นายกชาเขียว - นายกชาเขียว นิยาย นายกชาเขียว : Dek-D.com - Writer

    นายกชาเขียว

    ไม่ต้องคลิกงับ จัดหน้าเฉยๆ -_-\"

    ผู้เข้าชมรวม

    1,446

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    1.44K

    ความคิดเห็น


    6

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  4 ก.ย. 48 / 02:19 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ตลอดเวลาสี่ปี่ที่ผ่านมา ชื่อของบุคคลคนๆหนึ่งที่ได้มีโอกาสก้าวขึ้นสู่ทำเนียบในตำแหน่งสูงสุดของประเทศในด้านการปกครอง
        พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ฯพณฯนายกรัฐมนตรี ดูจะมีอิทธิพลมากในสื่อต่างๆ ที่ลงข่าวแจ้งความเคลื่อนไหว เกาะติดสถานการณ์ยิ่งกว่าศึกผีแดงเสียอีก
        เหมือนกับที่ชาเขียว บูมขึ้นมาแบบไม่รอระนาดรอจระเข้ ปรากฎผลุบๆโผล่อยู่ในเครื่องดื่มบ้าง อาหารบ้าง ขนมบ้าง เครื่องสำอาง ของใช้บ้าง
        บางคนถึงขั้นบ้าชาเขียว เพื่อนรุ้งคนนึง ถ้าไม่ได้กินชาเขียวซักวัน จะเกิดอาการลงแดง แม้แต่ไปค่ายก็ยังขนไปแอบกินตอนดึกๆ -*- (ความพยายามสูงจริงๆ)
        จะอะไรไม่รู้ล่ะ แต่ถ้า...ตราหน้า ตรารส กลิ่น สี บอกว่าชาเขียว ชั้นคว้าเอาไว้ก่อนล่ะ
          มาเข้าเรื่องกันบ้าง ในช่วงนี้ สื่อต่างๆในบ้านเมืองเรา นอกจากจะเรื่องมารศาสนาที่เพิ่งจะเป็นข่าวสดๆเมื่อวานนี้แล้ว
        ที่น่าสนใจและยังเป็นที่โจษจันกันในหมู่มากก็เห็นจะเป็นเรื่องการเลือกตั้งส.ส.ครั้งนี้แหละค่ะ ถึงแม้ว่า รูปผลคะแนนที่ได้ออกมา
        จะไม่ได้อยู่นอกเหนือความคาดหมายของประชาชนเท่าใดนัก แต่เราคงต้องยอมรับว่าเลือกตั้งคราวนี้มันน่าคิดดีจริงๆ

        เราลองมาคิดถึงปัจจัยหลักๆที่เอื้ออำนวยต่อที่นั่งในสภาของฝั่งทรท.กันบ้าง
        1.-หัวหน้าพรรค-ฯพณฯ นายกทักษิณ
        ท่านเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ มองการณ์ไกล วาทะเฉียบคม หลักแหลม น่าประทับใจ มีความน่าเชื่อถือ พร้อมด้วยวัยวุฒิและคุณวุฒิ
        2.นโยบายและผลงานของพรรค ในฐานะผู้บริหารประเทศ
        ตลอดระยะเวลาการทำงานของท่าน การปฏิบัติงานส่วนใหญ่มองเห็นผลได้จริง คำพูดทุกคำที่ท่านเคยใช้กล่าวปราศรัยหาเสียงเข้ามานั่งบนเก้าอี้นั้น
        ท่านก็ได้ปฏิบัติตามแล้ว ได้ผลดีและเป็นที่พอใจกับคนหมู่มาก
        ยกตัวอย่างใหญ่ๆเช่น โครงการ30บาทรักษาทุกโรค การล้างหนี้ค้างปีกับไอเอ็มเอฟ งานประชุมทวิภาคี งานประชุมเอเปค เป็นต้น
        เรียกได้ว่า ทำให้ไทยได้มีโอกาสเปิดตัวออกสู่นานาประเทศ อย่างเช่นในเรื่องของ โครงการOTOP ถ้าเราจะลองไล่เรียงดูรัฐบาลแต่ละสมัยแล้ว
        จะเห็นได้ว่าทุกๆรัฐบาลไม่ใช่แต่ในสมัยนี้ ที่มีนโยบายให้ฝ่ายบริหารส่วนท้องถิ่น มีการประชาสัมพันธ์ต่างๆเต็มที่ แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า
        เมื่อกลุ่มต่างๆ สร้างผลงานขึ้นมาแล้ว การติดต่อประสานงานขาย หรือการให้มาตรฐานรับรองนั้นยังไม่ชัดเจน ไม่มีตลาดรองรับ
        ทำให้นโยบายล้มเหลว ไม่ประสบความสำเร็จ สุดท้ายก็ถูกกองทิ้งไว้มุม ก่อนจะค่อยๆถูกเลือนลืมไป แต่มาในสมัยนี้ ปัญหาดังกล่าวได้รับการแก้ไข
        โดยมีการเปิดตลาดกรุยทางให้แก่กลุ่มต่างๆ มีการวางมาตรฐาน จัดลำดับคุณภาพ ในรูปแบบดาวต่างๆ จนได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ
        และยังเป็นการคัดเลือกแต่สิ่งที่ดีที่สุด ให้แก่ผู้บริโภคอีกด้วย
        
