวาไม่ใช่หรอ?”
“คนนั้นชื่อพริ้มปะวะ”
“ทำไมถึงใส่เสื้อกีฬาของยี่หวาอ่ะ
แฟนหรอ?”
“แฟนยี่หวาหรอวะ
ทำไมไม่เคยเห็นหน้าเลย”
เสียงซุบซิบจากริมฝีปากของเด็กสาวรอบสนามที่เกินครึ่งมาเพื่อชมยี่หวาไม่ใช่การแข่งขัน
พริ้มลืมไปเสียสนิทว่าตัวเองใส่เสื้อของใครอยู่ เอามือเล็ก ๆ
เอี้ยวไปปิดที่แผ่นหลัง แต่ปิดได้แค่ส่วนหนึ่งของเบอร์เท่านั้นเพราะชื่อยี่หวาอยู่สูงเกินไป
เขากลายเป็นคนเงอะงะทันทีที่เจ้าของเสื้อหันมา
“ทำไมมึงขึ้นไปนั่งอยู่ข้างบนวะพริ้ม”
“เอ่อ…เราอยากมองเห็นชัด ๆ”
“นั่งข้างสนามเห็นชัดกว่ามั้งกูว่า”
“เราก็ลงมาแล้วนี่ไง”
ผ้าหรี่ตา
แอบยิ้มมุมปากเมื่อเห็นเสื้อของใครบนตัวพริ้ม เรื่องที่พริ้มชอบยี่หวาน่ะมองออกง่ายจะตายไป
แต่ยี่หวาชอบพริ้มมั้ย…อันนี้ดูไม่ออกเลย
มันไม่เคยแสดงออกว่าชอบใคร หรือสนใจใคร บางครั้งที่ต้องช่วยใครสักคนก็ช่วยลงไปโดยไม่ได้คิดอะไร
นั่นเลยทำให้ผ้าไม่อยากคิดไปก่อน
“มา ๆ
มาช่วยกันดูแลทีมตอนแข่ง”
“อ…โอเค”
พริ้มรู้สึกถึงสายตาของคนรอบสนามที่มองมายังเขา
ถึงแม้เสื้อสีเทาจะไม่เด่นมาก แต่ชื่อของเจ้าของเสื้อน่ะเด่นสุด ๆ ไปเลย
แต่มันก็ไม่ใช่เวลาที่จะมาสนใจ ผ้ามอบงานชิ้นใหม่ให้กับเขา นั่นก็คือดูแลทีม
โดยการเสิร์ฟน้ำ ยื่นผ้าเย็น เป็นหลัก
ข้างถังคูลเลอร์มีแพ็คน้ำวางตั้งไว้อยู่
ด้านบนเป็นผ้าเย็นที่ไม่มีใครหยิบมันมาแช่ พริ้มจัดการทำทุกอย่างด้วยความคล่องแคล่ว
ไม่ลืมที่จะเขียนชื่อลงบนขวดน้ำแสดงความเป็นเจ้าของก่อนจะดันมันลงไปในถังน้ำแข็ง
เขาตรวจเช็คงานตัวเองอีกครั้ง
เพราะเหมือนจะลืมอะไรไปสักอย่าง เงยหน้ามองไปที่สนาม ยังเห็นทุกคนขะมักเขม้นวอร์มอัพกันอย่างไม่ลดละ
น่าจะคึกได้ที่กันเลยเชียวล่ะ แล้วจู่ ๆ ก็นึกออก…
พริ้มผละตัวออกไปในตอนที่ทุกคนวุ่นวายกับการย้ายตัวเองออกจากสนามเนื่องจากหมดเวลาวอร์ม
และกลับมาใหม่พร้อมกับลูกอมเม็ดสีเหลืองที่ใครสักคนในทีมชอบกิน
“ยุ่งไม่เข้าเรื่อง”
ซานพึมพำออกมาเบา
ๆ เมื่อเห็นว่าพริ้มเดินถืออะไรมา เขาไม่ได้ตั้งใจมอง
แต่ในตอนที่พักสายตาดันหันไปเห็นพอดี ซานเพิ่งมานึกได้ว่าลูกอมมะนาวเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดของเขาหมด
ในห้องพักก็ไม่เหลือเลยสักเม็ด แต่จะให้ออกไปซื้อตอนนี้ก็ไม่น่าทัน โค้ชไม่อนุญาตให้ใครออกจากสนามแล้ว
“มองไรวะ
พริ้มหรอ?”
