คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Let's Go !!!
Let’s Go !!!
ผมแบกกระเป๋าตัวเองประมาณ3-4ใบที่จำเป็นไป เอาความจริงมันก็ไม่เยอะหรอกครับ ก็มีพวกเสื้อผ้า ชุดเครื่องนอนแล้วก็ตุ๊กตาของผมนะครับแต่ผมเป็นคนที่จัดของเป็นระเบียบเลยใช้กระเป๋าเยอะหน่อยเท่านั้นเอง ผมก้มมองนาฬิกาตัวเองอีกครั้งเพื่อเป็นการดูว่าผมไม่ได้ตกไฟลท์บิน ผมเลือกที่จะเดินทางไปสนามบินด้วยแท็กซี่มากกว่าจะห้แม่ผมไปส่ง คุณได้ยินไม่ผิดหรอกครับที่ผมพูดว่าแม่แทนที่จะเป็นพ่อแม่ ก็เพราะว่าพ่อผมเวียชีวิตในอุบัติเหตณ์ไปตั้งแต่ผมยังเด็กแล้วละครับ
“จะไม่ไห้แม่ไปส่งจริงๆหรอกลูก” แม่ของผมถามพร้อมกุมมือผมไว้ไม่แปลกหรอกครับเพราะปกติผมแทบจะไม่อยู่ห่างกับแม่เลยสักครั้ง มันก็ต้องมีใจหายกันบ้าง
“เปอร์แน่ใจครับ ขืนไห้แม่ไปส่ง เปอร์ว่าเปอร์คงไม่ได้ไปเรียนมหาลัยแน่ๆเลย” ผมพูดแกมหัวเราะพร้อมก้มตัวไปหอมแก้มทั้ง2ข้างของท่าน ไม่นานรถแท็กซี่ที่ผมเรียกไว้ก็มาถึง แม่จับผมไปกอดเป็นครั้งสุดท้ายเหมือนเป็นกาบอกลา
“ดูและตัวเองดีๆนะลูก ถึงหอแล้วโทรหาแม่ด้วยละ อ้อแล้วก็ อย่าติดสาวที่ไหนจนลืมแม่ละรู้ไหม” แม่พูดพร้อมทำหน้าจริงจัง
“รู้แล้วคร้าบบ เปอร์ไปก่อนนะ รักแม่นะครับ” ผมขึ้นไปนั่งบนรถแทกซี่ มารู้ตัวอีกทีเท้าของผมก็เหยียบลงบนสนามบินซะแล้วววว
“ไอ้เปอร์ทางนี้โว้ยยยยยย” ผมหันไปมองต้นเสียงแหมมันจะใครได้ละครับก็ไอ้ติม นะสิครับที่ตะโกนโวยวายจนคนอื่นเขามองมากันหมด ผมรีบวิ่งไปหามันแล้วเอามือตะครุปปากมันไว้
“อ้ายเอออึงอะอิดอากอูอำไอ อูอายไอไอ่ออก อ่อยเอยไอ่เอี้ย”(ไอ้เปอร์มึงจะปิดปากกูทำไม กูหายใจไม่ออก ปล่อยเลยไอ้เหี้ย) ไม่ทันที่สมองผมจะแปลภาษามันออก มันก็กัดเข้าทีมือผมจนผมสะดุ้งโหยง
“เชี่ยติมมึงเล่นไรของมึงเนี่ย พ่อเป็นหมาหรอครับ”
“ก็มึงจะมาปิดปากกูทำส้นตีนอะไรวะ แม่งกูแทบจะขาดอากาศหายใจตาย” มันพูดพร้อมเหมือนจะเอาเรื่องผมไห้ได้
“ก็มึงอะ ตะโกนเชี่ยไรเสียงดังคนเขาหันมามองหมดทั้งสนามบินแล้ว แล้วกูชื่อเปเปอร์ครับ ไม่ใช่ เหี้ยเปอร์ แม่กูอุตส่าห์ตั้งให้มึงก็เรียกซะ ”ไม่นานไอ้ติมมันก็มองไปรอบๆตัวที่ผู้คนต่างมองมาที่เราอย่างเป็นจุดสนใจ และมันก็หันมาทางผมอีกครั้งเหมือนจะส่อความนัยว่า กูเห็นด้วย
