ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic REBORN] Across Dimensions. ข้ามมิติมาเพื่อเธอ

    ลำดับตอนที่ #2 : สายฝน

    • อัปเดตล่าสุด 25 พ.ค. 56


    แรงดึงดูดและแรงเหวี่ยงมหาศาล ทำเอาสติของมิน ลางเลือน เธอหลับตาปี๋พร้อมสวดมนต์ในใจเพราะสมองของเธอสั่งการว่าเธอต้องตายแหงๆ  พุทโธ ธรรมโม สังโฆ ..... . ไม่ฉันจะไม่ยอมตายยยเด็ดขาดดด’ 

    //นี้แหละคนเราพอเกิดเรื่องร้ายๆก็ร้องหาวัด

    ติ๊ด...

     

    ติ๊ดด..

     

    ! ยกเลิกการเคลื่อนย้าย

    ! กำหนดพิกัดปลายทางใหม่

    ! เมืองมินาโมริ

     

    ตุ๊บ.... มินตรา หญิงสาวผู้น่าสงสารในชะตากรรม ล้มลงบนพื้นอย่างหมดสภาพ

    “อ๊อค!!  อยากจะอ้วกก” ใบหน้าของเธอเหย๋เกจากความพะอืดพะอมที่ไหลขึ้นมาตามคอ  ‘ฉัน......จะ......เล่นงาน....ไอคนที่...ทำ...เรื่อ.....ง นี้!!!’  ถึงจะคิดอย่างเคียดแค้นไปเธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้...เพราะ..

    “แหวะ....!!!” มินโก่งคออาเจียนเสียจนหมดไส้หมดพุง

    //หมดสภาพนางเอก

     

     

     

    ณ สถานที่ที่เวลเด้สถิตอยู่

    “ไม่นะตัวทดลองของผมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม !!!!”เวลเด้กรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง

    “นี่..ถ้าจะให้ผมใช้พลังช่วยอีกครั้งคงจะไม่ได้แล้วนะ ” ชายคนหนึ่งดูท่าทางมีอายุผู้ซ่อนอยู่ข้างหลังเงาของเวลเด้พูดขึ้น

    “มีทางเดียวสินะ  คือ ต้องหาตัว   ให้เจอ พิกัดสุดท้ายระบุไว้ที่ไหนนะ”

    “บ้าน่า !!!!!!!!!!!!!!! เวลเด้ยกมือขึ้นกุมขมับ

     

    ERROR ERROR ERROR ERROR

    TARGET LOST.

     

     

     

     

     

    ครึ้น....  ครึ้นนน....   แปะๆ.....

    เสียงฟ้าร้องดังแว่วมากจากไกลๆและเม็ดฝนที่เริ่มโปรยปราย  

    “สึนะ  เดินไวไวหน่อยสิ จะมามัวเหม่ออะไรแถวนี้ เดี๋ยวก็ยิงทิ้งซะเหรอก” วาจาอันแสนโหดร้ายนี้จะเป็นของใครไม่ได้นอกจาก รีบอร์นครูพิเศษ(จอมป่วน)ส่วนตัวของสึนะ

    โหดไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ รีบอร์นสึนะคิดอย่างละเหี่ยใจ ตั้งแต่วันที่ปลดคำสาปสายรุ้งรีบอร์นก็ตัวโตขึ้นมาหน่อยหนึ่ง ไม่ต่างจากคนอื่นๆ จะมีก็แต่เวลเด้ ที่เห็นคราวล่าสุด(หลังปลดคำสาปสายรุ้ง) จะดูโตก่อนใครเขาเพื่อน

    ซาวาดะ สึนะโยชิ หนุ่มน้อยวัย 18 ปี ใช้สายตามองไปที่สายฝนนอกร่มอย่างครุ้นคิด ความสูงของเขาเพิ่มขึ้นมาจนเกือบจะเทียบกับโกคุเดระได้(แต่ความสูงของโกคุเดระก็อัพขึ้นไปเหมือนกันนะจ๊ะ) ประกอบกับการฝึกของรีบอร์นช่วยให้ร่างกายของสึนะดูเป็นผู้ชายมากขึ้น

    “เป็นอะไรไปสึนะ” รีบอร์นถามสึนะอย่างสงสัย

    “อ๊า....ไอความรู้สึกขัดๆนี้มันอะไรกันนนนน” สึนะโวยวายพลางใช้สองมือขยี้หัวตัวเองอย่างไม่มีปี่มีขลุย ทำเอารีบอร์นที่นั่งบนหัวของสึนะต้องกระโดดไปยืนบนกำแพงพร้อมร่มในมือ

    “เห้ยร่ม...รีบอร์นทำแบบนี้ฉันก็เปียกหนะสิ”

    “หึ...แล้วจะโวยวายทำไม”

    “รู้สึกแปลกๆ......กับสายฝนในวันนี้หนะ”

    “ไปคุยกันที่บ้านเถอะ” รีบอร์นพูดอย่างเคร่งเครียด

    ลางสังหรณ์สุดยอดอีกแล้วสินะสึนะ..คราวนี้จะเป็นเรื่องอะไรหละ

    “อือ”  หลังจากสึนะรับคำรีบอร์นก็กระโดดกลับมานั่งบนบ่าของสึนะเพื่อกลับบ้าน(โดยไม่ต้องเดินเอง)

     

    หน้าบ้านซาวาดะ

     

    เปรี้ยง!!!

