คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
ณ โรงเรียนที่ร่ำรวยที่สุดของประเทศที่เป็นแหล่งรวมบันดา ลูกหลานเศรษฐีที่ยอมเสียค่าเรียนแพงๆมานั่งเรียนกันในที่แห่งนี้แต่ทว่าคงมีหญิงสาวเพียงคนเดียวที่เกลียดโรงเรียนนี้แสนเต็มประดา เธอเดินมาพร้อมข้าวกล่องกับกระเป๋าแบร์นเนมที่ตกรุ่นไปแล้ว มานั่งลงที่โต๊ะอาหารสุดหรูของโรงเรียนนี้ ใช่เธอเป็นหนึ่งในลูกมหาเศรษฐีระดับต้นๆของประเทศแต่ทว่ามันก็เป็นได้แค่อดีตเนื่องจากเธอเพิ่งสูญเสียพ่อแม่จากอุบัติเหตุรถยนต์ไปเมื่ออาทิตย์ก่อนนั้นเอง สายตาทุกคู่ในโรงอาหารจับจ้องมาที่เธออย่างเป็นจุดเด่น
“ต๊ายๆ นี่พวกเธอดูสิคนหนูตกอับ” เสียงเหยียดหยามดูหมิ่นเอ่ยขึ้นพร้อมกับมายืนจังก้าอยู่ตรงหน้าเธอ
“อุ้ย กระเป๋ารุ่นนั้นยังกล้าถือมาอีกหรอ นี่มันตกเทรนไปตั้งแต่ชาติไหนแล้วยะหล่อน นี่ๆวันหลังไปบ้านฉันไหมฉันจะยกกระเป๋าให้สัก10ใบ ถือซะว่าเคยเป็นเพื่อนกันนะ ยัยไหมพรม” สิ้นเสียงคำพูดไหมพรมที่นั่งอยู่ลุกขึ้นยืนกอดอก พร้อมแสยะยิ้มอย่างรังเกียจ
“อ้าวไอ้เราก็นึกว่าใคร ที่แท้ก็ยัยกิ้งก่าเปลี่ยนสีนี่เอง แหมๆๆไม่มีอะไรทำหรือจ๊ะถึงมายืนเห่าอยู่นี่” ไหมพรมพูดนั่นทำให้พะแพงหญิงสาวที่เคยเป็นเพื่อนกับหล่อนแต่บัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นศัตรู กรี๊ดออกมาอย่างดัง
“ฉันไม่ใช่หมา”
“อุ้ยตายร้อนตัว สงบสติบ้างก็ได้นะ ระวังตีนกาขึ้นเต็มหน้าเหอะ เอ๊ะๆลืมไปเธอฉีดโบท็อกเป็นประจำอยู่แล้วนี่เนาะ ของพวกนี้จะกลัวไปทำไม” สิ้นคำพูดคนในโรงอาหารเกิดความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันที
“แก จนแล้วยังไม่เจียมอีกแต่ช่างเหอะฉันสงสารเพราะว่ายังไงๆเธอก็คงไม่ได้เรียนที่นี่อีกแล้วมั้งเพราะเธอคงไม่มีปัญญาจ่ายค่าเรียน เอาเถอะๆฉันจะไม่ถือสา”
“เหอะ! ถ้าฉันจะออกจากโรงเรียนนี้ก็คงมีเพียงเหตุผลเดียวเท่านั้นและ ”หญิงสาวหยุดพูดไว้เพียงเล็กน้อยและก้มลงเก็บของ
“อะไรยะจะพูดอะไรพูดออกมาให้หมดนะ”
“เธออยากรู้จริงๆหรอ ก็เพราะว่า มันมีตัวเสนียดอย่างเธออยู่ร่วมด้วยไงละฉันเลยไม่อยากอยู่” สิ้นคำพูดใหมพรมก็เดินออกมาทันทีพร้อมขึ้นรถเบ็นซ์สีดำเปิดประทุนคู่ใจของเธอกลับบ้านทันทีพร้อมกับหยดน้ำใสๆที่เอ่อล้นรอบดวงตา
ร่างสูงโปร่งในชุดนักเรียนก้าวลงจากรถทันทีและรีบเช็ดน้ำตาให้แห้งจนไม่เหลือร่องรอยใดๆพร้อมกับคุณพ่อบ้านที่วิ่งมาต้อนรับ
