คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ ๑ เกศรากับถุงหอม
ยามเช้าอันแสนสดใสในกรุงเทพมหานครเมืองฟ้าอมรที่เต็มไปด้วยความรุ่งเรื่องตามฉบับเมืองหลวงของประเทศ ทุกชีวิตที่ยังต้องดิ้นรนทำงานต่างพากันตื่นแต่เช้าตรู่ ชีวิตเด็กจบใหม่อย่างเธอก็เช่นกัน ในฐานะลูกสาวคนโตของบ้านที่พึ่งเรียนจบหมาดๆและได้งานทำในบริษัทเอกชนเกี่ยวกับแอพลิเคชั่นบนมือถือก็ต้องรีบเหมือนกัน เธออาศัยอยู่ในบ้านตรงชาญเมืองกรุงเทพติดกับจังหวัดนนทบุรีแต่ที่ทำงานกลับอยู่ใจกลางเมืองอย่างย่านอโศก การเดินทางไปทำงานในแต่ละวันนั้นมหาโหดสำหรับเธอมาก
“พี่ ตื่นนนนนนน ได้แล้ววววววววว” เสียงโหวกแหวกโวยวายของตัวแสบประจำบ้านอย่าง ต้นเตย ตะโกนปลุกพี่สาวที่แสนขี้เกียจของเขา
“ตื่นแล้วๆ ตื่นนานแล้ว แกอะรีบไปเรียนเลยไป”ร่างบางติดจะผอมของ เกศราหรือ เกด วิ่งลงบันไดมาในชุดพร้ิมไปทำงานพลางไล่น้องชายอย่างต้นเตยให้ไปมหาลัยแต่เช้า ผมเฝ้าของเธอยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง
หนุ่มน้อยยักไหล่ก่อนจะเดินเข้าห้องครัวที่อยู่ติดบันไดไปหาอะไรกินก่อนจะโผล่หัวออกมายั่วโมโหคนเล่น “พ่อบ่นว่าพี่ตื่นสาย เลยออกไปไม่รอแล้ว แม่ก็ด้วย”
“อ๊ายยยย!!” นางสาว เกศราในชุดทำงานสีหวานรีบวิ่งไปที่ประตูบ้านก่อนจะใส่รองเท้าเตะแล้ววิ่งออกไป
“พี่รองเท้า เห้ยยพี่ จะใส่เตะไปทำงานเร๊อะ” ต้นเตยที่มองพี่ตัวเองวิ่งออกไปที่ประตูต้องตะโกนอย่างตกใจเมื่อเห็นพี่สาวใส่รองเท้าเตะออกจากบ้านไปทำงานเสียอย่างนั้น ก่อนจะวิ่งเอารองเท้าไปให้พี่ที่หน้าประตูรั้วบ้าน
“ขอบใจๆ” เกศราพูดของคุณน้องชายที่รักยิ่งก่อนจะรวบผมสีน้ำตาลที่ดัดและย้อมอย่างดีมามัดรวบเป็นหางม้าแล้วเปลี่ยนรองเท้าก่อนจะรีบเดินออกไปจากบ้าน
“เซอะเบ๊อะอย่างงี้ใครจะคว้าไปเป็นแฟน สมแล้วที่โสดมาตลอดชีวิต” ต้นเตยบ่นหงุงหงิงก่อนจะหัวเราะออกมาเพราะเสียงด่าของพี่สาวที่เดินออกไปซักพักแต่ดันหูดีได้ยิน
“ไอเตย แก ไปเรียนเลยไป พูดมากจริง”เกศราตะโกนไล่ต้นเตยก่อนรีบเดินอย่างหงุดหงิด น้องชายตัวดีดันจี้ใจดำเธอเข้าอีก “โสดมาทั้งชีวิตแล้วไงว่ะ ชีวิตแฮปปี้ดีออกไม่ต้องแคร์ใครมากมายให้วุ่นวาย” สาวสมัยใหม่วัยยี่สิบสามอย่างเธอจะไปรีบหาทำไมแฟน
