ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ด้ า ย แ ด ง เ ส้ น ที่ ส อ ง l การสารภาพรักของชายชานม
l เนื้อคู่ ด้ายเส้นที่สอง
กับการสารภาพรักของชายขายชานม ♥
Sehun Part ♥
.
.
.
.
“ลู่ฮาน...ผมมีอะไรจะบอก...”
“หืม? ...”
“ผมรักฮยองนะ ฮยองของผม ♥ ...”
.
.
.
.
อยากบอกให้เธอได้รับรู้ถึงความรู้สึกของฉัน
ด้วยน้ำเสียงราวกับแสงตะเกียงนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ไม่ว่าจะเป็นวันที่สายฝนโปรยปรายหรือ
และวันที่อากาศสดใส...
ไม่ว่าวันนั้นเธอจะกำลังโศกเศร้า
หรือในอีกสิบปีข้างหน้า...จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง...
ฉันจะบอกรักเธอวันละครั้งเรื่อยไป...
“เซฮุน! เราเอาลาเต้แมคเคียโต้แก้วนึงนะ..”
น้ำเสียงหวานใสที่ไม่ว่าฟังกี่ครั้งก็รู้สึกกระชุ่มกระชวยดังขึ้นตรงหน้า ผมรีบเงยหน้าขึ้นจากเครื่องชงกาแฟก่อนจะคลี่ยิ้มให้กับเจ้าของเสียงนั้นทันที...ลู่ฮานยืนเท้าแขนทั้งสองข้างกับเคานท์เตอร์และกำลังยิ้มให้กับผมเช่นกัน รอยยิ้มของเขาทำให้ความเหน็ดเหนื่อยตลอดทั้งวันของผมหายไปในพริบตา...แฟนของผมนี่ช่างรักจริงๆเลย...
ใช่แล้วครับ...ตอนนี้ผมกับนางฟ้าผู้แสนน่ารักของผมได้ตกลงเป็นแฟนกันเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ผมไปส่งเขาที่บ้านวันนั้น ทำให้ผมรู้ว่าเราสองคนใจตรงกัน....แบบนี้เขาเรียกว่าพรหมลิขิตสินะ เอ๊ะ!! หรือจะเรียกว่าโชคชะตาละเนี่ย...ไม่ว่ามันจะเรียกว่าอะไรก็ตาม แต่ผมก็อยากจะขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้ผมได้พบกับเขา ขอบคุณที่ทำให้เรารู้สึกแบบเดียวกัน...
ตอนนี้ผมไม่ต้องคอยระวังว่าลู่ฮานจะรู้ว่าผมแอบมองเขาอยู่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เพราะนอกจากผมจะสามารถนั่งมองเขาได้ทั้งวันโดยที่ไม่มีใครกล้าว่าแล้ว เจ้าตัวยังมายืนเกาะขอบเคานท์เตอร์ให้ผมได้นั่งมองใบหน้าแสนน่ารักใกล้ๆอีกด้วย...มีอย่างเดียวที่ผมต้องระวังก็คงไม่พ้นเสียงกระทบเสียดสีจากคนขี้อิจฉาอย่างคิมจงอิน...
“ตั้งแต่ได้กัน..เอ๊ย!! เป็นแฟนกันเนี่ย...ไม่เห็นหัวพ่อสื่อสุดหล่อคนนี้เลยนะคร้าบ..” เสียงกวนประสาทของคิมจงอินดังลอยมาจากอีกฝั่งนึงของเคานท์เตอร์ทำเอาผมถึงกับเซ็งที่ถูกขัดจังหวะแบบซึ่งๆหน้าแบบนี้....คงเป็นเพราะลู่ฮานเลือกที่จะเดินมาสั่งกาแฟกับผมเลย แทนที่จะสั่งกับแคชเชียร์อย่างจงอินเหมือนเมื่อก่อน...
“ก็เราเห็นจงอินกำลังจีบลูกค้าคนเมื่อกี้อยู่ไงเลยไม่อยากไปกวน...แต่ว่าเราจะไปบอกคยองซูว่านายนอกใจ...” ยังไม่ทันที่ผมจะย้อนไป ร่างบางตรงหน้าผมก็พูดขึ้นมาซะก่อน เล่นเอาจงอินถึงหน้าเสียไปเลย...ยกนี้นางฟ้าของผมชนะแบบใสๆ...
“ร้ายกาจมาก!!! แค่แซวเล่นหน่อยเดียวเอง...ผมแค่แนะนำเมนูให้ลูกค้าเฉยๆ ไม่ได้หม้อซะหน่อย เพราะงั้นอย่าบอกคยองซูเลยนะคร้าบ สงสารผมเถิด...เดี๋ยวกาแฟวันนี้ผมเลี้ยงก็ได้...” ผมถึงกับหลุดหัวเราะออกมากับท่าทางกลัวแฟนของผู้ชายตัวใหญ่อย่างคิมจงอิน ไหนจะท่าทางหูลู่หางตกแบบนั้นอีก...ถ้าไม่เป็นเพราะลู่ฮานกับคยองซูแฟนของจงอินเรียนอยู่ห้องเดียวแล้วบังเอิญสนิทกันด้วยละก็ ผมคงไม่ได้เห็นลู่ฮานกล้าขู่เจ้าเพื่อนตัวแสบและเห็นคนขี้เก็กมาดหลุดแบบนี้...
