คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : พริ้มเพียงหวา : บทนำ
บทนำ
เรื่องที่บอกว่า…แกะดำ มักไม่เป็นที่ยอมรับของฝูงแกะขาว
มันจะถูกรังแก กลั่นแกล้งสารพัด จนถูกเนรเทศออกจากฝูงไปในที่สุด
เรื่องแบบนั้นอาจจะเป็นจริงในนิทาน
แต่ในชีวิตจริง…แกะขาวก็โดนได้เหมือนกัน
ครั้งหนึ่งเราทุกคนมักมีช่วงเวลาที่ยิ้มและหัวเราะได้อย่างสบายใจ
แหงนมองท้องฟ้าดูเมฆลอยไปลอยมาได้อย่างไม่ต้องระวังหลัง
แต่ช่วงเวลานั้นมักหมดไปอย่างรวดเร็วเมื่อเราก้าวเดินไปตามทางข้างหน้า…ทางที่ไม่รู้ว่ามีอะไรรอเปลี่ยนแปลงเราอยู่
มันช่างน่ากลัว…และน่าหวาดหวั่น
บ้าน
คือสิ่งเดียวที่ดีที่สุดในชีวิตของหนุ่มน้อยคนนี้ ที่ที่ไม่มีเพื่อน ๆ
แกะขาวคอยรังแก มีแต่แม่ที่อ่อนโยน และพ่อที่ใจดี แม้จะไม่ได้เจอกันบ่อย ๆ
แต่บ้านก็เป็นที่ที่เขาอยากอยู่มากที่สุด มุมสุดโปรดคือข้างหน้าต่าง และข้างหน้าต่างคือโต๊ะคอมที่เอาไว้อ่านหนังสือการ์ตูนในวันหยุด
เปิดพัดลมเบอร์หนึ่งแบบเบา ๆ ให้ลมโชยในตอนสาย ๆ ของวัน
เตียงนอนแสนนุ่มที่เอาไว้หลับเพื่อลืมเหตุการณ์แย่ ๆ
อย่างน้อยเขาก็มีพื้นที่รักษาตัวเอง…
ริมฝีปากบางกระจับส่งยิ้มน้อย
ๆ ให้ตัวเองในกระจก เรียกขวัญกำลังใจรอบที่สามสำหรับเช้านี้ ภาพสะท้อนใบหน้าขาวที่ใต้ดวงตามีรอยเข้มเล็กน้อย
ผมเผ้าเรียบตรงจากการหวีหลาย ๆ ครั้ง เขารู้สึกไม่มั่นใจกับทรงผมใหม่เท่าไร
มันเปิดหน้าเกินไป ทั้ง ๆ ที่แม่ก็บอกว่าน่ารักมาก ๆ หลายครั้งแล้ว …แต่เขาก็ไม่ชินอยู่ดี
“ไปก่อนนะครับ
ผมไปกินข้าวที่โรงเรียนนะ”
เด็กหนุ่มเอ่ยเสียงดังภายในบ้านที่ว่างเปล่า
ทำเหมือนมีคนคอยขานรับเฉกเช่นที่ทำทุก ๆ วันนั่นคือคิดไปเองว่ามีคนอยู่ในบ้าน
แม่ไปดูงานอะไรสักอย่างที่ต่างจังหวัด ส่วนพ่อทำงานที่ต่างประเทศ นาน ๆ
ทีถึงจะกลับมาบ้าน พี่สาวก็อยู่หอเพราะเรียนมหาลัย มันเป็นบ้านที่ใหญ่…แต่ไม่มีใครมาตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้
รู้แต่ว่าเขาโอเคดี ไม่ได้น้อยใจที่ไม่มีใครอยู่ในนี้
สองขาเล็กรีบสับก้าวไปให้ถึงรถบัสโรงเรียนที่จะมารับทุก
ๆ เจ็ดโมง เสียงโหวกเหวกโวยวายเชียร์เขาให้วิ่งตามรถบัสให้ทัน เพราะ ‘เท็ดดี้’ ชอบสั่งให้ลุงคนขับจอดเลยป้ายให้เขาวิ่งเล่นแบบนี้ทุกเช้า
ขาของเขาวิ่งเร็วขึ้นทุกวันจากการฝึก เป็นสิ่งที่ดีสำหรับคนที่ไม่ชอบออกกำลังกายถ้าไม่โดนบังคับ
“แฮ่ก! แฮ่ก ๆ
ฮึก!”
