ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดวงใจเทพธิดาเครื่องหอม

    ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่ ๙ เด็กที่ดีต้องเชื่อฟังผู้ใหญ่ไม่งั้นจะโดนดุ

    • อัปเดตล่าสุด 21 ม.ค. 58









    ร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มผู้มีใบหน้างดงามที่มองแล้วชวนให้หลงใหลดีดตัวลงจากกำแพงมายังพื้นดินภายในคฤหาสน์ตระกูลเจ้า คบไฟมากมายกระจายตัวเป็นระยะให้ความสว่างและเพื่อความปลอดภัยในยามค่ำคืน ตอนนี้อาณาจักรฉีอันยังอยู่ในช่วงใบไม้ผลิแต่อากาศก็ยังคงเย็น

    ฟางเซียนที่ถูกอุ้มอยู่นั่งหน้านิ่งตาปรือด้วยความง่วงที่กำลังจู่โจมแบบติดตริติคอล ท่อนแขนเล็กก็โอบอุ้มกาน้ำชาที่ขโมยมาพร้อมคล้องตะกร้าดอกเก็กฮวย เธอห้าวอ้าปากออกมาเสียกว้าง

    อากาศเย็นที่ชวนให้ไปซุกตัวอยู่ในผ้าห่มหนาแล้วหลับอย่างเป็นสุขกำลังเชิญชวนให้ฟางเซียนหลับทั้งที่ยังถูกอุ้ม แต่ด้วยความเป็นผู้หญิงในตัวที่พึ่งตื่นขึ้นมาหลังจากไปป่วนคนอื่นเขาเสียทั่วก็กำลังสั่งให้เธอไม่พยามอิงแอบหรือใกล้ชิดกับเจ้านายจำเป็นอย่างเจ้าเฟยหรงมากเกินไป

    ร่างสูงกระโดดวูบหนึ่งพาตัวเองเล็กเด็กชายในอ้อมแขนเข้าไปยังระเบียงทางเดินที่ทำจากไม้แต่ไม่สวยเท่าระเบียงทางเดินในวังเพื่อเดินไปส่งร่างเล็กที่เขาไปลักพาตัวมาจากผู้ปกครองของเด็กคนนี้เมื่อตอนเย็น แสงไฟที่ตกกระทบใบหน้ากลมที่กำลังฝืนตัวเองไม่ให้หลับทำให้เฟยหรงตัดสินใจเดินให้ไวขึ้นเพื่อพาเด็กน้อยไปส่งให้ถึงที่

    หมู่อาคารที่พักขนาดเล็กสองสามหลังปรากฏให้เห็น ในคฤหาสน์ตระกูลเจ้านั้นแบ่งออกเป็นชั้นนอกกับชั้นใน ด้านหน้าจะมีประตูใหญ่ที่สุดตั้งอยู่เมื่อเดินเข้ามาจะเจอกับลานกว้างขนาดใหญ่ปูด้วยหินอย่างดีมีต้นไม้ประดับประดาให้ความร่มรื่น อีกด้านของลานกว้างคือเรือนรับรองขนาดใหญ่ที่สร้างไว้เพื่อรับรองแขก รอบๆลานกว้างและเรือนรับรองจะมีกำแพงล้อมรอบคนในคฤหาสน์เรียกส่วนนี้ว่าส่วนนอก จากตัวเรือนรับรองจะมีระเบียงทางเดินทอดยาวเชื่อมต่อไปยังที่พักหรือเรือนแต่ละหลังอยู่ด้านหลังกำแพง โดยในคฤหาสน์นี้มีเรือนที่พักใหญ่ของอ๋องเจ้ากับฮู่หยินอยู่ทางด้านขวา ด้านซ้ายจะมีสวนขนาดใหญ่ที่สร้างมาเพื่อให้ความสงบพักผ่อนและบดบังหมู่อาคารของคนรับใช้ในคฤหาสน์ที่กระจุกตัวรวมกันอยู่แต่ไม่ได้อึดอัด ส่วนท้ายทั้งหมดนั้นเคยเป็นพื้นที่ไว้สำหรับฝึกฝนวรยุทธของอ๋องเจ้าตอนนี้กลายเป็นส่วนของคุณชายเจ้าเฟยหรงไปเรียบร้อยแล้วพร้อมเรือนที่พักขนาดกลางไว้เป็นส่วนตัว

    แสงคบไฟที่สาดส่องทำให้เจ้าเฟยหรงมองเห็นพ่อบ้านฟู่มายืนรอใครบางคนพร้อมผ้าห่มหนาขนาดเล็กแต่พอที่จะคลุมตัวเด็กน้อยได้อย่างมิดชิด เมื่อพ่อบ้านฟู่เห็นคุณชายของตนเดินมาพร้อมลูกชายบุญธรรมในอ้อมแขนเขาก็เดินเข้าไปทำความเคารพก่อนจะอ้าแขนพร้อมกางผ้าห่มเป็นสัญญาณว่า ส่งลูกชายข้ามาได้แล้ว

    เฟยหรงเองก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะรั้งเด็กน้อยไว้ ฟางเซียนเองก็ทำท่าจะเข้าไปหาฟู่หลงซินตั้งแต่ตาปรือๆของเขามองเห็นพ่อบุญธรรม เฟยหรงส่งเด็กน้อยในชุดดำที่หอบข้าวของสองสามสิ่งให้กับฟู่หลงซิน ฟางเซียนถลาเข้าไปกอดคอฟู่หลงซินทั้งๆที่ยังคลองตะกร้าไว้แต่มืออีกข้างของนางก็ยังไม่ปล่อยกาน้ำชา พ่อบ้านฟู่ใช้ผ้าห่มหอตัวฟางเซียนพร้อมกาน้ำชาในแขนเด็กน้อยก่อนจะเอ่ยลาคุณชายเจ้าเพื่อขอตัวไปพักผ่อน

    เฟยหรงพยักหน้ารับพ่อบ้านฟู่ก็หันหลังเดินกลับเข้าไปยังที่พักพร้อมบุตรบุญธรรม เขายืนมองฟางเซียนที่ขยับตัวเองให้เอาหัวมาซบไหล่ของฟู่หลงซินแล้วหลับไปจากทางด้านหลังของพ่อบ้านฟู่ มือเรียวของเฟยหรงยกขึ้นมาทาบบนไหล่ด้านเดียวกับที่ฟางเซียนเอาหัวซบฟู่หลงซินพร้อมความรู้สึกแปลกที่เกิดขึ้นกับเขา ทำไมเขาถึงไม่หลับบนไหล่ข้าทั้งๆที่ง่วงมากขนาดนั้น

    จนกระทั่งฟู่หลงซินเดินเข้าไปยังที่พักแล้วปิดประตูเฟยหรงจึงเดินออกมาจากที่พักของเหล่าคนใช้ ภาพของเด็กน้อยที่หลับอย่างเป็นสุขบนไหล่ของฟู่หลงซินกำลังทำให้เขารู้สึกเหมือนโดนขัดใจและน้อยใจ เขาส่ายหน้าให้กับตัวเองที่ปล่อยให้เกิดความคิดและอารมณ์แบบนี้ขึ้นมา “ก็แค่เด็กผู้ชาย เฟยหรง”

     

     

     

    ฟางเซียนที่นอนหลับสบายนิ่วหน้าให้กับแสงอ่อนๆกำลังส่องมาแยงตา เธอสะบัดผ้าห่มมาคลุมโปงก่อนจะหลับอีกครั้งอย่างเป็นสุข นี่สิแดดอุ่นๆอากาศเย็นๆพร้อมผ้าห่มหน้าๆเป็นสุขที่สุด แดดอุ่นๆ แดด...