“คุณทนายมาหรือยังคะ” หญิงสาวยิ้มให้คุณพ่อบ้านวัยเกือบ60ปีที่อยู่กับเธอมาตั้งแต่เด็กจนโตเปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียวที่เธอเหลืออยู่
“รออยู่ในห้องรับแขกแล้วครับคุณหนู” คุณพ่อบ้านพุดพร้อมเดินนำคุณหนูเข้าไปในตัวบ้านพบกับทนายที่มีกระเป๋าเอกสารใบใหญ่นั่งรออยู่คุณทนายยิ้ม พร้อมรับไหว้คุณหนูใหมพรหม อย่างคุ้นเคย
“หนูพร้อมแล้วคะ” หญิงสาวพูดพร้อมนั่งลงที่โซฟาสีครีมอ่อนพร้อมกับกุมมืออย่างรอลุ้นว่าเหตุการณ์ต่อไปจะเป็นยังไงแต่ว่าถึงแม้วันพรุ่งนี้เธอจะไม่เหลืออะไรติดตัวแต่เธอก็คงไม่รู้สึกอะไรเพราะเธอถูกเลี้ยงให้ติดดินมาตั้งแต่เกิดแล้วแค่นี้สบายมากขอแค่มีกำลังใจเข้มแข็งก็พอ
“คุณไตรรัตน์และคุณนภามองการไกลไว้มาก” คุณทนายพูดพร้อมเปิดเอกสาร
“หมายความว่าไงคะ ที่ว่ามองการไกล” เด็กสาวถามอย่างไม่เข้าใจ
“ก็ท่านได้จัดการหนี้ที่มีทั้งหมดให้หมดไปตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้ว คุณหนูก็ไม่ต้องกังวลอะไรหรอกครับ” นั่นทำให้หญิงสาวแปลกใจไม่ใช่น้อย
“จะเป็นไปได้ไง ถึงพวกท่านจะรอบคอบแต่ก็ไม่น่าจะ..”
“เชื่อเถอะครับ เพราะ พวกท่านรักคุณหนู คุณหนูเกิดมาจากความรัก คุณท่านไม่ปล่อยให้คุณหนูลำบากหรอกแม้ตัวท่านจะไม่อยู่แล้วก็ตาม ผมจะเริ่มเปิดพินัยกรรมแล้วนะครับ” ทนายพูดพร้อมเปิดเครื่องอัดเสียงจากซองเอกสารในมือขึ้น
ข้าพเจ้านายไตรรัตน์ ทรัพย์ตระกูลและนาง นภา ทรัพย์ตระกูลขอยืนยันว่าขณะที่ข้าทำพินัยกรรมอยู่นั้นข้าพระเจ้ามี สติสัมปชัญญะครบถ้วน และรอบคอบมากที่สุด บุตรสาวข้าวันนี้คงมาถึงแล้วสินะลูกรัก ลูกของพ่อจงฟังให้ดีนะลูก ลูกคือลูกของเราเพียงคนเดียว ทุกสิ่งทุกอย่างที่พ่อมอบให้แก่ลูกในวันนี้ขอให้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เริ่มจากทรัพย์สินส่วนตัวของข้าพเจ้า เงินในบัญชีออมทรัพย์ของข้าทั้งหมดเป็นจำนวน2000ล้านบาทนั้นขอมอบให้ พิมพา ทรัพย์ตระกูลลูกสาวของเราทั้งหมด รวมถึงบ้านทรัพย์ตระกูลแห่งนี้ก็ขอยกให้บุตรสาวคนเดียวของเราทั้งสิ้น หุ้นในบริษัท ทรัพย์ตระกูลนั้นก็ยกให้เป็นของลูกเราตามกฎหมาย และเงินออมทรัพย์ของนางนภา ในบัญชีออมทรัพย์นั้นจำนวน1500ร้อยล้านบาทก็ขอมอบให้ลูกสาวคนนี้อีกเช่นกันรวมถึงบ้านพักต่างอากาศที่จังหวัดเชียงใหม่และที่ดินจำนวน4500ไร่ก็ให้ทนายจัดการโอนให้เป็นของลูกสาวเราอย่างถูกต้องรวยถึงคอนโดหรูใจกลางเมืองด้วย