คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ★ Part Four
ซีวอนเดินหน้าตาบอกบุญไม่รับเข้ามาที่บ้านหลังใหญ่ของมารดา คุณหญิงมองใบหน้าหล่อเข้มที่เรียบตึงบุตรชายก็พอจะเดาออก
“ แกจะเอายังไงต่อไป ? ” คุณหญิงพูดพลางยกถ้วยน้ำชาขึ้นดื่ม
“ ผมว่าผมจะอยู่บ้านนี้กับคุณแม่ ปล่อยให้มันอยู่บ้านนั้นไปเถอะ ผมสั่งให้ทุกคนไม่ต้องไปยุ่งกับมัน ไม่ต้องไปทำงานบ้าน ไม่ต้องหาข้าวให้กิน ปล่อยให้เฉาตายไปเลย ”
ซีวอนเมื่อพูดถึงคิยูฮยอนขึ้นมาเมื่อไหร่ อารมณ์ก็พาลจะขึ้นซะทุกที
“ แม่ก็ว่าดีเหมือนกัน...ถ้ามันทนไม่ได้ก็ย้ายไปเอง” คุณหญิงเสริมความคิดลูกชายตนก่อนจะเริ่มเข้าเรื่อง
“ ซีวอน...เย็นนี้แม่นัดเพื่อนแม่ไว้จะไปทานข้าวด้วยกัน ไปกับแม่นะลูก ”
“ คุณแม่จะพาผมไปดูตัวใช่ไหมครับ ? ” ซีวอนพูดอย่างรู้ทัน เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มารดาพาผู้หญิงมาให้เขาเลือก แต่เขาก็ปฏิเสธทุกครั้งไป
“ จ้ะ ไปกับแม่นะลูกนะ ” คุณหญิงอ้อนลูกชาย
“ ไม่ละครับ ผมเบื่อ ผมไม่อยากไปไหนทั้งนั้น ” ซีวอนตอบปฏิเสธเหมือนทุกครั้ง
“ ไปกับแม่นะลูก แค่ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายแล้ว ถ้าไม่ชอบแม่จะไม่หามาให้อีก ” คุณขอร้องทั้งน้ำเสียงและแววตา ทำให้ซีวอนเริ่มใจอ่อน
“ ก็ได้ครับ ครั้งสุดท้ายแล้วนะครับ แล้วจะไปกี่โมงหรอกครับ ? ”
“ ตอนสองทุ่มที่โรงแรมเคนะลูก ”
“ แล้วเจอกันครับแม่ ” พูดจบก็รีบเดินออกจากบ้านทันที โดยที่ไม่รู้ว่าคยูฮยอนนั้นแอบฟังอยู่
“ เสร็จแน่ไอ้ซีวอน ” คยูฮยอนพูดอย่างมาดมั่น เขาจะทำให้รู้ว่าการที่พาผู้หญิงคนอื่นมาให้ดูตัวเป็นสิ่งที่ทั้งสองคิดผิด
ห้อง อาหารหรูภารในโรงแรมชื่อดัง วันนี้ดูมีลูกค้ามาใช้บริการกันอย่างหนาแน่น โต๊ะที่ซีวอนนั่งติดอยู่กับกระจกใสสามารถมองเห็นเมืองทั้งเมืองได้อย่าง ชัดเจน
“ หนูฟานี่จ๊ะ ว่างๆไปทานข้าวที่บ้านแม่นะจ๊ะ” คุณหญิงชวนทิฟฟานี่ซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวของเพื่อนตน
“ ค่ะคุณแม่” หล่อนพูดพลางยิ้มหวานจนตาทั้งสองปิด ซีวอนมีทีท่าสนใจหญิงสาวตรงหน้านี้พอสมควร
ดูจากกริยาท่าทางคำพูดต่างๆ บ่งบอกถึงการสั่งสอน
“ ทานกุ้งอบไวน์ดูนะครับ ... ที่นี่ขึ้นชื่อมากๆ ” ซีวอนตักกุ้งอบไวน์ตัวใหญ่ใส่จานของหญิงสาว
“ ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวเมื่อเห็นซีวอนครั้งแรกก็หลงรักเข้าทันที ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา ชาติตระกูล
แต่แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะอารมณ์สุนทรีย์ของเธอ
“ แหมคุณ จะหาเมียน้อยให้พี่ซีวอนทั้งที ไม่ชอบคิยูมาดูตัวด้วยคนละครับ พามาแต่พี่ซีวอนคนเดียว ”
เสียงของคยูฮยอนดังก่อนมาถึงโต๊ะ คุณหญิงมองมาด้วยความตกใจกับคำพูดของคยูฮยอน
ส่วน ซีวอนเขาถือช้อนค้างนิ่งเมื่อมองเรือนร่างของคยูฮยอน วันนี้ดูจะสะดุดตาด้วยกางเกงสีชมพูมีลายปะปนกับกระเป๋ากางเกงใหญ่ทั้งสอง ข้าง เสื้อกล้ามบางๆสีดำซึ่งขับผิวสีน้ำนมให้ดูสะดุดตาขึ้นไปอีก
ทั้งใบหน้าแต่งแต้มเพียงปากบางสีเชอร์รี่เคลือบมันวาวเท่านั้น ทำให้ริมฝีปากของคยูฮยอนเปล่งประกาย น่าจับไปบดบี้ยิ่งนัก ซีวอนรีบสลัดความคิดที่อยากจะครอบครองและแทะโลมไล้ร่างกายของคยูฮยอนออกไป ก่อนจะพูดเสียงลอดไรฟันด้วยความโกรธ
“ มาทำไม ? ” ซีวอนถามเมื่อคยูฮยอนเริ่มขยับกายมายืนอยู่ข้างๆเขา
“ พี่ซีวอนก็ถามโง่ๆ ก็มาตามผัวกลับบ้านไงครับ ~ ตัวเองมาดูตัวเมียน้อยปล่อยให้เมียหลวงอย่างผมนอนอยู่ที่บ้านคนเดียวได้ไง ” คยูฮยอนพูดพร้อมใช้ฝ่ามือบางลูบที่บ่ากว้างไปมาอย่างเย้ายวน และมันทำให้ซีวอนรู้สึกตื่นตัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก มือที่ถือช้อนสั่นจนคยูฮยอนสังเกตได้แต่ไม่รู้ว่ามันสั่นเพราะความโกรธหรือ ความต้องการกันแน่...
“ ใครเป็นผัวเธอไม่ทราบ ? ” ซีวอนกัดฟันถามอีกครั้ง
“ จะใครจะครับ คิยูมีผัวคนเดียวก็คือพี่ซีวอน หรือจะให้คิยูบอกต่อหน้าทุกคนดีว่าเราเป็นผัวเมียกันด้วยวิธีไหน ? ท่าไหน ? ที่ไหน ? ” คยูฮยอนพูดด้วยน้ำเสียงเย้ายวน คุณหญิงอายจนอยากจะหนีไปให้ไกลส่วนสองแม่ลูกอีกคู่ก็มีสีหน้าไม่ต่างกัน ซีวอนพยายามข่มความโกรธและความต้องการไว้ สิ่งที่เขาทำได้คือคำพูดที่เชือดเฉือน
“ ผัว ? ฉันเนี่ยนะผัวคนเดียว ใช่..ฉันเป็นผัวคนเดียวที่โง่ยอมไปจดทะเบียนสมรสกับเธอ ส่วนผัวคนอื่นๆที่เคยนอนกับเธอมันไม่โง่ไงเธอถึงจับพวกเขาไม่ได้” คำพูดของซีวอนที่สื่อความหมายว่าคิยูฮยอนน้องชายฝาแฝดของเขามั่วกับผู้ชายหลายคน ทำให้คยูฮยอนทนไม่ไหว ต้องตอกกลับให้สาสม..
