ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic REBORN] Across Dimensions. ข้ามมิติมาเพื่อเธอ

    ลำดับตอนที่ #4 : เด็กหลงกับคุณน้าผู้ใจดี

    • อัปเดตล่าสุด 4 มิ.ย. 56


                    รุ่งอรุณเบิกฟ้า นกกาโบยบิน ออกหากินร่าเริงแจ่มใส   -*- 

                    ใครที่จำเพลงพวกนี้ได้ นี่ เดาอายุกันได้เลยทีเดียวนะ 5555

                    เสียงเพลงในวัยเยาว์ยังคงหลอกหลอนในหัว กับแสงแดดที่เริ่มแยงตา  รุ่งอรุณที่ควรจะสวยงามมากกว่านี้ในฤดูแบบนี้ ถ้าไม่ใช้เพราะ ซากศพเพศชายเดาอายุไม่ได้ นอนตายกลางกองใบไม้อยู่หน้าศาลเจ้า(คุซาคาเบะ) ตัวประกอบฉากตัวนี้ที่หาที่ตายได้ดีมาก(โดนท่านฮิประเคนให้เต็มรัก)

                    อา...ปวดหัวจัง  หนาวจังฉันครางอยู่ในหัว เช้าแล้ว?ฉันมองลอดผ่านตรงที่เคยมีประตูศาลอยู่ ลมแรงพอประมาณที่ทำเอาใบไม้จำนวนหนึ่งร่วงจากต้นไม้ทำให้ฉันหายสงสัยกับอาการหนาวสั่นของร่างกาย เสื้อผ้าที่ยังชื้นๆนี้คงเป็นตัวการของอาการครั้นเนื้อครั้นตัวและปวดหัวปวดตัว(อันนี้น่าจะมาจากฝีมือท่านฮินะ)

                    จ๊อกกกกก....

                    เสียงหลุมดำน้อยๆของฉันร้องประท้วง  เห็นที่ต้องหาอะไรมาใส่ท้องน้อยๆของฉันซะแล้วหละ ดังนั้นฉันเลยหันไปกวาดข้าวของของตัวเองแล้วคลาน ดุ๊กๆ ออกมาจากศาลเจ้า ความเจ็บปวดตามร่างกายทำเอาฉันเคลื่อนไหวแปลกๆ กระโผลกกระเผลก เหอๆ  ฉันจำได้ว่าเมื่อคืนโดนผีหลอกนะ ผี! ฉันหันไปมองรอบศาลเจ้าอย่างหวาดระแวง

                    ให้ตายเถอะไม่น่ามาหลบในศาลเจ้าเลยจริงๆ..... แล้วฉันมาหลบอะไรหละ?.....แล้วฉันมาอยู่ที่นี้ได้ไง แล้วไอพลงนกกาเมื่อกี้ฉันเคยได้ยินจากที่ไหนนะ?’

                    ความสงสัยมากมายประทุอยู่ในหัวน้อยๆที่ปวดตุ๊บๆของฉัน ทำเอาฉันต้องมานั่งห้อยขาทำหน้าหน้าเอ๋อเค้นความจำตัวเองอยู่หน้าพื้นศาลเจ้าที่ยกขึ้นมาเพื่อรับลมเย็นๆ ติดจะหนาวที่มันอาจจะช่วยให้ฉันระลึกอะไรได้

                    แต่สมองฉันคงเลอะเลือนไปแล้ว ความจำในหัวฉันดูสับสนชอบกล มันมีแต่ภาพของเกร็ดหิมะที่โปรยมา สายฟ้า และผีญี่ปุ่นตัวเมื่อคืน  ที่สำคัญชื่อตัวเอง มินตรา แต่ฉันกลับจำนามสกุลตัวเองไม่ได้  พอจะนึกอะไรก็นึกไม่ออกซะงั้นทำเอาความรู้สึกโหว่งๆแปลกๆเริ่มเข้ามาเกาะกุมในใจ  ไม่ได้ๆ  เรื่องกินมาก่อน กองทัพต้องเดินด้วยท้อง พุงกะทิน้อยๆของฉัน รอก่อนนะ จะไปหาอะไรมาใส่เดี๋ยวนี้แหละ

                    มินเดินลากสังขารอันไม่เที่ยงของตัวเองออกจากอาณาเขตศาลเจ้า แต่ไปไม่ทันไร ก็สะดุดเข้ากับบางสิ่งบางอย่างใต้กองใบไม้จนหน้าทิ่ม

                    “โอ๊ย....   อะไรมันมากองอยู่ตรงนี้ฟระ ” มินรวบผมยาวๆของตัวเองออกให้พ้นทางก่อนจะเริ่มเขี่ยกองใบไม้เพื่อหาสาเหตุ

                    “ศพ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”  มินร้องเสียงดังลั่นหลังจากเขี่ยใบไม้ออกจนเจอหน้าซีดๆของผู้ชายคนหนึ่งที่ไว้ผมทรงแปลกๆ

