ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดวงใจเทพธิดาเครื่องหอม

    ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ ๗ ที่หน้าประตูคฤหาสน์กระกูลเจ้าข้าได้พบกับ???

    • อัปเดตล่าสุด 18 ม.ค. 58






                  สองพ่อลูกตระกูลฟู่เดินจับมือกันอยู่ท่ามกลางผู้คนบนถนนสายที่คึกคักที่สุดในเมืองหลวง ถนนสายนี้เป็นทางสัญจรหลักจากวังหลวงไปยังประตูทิศตะวันตกนับว่าเป็นถนนสายที่ยาวที่สุดในเมืองหลงแห่งนี้

    เสียงพูดคุยของผู้คนมายมาย เสียงของผู้นำขบวนเกี้ยวบอกผู้คนให้ระมัดระวังตัวไม่ให้มาโดนเกี้ยวของเจ้านายตน เสียงต่อราคาซื้อขาย เสียงวิ่งเล่นของเด็กๆ และเสียงรถเทียมม้าที่กำลังจะออกนอกเมือง เสียงและบรรยากาศเหล่านี้ช่วยทำให้บรรยากาศเมืองหลวงคึกคัก

    ฟางเซียนมองไปตามถนนอย่างนึกสนุกสังเกตสิ่งรอบตัวอย่างสนุกสนาน ความคึกคักของเมืองทำให้จิตใจเธอคึกคักไปด้วย จากการก้าวเดินธรรมดาของฟางเซียนตอนนี้เป็นการเดินกระโดดอย่างมีความสุข

    ใบหน้ากลมของฟางเซียนฉายแววรื่นเริงออกมาทำให้ยิ่งน่าเอ็นดูมากในสายตาฟู่หลงซิน ฟางเซียนไม่ใช่เด็กชายที่หล่อเหล่าหรือน่าตาดี แต่เด็กน้อยคนนี้น่ารัก รอยยิ้มกว้างๆกับดวงตากลมโตที่แสนสดใสของเขาทำให้คนที่ได้เห็นอดที่จะยิ้มตามไม่ได้ มันเหมือนมีมนต์สะกด

    “อ้าวพ่อบ้านฟู่” น้ำเสียงทักทายอย่างดีใจของชายคนหนึ่งหยุดฝีเท้าของสองพ่อลูกเอาไว้

    ฟางเซียนเงยหน้ามองไปยังคนเรียกพ่อบุญธรรมของตนอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ทำอะไรและยืนมอง

    ฟู่หลงซินพาฟางเซียนเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะประสานมือโค้งคำนับผู้ชายวัยกลางคนที่ดูใจดีตรงหน้าอย่างนอบน้อม “คารวะท่านหมอหยาง ไม่ได้เจอกันนาน ไม่ทราบว่าท่านเป็นเช่นไรบ้าง” น้ำเสียงของฟู่หลงซินก็ดูนอบน้อมเช่นกัน

    “สบายดี สบายดี แล้วนี่เด็กคนนี้ใครกันละไม่คุ้นหน้าเลย” ท่านหมอหยางในชุดทำงานที่มีสีอ่อนจนเกือบขาวมองแล้วชวนให้สงบใจย่อตัวลงมาหาฟางเซียน “เจ้าชื่ออะไรเด็กน้อย”

    “ฟู่หลงฟางเซียน ครับ” ฟางเซียนตอบอย่างฉะฉานแล้วตบท้ายด้วยรอยยิ้มกว้าง ยิ้มสู้ค่ะยิ้มสู้

    “สกุลฟู่ ญาติท่านหรือพ่อบ้านฟู่” ท่านหมอหยางพูดระหว่างยืดตัวขึ้น

    “ลูกชายบุญธรรมข้าเองขอรับท่านหมอ”

    “ลูกชาย?  อืม ชื่อแปลกดีนะชื่อเหมือนชื่อผู้หญิง   โตมาท่าจะสวย” ท่านหมอหยางวิเคราะห์ออกมาหลังจากมองหน้าฟางเซียนอย่างถ้วนถี่

