คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ ๕ ฟังเรื่องเล่าจากตาเฒ่าจิน
อากาศเย็นสบายพร้อมแสงแดดอุ่นๆ ที่นอนกว้างใหญ่อย่างดีทำมาจากหญ้าที่ให้สัมผัสนิ่มนวลน่านอน สระน้ำตรงมุมที่มีอุณหภูมิอุ่นจนทำให้แช่เพลินจนตัวเปื่อย รูกว้างด้านบนใหญ่เสียจนทำให้เห็นดวงจันทร์และดวงดาวในยามค่ำคืน ม่านระย้าที่ทำมาจากเถาวัลย์บนตัวเถาวัลย์มีดอกไม้ตูมเล็กๆกระจายอยู่ตอนนี้มันกลับบานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมหวานชวนให้หลงใหล ที่พักอันอบอุ่นของเกศราหรือตอนนี้ที่ยอมรับแล้วว่าตัวเองชื่อฟางเซียนแต่เรื่องเป็นเทพธิดามันเกินไปกว่าตัวเธอจะรับได้ เอาเป็นว่าตอนนี้เกศราเปลี่ยนชื่อเป็นฟางเซียน สวมบทเป็นน้องสาวของเทพธิดาบุปผาสวรรค์ที่งามหยาดเยิ้มเจ้าของร้อยยิ้มพิฆาตใจฟางเซียน
หลังจากลืมตาตื่นขึ้นมาวันนี้เป็นวันแรกที่ได้พบเทพธิดาบุปผาสวรรค์ ฟางเซียนน้อยก็ตัดสินใจปักหลักอาศัยอยู่ในหุบเขาแดนสนธยา ถ้ำที่เธออาศัยหลับนอนก็เหมือนห้องนอน ดงดอกไม้ที่เธอเคยนั่งร้องไห้เพราะมังกรดำหงหยูวก็คิดเสียให้มันเหมือนห้องนั่งเล่นห้องรับแขก เขตต้นไม้ใหญ่ที่ล้อมรอบดงดอกไม้ก็เหมือนเขาวงกตและทางลัด มันจะเป็นเขาวงกตก็ต่อเมื่อผู้ที่ล่วงล้ำเข้ามาไม่มีผู้นำทาง แต่จะเป็นทางลัดทันทีถ้ามีผู้นำทาง มันจะนำไปยังสามสถานที่สำคัญ ที่พำนักของเทพธิดาบุปผาสวรรค์ ที่พำนักของเทพธิดาเครื่องหอม ห้องเก็บของ ส่วนที่พักของตาเฒ่าจินนั้นไม่ถือว่าสำคัญมาก อันนี้เป็นคำบอกเล่าจากปากของท่านเทพธิดาบุปผาสวรรค์
ตอนแรกที่ฟางเซียนเจอเฒ่าจินที่มีขนาดความสูงพอพอกับตัวเองเธอได้แต่ยิ้มแล้วหลบอยู่หลังเทพธิดาบุปผาสวรรค์ ใบหน้าเรียบเฉยของชายชราที่ถือไม้เท้าแห้งๆกับดอกไม้งดงามรอบๆตัวในดงดอกไม้ ช่างไม่เข้ากันจริงๆ
“ท่านพี่ คุณตาท่านนี้ เขาเป็นใคร” ฟางเซียนถามเทพธิดาบุปผาสวรรค์
“จิน หรือจะเรียกว่า เฒ่าจินก็ได้ ชายผู้นี้ดูแลห้องเก็บของของเจ้าตั้งแต่เจ้าจากไป..ครั้งนั้น” น้ำเสียงของเทพธิดาแผ่วลงในตอนท้ายก่อนจะสูดลมหายใจเข้าเบาๆแล้วหันไปลูบหัวเด็กน้อยด้านหลังนาง “ถ้าอยากจะเข้าไป ก็ให้เขาพาไป”
ห้องเก็บของคำคำนี้ช่างน่าตื่นเต้นสำหรับเธอเหลือเกิน ก็แค่ห้องเก็บของทำไมถึงน่าเข้าไปแบบนี้ ‘หวังว่าน้ำหอมที่ทำไว้จะยังไม่ระเหยหายไปหมดนะ จะเก็บไว้ให้หงหยูว’ ฟางเซียนคิดก่อนจะนิ่วหน้าลงเธอกำลังนึกถึงเขาอีกแล้ว มังกรดำหงหยูว