ขาใหญ่ทำการรับน้องทันทีที่รถบัสจอดให้ขึ้นได้
เสียงหอบหายใจถี่ไม่เข้าหูเหล่าเพื่อน ๆ ที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว
ชักสีหน้าไม่พอใจที่คนขับรถจอดกะทันหันจนพวกเธอเสียศูนย์ เท็ดดี้ร่างใหญ่เหมือนในการ์ตูนยืนค้ำหัวเพื่อนตัวเล็กหวังให้ร้องไห้…แต่ไม่เลย
ไม่มีแม้แต่ความเสียใจอะไรใดใด
มีแต่ความเหนื่อยจากการวิ่งอย่างสุดใจเพื่อให้มาถึงทันเวลา
“เฮ้ย!!
ไม่ได้ยินที่พูดหรอวะ!!”
เป็นแบบนี้ทุกเช้าเหมือนการแปรงฟันตอนตื่นนอน
ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น เว้นเสียแต่ว่าเท็ดดี้จะกดดันลุงคนขับว่าไม่ให้จอดได้สำเร็จ
เด็กหนุ่มตัวน้อยเดินหดคอหลบพวกเพื่อนของเท็ดดี้ที่ตัวใหญ่ตัวโตกว่าเขาหลายเท่า
ไม่รู้ว่าเป็นผลมาจากการกินนมเยอะ ๆ หรือเปล่า แต่สำหรับเขา…มันไม่ได้ผล
เบาะแถวหลังสุด ด้านในชิดริมหน้าต่างเป็นที่ประจำที่แสนเลวร้ายของเขาเลยก็ว่าได้
มันทั้งแคบ ทั้งอึดอัด และเหม็นกลิ่นอับแบบสุด ๆ แถวหลังสุดไม่ค่อยมีคนมานั่ง
เพราะมันเหวี่ยงและเสี่ยงต่อการเวียนหัว ใครว่ามันคือมุมดี…บอกเลยว่าสำหรับรถคนนี้คุณต้องคิดใหม่
รถบัสค่อย ๆ
ผ่อนเครื่องจอดที่ป้ายหน้าโรงเรียน อซ. ด้านล่างมีชุดนักเรียนเหมือน
ๆ กันเดินเข้าโรงเรียนกันให้ควั่ก
เด็กหนุ่มสะพายกระเป๋าเตรียมลงจากรถเป็นคนสุดท้าย เขาไม่กล้าลงก่อน ไม่อยากปะหน้ากับเท็ดดี้
หมอนั่นบ้าพลังและไม่ชอบตุ่นปากเป็ดเช่นเขา…
ว่าแต่ตุ่นปากเป็ดหน้าตาเป็นยังไง?
“ไอ้ก้างเล็ก!