    เยี่ยม ! ฟางเซียนยกนิ้วให้อย่างงามอยู่ในใจ รอยยิ้มของเธอก็กว้างมากกว่าเดิม

    ฟู่หลงซินส่ายหน้าเบาๆ “ไม่สวยเหรอกขอรับท่านหมอ ดูสิน่าจะพอไปวัดไปวาเสียมากกว่า”

    อ้าวท่านพ่อบุญธรรม พูดจาแบบนี้นี่ตาไม่ถึงนะคราบท่านพ่อ

    “โอ๊ย..พ่อบ้านฟู่ท่านไม่เคยเจอหรือไงตอนเด็กๆหน้าตาดูไม่ได้เอาเสียเลยแต่พอโตมาสวยอย่างกับเทพธิดานางฟ้า ดูอย่างสนมเจ้าสิตอนเด็กๆหน้าตาขี้เหร่กว่าเด็กคนนี้เยอะ ตอนนี้เป็นพระสนมไปซะแล้ว” เรื่องที่ท่านหมอว่ามาก็ชวนให้ฟู่หลงซินฉุกคิดอยู่เหมือนกัน

    “ท่านหมอ ท่านหมอพูดถูกใจผมมาก   เอ้ย ถูกใจข้าน้อยมากเลยขอรับ” ฟางเซียนพูดอย่างกระตือลือล้นแล้วหันไปเขย่าแขนพ่อบุญธรรม “ข้าโตมาแล้วต้องสวยมากแน่ๆท่านพ่อ” เธอพูดด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยมเกิดเป็นผู้หญิงอย่าหยุดสวยเดี๋ยวผู้ชายจะสวยกว่า ถึงจะต้องบอกคนอื่นว่าเป็นชายแต่ผู้ชายหน้าสวยมีถมไป(มั้ง)

    ท่านหมอหยางหัวเราะลั่น ฟู่หลงซินกุมขมับ ฟางเซียนนะฟางเซียนเจ้าควรจะโตขึ้นมาแล้วหล่อมากต่างหาก “ท่านหมอหยาง ท่านกำลังจะทำให้ข้ามีปัญหาในอนาคตนะขอรับ” ถ้าลูกชายข้าเกิดอยากเป็นผู้หญิงขึ้นมาใครจะรับผิดชอบกัน อีกอย่างข้าไม่อยากคิดเลยหากฟางเซียนเป็นหญิงแล้วต้องแต่งงานออกไป ข้าคงรับไม่ได้แน่ๆ ฟู่หลงซิน คิดอย่างไม่ชอบใจ

    “เอาน่า เอาน่า ข้าไม่รบกวนพวกท่านดีกว่า ไว้ว่างๆจะไปหาที่คฤหาสน์ตระกูลเจ้านะพ่อบ้านฟู่ ฟางเซียนน้อยเป็นเด็กดีนะ” ท่านหมอหยางลูบศีรษะที่มีเส้นผมสั้นของฟางเซียนอย่างเอ็นดู “ไว้ผมยาวก็จะดีนะ ฟางเซียน ผมสั้นๆแบบนี้หน้าหนาวเจ้าจะหนาวคอได้”

    “เอ่อ... มันค่อนข้างน่ารำคาญขอรับ ผมเอ้ย ข้าขอไว้ผมสั้นดีกว่า” ถึงจะตอบไปอย่างมั่นใจแต่ฟางเซียนจับปอยผมด้านหน้าอย่างครุ่นคิด ว่าจะไว้ผมยาวตามที่ท่านหมอหยางแนะนำดีหรือไม่

    “ลาแล้วนะขอรับท่านหมอ” ฟู่หลงซินประสามือโค้งตัว ฟางเซียนก็ทำตามแต่มองแล้วก็ดูขัดตาเหมือนคนไม่เคยชิน

    สองพ่อลูกออกเดินอีกครั้งแต่ไม่เหมือนเมื่อสักครู่นี้เพราะทั้งสองมีเรื่องให้พูดคุยกัน ฟู่หลงซินที่เดินอยู่ข้างๆฟางเซียนตอบคำถามของเด็กน้อยอย่างใจเย็น มือของสองพ่อลูกกุมกันไว้เพื่อไม่ให้เด็กน้อยหลงทาง ไออุ่นจากฝ่ามือใหญ่ของฟู่หลงซินทำให้ฟางเซียนรู้สึกอุ่นใจ

