คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : โชคร้ายต่อที่สอง
ตอนสาม โชคร้ายต่อที่สอง
ขณะเดียวกันที่ศาลเจ้าเมืองมินาโมริ
“แหวะ..... บ้าชะมัด ยังไม่หมดอีกเหรอเนี๊ย ฉันเหนื่อยแล้ว....อุ๊บบบ..แหวะ” ถึงจะขี้บ่นยังไงมินตราก็ทนความพะอืดพะอมไม่ไหว
“เห้อ” หลังจากอาเจียนเสียจนหมดไส้หมดพุงเธอก็คลานหนีจากกอง..... ของตัวเอง สองมือน้อยๆควานหากระเป๋าถือส่วนตัว
สองมือน้อยๆ ? มือ.....มือของเธอมันเล็กลงจนแหวนที่ใส่ติดตัวตลอดกลิ้งหลุดออกมา
ทำไมมือของฉันมันเล็กลงเงี๊ย อะ!! ตายๆๆ แหวนของฉันเก็บก่อนๆ แต่ก่อนอื่นหาน้ำล้างปากก่อน
ทันใดนั้น ซ่า.....ซ่า..... สายฝนโปรยลงมาทันทีอย่างหนักหน่วง
“ฉันจะเอาน้ำล้างปากเฉยๆไม่ได้จะอาบน้ำ ” มินโวยวายกับสายฝนที่ยังคงตกลงมาโดยไม่สนใจคนเบื้องล่างเลย
“เปียก เปียกหมด หมดกัน ” สองมือของเธอดึงผมเฝ้าของตัวเองอย่างหงุดหงิด ก่อนจะลุกขึ้นโกยข้าวของของตัวเองเพื่อไปหลบฝนในอาคารหลังหนึ่งที่ดูเหมือนศาลเจ้า (=_=llill) ร่างกายบอบบางที่เคยสูง กลับกลายเป็นสาวน้อยวัย 15 ที่ค่อนข้างเจ้าเนื้ออยู่นิดหน่อยเดินหอบของอย่างทุลักทุเล เข้าไปหลบฝนในศาลเจ้า ผมสีดำยาวเปียกลู่ไปกับใบหน้าและลำตัวทำเอาเจ้าตัวรำคาญจน ต้องรีบหาอะไรมามัดไว้
“บ้าที่สุด ไม่รู้ว่าวันนี้ฉันพูดคำนี้มากี่รอบแล้ว อยากกลับบ้านจริงๆเลย ทำไมมันเป็นแบบนี้นะ ฯลฯ ” สารพัดคำบ่นที่หลุดออกมาจากปากเธอ บ่งบอกอารมณ์ที่กำลังแปรปรวนของเจ้าตัวได้ดี
ด้านนอกศาลเจ้า
“คุณเคียว” คุซาคาเบะ ผู้ยืนถือร่มบังฝนให้ อดีตกรรมการคุมกฎอย่าง ฮิบาริ เคียวยะ ส่งเสียงเป็นเชิงถามผู้บังคับบัญชาอย่างไม่เข้าใจสถานการณ์ เพราะเมื่อกี้ เขาและคุณเคียวพึ่งจะลงจากสถานีรถไฟมินาโมริ หลังจากกลับจากมหาลัย โดยปรกติแล้วคุณเคียวจะกลับไปที่โรงเรียนมินาโมริ แต่วันนี้กลับดิ่งมาที่ศาลเจ้าแทนทั้งๆที่ฝนกำลังตก
“......” ฮิบาริเลือกที่จะไม่ตอบอะไร แต่เมื่อกี้เขารู้สึกถึงพลังที่แปรปรวนจากตรงนี้ ศาลเจ้ามินาโมริ
ฮิบาริคงจับสังเกตได้ถึงกองอุบาทว์(อาเจียน) ของใครซักคนที่หน้าศาลเจ้า ถึงแม่จะถูกสายฝนชะไปบ้างแต่ก็ไม่อาจพ้นสายตาของฮิบาริไปได้
“ใครก็ตามที่ทำให้ศาลเจ้าแปดเปื้อน ผมจะขยำมันซะ เอาให้ตาย” ฮิบาริควงทอนฟาคู่ออกมากแล้วดิ่งไปที่ศาลเจ้าท่ามกลางสายฝน
“คุณเคียว !!” รู้สึกว่าจะโหดกว่าแบบปรกตินะ แบบนี้ก็แย่หละสิ มีบอกว่าจะเอาให้ตายด้วย คุซาคาเบะคิดอย่างสยดสยอง แต่คุซาคาเบะก็ยังคง ยืนนิ่งอยู่กับที่ Z(-_-Z)
ปั่ง!! เสียงลูกถีบของฮิบาริที่ถีบประตูศาลเจ้าเสียกระเด็น (เจ้าที่เจ้าทางหนีหมดแล้วพ่อคุณ)
“ห๊ะ!!” สมองของฉันหยุดสั่งการไปเสียดื้อๆเมื่อหันไปเห็นบานประตูศาลเจ้าที่ปลิวว่อนจากพลังช้างสาร ของชายคนนั้น ที่ยืนจังก้าอยู่หน้าประตู
แว๊บบ! แสงฟ้าแสบสาดมาที่ชายคนนั้นชั่วพริบตาทำเอาฉันกรีดร้องอย่างหวาดกลัว
“กรี๊ดดดดดดดดดด ผีญี่ปุ่นนนนนนนนนนนนนนนนน จะไปตายที่ไหนก็ไปเลยนะโกโบริ ฉันไม่ใช่อังสุมารินนนนนนนนนน” กรีดร้องไม่พอ ฉันยังคว้าหนังสือที่เปียกชุ่มจากน้ำฝนมาปาใส่เขาอีก และมันก็โดนหัวเขาอย่างจัง