“ไม่บอกก็ได้ แต่ห้ามแกล้งเซฮุนอีกนะ...เรารู้นะว่าจงอินชอบแกล้งเซฮุน...” ปกติที่น่ารักอยู่แล้ว แต่พอเจ้าตัวทำแก้มพองพร้อมกับทำตาดุจ้องมองแบบเคืองๆแบบนี้ยิ่งน่ารักไปกันใหญ่ จนผมอยากจะดึงเข้ามากอดแน่นๆแล้วฟัดให้หายหมั้นเขี้ยว...แต่ก็ทำได้แค่คิดเพราะนอกจากเราจะยังอยู่ในร้านกาแฟแล้วลูกค้ายังแน่นเต็มร้านอีกด้วย...มันคงไม่เหมาะเท่าไหร่...
“เล่นพวกนี่หว่า...ขี้โกงชะมัด โอเซฮุน..”
“จงอินก็ให้คยองซูมาทำงานที่นี่ด้วยกันสิ...จะได้ไม่ต้องอิจฉาเรากับเซฮุน...” แล้วคิมจงอินก็โดนหมัดฮุคจากลู่ฮานผู้น่ารักเข้าอีกดอกจนต้องยอมสงบปากสงบคำทำงานไปเงียบๆต่อไป เพราะถ้าขืนแหกปากแซวคงไม่พ้นโดนนางฟ้าของผมสวนกลับให้เจ็บใจเล่นอีก...
วันนี้ลูกค้าแน่นร้านสมกับที่เป็นช่วงบ่ายของวันเสาร์ ช่วงเวลาที่ใครหลายๆคนเลือกที่จะมานั่งหลบแดดในร้านกาแฟแบบนี้....แต่ถึงอย่างนั้นงานในร้านก็ไม่ค่อยวุ่นวายมากเท่าไหร่ คงเป็นเพราะหลังจากได้รับกาแฟกับของว่างแล้วลูกค้าส่วนมากก็เข้าสู่โลกส่วนตัวของตนทันที ทำให้ผมมีพักเวลาคุยเล่นกับนางฟ้าของผมนานกว่าปกติ....
“อร่อยมั้ย?” ผมแกล้งแซวร่างบางคนตรงหน้าเล่น หลังจากที่เจ้าตัวจิบกาแฟแก้วโปรดไปจนเหลือครึ่งแก้วแล้ว...
หลังจากที่เราตกลงเป็นแฟนกันลู่ฮานสารภาพว่า’ติดใจ’กาแฟที่ผมชงเลยมาบ่อยๆ จนกระทั่ง’ตกหลุมรัก’ผมก็เลยแวะมาที่นี่ทุกวันเพราะอยากจะเห็นหน้าผม ในตอนนั้นผมเก็บอาการดีใจเอาไม่อยู่จนดึงร่างบางเข้ามากอดแน่นๆ....ถึงตอนนี้เราจะเป็นแฟนกันแล้ว แต่ว่าลู่ฮานก็ยังแวะเวียนมาที่นี่ทุกวันไม่ต่างจากเมื่อก่อน แถมยังบางครั้งยังช่วยงานในตอนลูกค้าแน่นร้านจนทำงานกันไม่ทันอีกด้วย...
“อื้ม!! กะ..ก็อร่อยเหมือนทุกทีนะ..” พวงแก้มเนียนใสแดงระเรื่อขณะที่เจ้าตัวอ้อมแอ้มก้มหน้าก้มตาตอบออกมาเบาๆ...นางฟ้าของผมน่ารักมากซะจนผมอยากจะหอมแก้มโชว์กลางร้านจริงๆ...
มันอาจจะเป็นแค่ประโยคธรรมดาประโยคหนึ่งเท่านั้น...แต่มีเพียงผมและลู่ฮานเท่านั้นที่รู้กันสองคนว่าคำว่า ‘อร่อย’ของเราไม่ต่างจากคำว่า’รัก’เลย...
“ฮยอง...ผมมีอะไรจะบอก...”
“อะไรเหรอ?”
“ผมรักฮยองนะครับ..”
.
.
.
.
ไม่ว่าจะเป็นรุ่งเช้าของวันใหม่หรือจะยามค่ำคืน
ไม่ว่าจะเป็นในความฝัน...ฉันก็จะคิดถึงเธอ...
ในเวลาที่เราไม่ได้เจอกัน ก็อยากจะทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจ...
เพราะงั้นฉันจะบอกรักเธอทุกวันนะ...
“เซฮุน!! รอนานมั้ย?”