    “ท่านพ่อ ท่านหมอเป็นใคร แล้วเป็นหมอทำไมไม่อยู่ในโรงพยาบาลละ”

    “ท่านหมอหยาง ท่านเปิดร้านยาอยู่แถบถนนสายเหนือ โรงพยาบาลนี่ใช่สถานที่สำหรับรักษาใช่หรือไม่”

    “ใช่ครับ”

    ถึงจะได้ยินคำที่ไม่ถูกใจนักอย่างคำว่าครับฟู่หลงซินก็ได้แต่เมินมันไป “ท่านคงออกมาซื้อหาของที่ต้องการหรืออาจจะมาเดินเที่ยว เจ้าจะรู้ไปทำไมฟางเซียน”

    “ก็แค่สงสัยเฉยๆ”

    ตอนนี้ทั้งสองก็เดินมานานแล้วแต่ก็ยังไม่ถึงจุดหมายเสียที ฟางเซียนเองก็สงสัยตอนนี้เธอเริ่มเหนื่อยแล้วและหิวด้วย ความไวในการเดินของฟางเซียนลดลงจนเริ่มทิ้งห่างมาด้านหลังฟู่หลงซินจนการจูงมือเดินเป็นการลากมือเดิน

    ฟู่หลงซินหยุดเดินแล้วหันมาอุ้มลูกชายของเข้าขึ้นมา “ขอโทษด้วยนะฟางเซียน ข้าไม่เคยเลี้ยงเด็กหรือมีลูกมาก่อนเลยอาจจะทำอะไรพลาดไป” เขาเช็ดเหงื่อบนใบหน้ากลมของเด็กน้อยอย่างเบามือ

    “ไม่เป็นไรขอรับท่านพ่อ ก็เริ่มพึ่งเริ่มต้นเอง”

    ใช่เพราะพึ่งเริ่มต้นอาจจะไม่คุ้นชิน แต่การกระทำที่เอาใจใส่เล็กๆน้อยๆของพ่อบุญธรรมก็ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่น อย่างน้อยตอนนี้เธอก็มีคนที่จะคอยดูแลและปกป้องเธอด้วยความเต็มใจอยู่นี่หนึ่งคน เธอก็จะรักและดูแลเขาเหมือนพ่อของเธอเหมือนกัน

    “ต่อไป ข้าจะปกป้องดูแลเจ้าเองฟางเซียน”

    “ขอรับท่านพ่อ แต่ว่าข้ามีแม่ไหมหรือพี่น้องละมีรึเปล่า”

    “มีแค่พ่อกับเจ้านี่แหละ อ่า มีพี่สาวอีกหนึ่งคนด้วยนะ” ใบหน้าของฟู่หลงซินหมองลงเมื่อนึกได้ว่าเด็กคนนี้ต้องไม่มีแม่

    ฟางเซียนเองก็พอเดาใดว่าอะไรทำให้ใบหน้าของพ่อเธอหมองลง “ไม่เป็นไรท่านพ่อ ถึงจะมีแค่ท่านข้าว่ามันก็โอเคกว่าไม่มีใครเลย”

    “โอเค?”

    “โอเคแปลว่าดีครับผม”

    “ครับผม ศัพท์แปลกของเจ้านี่ก็เยอะนะ”

    “ท่านพ่อต้องเจออีกเยอะเลยละ ข้ายังมีอีกเพียบ” ระหว่างฟางเซียนกำลังพูดฟู่หลงซินก็ออกเดินต่อโดยที่อุ้มฟางเซียนเอาไว้ “ดีไม่ดีท่านพ่ออาจจะอยากเรียนจากข้าไว้ใช้ก็ได้นะ”

    “ไม่เอาดีกว่าคำแปลกๆจากเจ้าได้ยินเจ้าพูดคนเดียวก็เกินพอแล้ว อีกอย่างนะพ่อก็ว่าต้องเจออะไรแปลกๆจากเจ้าอีกเยอะนอกจากคำพูด”

    ฟางเซียนที่ถูกอุ้มหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ “แน่นอนครับผม ฮ่ะๆๆๆ”