เฒ่าจินไม่ได้ตอบอะไรกลับมาเขาโค้งศีรษะให้ ฟางเซียนก็ได้แต่ยกมือไหว้แบบปลกๆ หลังจากนั้นเทพธิดาบุปผาสวรรค์ก็ขอตัวไปพักผ่อนต่อแต่ก่อนจะไปนางได้ทิ้งคำแนะนำเอาไว้ “เซียนเอ๋อ หากคิดถึงหงหยูวมากนัก จงลงไปตามหาเขาในหมู่มนุษย์” ก่อนที่นางจะสลายเป็นละอองสีชมพูอ่อนลอยเข้าไปในเขตต้นไม้ใหญ่
ฟางเซียนยืนนิ่ง เฒ่าจินก็ยืนนิ่ง แสงแดดในยามสายสาดส่องไปทั่วหุบเขา เสียงนกเสียงสัตว์ดังแว่วอยู่ไกลๆ ฟางเซียนก็ยังคงยืนนิ่ง เฒ่าจินก็เช่นกัน
“เอ่อ...คือ... หนูจำเรื่องอะไรก่อนหน้านี้ไม่ได้นะคะ บอกไว้ก่อน” ฟางเซียนชิงออกตัวก่อน
“เช่นนั้นหรือ นั้นนับเป็นเรื่องดี ท่านจะได้ไม่สั่งงานข้ามาก”
“สั่งงาน ??” ฟางเซียนทวนคำถาม ‘เทพธิดาเครื่องหอมใช้แรงงานคนแก่เหรอ?’
พรืดดด เสียงเสียดสีจากการคลี่ของม้วนกระดาษที่อยู่ดีดีก็ปรากฏขึ้นบนอากาศเรียกความสนใจของเด็กน้อย ดวงตาของเด็กน้อยเบิกกว้าง ‘คุณพระ นี่สั่งงานเยอะเป็นบ้า ม้วนกระดาษยาวกว่าความสูงของตาเฒ่าซะอีก’
ความยาวของม้วนกระดาษที่ยาวเท่าความสูงของฟางเซียนรวมกับเฒ่าจิน ทำให้เด็กหญิงต้องเงยหน้าคอตั้งเพื่ออ่าน
“สกัดน้ำมันดอกมะลิ สกัดนั้นมันดอกเหย สกัดน้ำมันดอกกุหลาบ ... อบดอกจำปี เก็บยางไม้ เผาเปลือกไม้.. และอื่นๆอีกมากมาย มากจริงๆ” ฟางเซียนที่อ่านข้อความในม้วนกระดาษรู้สึกละอายใจนิดหน่อยที่ใช้งานคนแก่มากไป
เฒ่าจินสลายม้วนกระดาษทิ้งแล้วหันมาจ้องฟางเซียนเหมือนรอคำสั่ง ฟางเซียนส่งยิ้มให้แต่ในใจก็คิดอย่างกระอักกระอ่วน ‘จะมาจ้องทำไมกัน... เอ๊ะ ถ้าเราถามเขาเรื่องหงหยูวละว่าเขาอยู่ไหน’
“คุณตา คือ รู้จักหงหยูวไหม”
เฒ่าจินรับรู้ได้ถึงคำถามของฟางเซียนที่จะถามหาเรื่องของหงหยูว “รู้”
“เขาอยู่ไหน”
“เจ้าต้องรับรู้เรื่องทั้งหมดก่อน”
“แค่บอกว่าเขาอยู่ไหนไม่ได้เหรอ แต่ก็จริงของคุณตา เขาบอกว่าหัวใจข้าคือของเขาด้วย”
เฒ่าจินเลิกคิ้วขาวของตัวเองขึ้นอย่างนึกฉงน มังกรดำหงหยูวไม่ได้ต้องการจะปกป้องหัวใจของฟางเซียนหรืออย่างไร เขาจะต้องการมันไปทำไมกันอายุขัยของมังกรดำก็มากมาย หน้าตาก็งดงาม พลังอำนาจก็อยากจะหยั่งถึง หัวใจนั้นหงหยูวอาจจะหมายถึงความรักรึเปล่าแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องของคนแก่อย่างข้า “เอาหละ เรามาเริ่มกันที่จุดเริ่มต้นเลยดีกว่าไหม”
