ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {exo fiction} ' เนื้อคู่ ' l sehun x luhan {hunhan}

    ลำดับตอนที่ #2 : ด้ า ย แ ด ง เ ส้ น ที่ ส อ ง l การสารภาพรักของชายชานม

    • อัปเดตล่าสุด 11 เม.ย. 57








    l เนื้อคู่ ด้ายเส้นที่สอง

    กับการสารภาพรักของชายขายชานม


     
     
     





    Sehun Part ♥


    .
     
    .
     
    .
     
    .
     
     
     
    “ลู่ฮาน...ผมมีอะไรจะบอก...”








     
     
    “หืม? ...”







     
     
     
    “ผมรักฮยองนะ ฮยองของผม ♥ ...”
     
     
     
    .
     
    .
     
    .
     
    .
     
     
     
    อยากบอกให้เธอได้รับรู้ถึงความรู้สึกของฉัน
     
    ด้วยน้ำเสียงราวกับแสงตะเกียงนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
     
    ไม่ว่าจะเป็นวันที่สายฝนโปรยปรายหรือ
     
    และวันที่อากาศสดใส...
     
    ไม่ว่าวันนั้นเธอจะกำลังโศกเศร้า
     
    หรือในอีกสิบปีข้างหน้า...จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง...
     
    ฉันจะบอกรักเธอวันละครั้งเรื่อยไป...
     
     




     
    “เซฮุน! เราเอาลาเต้แมคเคียโต้แก้วนึงนะ..” 







     
     
     
    น้ำเสียงหวานใสที่ไม่ว่าฟังกี่ครั้งก็รู้สึกกระชุ่มกระชวยดังขึ้นตรงหน้า ผมรีบเงยหน้าขึ้นจากเครื่องชงกาแฟก่อนจะคลี่ยิ้มให้กับเจ้าของเสียงนั้นทันที...ลู่ฮานยืนเท้าแขนทั้งสองข้างกับเคานท์เตอร์และกำลังยิ้มให้กับผมเช่นกัน รอยยิ้มของเขาทำให้ความเหน็ดเหนื่อยตลอดทั้งวันของผมหายไปในพริบตา...แฟนของผมนี่ช่างรักจริงๆเลย...








     
     
    ใช่แล้วครับ...ตอนนี้ผมกับนางฟ้าผู้แสนน่ารักของผมได้ตกลงเป็นแฟนกันเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ผมไปส่งเขาที่บ้านวันนั้น ทำให้ผมรู้ว่าเราสองคนใจตรงกัน....แบบนี้เขาเรียกว่าพรหมลิขิตสินะ เอ๊ะ!! หรือจะเรียกว่าโชคชะตาละเนี่ย...ไม่ว่ามันจะเรียกว่าอะไรก็ตาม แต่ผมก็อยากจะขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้ผมได้พบกับเขา ขอบคุณที่ทำให้เรารู้สึกแบบเดียวกัน...
     









     
    ตอนนี้ผมไม่ต้องคอยระวังว่าลู่ฮานจะรู้ว่าผมแอบมองเขาอยู่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เพราะนอกจากผมจะสามารถนั่งมองเขาได้ทั้งวันโดยที่ไม่มีใครกล้าว่าแล้ว เจ้าตัวยังมายืนเกาะขอบเคานท์เตอร์ให้ผมได้นั่งมองใบหน้าแสนน่ารักใกล้ๆอีกด้วย...มีอย่างเดียวที่ผมต้องระวังก็คงไม่พ้นเสียงกระทบเสียดสีจากคนขี้อิจฉาอย่างคิมจงอิน...










     
     
    “ตั้งแต่ได้กัน..เอ๊ย!! เป็นแฟนกันเนี่ย...ไม่เห็นหัวพ่อสื่อสุดหล่อคนนี้เลยนะคร้าบ..” เสียงกวนประสาทของคิมจงอินดังลอยมาจากอีกฝั่งนึงของเคานท์เตอร์ทำเอาผมถึงกับเซ็งที่ถูกขัดจังหวะแบบซึ่งๆหน้าแบบนี้....คงเป็นเพราะลู่ฮานเลือกที่จะเดินมาสั่งกาแฟกับผมเลย แทนที่จะสั่งกับแคชเชียร์อย่างจงอินเหมือนเมื่อก่อน...
     