    “เช้าแล้ว!!” ฟางเซียนเด้งตัวขึ้นมา “แบบนี้ไปทำงานสายแน่ๆ” เธอสะบัดผ้าห่มหนาออกจากตัวก่อนจะรีบร้อนลงจากที่นอนแต่พอจะก้าวขาลงมารองเท้าสีดำเล็กๆที่วางอยู่ข้างเตียงทำให้เธอเอะใจ เราจะไปทำงานที่ไหนกันดวงตากลมโตที่เปรอะเปื้อนไปด้วยขี้ตามองไปรอบอย่างนึกสงสัยเพราะหลังจากที่เธอถูกท่านพ่ออุ้มเธอก็หลับไปเลย ฟางเซียนสอดส่ายสายตามองหาฟู่หลงซินไปทั่วห้องที่ตกแต่งอย่างเรียบๆมีเครื่องเรือนไม่กี่ชิ้นและกาน้ำชา

    “หนอนน้อย” ฟางเซียนถลาพุ่งตัวลงจากเตียงไปยังกาน้ำชาบนโต๊ะไม้ที่ไม่มีผ้าปูให้สวยงามความสูงของโต๊ะนั้นอยู่ในดับอกของเธอเลยทีเดียว เธอเขย่งเท้าเล็กน้อยเพื่อเอื้อมไปหยิบกาน้ำชามาเปิดดู ลวดลายสวยงามบนตัวกาทำให้กาน้ำชาใส่หนอนของเธอดูสูงค่า แน่สิไปขโมยมาจากวังหลวงนี่

    ทันทีที่หยิบมาได้เธอก็เปิดดูด้านใน “ฟู่” ฟางเซียนเบาปากอย่างโล่งอกก่อนจะใช้มือเสยผมสั้นๆที่ปรกหน้าปรกตาของเธอ อากาศตอนนี้ก็ยังคงเย็นสบายชวนให้ปีนขึ้นเตียงกลับไปนอนอีกครั้ง ฟางเซียนมองปริมาณใบไม้ในกาน้ำชาที่หมดลงแล้วตัดสินใจจะไปเดินหาตะกร้าใส่ดอกเก็กฮวยที่ท่านหญิงหลิงหลิงอุตสาห์เก็บมาให้

    เดินวนอยู่ห้องได้รอบสองรอบก็ยังไม่เจอเด็กน้อยเริ่มมีความคิดที่จะออกจากห้องแห่งนี้ “ทั้งๆที่ไม่อยากจะก้าวออกไปเลยแท้ๆ ท่านพ่อเอาตะกร้าไว้ไหนกันนะ” เธอบ่น น้ำก็ยังไม่ได้อาบฟันฟางก็ยังไม่ได้แปรงหน้าก็ยังไม่ได้ล้างผู้หญิงอย่างเธอจะกล้าออกไปเจอหน้าคนอื่นได้อย่างไร

    ฟางเซียนที่กำลังปลงตกเพราะในห้องนี้ไม่มีอะไรที่จะทำให้เธอสามารถล้างหน้าแปรงฟันได้เลยแม้แต่น้อยแถมหนอนก็ต้องกินดอกเก็กฮวย พลันสายตาก็มองไปเห็นหน้าต่างที่ปิดอยู่ ความหวังผุดขึ้นมาในใจ อย่างน้อยก็เด็ดใบไม้ให้มันกินไปก่อนแล้วกัน เธอจัดการลากเก้าอี้แล้วปีนขึ้นไปเปิดหน้าต่าง โชคดีที่ข้างๆหน้าต่างมีไม้เลื้อยเธอจึงเด็ดใบของมันมาดม ก่อนจะเด็ดเพิ่มเติมอีกเพื่อเอาไปให้หนอนในกาน้ำชาแล้วจัดการปิดหน้าต่าง

    ปัง! เสียงกระทบไม่เบาของไม้เรียกสายตาของคนใช้ชายคนหนึ่งที่กำลังเดินกลับมาเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังจากออกไปส่งอ๋องเจ้าที่วังหลวงตั้งแต่เช้ามืด

    “ห้องพ่อบ้านฟู่นี่หนา เวลานี่น่าจะไม่มีใครอยู่แล้วหรือจะเป็นขโมย” คนใช้ชายที่ได้ยินเสียงเอะใจและคิดว่าเป็นขโมยเข้าไปขโมยของในห้องพ่อบ้านฟู่ “ข้าควรจะเข้าไปดูดีไหม” เขาถามตัวเองก่อนความอยากรู้และผดุงคุณธรรมจะชนะไป “จะปล่อยให้มันขโมยของไปไม่ได้”

    คนใช้ชายค่อยๆก้าวเข้าไปใกล้ยังที่พักของพ่อบ้านฟู่อย่างเงียบงัน เพราะความเงียบทำให้เขาได้ยินเสียงวีดหวิวของสายลมอยู่ข้างหู เมื่อเข้าไปใกล้หน้าต่างของที่พักพ่อบ้านฟู่เขาก็ได้ยินเสียงเล็กๆที่กำลังพูดอยู่คนเดียว “เด็กกำลังพูดคนเดียว” ชายคนใช้จัดการค่อยแง้มหน้าต่างจากทางด้านนอกเบาๆ

    “เจ้าหนอนตะกละ ข้าเด็ดมาให้เต็มมือเจ้าเขมือบเสียหมด” ฟางเซียนบ่นขณะปีนขึ้นมาเก็บใบไม้อีก เธอเปิดหน้าต่างออกเต็มแรง ด้วยความที่หน้าต่างเป็นแบบผลักออกด้านข้างสองด้านเพื่อเปิด ชายคนใช้ที่กำลังจะแง้มหน้าต่างจึงโดนฟาดไปเต็มรัก

    “โอ๊ยยยย” เสียงโอดโอยของผู้ชายเรียกให้ฟางเซียนก้มลงไปมอง

    “เจ้าขโมยเจ้ากล้าเปิดหน้าต่างฟาดหน้าข้า”

    “ไหนขโมย” ฟางเซียนที่ได้ยินคำว่าขโมยก็ชะโงกหน้ามองหาแต่ก็ไม่เห็นใคร เธอหันหลังกลับไปมองกาน้ำชาก่อนจะเด็ดใบไม้กลับไปอีกกำ “แค่กำเดียวไม่พอแน่ๆ” เธอจัดการดึงเถาไม้เลื้อยขึ้นทั้งหมดแล้วสาวขึ้นมาที่หน้าต่างก่อนจะสะบัดเศษดินออกจนไปโดนชายรับใช้ที่นั่งกุมหน้าอยู่ที่พื้น ก่อนจะปิดหน้าต่างลงอีกครั้ง

    ชายรับใช้ที่ถูกเมินลุกขึ้นมาอย่างเอาเรื่องเขาเข้าไปใกล้หน้าต่างก่อนจะเอามือแง้มมันออกมา

    ฟางเซียนผลักหน้าต่างออกมาอีกครั้ง

    “โอ๊ยยยย รอบสองแล้วนะเจ้าตัวดี”

    “อะไร ข้าแค่จะออกมาถามว่าเจ้าเป็นใครเท่านั้นเองเห็นมาด่อมๆมองๆอยู่นั้นแหละ”ฟางเซียนถามทั้งๆที่ยืนอยู่บนเก้าอี้เพื่อให้ความสูงของตัวเองพ้นหน้าต่าง