“ รู้ด้วยหรอว่าตัวเองโง่...แต่มันก็สายไปแล้วละ เพราะว่าคนฉลาดอย่างผมได้นอนกอดทะเบียนสมรสได้เป็นลูกสะใภ้ของตระกูลชเวและ ได้ผัวโง่ๆมาครอบครองคนหนึ่ง ”
วาจาที่เผ็ดร้อนออกมาจากปากสีเชอร์รี่ของคยูฮยอนไม่หยุด ทำให้ซีวอนแทบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่ ได้แต่นั่งตัวสั่นหน้าแดงก่ำข่มความโกรธ และแล้วเสียงของคุณหญิงก็ดังขึ้นมา
“ นี่น่ะหรอลูกสะใภ้ที่พูดถึง ? ” คุณหญิงแม่ของหญิงสาวกล่าวดังขึ้นมา
“ ใช่..คนนี้แหละ ” คุณหญิงตอบเพื่อนรัก
“ นี่หนู..ที่นี่เขามีแต่ผู้ดีมีตระกูลเขามาทานข้าวกันนะจ๊ะ เขาไม่ต้องรับไพร่สถุล ไม่มีการศึกษาอย่างหนูหรอก ฉันว่าหนูกลับบ้านไปนอนกอดทะเบียนสมรสดีกว่านะ”
คำพูดที่นุ่มนวลแต่เจ็บจี๊ดไปถึงทรวง คำก็ไพร่สองคำก็ไม่มีการศึกษา รู้จักฤทธิ์ไอ้คยูน้อยไปซะแล้ว
ผู้ร่วมโต๊ะต่างก็อมยิ้มกับคำพูดที่เสียดสีของคุณหญิงเป็นอย่างมาก รู้สึกสะใจที่ได้เห็นใบหน้าหวานเริ่มแดงซ่านเพราะความโกรธ
“ งั้นหรอครับ คนที่นี่คงมีการศึกษาสูงนะครับถึงเอาลูกสาวตัวเองใส่พานยอมให้เป็นเมียน้อยของคนอื่น รู้ทั้งรู้ว่าเขามีเมียอยู่แล้ว และที่สำคัญเมียก็ยืนหัวโด่อยู่นี่ด้วย อยากรู้จริงๆเลยว่าคุณยายส่งลูกสาวไปเรียนที่ไหนครับถึงไม่รู้จัก อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้กับคำว่าหน้าด้าน นิยมเป็นเมียน้อยของคนอื่น ”
คุณหญิงแทบจะกรี๊ดแตกเมื่อได้ยินสรรพนามที่เรียกนางว่า ยาย และยิ่งโกรธมากขึ้นเมื่อเด็กรุ่นลูกพูดจาไม่ให้เกียรติ
“ แก !! ไอ้เด็กผิดเพศ เกิดมาไม่เคยเจอ เด็กอะไรทำไมถึงได้ปากคอเราะร้ายกับผู้ใหญ่ ฉันยังไม่แก่ขนาดที่แกจะมาเรียกชั้นว่ายายนะ ”
คุณหญิงพูดอย่างเหลืออด ส่วนมารดาของซีวอนต้องความหายาดมในกระเป๋าเพราะเธอกำลังจะเป็นลมกับฤทธิ์เดช ลูกสะใภ้ เมื่อก่อนคิยูฮยอนไม่เคยมีปากเสียงแบบนี้ แต่หลังจากออกไปจากบ้านครั้งนั้นสองสามวันก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน
“ โถ !! เรียก ยายน่ะถูกแล้วครับ ดูสิ ตีนกาขึ้นเต็มหน้าเลย ต่อให้ดึงหน้าตึงเป็นหนังกลองยังไงรอยตีนกาที่ประทับรากฝังลึกบนใบหน้าของ คุณยายมันก็ยังมองเห็นอยู่ดี ”
คุณหญิงชี้หน้าด่าคยูฮยอนอย่างไม่หลงเหลือความอดทน
“ แก !! ไอ้เด็กขายตัว ถ้าแกไม่มอมยาซีวอน แกก็ไม่มีวันจดทะเบียนกับเขาหรอกรู้ไว้ซะด้วย ”
“ ใช่ !! ผมมันขายตัว .. แล้วขายตัวนี่มันหนักส่วนไหนของพวกคุณไม่ทราบ พวกคุณดีเลิศประเสริฐศรีนักรึไง ? การที่พวกคุณมีการศึกษาที่ดี มีโอกาสมากกว่าคนอื่น มันไม่ช่วยให้จิตใจของพวกคุณสูงมากกว่าผมเท่าไหร่หรอกนะ เพราะอะไรรู้ไหม เพราะหัวใจของพวกคุณมันเต่ากว่าเท้าผมซะอีก คิดแต่เรื่องต่ำๆ ชอบเหยียบย่ำคนอื่น มองคนอื่นเหมือนหมูเหมือนหมา ทั้งๆที่พวกคุณกับผมก็อยู่บนแผ่นดินเดียวกัน”