     
    “ก็เราเห็นจงอินกำลังจีบลูกค้าคนเมื่อกี้อยู่ไงเลยไม่อยากไปกวน...แต่ว่าเราจะไปบอกคยองซูว่านายนอกใจ...” ยังไม่ทันที่ผมจะย้อนไป ร่างบางตรงหน้าผมก็พูดขึ้นมาซะก่อน เล่นเอาจงอินถึงหน้าเสียไปเลย...ยกนี้นางฟ้าของผมชนะแบบใสๆ...













     
     
    “ร้ายกาจมาก!!! แค่แซวเล่นหน่อยเดียวเอง...ผมแค่แนะนำเมนูให้ลูกค้าเฉยๆ ไม่ได้หม้อซะหน่อย เพราะงั้นอย่าบอกคยองซูเลยนะคร้าบ สงสารผมเถิด...เดี๋ยวกาแฟวันนี้ผมเลี้ยงก็ได้...” ผมถึงกับหลุดหัวเราะออกมากับท่าทางกลัวแฟนของผู้ชายตัวใหญ่อย่างคิมจงอิน ไหนจะท่าทางหูลู่หางตกแบบนั้นอีก...ถ้าไม่เป็นเพราะลู่ฮานกับคยองซูแฟนของจงอินเรียนอยู่ห้องเดียวแล้วบังเอิญสนิทกันด้วยละก็ ผมคงไม่ได้เห็นลู่ฮานกล้าขู่เจ้าเพื่อนตัวแสบและเห็นคนขี้เก็กมาดหลุดแบบนี้...
     













     
    “ไม่บอกก็ได้ แต่ห้ามแกล้งเซฮุนอีกนะ...เรารู้นะว่าจงอินชอบแกล้งเซฮุน...” ปกติที่น่ารักอยู่แล้ว แต่พอเจ้าตัวทำแก้มพองพร้อมกับทำตาดุจ้องมองแบบเคืองๆแบบนี้ยิ่งน่ารักไปกันใหญ่ จนผมอยากจะดึงเข้ามากอดแน่นๆแล้วฟัดให้หายหมั้นเขี้ยว...แต่ก็ทำได้แค่คิดเพราะนอกจากเราจะยังอยู่ในร้านกาแฟแล้วลูกค้ายังแน่นเต็มร้านอีกด้วย...มันคงไม่เหมาะเท่าไหร่...
     












     
    “เล่นพวกนี่หว่า...ขี้โกงชะมัด โอเซฮุน..”
     










     
    “จงอินก็ให้คยองซูมาทำงานที่นี่ด้วยกันสิ...จะได้ไม่ต้องอิจฉาเรากับเซฮุน...” แล้วคิมจงอินก็โดนหมัดฮุคจากลู่ฮานผู้น่ารักเข้าอีกดอกจนต้องยอมสงบปากสงบคำทำงานไปเงียบๆต่อไป เพราะถ้าขืนแหกปากแซวคงไม่พ้นโดนนางฟ้าของผมสวนกลับให้เจ็บใจเล่นอีก...
     













     
    วันนี้ลูกค้าแน่นร้านสมกับที่เป็นช่วงบ่ายของวันเสาร์ ช่วงเวลาที่ใครหลายๆคนเลือกที่จะมานั่งหลบแดดในร้านกาแฟแบบนี้....แต่ถึงอย่างนั้นงานในร้านก็ไม่ค่อยวุ่นวายมากเท่าไหร่ คงเป็นเพราะหลังจากได้รับกาแฟกับของว่างแล้วลูกค้าส่วนมากก็เข้าสู่โลกส่วนตัวของตนทันที ทำให้ผมมีพักเวลาคุยเล่นกับนางฟ้าของผมนานกว่าปกติ....









     
     
    “อร่อยมั้ย?” ผมแกล้งแซวร่างบางคนตรงหน้าเล่น หลังจากที่เจ้าตัวจิบกาแฟแก้วโปรดไปจนเหลือครึ่งแก้วแล้ว...