        และที่สำคัญที่สุด 3.ปฏิบัติการทางจิตวิทยา
        มันเป็นหลักง่ายๆ พื้นฐาน สำหรับคนในวงการทหาร ตำรวจ หรือ บุคคลที่ผ่านการศึกษามาแล้ว
        ฯพณฯ ได้ใช้นโยบายต่างๆ สร้างเสริมความพอใจ และไว้วางใจในตัวท่าน โดยเริ่มแต่ฐานเล็กๆ ตราบจนถึงยอดสูงสุด จนเกือบจะเรียกได้ว่าบ้านเรามีนายกด้วยระบอบประชานิยม
        ยกตัวอย่างเช่น การเพิ่มเงินประจำตำแหน่งและเงินเดือนแก่ข้าราชการ โครงการส่งค่าเล่าเรียนแก่นักศึกษา
        ...ลองคิดดู ถึงปริมาณคนที่ได้รับผลประโยชน์ และมีการผูกมัดกับรัฐบาลชุดนี้สิคะ

        จากทุกสิ่งทุกอย่างที่กล่าวมาแล้ว รุ้งเองก็ต้องยอมรับนั่นแหล่ะค่ะ ว่าฯพณฯ ท่านนี้ มีความสามารถเหมาะสมจริงๆ
        ..แต่มันเหมาะสมแล้วหรือ? หากเราจะเลือกเทคะแนนพรวดพราดกับส.ส.ทุกคนที่สังกัด ณ พรรคของท่าน..

        คุณครูของรุ้ง ท่านเคยเปรยๆให้ฟังว่า ท่านนั้น เป็นคนต่างจังหวัด  ส.ส.คนที่ลงสมัครคนหนึ่ง เป็นคนในพื้นที่ พอเอ่ยชื่อออกมา ก็เป็นชื่อที่คุ้นเคยมากๆ
        เรียกว่าติดอยู่ในบัญชีของนักการเมืองที่ซื่อสัตย์ใช้ได้คนหนึ่ง แต่ผลการเลือกตั้งกลับออกมาเป็นว่า ชาวบ้านได้ผู้หญิงคนนึง
        เป็นใครที่ไหนไม่ทราบ ไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่ใช่คนท้องถิ่นด้วยซ้ำ เพียงแต่เธอคนนี้ มีรูปนายกชาเขียวของเรานั่งหน้าแป้นอยู่ข้างๆเธอบนแผ่นป้ายหาเสียงผู้สมัคร
        ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งกว่าหลวงพ่อแคล้ว แน่นอนกว่ายันต์ไหนๆ เท่านี้ คะแนนก็พรวดพราดมาเป็นสายฝนแล้ว
        ข้อคิดอย่างหนึ่งจากคำพูดของครู
        “…ส.ส.ส่วนใหญ่ เป็นเพียงเหล้าเก่าในขวดใหม่ โยกย้ายถ่ายโอนมาด้วยความขัดแย้งบ้าง แต่ส่วนมากก็คือเงิน
        เมื่อถึงเวลาแล้ว มันก็ต้องมีการฉายแววออกมา ถึงตอนนั้น สื่อก็คงไม่ได้จับจ้องอยู่กับพวกเขาแล้ว...”

        ส.ส.ทุกคน เป็นบุคคลที่เสนอตัวภายใต้เงาของท่านนายกจริง แต่..

        ...“ส.ส.ทุกคน ไม่ใช่ทักษิณ”..

        จะมีถึงสักครึ่งไหม ที่เป็นได้อย่างที่ท่านต้องการ ที่ไม่ผิดประหลาด ชอบเปิบพิสดารกินอิฐทานปูนเป็นวัตร ที่โปร่งใส ที่ไม่ไต่เต้ามาเพียงผลประโยชน์
        การหาเสียง ใช้เงินจำนวนมาก เกินกว่าจำนวนในบัญชีแจ้งต่อกกต.มากนัก แล้วถ้าเช่นนั้น เงินเหล่านั้นจะเอาคืนที่ใด และที่สำคัญทำไมจึงต้องพยายามเปลืองตัวขนาดนั้น...
        ...หว่านพืช ก็ต้องหวังผลทั้งนั้น...

      ***หากการสะกดมีการผิดเพี้ยน หรือใช้คำอย่างไม่เหมาะสม ไม่ถูกหลักไวยากรณ์ไปบ้างก็ขออภัยด้วยค่ะ
      ที่สำคัญที่สุด จุดประสงค์ในการตั้งกระทู้ไม่ใช่เป็นการชี้แนะ หรือนำทางนะคะ เป็นเพียงข้อคิดเห็นของรุ้งเองเท่านัน***

      10/02/48 || 04/09/48   01:49

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×