วิธีเรียนของคนที่สอบไม่ติด TT (รับรองว่าโดนใจเด็กไทย 96 % )

ข้อมูลเบื้องต้น

Lesson1: what the 96% do ?

เด็กไทย 96% มีวิธีการเรียนอย่างไร

เมื่อสมัยประถม ผมเป็นเด็กคนหนึ่งที่เคยสอบได้เกรดเฉลี่ยสูงๆ ได้ 3.5 , 3.8 , 4.00 เกรดเฉลี่ยในเเต่ละเทอมมักไม่ต่ำกว่านี้ ดังนั้นเมื่อถึงช่วงเวลาสำคัญที่สุดในชีวิตครั้งเเรกของบางคนคือต้องการสอบให้ติด รร.มัธยมชื่อดัง ก็ย่อมหวังลึกๆในใจก่อนสอบว่า "เรามันก็เจ๋งละวะ ได้เกรดตั้งขนาดนี้ ถ้าเราไม่ติด รร.xxxx เเล้วไครหน้าไหนมันจะติด 555+"

เมื่อได้ไปสอบจริง ก็รู้สึกว่า " ทำได้เว้ย ติดชัว \[o_O]i "

เเต่เมื่อถึงเวลาประกาศผลสอบ กลับกลายเป็นว่า สอบไม่ติด!!!!!

ที่น่าอนาถใจคืองี่xxx เเล้วไม่รู้ตัวนี่เเหละครับ สุดเซ็งเลย

เเต่ตอนนี้ เมื่อมองย้อนกลับไป พี่หงวนรู้เเล้วว่าเป็นเพราะอะไร นั่นเป็นเพราะการ "จำไปสอบ" เเละผมเชื่อว่าเด็กไทย 96 % ก็กำลังมีวิธีการเรียนในเเบบที่กำลังจะพูดถึงต่อไปนี้

                   "วงจรอุบาทว์" ควรหลีกเลี่ยงให้ไกลจากชีวิตการเรียน

จากเเผนภาพวงจรอุบาทว์ ขยายความได้ดังนี้ เมื่ออาจารย์สั่งการบ้าน หรือเเบบฝึกหัด เราก็ไปเอาไปทำบ้าง ลอกเพื่อนบ้าง จากนั้นก็เอาไปส่ง ส่งเสร็จอาจารย์ก็ตรวจเเล้วเฉลยให้ดู หลังจากนั้น เราก็ทำความเข้าใจ เเละจำ จำในที่นี้คือจำว่าโจทย์เเบบนี้ ทำเเบบนี้ หลังจากนั้นก็ไปสอบ โดยข้อสอบสมัยประถม มักจะเป็นการบ้านหรือเเบบฝึกหัดนั่นเเหละที่เอามาเวียนเทียนออกข้อสอบ ทำไม่ได้ก็เเปลกเเล้วเเหละครับ เอานกเเก้มาเรียนมันก็ทำได้นะ

เด็กที่มีเเนวคิดในการเรียนเเบบวงจรอุบาทว์นี้ มักจะสอบได้เกรดดีๆใน รร. เเต่พอเอาเข้าจริงก็มักจะสอบไม่ติดในการสอบเเข่งขัน ซึ่งสำหรับผมเเล้วมันดูไร้ประโยชน์มากเลยนะครับ เป้าหมายปลายทางที่สุดยอดนั้น เเท้จริงเเล้วคือการสอบติดมหาลัยดีๆ ในคณะที่เราอยากเรียนมิใช่หรือครับ

เเนวความคิดของเด็กส่วนใหญ่ที่เรียนเเบบนี้คือ หวังว่าจะเจอสิ่งที่ได้ท่องจำมาเเล้วในข้อสอบ ข้อสอบจะออกเเค่ตามหนังสือที่อาจารย์ให้มาเท่านั้น นั่นก็เป็นเพราะตัวอาจารย์เองนั้นเเหละครับที่ปลูกฝังวิธีคิดเเบบผิดๆเหล่านี้โดยไม่รู้ตัวผ่านทางวิธีออกข้อสอบโดยการนำการบ้านหรือโจทย์ที่เด็กเคยทำมาออกสอบ เมื่อเด็กเคยจำไปสอบเเล้วทำได้ พวกเขาจะเกิดความเข้าใจผิดว่านี่คือหนทางสู่ความสำเร็จ เเละนำไปใช้ไปเรื่อยๆ ผมเรียกอาการนี้ว่าความหลังฝังใจครับ เเละถ้าบางคนที่อาการหนักๆ ชีวิตนี้อาจไม่ยอมคิดอะไรอีกเลย ชั่วชีวิตจะไม่มีวันได้คิดอะไรใหม่ๆ จะทำงานอะไรใหม่ๆสักอย่างก็จะทำไม่ได้ เพราะหลายๆอย่างที่เฉพาะทางมากๆมันไม่มีให้ลอกนะครับ บน google ก็อาจไม่มี

