คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : [1] I'M NOT BAD CHANYEOL
実行しないでください。
…ยังไงนายก็หนีฉันไม่พ้นหรอก…
“…ฮึ” เสียงครางแผ่วเบาเล็กลอดออกจากลำคอของร่างบางตรงหน้าทำให้ชานยอลลอบยิ้มในใจ ริมฝีปากหนาของเขาค่อยๆเลื่อนออกอย่างเชื่องช้า ก่อนจะก้มลงประทับรอยคิสมาร์กบนลำคอขาวเนียนของคนร่างเล็กซ้ำไปซ้ำมา
แบคฮยอนที่ถูกมอมเมาด้วยฤทธิ์ยายกมือเรียวสวยขึ้นมาปิดปากของตนเองเพื่อข่มอารมณ์ที่กำลังจะปะทุขึ้นอีกครั้ง มืออีกข้างวางทาบบนแผงอกกว้างที่โผล่ออกมาจากเสื้อกล้ามสีดำสนิท ตอนนี้ยอมรับจริงๆว่าสติของเขาถูกย้อมไปด้วยสีขาวโพลน หากไม่หาที่ยึดดีๆเอาไว้ อีกไม่นานคงมีหวังล่วงลงไปกองบนซีเมนต์เย็นๆนี้แน่ ดังนั้นแบคฮยอนจึงตัดสินใจละมือที่ปิดปากตัวเองไว้มาคล้องลำคอของคนตรงหน้า แม้ว่าการกระทำนั่นจะเหมือนเป็นการเชิญชวนก็ตาม
“พะ พอแล้ว…” ใบหน้าสวยแหงนขึ้นอย่างข่มอารมณ์ แต่นั่นก็กลับเป็นโอกาสให้ชานยอลรุกเร้ายิ่งกว่าเดิม มือหนาวางทาบลงกับสะโพกกลมมนเพื่อล็อกการขัดขืน จมูกโด่งสวยไล้ลงตามส่วนโค้งเว้าของร่างกายอย่างชำนาญ จนแบคฮยอนอดไม่ได้ที่จะยกมือปิดปากสะกดกั้นเสียงของตนเองที่ดังขึ้นกว่าเมื่อกี้อีกครั้ง
“บยอนแบคฮยอน มีดีแค่นี้เหรอ” คำดูถูกเหยียดหยามของชานยอล ทำให้แบคฮยอนรู้สึกเหมือนถูกน้ำเย็นสาดใส่หน้า ร่างสูงผุดลุกขึ้นยืนแล้วจ้องเข้าไปในดวงตาเรียวเล็กที่ชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตา ก่อนจะผลักร่างเล็กของแบคฮยอนชนกับกำแพงอย่างรุนแรง ความเจ็บปวดที่แล่นมาจากสะโพกและศีรษะทำให้แบคฮยอนไม่มีเรี่ยวแรงที่จะพยุงตนเองให้ยืนขึ้นได้
เพล้ง!!!!
เพราะบนดาดฟ้าในตอนนี้มีลมกรรโชกแรงมาก แก้วทรงสูงที่มีของเหลวข้นสีดอกอัญชันจึงถูกพลัดตกลงมาแตกข้างๆเท้าของเขา ชานยอลมองเหล้าบลูฌาคส์ที่ไหลย้อนไปทิศทางเดียวกับลม ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองกลุ่มเมฆฝน
ไม่ทันที่เขาจะย้ายร่างบางเข้าไปจัดการในโรงรถต่อ ฝนห่าใหญ่ก็สาดเทลงมาทันที
จะผิดไหม ถ้าเขาอนุญาตให้ร่างบางนี้นอนนิ่งปล่อยให้สายฝนที่ค่อยๆพรำลงมาต่อไป
เผื่อบางทีมันจะช่วยชำระความเจ็บปวดทั้งร่างกายและภายในจิตใจของเหยื่อของเขาได้บ้าง
ชานยอลปัดผมหน้าม้าของตนเองขึ้น ก่อนจะเดินไปหยิบกระติกน้ำแข็งเทใส่ใบหน้าของแบคฮยอนอย่างใจเย็น
สติของร่างเล็กถูกเรียกกลับมาอีกครั้ง ร่างกายสีซีดสั่นเทาด้วยความเหน็บหนาว มือที่แทบไร้ความรู้สึกทั้งสองยกขึ้นวางทาบหน้าอกของตนเอง
“จงอิน…” อาจจะเป็นเพราะสติของเขาถูกทำลายไปตั้งแต่รับค็อกเทลสีน้ำเงินแก้วนั่นแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโชคร้ายหรือโชคดีของแบคฮยอนที่ไม่สามารถมองเห็นคนที่กำลังฆ่าเขาทั้งเป็นในคืนนี้ แต่อาจจะเป็นโชคดีก็ได้เพราะเขาก็ไม่อยากจดจำมันเท่าไหร่นัก และไม่อยากรับรู้ด้วยว่าผู้ชายผมปิดครึ่งหน้าคนนี้อาจจะเป็นคนใกล้ตัวของเขาเอง