เด็กหญิงพยักหน้า “ได้ๆหนูจะนั่งฟังอย่างเรียบร้อยเลย คุณตาพูดมาแบบนี้เหมือนเปิดประเด็น อยากจะรู้เหมือนกันว่าเรื่องเป็นไงมาไง ทำไมหัวใจของหนูถึงสำคัญนัก แถมหลบอยู่ที่นี่เฉยๆก็ไม่ได้ด้วย นี่แบบสงสัยมาก”
“ถ้าเช่นนั้น เราเดินไปใต้ต้นไม้กันดีกว่า ดูท่าต้องคุยกันยาว” เฒ่าจินออกเดินไปยังใต้ต้นไม้ใหญ่ที่แผ่ร่มเงาขนาดใหญ่พ้นจากเขตดงดอกไม้
ฟางเซียนเดินตามชายชราไปติดๆ บรรยากาศใต้ต้นไม้ช่างร่มรื้นแตกต่างจากตรงดงดอกไม้มันทำให้ฟางเซียนหันหลังไปดูดอกไม้อย่างชื่นชมทำไมดอกไม้พวกนั้นถึงยืนหยัดทนแดดได้ดีขนาดนี้แถมหอมอีกต่างหาก ดอกตรงพุ่มนั้นก็คล้ายดอกไอรีสที่มีสีม่วงอ่อน ไว้ว่างๆจะไปพิสูจน์นกลิ่น
เฒ่าจินค่อยๆทรุดลงนั่งในจุดที่คิดว่าสบายสำหรับเขาแล้ววางไม้เท้าที่ดูคล้ายซากไม้หักไว้ที่หน้าตัก ฟางเซียนก็กุลีกุจอหาที่นั่งใกล้กับเฒ่าจิน
เมื่อเฒ่าชราเห็นเด็กหญิงนั่งเรียบร้อยแต่ยังคงหันซ้ายหันขวาไปมาก็เริ่มเล่าสิ่งที่ตั้งใจเอาไว้ “เรามาเริ่มกันที่สาเหตุที่ท่านได้กำเนิดขึ้นมาก่อนดีกว่า” เขาเกริ่นนำ
“ค่ะ” ฟางเซียนตอบเสียงดังฟังชัด
“เดิมทีหุบเขาแดนสนธยาเป็นที่อยู่ของเทพสายลม ท่านเป็นหนึ่งในหกเทพแห่งบรรพกาล”
“เทพบรรพกาล?”
“เราใช้เรียกเทพที่ไม่รู้ที่มาที่ไป ถือกำเนิดขึ้นมานานมากก่อนจะมีการจดบันทึกหรือมีใครรู้นอกจากพวกท่านทั้งหก” เฒ่าจินอธิบาย
“อ๋ออ แล้วเทพองค์อื่นๆไปไหนหมดละ...คะ?”
“ไม่มีใครรู้เลย” ยกเว้นเทพแห่งบรรพกาลด้วยกันเอง “หลังจากนั้นไม่นานก็มีดอกไม้ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้าลงมากลางหุบเขาแห่งนี้ ท่านเทพสายลมเห็น ท่านจึงใช้ดอกไม้ดอกนั้นสร้างเทพธิดาขึ้นมาหนึ่งองค์ นั้นคือเทพธิดาบุปผาสวรรค์ หลังจากนั้นไม่นานพวกมังกรดำก็เริ่มเข้ามาอาศัยอยู่ในหุบเขาตอนนั้นเทพธิดาบุปผาสวรรค์ยังเป็นเทพแรกเกิดที่ได้แต่นอนอยู่ในดอกไม้”
“นอนในดอกไม้!! นอนยังไง”
“ท่านน่าจะนึกออกนะ ฟางเซียน ถ้านึกไม่ออกไว้ขออนุญาตเข้าไปดูท่านเทพธิดาบุปผาสวรรค์ดูแล้วกัน”
“น่าสนใจ”
“ข้าจะเล่าต่อแล้ว อย่าขัดขึ้นมาอีกนะ” เฒ่าจินบอกฟางเซียนที่ยิ้มแหยๆอย่างละอายใจ นางขัดเขาสองรอบแล้ว
“ก็มันสงสัยนี่ค่ะ”