เชื่อว่าเกือบทุกคนที่ผ่านมาอ่านบทความนี้เเละมีวิธีเรียนเเบบนี้คงประสบผลการเรียนเเบบเดียวกับผมตอนประถมนี่เเหละครับ คือสอบไม่ติด รร.มัธยมชื่อดัง หรือสอบเอนทรานวิชาคณิตศาสตร์ได้คะเเนนน้อยๆ ไม่เกิน 50 จาก 100 คะเเนนเเน่ๆครับ

สรุปว่า สาเหตุที่คน 96 คนสอบได้คะเเนนเอนทรานซ์ต่ำกว่า 50 จาก 100 คะเเนน เป็นเพราะการ "จำไปสอบ" วิธีนี้ จะทำได้เเค่โจทย์ที่เคยเห็นเท่านั้น ถ้าไม่เคยเห็น จะไม่มีทางทำได้ เราไม่สามารถจดจำโจทย์ทุกเเบบบนโลกใบนี้ได้หรอกครับ เลิกคิดใช้วิธีนี้ซะเถอะ

บทความต่อไปจะมาบอกว่า เเนวทางการเเก้ปัญหาที่ผมจะเสนอต่อไปนั้น เเก้ไขถูกจุดหรือไม่ ซึ่งผมคิดว่าถูกจุดเเน่นอนครับ

อ่านเเล้วกด like ที่หน้า page ของ "POWER BRAIN A+" ให้ด้วยครับ

http://www.facebook.com/pages/Power-Brain-A/263202670361424

ขอบคุณมากครับ

พี่หงวน

เนื้อเรื่อง

Lesson1: what the 96% do ?

โดย Power Brain A+ : http://www.facebook.com/pages/Power-Brain-A/263202670361424

เด็กไทย 96% มีวิธีการเรียนอย่างไร

เมื่อสมัยประถม ผมเป็นเด็กคนหนึ่งที่เคยสอบได้เกรดเฉลี่ยสูงๆ ได้ 3.5 , 3.8 , 4.00 เกรดเฉลี่ยในเเต่ละเทอมมักไม่ต่ำกว่านี้ ดังนั้นเมื่อถึงช่วงเวลาสำคัญที่สุดในชีวิตครั้งเเรกของบางคนคือต้องการสอบให้ติด รร.มัธยมชื่อดัง ก็ย่อมหวังลึกๆในใจก่อนสอบว่า "เรามันก็เจ๋งละวะ ได้เกรดตั้งขนาดนี้ ถ้าเราไม่ติด รร.xxxx เเล้วไครหน้าไหนมันจะติด 555+"

เมื่อได้ไปสอบจริง ก็รู้สึกว่า " ทำได้เว้ย ติดชัว \[o_O]i "

เเต่เมื่อถึงเวลาประกาศผลสอบ กลับกลายเป็นว่า สอบไม่ติด!!!!!

ที่น่าอนาถใจคืองี่xxx เเล้วไม่รู้ตัวนี่เเหละครับ สุดเซ็งเลย

เเต่ตอนนี้ เมื่อมองย้อนกลับไป พี่หงวนรู้เเล้วว่าเป็นเพราะอะไร นั่นเป็นเพราะการ "จำไปสอบ" เเละผมเชื่อว่าเด็กไทย 96 % ก็กำลังมีวิธีการเรียนในเเบบที่กำลังจะพูดถึงต่อไปนี้