ส่วนเงินค่าแรงของคนงานในบ้านพ่อได้สั่งให้นายทนายจัดการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และตู้เซฟในห้องนอนนั่นทุกอย่างที่อยู่ในตู้นั้นขอมอบให้เจ้าทั้งสิ้น ขอให้เจ้าจำไว้พ่อกับแม่ไม่ได้ทิ้งเจ้าหวังว่าลูกข้าคงเข้มแข็ง สุดท้ายนี้ขอบอกว่าพ่อกับแม่รักลูกเสมอ
“อะไรกันคะเป็นไปได้ไงคุณกำลังจะบอกว่าทุกอย่างจะเป็นของหนูหรอคะ” ใหมพรมหรือพิมพาช็อกทันที
“ยังไงก็เชื่อเถอะครับ และผมจะจัดการโอนของทุกอย่างให้เสร็จสิ้นภายในวันนี้นะครับ” ทนายยิ้มก่อนจะมอบกุญแจพวงใหญ่ลายเก่าโบราญมีจำนวน4ดอกพร้อมกับกุญแจขนาดเล็กอีก2ดอกซึ่งมีสีขาวกับสีดำให้เธอ
“กุญแจอะไรกันคะ”
“คุณท่านบอกว่าสักวันคุณหนูจะรู้ครับ”คุณทนายเดินจากไปทิ้งไว้เพียงรอยยิ้มอันอบอุ่นให้เธอ ทันใดนั้นเธอก็ร้องไห้โฮ ในความรักที่พ่อแม่มีให้กับเธอนี่ยังไม่รวมทรัพย์สมบัติที่ใช้กี่ชาติก็ไม่มีวันหมดแน่ๆ เหตุใดเล่าท่านจึงทำเพื่อเธอขนาดนี้ เมื่อก่อนเธอไม่ชอบเลยที่พ่อแม่เธอกลับบ้านดึกๆเพราะเอาแต่ทำงาน แต่ทุกครั้งที่ท่านกลับมาท่านจะซื้อขนมมาฝากเธอพร้อมร้องเพลงให้ฟังก่อนนอน และจะอยู่ทานอาหารเช้ากับเธอทุกครั้ง ไม่ว่างานจะยุ่งขนาดไหนบางครั้งท่านก็จะรีบกลับมาทานอาหารเย็นกับเธอ และอยู่สอนการบ้านกับเธอหลังจากนั้นก็จะออกไปทำงานทันที ความอบอุ่นและความรักที่ท่านให้ช่างมากมายนักและ วันพรุ่งนี้เล่าความรักพวกนี้เธอจะไปหาจากไหนอีก เมื่อไม่มีพวกท่านแล้วใครเล่าจะเติมเต็มความรักพวกนั้นให้ ตอนนี้เธอไม่ต้องการสมบัติอะไรทั้งสิ้นหากต้องการเพียงสองชีวิตที่เคยอยู่กับเธอกลับมา เธอต้องการคำบอกรักก่อนนอน การปลอบโยนยามร้องให้ อ้อมกอดที่มีให้เธอในวันที่อ่อนล้า รอยยิ้มที่มีให้ในวันที่เธอเศร้า และถ้าอ่อนล้าหรือหมดแรงเธอจะเอาสิ่งไหนมาเติมพลังใจให้เดินต่อไป วันพรุ่งนี้ช่างเหนื่อยเหลือเกินวันที่ไม่มีท่านมาคอยชี้แนะหรืออบรมเมื่อทำผิด สิ่งพวกนี้เธอคงต้องทำเองหมดทุกอย่างแล้ว ที่สำคัญทำไมมัจจุราชไม่เอาเธอไปด้วยเธอจะอยู่อย่างไงเมื่อขาดความรัก จะให้อยู่แบบตายทั้งเป็นได้อย่างไร หญิงสาวพาร่างตัวเองขึ้นไปบนห้องของพ่อแม่ อย่างน้อยเธอก็ขอได้นอนในห้องพวกท่าน ถึงแม้มันจะเป็นความอบอุ่นที่เจือจางแต่เธอก็จะรวบรวมมันมาให้หมดมาเติมพลังที่ต้องใช้เดินในวันพรุ่งนี้ แค่คิดมันก็เหนื่อยแล้ว
ความคิดเห็น