    ระหว่างการเดินกลับฟู่หลงซินแวะซื้อเสื้อผ้าให้กับลูกชายสองสามชุดพร้อมผ้าสีพื้นเอาไว้ไปตัดเองอีกหนึ่งม้วน เขาเผื่อไว้สำหรับการเจริญเติบโตของลูกชายเพราะเด็กวัยนี้เติบโตไว สักประเดี๋ยวเขาก็คงกลายเป็นหนุ่มน้อยน่าเอ็นดู  

    สองเดินทางใกล้ถึงคฤหาสน์ตระกูลเจ้าแล้ว ฟางเซียนขอลงไปเดินบ้างเพราะเกรงใจที่ถูกอุ้มมานานฟู่หลงซินก็หอบห่อผ้าที่มีชุดใหม่ของฟางเซียนอยู่ ยิ่งใกล้เข้าไปเท่าไหร่คนรู้จักของฟู่หลงซินก็เยอะเพิ่มขึ้นการทักทายต่างๆทำให้ระยะเวลาเดินทางเพิ่มขึ้น กว่าจะถึงก็เย็นเสียแล้ว

    “ถึงแล้วฟางเซียน คฤหาสน์ตระกูลเจ้า” ฟู่หลงซินชี้ป้ายหน้าประตูขนาดใหญ่ทำจากไม้ขัดอย่างดี กำแพงหนาสูงกว่าหัวของฟู่หลงซินนิดหน่อยก่อจากอิฐอย่างดีให้ความรู้สึกโอ่อ่าน่ายำเกรง พูดอย่างง่ายคือมองแล้วไม่ชวนให้เข้าไปข้างในถ้าคุณไม่ใช่คนรวย

    ความใหญ่โตของประตูและกำแพงทำเอาฟางเซียนไม่อยากจะไปอาศัยอยู่ด้านในกำแพงมันช่างสูงใหญ่ในสายตาเธอ “ท่านพ่อจะให้ข้าเข้าไปอยู่ข้างในนี้จริงๆเหรอครับ มันคงไม่เหมาะกับข้า”

    “เจ้าเป็นลูกข้านะฟางเซียน ถึงข้าจะเป็นแค่พ่อบ้านแต่ที่จริงก็เปรียบเสมือนเพื่อนของอ๋องเจ้า ถ้าข้ารับรองว่าเจ้าเป็นลูกข้าข้างในก็ไม่มีอะไรน่ากลัว” ฟู่หลงซินให้กำลังใจพร้อมดันบ่าให้เดินเข้าไปเปิดประตูพร้อมกัน

    ฟางเซียนก้าวเดินอย่างช้าๆหวังประวิงเวลาให้ตัวเองได้ทำใจ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการเข้าไปอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ตระกูลเจ้าความรู้สึกไม่มั่นใจก็วิ่งเข้ามาในจิตใจ

    ฟู่หลงซินบีบไหล่เบาๆอย่างให้กำลังใจก่อนจะเคาะประตูด้วยที่เคาะที่ติดอยู่หน้าประตู ซักพักก็มีคนตะโกนถามออกมาจากข้างในพร้อมเสียงเอะอะโวยวาย ฟู่หลงซินดันตัวเด็กน้อยไปไว้ทางด้านหลังหวังใช้ตัวเองกำบังจากอะไรก็ตามที่ทำให้คนด้านในโวยวายอย่างผิดวิสัยแบบนี้

    “เกิดอะไรขึ้น” ฟู่หลงซินตะโกนถาม

    ฟางเซียนที่ถูกผลักมาอยู่ด้านหลังพ่อบุญธรรมก็พยามจะชะเง้อคอมอง

    ปัง !! เสียงเหมือนอะไรซักอย่างกระแทกประตูอย่างแรง ตามมาด้วยเสียงโอดโอยของผู้ชาย

    ฟางเซียนผะงะถอยหลังให้หางจากประตูมากยิ่งขึ้นแต่เมื่อมองที่พื้นก็ต้องตกใจเพราะมีเงาดำขนาดใหญ่ทาบลงมาบนตัวเธอ ฟางเซียนเงยหน้ามองอย่างโง่งมแทนที่จะหนี สายตาของเธอถูกดึงดูดด้วยสายตาอีกคู่ที่ดูทรงพลังและมุ่งมั่นมันทำให้หัวใจเธอชะงักอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ทันทีที่เจ้าของเงาดำและสายตาทรงพลังลงมาถึงพื้นตรงหน้าเธอในระยะประชิดอย่างมากเขาเสียหลักนิดหน่อยจนชนเธอจนล้ม