ระหว่างที่ผมกำลังยืนรอพี่ลู่ฮานอยู่พลางคิดอะไรเพลินๆ ก็เห็นคนที่กำลังอยู่ในความคิดวิ่งเข้ามาหาพอดี...ร่างบางในเครื่องแบบแสนคุ้นตาวิ่งมาพร้อมกับกระเป๋าเป้ใบใหญ่พลางโบกไม้โบกมือเรียกผมด้วยท่าทางสดใสตามแบบฉบับของเจ้าตัว...ผมก้าวเดินใกล้เข้าไปเพื่อให้ย่นระยะห่างของเรา รอยยิ้มของลู่ฮานยังน่ารักสดใสไม่ต่างจากครั้งแรกที่ผมได้เห็น....
“ขอโทษนะ...อาจารย์ให้เราช่วยจัดเอกสารตั้งเยอะก็เลยเสร็จช้า...” ร่างบางยิ้มบางๆเจือไปความรู้สึกผิดทำเอาผมต้องรีบปลอบ...
“ไม่เป็นไรหรอกครับ...ผมเพิ่งถึงเมื่อกี้เอง...” ถึงผมจะยืนรอมานานสักพักแล้วไม่ใช่อย่างที่พูดปลอบไปเมื่อกี้ แต่ผมก็ไม่มีทางโกรธเขาลง...
ร่างบางยืนหอบหายใจแขนเรียวสองข้างเท้ายันกับหัวเข่าของตนเอง ดวงหน้าหวานแดงก่ำจากการวิ่งออกกำลังท่ามกลางแสงแดดแสนร้อนแรง....ถึงเจ้าตัวจะเหนื่อยหอบยังไงแต่ก็ยังคลี่ยิ้มน่ารักให้กับผม รอยยิ้มแสนสดใสที่แม้แต่แสงแดดยามบ่ายแบบนี้ยังเทียบไม่ติด...
ผมใช้ผ้าเช็ดหน้าของตัวเองค่อยๆซับเม็ดเหงื่อออกจากดวงหน้าหวานอย่างเบามือ เพราะกลัวจะทำให้ลู่ฮานต้องเจ็บ...ถึงเราจะเป็นแฟนกันแล้วแต่ก็ต้องยอมเลยว่าผมทั้งเขินทั้งประหม่าที่เห็นดวงตากลมโตใสแป๋วของเขาจ้องหน้าอยู่แบบนี้... เสียงหวานใสกับรอยยิ้มหวานเชื่อมที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ทำให้ผมรู้สึกละลายราวกับถ้วยไอศกรีมตั้งอยู่กลางแดดได้เกือบทุกครั้ง...
“ขอบคุณนะ...”
“ไปไหนกันดี? วันนี้ผมว่าง...” หลังจากลู่ฮานยืนพักจนหายเหนื่อยแล้ว ผมก็ฉวยโอกาสจับมือของเขาพร้อมกับพาเดินออกไปจากโรงเรียนทันที...
วันนี้เป็นวันหยุดที่ผมไม่ต้องไปทำงานที่ร้านกาแฟ ผมเลยถือโอกาสมารับนางฟ้าของผมที่หน้าโรงเรียนอย่างที่อยากทำมานาน....เห็นนักเรียนหลายคนเดินผ่านไปมามองมายังเราสองคนพร้อมกับซุบซิบกัน ก็พอจะเดาได้ไม่ยากว่าคนพวกนั้นกำลังพูดถึงผมกับร่างบางคนนี้อยู่....ผมไม่ลังเลที่จะโอบไหล่บางของคนข้างๆป่าวประกาศให้รู้กันไปเลยว่าคนน่ารักคนนี้มีเจ้าของแล้วนะครับ...
“แล้วแต่เซฮุนเลย เราไปไหนก็ได้...เอ๊ะ!!! ชุดนักเรียน!!!” คงเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นผมใส่ชุดนักเรียนเพราะปกติเห็นแต่เครื่องแบบพนักงานของร้านกาแฟ เจ้าตัวถึงได้ตกใจจนทำตาโตแบบนั้น...ดวงตาใสแป๋วที่ว่าโตอยู่แล้วเบิกกว้างกว่าปกติ ลู่ฮานถอยห่างออกไปเล็กน้อยพลางไล่สายตามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า...ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูของเขาทำเอาผมถึงกับหลุดหัวเราะออกมา...
“หล่อมั้ย?”
“หล่อมากๆเลย..” ร่างบางพยักหน้ารับหลายครั้งจนผมยุ่งหลังจากที่เจ้าตัวชื่นชมผมในชุดนักเรียนและถ่ายรูปเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึกจนพอใจ...
“ฮยองก็น่ารัก...” ผมโน้มหน้าเข้าใกล้ดวงหน้าหวานพลางกระซิบประโยคที่ผมอยากจะบอกเขาตั้งแต่วันที่เจอกัน ก่อนจะขโมยหอมพวงแก้มใสเบาๆ...