เอามายี่สิบดิ๊”
เท็ดดี้เดินย้อนกลับมายังเขาที่เพิ่งเดินผ่านเครื่องสแกนเข้าไป
เขาโดนไถตังค์ด้วยคำว่า ‘เดี๋ยวคืน’ อีกแล้วและไม่มีประโยชน์ที่จะปฏิเสธ แย่จัง…เขาอุตส่าห์จะเก็บเงินซื้อของขวัญสำหรับวันสำคัญที่กำลังจะถึงนี้
แต่ไม่เป็นไร แลกกับการที่เท็ดดี้จะไม่โมโหเขามันก็คุ้ม
“เดี๋ยวคืน”
เด็กร่างใหญ่ขยิบตายียวนใส่เจ้าของกระเป๋าตังแล้วเดินจากไป
ทิ้งหนุ่มน้อยตัวเล็กยืนมองแบงค์ยี่สิบปลิวออกจากกระเป๋าตังค์ไปอย่างง่ายดายในรอบที่แปดสิบห้า
เท็ดดี้ไถเงินเขาบ่อยขึ้น แล้วเขาก็ปฏิเสธยากขึ้นทุกวัน
แต่เขาเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้เพราะเท็ดดี้ไม่ชอบเขา
“พริ้ม…”
หัวหน้าห้องชื่อ
‘ลัคกี้’ เป็นหัวหน้าห้องที่ไม่เคยว่างเลยสักครั้งเวลามีงาน
เขาแปลกใจเหมือนกันว่าทำไมเธอถึงตกลงที่จะเป็นมัน ทั้ง ๆ
ที่เธอก็ไม่เคยทำงานเองเลยสักอย่าง ไม่สั่งให้เพื่อนในกลุ่มตัวเองทำ
ก็เป็นเขาที่ต้องทำ แต่เขาไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกับเธอหรอก ไม่มีทางเกิดขึ้นแน่ ๆ
วันวาเลนไทน์ของที่นี่คึกครื้นทุกปีเสมอ มีเวทีจัดงานขนาดกลาง ๆ อยู่กลางถนน พิธีกรเป็นสองส้มที่เขาเคยคุยด้วยนิดหน่อยตอนถูกหัวหน้าห้องไหว้วานให้รับหน้าที่งานสภาแทนเธอ เขาจำพวกเธอได้แม่นแม้จะหน้าเหมือนกันอย่างกับส้มจากสวน แต่จริง ๆ แล้วแต่ละคนมีจุดแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดอยู่ ส้มหวานจะหน้าหวาน โครงหน้าจะกลมกว่า เสียงก็จะบางกว่า ส่วนส้มเปรี้ยวจะดีดอยู่ตลอดเวลา ชอบพูดเร็ว ๆ ถามเองตอบเอง หน้าเรียวกว่า แล้วตาก็เฉี่ยวกว่า เอาเป็นว่า…เขาอาจจะเป็นส่วนน้อยที่แยกพวกเธอออกได้
พริ้มเอากระเป๋าสะพายของตัวเองมาไว้ข้างหน้า
ใช้สองแขนกอดกระเป๋าลูกนั้นไว้แน่นเพราะมีบางอย่างที่สำคัญมาก ๆ อยู่ด้านใน …เดาได้ไม่ยาก
วันช็อคโกแลตของโลกก็ต้องมีช็อคโกแลตอยู่ในนั้นสิถึงจะถูก ใช่แล้ว…
เขาใช้เวลาเป็นอาทิตย์กว่ามันจะกินได้ ใครบอกว่าเป็นของทำง่าย
เขาไม่เชื่อเด็ดขาดถ้าหากยังไม่ได้ลองทำ สูตรก็ต้องเป๊ะ ห้ามขาด ห้ามแหว่ง
คนที่บอกว่ามันคือของง่าย ๆ ก็คือคนที่ยังไม่เคยทำ
“มึงได้ยินสภาคุยกันปะ
ที่ว่าชมรมวอลเล่ย์ต้องมีมาสคอต”
เสียงผู้ชายสองคนคุยกันแต่อีกคนหนึ่งได้ยินไม่ค่อยชัด
เขาคิดว่าเสียงนั้นมาจากข้างหน้าเพราะมีนักเรียนหญิงยืนกันเพียบเลย
ช่วงเย็นของงานถือเป็นช่วงให้ของขวัญกับคนที่แอบชอบ แอบปลื้ม
หรืออะไรก็ตามที่อยู่ในสายตาเรา
แล้ว…คนคนนั้นที่เขาชอบก็เป็นอะไรที่อยู่ในสายตาใครหลาย
ๆ คน
“กูไม่กล้าให้อ่ะ!