“อืม... ลักษณะการดำรงชีวิตของพวกมังกรดำไม่ได้สร้างความเดือดร้อนอะไรมากให้กับหุบเขานี้ ยกเว้นตอนหาอาหาร ซึ่งพวกมังกรดำแก้ไขด้วยการจำศีลเป็นระยะเวลานาน ตอนนี้ก็เช่นกัน การดำรงอยู่ของมังกรดำในหุบเขานี้ก็ไม่ได้เป็นภัยกับสิ่งมีชีวิตอื่นในหุบเขามากนัก จวบจนเทพธิดาบุปผาสวรรค์กลายเป็นสาว เทพสายลมที่อาศัยอยู่ในหุบเขาก็เริ่มออกเดินทางไปทั่ว ที่ไหนมีสายลมพัดผ่านที่นั้นท่านเทพสามารถไปถึงได้เสมอแม้ว่าจะมีมนตราหรือเวทย์มนต์ทรงพลังขนาดไหน ”
“โกงสุด” ฟางเซียนอุบอิบ
“เทพธิดาบุปผาสวรรค์ที่ถูกทิ้งลำพังเริ่มเศร้าหมอง หุบเขาแดนสนธยาเริ่มหม่นหมองร้อนถึงพวกมังกรดำตามหาเทพสายลม พวกเขาไม่อาจอาศัยอยู่ได้ในหุบเขาที่เต็มไปด้วยความหม่นหมองจากพืชพรรณที่ผลกระทบจากพลังความเหงาของเทพธิดาบุปผาสวรรค์โดยตรง” เฒ่าจินพูดจบก็ทำหน้าดุเมื่อเด็กหญิงฟางเซียนกำลังจะเอ่ยปากขัดอีกรอบ จนเด็กหญิงหุบปากลงเขาจึงเล่าต่อและไข้ข้อสงสัยของฟางเซียน
“มังกรดำนั้นรักสันโดษ แต่ก็รักพวกพ้อง มันดูขัดกันใช่ไหมที่ทำไมพวกเขาไม่อยู่ด้วยกัน เพราะพลังที่มากไปหากพวกเขาสู้กันเองจากการผิดใจหรือการทะเลาะกันความเสียหายจะมากเกินกว่าที่เยียวยาได้ในระยะเวลาอันสั้น ถึงมันจะเป็นการทะเลาะกันธรรมดา ดีที่ช่วงนั้นเทพสายลมเลือกจะกลับมา ท่านจึงเดินทางไปยังชนเผ่าโบราณที่ตอนนี้สาบสูญไปแล้วทำพิธีบูชาเทพแห่งไฟด้วยเครื่องหอมที่ทำจากเปลือกไม้ดอกไม้เผาด้วยไฟให้ได้กลิ่นหอม ท่านเพิ่มสายสมเข้าไปในกองไฟทำให้กองไฟลุกโชนก่อนจะมอดลงเหลือแต่น้อยที่มีกลิ่นเดียวกับกลิ่นหอมของการบูชาเทพ เทพสายลมอนุญาตให้ผู้นำที่ทำพิธีตั้งชื่อ เขาได้ตั้งชื่อเด็กคนนั้นว่าฟางเซียนก่อนเทพสายลมจะนำตัวกลับมาที่หุบเขาแดนสนธยาให้เทพธิดาบุปผาสวรรค์ดูแล”
ฟางเซียนบ่นอุบอิบอีกรอบ “เรียกง่ายๆหาน้องมาให้พี่คลายเหงา”
เฒ่าจินที่ไม่ได้ยินก็ยังคงเล่าต่อ “จนกระทั่งท่านโตเป็นเทพสาวที่งดงามจิตใจดีมีเมตตา ไม่ว่าใครขอให้ช่วยอะไรก็ช่วย เดือดร้อนถึงเทพธิดาบุปผาสววรค์ต้องคอยสอดส่องดูแลขีดเขตแดนส่วนนอกกับส่วนในสุดของหุบเขาเพื่อกันไม่ให้ท่านไปใจดีช่วยเหลือพร่ำเพื่อ”
“อันนี่สงสัยมากกก ใจดีมีเมตตานี่ไม่ดีอย่างไร”
“ท่านใจดีทำตามคำขอของผู้ที่มาขอร้องอย่างมีเมตตา แต่บางสิ่งที่ผู้ขอร้องขอมันทำร้ายผู้อื่นท่านก็ยังทำ”
“เออะ.... เหมือนจะดีเลยแบบนี้”