     
     
    หลังจากที่เราตกลงเป็นแฟนกันลู่ฮานสารภาพว่า’ติดใจ’กาแฟที่ผมชงเลยมาบ่อยๆ จนกระทั่ง’ตกหลุมรัก’ผมก็เลยแวะมาที่นี่ทุกวันเพราะอยากจะเห็นหน้าผม ในตอนนั้นผมเก็บอาการดีใจเอาไม่อยู่จนดึงร่างบางเข้ามากอดแน่นๆ....ถึงตอนนี้เราจะเป็นแฟนกันแล้ว แต่ว่าลู่ฮานก็ยังแวะเวียนมาที่นี่ทุกวันไม่ต่างจากเมื่อก่อน แถมยังบางครั้งยังช่วยงานในตอนลูกค้าแน่นร้านจนทำงานกันไม่ทันอีกด้วย...













     
     
    “อื้ม!! กะ..ก็อร่อยเหมือนทุกทีนะ..” พวงแก้มเนียนใสแดงระเรื่อขณะที่เจ้าตัวอ้อมแอ้มก้มหน้าก้มตาตอบออกมาเบาๆ...นางฟ้าของผมน่ารักมากซะจนผมอยากจะหอมแก้มโชว์กลางร้านจริงๆ...











     
     
    มันอาจจะเป็นแค่ประโยคธรรมดาประโยคหนึ่งเท่านั้น...แต่มีเพียงผมและลู่ฮานเท่านั้นที่รู้กันสองคนว่าคำว่า ‘อร่อย’ของเราไม่ต่างจากคำว่า’รัก’เลย...
     













     
    “ฮยอง...ผมมีอะไรจะบอก...”







     
     
    “อะไรเหรอ?”











     
     
    “ผมรักฮยองนะครับ..”
     
     
     
    .
     
    .
     
    .
     
    .
     
     
     
    ไม่ว่าจะเป็นรุ่งเช้าของวันใหม่หรือจะยามค่ำคืน
     
    ไม่ว่าจะเป็นในความฝัน...ฉันก็จะคิดถึงเธอ...
     
    ในเวลาที่เราไม่ได้เจอกัน ก็อยากจะทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจ...
     
    เพราะงั้นฉันจะบอกรักเธอทุกวันนะ...









     
     
     
    “เซฮุน!! รอนานมั้ย?” 










     
     
    ระหว่างที่ผมกำลังยืนรอพี่ลู่ฮานอยู่พลางคิดอะไรเพลินๆ ก็เห็นคนที่กำลังอยู่ในความคิดวิ่งเข้ามาหาพอดี...ร่างบางในเครื่องแบบแสนคุ้นตาวิ่งมาพร้อมกับกระเป๋าเป้ใบใหญ่พลางโบกไม้โบกมือเรียกผมด้วยท่าทางสดใสตามแบบฉบับของเจ้าตัว...ผมก้าวเดินใกล้เข้าไปเพื่อให้ย่นระยะห่างของเรา รอยยิ้มของลู่ฮานยังน่ารักสดใสไม่ต่างจากครั้งแรกที่ผมได้เห็น....
     










     
    “ขอโทษนะ...อาจารย์ให้เราช่วยจัดเอกสารตั้งเยอะก็เลยเสร็จช้า...” ร่างบางยิ้มบางๆเจือไปความรู้สึกผิดทำเอาผมต้องรีบปลอบ...
     










     
    “ไม่เป็นไรหรอกครับ...ผมเพิ่งถึงเมื่อกี้เอง...” ถึงผมจะยืนรอมานานสักพักแล้วไม่ใช่อย่างที่พูดปลอบไปเมื่อกี้ แต่ผมก็ไม่มีทางโกรธเขาลง...
     











     
    ร่างบางยืนหอบหายใจแขนเรียวสองข้างเท้ายันกับหัวเข่าของตนเอง ดวงหน้าหวานแดงก่ำจากการวิ่งออกกำลังท่ามกลางแสงแดดแสนร้อนแรง....ถึงเจ้าตัวจะเหนื่อยหอบยังไงแต่ก็ยังคลี่ยิ้มน่ารักให้กับผม รอยยิ้มแสนสดใสที่แม้แต่แสงแดดยามบ่ายแบบนี้ยังเทียบไม่ติด... 