    “ฟางเซียน” ฟู่หลงซินที่ได้ยินเสียงจากทางด้านหลังทันหันกลับไปเห็นคนคนหนึ่งที่กระโดดลงมาชนลูกชายของเขาได้ทันก็อุทานชื่อลูกชายอย่างตกใจ ทันทีที่คนนั้นหันมาเขาก็พลันรู้สึกเหนื่อยใจขึ้นมาเสียอย่างนั้น “คุณชาย”

    เจ้าเฟยหรงที่กระโดดลงมาจากกำแพงมองเด็กที่ตัวเองชนอย่างหงุดหงิดใจแต่พอได้ยินเสียงของพ่อบ้านฟู่เรียกเด็กคนนี้ความหงุดหงิดก็แปรเปลี่ยนเป็นความแปลกใจ

    ผู้ชายที่ทำให้เธอตาค้างได้ตั้งแต่เธอตื่นขึ้นมาครั้งแรกคือมังกรดำหงหยูว ตอนนี้ผู้ชายที่ทำให้เธอตาค้างได้ก็มีชายหนุ่มคนนี้เป็นคนที่สอง ใบหน้าเข้มรับกับคิ้วหนาที่พาดอยู่เหนือดวงตาคม จมูกโด่งเป็นสันอย่างดีริมฝีปากปางสีชมพูระเรื่อใบหน้าเกลี้ยงเกลาขาวสะอาดอย่างสุขภาพดี เส้นผมสีดำสนิทถูกรวบตึงเป็นหางม้ายาวระแขน ความสูงที่น่าจะเกิน 170 ซม. บวกกับความหนาของขนาดตัวที่ไม่ได้มากเกินไปยิ่งทำให้ดูสูงและสง่างาม ชายหนุ่มผู้นี้อยู่ในอาภรณ์เรียบสีนำเงินเข้มจนเกือบจะดำสนิท เขาไพร่มือทั้งสองข้างไว้ด้านหลังทำให้กิริยามรรยาทยิ่งดูเหมือนคุณชายบวกผู้ทรงภูมิ มันช่าง

    “เลอค่า” ฟางเซียนพูดไปยิ้มไป

    น้ำเสียงพร่ำเพ้อของฟางเซียนเรียกให้ชายหนุ่มผู้นี้ย่อตัวลงมาใกล้ๆเธอ

    “เจ้าพูดว่าอะไร” น้ำเสียงเข้มแต่ฟังดูอบอุ่นของเจ้าเฟยหรงถามฟางเซียนที่ยิ้มให้เขาอย่างสงสัย

    ฟู่หลงซินรีบเดินเข้ามาดูอาการลูกชายตัวเองอย่างลำบากระคนเหนื่อยหน่ายใจ เจ้าเฟยหรงเป็นลูกชายคนเดียวของอ๋องเจ้าที่มีใบหน้าคมเข้มแต่ก็งดงามไม่ได้ดูดุดันเหมือนอ๋องเจ้าแต่ก็ไม่ได้งามหยาดฟ้าเหมือนฮู่หยินอวี๋หลานเรียกได้ว่าใบหน้าของเจ้าเฟยหรงนั้นดูคมเข้มแต่ก็ให้อารมณ์งดงามในเวลาเดียวกัน ยิ่งกิริยามรรยาทที่ได้รับการอบรมอย่างดีและความสูงที่มากกว่าเด็กหนุ่มรุ่นเดียวกัน ทำให้ไม่ว่าใครที่ไหนก็อดที่จะมองตามหรือชื่นชมไม่ได้ ท่าทางลูกชายเขาก็เช่นเดียวกันดูสิยิ้มซะจนปากจะฉีกแบบนั้น

    ในหัวของฟางเซียนนั้นขาวโผลนเธอลืมแม้กระทั่งลุกขึ้นมายืนดีดี แต่กระนั้นสายตาของเธอก็จ้องไปยังชายหนุ่มพร้อมยิ้มให้อย่างไม่เกรงกลัว อันที่จริงเธอสติหลุดไปแล้วเพราะคำถามที่เขาถามเธอก็ไม่ได้ยินเดือดร้อยฟู่หลงซินเข้ามาพยุงร่างเล็กให้ลุกขึ้นยืน