                    “อะ...” ศพส่งเสียงได้

                    “อะ...อะ....อะ....ผีหลอกกกก” มินกระถดถอยหลังอย่างรวดเร็ว แล้วเริ่มวิ่งโวยวายหนีออกจากอาณาเขตศาลเจ้าไปทางตัวเมืองเหมือนอาการเจ็บปวยหายเป็นปลิดทิ้ง  โดยทิ้งข้าวของของตัวเองไว้

                    นี้แค่ตอนสายๆเองนะ มิน   

                    “โอ๊ยย..ให้ตายเถอะ นี้มันอะไรกันเรื่องบ้าอะไรเนี๊ย ผีหลอกกลางวันแสกๆ เหนื่อย หิว” มินบ่นกระปอดกระแปดไปตามทาง 

                   


                             10.30




                    ตอนนี้ร้านค้าข้างทางเริ่มเปิดให้บริการกันอย่างคึกคัก เหล่าแม่บ้านเริ่มออกมาเดินตลาด จริงๆเขาเดินกันตั้งแต่เช้าแล้ว แต่ตอนนี้ก็ยังมีคนเยอะอยู่ แม่บ้านบางคนถือโอกาสออกมาพบปะสมาคมกับเหล่าแม่บ้านคนอื่นๆ เพื่อจับกลุ่ม ถกปัญหาต่างๆในเมืองแห่งนี้ (=..=)

                    มินนั่งหอบหายใจอยู่ตรงซอกตึก ชีวิตช่างลำเค็ญ เงินซักแดงก็ไม่มี กระเป๋ากับสมบัติที่คาดว่าจะติดตัวมาก็ดันทิ้งไว้ข้างศพนั้น จะให้กลับไปเอานะเหรอ ฝันไปเถอะ ฉันนะกลัวผีจะตาย  จริงๆนะ

                    หลังจากนั่งหลบมุมคิดหาทางรอดของตัวเองอยู่ตั้งนานฉันก็ปิ๊ง!ไอเดียกากๆ ขึ้นมา ในเวลานี้เราไม่มีปัจจัยสี่เลยแม่แต่น้อย จะให้ออกไปอยู่ป่า ไม่ไหวนะ งานนี้ต้องทำตัวเป็นปลิงไปเกาะใครซักคนก่อน แล้วก็ทำงานให้   เก๋ไหมหละ แต่ก่อนอื่น หาอะไรกินก่อน  อะ ร้านทาโกะยากิ

                    มินมองไปยังร้านขายยาโกะยากิเล็กๆที่มีคนตอแถวอยู่ประมาณหนึ่ง มินนั่งรอจนคนเริ่มซา (ถึงจะหิวแค่ไหน มันก็ต้องทน) แล้วจึงเริ่มปฏิบัติการ  เธอเดินออกไปจากมุมตึกด้วยสภาพจวนเจียนจะร้องไห้ ตาแดงๆ แถมยังกลั้นเสียงสะอึกสะอื้น

                    ด้านได้อายอด’  สู้ๆมินตรา

                    “คุณน้าคะ.... คือ.... หนูหลงทางตั้งแต่เมื่อวานแถมยังกลับบ้านไม่ถูก ช่วยพาหนูไปหาคุณตำรวจทีได้ไหมคะ หนูอยากกลับบ้าน” มินพูดไปสะอึกสะอื้นไปจนคุณป้าขายทาโกะยากิเริ่มเห็นใจ หรือว่าเพราะเธอเรียกว่าคุณน้ากันนะ

                    “โอ๋ๆ แม่หนู แล้วนี้ทานอะไรมารึยังจ๊ะ”

                    เข้าทางหละมินลอบร้องเย้อยู่ในใจ

                    “ยังเลยคะ  ” เธอสายหัวเบาๆ

                    “เอานี้จ๊ะ  ไปนั่งทางตรงนู้นก่อนนะ เดี๋ยวพอน้าขายเสร็จจะพาไปหาคุณตำรวจนะคะ” คุณป้าขายทาโกะยิ้มให้มิน อย่างใจดี

                    “แต่ว่า... ให้หนูช่วยไหมคะ” มินเสนอจะช่วยงานตอบแทนกับอาหาร

                    “ไม่ต้องเหรอกจ๊ะ ท่าทางหนูจะไม่สบายนะ ไปพักก่อน เดี๋ยวรอน้าปิดร้านแล้วเดี๋ยวจะพาไป”

                    “ขอบคุณคะ” มินโค้งให้สุดตัว ก่อนจะไปนั่งทานทาโกะยากิตามที่คุณป้าคนขายบอก

                    คนเมืองนี้ใจดีจังมินคิดอย่างมีความสุข อันที่จริงเธอก็กลัวโดนไล่เหมือนหมูเหมือนหมา แต่ว่าความหิวมันไม่ปราณีใคร เมื่อถึงเวลาจวนตัวเธอก็จำเป็นต้องทำเพื่อความอยู่รอด