     
     
    ผมใช้ผ้าเช็ดหน้าของตัวเองค่อยๆซับเม็ดเหงื่อออกจากดวงหน้าหวานอย่างเบามือ เพราะกลัวจะทำให้ลู่ฮานต้องเจ็บ...ถึงเราจะเป็นแฟนกันแล้วแต่ก็ต้องยอมเลยว่าผมทั้งเขินทั้งประหม่าที่เห็นดวงตากลมโตใสแป๋วของเขาจ้องหน้าอยู่แบบนี้... เสียงหวานใสกับรอยยิ้มหวานเชื่อมที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ทำให้ผมรู้สึกละลายราวกับถ้วยไอศกรีมตั้งอยู่กลางแดดได้เกือบทุกครั้ง...













     
     
    “ขอบคุณนะ...” 
     











     
    “ไปไหนกันดี? วันนี้ผมว่าง...” หลังจากลู่ฮานยืนพักจนหายเหนื่อยแล้ว ผมก็ฉวยโอกาสจับมือของเขาพร้อมกับพาเดินออกไปจากโรงเรียนทันที...














     
     
    วันนี้เป็นวันหยุดที่ผมไม่ต้องไปทำงานที่ร้านกาแฟ ผมเลยถือโอกาสมารับนางฟ้าของผมที่หน้าโรงเรียนอย่างที่อยากทำมานาน....เห็นนักเรียนหลายคนเดินผ่านไปมามองมายังเราสองคนพร้อมกับซุบซิบกัน ก็พอจะเดาได้ไม่ยากว่าคนพวกนั้นกำลังพูดถึงผมกับร่างบางคนนี้อยู่....ผมไม่ลังเลที่จะโอบไหล่บางของคนข้างๆป่าวประกาศให้รู้กันไปเลยว่าคนน่ารักคนนี้มีเจ้าของแล้วนะครับ...















     
     
    “แล้วแต่เซฮุนเลย เราไปไหนก็ได้...เอ๊ะ!!! ชุดนักเรียน!!!” คงเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นผมใส่ชุดนักเรียนเพราะปกติเห็นแต่เครื่องแบบพนักงานของร้านกาแฟ เจ้าตัวถึงได้ตกใจจนทำตาโตแบบนั้น...ดวงตาใสแป๋วที่ว่าโตอยู่แล้วเบิกกว้างกว่าปกติ ลู่ฮานถอยห่างออกไปเล็กน้อยพลางไล่สายตามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า...ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูของเขาทำเอาผมถึงกับหลุดหัวเราะออกมา...
     

















     
    “หล่อมั้ย?”
















     
     
    “หล่อมากๆเลย..” ร่างบางพยักหน้ารับหลายครั้งจนผมยุ่งหลังจากที่เจ้าตัวชื่นชมผมในชุดนักเรียนและถ่ายรูปเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึกจนพอใจ...




















     
     
    “ฮยองก็น่ารัก...” ผมโน้มหน้าเข้าใกล้ดวงหน้าหวานพลางกระซิบประโยคที่ผมอยากจะบอกเขาตั้งแต่วันที่เจอกัน ก่อนจะขโมยหอมพวงแก้มใสเบาๆ...













     
     
    แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมหอมแก้มเขาในที่สาธารณะอย่างริมถนนแบบนี้ แต่ร่างบางตรงหน้ามักจะเขินจนหน้าแดงและยืนทำอะไรไม่ถูกเหมือนกับถูกแช่แข็งทุกครั้ง แม้แต่ตอนที่อยู่ด้วยกันสองคนก็ตาม...
     















     
    “แล้วเราจะไปไหนกันดี?...ดูหนังกันมั้ยครับ?”
     












     
    “ไปไหนก็ได้...แค่ได้อยู่ด้วยกันก็พอแล้ว...”
     













     
    “ฮยอง...เซฮุนรักฮยองนะครับ...”
     














     
    “รู้แล้ว...”
     
     
     
    .
     
    .
     
    .
     
    .

    .

    .

    .

    .