…การโดนลอบทำร้ายเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยๆในชีวิตของคนโชคร้ายอย่างแบคฮยอน แต่เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่รู้สึกชินสักที ทั้งที่จิตใจมันน่าจะด้านชาไปตั้งนานแล้ว
หรือเพราะครั้งนี้มันเกินไปจริงๆ
“…จงอินเหรอ?” ริมฝีปากบางเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
พอได้ยินแบคฮยอนเรียกหาบุคคลที่สาม ชานยอลก็ชะงักเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหัวเบาๆ
ขายาวลากเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
“ทนอีกนิดนะ” ชานยอลก้มตัวลงลูบไล้กลีบปากที่บวมเจ่อของคนตรงหน้าอย่างแผ่วเบา สายฝนที่เริ่มทำท่าว่าจะตกกระหน่ำลงมาอย่างหนักนั้นคงพัดพาไอเย็นมาด้วย ทำให้อุณหภูมิบนตึกระฟ้าค่อนข้างจะเย็นจัด จึงไม่แปลกถ้าหากริมฝีปากและร่างกายของแบคฮยอนจะเปลี่ยนเป็นสีซีดขาวราวกับกระดาษ
“ฉันผิดอะไร” ชานยอลไม่ตอบคำถามของร่างบาง เขาเพียงวางมือลงบนกลุ่มผมที่เปียกลู่ของแบคฮยอนอย่างเบามือ ก่อนที่เรียวนิ้วยาวจะเกี่ยวเส้นผมแล้วดึงขึ้น
“เขาบอกว่าผิดที่คนอย่างนายมันทำตัวน่าขยะแขยงน่ะ” ชานยอลกดเสียงต่ำลงข้างหูแบคฮยอนก่อนจะสะบัดข้อมือทิ้งศีรษะเล็กของแบคฮยอนลงกระแทกกับพื้น
“…ไม่”
เสียงหวานที่เริ่มจะแหบพร่าเล็ดลอดออกจากริมฝีปากบางเป็นครั้งสุดท้ายก่อนสติจะดับวูบลง
ยิ่งเห็นเจ้านั่นนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดทรมาน
ยิ่งเห็นมันนอนแน่นิ่งราวกับซากศพ
ใครบางคนที่อยู่ในซุปเปอร์คาร์คันหรูยิ่งส่งเสียงหัวเราะดังขึ้นราวกับมันเป็นเรื่องสนุก
แต่ผิดกลับอีกคนที่กำลังพยายามกลั้นเสียงสะอื้นของตนเอง ใบหน้าเล็กค่อยๆฝังลงบนฝ่ามืออย่างปวดร้าว
ใช่ บนดาดฟ้านี้ ไม่ได้มีแค่ 2 คน ตัวละครไม่ได้มีเพียงชานยอล และ แบคฮยอน เท่านั้น
หากแต่มีผู้กำกับ และ ผู้ชมอีกสองคนที่ซ่อนอยู่ในโรงรถ…
รวมทั้งหมดก็เป็น 4 คนตามบทที่วางไว้
ชายที่อยู่ในชุดสูทราคาแพงขยำกระดาษทิ้งอย่างอารมณ์ดี หลังจากละครเรื่องนี้ได้ปิดฉากลงแล้ว
ชานยอลซบหน้าลงกับคอนโซลรถอย่างอ่อนล้าทันทีที่เข้ามานั่งในรถหรู ภาพแสงไฟจากหน้ารถสาดกระทบไปยังร่างบางที่นอนนิ่งกลางสายฝน ทำให้จงอินที่เฝ้ามองอยู่ในรถตั้งแต่แรกนั้นยกมุมปากขึ้นอย่างพอใจอีกครั้ง มือหนาหยิบเสื้อโค้ทหนามาคลุมร่างที่เปียกปอนของชานยอล ก่อนจะเอื้อมมือไปสัมผัสกลุ่มผมสีคาราเมลเปียกชื้น
“ทำได้ยอดเยี่ยมทีเดียวล่ะ”
“เออ เอามือออกไป” จงอินเพิ่มแรงกดมากขึ้นกว่าเดิม จนชานยอลต้องยกมือขึ้นปัดมันออกไปจากศีรษะของเขาด้วยความรำคาญ
“แล้วที่ตกลงกันไว้?”