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมหอมแก้มเขาในที่สาธารณะอย่างริมถนนแบบนี้ แต่ร่างบางตรงหน้ามักจะเขินจนหน้าแดงและยืนทำอะไรไม่ถูกเหมือนกับถูกแช่แข็งทุกครั้ง แม้แต่ตอนที่อยู่ด้วยกันสองคนก็ตาม...
“แล้วเราจะไปไหนกันดี?...ดูหนังกันมั้ยครับ?”
“ไปไหนก็ได้...แค่ได้อยู่ด้วยกันก็พอแล้ว...”
“ฮยอง...เซฮุนรักฮยองนะครับ...”
“รู้แล้ว...”
.
.
.
.
.
.
.
.
วันพรุ่งนี้โลกอาจจะถึงกาลอวสานก็เป็นได้
บางทีเราอาจจะตายด้วยอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึง…
ทำไมเราไม่รักษาช่วงเวลาที่ยังได้เจอกันอยู่แบบนี้เอาไว้ละ?
เพราะงั้นวันนี้ฉันก็จะพูดว่ารัก...
ต่อให้ต้องพูดอีกร้อยครั้งพันครั้งก็ตาม...
“ลาเต้แมคเคียโต้ได้แล้วครับ...”
“ความจริงจงอินไม่ต้องยกมาให้เราก็ได้นะ...เดี๋ยวเราเดินไปเอาเองก็ได้ ลูกค้าเยอะไม่ใช่เหรอ...” ลู่ฮานวางหนังสือในมือลงก่อนจะรับแก้วกาแฟที่จงอินยกไปเสิร์ฟที่โต๊ะ เพราะวันนี้ลูกค้าเข้าร้านเยอะจนต้องรับออเดอร์เอาไว้ก่อนและชงกาแฟไปเสิร์ฟทีหลัง...
ผมยืนมองเจ้าเพื่อนตัวแสบยืนคุยหรือจะเรียกว่ากวนประสาทแฟนของผมขณะที่สองมือชงกาแฟตามออเดอร์ลูกค้าเป็นระวิง...ผมไม่ได้ยืนมองสองคนนั้นคุยเพราะหึงหวงแต่อย่างใด เพราะรู้ดีว่าเจ้าเพื่อนตัวดีก็แซวเล่นไปตามประสาคนสนิทกัน...แต่สาเหตุที่ทำให้ผมชอบยืนมองและฟังสองคนนั้นคุยกันก็เพราะความบันเทิงส่วนตัว และถ้าให้ผมเดากว่าคิมจงอินจะยอมรามือจากการกวนประสาทลู่ฮานก็คงไม่พ้นโดนย้อนกลับมาจนไปต่อไม่ถูกนั่นแหละ....
“หวังดีกับผมหรืออยากเดินไปหาแฟนตัวเองกันแน่? ผมรู้ทันนะ..” จงอินยักคิ้วให้อย่างกวนๆทำเอาลู่ฮานยู่ปากด้วยความไม่พอใจที่ถูกอีกฝ่ายรู้ทัน...
“อย่ารู้ทันได้ป่ะ?” ดูเหมือนว่าคราวนี้จงอินจะเป็นฝ่ายชนะ...
“หมั้นไส้คนกำลังอินเลิฟจริงๆ...ทำไมไม่มีคนมาบอกรักเราทุกวันบ้างเนี่ย”
“โทรหาคยองซูสิ จะได้ไม่ต้องอิจฉาเรากับเซฮุน...หรือว่าคยองซูจะเบื่อจงอินแล้วนะ? ถึงได้ไม่บอกรักน่ะ คิคิ...”
“เฮ้ย!!! ไม่จริง...” คิมจงอินยังชื่นชมกับชัยชนะของตัวเองได้ไม่ทันก็ถูกนางฟ้าของผมเอาคืนซะแล้ว...ท่าทางลนลานที่นานๆทีจะได้เห็นทำเอาแพคฮยอนกับพี่ซูโฮที่กำลังเดินเสิร์ฟกาแฟให้ลูกค้ากลั้นหัวเราะไม่อยู่...
“จริงๆแล้วจงอินอิจฉาเราสินะ...เดี๋ยวพรุ่งนี้เราชวนคยองซูมาด้วยกัน จะได้เลิกอิจฉาเราซะทีเนอะ..” ยังไม่ทันที่ตัวแสบประจำร้านจะได้เอาคืนบ้าง ลู่ฮานก็รีบซ้ำจนแทบทรุดทันที...เล่นเอาจงอินถึงกับเดินหนีเพราะไม่อยากแทงจุดเจ็บอีก...
“วันนี้เอาร่มมารึเปล่า? หรือว่าลืม?” หลังจากชงกาแฟครบตามออเดอร์ลูกค้าทุกคนแล้ว ผมก็เดินหลบออกมานั่งพักกับนางฟ้าของผมที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงโต๊ะประจำของเจ้าตัว...
นอกร้านสายฝนโปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย นี่คงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ใครหลายคนเลือกที่จะเข้ามานั่งหลบฝนในร้าน...ทุกครั้งที่ฝนตกผมจะนึกถึงวันนั้นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้...