ระหว่างทางไปทำงานเธอต้องเบียดเสียดผู้คนบนรถเมล์แถมยังต่อด้วยรถไฟฟ้าไปยังที่ทำงาน โชคดีเท่าไหร่ที่เธอสูงเกิน 160 ซม. ไม่งั้นเธอต้องเป็นลมตายทุกครั้งที่ต้องเดินทางแน่ๆเพราะต้องแย่งอากาศคนอื่นหายใจ
จนกระทั้งถึงที่ทำงานหญิงสาวก็จัดการวิ่งไปวางข้าวของที่โต๊ะทำงานก่อนจะวิ่งไปเข้าห้องน้ำเพื่อแต่งหน้าแต่งตาให้ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมา
ภายในออฟฟิสขนาดใหญ่ที่บรรจุพนักงานกว่าสามสิบชีวิตที่พนักงานเกือบครึ่งเรียกตัวเองว่าโปรแกรมเมอร์ บรรยากาศโล่งโปรงสบายรับแสงแดดในยามเช้าทำให้ความเครียดสะสมจากโปรเจคใหญ่ที่ใกล้ถึงกำหนดส่งปิดงานของทุกๆคนดูจะทุเลาลง โต๊ะทำงานแต่ละตัวตั้งอยู่ห่างกันบ้างไม่ก็ติดกันบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่ออฟฟิสแห่งนี้ไม่มีคือกำแพงหรือบอร์ดที่แยกพื้นที่ส่วนตัวของแต่ละคนจากกัน ยิ่งแถบของฝังโปรแกรมเมอร์ทั้งหลายข้าวของแทบจะกองรวมกันเป็นกองเดียว สายไฟระโยงรยางค์ อุปกรณ์ไอทีมากมายที่ต้องใช้ทำงาน ปลั๊กไฟ ปลั๊กพ่วง และ หมอน(?)
“ยัยเกดละ”สาวใหญ่ยังสวยวัยสามสิบกลางๆถามหาพนักงานใหม่ กับชายหนุ่มที่ฟุบหน้ากับหมอนอยู่บนโต๊ะทำงาน เจ้าหล่อนอยู่ในชุดทำงานอย่างเนี๊ยบทรมผมสั้นระคอขับให้ใบหน้าสวยเก๋ดูเด็กลงหลายปี
“ห้องน้ำมั้งพี่ดาว มันก็แบบนี้แหละ ให้ได้แต่งตัวหน่อยเหอะ ผมไม่อยากนั่งทำงานกับผี” ภูวดลรุ่นพี่ร่วมงานของเกศราบอกทั้งๆที่ยังเอาหน้ามุดหมอนอยู่บนโต๊ะตัวเอง
“แกก็ใช่ย่อยไอภูบ้านเบินไม่กลับ นี่กะจะไม่กลับยันโปรเจคปิดเลยเหรอไง”
“ก็งั้นแหละเจ๊ บอสให้อยู่ก็อยู่ กลับบ้านไปมาแบบพวกพี่พลหรือยัยเกดไม่ไหว เหนื่อย”ภูวดลพูดด้วยน้ำเสียงเนื่อยๆ “ยิ่งพี่คล้าวสุดหล่อแห่งท้องทุ่งไปเทสงานแล้วเจอบัคใหม่มาให้ด้วยผมว่าอย่ากลับบบ...เลยจะดีกว่า”
“นอนเป็นผีตายซากเฝ้าบริษัทไปเลยไอภู ระวัง น้องใหม่แผนกธุรการอีกบริษัทที่อยู่ชั้น16 มาเห็นนะ”
ทันทีที่เจ๊ดาวของทุกคนพูดจบ ภูวดลก็เด้งตัวขึ้นมาตัดเพ้อ “หูยเจ๊ รู้ได้ไง”
“ฉันซะอย่างข่าวสารไวเสมอ แล้วนี่ยัยเกดยังไม่ออกมาอีก”
“มาแล้วค่ะเจ๊ขา”เกศราส่งเสียงมาก่อนตัวก่อนจะรีบวิ่งลัดเลาะโต๊ะทำงานทั้งหลายมาหาเจ๊ดาว
“เกด บอสจะให้เธอตามไปดูงานด้วย”
ยังไม่ทันที่ดาววดีจะพูดจบนายภูวดลก็ส่งเสียงด้วยความอิจฉา “โหยยยยยยยยยยยยดีอ่า”