    วันพรุ่งนี้โลกอาจจะถึงกาลอวสานก็เป็นได้

    บางทีเราอาจจะตายด้วยอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึง…

    ทำไมเราไม่รักษาช่วงเวลาที่ยังได้เจอกันอยู่แบบนี้เอาไว้ละ?

    เพราะงั้นวันนี้ฉันก็จะพูดว่ารัก...


    ต่อให้ต้องพูดอีกร้อยครั้งพันครั้งก็ตาม...








    “ลาเต้แมคเคียโต้ได้แล้วครับ...”







    “ความจริงจงอินไม่ต้องยกมาให้เราก็ได้นะ...เดี๋ยวเราเดินไปเอาเองก็ได้ ลูกค้าเยอะไม่ใช่เหรอ...” ลู่ฮานวางหนังสือในมือลงก่อนจะรับแก้วกาแฟที่จงอินยกไปเสิร์ฟที่โต๊ะ เพราะวันนี้ลูกค้าเข้าร้านเยอะจนต้องรับออเดอร์เอาไว้ก่อนและชงกาแฟไปเสิร์ฟทีหลัง...












    ผมยืนมองเจ้าเพื่อนตัวแสบยืนคุยหรือจะเรียกว่ากวนประสาทแฟนของผมขณะที่สองมือชงกาแฟตามออเดอร์ลูกค้าเป็นระวิง...ผมไม่ได้ยืนมองสองคนนั้นคุยเพราะหึงหวงแต่อย่างใด เพราะรู้ดีว่าเจ้าเพื่อนตัวดีก็แซวเล่นไปตามประสาคนสนิทกัน...แต่สาเหตุที่ทำให้ผมชอบยืนมองและฟังสองคนนั้นคุยกันก็เพราะความบันเทิงส่วนตัว และถ้าให้ผมเดากว่าคิมจงอินจะยอมรามือจากการกวนประสาทลู่ฮานก็คงไม่พ้นโดนย้อนกลับมาจนไปต่อไม่ถูกนั่นแหละ....
















    “หวังดีกับผมหรืออยากเดินไปหาแฟนตัวเองกันแน่? ผมรู้ทันนะ..” จงอินยักคิ้วให้อย่างกวนๆทำเอาลู่ฮานยู่ปากด้วยความไม่พอใจที่ถูกอีกฝ่ายรู้ทัน...













    “อย่ารู้ทันได้ป่ะ?” ดูเหมือนว่าคราวนี้จงอินจะเป็นฝ่ายชนะ...













    “หมั้นไส้คนกำลังอินเลิฟจริงๆ...ทำไมไม่มีคนมาบอกรักเราทุกวันบ้างเนี่ย”














    “โทรหาคยองซูสิ จะได้ไม่ต้องอิจฉาเรากับเซฮุน...หรือว่าคยองซูจะเบื่อจงอินแล้วนะ? ถึงได้ไม่บอกรักน่ะ คิคิ...”













    “เฮ้ย!!! ไม่จริง...” คิมจงอินยังชื่นชมกับชัยชนะของตัวเองได้ไม่ทันก็ถูกนางฟ้าของผมเอาคืนซะแล้ว...ท่าทางลนลานที่นานๆทีจะได้เห็นทำเอาแพคฮยอนกับพี่ซูโฮที่กำลังเดินเสิร์ฟกาแฟให้ลูกค้ากลั้นหัวเราะไม่อยู่...



















    “จริงๆแล้วจงอินอิจฉาเราสินะ...เดี๋ยวพรุ่งนี้เราชวนคยองซูมาด้วยกัน จะได้เลิกอิจฉาเราซะทีเนอะ..” ยังไม่ทันที่ตัวแสบประจำร้านจะได้เอาคืนบ้าง ลู่ฮานก็รีบซ้ำจนแทบทรุดทันที...เล่นเอาจงอินถึงกับเดินหนีเพราะไม่อยากแทงจุดเจ็บอีก...















    “วันนี้เอาร่มมารึเปล่า? หรือว่าลืม?” หลังจากชงกาแฟครบตามออเดอร์ลูกค้าทุกคนแล้ว ผมก็เดินหลบออกมานั่งพักกับนางฟ้าของผมที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงโต๊ะประจำของเจ้าตัว...