ถ้าเผลอสบตาเข้าแล้วกูล้ม มึงต้องวิ่งไปลากกูออกมาด้วยนะ”
เพื่อนสาวปิดหูพลางถู
ๆ ที่ถูกไอ้บ้าตื่นตูมตะโกนใส่เสียงดังลั่น
“ไม่ต้องตื่นเต้นมากหรอก
พี่เขาจะรับหรือเปล่ายังไม่รู้เลย”
นึกย้อนไปสมัยที่ตัวเองเข้าร่วมทีมแฟนคลับพี่เก้า
ตอนนั้นสนุกมาก มีเจ๊สายรุ้งเป็นแกนนำทัพ
คอยบงการเหล่าแอดมินโซเชี่ยลของพี่เก้าด้วยความตั้งใจและอินเกิน
ตอนนี้เจ๊แกไปเรียนมหาลัยแล้ว เห็นว่าตามพี่เก้าไป แต่คนละคณะ พอพี่เก้าเรียนจบ
หนุ่มฮอตคนใหม่ก็งอกขึ้นมา เอาซะทุกคนอึ้ง
เพราะไม่มีใครรู้ว่าพี่เก้ามีลูกพี่ลูกน้องอยู่ในโรงเรียนนี้
มีบางส่วนที่รู้
แต่เป็นส่วนน้อย พี่เก้าไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับใครนอกจากเพื่อนตัวเอง
อีกอย่างรุ่นน้องกับรุ่นพี่ก็ยากที่จะเจอกัน พวกเขาสองคนก็ไม่ค่อยคุยกันด้วย …เหมือนความลับที่เรียกได้ไม่เต็มปาก
คงเป็นวันจบล่ะมั้งที่เป็นครั้งแรกที่สองคนนั้นคุยกัน ยืนถ่ายรูปด้วยกัน
และวันนั้นก็เป็นวันที่เราทุกคนมองเห็นนามสกุลยาวเหยียดที่เหมือนกันทุกตัวอักษร
จากตอนแรกที่ฮอตอยู่แล้วเพราะเป็นกัปตันทีมวอลเล่ย์บอลชายของโรงเรียน
ทีมชายที่นี่โด่งดังเรื่องฝีมือ และเคยได้รับเหรียญทองจากการแข่งระดับจังหวัดมาสองปีซ้อน
เห็นว่าปีนี้ก็จะคว้ามาให้ได้ก่อนที่ตัวเองจะจบไป
แล้วก็ยังมีงานโรงเรียนใหญ่ที่จะเปิดให้คนนอกเข้ามาได้
เป็นงานที่ปีนี้เราได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพการแข่งขัน
การใช้สถานที่แข่งกีฬารอบชิง ถ้าทำได้ดีอย่างที่หวังไว้
ก็ถือว่าเป็นการเรียนจบที่สมบูรณ์แบบ
“เกะกะ
มายืนทำอะไรตรงนี้!”