"วงจรอุบาทว์" ควรหลีกเลี่ยงให้ไกลจากชีวิตการเรียน

จากเเผนภาพวงจรอุบาทว์ ขยายความได้ดังนี้ เมื่ออาจารย์สั่งการบ้าน หรือเเบบฝึกหัด เราก็ไปเอาไปทำบ้าง ลอกเพื่อนบ้าง จากนั้นก็เอาไปส่ง ส่งเสร็จอาจารย์ก็ตรวจเเล้วเฉลยให้ดู หลังจากนั้น เราก็ทำความเข้าใจ เเละจำ จำในที่นี้คือจำว่าโจทย์เเบบนี้ ทำเเบบนี้ หลังจากนั้นก็ไปสอบ โดยข้อสอบสมัยประถม มักจะเป็นการบ้านหรือเเบบฝึกหัดนั่นเเหละที่เอามาเวียนเทียนออกข้อสอบ ทำไม่ได้ก็เเปลกเเล้วเเหละครับ เอานกเเก้มาเรียนมันก็ทำได้นะ

เด็กที่มีเเนวคิดในการเรียนเเบบวงจรอุบาทว์นี้ มักจะสอบได้เกรดดีๆใน รร. เเต่พอเอาเข้าจริงก็มักจะสอบไม่ติดในการสอบเเข่งขัน ซึ่งสำหรับผมเเล้วมันดูไร้ประโยชน์มากเลยนะครับ เป้าหมายปลายทางที่สุดยอดนั้น เเท้จริงเเล้วคือการสอบติดมหาลัยดีๆ ในคณะที่เราอยากเรียนมิใช่หรือครับ

เเนวความคิดของเด็กส่วนใหญ่ที่เรียนเเบบนี้คือ หวังว่าจะเจอสิ่งที่ได้ท่องจำมาเเล้วในข้อสอบ ข้อสอบจะออกเเค่ตามหนังสือที่อาจารย์ให้มาเท่านั้น นั่นก็เป็นเพราะตัวอาจารย์เองนั้นเเหละครับที่ปลูกฝังวิธีคิดเเบบผิดๆเหล่านี้โดยไม่รู้ตัวผ่านทางวิธีออกข้อสอบโดยการนำการบ้านหรือโจทย์ที่เด็กเคยทำมาออกสอบ เมื่อเด็กเคยจำไปสอบเเล้วทำได้ พวกเขาจะเกิดความเข้าใจผิดว่านี่คือหนทางสู่ความสำเร็จ เเละนำไปใช้ไปเรื่อยๆ ผมเรียกอาการนี้ว่าความหลังฝังใจครับ เเละถ้าบางคนที่อาการหนักๆ ชีวิตนี้อาจไม่ยอมคิดอะไรอีกเลย ชั่วชีวิตจะไม่มีวันได้คิดอะไรใหม่ๆ จะทำงานอะไรใหม่ๆสักอย่างก็จะทำไม่ได้ เพราะหลายๆอย่างที่เฉพาะทางมากๆมันไม่มีให้ลอกนะครับ บน google ก็อาจไม่มี

เชื่อว่าเกือบทุกคนที่ผ่านมาอ่านบทความนี้เเละมีวิธีเรียนเเบบนี้คงประสบผลการเรียนเเบบเดียวกับผมตอนประถมนี่เเหละครับ คือสอบไม่ติด รร.มัธยมชื่อดัง หรือสอบเอนทรานวิชาคณิตศาสตร์ได้คะเเนนน้อยๆ ไม่เกิน 50 จาก 100 คะเเนนเเน่ๆครับ

สรุปว่า สาเหตุที่คน 96 คนสอบได้คะเเนนเอนทรานซ์ต่ำกว่า 50 จาก 100 คะเเนน เป็นเพราะการ "จำไปสอบ" วิธีนี้ จะทำได้เเค่โจทย์ที่เคยเห็นเท่านั้น ถ้าไม่เคยเห็น จะไม่มีทางทำได้ เราไม่สามารถจดจำโจทย์ทุกเเบบบนโลกใบนี้ได้หรอกครับ เลิกคิดใช้วิธีนี้ซะเถอะ

บทความต่อไปจะมาบอกว่า เเนวทางการเเก้ปัญหาที่ผมจะเสนอต่อไปนั้น เเก้ไขถูกจุดหรือไม่ ซึ่งผมคิดว่าถูกจุดเเน่นอนครับ

อ่านเเล้วกด like ที่หน้า page ของ "POWER BRAIN A+" ให้ด้วยครับ

http://www.facebook.com/pages/Power-Brain-A/263202670361424

ขอบคุณมากครับ

พี่หงวน