วันที่ผมรู้ว่าลู่ฮานเองก็ใจตรงกับผม...
“ไม่ได้ลืม...แต่ไม่เอามาเอง...”
“งั้นรอกลับพร้อมกันนะ...เดี๋ยวผมไปส่งที่บ้าน...” ทันทีที่เห็นรอยยิ้มทะเล้นของร่างบางตรงหน้าก็พอจะเดาได้ว่าเขาต้องกำลังคิดเรื่องเดียวกับผมอยู่แน่ๆ...
“ถึงไม่ไปส่งก็จะบังคับให้ไปอยู่ดี...” พอเป็นแฟนกันแล้วผมได้เห็นลู่ฮานในอีกหลายๆมุมที่ผมไม่เคยรู้มาก่อนในตอนที่เป็นฝ่ายแอบมอง และนั่นก็ยิ่งทำให้ผมทั้งรักทั้งเอ็นดูความขี้เล่นของเขามากขึ้นด้วย...
“ร้ายนักนะ...” ผมแกล้งบีบจมูกรั้นของคนตรงหน้าเบาๆ ก่อนจะลุกเดินกลับไปยังหน้าเครื่องชงกาแฟประจำหน้าที่ตามเดิมเมื่อมีลูกค้ารายใหม่เข้ามา...
แต่ยังเดินไม่พ้นโต๊ะผมก็ต้องหันกลับไปอย่างช่วยไม่ได้เมื่อมือเรียวของลู่ฮานดึงผ้ากันเปื้อนของผมไว้ ก่อนที่เจ้าตัวจะช้อนตามองที่ทำให้ผมใจสั่นพร้อมกับกำลังใจที่ทำให้ผมมีแรงฮึดไปทั้งเดือน...
“เซฮุน..ตั้งใจทำงานนะ..”
“เสี่ยวลู่...รักนะครับ...”
.
.
.
.
ไม่ว่าวันไหนก็จะคิดถึงแต่เธอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ยังไม่เพียงพอ
ฉันอยากจะบอกให้เธอได้รับรู้...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น...
ฉันจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ...
“น่าเบื่อจัง...เซฮุนอุตส่าห์ได้หยุดทั้งที แต่เราต้องมานั่งอ่านหนังสือสอบ...” ผมนอนมองนางฟ้าของผมที่กำลังบ่นพึมพำพลางยืดแขนทั้งสองข้างบิดไล่ความขี้เกียจออกไป....เพราะอาทิตย์หน้ามีสอบ ลู่ฮานเลยต้องนั่งเซ็งอ่านหนังสือทั้งที่วันนี้เป็นวันหยุดของผมแทนที่จะได้ไปเที่ยวด้วยกัน...
“ไม่เห็นเป็นไรเลย แค่ได้อยู่ด้วยกันก็พอแล้ว...อีกอย่างผมได้นอนหนุนตักฮยองด้วยไง สบายจะตาย..” ส่วนผมเองก็ใช้วันหยุดให้คุ้มค่าที่สุดด้วยการนอนหนุนตักนิ่มๆของนางฟ้าของผม...ถึงจะโหดร้ายกับลู่ฮานไปบ้าง เพราะโรงเรียนของผมยังไม่ถึงช่วงสอบ ผมก็เลยพอจะมีเวลาว่างทำตัวเอื่อยเฉื่อยแบบนี้...
“เซฮุนจะหลับเลยก็ได้นะ...เดี๋ยวเราจะนั่งอ่านหนังสือเงียบๆ ไม่บ่นแล้ว..” ร่างบางคงเข้าใจไปว่าผมอยากนอนมากกว่าอยู่เป็นเพื่อนเขาอ่านหนังสือหรือรำคาญ ถึงได้พูดออกมาเหมือนกำลังน้อยใจแบบนั้น...ทำเอาผมต้องรีบลุกขึ้นจากตักนุ่มๆเพื่อรีบง้อเป็นการใหญ่....
“ไม่ใช่นะ...ผมหมายถึงผมชอบที่จะนอนตักฮยองอยู่ด้วยกันแบบนี้มากกว่าออกไปเที่ยวเจอคนเยอะๆนะ..” ผมจับปอยผมด้านหน้าของอีกฝ่ายทัดหูเอาไว้ก่อนจะโน้มหน้าเข้าใกล้กดจูบเบาๆที่แก้มเนียนใส...ง้อเสร็จสรรพในทีเดียว...
“จริงๆนะ?”
“ถ้าไม่เชื่อ...สาบานให้ฟ้าผ่าตายก็ได้...” ผมพูดออกไปตามที่ใจคิด ไม่ได้จะเล่นมุขหรือแหย่ลู่ฮานเล่นแต่อย่างใด...ถ้าผมพูดโกหกละก็ ผมยอมให้พระเจ้าลงโทษตอนนี้เลย...