วาจาที่กลั่นออกมาจากใจผสมกับความโกรธทำให้คนที่นั่งอยู่ถึงกับอึ้งกับคำเปรียบเปรยของคยูฮยอน
“ แสดงว่าคุณยอมรับว่าตัวเองเป็นโสเภณี” หญิงสาวที่ทนนั่งฟังมานานเริ่มปริปากพูด คยูฮยอนมองหน้าของหล่อนที่สวยพริ้ง มีเครื่องสำอางราคาแพงแต่งเติมบนใบหน้าให้ขาวผ่องและสวยสะดุดตา
“ และจะทำไม ? ” คยูฮยอนถามอย่างหยั่งเชิง ยืนกอดอกรอฟังคำตอบอย่างไม่เกรงกลัว
“ ก็ไม่ทำไมหรอก โสเภณีเป็นอาชีพหนึ่งที่ขายร่างกายเพื่อแลกกับเงิน แต่นายเก่งนะที่สามารถทำให้พี่ซีวอนจดทะเบียนสมรสได้ รู้ทั้งรู้ว่าพี่ซีวอนไม่เต็มใจ แต่ที่นายทำน่าเกลียดมากไปกว่านั้นคือ นายแสดงกำพืดตัวเองออกมาประจานให้บุคคลอื่นได้เห็น ไม่ว่าจะเป็นคำพูดคำจาหรือว่าการกระทำ นายอาจจะไม่อายแต่นายน่าจะนึกถึงคุณหญิงท่านบ้าง ที่สำคัญนายก็ต้องให้เกียรติสามีของนายด้วย ไม่ใช่จะมาทำกริยาต่ำๆแถวนี้ ” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ และมันกรีดลึกเข้าไปถึงหัวใจของคยูฮยอน แต่ก็ไม่แสดงสีหน้าโกรธออกมา สิ่งที่ทำได้ก็คือ..ยิ้มสู้
“ ขอบคุณนะสำหรับคำเตือน แต่ผมก็อยากเตือนลูกผู้ดีมีตระกูลอย่างคุณเหมือนกัน อย่าริอาจมาเป็นเมียน้อยของโสเภณีอย่างผมเลย รู้ถึงไหนอายถึงนั่น มีความรู้สูงแต่ไม่มีปัญญาหาผัว จะเสื่อมเสียวงศ์ตระกูลอันสูงส่งของคุณเปล่าๆ แม่คุณก็เหมือนกัน รู้ว่าพี่ซีวอนเขาแต่งงานแล้ว ก็ยังจะยอมให้คุณมาเป็นเมียน้อยของคนอื่นอีก แต่ขอโทษ เมียอย่างผมไม่มีวันยอม ผัวรวยๆ หล่อๆ แถมโง่อย่างนี้หายากนะครับ หายาก ”
คยูฮยอนร่ายยาวกระทบหลายคนที่อยู่ร่วมโต๊ะ คุณหญิงทั้งสองอึ้งเมื่อถูกย้อนอย่างเจ็บแสบ ซีวอนที่ทนเห็นกริยาของคยูฮยอนไม่ไหวจึงพูดแรกขึ้นมา
“ มานี่เลย..มา !! ”
ซีวอนคว้าข้อมือบางของคยูฮยอนโดยไม่สนใจใครทั้งสิ้น ก่อนจะลากโดยไม่สนใจเสียงร้องและแรงขัดขืนของร่างบางเลย ซีวอนลากคยูฮยอนมาถึงลานจอดรถ รีบเดินไปยังรถของตน จากนั้นก็เปิดประตูรถและยัดร่างบอบบางของคยูฮยอนให้นั่งด้านข้างคนขับ ส่วนเขาก็นั่งประจำที่คนขับรถ
“ ไอ้บ้าซีวอน ปล่อยนะโว้ย !! ” คยูฮยอนตะโกนลั่นรถ หากแต่ซีวอนยังคงนั่งนิ่งขับรถต่อไปอย่างไม่สนใจ เขาขับรถมาเรื่อยๆจนออกนอกเมือง คยูฮยอนเอาแต่มองข้างทางที่มีอาคารบ้านเรือนหนาแน่น แต่ตอนนี้เริมเบาบางลง
“ นายจะไปไหน ? ” คยูฮยอนพูดในขณะที่สายตายังคงมองข้างทาง
“…..” เงียบไม่มีเสียงตอบจากเขา
