ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Help me now!! ช่วยฉันทีสมการรักนี้แก้ไม่ออก

    ลำดับตอนที่ #15 : กอด +โดราเอม่อน

    • อัปเดตล่าสุด 16 มิ.ย. 55


    M U S I C CAFE : LUN LA
      MUSIC CAFE : LUN LA
                                                           

    ©Tenpoints! mso-ascii-theme-font:minor-bidi;mso-hansi-theme-font:minor-bidi;mso-bidi-font-family: Tahoma">                                        สมมติว่า...คำอธิษฐานกลายเป็นจริง
                       
    ความเศร้าโศกของเธอ ทิ้งมันลงมาที่ใจฉันเถอะนะ

                     เพื่อที่ฉันจะได้เป็นคนแบกรับความเจ็บปวดนั้นเอาไว้เอง

                         

    ผมกลับมาจากโรงพยาบาลหลังจากเห็นภาพเหล่านั้น ดูพวกเขาที่กำลังมีความสุขจนไม่กล้าเข้าไปขัดขวางแต่ทำไมหัวใจมันถึงเจ็บแบบนี้ มันเหมือนว่ามีใครมาบีบหัวใจให้เจ็บปวด ผมก้าวขาพาดขึ้นมอเตอร์ไซค์แล้วตรงไปที่บ้านแพมมี่

    “กลับมาเร็วจังนะแก”แพมมี่ทักผมทั้งๆที่สภาพเธอตอนนี้ก็ไม่ต่างจากศพเท่าไหรเพราะเธอยังไม่ได้อาบน้ำหรือแปรงฟันใดๆเลย

    “เออน่า หิวแล้วน้า จะไปกินข้าวมีไรกินมั้ง” ผมพูดพร้อมเดินผ่านแพมมี่ไปโดยไม่มอง มันยิ้มไม่ออกเลยนะครับ เป็นคุณๆยังจะยิ้มออกไหมเล่า ถ้าเห็นคนที่คนรัก อยู่กับผู้ชายอีกคนที่เป็นพี่ชายของตนเอง จริงๆแล้วผมก็ไม่มีสิทธ์ที่จะไปห้ามพี่จัสมินหรอก เพราะผมกับพี่จัสมินไม่ใช่คนรักกัน เพราะมันก็แค่แอบรักเค้าฝ่ายเดียวเท่านั้นเอง พูดแล้วมันก็อยากจะดราม่า

    “อ้าวๆเดินไม่รอ นี่ฉันยืนอยู่ตรงนี้นะโว้ย”แพมมี่ตะโกนตามหลังมาแต่จะทำไงด้สภาพผมตอนนี้มันน่าสมเพชกว่าแพมมี่ซะอีกผมนั่งลงที่โต๊ะอาหารที่มีข้าวกับแกง2-3อย่างวางไว้อยู่

    “ฉันทำแกงเขียวหวาน ต้มยำกุ้ง และก็ไข่เจียว ไม่รู้ว่าจะอร่อยป่าววะ พึ่งลองทำ”

    “อืม”ผมตอบไปเพียงสั้นๆพร้อมตักแกงเขียวหวานเข้าปาก

    “กินไม่พูดเลย ไม่อร่อยหรือไง”

    “อร่อยแกทำอะไรก็อร่อยอยู่แล้ว”ผมพูดพร้อมตักข้าวเข้าปากอีกรอบ

    ปึง แพมมี่ตบโต๊ะอย่างแรง

    “อะไรของแกวะเนี่ย” ผมโวยวาย

    “บอกฉันมาว่าแกไปเจออะไรมา ถึงเงียบขนาดนี้ ฉันดูออกเพราะฉนั้นอย่าโกหก พูดออกมาให้หมด “แพมมี่ตวาดเสียงดังลั่น และตอนนี้ผมก็ไม่ทนแล้วเหมือนกัน

    “ก็แค่เห็นพี่ฟิลลิปต์อยู่กับพี่จัสมิน แล้วก็ป้อนอาหารให้กัน ดูทีวีด้วยกัน มีความสุขด้วยกัน แต่ว่ “ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบแพมมี่กอดผมพร้อมซุกหน้าไว้ที่อก

    “แบบนี้มันไม่ใช่แค่หรอกนะ ฉันเข้าใจดี เวลาที่เห็นคนที่ตัวเองรักมีความสุขกับคนอื่น หรือว่ามาหาเราตอนที่เจ็บปวด มันเป็นยังไง เจ็บใช่ไหมละ เจ็บเหมือนจะหายใจไม่ออกเหมือนถูกกดน้ำ แต่ก็พูดอะไรไม่ได้ เหมือนร่างกายถูกไฟช็อตมันเจ็บแทบตายแต่ก็ยังหายใจอยู่ แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะฉนั้นแกอย่าฝืนได้หรือเปล่า ถ้าแกเจ็บขนาดนั้นแกจะร้องไห้ หรือโวยวายใส่ฉันอย่างที่แกเคยทำแต่อย่าเก็บเอาไว้ที่แกคนเดียวได้หรือเปล่า ในวันที่แกเจ็บและยังมีฉันยืนอยู่ตรงนี้ แบ่งมันมาให้ฉันได้จำไว้นะ ”

    “อืม” ผมตอบรับพร้อมกอดแพมมี่ให้แน่นขึ้น

    “หิวไม่ใช่หรอไปกินข้าวกันเถอะ วันนี้เรามีดูโดราเอม่อนกันนะเดี๋ยวจะไปดูไม่ทัน”