“ใช่เหมือนจะดี แต่สรุปสุดท้ายหลายครั้งต้องมีผู้ไม่พอใจ จนกระทั่งมังกรดำหงหยูวถือกำเนิดพื้นที่ใกล้ส่วนในสุดของหุบเขาแดนสนธยา หลังจากมังกรดำแม่ของหงหยูวแยกตัวออกไปท่านจึงไปเยี่ยมเยียนอีกทั้งสั่งสอนราวเป็นพี่สาวให้กับมังกรดำหงหยูว ดีที่หงหยูวเป็นมังกรฉลาดเขารับรู้ถึงนิสัยเสียของท่านได้รวดเร็วและช่วยกันท่านจากคำขอที่ไร้สาระหากเรื่องไหนดีเขาจะเห็นด้วย และดีที่ท่านค่อนข้างฟังหงหยูว”
‘เหมือนโดนด่าเลย อีกอย่างทำไมบทกลับสลับกันฉันเป็นพี่สาวไม่ใช่เหรอ’ ฟางเซียนคิดอยู่ภายใต้สีหน้าตั้งใจฟัง
“พอหงหยูวเติบโตเป็นมังกรดำที่สง่างาม เขามีความอยากรู้อยากเห็นของมังกรหนุ่ม จึงหายออกจากหุบเขาไปกว่าร้อยปี ท่านเองก็เป็นห่วงจะออกไปตามหา ช่วงนั้นเทพสายลมได้นำข้าขึ้นมาให้ช่วยดูแลเทพธิดาทั้งสอง เทพธิดาบุปผาสวรรค์กับข้าทัดท่านอยู่เกือบร้อยปีเหมือนกันสุดท้ายก็ต้องยอม ข้าให้แผนที่ที่ร่างจากความทรงจำกับท่าน หลังจากท่านออกไปจากหุบเขารายละเอียดช่วงนี้น้อยมาก เวลาผ่านไปได้สองปี ท่านก็กลับมาพร้อมความพิโรธของสายลมและพลังปีศาจที่กัดกินจากภายใน เทพธิดาบุปผาสวรรค์เสียใจที่ปล่อยท่านไปข้าเองก็เช่นกัน เทพสายลมโมโหหนักทั้งท่านและมนุษย์ จึงไม่ขับพลังปีศาจออกจากตัวท่านและสั่งห้ามไม่ให้ขับออกเพื่อเป็นการลงโทษ และโทษนี้ถึงตาย มนุษย์ก็เช่นกัน หลังจากนั้นอารยะธรรมของมนุษย์ก็ถดถอยเพราะภัยธรรมชาติ”
“แล้วข้า.. ทำอะไรผิด”
เฒ่าจินแสดงสีหน้าหนักใจ “งั้นข้าจะเล่าเรื่องที่หงหยูวเคยเล่าให้เทพธิดาบุปผาสวรรค์ฟังแล้วกัน”
“แล้วท่านรู้ได้ไง”
“จะฟังหรือไม่ฟัง”
“ฟังๆ เล่านะค่ะ” ฟางเซียนออดอ้อน เพราะเรื่องราวช่วงนี้คงเป็นส่วนสำคัญ
“หลังจากมังกรดำหงหยูวออกจากหุบเขาไป เขาก็เดินทางไปยังดินแดนของมังกรฟ้าที่อยู่ห่างไกล ได้พบเพื่อนใหม่เป็นองค์ชายมังกรฟ้า มังกรดำนั้นไม่ได้นับยศนับศักดิ์ นอกจาลำดับอาวุโสและความสำคัญของความสัมพันธ์ฉันเครือญาติ จึงสนิทกับองค์ชายมังกรฟ้าแบบเพื่อนสนิทไม่หวังผลตอบแทนนอกจากมิตรภาพระหว่างพวกเขาทั้งสอง การเข้าไปในวังมังกรฟ้าบ่อยๆทำให้มีมังกรสาวมากมายหมายปองเขา และมีมังกรสาวตัวหนึ่งที่เป็นข้ารับใช้สนิทของน้องสาวองค์ชายมังกรฟ้า วางแผนมากมายเพื่อจะให้หงหยูวรักแต่ก็ล้มเหลวเรื่อยไป จนกระทั่งหงหยูวเกิดรำคาญและบอกไปว่าหากไม่ใช่เทพธิดาเครื่องหอมแล้วตนจะไม่รักหรือชอบผู้ใดอื่น หงหยูวบอกกับเทพธิดาบุปผาสวรรค์ว่าหลังจากที่เขาพูดออกไปมันก็ทำให้เขารู้ว่าตัวเองรักใคร