“ หูหนวกรึไง ผมถามว่าจะไปไหน ?!! ” คยูฮยอนตะโกนถามดังลั่น ซีวอนเบรกรถอย่างแรงจนได้ยินเสียงเอี๊ยดอ๊าดดังไปทั่ว ดีที่ว่าเขาคาดเข็มขัดไว้ ไม่งั้นมีหวังหน้าทิ่มแหง
“ ไอ้บ้า...จะฆ่ากันหรือไงวะ ?” คยูฮยอนตวาดลั่น มือหนาของซีวอนปลดเข็มขัดของตนออกก่อนจะหันมาปลดของร่างบาง ซึ่งได้แต่มองการกระทำของเขาอย่างงงๆ
“ ปากดีนัก...ไหนลองชิมหน่อยสิว่าของโสโครกอย่างเธอ รสชาติมันจะเป็นยังไง ”
พูดจบร่างกำยำของซีวอนก็โถมเข้าหาคยูฮยอนทันที โดยที่คยูฮยอนเองไม่มีโอกาส ซีวอนเอื้อมมือไปกดปุ่มที่ทำให้เบาะเอนไปจนสุด ทำให้ร่างบางขยับเขยื้อนไม่ได้ สีหน้าของคยูฮยอนเต็มไปด้วยความตกใจและตื่นเต้น หัวใจของเขาเต้นเร็วรัวเหมือนมีคนร้อยๆคนมาตีกลองอยู่ในหัวใจ ซีวอนใช้มือของเขาอีกข้างจับหมับที่ท้ายทอยสวยและรั้งให้ใบหน้าหวานเข้ามา ใกล้ใบหน้าหล่อเข้มของเขา จนกระทั่งริมฝีปากของทั้งสองแนบชิดสนิทกัน
เหมือนมีไฟกองใหญ่กำลังสุมไปทั่วร่างบาง ความร้อนเร่ากับการบดจูบของซีวอนทำให้เขาไปไม่เป็นเลยทีเดียว เรียวลิ้นหนาชำแรกผ่านไรฟันของคยูฮยอนจนได้สัมผัสกับเรียวลิ้นที่อ่อนนุ่ม ทันทีที่ลิ้นสากแตะสัมผัสกับเรียวลิ้นนุ่ม หัวใจของเขาก็เต้นเร็วอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน มันเหมือนหนุ่มน้อยที่พึ่งเคยลิ้มลองการจูบเป็นครั้งแรก ซึ่งความเป็นจริงแล้ว เขาผ่านอะไรหลายอย่างมามากพอควร
มือของคยูฮยอนทุบไปทุกๆที่ที่จะทุบได้ ความเจ็บจากการทุบตามตัวไม่สามารถหยุดการรุกรานของเรียวปากหนานี้ได้ เพราะเขาทั้งดึงดูดเกี่ยวกระหวัดเรียวลิ้นจนมือของคยูฮยอนเริ่มอ่อนแรงลงเรื่อยๆ สมองเหมือนขาดออกซิเจนไปชั่วคราว เสียงครางแสดงความพอใจของซีวอนดังคริ้มอยู่ที่ลำคอ เขายังคงหาความหวานจากเรียวปากอย่างไปรู้จักพอ
ซีวอนผละริมฝีปากออกเมื่อเห็นว่าคยูฮยอนเริ่มหมดแรงจะหายใจ เมื่อเรียวปากทั้งสองแยกจากกัน คยูฮยอนรีบเอามือมาปิดปากตนเองทันที ราวกับว่าไม่อยากให้เหตุการณ์เมื่อครู่เกิดขึ้นอีก
“นึกหรอว่าเธอปิดปากแล้วฉันจะจูบเธอไม่ได้ หื้ม ? ” ซีวอนพูดชิดใบหน้าหวานที่ตอนนี้แดงซ่านไปจนถึงลำคอสวย คยูฮยอนไม่ตอบแต่ยังคงปิดปากแน่นอยู่แบบนั้น
“ งั้นมาลองดูกัน”
ซี วอนซุกไซร้ใบหน้าไปที่ลำคอระหง ก่อนจะใช้ไรหนวดถูไถไปมาเบาๆ เรียวปากหนาสัมผัสกับลำคอนวลเนียนไปมาอย่างเชื่องช้า ใช้ลิ้นสากลากไล้ไปตามแนวลำคอ ก้มต่ำลงมาเรื่อยๆจนถึงร่องอกที่สะท้านไหวด้วยแรงหอบ คยูฮยอนรวบรวมสติและกำลังทั้งหมด ผลักใบหน้าที่กำลังซุกไซร้ออกอย่างแรง
“ พะ..พอแล้ว หยุด”