“เงียบไป ไอภู คืองี้เกด น้ำหวาน เลขาบอสมันเข้าโรงพยาบาลแล้วทีนี้มันไม่มีเลขาไงอีกอย่างออฟฟิสเราก็มีแต่ผู้ชายไอพวกผู้หญิงที่มีก็นิสัยไม่สมหญิง ไม่ก็มองบอสซะจนไม่เป็นการเป็นงาน จะใช้ได้หน่อยก็มีเจ๊กับเกด”
เกศราแบะปากออกมาหลังจากได้ฟังเจ๊ดาวพูด ‘นี่เจ๊จะบอกว่าไอเหล่าสตรีในออฟฟิสเนี๊ยมันไม่ใช่ผู้หญิงว่างั้นแถมยังอวยตัวเองด้วย เอาเถอะ มันก็จริงของเจ๊’ คิดได้แบบนั้นก็ตอบตกลงไป “ค่ะเจ๊”
“ไอเกดดดดดด แกต้องมานั่งแก้บัคกับพี่ อย่าปัยยยยยย”ภูวดลคร่ำครวญอยู่บนเก้าอี้ป่ายมือไปมาหมายจะลากเกศลาเอาไว้
“บัยส์”เกศราโบกมือลาด้วยท่างทางกวนฝ่าเท้า ก่อนจะวิ่งไปเก็บข้าวของตามเพื่อตามบอสไปทำงาน
“เจ๊ดาวววววว ผมจะแช่งเจ๊ เจ๊เอาคนแก้โค้ดผมไป.... โฮฮฮ ผมจะพ้องพี่พลลลล โอ๊ย!”
ดาววดีตีหลังภูวดลไปหนึ่งทีด้วยความหมันไส้ก่อนจะเดินไปเก็บข้าวของบ้าง ‘หน้าตามันก็ดีเสียอย่างเดียวสติไม่ค่อยเต็ม’ หล่อนคิดอย่างเสียดาย
ในลิฟท์ตัวใหญ่ของอาคารที่บริษัทตั้งอยู่เกศรายืนตัวลีบด้วยความเกร็งอยู่ตรงมุมลิฟท์ ถ้าจะถามถึงสาเหตุนะเหรอคงต้องถามชายหนุ่มร่างสูงที่ยืนตระหง่ายอยู่กลางลิฟท์ บอสของเธอ
บรรยากาศแปลกๆในลิฟท์ทำเอาดาววดีมองอีกสองคนที่อยู่ในลิฟท์อย่างสงสัย“บอสคะ ดาวขอถามอะไรบางอย่างได้ไหมค่ะ”
ทันทีที่ได้ยินเจ็ดาวถามบอสที่เธอพึ่งจะเคยเจอเป็นครั้งแรกมือไม้ของเธอก็เย็นเฉียบเหงื่อก็ผุดขึ้นมาตามไรผม
“หืม อะไรละ”เสียงนุ่มของบอสถามเจ๊ดาวกลับ
“ก็... บอสได้ไปดุอะไรหนูเกดเอาไว้รึเปล่า เธอถึงไปยืนตัวลีบห่างจากบอสขนาดนี้”ดาววดีเบาเสียงลงจนกลายเป็นการกระซิบ
“นิดหน่อย”เขาตอบคำถามก่อนจะเหล่มองไปยังหญิงสาวอีกคนที่ยืนหน้าเสียอยู่ตรงมุมลิฟท์
‘นี่เจ๊ ถามอะไรบอสน๊ะ ทำไมถึงขนลุกได้ขนาดนี้ โหยรู้งี้ไม่น่าเซ่อซ่าวิ่งทั้งๆที่ใส่ส้นสูงเลยวิ่งชนบอสจนโดนดุเลย ขอกลับไปนั่งแก้โค้ดกับพวกพี่ภูได้ไหมอ่า’ เกศราคร่ำครวญในใจแต่ก็ต้องพยามทำหน้านิ่งเอาไว้ทั้งๆที่ในใจนั้นกลัวบอสจนจะแย่แล้ว
ดาววดีกรอกตาไปมาอย่างเหนื่อยหน่าย ‘นี่แค่ต้นวันเองนะทำไมเหนื่อยได้ขนาดนี้วันนี้จะรอดไหมเนี๊ย น้ำหวานนะน้ำหวานทำไมต้องมาไม่สบายเอาตอนนี้ด้วย’ โดยหน้าที่แต่เดิมของเธอนั้นเป็นหัวหน้าอยู่ฝั่งประชาสัมพันธ์ของบริษัทยังไงก็เคยไปไหนมาไหนกับหัวหน้ายังหนุ่มคนนี้อยู่บ้างจะห่วงก็แต่เด็กใหม่อย่างเกด ท่าทางจะไปก่อเรื่องเอาไว้แน่ๆ
“เอากลับไปคืนไอภูมันจะทันไหมเนี๊ย”สาววัยสามสิบบ่นกับตัวเองเบาๆ
ติ๊ง!