    “เจ้านั้นแหละเป็นใครออกมาจากห้องพ่อบ้านฟู่เดี๋ยวนี้” เขาตะคอกเสียงดัง

    ฟางเซียนตกใจจนเกือบหงายหลังเธอรีบย่อตัวลงนั่งบนเก้าอี้ดีดี หัวใจของเธอหล่นไปอยู่ตาตุ่ม

    “ข้าบอกให้เจ้าออกมาไม่ได้ยินเหรอไง” ชายคนรับใช้ยื่นแขนเข้าไปหมายจะลากฟางเซียนที่กำลังตกใจออกมา




    ฟู่หลงซินที่เสร็จงานในช่วงเช้ากำลังเดินกลับมายังที่พักเพราะเป็นห่วงเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในห้องพัก เสียงตะโกนของผู้ชายกับเสียงร้องของเด็กแววมาเข้าหูเขาทำให้เขาร้อนใจจนต้องออกวิ่ง ฟางเซียนเมื่อวิ่งไปจนเกือบถึงที่พักเขาก็เห็นว่าชายคนรับใช้ที่มีหน้าที่เป็นสารถีให้อ๋องเจ้ากำลังฉุดฟางเซียนผ่านทางหน้าต่าง เด็กน้อยก็ไม่ยอมเอาตัวเองดันกับขอบหน้าต่างไม่ให้อีกฝั่งสามารถลากเธอออกไปได้ท่อนแขนเล็กๆขึ้นสีแดงเป็นปื้นอย่างน่ากลัว

    ฟู่หลงซินที่เห็นเข้าก็เกิดโมโหอย่างหนักตะโกนออกไปเสียงดัง “ปล่อยมือเดี๋ยวนี้” ชายคนรับใช้ที่ได้ยินก็ตกใจปล่อยมือ

    “อ๊ายยย” ฟางเซียนร้องก่อนจะหงายหลังลงไป

    “ฟางเซียน” พ่อบ้านฟู่รีบวิ่งไปเปิดประตูแล้วเข้าไปดูอาการลูกชายบุญธรรม สภาพหงายท้องอยู่ที่พื้นของฟางเซียนทำให้เข้าปรี่เข้าไปพยุงเด็กน้อยขึ้นมา “หัวฟาดไหม”

    “ไม่ครับ” ฟางเซียนตอบก่อนจะจับแขนข้างที่โดนฉุดจนแดงอย่างเจ็บปวด

    ฟู่หลงซินรีบย่อตัวลงมาถลกแขนเสื้อเด็กน้อยขึ้นจนเห็นร้อยแดงเป็นปื้นและรอยมือขนาดใหญ่ของผู้ที่ฉุดบนผิวขาวนวลของฟางเซียน “เจ็บไหม” เขาถามเสียงเบาด้วยความเป็นห่วงจับใจ

    ฟางเซียนพยักหน้า แค่พยักหน้าให้ชายคนรับใช้ก็รู้สึกเหมือนคนชะตาขาดเพราะความเครียดและแรงกดดันมากมายแผ่มาจากทางพ่อบ้านฟู่อย่างมากมายมหาศาล

    “พะ...พ่อ..พ่อบ้านฟู่”น้ำเสียงของชายคนรับใช้สั่นด้วยความกลัว

    พ่อบ้านฟู่อุ้มฟางเซียนขึ้นก่อนจะมาทำหน้าดุใสชายคนรับใช้ที่อยู่นอกที่พักจนเขาขาอ่อนทรุดลงไปกองกับพื้น ฟางเซียนในอ้อมแขนหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความปวดจากท่อนแขน “ไว้ข้าจะกลับมาคิดบัญชีกับเจ้า” ฟู่หลงซินทิ้งท้ายไว้ก่อนจะเดินอุ้มฟางเซียนออกไปจากส่วนที่พักของคนงานด้วยความเร็ว

    ฟางเซียนเงยหน้าขึ้นมามองพ่อบุญธรรมที่กำลังแปลงร่างเป็นยักษ์หน้าดุก่อนจะพูดปลอบใจ “ข้าไม่เจ็บมากเหรอกท่านพ่อ” ถึงจะได้ยินแบบนั้นพ่อบ้านฟู่ก็ไม่ลดความเร็วลงเขาเดินผ่านเหล่าคนรับใช้ชายหญิงที่โค้งคำนับอย่างไม่สนใจดิ่งไปที่ เรือนใหญ่ของอ๋องเจ้า ใบหน้าทะมืนของพ่อบ้านฟู่กำลังทำให้เหล่าคนรับใช้หวาดกลัว



    ภายในเรือนใหญ่ส่วนที่ที่นั่งรับแขกมีหญิงวัยกลางคนกำลังนั่งปักผ้าอยู่อย่างสงบและเรียบร้อย นางช่างงดงามเหมือนภาพวาดอย่างดีงดงามแบบหญิงวัยกลางคนไม่ใช่หญิงสาวแรกรุ่น ด้านข้างมีหญิงรับใช้สามสี่คนนั่งคอยปรนนิบัติบางก็กำลังปักผ้าด้วยเหมือนกัน

    สวนโอ่อ่าและอากาศเย็นสบายของเรือนใหญ่ไม่ได้ทำให้อารมณ์ของพ่อบ้านฟู่เย็นลง “คารวะพระชายาอวี๋หลาน” พระชายาอวี๋หลานที่กำลังปักผ้าด้วยความสงบสะดุ้งสุดตัวเมื่ออยู่ดีดีพ่อบ้านฟู่ก็มาปรากฏตัวอยู่หน้าเรือนพร้อมด้วยเด็กหนึ่งคนในอ้อมแขน

    พระชายาอวี๋หลานลูบอกเรียกขวัญตัวเองสองสามทีก่อนจะพูดออกมา “พ่อบ้านฟู่ข้าบอกว่าให้เรียกข้าว่าฮู่หยินเจ้าก็ไม่ฟัง” น้ำเสียงนิ่งและจังหวะการพูดที่ชวนให้ฟังแล้วสงบใจของพระชายาอวี๋หลานก็ไม่สามารถทำให้อารมณ์ของพ่อบ้านฟู่เย็นลง

    “เรียนพระชายา ข้าอยากจะขอตัวเสี่ยวหลานซักครู่ใหญ่ๆท่านจะมีปัญหาอะไรไหม”

    พระชายาอวี๋หลานถามกลับเสียงเย็นนางวางมือจากการปักผ้าเหล่าหญิงรับใช้ก็เช่นกัน “เจ้ากำลังข่มขู่ข้าพ่อบ้านฟู่”

    พ่อบ้านฟู่เงียบ

    พระชายาอวี๋หลานถอนหายใจในความดึงดันของพ่อบ้านฟู่ อันที่จริงนางไม่มีปัญหาที่ให้ตัวเสี่ยวหลานไปแค่ไม่ชอบใจที่พ่อบ้านฟู่มาพูดจาข่มขู่แบบนี้ หากเป็นท่านใหญ่ตระกูลใหญ่คนอื่นเขาคงถูกลงโทษไปนานแล้ว “เสี่ยวหลานเจ้าไปเถอะ แล้วนั้นพ่อบ้านฟู่ท่านนำใครมาด้วย”