“ 4,000,000 วอน…น้อยไปหรือเปล่า?” จงอินหัวเราะ บัตรเครดิตไม่จำกัดวงเงินถูกทิ้งลงบนตักของชานยอลราวกับเป็นของไร้ค่า
“โบนัสพิเศษสำหรับผลงานชิ้นโบแดง” ริมฝีปากหนาเอ่ยพลางปรายตามองกระจกที่สะท้อนภาพของชายหนุ่มร่างเล็กคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงเบาะหลัง
เมื่อชายเจ้าของนัยน์ตากลมโตเผลอสบตากับจงอินในกระจก เขาจึงรีบเบือนหน้าหนีทันที เพื่อไม่ให้คนที่จ้องมองเขาอยู่สังเกตเห็นน้ำตา
…เขาไม่อยากเป็นคนที่อ่อนแอในสายตาของผู้ชายคนนั้น
“ลองมาคิดดูอีกที ฉันว่าทำแบบนี้มันก็เกินไปจริงๆว่ะ”
“หืม ว่าไงนะ” จงอินขมวดคิ้วแล้วหันกลับมาจ้องชานยอลที่ยังคงซบหน้าอยู่ในท่าเดิมด้วยแววตาที่แข็งกร้าว
“ต้องการเงินอีกหรือไง”
“เปล่า”
“เหรอ ฉันคิดว่าโฮสต์อย่างแกมันได้เท่าไหร่ก็ไม่เคยพอซะอีก” ริมฝีปากหนาก้มกระซบลงข้างหูของชานยอลอย่างยียวน
คนที่ถูกคำพูดเสียดสีเงยหน้าขึ้นมองจงอินตาด้วยสายตาที่เย็นชาทันที
“ทำธุรกิจกับฉัน ก็น่าจะรู้อยู่แล้วนี่” ชานยอลเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าที่วางอยู่หน้ารถแล้วผลักประตูรถออกไป คิ้วหนาขมวดเป็นปมด้วยความแปลกใจในการกระทำของชานยอล ก่อนจะหัวเราะลั่นเมื่อได้ยินคำทิ้งท้ายที่แสนจะประชดประชันของเพื่อนรัก
ธุรกิจ? ทั้งที่เกลียดอาชีพโฮสต์นัก แล้วทำมันทำไม ไม่เข้าใจจริงๆ
อ้อ ลืมไป ชานยอลมันเป็นโรคติดเซ็กซ์
“ฉันนึกไม่ถึงเลยว่ะ ว่าคนเลวๆอย่างแกจะอ่อนโยนกับเหยื่อแบบนี้” หนุ่มผิวสีแทนส่งสายตาล้อเลียนให้ชานยอล
ร่างสูงเพียงยิ้มเฝื่อนๆ ก่อนจะโบกมือเป็นเชิงลา แต่พอเดินจากไปไม่กี่ก้าว ก็ถอยหลังกลับมายืนนิ่งอยู่ข้างกระจกรถคันหรูที่คยองซูเอาหน้าผากซบอยู่ แสงไฟสลัวในรถทำให้ชานยอลเห็นข้อมือเรียวสวยนั้นถูกล็อกด้วยกุญแจมือ นัยน์ตาของเขาฉายแววรู้สึกผิดวูบหนึ่ง เมื่อคยองซูช้อนตามองเขาอย่างเลื่อนลอยราวกับคนไร้สติ นิ้วเรียวยาวของชานยอลลากลงบนกระจกที่ปกคลุมไปด้วยไอเย็นสีขาวมัวเป็นตัวอักษรแทนคำพูด
ขอโทษนะ
น้ำตาของคยองซูหยดลงบนข้อมือที่มีรอยช้ำเลือด
ไม่ทันที่จะบอกว่า…เขาไม่มีวันที่จะให้อภัยในสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้ ชายร่างสูงก็หายไปเสียแล้ว
คยองซูจึงได้แต่ขยับปากพูดคำว่า เลว ก่อนที่จะส่งสายตาแข็งกร้าวไปให้บุคคลที่จ้องเขานิ่งในกระจกด้านหน้า
ชานยอลปรายตามองรถสปอร์ตที่ขับผ่านเขาไปอย่างรวดเร็วแล้วหายลับลงไปทางหมุนวนของตึก เขาถอนหายใจแล้วก้มหน้ามองสิ่งของในมืออย่างสับสน
นี่เป็นสิ่งตอบแทนสำหรับการทำงานของเขา เขารับมันหลังจากได้สร้างความสกปรกให้เด็กหนุ่มคนหนึ่ง
บัตรเครดิตไม่จำกัดวงเงิน เซ็นโดยนาม Kai K.