    “อ่านั่นสิลืมไปเลย” ผมนั่งลงที่โต๊ะพร้อมลงมือกินข้าว

    “นี่วันนี้ดูภาคไรดีเอาเดอะมูฟวี่ดีกว่ายาวดี “

    “นั่นสิภาคที่ออกมาล่าสุดฉันยังไม่ได้ดูเลย ว่าแต่คนๆนั้นที่แกพูดให้ฉันฟังเมื่อกี้ใครวะที่ทำให้แกเจ็บเหมือนฉันตอนนี้”ผมเอ่ยขึ้น

    “บอกไม่ได้หรอกนี่มันเป็นความลับระดับสุดยอดเลย”

    “แล้วทำไมแกยังทนเจ็บอีก”

    “เพราะรักไง รักคำเดียวฉันเลยทน”

    “จะอ้วกว่ะ ไปอ้วกได้ไหมเนี่ย”

    “ไม่อนุญาต” หลังจากนั้นเราก็ลงมือทานข้าวกันจนหมด จนผมได้กินเน่าๆลอยมาเตะจมูกพร้อมทำท่าฟุดฟิดดมหากลิ่นขนเขอต้นตอ

    “ไอ้แพมมี่!!!”ผมตวาดดังลั่นบ้าน

    “โอ้ย ไร ตกใจหมด ดีเท่าไหรแล้วที่ไม่เอาจานข้าวฟาดหัวแก”

    “ไปอาบน้ำเลย นี่กลิ่นแกยังกับปลาร้าล้านปีเลยวะ”

    “พูดแบบนี้เอาโต๊ะฟาดหน้าฉันเลยเหอะ แกเปรียบเทียบได้เจ็บจี๊ดยันกระดองใจเลยวะ”

    “555+ไปอาบน้ำเลยยัยปลาร้าล้านปี ชิ่วๆ”

    “เออรู้แล้วเฟ้ย”หลังจากที่แพมมี่วิ่งไปอาบน้ำผมก็เดินไปลางจานแล้วก็เก็บโต๊ะ แต่ก็มีข้อความส่งมาหาผมเปิดดูข้อความที่ถูกส่งมาจากพี่ชายผม จัสมินฝากบอกว่าขอบคุณที่พามาส่งโรงพยบาล มันเป็นข้อความที่ผมได้อ่านแล้วดีใจแต่มันจะดีกว่านี้ถ้ามันถูกส่งมาจากมือถือพี่จัสมินไม่ใช่จากมือถือพี่ฟิลลิปต์ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่าพวกเขายังอยู่ด้วยกัน หลังจากผมยืนบีบโทรศัพท์จนอารมณ์เริ่มเย็นแล้วแล้วยัยแพมมี่ที่พึ่งอาบน้ำเสร็จก็วิ่งออกมา

    “ฉันเวฟป็อบคอนไว้แกไปเอามาด้วยเดี๋ยวจะไปเปิดการ์ตูนย์รอ ห้ามแอบกินก่อนนะ ไม่งั้นยันโครม”เมื่อแพมมี่พูดอย่างนั้นมีหรือจะกล้าแตะ

    “แกก็เหมือนกันดูก่อนจะตบด้วยปาก เฮ้ยอะไรวะแค่นี้หน้าแดง เป็นไรมากปะเนี่ย ไปเลยๆไปเปิดการ์ตูนย์รอได้แล้ว” ว่าแล้วแพมมี่ก็รีบวิ่งขึ้นไปชั้นบน ผมเดินไปที่ไมโครเวฟพร้อมเทป็อบคอร์นรสชีสใส่ชามแก้วขนาดใหญ่ ก่อนจะเดินตามแพมมี่ขึ้นไป ผมทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาสีครีมพร้อมวางป็อบคอร์นลงบนโต๊ะที่อยู่หน้าโซฟาก่อนจะหยิบมากำมือหนึงแล้วยัดใส่ปาก

    “เยสสสสสสสสสสสสสสสส เลวมาก ฉันยังไม่ได้เปิดเลยนะวะมากินก่อนได้ไง”แพมมี่โวยวายแล้วเดินมาหยฺมาหยิบป็อบคอนหนึงกำมือพร้อมยัดเข้าปากพร้อมเคี้ยวตุ้ยๆแล้วไปเปิดซีดีต่อ

    “หลบหน่อยเดะตูดบานเต็มโซฟาและ”แพมมี่พูดพร้อมใช้TEENสะกิด+ยันแล้วทิ้งตัวลงมานั่ง

    ..........................................................15นาทีผ่านไป.......................................................

    “เฮือก” ผมถอนหายใจออกมาอย่างแรง

    “อะไรวะมาถอนหายใจใส่ฉันเนี่ย”

    “ป่าวเฟ้ยแค่คิดว่าถ้าโดราเอม่อนมีจริงก็ดี”

    “นี่ประสาดหลอนหรือเป็นอะไรมากปะเนี่ยดูจนเพ้อ”

    “ไม่ได้เพ้อนะเว้ย แกลองคิดดูนะเว้ยจะมีใครสักคนที่จะอยู่ข้างเราไม่ว่าจะผิดหรือถูก จะมีกี่คนที่คอยตามกวาดเก็บเรื่องราวที่เราก่อขึ้น จะมีใครกี่คนอยู่ข้างเราในวันที่ไม่เหลือใคร ปากก็บอกว่าไม่ช่วยสุดท้ายก็ช่วยอยู่ดี แกว่ามันไม่ดีหรือไง” สิ้นคำพูดของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวคิดในใจว่า แล้วคนๆนั้นที่แกอยากได้ ก็อยู่ตรงนี้แล้ว แกเคยมองเห็นโดราเอม่อนตัวนี้หรือเปล่า ไม่นานหญิงสาวก็ตั้งสติได้ทัน

    “พอเลยหยุดเพ้อเลยนะลุง เพ้อคนเดียวไม่พอยังจะชวนฉันอีก ไปๆดูต่อเลย”

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×