คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ปูของข้าใครอย่าแตะ
ปูของข้า ใครอย่าแตะ
Part : ไอติม
หลังจากผมกับไอ้เปอร์จัดของที่หอมันเสร็จผมก็พามันไปหาอะไรยัดลงท้องซะหน่อยนี่มันก็เย็นมากแล้วเพราะตั้งแต่ลงจากเครื่องมาเราก็ยังไม่ได้หาอะไรกินก็เลย แต่ทว่าเราก็ยังตกลงกันไม่ได้ซะทีครับเราะไอ้เปอร์มันยังเลือกไม่ได้เลยว่ามันจะกินอะไร กรรม!
“เปอร์ถ้ามึงยังนึกไม่ออก กูจะจอดรถไห้มึงไปซื้ออาหารเซเว่นเวฟแดกแล้วนะ “ผมพูดพร้อมวนรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูสีขาวของผม นี่มันคงเป็นรอบที่8แล้วมั้งครับ -_-
“ เร่งกูจังมึงนิ ใจเย็นอะมึง ใจเย็น มึงสะกดเป็นป่ะ ? “ มันพูดพร้อมทำแก้มป่องๆส่งมาไห้ผม ถุยน่ารักตายละไอ้ห่า เดี๋ยวพ่อตบแก้มยุบเลย
“เอางี้ ไหนมึงลองพูดสิ่งที่มึงอยากกินออกมาไห้กูฟังดิ” ผมพูดครับ ไม่งั้นวันนี้ผมคงอดตายแน่ๆ
“กูเอิ่ม กูว่ากูจะกินนนนน ปิ้งย่างอะมึง แต่กูอยากกินเค้กด้วย แต่ไอติมก็น่ากินอีกอะ น่ะๆมึงร้านนู้นแม่งโคตรน่ากินเลย แต่ก็อยากกินปูอะมึงแบบเอาตัวใหญ่เลยๆอะ เนี่ยมึงช่วยกูเลือกหน่อยดิ ลำไส้กูจะขาดแล้วเนี่ย”มันพูดพร้อมเอามือลูบท้องมันครับ เอาความจริงนะครับเชี่ยเปอร์แม่งเป็นผู้ชายที่โคตรของโคตรเรื่องมากอะ ถ้าเป็นผมนะครับ กระเพราะไข่ดาวแม่งก็จบแล้ว แต่ไอ้สสัดนี่แม่ง......(เอิ่ม โปรดเติมคำลงในช่องว่าง)
“กินบุฟเฟต์ไหม อยู่ที่ห้างM ไม่ไกลจากที่นี่ด้วย ร้านนี้มีปูสดๆด้วย รับรองมึงติดใจแน่ๆ” และแล้วผมก็ต้องงัดไม้ตายสุดท้ายขึ้นมาล่อครับ คือ ไอ้เปอร์มันมีสิ่งหนึงที่ชอบกินมากๆก็คือปูครับไม่รู้ว่าแม่งจะติดใจอะไรกันหนักกันหนาครับ แดกได้ทุกวัน ถ้าวันหนึงมันกลายร่างเป็นปูนี่ผมจะไม่แปลกใจเลยครับ
“เห้ยยมึงพูดจริงอะ มีปูใช่ไหม ตามนั้นเลยมึงตามนั้นเลย” ดูมันไม่ค่อยเห็นแก่กินเท่าไหรเลยใช่ไหมครับ(กูประชด) ไม่นานผมกับเปอร์ก็มาถึงห้างM โดยมีเปเปอร์ที่แทบจะกระชากผมเข้าไปในห้างเพราะร้านนี้มีปูสดๆก็จริงครับแต่ก็อย่าลืมนะครับว่าของดีแม่งมีน้อย!!!