“เปล่า”
“ก็เห็นว่ามองอยู่ชัด
ๆ มึงอย่าอคติกับคนอื่นเพราะข่าวลือดีกว่า”
“อย่างน้อยมันก็ไม่ได้มากเท่าตอนแรกแล้ว”
“หรอ… งั้นก็ดี กูก็แค่ไม่อยากให้มึงเสียเพื่อนที่เขาดีกับมึงก็เท่านั้น”
จอมทัพตบไหล่กว้างเบา
ๆ ก่อนที่กรรมการจะเป่านกหวีดหมดเวลาวอร์ม เริ่มเข้าสู่การแข่งขันที่แท้จริงแล้ว
เสียงกรี๊ดและเสียงกลองดังลั่นทันทีที่นักกีฬาแต่ละทีมลงสนามเพื่อเช็คตำแหน่ง
จากนั้นนกหวีดแรกของการแข่งขันก็ดังขึ้น
คาลันโชเป็นฝ่ายรุกก่อน
เริ่มเกมด้วยลูกเสิร์ฟของจอมทัพ ที่แรงและสั่นเนื่องจากจอมทัพกระโดดตบ
แต่กลับไม่สร้างความเสียหายให้แก่ทีมตรงข้าม เพราะนี่เป็นรอบชิง
ถ้าหากรับลูกเสิร์ฟแบบนั้นไม่ได้ ก็คงไม่ผ่านมาจนถึงรอบนี้
กัปตันทีมของไอโซระตบลูกที่สามพลิกเน็ตทำให้ทีมคาลันโชเสียจังหวะ
แต่ยังดีที่ซานเอาเท้าไปกันไว้ได้ก่อนบอลจะตกถึงพื้น โต้กันไปมาราว ๆ สี่รอบ
คาลันโชถึงจะได้หนึ่งแต้มจากบอลลูกนั้นมา เกมนี้อาจจะหืดขึ้นคอเลยก็ได้
สกอร์ไม่ลื่นไหลเพราะต่างฝ่ายต่างไม่ยอมให้แต้มกันง่าย
ๆ ไม่มีลูกเสิร์ฟพลาดจากทีมคาลันโชเลยสักลูก พวกเขาไม่กดดันแม้คะแนนจะถูกไล่ตาม
ยี่หวาใจเย็นมากกว่าที่เห็น ทั้งที่นอกสนามเป็นคนใจร้อนและดุยิ่งกว่าอะไรดี
ผ่านมาครึ่งเกมก็เป็นเวลาพัก
เหล่านักกีฬาต่างเดินออกจากสนามและมีคนถูพื้นเข้าไปแทน พริ้มรีบแจกจ่ายขวดน้ำให้แต่ละคนตามชื่อที่เขียนไว้บนขวดด้วยลายมือน่ารัก
ๆ ที่คนในชมรมไม่เคยเห็นมาก่อน เทคลอบยิ้มให้กับลายมือนั้น ก่อนจะเปิดฝากระดกดื่ม
“เล่นได้ดีแล้ว
ไม่ต้องเครียด แต่นำเขาให้ห่างหน่อยไม่งั้นเราจะเหนื่อย”
“ครับโค้ช” ทุกคนส่งเสียงตอบรับ
“ยี่หวา
ถ้าปวดข้อมือก็ให้บอกเลย ห้ามฝืนเล่นต่อ เข้าใจมั้ย?”