เขาจึงเดินทางกลับหุบเขาแดนสนธยาและรู้ว่าท่านออกตามหาเขาแล้วไม่ได้ข่าวอีกเลย ทันทีที่นางมังกรรู้ว่าท่านออกจากหุบเขาและหงหยูวหรือใครก็หาตัวไม่เจอ มังกรสาวจึงมีความหวังขึ้นมาอีกครั้งนางวางแผนกำจัดท่าน นางหนีออกจากวังมังกรไปเจอหมอเทวดาเหนียงเกิงหยานางใช้ความงามของนางหลอกลวงเขาให้ใช้เส้นสายที่มีอยู่มากมายทั้งมนุษย์ ปีศาจ และเทพบางองค์หาตัวท่าน ในช่วงนั้นท่านเองก็สนิทกับเหนียงเกิงหยาเพราะท่านเดินทางมาพบเขาและกำลังสนใจในศาสตร์ของการรักษา อาจด้วยเพราะบังเอิญมังกรสาวที่ร้อนใจมากขึ้นเพราะหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอตัวท่านจึงโกหกว่าตัวเองป่วยหนักมากเจียนจะตายร่างกายแห้งเหี่ยวไม่งดงามพลังมากมายก็หดหายหากไม่ได้ยาดีที่ทำมาจากหัวใจเทพธิดาเครื่องหอมตนได้ตายแน่ๆ หมอเทวดาเหนียงเกิงหยาจึงร้อนใจตามกลัวนางผู้เป็นที่รักตาย จึงใช้เส้นสายและติดสินบนทุกคนที่ติดได้ในการตามหาท่าน เขาทุ่มสุดตัว วันหนึ่งเขาตัดสินใจมาปรึกษาท่าน ด้วยความที่ท่านมีเมตตาจึงรับคำขอที่ขอให้หัวใจของท่านสามารถปรุงเป็นยาที่ทำให้มีพลังมากมาย มีความงามเป็นเลิศ มีอายุยืนนาน และจะมอบหัวใจให้กับหมอเทวดาเหนียงเกิงหยา”
ฟางเซียนแสดงสีหน้าเหลือเชื่อออกมาทันที “โคตรหาเรื่องใส่ตัวเองแบบนี้”
ชายชราก็ยังคงเล่าต่อไป “ปีศาจแห่งทุ่งร้างเยี่ยนเหล่ยเข้ามาทันได้ยินจึงหักหลังหมอเทวดาเหนียงเกิงหยา คิดจะนำหัวใจของเทพธิดาเครื่องหอมไปปรุงเป็นยาเพื่อเพิ่มพลังให้ตัวเอง เสียงที่ท่านตอบรับคำขอของเหนียงเกิงหยาเทพสายลมก็รับรู้และพิโรธ บุกเข้าไปพาตัวท่านกลับหุบเขาแดนสนธยา ในระหว่างช่วงชุลมุนเยี่ยนเหล่ยซัดพลังปีศาจเข้าใส่ท่านและสาปให้ความทรงจำของท่านขาดหาย ไม่มีใครคิดว่าปีศาจธรรมดาจะมีอำนาจขนาดสาปเทพได้ แต่พลังปีศาจนั้นมีผลกระทบกับเทพโดยตรง มังกรสาวที่หลอกลวงเหนียงเกิงหยาโดนโทษตายจากวังมังกรก่อนตายนางใช้เลือดสาปแช่งให้ครั้งหน้าผู้ทุกคนทุกตนที่อยู่ในวงเวียนความแค้นนี้เกิดมาเหมือนกันโดยเกิดใหม่เป็นมนุษย์ เหนียงเกิงหยาโดนสาปให้อยู่เพื่อยกเลิกในสิ่งที่เขาขอ”
“มันยกเลิกได้” ฟางเซียนอุทานอย่างดีใจ ขอแค่เธอหาเหนียงเกิงหยาเจอ หัวใจเธอก็ไม่ต้องล่าโดนปรุง เธอจะได้ไปหาหงหยูวอย่างสบายใจแถมยังได้อยู่ที่นี่อย่างสบายใจด้วย