    นอกร้านสายฝนโปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย นี่คงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ใครหลายคนเลือกที่จะเข้ามานั่งหลบฝนในร้าน...ทุกครั้งที่ฝนตกผมจะนึกถึงวันนั้นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้...















    วันที่ผมรู้ว่าลู่ฮานเองก็ใจตรงกับผม...













    “ไม่ได้ลืม...แต่ไม่เอามาเอง...”














    “งั้นรอกลับพร้อมกันนะ...เดี๋ยวผมไปส่งที่บ้าน...” ทันทีที่เห็นรอยยิ้มทะเล้นของร่างบางตรงหน้าก็พอจะเดาได้ว่าเขาต้องกำลังคิดเรื่องเดียวกับผมอยู่แน่ๆ...















    “ถึงไม่ไปส่งก็จะบังคับให้ไปอยู่ดี...” พอเป็นแฟนกันแล้วผมได้เห็นลู่ฮานในอีกหลายๆมุมที่ผมไม่เคยรู้มาก่อนในตอนที่เป็นฝ่ายแอบมอง และนั่นก็ยิ่งทำให้ผมทั้งรักทั้งเอ็นดูความขี้เล่นของเขามากขึ้นด้วย...












    “ร้ายนักนะ...” ผมแกล้งบีบจมูกรั้นของคนตรงหน้าเบาๆ ก่อนจะลุกเดินกลับไปยังหน้าเครื่องชงกาแฟประจำหน้าที่ตามเดิมเมื่อมีลูกค้ารายใหม่เข้ามา...














    แต่ยังเดินไม่พ้นโต๊ะผมก็ต้องหันกลับไปอย่างช่วยไม่ได้เมื่อมือเรียวของลู่ฮานดึงผ้ากันเปื้อนของผมไว้ ก่อนที่เจ้าตัวจะช้อนตามองที่ทำให้ผมใจสั่นพร้อมกับกำลังใจที่ทำให้ผมมีแรงฮึดไปทั้งเดือน...








    “เซฮุน..ตั้งใจทำงานนะ..” 








    “เสี่ยวลู่...รักนะครับ...”



    .

    .

    .

    .



    ไม่ว่าวันไหนก็จะคิดถึงแต่เธอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ยังไม่เพียงพอ

    ฉันอยากจะบอกให้เธอได้รับรู้...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น...

    ฉันจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ...












    “น่าเบื่อจัง...เซฮุนอุตส่าห์ได้หยุดทั้งที แต่เราต้องมานั่งอ่านหนังสือสอบ...” ผมนอนมองนางฟ้าของผมที่กำลังบ่นพึมพำพลางยืดแขนทั้งสองข้างบิดไล่ความขี้เกียจออกไป....เพราะอาทิตย์หน้ามีสอบ ลู่ฮานเลยต้องนั่งเซ็งอ่านหนังสือทั้งที่วันนี้เป็นวันหยุดของผมแทนที่จะได้ไปเที่ยวด้วยกัน...















    “ไม่เห็นเป็นไรเลย แค่ได้อยู่ด้วยกันก็พอแล้ว...อีกอย่างผมได้นอนหนุนตักฮยองด้วยไง สบายจะตาย..” ส่วนผมเองก็ใช้วันหยุดให้คุ้มค่าที่สุดด้วยการนอนหนุนตักนิ่มๆของนางฟ้าของผม...ถึงจะโหดร้ายกับลู่ฮานไปบ้าง เพราะโรงเรียนของผมยังไม่ถึงช่วงสอบ ผมก็เลยพอจะมีเวลาว่างทำตัวเอื่อยเฉื่อยแบบนี้...











    “เซฮุนจะหลับเลยก็ได้นะ...เดี๋ยวเราจะนั่งอ่านหนังสือเงียบๆ ไม่บ่นแล้ว..” ร่างบางคงเข้าใจไปว่าผมอยากนอนมากกว่าอยู่เป็นเพื่อนเขาอ่านหนังสือหรือรำคาญ ถึงได้พูดออกมาเหมือนกำลังน้อยใจแบบนั้น...ทำเอาผมต้องรีบลุกขึ้นจากตักนุ่มๆเพื่อรีบง้อเป็นการใหญ่....