    “บุตรชายบุญธรรมของข้าเองพระชายา” คำตอบของพ่อบ้านฟู่เรียกให้พระชายาอวี๋หลานพินิจเด็กน้อยที่พ่อบ้านฟู่อุ้มเอาไว้อย่างถี่ถ้วน เสี่ยวหลานย่อกายคำนับพระชายาก่อนจะเดินไปหาพ่อบ้านฟู่ด้านนอก

    “ท่านลุง มีอะไรหรือเจ้าค่ะ” เสี่ยวหลานในวัย 19 ถามลุงแท้ๆของตัวอย่างด้วยความสงสัย

    “เจ้ามียาทาแก้ฝกช้ำอยู่หรือไม่” ฟู่หลงซินเข้าเรื่อง

    เสี่ยวหลานนิ่งไปซักพักก่อนจะพยักหน้าออกมา “มีเจ้าค่ะ ทำไมหรือเจ้าค่ะ”

    ฟางเซียนมองพ่อบุญธรรมกับหญิงสาวที่ดูดีสะอาดตาไม่สวยงามแต่ก็ชวนมองคุยกัน เธอกำลังนึกถึงพี่สาวอีกคนที่ท่านพ่อเคยพูดถึง “ท่านพ่อนี่คือพี่สาวที่ท่านบอกข้าอย่างนั้นหรือครับ”

    เสี่ยวหลานแสดงสีหน้าแปลกใจออกมาเมื่อได้ยินฟางเซียนเรียกลุงของตนว่าพ่อ

    ฟู่หลงซินได้ยินแบบนั้นจึงแนะนำทั้งสองให้รู้จักกัน “อืม ฟางเซียนนี่ ฟู่เสี่ยวหลาน เสี่ยวหลานนี่ลูกชายบุญธรรมข้า ฟู่หลงฟางเซียน”

    “ลูกชายหรือท่านลุงทำไมชื่อช่างไพเราะเหมือนของผู้หญิงยิ่ง” เสี่ยวหลานตั้งข้อสังเกต

    ฟางเซียนยิ้ม “ชื่อท่านพี่ก็ไพเราะเช่นกันครับ” เธอรีบหยอดคำหวานก่อนเลย ใบหน้าของเสี่ยวหลานแลดูจะเก้อเขินเล็กน้อย

    “เสี่ยวหลานพาฟางเซียนไปทายาได้ไหม”

    “ทายาตรงไหนที่ช้ำอย่างนั้นหรือท่านลุง”

    ฟู่หลงซินจัดการถลกแขนเสื้อของฟางเซียนขึ้นเสี่ยวหลานที่ได้เห็นใกล้ๆก็หวีดร้องออกมาเบาๆเพราะแขนของเด็กน้อยตอนนี้เขียวช้ำอย่างน่ากลัว เธกยกมือไปแตะเบาๆที่แขนฟางเซียนก่อนจะรีบเอาออกเพราะเสียงโอดโอยของฟางเซียน

    “ท่าทางจะเจ็บมาก”

    “ฝากดูเจ้านี่ทีเสี่ยวหลาน พาไปอาบน้ำอาบท่าหาอะไรกินด้วยข้าจะไปจัดการตัวการ” ฟู่หลงซินปล่อยฟางเซียนลงยืนก่อนจะเดินกลับไปทางเก่าเพื่อคิดบัญชีกับคนที่ทำให้ฟางเซียนเจ็บตัวแบบนี้

    ฟางเซียนมองฟู่หลงซินที่เดินไปด้วยสายตาละห้อยก่อนจะตะโกนออกมา “ท่านพ่อหยิบกาน้ำชาบนโต๊ะมาให้ข้าด้วยได้ไหมครับ” ฟู่หลงซินไม่ได้ตอบรับกลับมาเพราะเดินไปไกลแล้ว

    “เจ้าไปกับข้าก่อนแล้วกัน ถ้าจะทายา” เสี่ยวหลานพูดขึ้นก่อนจะนิ่งไปเมื่อนึกขึ้นได้ เธอเดินกลับไปหาพระชายาอวี๋หลานที่ลงมือปักผ้าอีกรอบ “พระชายาเพคะ”

    “ฮู่หยิน”

    “ฮู่หยินเจ้าค่ะ ข้าอยากจะขอนำเด็กคนนี้เข้าไปส่วนของคนรับใช้หลังเรือนใหญ่เจ้าค่ะ” นอกจากส่วนของคนรับใช้ที่รวมกันแล้ว เสี่ยวหลานกับคนรับใช้อีกสองคนเองก็พักอยู่บนเรือนใหญ่เพื่อดูแลพระชายาอวี๋หลานตลอดเวลา

    พระชายาเหลือบมองฟางเซียนที่ยืนเก้ๆกังๆอยู่คนเดียว ก่อนจะพยักหน้า “เสร็จแล้วพาเด็กคนนี้มาหาข้าด้วย”

    “เจ้าค่ะ” เมื่อได้รับอนุญาตเสี่ยวหลานก็จัดการไปพาตัวฟางเซียนเดินเข้าไปในเรือนใหญ่เพื่ออาบน้ำและทายา

    ตอนนี้ก็ช่วงสายๆของวันแล้ว พระชายาอวี๋หลานเงยหน้ามองแสงแดดด้านนอกก่อนจะหันกลับมาสนใจการปักผ้าต่อให้เสร็จ นางตั้งใจจะปักให้อ๋องเจ้าผู้เป็นสามีที่รักยิ่ง

    เวลาผ่านไปซักพักเล็กๆ ร่างสูงโปร่งของเจ้าเฟยหรงก็กำลังเดินเข้ามายังเรือนใหญ่แห่งนี้ วันนี้เขาสวมชุดลำลองสองชั้นทำจากผ้าเนื้อดีสีฟ้าอ่อนขับให้ผิวขาวๆของเขายิ่งดูขาวมากขึ้นไปอีก ใบหน้างามพร้อมสายตามุ่งมั่นของเฟยหรงจับจ้องมาที่มารดาของตนด้วยความเคารพรัก เขาปล่อยผมสีดำสนิทที่ยาวไปถึงกลางหลังให้สยายล้อมรอบใบหน้า

    “เฟยหรง” พระชายาอวี๋หลานยิ้มแก้มปริวางมือจากฝีมือที่กำลังทำ นางลุกขึ้นยืนแล้วรีบเดินไปหาลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่กำลังเดินมา “ลมอะไรหอบเจ้ามาหาแม่ได้”

    “ท่านแม่พูดเหมือนข้าเป็นลูกอกตัญญูละเลยมารดาไปได้” เฟยหรงประคองมารดาที่เดินมารับตนอย่างทะนุถนอมให้ไปนั่งด้านในด้วยกัน

    พระชายาอวี๋หลานหัวเราะเบาๆเมื่อได้ยิน สองแม่ลูกต่างก็พากันคุยเรื่องสัพเพแหระทั่วไปเหล่าหญิงรับใช้ของพระชายาต่างก็นั่งนิ่งรออย่างเรียบร้อย สายตาของพวกนางเองก็อดที่จะเหลือบมองคุณชายเจ้าไม่ได้

     

     

    ฟางเซียนกำลังยืน ใบ้กินอยู่หน้าอ่างอาบน้ำใบใหญ่ที่พอเธอลงไปปุ๊ป ระดับน้ำมิดจมูกแน่นอน พี่เสี่ยวหลานยืนยันจะอาบน้ำให้เธอเพราะเห็นว่าแขนช้ำไปเป็นแถบ ถึงจะยืนยันว่าอาบเองได้พี่เสี่ยวหลานก็ยังดึงดันจะอาบให้ด้วยน้ำเสียงและท่าทีใจเย็น งานนี้ต้องงัดไม้ตาย