“เชี้ยเปอร์ถ้ามึงรีบมึงก็วิ่งไปคนเดียวเลยไปสัด กูอายเขา “ผมพูดนั่นทำไห้มันเอามือขึ้นมากอดอกอย่างเอาแต่ใจ
“ถ้ากูรู้ว่าร้านอยู่ชั้นไหนตรงไหน กูคงไม่ลากมึงมาหรอก พูดมากเดินตามกูมาเร็วๆเลยมึงอะ ถ้าปูกูหมดนะ มึงเตรียมตัวเลยไอ้ติม” ยังไม่ทันที่ผมจะตกลงอะไรกับมันมันก็เตรียมที่จะลากผมไปอีกรอบ
“ร้านอยู่ชั้น3 ร้านแรกของขวามือของบันไดเลื่อน ถ้ามึงรีบนะ วิ่งขึ้นบันไดเลื่อนไปเลย ทิ้งกูไว้ตรงนี่และ” ผมพูดเป็นเชิงลองใจมัน แต่ใครจะไปรู้ละครับว่ามันจะกล้าวิ่งขึ้นบันไดเลื่อนแล้วทิ้งเพื่อนที่ครบกันมาเกือบ6ปีอย่างผมให้ยืนเอ๋อแดกตรงนี้คนเดียว ผมพอรู้แล้วละครับ ถ้าโลกจะแตกแล้วไอ้เปอร์มันสามารถเลือกของไปได้สองอย่างผมรู้ครับว่ามันจะเลือกอะไร >>1.ปู 2.ปู << หรือคุณจะเถียง
Part:เปเปอร์
ผมมาถึงในร้านด้วยสภาพหอบเลยละครับ ปกติผมไม่ใช่คนเห็นแก่กินนะครับ แต่วันนี้มีปูไงครับมันเลยทำไห้ผมไม่ปกติ
“มากี่ท่านคะ” พนักงานเอ่ยปากถามผมเสียงหวานครับ
“2ครับ เดี๋ยวเพื่อนผมตามมา” ผมพูดพร้อมชะโงกหน้าไปมองหาปูของผม ปูของข้า อย่าหนีไปไหนนะ
“เอ่อ งั้นทางนี้เลยคะ “พนักงานพูดพร้อมเชิญผมมานั่งที่โต๊ะ แล้ก็อธิบายว่าราคาคิดตามจำนวนชม บลาๆๆ ซึ่งผมก็ไมได้ฟังเท่าไหรหรอกครับ ออกแนวเข้าหูซ้ายทะลุหูขวามากกว่า จิตใจของผมตอนนี้มันอยู่ที่ปูอลาสก้าตัวใหญ่ที่อยู่ห่างจากผมประมาณ3เมตรได้มั้งครับ ซึ่งตอนนี้มันเหลือแค่ตัวเดียวแล้วววว T^T
“ที่พูดมาคุณลูกค้า ไม่เข้าใจตรงไหนไหมคะ”
“ไม่ครับ” พอผมพูดจบพนักงานก็เดินจากผมไป หึหึ แล้วมันก็ถึงวิชานินจานารุโตะสักทีสินะ ยังไม่ถึงเสี้ยววินาที ผมก็มายืนอยู่ตรงปูอลาสก้าแล้วครับ ผมหยิบจานพร้อมกับที่คีบขนาดใหญ่พิเศษ ที่ผมเลือกมาใช้คีบปูโดยเฉพาะ ทันใดที่ผมคีบไปหนีบตัวปูก็มี ที่คีบหนึงมาหนีบตัวปูอลาสก้าของผมไว้เช่นกัน T^T ทำไห้ผมเงยหน้าขึ้นไปมองมันอย่างไม่สบอารมณ์
“ปล่อยมือจากปูของกูเลยไอ้เตี้ย” นั่นเป็นประโยคแรกที่ผมได้รับจากผู้ชายร่างสูงโปร่งตรงข้างหน้าผมครับ เขาเป็นผู้ชายร่างสูงครับพอๆกับไอ้ติมเลมั้ง แต่ออกจะสูงโปร่งมากกว่าไอ้ติมที่จะเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ผมมองไปที่หน้าของเขา เป็นผู้ชายที่จัดได้ว่าหล่อเลยรับ แถมตอนนี้คิ้วสีเข้มของครับกำลังขมวดเป็นรูปโบว์ ถึงแม้มันจะหล่อก็จริงครับแต่ในเมื่อมึงเสือกมาด่ากูว่าเตี้ยละก็ งานนี้จบไม่สวยแน่ครับ ด่าอะไรกูด่าได้แต่ด่ากูเตี้ยนี่กูไม่ยอม