“ไม่เอา...ไม่อยากอยู่คนเดียว...” ร่างบางโผเข้ากอดผมแน่นราวกับกลัวว่าผมจะหายไปต่อหน้าต่อตา...ท่าทางน่าเอ็นดูของลู่ฮานทำเอาผมแทบอดใจไม่ไหวอยากจะฟัดเจ้าตัวจริงๆ....
ไวเท่าความคิด...ผมแนบริมฝีปากลงบนเรียวปากสีสดตรงหน้า เป็นจังหวะเดียวกันที่ร่างบางเอียงหน้าลงเล็กน้อยรอรับจูบจากผม...ความอ่อนนุ่มและรสหวานอ่อนๆจากริมฝีปากของลู่ฮานทำให้ผมรู้สึกดีเป็นอย่างมาก ผมค่อยๆขบเม้มละเลียดชิมรสหอมหวานอย่างอ้อยอิ่ง...เนิ่นนานกว่าที่ผมจะยอมผละออกจากเรียวปากนุ่มตรงหน้า แต่ถึงอย่างนั้นริมฝีปากของเราก็ยังคลอเคลียกันอยู่ไม่ห่าง....
“ผมรักฮยอง...”
“รู้แล้ว...เซฮุนบอกเราทุกวันเลย...”
ผมจูบซับน้ำตาเม็ดใสที่เกาะพราวอยู่รอบดวงตากลมโตของคนตรงหน้า ถึงหยาดน้ำตาจะยิ่งทำให้นัยน์ของลู่ฮานใสชวนให้น่ามองมากกว่าที่เคย...แต่ผมก็ไม่อยากจะเห็นนางฟ้าของต้องร้องไห้...สิ่งที่ผมอยากให้ปรากฏอยู่บนดวงหน้าหวานของลู่ฮานมีเพียงรอยยิ้มเท่านั้น...
“อีกสิบปีข้างหน้า จะอีกกี่ร้อยกี่พันครั้ง...ผมก็บอกจะรักฮยองแบบนี้เรื่อยไป...”
“เราก็จะบอกรักเซฮุนทุกวันเหมือนกัน...”
.
.
.
.
เธอผู้เป็นที่รักของฉัน...
บอกถ้อยคำนั้นให้เธอรับรู้วันละครั้ง
แทนคำขอบคุณของฉัน...
ไม่ใช่แค่การอยู่เคียงข้างกันเท่านั้น
แค่เพียงคำพูดเดียวก็ทำให้มีความสุขได้...
.
.
.
.
“เซฮุน...เรามีอะไรจะบอก...”
“อะไรเหรอครับ?”
“ลู่ฮานรักเซฮุนนะ..”
.
.
.
.
.
.
.
.
วันพรุ่งนี้โลกอาจจะถึงกาลอวสานก็เป็นได้
บางทีเราอาจจะตายด้วยอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึง…
ทำไมเราไม่รักษาช่วงเวลาที่ยังได้เจอกันอยู่แบบนี้เอาไว้ละ?
เพราะงั้นวันนี้ฉันก็จะพูดว่ารัก...
ต่อให้ต้องพูดอีกร้อยครั้งพันครั้งก็ตาม...
“ลาเต้แมคเคียโต้ได้แล้วครับ...”
“ความจริงจงอินไม่ต้องยกมาให้เราก็ได้นะ...เดี๋ยวเราเดินไปเอาเองก็ได้ ลูกค้าเยอะไม่ใช่เหรอ...” ลู่ฮานวางหนังสือในมือลงก่อนจะรับแก้วกาแฟที่จงอินยกไปเสิร์ฟที่โต๊ะ เพราะวันนี้ลูกค้าเข้าร้านเยอะจนต้องรับออเดอร์เอาไว้ก่อนและชงกาแฟไปเสิร์ฟทีหลัง...
ผมยืนมองเจ้าเพื่อนตัวแสบยืนคุยหรือจะเรียกว่ากวนประสาทแฟนของผมขณะที่สองมือชงกาแฟตามออเดอร์ลูกค้าเป็นระวิง...ผมไม่ได้ยืนมองสองคนนั้นคุยเพราะหึงหวงแต่อย่างใด เพราะรู้ดีว่าเจ้าเพื่อนตัวดีก็แซวเล่นไปตามประสาคนสนิทกัน...แต่สาเหตุที่ทำให้ผมชอบยืนมองและฟังสองคนนั้นคุยกันก็เพราะความบันเทิงส่วนตัว และถ้าให้ผมเดากว่าคิมจงอินจะยอมรามือจากการกวนประสาทลู่ฮานก็คงไม่พ้นโดนย้อนกลับมาจนไปต่อไม่ถูกนั่นแหละ....
“หวังดีกับผมหรืออยากเดินไปหาแฟนตัวเองกันแน่? ผมรู้ทันนะ..” จงอินยักคิ้วให้อย่างกวนๆทำเอาลู่ฮานยู่ปากด้วยความไม่พอใจที่ถูกอีกฝ่ายรู้ทัน...
“อย่ารู้ทันได้ป่ะ?” ดูเหมือนว่าคราวนี้จงอินจะเป็นฝ่ายชนะ...