    “พี่เสี่ยวหลาน ข้าขออาบเองได้ไหม ข้าไม่สะดวกใจมากๆที่จะให้ท่านอาบน้ำให้ข้า ที่บ้านข้าเขาถือเรื่องนี้มากร่างกายของข้าจะให้ภรรยาข้าเห็นได้คนเดียวเท่านั้น” ฟางเซียนที่ทนไม่ได้ที่จะต้องถูกคนอื่นอาบน้ำให้ก็จัดการใช้มุกนี้โกหกไปอย่างเนียนๆ

    “ทำไมข้าไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้ เจ้ามาจากที่ไหนฟางเซียน”

    “หุบเขาอาถรรพ์พี่เสี่ยวหลาน ให้ข้าอาบเองเถอะนะขอรับ หรือพี่เสี่ยวหลานอยากจะเป็นภรรยาข้า”

    เสี่ยวหลานจัดการเขกกบาลฟางเซียนไปอย่างหมันเขี้ยว “ตัวก็เล็กแค่นี้เจ้าอายุกี่ขวบกัน ดูพูดจาเข้า”

    ฟางเซียนส่งเสียงโอดโอยอย่างสำออย ก่อนจะทำหน้าละห้อยขอความเห็นใจ “น๊า”

    เสี่ยวหลานเห็นแบบนั้นก็อดใจอ่อนไม่ได้ “ก็ได้ ถ้าเจ็บมากก็เรียกข้า” ที่นางตั้งใจจะอาบให้ก็เพราะเห็นห่วง

    “ค่า  เอ้ย ขอรับคุณพี่สุดสวย” ฟางเซียนตอบรับ เธอยืนมองเสี่ยวหลานเดินออกไปจากห้องอาบน้ำเล็กๆห้องนี้ที่มีอ่างน้ำขนาดใหญ่กว่าตัวเธอ เมื่อเสี่ยวหลานออกไปเสร็จฟางเซียนก็เดินไปสำรวจทุกซอกทุกมุมให้ปลอดภัยดีพอดีจะอาบน้ำได้ ก่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าที่สวมอยู่ให้กลายเป็นผ้าผู้ผมแล้วจัดการผูกผ้าเข้าคาดศีรษะไม่ให้เส้นผมปรกหน้าปรกตา เธอชะโงกตัวไปในอ่างแล้วพละออกมาหาเก้าอี้ตัวเล็กๆเพื่อปีนเข้าไป

    เสียงกระแทกของวัตถุกับน้ำบ่งบอกว่าร่างเล็กของฟางเซียนหล่นลงไปในอ่างเรียบร้อยแล้ว เธอยืนเขย่งเพื่อให้จมูกปากพ้นเหนือน้ำก่อนจะใช้มือข้างที่ไม่ได้โดนฉุดถูตัวให้สะอาด น้ำอุ่นๆทำให้เธอผ่อนคลายจนอยากจะแช่นานนาน แต่พี่เสี่ยวหลานรออยู่ เธอมุดหน้าลงไปในน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา

    ครั้งพอจะออกจากอ่างปัญหาก็เกิด...   จะออกยังไงวะ ??? ทีตอนเข้ามาเข้าได้ที่ตอนจะออกดันลืมคิดหาวิธีไป ทำไงดี ฟางเซียนที่แช่น้ำอยู่ในอ่านหมุนตัวไปมาหาตัวช่วยอยู่นาน

    ผ้าที่ผูกผมนี่ไงหละได้การละ ฟางเซียนผ่อนคลายอารมณ์ว้าวุ่นก่อนจะกำหนดจิตให้ผ้าสีดำปักลายมังกรกลายเป็นกองผ้าสีดำขนาดย่อมๆพอให้เธอปีนออกมาจากอ่างอาบน้ำได้

    ซ่า... เสียงล้นของน้ำดังขึ้นเมื่อฟางเซียนพาตัวเองมาพาดเหนือขอบอ่านได้สำเร็จแต่ขอบอกเลยภาพนี้ไม่ได้น่าดูซักนิด ฉันอยากจะร้องไห้จริงๆ ทันทีที่ปลายเท้าพ้นจากกองผ้าผ้าเหล่านั้นที่กองอยู่ใต้อ่างก็สลายหายกลับเป็นผ้าผูกผมเหมือนเดิม งานนี้เรียกได้ว่าต้องกระโดดลงแล้ว ฟางเซียนไถลตัวลงมาก่อนจะร่วงดังแอ๊ค

    “ฟางเซียนเจ้าเป็นอะไรรึเปล่าข้าจะเข้าไปแล้วนะ”

    เมื่อได้ยินแบบนั้นฟางเซียนก็ไม่มีเวลาโอดโอยให้เสียเรื่อง “อ่า..แป๊ปนะพี่.. ไม่มีอะไรจะออกไปเดี๋ยวนี้ละครับ” เธอดีดตัวขึ้น โขยกแขยกไปคว้าผ้าที่เสี่ยวหลานให้มาคลุมตัวทันเวลาที่เสี่ยวหลานที่เปิดประตูเข้ามาพอดี

    “มา มาแต่งตัวกันดีกว่า” เมื่อเห็นว่าเรียบร้อยเสี่ยวหลานก็พาฟางเซียนออกมาแต่งตัว เธอไปเอาชุดของเด็กชายมาจากฟู่หลงซินที่เดินกลับมาพอดี เสี่ยวหลานช่วงฟางเซียนพลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า เด็กน้อยยืนยันจะใส่เองก่อนเมื่อเสร็จก็ให้เสี่ยวหลานตรวจความเรียบร้อย เสี่ยวหลานแก้วิธีการผูกผ้าคาดเอวให้ฟางเซียนที่ผูกได้หมิ่นเหม่ชวนให้หลุดก่อนจะใช้ผ้าแห้งมาเช็ดผมให้ ชุดเด็กชายสีอ่อนทำให้ผิวพรรณของฟางเซียนดูเด่นขึ้นมา ดีที่ชุดนี้เป็นชุดแขนยาวมันจึงปกปิดรอยช้ำไว้ได้ ฟางเซียนจัดการเปลี่ยนผ้าปักลายมังกรเป็นผ้าพันอยู่ที่แขนข้างที่ไม่เจ็บใต้แขนเสื้อ

    กลิ่นหอมเจือจางลอยมาติดจมูกฟางเซียน “พี่เสี่ยวหลานท่านใช้เครื่องหอมหรือ”

    “เจ้ารู้” เสี่ยวหลานที่พึ่งเริ่มใช้เครื่องหอมบ้างตกใจระคนเขินอาย

    “ถึงจะจางมาก แต่ข้าว่าข้ารู้นะ ท่านจะอายทำไม”

    เสี่ยวหลานมีสีหน้าลำบากใจเล็กน้อยแต่ก็เล่าออกมา “พอดีชายที่ข้าชอบเขาชอบหญิงสาวงดงามที่มีกลิ่นกายหอม แต่ข้าไม่เคยใช้เครื่องหอมมาก่อนเลย เลยรู้สึกเขินอายเล็กน้อยหากจะใช้กลัวเขาดูออก”

    “ใครเหรอ??” สกิลความเผือกกำลังทำงาน

    เสี่ยวหลานหน้าแดงก่ำ “เจ้ายังเด็กจะรู้ไปทำไมกัน”