“มึงอะและปล่อยกูคีบของกูตั้งนานแล้วเหอะ ใช่ไหมจ๊ะปูจ๋า~~”ผมพูดตอกกลับอย่าไม่เกรงกลัวก็มันจริงนิครับผมคีบของผมก่อนอ่ะ
“กูเล็งของกูตั้งแต่อยู่ในท้องแม่และ เตี้ยแล้วยังสะเออะแดกปู นู่นหัดแดกผัก มั่งจะได้โตๆแดกเหี้ยไรไม่ได้ดูส่วนสูงตัวเองเลย” มันพูดพร้อมเอามื้อชี้ไปทางฝั่งสลัดที่มีผักเต็มไปหมดครับ สัดคำก็เตี้ย2คำก็เตี้ย ผมตัดสินใจบิดข้อมืออย่างรวดเร็วไม่ทันใด ปูอลาสก้ามาอยู่บนจานผมแล้วครับ ทำไห้ร่างสูงตรงหน้าผมทำหน้าเหวอไปเลย เป็นไงละมึง เอ๋อรับประมานเลยสิ
“เชี่ยแมลงสาบเกาะอยู่บนเสื้อมึงอะ” มันพูดพร้อมชี้มือมาทางหัวไหล่ข่างซ้ายผมครับ ทำไห้ผมก้มไปดู พอเงยหน้ามาอีกที ปูในจานของผมก็ตกไปอยู่ในจานของมันแล้วครับ ร่างสูงทำท่าจะหันหลังกลับ แต่ก็คงเร็วสู้ผมไม่ได้ ผมใช้เท้ายื่นไปขัดขามันไว้ ทำไห้มันสะดุดเขาเต็มๆ พร้อมกับปูอลาสก้าที่ลอยไปตกถังขยะพอดิบพอดี ถึงจะเสียใจที่เสียปูแต่ก็สะใจอยู่ไม่น้อยนะครับ
“ไอ้......”ยังไม่ทันที่มันจะลุกขึ้นมาด่าผมได้สำเร็จผมก็ใช้ปลายตีนกดที่หลังมันไว้ครับ
“ มึงจำไว้เลย ปูของข้า ใครอย่าแตะ แล้วอีกอย่าง ถึงกูจะเตี้ยแต่ใจกูรักจบปะ!!” พอผมพูดจบผมก็อดที่ขยี้รอยส้นตีนฝากไว้ที่หลังของมันอีกที แล้วรีบวิ่งมาที่โต๊ะ พร้อมวางแบงค์พันไว้สองบันแล้วรีบวิ่งออกจากร้านทันที จะให้ผมรออยู่ไห้มันตามมากระทืบหรอครับ
“เชี่ยเปอร์มึงจะไปไหน” ผมเจอกับไอติมตอนที่ออกมาจากร้านพอดีครับ
“เออ ไม่ต้องพูดมาก แต่ตอนนี้รีบกลับก่อนเหอะมึง”ผมพูดพร้อมกระชากข้อมือไอ้ติมไห้วิ่งตามหลังผมมาติดๆ จนทำให้มื้อเย็นของวันนี้ เรามาจบกันที่ชายสี่บะหมี่เกี๊ยวครับ
“ถ้าวันไหนเขาเจอะมึงอะ มึงระวังตัวไว้เลย กูฟันธงเลยนะเว้ย ปางตายยย!!”หลังจากมันฟังเรื่องที่ผมเล่ามา มันก็บ่นไม่หยุดเลยครับ ผมฟังมันบ่นพร้อมกับโซ้ยบะหมี่ในจานต่อไป
“โอ้ยยย มึงนิก็บ่นจัง โลกมันไม่กลมขนาดนั้นหรอก”ผมพูด ก็มันจริงนิครับ ถ้าผมเจอไอ้ห่าเปรตนั่น ผมว่า ฟ้าดินก็ใจร้ายกับผมเกินไปแล้วมั้งครับ
“เออ ไห้มันจริงอย่างที่มึงว่าก็แล้วกัน”ดูมันพูดสิ นี่มึงยังเป็นเพื่อนกูอยู่ป่ะวะไอ้ติม สุดท้ายเราก็เลือกที่จะกินบะหมี่ต่อไปอย่างเงียบๆครับ เฮ้ออ ผมหวังว่าโลกของเรามันคงไม่กลมขนาดนั้นหรอก(มั้ง?)
ความคิดเห็น