“หมั้นไส้คนกำลังอินเลิฟจริงๆ...ทำไมไม่มีคนมาบอกรักเราทุกวันบ้างเนี่ย”
“โทรหาคยองซูสิ จะได้ไม่ต้องอิจฉาเรากับเซฮุน...หรือว่าคยองซูจะเบื่อจงอินแล้วนะ? ถึงได้ไม่บอกรักน่ะ คิคิ...”
“เฮ้ย!!! ไม่จริง...” คิมจงอินยังชื่นชมกับชัยชนะของตัวเองได้ไม่ทันก็ถูกนางฟ้าของผมเอาคืนซะแล้ว...ท่าทางลนลานที่นานๆทีจะได้เห็นทำเอาแพคฮยอนกับพี่ซูโฮที่กำลังเดินเสิร์ฟกาแฟให้ลูกค้ากลั้นหัวเราะไม่อยู่...
“จริงๆแล้วจงอินอิจฉาเราสินะ...เดี๋ยวพรุ่งนี้เราชวนคยองซูมาด้วยกัน จะได้เลิกอิจฉาเราซะทีเนอะ..” ยังไม่ทันที่ตัวแสบประจำร้านจะได้เอาคืนบ้าง ลู่ฮานก็รีบซ้ำจนแทบทรุดทันที...เล่นเอาจงอินถึงกับเดินหนีเพราะไม่อยากแทงจุดเจ็บอีก...
“วันนี้เอาร่มมารึเปล่า? หรือว่าลืม?” หลังจากชงกาแฟครบตามออเดอร์ลูกค้าทุกคนแล้ว ผมก็เดินหลบออกมานั่งพักกับนางฟ้าของผมที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงโต๊ะประจำของเจ้าตัว...
นอกร้านสายฝนโปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย นี่คงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ใครหลายคนเลือกที่จะเข้ามานั่งหลบฝนในร้าน...ทุกครั้งที่ฝนตกผมจะนึกถึงวันนั้นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้...
วันที่ผมรู้ว่าลู่ฮานเองก็ใจตรงกับผม...
“ไม่ได้ลืม...แต่ไม่เอามาเอง...”
“งั้นรอกลับพร้อมกันนะ...เดี๋ยวผมไปส่งที่บ้าน...” ทันทีที่เห็นรอยยิ้มทะเล้นของร่างบางตรงหน้าก็พอจะเดาได้ว่าเขาต้องกำลังคิดเรื่องเดียวกับผมอยู่แน่ๆ...
“ถึงไม่ไปส่งก็จะบังคับให้ไปอยู่ดี...” พอเป็นแฟนกันแล้วผมได้เห็นลู่ฮานในอีกหลายๆมุมที่ผมไม่เคยรู้มาก่อนในตอนที่เป็นฝ่ายแอบมอง และนั่นก็ยิ่งทำให้ผมทั้งรักทั้งเอ็นดูความขี้เล่นของเขามากขึ้นด้วย...
“ร้ายนักนะ...” ผมแกล้งบีบจมูกรั้นของคนตรงหน้าเบาๆ ก่อนจะลุกเดินกลับไปยังหน้าเครื่องชงกาแฟประจำหน้าที่ตามเดิมเมื่อมีลูกค้ารายใหม่เข้ามา...
แต่ยังเดินไม่พ้นโต๊ะผมก็ต้องหันกลับไปอย่างช่วยไม่ได้เมื่อมือเรียวของลู่ฮานดึงผ้ากันเปื้อนของผมไว้ ก่อนที่เจ้าตัวจะช้อนตามองที่ทำให้ผมใจสั่นพร้อมกับกำลังใจที่ทำให้ผมมีแรงฮึดไปทั้งเดือน...
“เซฮุน..ตั้งใจทำงานนะ..”
“เสี่ยวลู่...รักนะครับ...”
.
.
.
.
ไม่ว่าวันไหนก็จะคิดถึงแต่เธอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ยังไม่เพียงพอ
ฉันอยากจะบอกให้เธอได้รับรู้...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น...
ฉันจะอยู่เคียงข้างเธอเสมอ...
“น่าเบื่อจัง...เซฮุนอุตส่าห์ได้หยุดทั้งที แต่เราต้องมานั่งอ่านหนังสือสอบ...” ผมนอนมองนางฟ้าของผมที่กำลังบ่นพึมพำพลางยืดแขนทั้งสองข้างบิดไล่ความขี้เกียจออกไป....เพราะอาทิตย์หน้ามีสอบ ลู่ฮานเลยต้องนั่งเซ็งอ่านหนังสือทั้งที่วันนี้เป็นวันหยุดของผมแทนที่จะได้ไปเที่ยวด้วยกัน...