    ทันทีที่ลุกขึ้นยืนได้ฟางเซียนก็ยังคงจับจ้องไปยังชายหนุ่มคนนั้น

    “ฟางเซียน เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า” น้ำเสียงเป็นห่วงของฟู่หลงซินเรียกสติของฟางเซียนกลับมา

    “อ๋า ท่านพ่อเมื่อกี้น้องชายสุดหล่อเขากระโดดลงมาใส่ข้า”

    “น้องชาย?” ฟู่หลงซินทวนคำพูดของฟางเซียน ส่วนเจ้าเฟยหรงก็ตีหน้าเคร่งเมื่อถูกเด็กน้อยเรียกว่าน้องชาย

    “อือ น้องชาย” ฟางเซียนย้ำ

    ฟู่หลงซินอุ้มฟางเซียนขึ้นมาก่อนจะจับให้หันมามองหน้าตน “ฟางเซียนเจ้าพึ่งแปดขวบนะ” ฟู่หลงซินพูดให้ฟางเซียนเขาใจกึ่งๆให้จำว่าตัวเองอายุแปดขวบ “นั้นคุณชายเจ้า ชื่อ เจ้าเฟยหรง อายุ สิบหกปี ดังนั้นต้องเรียกว่าพี่ชายถึงจะถูก”

    ฟางเซียนที่พึ่งรับข้อมูลใหม่เข้าไปก็ต้องอุทานออกมาด้วยความแปลกใจ “เป็นเช่นนี้นี่เอง มิน่าท่านพ่อกับคุณชายถึงทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้ ข้าก็คิดว่าตัวเองอายุยี่สิบกว่า”

    “เข้าใจก็ดีแล้ว” คุณชายเจ้าคลายสีหน้าแล้วพูดกับฟางเซียนก่อนจะหันไปถามฟู่หลงซิน “ข้าไม่เคยได้ยินว่าพ่อบ้านฟู่มีลูก”

    “ลูกบุญธรรมขอรับคุณชาย ชื่อฟู่หลงฟางเซียน” ทันทีที่ได้ยินชื่อเจ้าเฟยหรงก็กลับมาทำหน้าเครียดอีกครั้งคราวนี้ให้ความรู้สึกกดดันแถมมาด้วย เขาเดินเข้าไปใกล้พ่อบ้านฟู่ที่กำลังอุ้มลูกชายตัวเองอยู่เพื่อจะดูหน้าเด็กน้อยให้ชัดๆ

    ฟางเซียนรู้สึกอึดอัดจนต้องซุกหน้าเข้ากับบ่าของพ่อบุญธรรมเพื่อหนีสายตาของเจ้าเฟยหรง ถึงใบหน้าของเจ้าเฟยหรงจะงดงามแต่เวลาทำสีหน้าเคร่งเครียดก็สามารถทำให้คนที่ถูกมองรู้สึกกดดันได้เหมือนกัน

    ฟู่หลงซินที่ชินกับเหตุการณ์แบบนี้ก็ลูบหัวปลอบลูกชาย “เมื่อกี้ยังยิ้มให้คุณชายอยู่เลย ทำไมถึงหันหน้าหนีแบบนี้ละ”

    “เขาทำให้ข้ากลัว”

    เมื่อเจ้าเฟยหรงได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก จนต้องผ่อนลมหายให้ออกมาแค่คำพูดคำพูดเดียวของเด็กที่พึ่งเจอหน้ากันทำไมถึงมีอิทธิพลกับตัวเขามากมายเช่นนี้

    “เลิกกลัวได้แล้วเจ้าต้องคารวะคุณชายก่อน” ฟู่หลงซินปล่อยฟางเซียนลงกับพื้นก่อนจะหัวเราะเบาๆออกมาเมื่อเห็นว่าลูกชายตัวเองเป่าลมออกจากปากเพื่อไล่ความเครียด