“รู้”
อยากจะโบกหัวไอ้เด็กนี่สักที
แต่ก็ต้องง้างมือเก็บไว้ก่อน โค้ชบอกถึงวิธีการรับมือไปตามแผนที่เราได้วางเอาไว้
มีเพิ่มเติมบ้างหลังจากที่เห็นแล้วว่าฝ่ายตรงข้ามเขาเล่นกันยังไง พริ้มเอ่ยถามตัวจริงว่าต้องการผ้าเย็นมั้ย
เพราะว่านี่เพิ่งเริ่มแข่ง เหงื่อแต่ละคนยังไม่ออกเท่าไรก็เลยถามเผื่อไว้ก่อน
“เหนื่อยมั้ยหนู”
“เราไม่เหนื่อย
ผ้านั่นแหละเหนื่อยมั้ย”
“ผ้าไม่เหนื่อย”
ผ้าล้อเลียนคำพูดของพริ้มพลางหัวเราะคิกคัก
พอเดินออกจากสนามแข่งก็ตรงเข้ามานวดไหล่เล็กเล่นไม่ยอมรับน้ำไปกิน
ผ้าหยอกพริ้มเล่นนิดหน่อยก่อนจะโดนขัดโดยจอมทัพที่เข้ามาแจม มันเอาขวดน้ำเย็นเจี๊ยบแนบเข้าที่แก้มพริ้มจนสะดุ้งโหยง
หลังจากนั้นก็ขำออกมา
“มึงหยิบลูกอมไอ้ซานมาทีดิ๊”
“แปป …อ่ะนี่”
“มึงเคยกินยังพริ้ม
อร่อยนะเว้ย”
“ไม่เอาดีกว่า”
พริ้มดันมือจอมทัพที่ฉีกซองลูกอมออกพร้อมที่จะปาเม็ดนั้นเข้าปากเขา
คนตัวเล็กยังคงคิดว่าถ้าเป็นของของซานที่ไม่ค่อยจะชอบพริ้ม
พริ้มก็จะไม่ยุ่งให้เจ้าของหงุดหงิดใจ แต่แท้จริงแล้วจอมทัพก็แค่อยากแกล้งเท่านั้น
ถ้าไอ้ซานมันจะทวงคืน จอมทัพนี่แหละที่จะถีบมันให้ไปซื้อใหม่เอง
“น่า ๆ
อร่อยนะขอบอก กินแล้วตาแตกแน่นอน”
“ไม่เอา
เราไม่กิน”
“นิดหนึ่ง”
เมื่อพริ้มไม่ยอมทำตามที่ขอ
ผ้าจึงสบโอกาสข่มขู่
“จะกินดี ๆ
หรือจะให้ยี่หวาป้อน”
“!!!”
“งั้นก็อ้าปากเร็วพริ้มจัง”
พริ้มบึนปากใส่จอมทัพก่อนจะอ้าปากรับลูกอมเม็ดนั้นเข้าไป
ซานที่ลอบมองสะกิดใจกับการบึนปากของพริ้มเป็นครั้งที่สอง
เพราะแบบนั้นเลยต้องสะบัดหน้าหนี ปฏิกิริยานั่นพริ้มเห็นเข้าพอดีเลยทำให้คนตัวเล็กไม่สบายใจที่กินลูกอมเม็ดนั้นเข้าไป
แย่แล้วสิ…ซานไม่พอใจที่เขากินลูกอมของตัวเองไปแน่ ๆ เลย
“อ๊า!!”