พริ้มถอยหลังไปสองสามก้าวแล้วหมุนตัวเดินหนี
ผู้หญิงคนนั้นอยู่ห้องเดียวกับเขา
อย่างที่เห็นว่าเขาไม่ใช่ที่รักของคนในห้องเท่าไร ท่าท่างเงอะงะคงไปขัดใจใครหลายคน
แต่ให้เขาทำยังไงล่ะ…ถ้ามองด้วยสายตาที่เหมือนเจอแมลงแบบนั้น
ใครเขาจะมีเสียงเปล่งออกมากันบ้างล่ะ…
เด็กหนุ่มเดินหนีมาไกลจากที่เดิม
ชะเง้อคอมองด้านในว่าผ่านไปแล้วกี่คน มันจะถึงตาเขาตอนไหน
เขาอยากเป็นหนึ่งคนที่ยื่นให้กับมือ ไม่อยากเอาไปวางกอง ๆ
แอบซ่อนไว้ไม่ให้โดนโยนทิ้งเหมือนปีก่อน ๆ อีกแล้ว ดวงตาเล็กเบิกกว้าง
มองกลุ่มชายหญิงที่รุมล้อมอะไรสักอย่างอยู่พักหนึ่ง
จนในที่สุด…โอกาสก็มาถึงเขา
“ได้เยอะชะมัด
เกินหน้าเกินตาไปหน่อยมั้งกัปตัน”
“หือ? ใครวะ”
คนตัวเล็กหดคอพลางก้าวหนีเพื่อนตัวสูงสองคนที่เขารู้จักเป็นอย่างดี
คนหนึ่งชื่อ ‘จอมทัพ’ กับอีกคนชื่อ ‘ซาน’ เป็นเพื่อนสนิทกับกัปตันทีมวอลเล่ย์
ที่ทั้งสองคนก็อยู่ในทีมเช่นเดียวกัน
“เอ่อ…
ถ้าหมายถึงตุ่นปากเป็ด ก็…ใช่”
ซานพูดเสียงดังแล้วกลั้วหัวเราะราวกับเป็นเรื่องที่ตลกยิ่งกว่าเจ๊น้ำขายเสื้อไลฟ์สด
…ทำเอาพริ้มไปไม่เป็น เขาเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าที่ตัวเองทำ…มันเป็นเรื่องที่ควรทำมั้ย
เขาเห็นผู้ชายคนอื่นยังเอาให้ได้ หรือเพราะมันเป็นเขา…ก็เลยไม่ควร ยิ่งคิด…ใบหน้าก็ยิ่งต่ำลง
ต่ำลงจนสิ่งที่อยู่ในสายตาไม่ใช่ใบหน้าของ ‘ยี่หวา’
แต่เป็นรองเท้าผ้าใบของซานและจอมทัพ
“เฮ้ยยี่หวา!
ไอ้ตุ่นนี่มันเบ๊ไอ้เท็ดนะเว๊ย มึงจะรับเองหรือจะให้กูรับ”
ช็อคโกแลตรูปวงกลมที่ถูกห่อด้วยกระดาษสีส้ม
แต่งลายเป็นลูกวอลเล่ย์บอลที่ไม่ค่อยเหมือนเท่าไร แต่ก็พอมองออก
โบว์จากริบบิ้นห้อยโตงเตงทำท่าจะหลุดอยู่รอมร่อสั่นไหวไปมาด้วยความไม่มั่นใจ
ยี่หวายืนอยู่หลังเพื่อนทั้งสอง ด้วยสายตาแบบไหนเขาก็ไม่อาจรู้ได้
รู้แค่ว่า…เขาไม่อยากให้แล้ว
“ไอ้เหี้ย
เป็นลายลูกวอลเล่ย์ด้วยว่ะ ยี๋…หยะแหยง ฮ่าๆๆ”
“เอ้าไอ้หวา รับบอลหน่อยยยย”
จอมทัพกับซานแยกตัวออกจากกัน
เผยให้เห็นใบหน้าเรียบเฉยที่ติดดุอยู่ตลอดเวลา ดวงตาเล็กสบได้เพียงวินาทีเดียว
จากนั้นก็กดลงต่ำไปที่พื้นดังเดิม มือทั้งสองข้างถูกแช่แข็งในท่ายื่นให้
แต่น้ำแข็งที่เคลือบเขาไว้กลับสั่งให้มือสั่นได้และสั่นแรงขึ้นเมื่อร่างสูงเดินเข้ามาใกล้
เส้นผมสีม่วงสวยพลิ้วไหวเบา
ๆ ก่อนจะหายออกจากสายตาของเขาไปทุกสิ่ง
ไม่มีใครยืนอยู่ตรงนี้แล้ว…และไม่มีแม้แต่คำพูดสักคำ
พริ้มสูดหายใจเข้าลึก ๆ ที่ตัวเองหลุดพ้นจากสถานการณ์น่าอึดอัดและน่าอายออกมาได้
เขาคิดไว้แล้วว่ายี่หวาคงไม่รับ แต่ก็อยากลองให้กับมือตัวเองดูสักครั้ง
เพราะข่าวลือที่ว่าเขาเป็นสตอล์คเกอร์คอยตามร่างสูงคงทำให้เจ้าตัวไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วย
พริ้มกระชับสายกระเป๋าก่อนจะหยุดยืนที่หน้าถังขยะ
ล้วงเอาช็อคโกแลตน่าขยะแขยงที่ซานตั้งให้ขึ้นมาถือไว้ระดับสายตา
จ้องรายละเอียดของกระดาษสีน้ำเงินที่แปะบนกระดาษสีส้มให้เป็นลายลูกวอลเล่ย์เงียบ ๆ
สักพักใหญ่ ๆ ก่อนจะตัดสินใจ…
ตุ้บ!