    “หว๋า...”

    “ป๋อดไปได้นะสึนะ แค่ฟ้าผ่า”

    “แต่ๆ....นั้นมัน” สึนะผู้กำลังอยู่ในอารมณ์ขวัญหนีดีฝ่อชี้มือไปตรงเงาตะคุ้มๆหน้าบ้านตัวเองอย่างขลาดกลัว

     

    ผี.....ผีแหงๆเลย......ผี ชัดๆๆๆ!!!!!

    “...” แม้แต่รีบอร์นก็เงียบ

     

    ซ่า... ซ่า....   สายฝนยังคงโปรยปรายลงมาอย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุดตก ประกอบกับแสงแว๊บๆของสายฟ้าที่ผ่าอยู่ไกลๆ ทำเอาบรรยากาศตอนนี้สยองสิ้นดี

     

    เหมือนเงาตะคุ้มๆจะรู้สึกตัว จึงมีการเคลื่อนไหวและเหมือนมันจะหันหน้ามาทาง     ผม !

    อยู่ดีดีแข่งขาก็แข็งก้าวไม่ออกซะงั้น เห้ย รีบอร์น! จะทิ้งกันเหรอไงงงง

    “เป็นมาเฟียไม่ใช่เหรอ   แล้วจะหนีทำไมรีบอร์น!!” ผมจะโกนผ่าสายฝนไปหารีบอร์นที่ตอนนี้กระโดดไปที่หน้าต่างหน้าห้องผมแล้ว

    “กรณีนี้มันยกเว้นนะสึนะ นายก็จัดการด้วย ในฐานะบอสของแฟมมิลี่” 

    ห๋า.....  จัดการกับผีนี้นะ  ผมไม่ใช่หมอผีนะรีบอร์นนนนนนนนนนน

    “หว๋า...” ทำไมมันขนลุกขนาดนี้ หนาว (แหงสิยะรีบอร์นเอาร่มไปด้วย)

    ตอนนี้คุณเงาตะคุ้มๆค่อยๆขยับเข้ามาใกล้ผม จนประจันหน้ากัน หน้าแปลกที่ความสูงของเงานี้กลับเตี้ยกว่าผมเล็กน้อย ทำเอาโล่งใจ?

    “คุณ...ผี ครับ” ผมตัดสินใจเรียกเงาก้อนนั้นอย่างเป็นมิตร แต่เจ้าก้อนเงานั้นกลับยื่นอะไรบ้างอย่างขึ้นมาตรงหน้าผม ก่อนจะค่อยๆไล้ที่แก้มผมเบาๆด้วย....ปลายนิ้ว! อย่างทะนุถนอม  นี้คงเป็นเรื่องประหลาดอีกรอบของวันนี้ แทนที่ผมจะรู้สึกกลัว กลับรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาดๆ จนเผลอยื่นมือของตัวเองไปจับที่ส่วนยอดสุดของก้อนเงานั้นอย่างช้าๆ

    “แค่แวะมาดู ก่อนจะไม่ได้เจอกันอีก” น้ำเสียหวานใสดังออกมาจากก้อนเงานั้นทำเอาผมแปลกใจระคนเป็นห่วง ถ้าพูดได้จับต้องได้ก็แสดงว่าเป็นคนสินะ

    ผมตัดสินใจเอ่ยชวนคนคนนั้นเข้าไปในบ้านแต่ เขากลับตอบมาว่า

    “ยังใจดีเหมือนเดิมเลยนะ แต่เวลามีไม่มาก แค่อยากเจอจริงๆ” น้ำเสียงของคนๆนั้นฟังดูเศร้า ทำเอาผมหดหู่ใจไปด้วย แต่ก็ยังมีความอยากรู้อยากเห็นปะปนมา ผมต้องลองดึงผ้านั้นออก ผมอยากจะเห็นหน้าจริงๆนะ

    “คุณ”ผมตัดสินใจพูดเรียกคนๆนั้นก่อนที่เขาจะเดินหายไป จนผมคว้าเอาไว้ไม่ได้
                    เขาชะงัก

    พรึบ... ผมสามารถปลดผ้าที่คลุมคนๆนั้นออกมาได้ ทันทีที่ผมมองเห็น.....เธอ.....ใต้แสงจันทร์ที่ส่องผ่านเมฆฝนทำเอาผมตะลึงงั้น

    “คุณ...จะไปไหน...เดี๋ยวก่อน......ฝนกำลังตกอยู่นะ” ผมพยามคว้ามือผู้หญิงคนนั้น แต่ก็ล้มเหลว

    เธอหายไปแล้ว

    หายไปพร้อมสายฝน

    ที่หยุดลง

     

    สิ่งหนึ่งที่ผมคว้ามาได้จากเธอคือ

    สายรัดข้อมือที่ใช้ในโรงพยาบาล ที่ระบุชื่อว่า

    “ซาวาดะ มินตรา”  คนๆนั้นเป็นใครกันแล้วทำไมถึงใช้นามสกุลเดียวกัน

                   

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×