    “น่าน่า ถ้าข้ารู้ ข้าอาจจะช่วยได้นะ โอ๊ยเบามือหน่อย” เสี่ยวหลานที่ได้ยินก็หมันเขี้ยวฟางเซียนเต็มกำลังจึงเช็ดหัวเด็กน้อยแรงจนหัวโยน “ฮ่ะๆๆ  ใครกันพี่เสี่ยวหลาน”

    เสี่ยวหลานทั้งเขินและอายจึงได้แต่บ่นแก้เก้อ “เจ้าเด็กแก่แดด”

    “คอ ข้า จะ หลุด แหล่ว” ฟางเซียนร้องบอก

    เสี่ยวหลานรู้สึกตัวก่อนจะขอโทษขอโพย “ขอโทษนะ ฟางเซียน เจ้าไม่น่าล้อข้าเลย”

    “คราบๆ ไม่ล้อก็ได้คราบ อยากปรึกษาก็บอกข้านะครับผม”

    เสี่ยวหลานยิ้มอย่างเอ็นดูก่อนจะเดินไปหยิบหวีมาหวีผมให้ฟางเซียนอย่างเบามือ ฟางเซียนที่ถูกจับอาบน้ำและสวมชุดใหม่จนตอนนี้เธอดูเหมือนเด็กชายทั่วไปติดแต่ดวงตาจะกลมโตมากไปหน่อยผิวพรรณเนียนละเอียดขาวอมชมพูอ่อนๆ ริมฝีปากหนาสีชมพูระเรื่อขยับไปมาไม่หยุด จมูกโตของฟางเซียนในตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นเครื่องหน้าชิ้นเดียวที่ทำให้เธอไม่ได้ดูน่ารักหมดจดแต่เธอก็ไม่สนใจ ผมสีดำสั้นของฟางเซียนถูกเลยไปด้านหลังจนหมดให้รูปลักษณ์เหมือนเด็กน้อยที่ถูกจับแต่งเป็นมาเฟียแต่ใส่ชุดเหมือนจอมยุทธ

    โคตรหล่อ ชมตัวเองแป๊ป ฟางเซียนหมุนตัวไปมาอยู่หน้ากระจกบานเล็กที่เสี่ยวหลานพาไปให้ส่อง เหมือนพวกเด็กที่ขึ้นตามปกนิตยาสารเลยอะ หล่อน่ารักอะหือ โตไปสวยแน่นอนฟันธง  

    “พี่เสี่ยวหลานข้าหล่อไหม” ฟางเซียนถามเพิ่มความมั่นใจ

    “มาทายาก่อน เจ้าเด็กแก่แดด” เสี่ยวหลานตัดบท

    ฟางเซียนหน้ายู่ลงก่อนจะเดินมาให้เสี่ยวหลานทายาแต่โดยดี เด็กน้อยปีนขึ้นไปนั่งบนเตียง ห้องนี้เป็นห้องของพี่เสี่ยวหลานที่ดูจะมีเครื่องเรือนมากกว่าของท่านพ่อและดูอบอุ่นกว่า เสี่ยวหลานจัดการหยิบตลับขี้ผึ้งขึ้นมาฟางเซียนก็ถลกแขนเสื้ออย่างรู้งาน ก่อนเสี่ยวหลานจะป้ายขี้ผึ้งลงไปอย่างเบามือ แม้จะรู้สึกปวดแต่คราวนี้ฟางเซียนก็ไม่ได้โอดโอยอะไรให้มากความ เธอกัดฟันทน ดูเหมือนรอยเขียวจะน่ากลัวขึ้นจากการหล่นของเธอในห้องอาบน้ำเมื่อกี้

    “เสร็จแล้ว ฟางเซียนเจ้าต้องมาให้ข้าทายาบ่อยๆจนกว่าจะหายนะเข้าใจไหม” เสี่ยวหลานย้ำเพราะดูท่าทางลุงของเธอจะห่วงฟางเซียนมาก

    “วางใจได้เลยข้าจะมาให้พี่เสี่ยวหลานเห็นหน้าทุกวันเลย” ฟางเซียนส่งยิ้มให้ก่อนจะลงจากเตียงมายืนรอเสี่ยวหลานเก็บของ

    เสี่ยวหลานเดินกลับมาหลังจากเก็บของพร้อมกาน้ำชาใบหนึ่ง “เอานี้ของเจ้าท่านลุงเอามาให้”

    ฟางเซียนรีบรับกาน้ำชามาเปิดดู “หนอนน้อยย ข้าลืมเจ้าไปเลย พี่เสี่ยวหลานท่านเห็นตะกร้าที่มีดอกเก็กฮวยเยอะๆไหม”

    เสี่ยวหลานคิดอยู่ซักพักก็นึกได้ “ที่ห้องเครื่อง”

    “อ๋า ข้าต้องรีบไปเอาก่อนจะโดนแย่งไป” ฟางเซียนตั้งท่าจะวิ่งออกไป เสี่ยวหลานจึงคว้าแขนเอาข้างที่กำลังระบบอย่างที่สุด “โอ๊ยยย”

    “ขอโทษเจ้า” เสี่ยวหลานรีบปล่อยมือออก “ค่อยๆเดินเถอะ เดี๋ยวข้าจะพาไป”

    ทั้งสองเดินออกมาจากห้องพักของเสี่ยวหลานในเรือนใหญ่ฟางเซียนหอบกาน้ำชาออกมาด้วย

    “ไปเข้าเฝ้าพระชายาก่อนนะฟางเซียน” เสี่ยวหลานบอกฟางเซียนที่กำลังเงยหน้ามองซ้ายมองขวาชมความงดงามของเรือนใหญ่แห่งนี้

    ทั้งสองเดินออกไปยังส่วนรับรองที่พระชายาอวี๋หลานกำลังคุยอยู่กับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอย่างเฟยหรง ทันทีที่เห็นร่างของเฟยหรงร่างเล็กก็หยุดเดินฉับพลัน ดวงตาของเธอนิ่งสนิทดูไร้อารมณ์ขึ้นมาทันที เจอกันครั้งแรกก็มีเรื่อง รอบนี้ควรจะเจอดีไหมเนี๊ยแต่เสี่ยวหลานที่เดินนำก็ไม่ได้หยุดตาม

    “อ้าว เสี่ยวหลาน เจ้ามาก็ดีแล้วช่วยไปเอาชุดที่ข้าเคยซื้อมาไว้ให้เฟยหรงมาให้ข้าที” ทันทีที่พระชายาอวี๋หลานเห็นเสี่ยวหลานก็มีเรื่องจะใช้งานทันที

    “เพคะ” เสี่ยวหลานผละออกไปแล้วทิ้งสายตาลุแก่โทษให้แก่ฟางเซียนที่ถูกทิ้งเคว้ง ไม่รู้เพราะว่าเธอตัวเล็ก หรือว่าไม่มีใครสนใจจะมองเธอเลยไม่ได้รับการสนใจ ซึ่งมันก็ดี เธอมองหาทางออกทางอื่นนอกจากทางที่เฟยหรงกำลังนั่งอยู่ และมันไม่มี ฟางเซียนไม่กล้าขยับไปไหนท่านพ่อของเธอก็ไม่อยู่

    ........ สองแม่ลูกยังคงสนทนาอย่างมีความสุข

    .... พวกเขายังคงมีความสุข เสี่ยวหลานกลับมาซักทีเถอะข้าขอร้องงง

    .. เอาไงเอากัน

    ฟางเซียนที่ทนยืนนิ่งไม่ไหวอีกแล้ว เธอก้าวขาจะเดินถอยหลังกลับไปตั้งหลักก่อน

    “ฟางเซียน” น้ำเสียงที่คุ้นเคยได้ยินทีไรมีเรื่องทุกที

    “...” ทุกคนหยุดการพูดคุย

    “ฟู่หลง ฟางเซียน”

    “...” ทุกคนมองหน้ากันไปมายกเว้นเฟยหรง

    “เจ้าจะเดินมาดีดี หรือให้ข้าลากมา”

    ฟางเซียนเบะปากลง “เฮอะ ข้าเป็นคนนะไม่ใช่กระสอบเอะอะก็แบกเอะอะก็ลาก ประทานโทษเถอะคุณชายย อุ๊ย!” ฟางเซียนหยุดบ่นเมื่อเห็นสายตาเขียวปัดของพระชายาที่มองมาอย่างดุดัน อะไรฟร่ะ!