“ตาแตกเลยเห็นมะ”
“งื้ออออออ”
เอาล่ะสิ…เสียงงื้อทำเอาคนที่แกล้งสะอึกไปตาม ๆ กัน คิ้วของพริ้มงอเป็นรูปตัวยูกับตาที่หลับปี๋เล่นเอาจอมทัพไปไม่เป็น
ปฏิกิริยาหลังจากกินลูกอมตาแตกเข้าไปแล้วน่ารักขนาดนี้ก็เพิ่งจะเห็นมันจากพริ้มนี่แหละ
“เชี่ย… กูเกือบพลาดซะแล้ว”
“กูก็ด้วย”
“ขอโทษนะพริ้ม
คายออกมาก็ได้นะถ้าไม่ไหว”
ผ้ายื่นมือตัวเองมารองที่ใต้คาง
แต่พริ้มส่ายหน้า พออมไปอมมา จากเปรี้ยวก็เริ่มหวานขึ้น
ที่แท้มันก็คือหมากฝรั่งนี่เอง อร่อยกว่าที่คิดอีกแฮะ
“อร่อยใช่ปะล่ะ?”
“อื้อ! อร่อย!”
พอเห็นว่ามีคนเล่นด้วย
พริ้มก็ยิ่งสดใสเข้าไปใหญ่ มีอย่างที่ไหนพยักหน้าตอบรับพร้อมกับฉายรอยยิ้มออกมาด้วย
ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมข่าวลือแย่ ๆ ถึงออกมาจากตัวพริ้มได้ ดูไม่น่าจะเป็นคนแบบนั้นเลย
กรรมการเป่านกหวีดเป็นสัญญาณว่าเซ็ตในครึ่งหลังได้เริ่มขึ้นแล้ว
คะแนนในตอนนี้คาลันโชทิ้งห่างทีมไอโซระแค่สองแต้ม
เป็นระยะห่างที่อันตรายสำหรับการแข่งขันในรอบชิงเป็นอย่างมาก
เพราะถ้าเผลอเพียงแปปเดียวหรือแค่สติหลุดชั่วครู่
ก็อาจจะโดนนำไปสามถึงห้าลูกได้เลย
นับว่าการนั่งชมข้างสนามเป็นอะไรที่พริ้มไม่เคยคิดว่าจะได้อยู่ตรงนี้มาก่อน
ไม่เคยเห็นยี่หวากระโดดขึ้นตบลูกบอลใกล้เท่านี้ เวลาร่างสูงกระโดดแต่ละที ตัวก็จะเลยขอบเน็ตอยู่หลายคืบเลยทีเดียว
อีกทั้งเวลามือกระทบบอล ปลายเสื้อก็จะกระพือขึ้นจนเห็นหน้าท้องหนาที่ขึ้นเงาของกล้ามเนื้อเป็นลอนสู่สายตาประชาชน
เป็นลูกที่ไม่ได้แต้มเพราะฝ่ายนั้นเขารับได้
แต่ทุกคนก็กรี๊ด
พริ้มกำลังใจจดใจจ่อกับการแข่งในสนามจนไม่ทันได้รู้สึกตัวว่ามีใครบางคนเดินลงมานั่งข้างกันกับเขา
สติของเขาถูกกระชากเพราะเสียงของคนด้านข้างที่ดังแทรกขึ้นมา พริ้มหันไปหาและได้เห็นว่าเป็นใคร
“พริ้มใช่ปะ?”
“หวัดดี…พู่กัน”
“นั่งด้วยนะ”
สาวเจ้ายิ้มรับก่อนจะเลื่อนสายตามองไปยังสนาม
พริ้มตัวเกร็ง เขาไม่ได้กลัวพู่กันแต่แค่รู้สึกเกร็ง ๆ เวลาอยู่ด้วยเฉย ๆ
แตกต่างจากข้าวฟ่างและหม่อนที่ไม่ได้ให้บรรยากาศแบบนั้นกับเขาเลย
คนตัวเล็กแก้เขินด้วยการหยิบขวดน้ำขึ้นมายกดื่ม
และไม่ลืมที่จะถามคนข้าง ๆ ด้วยว่าต้องการมันมั้ย
“น้ำมั้ย?”