ผมกับไอติมต่างพากันไป เช็คอินที่นั่งพร้อมโหลดของลงเครื่องจนตอนนี้ผมกับมันก็ขึ้นมานั่งบนเครื่องบินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เอาความจริงมหาลัยก็ยังไม่เปิดหรอกรับแต่พวกผมอยากไปเปิดหูเปิดตา กันไว้ก่อน พูดง่ายๆก็คือหาโอกาสเที่ยวก่อนนั้นเองครับเพราะถ้าไม่เที่ยวตอนนี้ ไหนจะรับน้อง กิจกรรมคณะ พวกผมคงไม่ได้เที่ยวกันพอดี ถ้าเป็นคณะอื่นที่ไม่ใช่คณะแพทย์ศาสตร์คงสบายกันน่าดู แต่สำรับพวกผมมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหาโอกาสเที่ยวเพราะฉนั้นช่วงเวลานี้และครับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด
“เออ เดี๋ยวกูว่ากูพามึงไปจัดของที่หอไห้เรียบร้อยก่อนว่ะ ขาดเหลือเหี้ยไรจะได้ไปซื้อทัน แล้วมึงคิดจะซื้ออะไรไว้บ้างละ” ไอ้ติมเสนอความคิดเห็นออกมาครับ ก็ดีเหมือนกันนะครับ ผมจะได้ไปรับเอกสารของรูมเมทอีกคนมาด้วย เพราะตอนแรกทางมหาลัยจะแฟกซ์เอกสารมาไห้ผม แต่ผมว่าผมไปรับเองดีที่สุดครับ
“เอาความจริงกูว่าก็แทบจะไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มแล้วละ ถ้าจะมีก็คงเป็นของใช้ส่วนตัวพวกครีมอะไรทำนองเนี้ยและ” แหมเห็นผมกับไอติมเป็นผู้ชายแบบนี้แต่เรื่องครีมสำคัญกับพวกผมมากนะครับ ที่แม่ตั้งชื่อผมว่าเปเปอร์ก็เป็นเพราะว่าผมเป็นคนที่จัดว่าขาวมากพูดง่ายๆก็คือผิวพรรณดีมาตั้งแต่เกิด ส่วนไอ้ติมนั่นหรอครับมันเป็นเด็กเหนือที่เสือกมาเป็นนักกีฬาว่ายน้ำแต่ไม่ยอมดำ เพราะฉนั้นเรื่องครีมถือว่าเป็นปัจจัยที่6ของผมกับไอ้ติมเลยก็ว่าได้ ส่วนเรื่องหอ หอในที่ผมอยู่ขนาดใหญ่มากเลยครับๆอยู่6คนยังไหว ภายในห้องมีห้องครัวกับห้องนั่งเล่นให้ด้วยส่วนเฟอร์นิเจอร์ในห้อง ก็จะมีแยกตามจำนวนคนที่นะครับ ห้องของผมเป็นรูมเมท2คน ก็ถูกจัดว่าไห้ใช้อย่างลงตัว มีเตียง2เตียง เฟอร์นิเจอน์พวกโคมไฟ โต๊ะอ่านหนังสือ ราวตากฟ้า อะไรพวกนี้จะแยกกันเลยครับ จะมีแค่ส่วนของห้องน้ำจะเป็นห้องน้ำเดียวกันครับแต่ก็กว้างใช้ได้เลยครับ มีอ่างอาบน้ำด้วยมั้งถ้าผมจำไม่ผิด จัดได้ว่าเป็นหอพักที่เหมือนจะเป็นคอนโดราคาแพงสักห้องหนึงเลยก็ได้ไม่ครับ แต่ด้วยความที่ขึ้นชื่อว่าหอในก็เลยถูกลงมาหน่อยเมื่อเทียบกับหอข้างนอก ใช้เวลาไม่นานเครื่องบินก็เดินทางมาถึงตัวเมืองเชียงใหม่เลยครับ ผมกับไอ้ติมต่อรถแท็กซี่เข้าไปในหอเลยครับ จะได้จัดการธุระอะไรไห้เสร็จสักที ผมเดินเข้าไปที่เคาน์ตอร์ของหอในครับ
“ติดต่อเรื่องอะไรคะ “ พี่พนักงานต้อนรับผมด้วยเสียงหวาน