    “เฟยหรง เจ้ารู้จักเด็กคนนี้ได้อย่างไร แล้วเจ้า กิริยามรรยาทใช้ไม่ได้เป็นเด็กเป็นเล็กทำไมไม่หัดเชื่อฟังผู้ใหญ่เป็นคนใช้ก็ต้องเชื่อฟังเจ้านาย” น้ำเสียงของพระชายาดุฟางเซียนอย่างชัดเจน

    ทำไมต้องโดนดุด้วยอะ เห็นไหมบอกแล้วเจอกันทีไรมีเรื่องทุกที เฟยหรง ฉันจะแบนนายเอาไว้เลย “ขอรับ” เธอตอบเสียงอ่อยแต่ก็ไม่เดินเข้าไป ตอนนี้สายตาทุกคู่มองมาที่เธอยกเว้นเฟยหรงที่หันหลังให้

    “เดินมานี่” เฟยหรงสั่งโดยที่ไม่หันมามอง

    ฟางเซียนจำใจเดินไปอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเดินไปด้านหน้าพระชายา คุณชายเจ้า เธอก็จัดการค่อยๆย่อตัวลงนั่งท่าเทพธิดาโดยไม่ใช้แขนข้างที่เจ็บช่วยแล้ววางกาน้ำชาไว้บนตัก

    ฟางเซียนจิกตาไปมองเฟยหรงก่อนจะต้องรีบหันกลับมา นี่จะยิ้มทำไมเห้ย มีความสุขที่ได้รังแกเด็กหรือไง เธอเลือกที่จะมองไปยังพระชายายังจะดีกว่าเฟยหรงซะอีก

    “ฟู่หลงฟางเซียน ลูกของพ่อบ้านฟู่ขอรับท่านแม่ เด็กคนนี้ต่อเป็นจะเป็นคนใช้ข้างตัวลูก”

    ไอคนแบบนายนี่มันอารัยยยยยยยยยยยยกัน!!!  

    ฟางเซียนตาโตอ้าปากค้าง เฟยหรงที่มองอยู่ยิ้มออกมาอย่างมีความสุขและสะใจที่ได้เอาคืนบ้าง

    “ปฏิเส..”

    ยังไม่ทันที่จะได้พูดจบเจ้าเฟยหรงก็แทรก “เจ้าไม่มีสิทธิ์”

    ซึ้งค่ะซึ้ง ซึ้งสุดใจเลย ขอใช้แฮชแทค #ซ๊อคกว่านี่มีอีกไหม

    “แล้วต่อไปนี่เจ้าต้องไปพักที่เรือนข้า” เฟยหรงพูดเนิบนาบอย่างนุ่มนวลจนฟางเซียนตัวสั่น

    นั้นพี่ท่านจัดมาให้ด้วย ท่านพ่อเจ้าขารีบมาช่วยก่อนที่ลูกพ่อจะได้เตะปากคน

    “เห็นทีข้าจะยอมให้ลูกชายข้าไปอยู่กับท่านไม่ได้คุณชาย” ฟู่หลงซินที่เดินเข้ามาพูดขึ้นอย่างนิ่มนวล พระชายาอวี๋หลานที่ไม่เห็นด้วยก็รีบสมทบ

    “เจ้าอย่าแยกเด็กคนนี้ออกจากพ่อบ้านฟู่เลยเฟยหรง เจ้าเองก็มีคนรับใกล้ชิดแล้วยังจะอยากได้เพิ่มอีกหรือ”

    ขอบพระคุณท่านพ่อและคุณหญิงป้ามากครับผม ฟางเซียนยิ้มออกมาอย่างยินดี

    เจ้าเฟยหรงนั่งหลับตานิ่งก่อนจะพูดออกมาอย่างแน่วแน่ “ข้าตัดสินใจแล้วข้าจะให้เขามารับใช้ข้า แต่ ข้าจะปล่อยให้เขาอยู่กับพ่อบ้านฟู่เหมือนเดิม”

    “ขอบคุณคุณชายเจ้า”พ่อบ้านฟู่ถอนหายใจอย่างน้อยฟางเซียนก็ยังอยู่กับเขา

    “พระชายาเพคะ เสี่ยวหลานได้ชุดมาแล้วเพคะ” เสี่ยวหลานที่หายไปนานกลับมาพร้อมห่อผ้าขนาดใหญ่ในมือ

    ขอให้ข้าได้ใช้ชีวิตแบบเด็กแปดขวบเถอะ ฟางเซียนกรีดร้องในใจ

    สองแม่แม่ลูกก็กลับไปสนทนากันอย่างเปี่ยมสุข ก่อนพระชายาจะหันมาไล่ฟางเซียนออกไปหาพ่อบ้านฟู่ที่มายืนกดดัน

    ฟางเซียนรีบคำนับแล้ววิ่งออกไปกอดที่พึ่งเดียวที่เธอมีพร้อมกาน้ำชา

    เฟยหรงที่ลอบมองยิ้มบางอย่างมีแผนการ สวมเสื้อผ้าทำผมแบบนี้ค่อยดูเหมือนเด็กผู้ชายขึ้นมาหน่อย น่ารักดีความคิดสุดท้ายที่แล่นเข้ามาทำเอาลมหายใจสะดุดก่อนจะหันกลับมาสนใจในสิ่งที่มารดาเตรียมไว้ แต่เสียงเจื้อยแจ้วของฟางเซียนที่ดังเข้ามาแม้ว่าจะโดนฟู่หลงซินอุ้มออกไปแล้วทำให้เขาต้องหันกลับไปมองอีกรอบ ภาพที่ฟางเซียนถูกฟู่หลงซินหอมแก้มแล้วเด็กน้อยหัวเราะร่ามันทำให้เขาปวดหนึบในใจและเมื่อแขนเสื้อข้างหนึ่งของฟางเซียนร่นลงมาจากการยกแขนขึ้น รอยช้ำเขียวน่ากลัวก็ปรากฏให้เห็น

    “เฟยหรง เฟยหรงลูก” พระชายาอวี๋หลานเรียกลูกชายที่กำลังมองออกไปข้างนอกอย่างลังเล เพราะตอนนี้ใบหน้าของเฟยหรงนั้นมองดูน่ากลัว สาวใช้หลายคนก็มีท่าทีอึดอัดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด




    ___________________________________________________________________________________________________________
    ยังไม่ได้ edit แต่อย่างใดนะคะ
    มาตอบคอมเม้นกันเถอะ เย้ >_<

     