“ไม่ล่ะ”
ยิ้มให้อีกแล้ว
ไอโซระขอเวลานอก
เบรกเกมของคาลันโชที่แต้มไหลลื่นจนเกือบจะปิดเซ็ตได้อยู่แล้ว
แต่เพราะทีมนั้นเขาก็ตามอยู่ไม่ห่าง เลยคุ้มที่จะยื้อเกมเอาไว้
พวกตัวจริงเดินเข้ามาล้อมถังคูลเลอร์เป็นครึ่งวงกลมที่มีพู่กันเพิ่มเข้ามาด้วย
คนในทีมดูจะไม่ได้แปลกใจอะไร อีกทั้งเธอยังยื่นน้ำเปล่าให้แต่ละคนก่อนมือของพริ้มจะถึงขวดเสียอีก
“ดูผู้ชายเล่นกีฬาแบบนี้ก็ดีเหมือนกันเนอะ…กล้ามท้องแต่ละคน”
“ทะลึ่งว่ะ”
ซานทำท่าเหนียมอายเอามือปิดอกตัวเอง
“จะหวงไปทำไมเล่า
ของดีต้องโชว์ปะ”
“โรคจิต”
เทคกับซานคุยกับพู่กันอย่างสนิทสนมจนพริ้มรู้สึกอิจฉา
เขาเองก็อยากคุยกับซานแบบนี้เหมือนกัน แต่ความฝันนั่นคงอีกยาวไกลเลยล่ะ
พอพู่กันเข้ามา
ก็ดูเหมือนพริ้มจะกลายเป็นฟองอากาศไปโดยปริยาย ทุกคนคุยเล่นอยู่กับกัปตันทีมหญิงที่รายงานการเล่นของอีกฝ่ายให้ฟังอย่างละเอียด
คงเพราะเธอเป็นนักกีฬาเหมือนกัน ดังนั้นเลยเป็นประโยชน์ให้คนในทีมเป็นอย่างมาก
แตกต่างจากเขาที่ทำได้แค่ยื่นน้ำกับผ้าเย็นให้เท่านั้น
“พริ้ม”
“!!”
“ขอผ้าเย็นหน่อย”
“หือ? อ๊ะ…นี่ครับ”
ยี่หวาเลิกคิ้วแปลกใจที่อยู่
ๆ พริ้มก็สุภาพใส่ พาลให้นึกไปถึงตอนที่เราอยู่ในห้องพักมาสคอตด้วยกันครั้งแรก
ยี่หวาลอบมองพริ้มอีกครั้งเมื่อคนตัวเล็กก้มหน้ามองรองเท้าของทุกคนเงียบ ๆ
ท่ามกลางคนอื่น ๆ ที่แหกปากคุยกัน ที่แก้มยังมีพลาสเตอร์แผ่นใหญ่แปะเอาไว้อยู่
แต่รอยแดงรอบ ๆ เริ่มจางลงแล้ว
เจ็บแผลก็คงไม่ใช่
“พริ้ม
เอาผ้าล็อคพันนิ้วไอ้หวาให้ใหม่หน่อย มึงเล่นบอลยังไงหลุดหมดแล้วเนี่ย”
“ไปถามไอ้ซาน
มันเป็นคนพันให้”
ยี่หวาตอบโค้ชที่ยื่นผ้าล็อคมาให้พริ้มแต่ปากก็เอาแต่บ่นใส่กัปตันทีม
เขาเรียนรู้มามากตั้งแต่ตอนที่ไปช่วยดูแลครั้งนั้น เรียกว่าลักจำเอาดีกว่า
ยี่หวายื่นนิ้วที่เคยเคล็ดครั้งนั้นมาให้
ผ้าล็อคที่ใส่ตอนเริ่มแข่งหลุดลุ่ยเหมือนที่โค้ชบ่นจริง ๆ
เขาค่อย ๆ
เอาผ้าเส้นนั้นออก มันมีลักษณะแข็งเล็กน้อย
พันเอาไว้กันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับอวัยวะที่ต้องใช้กระทบบอลบ่อย ๆ