//ดูคู่กรรมมากไปเหรอไงเธอ =_=;
“เจ้าสัตว์กินพืชโง่เง่า ผมจะขยำให้ตาย คามือ” ฮิบาริคำรามออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว เพราะโดนหนังสือปาใส่จนหน้าหงาย
เจ้าผีญี่ปุ่นมันกำลังพุ่งมาที่ฉันอย่างรวดเร็วจนฉันมองตามไม่ทัน ปากยังไม่ทันจะได้ร้องอีกรอบ มือของฉันก็คว้าคอเขาเอาไว้ได้อย่างแม่นยำก่อนจะใช้แรงของเจ้าผีตัวนั้นที่พุ่งเข้ามาเหวียงเจ้าผีตัวนั้นลงไปที่พื้น แล้วก็กระโดดนั่งครอมเอาไว้ไม่ให้มันได้ทำร้ายฉันอีก นี้สินะสัญชาติญาณดิบในการเอาชีวิตรอด
เพียงชั่วพริบตาเจ้าสัตว์กินพืชโง่เง่านั้นก็คว้าคอผมไว้ได้ ละจับผมกดกับพื้นศาลเจ้า บ้าที่สุด
“อั๊ค ” ผมหลุดเรียงร้องออกไปเมื่อน้ำหนักประมาณหนึ่งทับที่อกผม
“ฉันจะสวดส่งแกไปนรกเดี๋ยวนี้แหละ เจ้าโกโบริ”
ผมเห็นรอยยิ้มที่แสนหวาน? จากเจ้าสัตว์กินพืชตรงหน้าที่สวนทางกับคำพูดที่มันพูดออกมา ผมจ้องเจ้าไปในนัยน์ตาสีดำแต่ก็ไม่สามามารถเดาอารมณ์อะไรได้
“หนัก!” ผมเค้นคำพูดพูดออกไปได้
“ห๊ะ!” เหมือนเจ้าสัตว์กินพืชมันจะชะงัก ทำให้ผมได้โอกาสใช้แขนฟาดมันออกไปจากตัว
“โอ๊ย หัวฉันนน “ มินโอครวญ
“คุณเก่งมากที่สามรถล้มผมได้ หึ วันนี้ผมจะปล่อยคุณไปก่อน” ฮิบาริพูดอย่างเย็นชาพลางลุกขึ้นยืนปัดฝุ่น
“เดี๋ยว.........ที่นี้ที่ไหนแล้วนายเป็นใคร” มินตะโกนถามทั้งๆที่ยังจุกและมึนจากการกระแทกผนังอย่างแรง
“มินาโมริ แล้วผมก็เป็นผู้คุ้มครองของที่นี่” ฮิบาริทิ้งท้ายไว้ก่อนจะเดินออกไปจากศาลเจ้า
“คุณเคียววว เป็นอะไรไหมครับ” เสียงแววๆของคุซาคาเบะ ที่กำลังถามไถ่ฮิบาริ แต่ก็โดนฮิบาริเสยจนไปนอนเล่นกลางสายฝน
“อั๊ค คุณเคียว” คุซาคาเบะส่งเสียงเฮือกสุดท้ายก่อนจะสลบไป
ฮิบาริผู้แข็งแกร่งเดินออกไปจากศาลเจ้ามินาโมริท่ามกลางสายฝนที่เริ่มซาลง เส้นผมสีดำสนิทเรียบลู่ไปกับใบหน้า นัยน์ตาสีดำฉายแววพอใจอะไรบางอย่างอยู่ลึกๆ ก่อนจะกระตุกยิ้มเบาๆอย่างอารมณ์ดี เขาเดินไปพลางปลดกระดุมเสื้อเชิดออกหนึ่งเม็ด และพับแขนเสื้อ
‘ท่าทางผมจะได้ของเล่นใหม่’
“ไอเจ้าผีญี่ปุ่น...ทำไว้แสบมากเลยนะ ” ฉันถอดเสื้อโค้ดตัวโคร่งกว่าเดิม ออก เพื่อให้เสื้อยืดตัวในแห้ง
แน่นพุ่งงะ ฉันเอามือลูบท้องของตัวเองเบาๆ ทำไมมันเยอะเงี๊ยอะ อะ ....
“หนัก”
คำพูดของเจ้าผีญี่ปุ่นย้อนเข้ามาในความทรงจำ
“พระเจ้าเล่นตลกอะไรกันฉันนนนนนนนนนนนนนน แล้วไอพุงน้อยๆนี้มันอาร๊ายยยยยยยยยยยยยย จะบ้าตาย เตี้ย ดำ อ้วน อีก ครบเลย กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด !!!” ท่าทางมินจะสติแตกแล้วหละ
นอนมันที่นี้แหละ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน แต่ว่า
แสงจันทร์ที่สะท้อนละอองน้ำที่เกาะอยู่ตามใบไม้ด้านนอกประตู(ที่ปลิวหายไปไหนไม่รู้)ทำเอาชั้นคิดถึงคำพูดที่เจ้าผีญี่ปุ่นทิ้งไว้
“มินาโมริ ” ฉันทวนอย่างช้าๆ
“รีบอร์น” เหมือนในเรื่องเลยอะ เหมือนจนคิ้วของฉันเริ่มกระตุกแปลกๆ ฉันคงไม่ได้อยากอ่านการ์ตูนมากจนทะลุมิติมาเหรอกนะ =w=
ใครก็ได้...ตอบฉันที
ความคิดเห็น