    เมมฟิส  (จากตอนที่ 10)
    วันที่ 20 มกราคม 2558 / 10:33
    ไรท์จ๋าเรื่องนี้ไม่เอาดราม่า ไม่เอาเศร้าๆ ไม่เัาอวร้ายชนะตลอด ตัวร้ายมีแผนที่เหนือกว่าตลอด ฟางเซียนและพวกต้องหลุมพรางไม่รู้เท่าทันตัวร้าย ไม่เอาแบบนั้นน่ะค่ะไรท์คนดี รีดเดอร์ขอร้องงงงงง... รีดเดอร์เกลียดนิยายแนวแบบนั้นมากๆ

    >>>> เรื่องแผนการนี่มันต้องมีบ้างคะ แต่ไรท์เองก็ไม่ได้คิดไว้ขนาดลึกลับซับซ้อน หรือมันซับซ้อน? ส่วนตัวร้ายชนะนี่บอกตามตรงไรท์ก็ไม่ค่อยอินนะคะ 555 ชอบแบบต่างคนต่างมีเหตุผลของตัวเองมากกว่า ส่วนดราม่านี่คิดว่าตัวเองไม่ถนัดอาจจะมีไม่เยอะคะ แต่ถ้าถนัดเมื่อไหร่อาจจะมีหนักๆมาให้ชมกันก็ได้นะคะ (เรื่องนี้เป็นเรื่องย๊าวยาวเรื่องแรกเรียกได้ว่าพยามพัฒนาไปพร้อมคอมเม้นที่มีให้กันเลยทีเดียว)


     

    เมมฟิส  (จากตอนที่ 10)
    วันที่ 20 มกราคม 2558 / 10:25
    อ่านตอนนี้แล้วขำมากๆ ฟางเซียนเจ๋งสุด ๆ เล่นเอาหนุ่มๆ อึ้ง เสียเซลไปเลย โดยเฉพาะจิ้นเค่อดูแล้วแพ้ทางฟางเซียน เหมยฮวารักเฟยหลง แล้วเฟยหลงรักเหมยฮวารึเปล่า อยากให้เฟยหลงคือหงหยู (คือพระเอก) และต่อไปหลังฟู่หลงซินตายแล้วอยากให้ฟางเซียนออกจากตระกูลเจ้า ไม่เป็นข้ารับใช้อีก และมีอะไรก็ได้ทำให้ฐานะของฟางเซีบนสูงขึ้น แม่ของเฟยหลงจะได้ไม่รังเกียจหรือขัดขวางไม่ได้ถ้าเฟยหลงรักฟางเซียน

    >>>> ขอบคุณมากเลยค่า เฟยหรงรักเหมยฮว่ารึเปล่าต้องมาหาคำตอบไปพร้อมกันค่ะ ส่วนความรักระหว่างเฟยหรงกับฟางเซียนเนี๊ยย พูดยากจริงๆคะ ดูจากตอนแรกที่เจอกันแล้วมีแต่เรื่องฮ่ะๆๆ 

     

    itself (@penumbra)   (จากตอนที่ 10)
    วันที่ 19 มกราคม 2558 / 21:57
    555+

    น่าสงสารเฟยหลงกับจิ้นเค่อ





    สุ้ๆน่ะค่ะ

    >>>> จิ้นเค่อพยามเมพแต่เมพไม่ขึ้น 5555

     

    ทิคกี้เรียลลี่ (@-kan)   (จากตอนที่ 10)
    วันที่ 19 มกราคม 2558 / 21:31
    อ่านไปขำไปค่ะ55555555555555

    >>>> ยินดีมากเลยคะ :))))


     

    วันที่ 19 มกราคม 2558 / 20:46
    ฟางเซียนไม่กินเด็ก เอ้ะ หรือว่าจะกินกันนะ

    >>>> ตอนนี้ฟางเซียนตัวเล็กกว่านะค่ะกินได้ เกี่ยวไหมไม่รู้ 5555


     

    uranus28 (@sweetpeacm)   (จากตอนที่ 10)
    วันที่ 19 มกราคม 2558 / 19:43
    รีบๆมานะคะรอๆๆคะกำลังสนุกเลยฟินฟุดๆ

    >>>> มามาหายๆตามช่วงว่างงาน (ส่วนใหญ่ไม่ว่างแต่อยากมาปั่นแง) ยังไงก็ช่วยติดตามด้วยนะคะ

     

    Dark Girls (@crazy-girls)   (จากตอนที่ 10)
    วันที่ 19 มกราคม 2558 / 18:39
    ฮาาาา สงสารผู้ชายในเรื่องจริงๆ นางไม่เเคร์สื่อเลยจริงๆ

    >>>> ข่มไม่อยู่เลยจริงๆ กับฟางเซียน นี่เฟยหรงยังไม่เอาจริงนะคะเห็นว่ายังเป็นเด็ก ต้องครอบสปอย์ไหมเนี๊ย 5555

     

    ไจแอนท์คุง  (จากตอนที่ 10)
    วันที่ 19 มกราคม 2558 / 17:31
    ไรท์เตอร์ค๊าาา..แล้วซูซูชื่อจริงชื่ออะไรคะ??

    >>>> ไปลี่ถูซู นักแสดงชื่อว่า หลีอี้เฟิงคร่า  !! ไรท์ตอบถูกเรื่องใช่ไหม แนะนำให้ไปติดตามค่ะมีแฟนเฟจ (ไม่ได้ค่านายหน้านะจุฟๆ) 
    อยากจิบอกด้วยความฟินว่า ศิษย์พี่ศิษย์น้องและท่านอาจารย์มีละครร่วมกันอีกแร้นนนนน!!! 
    ขอบคุณที่ติดตามนะคะ <3


     

    ไจแอนท์คุง  (จากตอนที่ 7)
    วันที่ 19 มกราคม 2558 / 16:40

     

    ท่านเทพหล่อมากกกกกกกกกกก

    >>>> สนใจที่อยู่ท่านเทพสายลมไหมคะ 55555
    1964 (@leng1964)   (จากตอนที่ 10)
    วันที่ 19 มกราคม 2558 / 13:25
    ฮิๆๆ หล่อๆ สวยๆ ทั้งนั้น แล้วฟางเซียนละจะสวยแบบไหนกัน รอติตามอยู่ค่ะ

    >>>> ขอบคุณค่า ระดับรัชทายาทและผองเพื่อนแล้วต้องคัดหน้าตาค่ะ #ผิด

     

    tainies (@tainies)   (จากตอนที่ 10)
    วันที่ 19 มกราคม 2558 / 11:08
    เจอเพื่อนไหมเลย เจ้าหญิงน้อน

    >>>> ฮ่าาาา  มาตามพี่หญิงกลับบ้านได้เพื่อนใหม่แทนเลย หลิงหลิง เป็นแค่ท่านหญิงนะค่ะ 

     

    knowing  (จากตอนที่ 10)
    วันที่ 19 มกราคม 2558 / 03:12
    นางเอกเราแปลกดีชอบบบ รอตอนต่อไปอยู่นะไนท์รีบๆมาต่อน้าาาาา

    >>>> เป็นคำชมที่ยินดีรับไว้อย่างยิ่งเลยคะ :D
    สู้ๆไรท์เตอร์  (จากตอนที่ 10)
    วันที่ 19 มกราคม 2558 / 01:35

    เราว่าองค์หญิงหลินหลิน ก็น่ารักดีนะ

    ดูจะเข่ากับฟางเซียนได้ดี

    >>>> ไรท์ก็ว่าอย่างนั้นค่ะ 


    _______________________________________________________________________________

    แปะรูปใครดีหนอ 
    เอาเป็นเสี่ยวหลานแล้วกันเน้อ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×