อย่างมุกก็ต้องพันให้ครบทุกนิ้ว เพราะเป็นตัวเซ็ต นิ้วมือสำคัญที่สุด
แต่ความสูงของยี่หวาทำให้พริ้มพันลำบาก
ร่างเล็กไม่กล้าบอกให้หวาโน้มตัวลงมาอีกหน่อย มือจะได้พอดีกับระดับสายตา แต่เพราะยี่หวาทำหน้าตั้งใจฟังโค้ชมาก
ๆ พริ้มก็เลยไม่อยากขัด เขาพันผ้าเส้นใหม่ด้วยความทุลักทุเลจนเมื่อเจ้าของมือสังเกตเห็น
ยี่หวาก็ทรุดตัวลงนั่งยอง
ๆ ด้านหน้าเขา
“พันลำบากทำไมไม่บอก”
“…เห็นหวาตั้งใจฟังโค้ชอยู่ เรากลัวหวาไม่ได้ยิน”
“เรื่องแค่นี้เอง”
พริ้มที่ก้มหน้างุดไม่ทันเห็นรอยยิ้มที่มุมปาก
ยี่หวาวางมือตัวเองลงบนหน้าขาภายใต้กางเกงวอร์มสีดำแล้วหันกลับไปสนใจโค้ชดังเดิม
ทำเอาผู้ดูแลตัวน้อยหน้าขึ้นสี มือสั่นหงึก ๆ พันลำบากกว่าตอนแรกเสียนี่
“พริ้ม
ให้เราช่วยพันมั้ย”
พู่กันยื่นหน้าเข้ามาใกล้
เธอหลุบตามองที่มือของยี่หวาก่อนจะหันหน้ามายิ้มให้เขา
“เอ่อ…”
“ไม่ต้องหรอก ใกล้เสร็จแล้ว”
เป็นยี่หวาที่ตอบพู่กันกลับไป
เธอกระตุกนิดหน่อยก่อนจะปรับหน้ายิ้มให้แล้วดึงตัวเองกลับไป
พริ้มกลัดตัวรัดไว้เป็นขั้นตอนสุดท้ายแล้วแอบเอามือแปะเบา ๆ สองสามที
ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับยี่หวาที่มองมาอยู่ก่อนแล้ว
หัวใจของพริ้มเต้นรัว
ไม่มั่นใจเลยว่าเมื่อกี้ยี่หวาเห็นหรือเปล่า แต่พริ้มไม่ได้ออกเสียง
หน้าก็ไม่ได้ออกอาการ หรือออกแต่เขาไม่รู้ตัวกันนะ
“เอ่อ…ส…เสร็จแล้ว”
“แอบร่ายอะไรไว้หรือเปล่า”
“…!!”
ยี่หวารู้หรอ?!
“ดูออกง่ายจังเลยนะ”
เมื่อกี้…เดาหรอกหรอ
ถ้าทำตัวปกติยี่หวาก็ไม่รู้อยู่แล้วเชียว
ทำไมถึงได้ตื่นง่ายอย่างนี้นะพริ้ม
#พริ้มเพียงหวา
เรื่องนี้ใครผิด คำตอบคือไฟนอลค่ะ นังกินเวลานานมากกกกก ยากมากเช่นกัน5555
เราปิดเทอมละ น่าจะได้อัพบ่อยขึ้นด้วย ไม่รู้จะคุยอะไร ทำเหมือนไม่เคยอัพฟิคเลยอ่ะ ตื่นเต้นไปไหน
ขอบคุณที่ยังมีคนรอน้อง เห็นปุ๊บก็มาอ่านปั๊บ กำลังใจจะได้รับแบบเรียลไทม์ ><!
รักพริ้ม รักหวา รักคาลันโช 5555555555
ความคิดเห็น