เมื่อลิฟท์เคลื่อนลงมาจนถึงชั้นหนึ่ง นครา หรือบอสหนุ่มเจ้าของบริษัทที่เกศราทำงานอยู่ก็ก้าวเดินออกไปอย่างรวดเร็วทิ้งให้เกศรากับดาววดีกึ่งเดินกึ่งวิ่งเพื่อตามให้ทัน เกศราที่กำลังก้าวยาวๆให้ทันบอสที่เดินไวอย่างจะไปไล่ควายที่ไหนก็มองเจ๊ดาวอย่างชื่นชม ‘โหยเจ๊ขนาดรีบเดินยังสวยอะ’
“ยัยเกดเดี๋ยวก็โดนทิ้งเหรอก ไวไว”เจ๊ดาวหันมาเร่งเกศราที่ก้าวยังไงก็ไม่ทันจนสุดท้ายก็ต้องออกตัววิ่ง แต่ยังไม่ทันถึงประตูดีบอสของพวกเธอก็ก้าวขาขึ้นรถแล้ว เจ๊ดาวเลยเร่งจังหวะเดินขึ้นอีกเท่าตัวงานนี้เกศราจึงต้องวิ่งให้ไวขึ้น
ดาววดีจัดการพาตัวเองไปตรงที่นั่งข้างคนขับ ทำให้เกศราต้องมานั่งที่นั่งด้านหลังข้างๆบอสอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทันทีที่นั่งเรียบร้อยรถก็เคลื่อนตัวเพื่อไปยังจุดหมาย
“เจ๊ทำไมไม่ให้เกดนั่งหน้า เจ๊สนิทกับบอสไม่ใช่เหรอไง” เกศรารีบเข้าไปกระซิบกระซาบกับเจ๊ดาวผ่านช่องว่างด้านที่ติดประตู
“เจ๊ลืม”
“เจ๊อะ”เกศราส่งเสียงเบาๆอย่างน้อยใจ ก่อนจะทิ้งตัวพิงเบาะหลังก่อนจะพยามทำตัวลีบไปกับประตูให้มากที่สุดแต่มันก็หนีไม่พ้นสายตาของบอสหนุ่มอยู่ดี
“เกศรา”น้ำเสียงนิ่งเอ่นเรียกชื่อของเธอท่ามกลางเสียงทำงานเบาๆของเครื่องยนต์
“ค..ค่ะ บอส” เธอตอบกลับเสียงตะกุกตะกักก่อนจะลอบมองใบหน้าเคร่งของบอสอย่างหวาดเสียวจะโดนดุ
“อย่าวิ่งแบบนั้นอีกมันอันตราย”นคราเลือกที่จะตักเตือนลูกน้องของเขาอย่างนิ่มนวล ขนาดแค่เรียกชื่อก็ทำตัวเหมือนจะโดนดุ อย่างหนักแบบนี้เขาเองก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดที่จะโกรธใครมาวิ่งชนพร้อมขอโทษเรียบร้อยด้วยความรู้สึกผิดได้ลงแถม
“เข้าใจแล้วคะบอส” เกศราตอบรับก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอกที่เธอไม่ได้โดนดุอีกรอบแล้วจึงกลับมานั่งให้เต็มที่นั่งแบบสบายๆ
งานนี้บอสต้องไปเข้าประชุมที่พัทยามันเป็นงานเร่งด่วนที่บอสไปตัดหน้าบริษัทอื่นเพื่อให้ได้มาการเดินทางเลยใช้เวลานานอยู่พอสมควร ดาววดีเองก็อดที่จะหาวออกมาไม่ได้ก่อนจะหันไปดูรุ่นน้องที่พามาด้วย