“ไม่เห็นเป็นไรเลย แค่ได้อยู่ด้วยกันก็พอแล้ว...อีกอย่างผมได้นอนหนุนตักฮยองด้วยไง สบายจะตาย..” ส่วนผมเองก็ใช้วันหยุดให้คุ้มค่าที่สุดด้วยการนอนหนุนตักนิ่มๆของนางฟ้าของผม...ถึงจะโหดร้ายกับลู่ฮานไปบ้าง เพราะโรงเรียนของผมยังไม่ถึงช่วงสอบ ผมก็เลยพอจะมีเวลาว่างทำตัวเอื่อยเฉื่อยแบบนี้...
“เซฮุนจะหลับเลยก็ได้นะ...เดี๋ยวเราจะนั่งอ่านหนังสือเงียบๆ ไม่บ่นแล้ว..” ร่างบางคงเข้าใจไปว่าผมอยากนอนมากกว่าอยู่เป็นเพื่อนเขาอ่านหนังสือหรือรำคาญ ถึงได้พูดออกมาเหมือนกำลังน้อยใจแบบนั้น...ทำเอาผมต้องรีบลุกขึ้นจากตักนุ่มๆเพื่อรีบง้อเป็นการใหญ่....
“ไม่ใช่นะ...ผมหมายถึงผมชอบที่จะนอนตักฮยองอยู่ด้วยกันแบบนี้มากกว่าออกไปเที่ยวเจอคนเยอะๆนะ..” ผมจับปอยผมด้านหน้าของอีกฝ่ายทัดหูเอาไว้ก่อนจะโน้มหน้าเข้าใกล้กดจูบเบาๆที่แก้มเนียนใส...ง้อเสร็จสรรพในทีเดียว...
“จริงๆนะ?”
“ถ้าไม่เชื่อ...สาบานให้ฟ้าผ่าตายก็ได้...” ผมพูดออกไปตามที่ใจคิด ไม่ได้จะเล่นมุขหรือแหย่ลู่ฮานเล่นแต่อย่างใด...ถ้าผมพูดโกหกละก็ ผมยอมให้พระเจ้าลงโทษตอนนี้เลย...
“ไม่เอา...ไม่อยากอยู่คนเดียว...” ร่างบางโผเข้ากอดผมแน่นราวกับกลัวว่าผมจะหายไปต่อหน้าต่อตา...ท่าทางน่าเอ็นดูของลู่ฮานทำเอาผมแทบอดใจไม่ไหวอยากจะฟัดเจ้าตัวจริงๆ....
ไวเท่าความคิด...ผมแนบริมฝีปากลงบนเรียวปากสีสดตรงหน้า เป็นจังหวะเดียวกันที่ร่างบางเอียงหน้าลงเล็กน้อยรอรับจูบจากผม...ความอ่อนนุ่มและรสหวานอ่อนๆจากริมฝีปากของลู่ฮานทำให้ผมรู้สึกดีเป็นอย่างมาก ผมค่อยๆขบเม้มละเลียดชิมรสหอมหวานอย่างอ้อยอิ่ง...เนิ่นนานกว่าที่ผมจะยอมผละออกจากเรียวปากนุ่มตรงหน้า แต่ถึงอย่างนั้นริมฝีปากของเราก็ยังคลอเคลียกันอยู่ไม่ห่าง....
“ผมรักฮยอง...”
“รู้แล้ว...เซฮุนบอกเราทุกวันเลย...”
ผมจูบซับน้ำตาเม็ดใสที่เกาะพราวอยู่รอบดวงตากลมโตของคนตรงหน้า ถึงหยาดน้ำตาจะยิ่งทำให้นัยน์ของลู่ฮานใสชวนให้น่ามองมากกว่าที่เคย...แต่ผมก็ไม่อยากจะเห็นนางฟ้าของต้องร้องไห้...สิ่งที่ผมอยากให้ปรากฏอยู่บนดวงหน้าหวานของลู่ฮานมีเพียงรอยยิ้มเท่านั้น...
“อีกสิบปีข้างหน้า จะอีกกี่ร้อยกี่พันครั้ง...ผมก็บอกจะรักฮยองแบบนี้เรื่อยไป...”
“เราก็จะบอกรักเซฮุนทุกวันเหมือนกัน...”
.
.
.
.
เธอผู้เป็นที่รักของฉัน...
บอกถ้อยคำนั้นให้เธอรับรู้วันละครั้ง
แทนคำขอบคุณของฉัน...
ไม่ใช่แค่การอยู่เคียงข้างกันเท่านั้น
แค่เพียงคำพูดเดียวก็ทำให้มีความสุขได้...
.
.
.
.
“เซฮุน...เรามีอะไรจะบอก...”
“อะไรเหรอครับ?”
“ลู่ฮานรักเซฮุนนะ..”
.
.
.
.
เซฮุนกับลูฮานไม่จบแค่นี้แน่นอน สาบานเลยเอ้า!
ครบร้อยแย้วววว :3 เม้นต์เป็นกำลังใจให้ไรท์หน่อยสิ!
ฝากฟิคเร่องให่ด้วยเด้อออ ♥
จิ้มที่น้องฮุนพี่ฮานโล้ดดดดด.
จิ้มที่น้องฮุนพี่ฮานโล้ดดดดด.
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น