“ใช่ แต่ไม่มีใครรู้ว่าเหนียงเกิงหยาอยู่ที่ไหนเรื่องพวกนี้มันก็เกือบสองร้อยปีมาแล้ว ส่วนปีศาจเยี่ยนเหล่ยที่ไม่ตายไม่มีใครรู้ว่าคำสาปไหนจะมีผลกระทบกับมันรึเปล่า สิ่งหนึ่งที่ข้าแน่ใจคือเทพสายลมต้องทำอะไรบางอย่างลงไปแล้วแน่ๆ พอท่านกลับมาถึงหุบเขาก็แปลกไปจนกระทั่งสิ้นลม หงหยูวที่พึ่งรู้เรื่องราวและสาเหตุจากองค์ชายมังกรฟ้าก็ตามมาหาท่านในหุบเขาเล่าเรื่องทุกอย่างให้เทพธิดาบุปผาสวรรค์ฟังแต่นั้นมันก็หลังจากท่านจากไปแล้วได้ไม่นาน เทพธิดาบอกเรื่องของท่านกับเขาหลังจากนั้นเขาก็หายไปไม่กลับขึ้นมาอีกเลยจนกระทั่งเมื่อวานนี้”
ฟางเซียนรีบพูดกระตุ้นเตือนชายชราให้ตอบคำถามในสิ่งที่ตัวเองอยากถามจริงๆ“แล้วตอนนี้หละคุณตาเขาอยู่ไหน”
“... หงหยูวคงกำลังไป”
ตุ๊บ !! ร่างเล็กของฟางเซียนหมดสติฟุบลงกับพื้น ชายชรารีบเข้าไปดูอาการ
“ข้าแค่ทำให้นางหลับ หากนางรู้ว่าหงหยูวไปเกิดใหม่ตามคำสาปของมังกรสาว ฉิงอวิ๋น เพราะสละพลังทั้งหมดให้นางนางคงเสียใจ ข้าไม่อยากให้โอกาสที่หงหยูวสร้างมาเสียไปโดยเปล่าประโยชน์” น้ำเสียงที่นุ่มฟังแล้วสบายหูพูดกับเฒ่าจิน
เฒ่าจินระลึกได้ถึงเจ้าของเสียงจึงลุกขึ้นคำนับให้กับอากาศแถวนั้น “ท่านเทพสายลม ไม่ได้พบกันนานนะขอรับ”
เพียงพริบตาก็ปรากฏให้เห็นชายรูปงามสวมใส่อาภรณ์รุ่มร่ามสีขาวยาว ผิวขาวเนียนละเอียด คิ้วเข้มพาดเหนือดวงตาคม ใบหน้าคมคายให้คามรู้สึกงดงามแต่แฝงไปด้วยกลิ่นอายของบุรุษเพศ เส้นผมสีดำสนิททิ้งตัวยาวระเอวพลิ้วไหวไปตามสายลม “อืม” เทพสายลมส่งเสียงตอบรับ ก่อนจะพูดในสิ่งที่ชวนให้คนฟังหนาวเหน็บไปยังขั้วหัวใจออกมา “พลังของเทพบรรพกาลกำลังถดถอย นี่ถือเป็นการเริ่มศักราชใหม่ของโลกใบนี้รึเปล่า จิน”
หัวใจของเฒ่าจินหนักอึ้ง เขายังคงโค้งคำนับอยู่แบบนั้น นี้คงเป็นอีกเหตุผลที่ฟางเซียนควรลงไปอยู่กับมนุษย์
“เห็นทีจะปล่อยให้ใครเห็นนางไม่ได้ พานางไปยังที่พัก จนกว่าจะมีมนุษย์มาขอคนจากเรา” เทพสายลมสะบัดมือมือสายลมจำนวนหนึ่งก็ยกร่างเล็กของเด็กน้อยขึ้น
“ขอรับ” เฒ่าจินรับคำสั่ง ก่อนออกเดินไปในทิศทางที่นำไปยังที่พักของเทพธิดาเครื่องหอม
ดวงตาคมหลุบลงก่อนจะส่งเสียงผ่านไปยังสายลมว่าเขาจะปิดหุบเขาส่วนในนี้จากโลกภายนอกเพื่อพักผ่อน ในเมื่อที่นี้คือที่พักของเขาอำนาจของเขาจึงเด็ดขาด
เวลาผ่านไปนานจนกระทั่งเฒ่าจินเดินกลับมา ชายชราถามหนึ่งในเทพแห่งบรรพกาลตรงหน้าอย่างนอบน้อม “เหล่าเทพที่เหลื่อก็ทำเช่นนี้เหมือนกันหรือไม่ขอรับ”