    ฟางเซียนประสานมือในระดับหน้าอกก่อนจะโค้งตัวพร้อมพูดว่า “ผมชื่อ ฟู่หลงฟางเซียน สวัสดีคุณชายเจ้าครับ” พอฟางเซียนเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นว่าเจ้าเฟยหรงหันหลังให้ เธอเบ้ปากหันไปขอความเห็นจากพ่อบุญธรรม ก่อนจะหันกลับมามองแผ่นหลังของเจ้าเฟยหรงที่กำลังสั่นกึกๆ

    ขำสินะ กำลังขำอยู่สินะ อาการแบบนี้ชัดเลย ฟางเซียนทำหน้ามุ่ยใส่แผ่นหลังเจ้าเฟยหรง “จะหัวเราะกันก็มาหัวเราะกันซึ่งๆหน้าก็ได้”

    เมื่อได้ยินแบบนั้นเจ้าเฟยหรงก็หันกลับมาพร้อมรอยยิ้มเกลื่อนหน้า “ฮ่ะๆๆๆ ผมชื่อฟู่หลงฟางเซียน สวัสดีคุณชายเจ้า ข้าไม่รู้ว่าทำไมพอเป็นเจ้าพูดแล้วมันถึงได้ชวนให้น่าหัวเราะขนาดนี้ก็ไม่รู้ ข้าขอโทษด้วย” เจ้าเฟยหรงพูดขอโทษตบท้าย

    ยิ่งได้ยินฟางเซียนก็ยิ่งรู้สึกเสียหน้าเลยเดินเข้าไปหลบหลังฟู่หลงซินเป็นอันปิดประเด็นเพราะเธอกำลังงอน

    “อย่างอนง่ายเหมือนเด็กผู้หญิงสิฟางเซียน” ฟู่หลงซินพยามปลอบใจ

    “เขาไม่ใช่เด็กผู้หญิงหรือ ข้านึกว่าเขาแค่ตัดผมสั้นเท่านั้น” เจ้าเฟยหรงถามเพราะเขานึกว่าฟางเซียนเป็นเด็กผู้หญิง

    “ไม่ใช่ขอรับคุณชาย ฟางเซียนเป็นเด็กผู้ชาย” ฟู่หลงซินแก้ข้อสงสัยให้คุณชายเจ้า

    “เด็กผู้ชายงั้นเหรอ...ทำไมกับผู้ชายคนนี้เราถึงอยากให้เขารู้ว่าเราเป็นผู้หญิงละ”ฟางเซียนพึมพำเบาๆอย่างเศร้าใจ กับคนคนนี้ถึงจะงอนอยู่แต่ก็ไม่อยากโกหกเขาว่าเป็นเด็กผู้ชาย  

    “ว่าแต่คุณชายเจ้าเมื่อตะกี้ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากข้างใน” ฟู่หลงซินกำลังสอบถามในสิ่งที่สงสัยแต่ก็พลันนึกเอะใจจึงคิดจะรวบตัวคุณชายเอาไว้

    “หึหึ” เจ้าเฟยหรงที่หลบออกมาจากการรวบตัวของฟู่หลงซินได้ ยืนหัวเราะในลำคออย่างภูมิใจ “แบบนี้ก็ดีเหมือนกันถ้าเป็นเด็กผู้ชายข้าก็มีงานให้เขาทำ”

    “เขา?” ฟางเซียนชี้หน้าตัวเองก่อนจะต้องหวีดร้องออกมาเพราะถูกอุ้มฟาดบ่าอย่างรวดเร็ว

    “คุณชายยยยยยยยยย   นั้นลูกชายข้า” ฟู่หลงซินตะโกนใส่อากาศธาตุอย่างสะท้อนใจ เขาน่าจะไหวตัวเร็วกว่านี้ไม่งั้นฟางเซียนคงจะไม่ต้องถูกพาตัวไป “ข้าลืมไปได้ไงว่าวันนี้เป็นวันรวมตัวของพวกองค์ชายอวิ๋นหลง”


    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    ขอโทษนะคะที่หายไปนานหลายวัน 
    ทำโปสเตอร์โปรเจคจบอยู่ค่ะ หลังจากนี้ก็ทำโปรเจคยาวๆ T____T 
    อาจจะมาช้ามากๆ ขอโทษด้วยนะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×