“ตายสนิท”ดาววดีพึมพำก่อนจะกลับมานั่งให้ดีแล้วหาเรื่องชวนบอสคุยเพื่อให้บรรยากาศในรถสดชื่นขึ้น
“หึหึหึ” นคราหัวเราะในลำคอเบาๆที่เห็นเด็กใหม่ในบริษัทเขาหลับไปในสภาพเหมือนคนคอหัก
ระหว่างที่ดาววดีชวนคุยนคราก็ลอบมองหญิงสาวข้างตัวเป็นระยะๆด้วยความเป็นห่วงกลัวว่าหัวจะไปกระแทกกับกระจกรถ ครั้นจะปลุกให้มานอนดีดีก็ไม่กล้าพอ
จนกระทั้งมีจังหวะรถเลี้ยวยูเทิร์นเพื่อจะย้อนขึ้นไปยังโรงแรมที่ตั้งอยู่อีกฝั่งของถนนหัวของเกศราก็ฟาดเข้าให้กับกระจก
“โอ๊ยย!! เจ็บๆๆ” ริมฝีปากสวยได้รูปบ่นอุบ
“นอนไม่ระวังเอง” บอสหนุ่มเอ่ยแซวถึงจะคอยดูให้ตลอดทางแต่สุดท้ายก็โขกเข้าอยู่ดี
“สมน้ำหน้ายัยเกด หลับต่อหน้าเจ้านาย”เจ๊ดาวผสมโรง “เชิญบอสเลยคะ ยัยดาวลงจากรถได้แล้ว” ดาววดีเชิญบอสหนุ่มให้ลงจากรถก่อนจะไล่เด็กใหม่ที่นั่งเมาขี้ตาให้ลงจากรถตาม
หน้าโรงแรมดังในเมืองพัทยา กลิ่นทะเลที่พัดเข้ามาตามแรงลมเรียกสติของเกศราได้ชะงัด บรรยากาศเรียบหรูและสไตล์การตกแต่งโรงแรมแบบบาหลีอีกทั้งโทนสีอบอุ่นทำให้โรงแรมแห่งนี้สร้างบรรยากาศสุขสงบน่าพักผ่อน ทันทีที่ทั้งหมดเดินเข้ามาในส่วนต้อนรับก็มีพนักงานสาวสวยในชุดไทยประยุกต์เดินมาให้การบริการอย่างดี เสียงน้ำตก กลิ่นหอมแบบอโรม่า ต้นไม้ใบหญ้าที่ขึ้นอยู่ในกระถางล้วนทำให้ร่างบางระบายยิ้มเจ๊ดาวคนสวยก็เช่นกัน
เจ๊ดาวจัดการสอบถามและรับทราบขอมูลต่างจากพนักงานอย่างใจเย็นเพื่อให้ไม่ตกหล่น ส่วนเกศราก็เชิญบอสไปนั่งพักก่อนที่มุมน้ำตกก่อนตัวเองจะนั่งลงข้างๆอย่างพยามจะให้เรียบร้อย ระหว่างรอเจ๊ดาวนันย์ตากลมโตของเกศราก็สำรวจรูปลักษณ์ของบอสหนุ่มอย่างแอบๆ เพราะตอนแรกที่ได้เจอหน้าก็เกิดเรื่องเสียจนไม่ได้สังเกตให้ดี
‘ก็หล่อหนิหว่า หล่อเนี๊ยบด้วย แบบนี้สาวเยอะแหงๆ หล่อแบบหน้าคมตาคม สูงผิวดี แต่งกายดูดีมีมาดท่างทางการเดินนั่งก็ดูดีไปหมด โหเรามีบอสหล่อแบบนี้เลยเหรอ แล้วทำไม พวกพี่พลเป็นแบบนั้นว่ะเหมือนซอมบี้... เอ่อ พวกพี่พลมันก็รวมเราด้วยนิหว่า’ เกศราประเมินบอสตัวเองอย่างเพลิดเพลินจนไปเปรียบเทียบกับแผนกตัวเองเข้าให้ ‘แล้วทำไมบอกไม่เอาสาวๆแผนกการเงินหรือธุรการไปอะ ของแผนกเจ๊ดาวก็มีสวยๆนะ อันที่จริงเจ๊ดาวลากเรามานิหว่า ถึงจะบอกว่าบอสเรียกก็เหอะ’ คิดไปคิดมาก็สับสนเธอจึงหันไปสนใจกับน้ำตกข้างๆ