                    “คุณป้าใจดีจังน๊า...คนเมืองนี้จะใจทุกคนรึเปล่า” ฉันพูดลอยๆ หลังจากทางทาโกะเสร็จ แสงแดดอุ่นๆกับเงาไม้นี้กำลังจะทำให้ฉันหลับนะเนี๊ย ฮ้าววว.... นอนก่อนแล้วกันเหมือนไข้จะขึ้นเลยแหะ

                    คุณป้าขายทาโกะยากิมองเด็กหลงทางที่กินเสร็จก็นอนหลับทันทีดูท่าทางไร้เดียงสา ผิวพรรณก็ดีดูจากสีผิวคงเป็นเด็กที่ชอบเล่นกลางแดดไปหน่อย หน้าตาน่ารักโดยเฉพาะดวงตาที่ทำให้คนมองแล้วรู้สึกเอ็นดู ท่าทางจะถูกเลี้ยงมาดี ดูสิ ไม่ผอมเกินไปแต่ก็ไม่อ้วนจนน่าเกลียดกำลังน่ารักเลย

                    “หรือว่าโดนลักพาตัวมานะ” คุณป้าขายทาโกะตั้งขอสงสัย “น่าสงสารจัง”

                   

     

     

    “สวัสดีคะ”

                    “สวัสดีคะ วันนี้จะรับอะไรดีหละจ๊ะนานะจัง” คุณป้าขายทาโกะทักทายลูกค้าประจำอย่างเป็นกันเอง

                    “ไส้ปลาหมึก กล่องเดียวจ๊ะ”

                    “ทำไมพักนี้สั่งน้อยจังหละ นานะจัง พักนี้เด็กๆก็ไม่มาให้เห็นเลยนะ”

                    “กลับต่างประเทศบ้าง ไปเรียนบ้างนะจ๊ะ” ถึงลูกค้าจะตอบกลับมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่น้ำเสียงก็ฟังดูเหงาๆเหมือนกัน

                    “อย่างงั้นเหรอ  อะได้แล้วจ๊ะ...นี่นานะจังวันนี้ว่างหรือเปล่า”

                    “ว่างจ้า”

                    “ช่วยพาเด็กคนนั้นไปส่งที่สถานีตำรวจหน่อยสิ ดูเหมือนแกจะโดนลักพาตัวมาแล้วหนีออกมาได้”

                    “ตายจริง” นานะเอามือทาบอกอย่างตกใจ  “จริงเหรอะคะเนี๊ย...เดี๋ยวพาไปเองคะ”

                    “วานด้วยนะนานะจัง   เด็กคนนั้นนะ” คุณป้าขายทาโกะชี้มือไปยังต้นไม้ที่มินนอนเอาหัวพิงอยู่  แว๊บแรกที่นานะเห็นก็รู้สึกเอ็นดูกันท่านอนเอาหัวไถต้นไม้ของเด็กสาว จนต้องหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าไปหา

                    “หนูจ๊ะตื่นเถอะ...เดวน้าจะพาไปหาคุณตำรวจนะ” นานะเรียกเด็กสาวแต่เจ้าตัวก็ไม่มีท่าทีว่าจะตื่น นานะจึงคิดจะเขย่าเรียกเบาๆ

                    “หนูจ๊ะ...ตายจริง ตัวร้อนเชียว  ..หนู....ตื่นแล้วเหรอจ๊ะ ไปบ้านน้าก่อนนะ พอหายไข้ค่อยไปสถานีตำรวจกัน” ทันทีที่เด็กสาวเริ่มลืมตาขึ้นมาด้วยความงัวเงีย นานะก็รีบพากลับบ้าน

                    “คะ” มินตอบตกลงเสียงเบา ทั้งๆที่ ฟังอะไรไม่เข้าใจเพราะพึ่งตื่นนอน ก่อนจะรู้สึกได้ว่ามีคนกำลังพาตัวเองไปที่ไหนซักแห่ง แต่ว่า เธอเพลียจริงๆนะ  น้ำเสียงที่ดูอบอุ่นและใจดีนี้ ของใครกันนะ คุณป้าขายทาโกะเหรอ

                    “ดูเหมือนแกจะไข้ขึ้นนะคะ เดี๋ยวพากลับบ้านก่อน แล้วเรื่องตำรวจ เดี๋ยวให้ซือคุงจัดการดีกว่า”

                    “ซือคุง... ถ้านานะจังพูดขนาดนี้แสดงว่าโตขึ้นเยอะเลยสินะคะเนี๊ย”

                    “ฮ่ะๆๆ  คงอย่างงั้นแหละคะ” นานะหัวเราะตอบอย่างอารมณ์ดี เพราะเธอภูมิใจในตัวลูกคนนี้ไม่น้อยเหมือนกัน ก่อนจะขอตัวพาเด็กสาวไปที่บ้าน “ไปก่อนนะคะ”

                    “ฝากด้วยนะนานะจัง”

                    คุณป้าขายทาโกะยืนส่งนานะที่หน้าร้านตัวเองก่อนจะรีบกลับมาทำงานต่อ ท่าทางเด็กคนนั้นเป็นเด็กดี ใครน้าพรากแกมาจากครอบครัวซะได้ แย่จริงๆเลย

                   

    “”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×