โยนมันทิ้งลงในถังขยะ…
#พริ้มเพียงหวา
9/8/18
สวัสดีค่ะ เบียเอง........
5555555555555555555555555
เรื่องนี้เกิดในโรงเรียน อซ เดียวกับพวกหนูเจ้ยนะคะ ถ้าได้อ่านในสเปเจ้ยอาจจะผ่าน ๆ ตามาว่าในวันวาเลนไทน์มีลูกพี่ลูกน้องของเก้าขึ้นไปเล่นเป็นมือเบสร่วมกับเก้ามือกีตาร์และเพลิงมือกลอง แต่เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากผ่านไป 1 ปี ก็คือพวกเก้าจบไปแล้ว ยี่หวาที่ตอนนั้นอยู่มอห้าก็ขึ้นมอหกค่ะ (มียัยสองส้มด้วย พิธีกรวันวาเลนไทน์ตลอดกาล)
โลเคชั่นและกฏเกณฑ์โรงเรียนจะอิง ๆ ของเกาหลีนิดนึงนะคะ ไม่ใช่เครื่องแบบรัฐร้อยเปอร์ อยากให้เด็ก ๆ ใส่ขายาวมากกว่าขาสั้น55555555 พวกเรื่องสีผมก็ยังเป็น parallel เหมือนเดิม เพราะเรื่องนี้ยี่หวาเป็นชานยอลในหัวม่วง คูลและดุ
ส่วนใครที่เข้ามาอ่านเพราะหวังว่าจะได้เจอพี่เก้ากับพี่เจ้ย ก็ขอแอบบอกเบา ๆ ว่าได้เจอแน่ ๆ เรื่องนี้ก็จะแต่งเป็นสองช่วงคือ มัธยมกับมหาลัย ไม่เกิน 20 ตอนหรือเกินแต่ก็ไม่มากไปกว่านี้แน่นอน พวกกิจกรรมและการเรียนไม่อิงของจริงนะคะ อิงจากเราเป็นหลัก อยากแต่งไรแต่ง ดังนั้นไม่อยากให้ซีเรียสมากนะคะ
ทอร์คยาวนิดนึงเพราะเป็นตอนแรกเนอะ เรากลับมาแต่งเด็กดีแล้ว ดังนั้นขอความร่วมมือ ถ้าอยากสนับสนุนเรื่องนี้ให้ไปต่อจนจบ รบกวนคอมเม้นท์หรือติดแท็ก แทนการกดใจทุกครั้งหลังอ่านเสร็จแทนนะคะ สลับกันก็ได้ คือไม่อยากให้กดใจจนเป็นนิสัย เพราะสิ่งที่ต้องการที่สุดคือข้อความเกี่ยวกับเรื่อง เราอยากรู้ว่าทุกคนอ่านแล้วรู้สึกอะไรบ้างเหมือนกับที่เราแต่งเพราะอยากให้ทุกคนรู้สึกสนุกไปด้วยกัน ดังนั้นการคอมเม้นท์และหรือติดแท็กดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหน ๆ ก็ตาม
ขอบคุณมากนะคะที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้ เกาะไหล่กันรอที่เรื่องนี้เลยค่ะ รัก ๆ แฟนฟิคทุกคนจากใจ
ความคิดเห็น