“บอสค่ะ ห้องประชุม ลีลาวดีคะ”
“อืม” นคราลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะก้าวเดินตามพนักงานที่นำทางไปพร้อมดาววดี
ทั้งสองเดินออกไปโดนลืมเกศราที่กำลังเล่นแช่มือในน้ำตกอยู่
“อุ๊ยอะไรอะ” เกศราที่ไม่รู้ตัวว่าโดนทิ้งก็ยังเล่นแกว่งมือในน้ำจนจับของบางอย่างได้จึงน้ำขึ้นมา
ถุงขนาดสีเหลี่ยมพื้นผ้าอันเล็กๆทำจากผ้าแพรอย่างดีสีม่วงอ่อนปักลายดอกไม้น่ารักๆพร้อมพู่ห้อยสีม่วงอ่อนตาม ตรงโคนพู่สายเชือกถูกถักเป็นลายแบบจีนอย่างสวยงาม เกศราจัดการดมเจ้าถุงผ้าที่เปียกน้ำอันนี้ตามสัญชาตญาณ
“หอม”
“ยัยเกด มัวแต่นั่งทำอะไรอยู่บอสเข้าห้องประชุมไปแล้ว”เจ๊ดาวเดินลงมาตามหาอย่างหงุดหงิด
“นี่คะเจ๊ เกดเก็บได้ อะ!!”ยังไม่ทันจะพูดจบแข่งขาของเกศราก็เกิดไร้เรี่ยวแรงขึ้นมา
“เกด!! เป็นอะไรมากไหม” ดาววดีปรี่เข้ามาคว้าตัวไว้อย่างรวดเร็วก่อนที่จะลงไปกระแทกพื้น
“ไม่เป็นไรคะเจ๊ดาว ไปหาบอสกันดีกว่า อาจจะแค่เหน็บกินนะเจ๊ใจเย็นๆ”เกศราพยามลุกขึ้นยืนแล้วก็สำเร็จหลังจากนั้นก็กึ่งลากกึ่งจูงดาววดีไปหาบอสที่ห้องประชุมมือก็เก็บถุงหอมที่ตนเก็บได้ใส่กระเป๋า
หลังจากการประชุมจบลงบริษัทของเธอก็กำลังจะมีงานใหม่ต่อจากโปรเจคปัจจุบันที่กำลังจะจบ ทันทีที่ได้ยินข่าวใบหน้าของเกศราก็ง้อง้ำลง ‘มันเหมือนจะดีนะ’
บอสนครากับเจ๊ดาวเองก็หันมาให้กำลังใจสาวน้อยแห่งฝั่งโปรแกรมเมอร์ที่ทำหน้างอตั้งแต่ได้ยินข่าวก่อนจะพากันออกจากโรงแรมกลับกรุงเทพ ตอนนี้ก็เกือบห้าโมงเย็นแล้วกว่าจะกลับถึงกรุงเทพคงดึก เจ๊ดาวจึงนำเสนอให้ทุกคนไปทานข้าวที่ร้านอาหารที่เจ๊แกรู้จัก บอสเองก็ไม่ได้ว่าอะไรรถจึงออกเดินทางไปยังร้านอาหารที่เจ๊ดาวว่า
บนรถตำแหน่งที่นั่งก็ไม่แตกต่างจากขามามากนัก แต่คราวนี้กลับเป็นบอสที่พักสายตาลงทิ้งให้เกศรานั่งพิจารณาถุงหอมที่ตนเก็บได้ด้วยความสงสัย ส่วนเจ๊ดาวก็นั่งบอกท่างให้กับคนขับรถ