    “ไม่ใช่นะ...ผมหมายถึงผมชอบที่จะนอนตักฮยองอยู่ด้วยกันแบบนี้มากกว่าออกไปเที่ยวเจอคนเยอะๆนะ..” ผมจับปอยผมด้านหน้าของอีกฝ่ายทัดหูเอาไว้ก่อนจะโน้มหน้าเข้าใกล้กดจูบเบาๆที่แก้มเนียนใส...ง้อเสร็จสรรพในทีเดียว...










    “จริงๆนะ?”













    “ถ้าไม่เชื่อ...สาบานให้ฟ้าผ่าตายก็ได้...” ผมพูดออกไปตามที่ใจคิด ไม่ได้จะเล่นมุขหรือแหย่ลู่ฮานเล่นแต่อย่างใด...ถ้าผมพูดโกหกละก็ ผมยอมให้พระเจ้าลงโทษตอนนี้เลย...














    “ไม่เอา...ไม่อยากอยู่คนเดียว...” ร่างบางโผเข้ากอดผมแน่นราวกับกลัวว่าผมจะหายไปต่อหน้าต่อตา...ท่าทางน่าเอ็นดูของลู่ฮานทำเอาผมแทบอดใจไม่ไหวอยากจะฟัดเจ้าตัวจริงๆ....

















    ไวเท่าความคิด...ผมแนบริมฝีปากลงบนเรียวปากสีสดตรงหน้า เป็นจังหวะเดียวกันที่ร่างบางเอียงหน้าลงเล็กน้อยรอรับจูบจากผม...ความอ่อนนุ่มและรสหวานอ่อนๆจากริมฝีปากของลู่ฮานทำให้ผมรู้สึกดีเป็นอย่างมาก ผมค่อยๆขบเม้มละเลียดชิมรสหอมหวานอย่างอ้อยอิ่ง...เนิ่นนานกว่าที่ผมจะยอมผละออกจากเรียวปากนุ่มตรงหน้า แต่ถึงอย่างนั้นริมฝีปากของเราก็ยังคลอเคลียกันอยู่ไม่ห่าง....















    “ผมรักฮยอง...”












    “รู้แล้ว...เซฮุนบอกเราทุกวันเลย...”











    ผมจูบซับน้ำตาเม็ดใสที่เกาะพราวอยู่รอบดวงตากลมโตของคนตรงหน้า ถึงหยาดน้ำตาจะยิ่งทำให้นัยน์ของลู่ฮานใสชวนให้น่ามองมากกว่าที่เคย...แต่ผมก็ไม่อยากจะเห็นนางฟ้าของต้องร้องไห้...สิ่งที่ผมอยากให้ปรากฏอยู่บนดวงหน้าหวานของลู่ฮานมีเพียงรอยยิ้มเท่านั้น...









    “อีกสิบปีข้างหน้า จะอีกกี่ร้อยกี่พันครั้ง...ผมก็บอกจะรักฮยองแบบนี้เรื่อยไป...”










    “เราก็จะบอกรักเซฮุนทุกวันเหมือนกัน...”



    .

    .

    .

    .


    เธอผู้เป็นที่รักของฉัน...

    บอกถ้อยคำนั้นให้เธอรับรู้วันละครั้ง

    แทนคำขอบคุณของฉัน...

    ไม่ใช่แค่การอยู่เคียงข้างกันเท่านั้น

    แค่เพียงคำพูดเดียวก็ทำให้มีความสุขได้...





    .

    .

    .

    .




    “เซฮุน...เรามีอะไรจะบอก...”



    “อะไรเหรอครับ?”



    “ลู่ฮานรักเซฮุนนะ..”


    .

    .

    .


    .











     


    เซฮุนกับลูฮานไม่จบแค่นี้แน่นอน สาบานเลยเอ้า!

    ครบร้อยแย้วววว :3 เม้นต์เป็นกำลังใจให้ไรท์หน่อยสิ!
     
     
    ฝากฟิคเร่องให่ด้วยเด้อออ ♥
    จิ้มที่น้องฮุนพี่ฮานโล้ดดดดด.



     




     

     
    Minor!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×