ถึงแม้ว่าเงินจะไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นเท่าไหร่นักในระยะนี้ แต่เมื่อทำการตกลงซื้อขายแล้ว เขาก็ต้องทำตามหน้าที่
คิมจงอิน…อาจไม่ใช่ลูกค้าที่ปกติและไม่ใช่เพื่อนสนิทที่มีนิสัยดีเท่าไหร่สำหรับเขา เขาไม่เคยรับงานที่ต้องสั่งสอนใคร อาชีพของเขาคือโฮสต์ มีหน้าที่ทำให้ลูกค้ามีความสุข แล้วตักตวงผลประโยชน์จากความเสน่หาเหล่านั้น
แต่สิ่งที่ทำกับแบคฮยอนเมื่อกี้
มันคือการทำลาย ไม่ใช่การสั่งสอน
และเขาก็ไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดอะไร
เพราะถึงไม่ใช่เขา คิมจงอินก็หาคนอื่นมาทำแทนเขาอยู่ดี
ชานยอลหันกลับไปมองร่างที่นอนนิ่งอยู่บนพื้น ห่างจากเขาเพียงไม่กี่ก้าว
ในความมืดมิดของลานจอดรถบนดาดฟ้า มีแสงเบาบางจากดวงจันทร์สาดส่องกระทบร่างซีดขาวราวกับไม่ใช่ผิวหนังมนุษย์ จนเขาชักจะหวั่นใจ
“จะตายมั้ยเนี่ย”
ปาร์คชานยอลถอนหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อย ก่อนจะวางมือที่เย็นเฉียบของเขาบนพวงแก้มสีขาวซีดของแบคฮยอน ความร้อนรุ่มราวกับเปลวไฟที่ส่งผ่านมายังฝ่ามือทำให้คนตัวสูงเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ไม่ช้าชานยอลตัดสินใจช้อนร่างบางของแบคฮยอนขึ้นมาแนบกับแผงอก แล้วพาร่างนั้นตรงไปยังรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ของเขาที่จอดอยู่ใกล้ๆ
มือหนาจับลำแขนเล็กพาดกับเอวแกร่งของเขา ก่อนที่จะสตาร์ทฮายาบุสะคู่ใจ เสียงกระหึ่มดังของตัวเครื่องทำให้ร่างสูงแอบวิตกเล็กน้อยว่าจะทำให้แบคฮยอนตกใจตื่น แต่พอนึกขึ้นได้ว่าร่างเล็กหมดสติไปนานแล้ว เขาก็ส่ายหัวให้กับความคิดงี่เง่าของตัวเอง พลางหันไปมองใบหน้าเล็กที่ซบอยู่กับแผ่นหลังเปียกชื้นของเขา
’ฉันนึกไม่ถึงเลยว่ะ ว่าคนเลวๆอย่างแกจะอ่อนโยนกับเหยื่อแบบนี้’
ชานยอลขมวดคิ้ว ก่อนจะก้มลงมองใบหน้าหวานของตัวเองในกระจกรถแล้วหัวเราะเบาๆ
“ก็เหมาะสมกับหน้าตาของฉันดีออก”
ที่จริงเขาก็แค่ไม่อยากติดคุกด้วยข้อหาฆ่าข่มขืนผู้ชายต่างหากล่ะ!
จากนั้นรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ก็ทะยานลงไปตามทางลาดหมุนวนจนกระทั่งลงมาสู่ชั้นล่างของโรงแรมหรู การ์ดที่เฝ้าอยู่ตรงปากทางโค้งตัวให้กับแขกตามหน้าที่ ก่อนจะยื่นมือไปรับบัตร V.I.P. พร้อมทิปนิดหน่อยที่ชานยอลยื่นให้
__________________________________________
ฮิ้ว จับโมดิฟายใหม่หมดเลย #ตบโต๊ะรัวๆ
ภาษาอึนได้อีก แต่งเอง อ่านเอง หน่วงเอง เครียดเอง โฮ่ย อยากแต่งฟิคสนุกๆได้บ้างorz
ขอบคุณทุกคนที่หลงผิดเข้ามาอ่านเรื่องนี้ค่ะ ฮ่าๆ
ความคิดเห็น