โครมมมมมม !! เสียงชนสนั่นจากท้ายรถเรียกทุกคนให้หันไปมองรถบิ๊คอัพคันใหญ่ชนเข้ามาเต็มแรง ดีที่ถนนตรงนี้รถไม่ติดมากนักถึงจะอยู่ในตัวเมืองพัทยา
รถทั้งสองคันจึงย้ายไปจอดที่ไหล่ทาง
“ซวยจริงๆ”คนขับรถบ่นแล้วลงจากรถไปดูความเสียหาย เจ๊ดาวเองก็หงุดหงิดเพราะการชนครั้งนี้จะทำให้การกลับกรุงเทพล่าช้าขึ้นไปอีก
“เรียกประกันรึยัง”บอสหนุ่มที่ลงจากรถถามคู่กรณีก่อนคนขับรถจะเข้ามาเคลีย
เกศรามองเหตุการณ์อย่าจนใจเธอไม่เคยมีรถและพ่อก็ไม่ค่อยจะขับรถชนใครหรือใครมาชนมากนั้นความรู้เกี่ยวกับการไกล่เกลี่ยพวกนี้เธอไม่ค่อยจะมีเท่าไหร่นัก หญิงสาวเลยคลานข้ามเบาะมาลงประตูเดียวกับบอสพร้อมทั้งเอาถุงหอมติดมือมาด้วย
เจ๊ดาวกับคนขับรถแท๊คทีมกันคุยกับคู่กรณีทิ้งให้บอสหนุ่มเดินไปดูท้ายรถที่ตัวเองนั่ง เกศราเห็นแบบนั้นจึงเดินไปหาแต่ดูเหมือนจะมีรถอีกคันวิ่งมาด้วยความเร็วและเบียดมาตรงไหล่ทางที่พวกเธอยืนไกล่เกลี่ยกันอยู่
บอส!! เกศรากรีดร้องในใจเมื่อสมองคำนวณได้ว่าหากรถยังวิ่งมาแบบนี้คนที่โดนชนคือบอสที่กำลังยืนอยู่ตรงตำแหน่งไฟเลี้ยวท้ายรถ
หญิงสาวรีบวิ่งเข้าไปพลักร่างของเจ้านายตัวเองให้พ้นทาง
“เห้ย”เจ้านายหนุ่มอุทานออกมา ก่อนจะหันกลับไปเอาเรื่องคนที่พลักตัวเอง
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด !!” เป็นเจ๊ดาวที่หันมามองทันตอนที่เกศราถูกรถเฉี่ยว
ร่างของเกศราหมุนไปตามแนวตัวถังรถที่ตัวเองนั่งมากว่ารอบสองรอบเพราะรถที่เฉียวเบียดประชิดเข้ามากับตัวรถที่จอดอยู่ เรียกได้ว่าระหว่ากลางของรถทั้งสองคันคือเธอเลยทีเดียว
____________________________________________________________________________________________
เด็กผู้ชายดีดีที่ไหนจะชื่อต้นเตย ไม่รู้ว่าน้อยชายตัวแสบของเกศราจะได้โผล่มาอีกไหมเราให้แปะรูปให้ทุกคนได้ดูไว้ก่อนน
ท๊าด๊าาาา...... เราไปจัดการจิ๊กรูปของชเวยองแจมาแหละ อิอิ
ใจจริงก็อยากมีน้องชายที่นิสัยประหลาดๆแบบนี้เหมือนกันนะ
แต่ไอทีมีอยู่ก็ประหลาดพอตัวอยู่เหมือนกัน 555
ความคิดเห็น