“ผมมารับกุญแจห้องพ้อมเอกสารรูมเมทของผมครับ”
“รบกวนขอชื่อ พร้อมเอกสารรับสิทธิ์หอในด้วยนะคะ” พอพี่พนักงานพูดจบผมก็ส่งใบเอกสารหอในที่ทางมหาลัยแฟกซ์มาไห้ผม
“ ผมชื่อ ภัทธรกร นพรัตน์ ครับ อยู่คณะแพทย์ศามสต์แล้วนี่เอกสาน ยืนยันรับสิทธิ์หอในครับ” พี่พักงานรับไปพร้อมกับส่งกุญแจห้องกับซองเอกสารสีน้ำตาล1ซองครับ
“กุญแจห้องเบอร์ 309นะคะ อย่าทำหายนะคะ นี่คีย์การ์ดสำหรับเปิดประตูขึ้นไปบนหอคะ และนี่เอกสารรูมเมทของน้องจ๊ะ”ผมรับของจากพี่พร้อมพยัดหน้าเป็นเชิงเข้าใจ พอเสร็จธุระ ไอ้ติมกับผมก็ช่วยกันขนของขึ้นไปบนห้อง โชคดีนะครับที่มีลิฟ์ไม่งั้นพวกผมตายแน่แลย T^T
“เปอร์มึงอะจัดของใส่ตู้ให้เรียบร้อย เดี๋ยวเรื่องกวาดกับถูกูจัดการไห้เอง ตกลงตามนี้ เคป่ะ” มันพูดพร้อมยกมือมือ ทำท่าโอเคพร้อมยื่นปปากจู๋ๆของมันออกมา โถน่ารักตายและไอ้สัสกูจะอ้วกครับ ผมตกลงตามที่ไอ้ติมพูด ผมว่า ว่าเอาของมาไม่เยอะแล้วนะะครับแต่ทำไมพอเอาออกมาจัดแล้วมัยถึงเยอะอย่างนี้ก็ไม่รู้ ( . .)(. . )” ระหว่างที่ผมกำลัวจะบรรดาตุ๊กตาหมี ของผมมาเรียงบนเตียงนั้นไอ้ติมก็กันหันมามองผมครับ
“โถพ่อคุณณณ โตจนหมามันจะเลียตูดไม่ถึงแล้ว ยังจะเล่นตุ๊กตาอีกนะครับสัส อ่ะๆ มึงเรียงเลยมึงเรียงเข้าไปกูจะดูสิวามึงจะนอนตรงไหน เตียงมีไว้ไห้คนนอนนะครับ คุณชายเปอร์ไม่ได้เอาไว้เป็นหิ้งเรียงตุ๊กตา” จะว่าไปมันก็พูดถูกนะครบ ผมเป็นคนค่อนข้างขี้กลัวครับ นอนคนเดียวนี่ตุ๊กตาต้องล้อมรอบ8ทิศครับ นี่พูดจริงครับไม่ได้เว่อร์ จนบางทีนี่ที่นอนแทบไม่มี พูดง่ายๆนะครับ ตุ๊กตาไม่ล้อม8ทิศกูนอนไม่ได้ครัช
“เรื่องของกูอีกอะ บ่นอยู่ได้มึงอะ กวาดพื้นไปเลย” ผมพูดพร้อมมานั่งจัดตุ๊กตาต่อครับ เอ่อจัดไปจัดมา แล้วกูจะนอนตรงไหนวะเนี่ย
“เออ พ่อคุณพ่อมหาจำเริญแตะนิดแตะหน่อยนี่ทำงอน ตุ๊ดป่ะมึงอะ” ไอ้ติมพูดเสร็จผมก็ง้างตีนถีบมันเต็มๆเลยครับ รู้ตัวอีกทีมันก็ลงไปกราบเบญจางคปะดิษฐ์ที่พื้นแล้ว
“เหี้ยเปอร์ เล่นแรงไปป่ะว่ะ “ไอ้ติมพูดพร้อมลุกขึ้นบิดตัวไปมา แต่ผมก็ไม่สนใจ จัดหนังสือ เสื้อผ้า ต่อไปครับ ส่วนไอ้ติมมันก็กวาดพื้นต่ครับ แต่ก็ยังทำเสียงจิจ๊ะ พร้อมบ่นไห้ผมได้ยินอยู่เรื่อยๆ แต่ผมก็ต้องเงียบไว้ ไม่งั้นวันนี้แม่งไม่จบ
..........................................................................................................................................
ความคิดเห็น