เสียง ของคยูฮยอนแม้จะดังแต่ก็สั่นไหวด้วยความกลัวผสมกับความเสียวสะท้าน ซีวอนยิ้มกริ่มเมื่อพบว่าเขาเป็นฝ่ายชนะ สายตาคมมองมาที่ร่างบางด้วยสายตากรุ้มกริ่มและโลมเลีย คยูฮยอนนึกหวาดกับสายตาคู่นี้เหลือเกิน
“ ถอยออกไปสิครับ...หนักจะตายอยู่แล้ว” คยูฮยอนเริ่มพูดเพราะขึ้น แต่เสียงก็ยังสั่นอยู่ดี
“ โดนจูบทีเดียวพูดเพราะเลยนะจ๊ะ...เมียจ๋า ” ซีวอนพูดจบประโยคท้ายก็ลากเสียงยาว
“ ใครเป็นเมียนายไม่ทราบ ? ”
“ อ้าว !! ก็เธอไง ทีเมื่อกี้ยังยัดเยียดความเป็นเมียให้ชั้นอยู่เลย ”
ซีวอนพูดพร้อมแทะโลมที่ไหล่เนียน ทำให้คยูฮยอนต้องดิ้นขลุกขลักหนีการเล้าโลมของเขา
“ ชั้นไม่ใช่เมียนาย...นายก็รู้ว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“ เมื่อก่อนน่ะใช่ แต่ตอนนี้ไม่”
ซี วอนพูดจบก็ประกบปากบางทันที ใช้เรียวลิ้นสยบความพยศของคยูฮยอนได้นิ่งสนิท ด้วยความคับแคบของรถบวกกับแรงมหาศาลของซีวอน ทำให้ร่างกายไม่อาจต่อต้านได้
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะกระจกดังขึ้น ดีนะที่ติดฟิล์มกรองแสงไว้ จึงไม่สามารถเห็นเหตุการณ์ในรถได้
“ อย่าดื้อนะ...ไม่งั้นชั้นจับปล้ำในรถเนี่ยแหละ ”
คยูฮยอนหน้างอเมื่อได้ยินคำสั่งของซีวอน ‘ แล้วเมื่อกี้ยังไม่เรียกว่าปล้ำอีกหรอวะ ’ คยูฮยอนบ่นในใจ
“ มีอะไรหรอครับคุณตำรวจ ?” ซีวอนลดกระจกลงและเอ่ยถามตำรวจด้วยรอยยิ้ม
“ พอดีผมผ่านมา นึกว่ารถของคุณเสีย เลยจะมาถามให้แน่ใจน่ะครับ” นายตำรวจถามพลางเหลือบสายตามองที่คยูฮยอนที่นั่งก้มหน้านิ่ง
“ ไม่มีอะไรหรอกครับ เมียผมงอนผมเลยจอดรถง้อหน่ะครับ ” ซีวอนตอบอย่างไม่มีพิรุธ ก่อนจะเสมองหน้าหวานที่เงยหน้ามาพอดี
“ งั้นขอโทษที่ขัดจังหวะนะครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ” นายตำรวจรีบวิ่งขึ้นรถ ทันทีที่รถตำรวจออกไป
คยูฮยอนก็เปิดฉากรบกับซีวอนทันที
“ พาผมกลับบ้านเดี๋ยวนี้นะ !! ”
“ แล้วทีเมื่อกี้ไม่บอกตำรวจเขาละ เผื่อเขาช่วยได้ ”
ซีวอนถามด้วยรอยยิ้ม ส่วนคยูฮยอนทำได้เพียงฮึดฮัดและใช้มือทุบไปที่เบาะนั่งเท่านั้น
“ เงียบทำไม ที่ไม่พูดเพราะกลัวชั้นจะปล้ำรึไง ? หึหึ ”
เสียงของซีวอนมันกวนอารมณ์เขาสุดๆ คยูฮยอนจึงตวัดมือฟาดไปที่ใบหน้าของซีวอนอย่างแรง ใบหน้าคมสันหันไปตามแรงตบก่อนจะหันมามองหน้าหวานด้วยใบหน้าที่เรียบตึงดุดัน ดวงตาฉายแววโกรธจน คยูฮยอนรู้สึกกลัวว่าจะตายคามือของซีวอน
หาก แต่ของคิดผิด เพราะซีวอนไม่ทำอะไรเขา หากแต่ขับรถมุ่งทะยานไปตามท้องถนน แต่ความเร็วแรงของรถทำให้เขากลัว คยูฮยอนนั่งตัวเกร็งตลอดทาง ความเงียบเข้าปกคลุม คยูฮยอนไม่รู้เลยว่าความเงียบของเขาคือการก่อเกิดพายุลูกใหญ่ที่มีกำลัง มหาศาลกำลังพัดพาเขาไปอีกโลกที่เขาไม่รู้จัก
ความคิดเห็น