“ใช่ เราตกลงกันแล้ว พลังของปีศาจจะแข็งกล้าขึ้น มนุษย์เองก็ต้องเข้มแข็งขึ้นเช่นกัน เทพโบราณอย่างเราคงหมดเวลาแล้ว”
“หากปีศาจมีชัยเหนือมนุษย์”
“เทพรุ่นใหม่ยังมีอยู่นะจิน พวกเขาจะขึ้นมาเรืองอำนาจแทนพวกเรา แต่เรื่องของพวกฟางเซียนเอง คงไม่มีใครยื่นมือเข้าไปช่วยนอกจากตัวพวกเขาเองแล้วละ”
“ยังมีมังกรนะขอรับ”
“นั้นสินะ มังกรฟ้า มังกรดำ” เทพสายลมรำพึง ก่อนจะยิ้มออกมา
“ดูเหมือนคำสาปของฉิงอวิ๋นจะแรงนะ เหล่ามังกรฟ้าตัดสินใจจะหลับใหลตามเทพสายน้ำและมังกรดำตัดสินใจจะหลับใหลตามเรา ซักอีกพันปีเจ้าค่อยตื่นขึ้นมาก็ได้นะจิน ตอนนั้น อารยะธรรมของมนุษย์คงกำลังเรืองอำนาจเต็มที่ เรื่องของหงเต๋อนั้นฟางเซียนออกจากหุบเขาเมื่อไหร่ ฝากเจ้าไปปลุกเขาด้วยนะ จิน” เทพสายลมหัวเราะเบาๆ เขาเองก็รับรู้ถึงข้อเสนอของเจ้าอี้เฟิงต่อมารดาของหงหยูว ดวงวิญญาณเจ้าเล่ห์ดวงนั้นกล้ามาต่อรองกับอนาคตของลูกหลานในอีกพันปีข้างหน้า ผู้ที่มีหน้าจัดการเรื่องระหว่างโลกนี้กับโลกวิญญาณไม่น่าสับเพร่ากับดวงวิญญาณเจ้าเล่ห์ดวงนี้เลยจริงๆ
“เอาละ ได้เวลาแล้ว” สายลมบางเบาพัดผ่านไปทั่วหุบเขาแดนสนธยา ก่อนจะพรางตัวปิดหุบเขานี้จากโลกภายนอก สรรพสิ่งที่อยู่ภายในต่างหลับใหลเข้าสู่ห่วงนิทรากันถ้วนหน้า
แปะๆ รูปของเทพสายลม
รูปใหญ่ดีจังเลย
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนหน้า ฟางเซียนจะลงไปอยู่กับพวกมนุษย์แล้วจ้า :]
***คำผิดยังเยอะอยู่พรุ่งนี้จะมาแก้ไขนะค่ะ
เราอ่านทุกคอมเม้นจริงนะเอ้ออออ ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะคะ ทุกคอมเม้นเป็นประโยชน์มากเลยค่ะ
ขอบคุณที่คอมเม้นนะคะ *ไหว้งามๆ*
ตรงไหนที่ทำให้สับสนกันบอกได้เลยนะคะ จะได้กลับไปแก้ไข้ให้อ่านง่านขึ้นและดีขึ้นค่ะ
ถามคำถามทุกคนนะค่ะ ไรท์ควรปรับขนาดฟอนท์ขึ้นดีไหมคะ
ตอบคอมเม้นจ้า
>>>>>>>> ถ้าตามอ่านจากตอนนี้ คือใช่ค่ะ เพื่อความเท่าเทียม ตามที่ ฉิงอวิ๋นสาปไว้ เยี่ยนเหล่ย
>>>>>> เนื้อคู่หนูเกดเหรอค่ะ 5555
>>>>>> สวัสดีปีใหม่ค่ะ ขอให้มีความสุขนะค่ะ พระเอกแน่นอน ถ้าปล่อยจูบแรกของหนูเกดให้คนอื่นไป ไรท์คงโดนหนูเกดอาฆาตแน่เลย
>>>>>> หงหยูวเป็นมังกรดำค่า :} แ
>>>>>> หงหยูวไปเกิดค่า แต่จะเป็นใครนั้นติดตามชมตอนต่อไปปปปป
>>>>>>>> ใช่ไหมค่ะ สวยจริงๆ (ノ´ヮ´)ノ*:・゚✧