ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : แค่รู้ว่ารักกัน 4
แม้ไม่เคยพบ พี่ของเพื่อนชายมาก่อนแต่ใบหน้าที่มีส่วนละม้ายเหมือน นัท อยู่มากเหมือนกัน
อรจิรามองร่างสูงอย่างใจเหม่อลอย
“อื้มมมมมม”
นัยน์ตาคมที่เค้ามองเธอ ที่นั่งงงอย่างสำรวจตรวจตรานั้น ทำให้หญิงสาวเชิดหน้าขึ้นทันทีเช่นกัน
“ต้องขอโทษที่ทำให้ตกใจ”
นภัสเอ่ยขึ้นก่อน
ร่างสูงสมาร์ท ภายในชุดทำงานเรียบกริบที่บอกถึงความเป็นคนมีรสนิยมดีเข้ามายืนอยู่กลางห้อง
“สวัสดีค่ะ คุณ..เอ่อ”
“นภัส เป็นพี่ของ นายนัท รุจิอมรกุล”
นภัส พยักหน้ารับไหว้ พร้อมพูดต่อ
“คุณคือ คุณอรจิรา”
“คะ.. ค่ะ”
อรจิราตอบร่างสูงเธอไม่รู้จะพูดอะไรก่อนหลังดี เพราะนภัส ไม่เปิดช่องให้เอ่ยคำใดๆทั้งสิ้น
“ความจริงคุณเป็นหุ้นส่วนคนนึง ไม่น่าต้องมาทำงานเช้าแบบนี้”
น้ำเสียงของเค้า ไม่ได้บอกความจริงใจเลย
“ดิฉันก็มาเวลาเดียวกันแบบนี้ทุกวันเหมือนพนักงานทั่วไปค่ะ”
เธอบอกด้วยน้ำเสียงเรียบ น้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำทีเดียว
“นายนัท ไปรับไปส่งล่ะซิ”
ร่างสูงถามเธออย่างไม่ต้องการคำตอบ
รอยยิ้มระยับจุดประกายชึ้น ในดวงตาของนภัส เมื่อมองมายังร่างบาง
อรจิราหันมองค้อนร่างสูง เธอรู้สึกว่านภัสจะตั้งใจพูดประชดเธอตั้งแต่เข้ามาในห้องนี้แล้ว
“ดิฉันขับรถไป-กลับเองทุกวันค่ะ”
เธอตอบเสียงแข็ง
.....................
นภัส ทำหน้ายิ้มมุมปาก
วันนี้เธอสวมชุดสีม่วงคราม ทำให้เธอดูสวยน่ามองอย่างประหลาดทั้งๆที่ชุดที่เธอสวมใส่อยู่เป็นชุดเรียบๆแต่ทว่ามีความหรูอยู่ที่เนื้อผ้าใบหน้า
เรียวสวยใสด้วยการแต่งแต้มสีสันบางเบา กลมกลืนกับผมยาวดำขลับพันทบเป็นมวยไว้ด้านหลัง เผยให้เห็นลำคอขาวผ่อง
ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนสวยมากมาย แต่ทว่ามีความน่ามองอย่างประหลาด เธอแต่งตัวไม่มากไม่น้อย แต่ดูเหมาะกับบุคลิกของตัวเอง
“ทราบจากคุณกวีแล้ว แต่คิดว่าคุณน่ามีสิทธิพิเศษ”
“น่าจะเป็นการเข้าใจผิดอะไรรึเปล่าค่ะ”
“ก็ไม่แน่”
“เอ่อ คุณจะสื่อถึงอะไรกันแน่ค่ะ พูดมาตามตรงดีกว่าค่ะ”
“เปล่า แค่จะบอกว่า
ดีใจนะที่ได้เพื่อนร่วมงานขยันขันแข็งอย่างคุณนับว่าเป็นความโชคดีของบริษัทเราเชียวล่ะ”
ดวงตาคมกริบที่มองมายังหญิงสาว รอยยิ้มนั่น อรจิราไม่อยากคิดว่าเค้าเอ่ยออกมาอย่างจริงใจ
“คุณอารดา ประชุมวันนั้นยังตัดสินใจแทนคุณไม่ได้เรื่องหุ้น”
เค้าเอ่ยขึ้นถึงเรื่องที่ทำให้หญิงสาวมองสบตาเขาอย่างสนใจ
“ไม่ทราบว่าคุณคิดจะถอนหุ้นคืนริเปล่า”
ร่างสูงๆของเค้าค่อยๆเดินมาใกล้อรจิรา
แม้ว่าหญิงสาวจะลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับเค้า เนื้อผ้าเบาพลิ้วสีสวนไม่ได้ทำให้เรือนร่างกลมกลึงของเธอลดความน่ามองไปได้เลย
“ไม่หรอกค่ะ”
“ไม่ทราบว่าอะไรทำให้คุณคิดแบบนั้น”
เธอถามพร้อมกับมองสบตาเค้าอย่างไม่สะทกสะท้าน
“อือ นั่นสิเพราะน้องชายของชั้นตายแล้วมั่ง”
นัยน์ตาคมเข้มของเค้ามองเธอตรงๆอย่างค้นคว้าอยากรู้สึกเข้าไปในหัวใจเธอ ใต้ดวงตาสวยหวานอย่างนี้เธอซ่อนอะไรไว้นะ
“ไม่ทราบว่าเกี่ยวอะไรกับคุณนัท”
หญิงสาวมองสบตาคมคู่นั้น ทำเจ้าของดวงตาได้แต่แปลกใจนักว่าไฉนถึงตีหน้าเป็นผู้บริสุทธิ์ได้ถึงเพียงนี้ สีหน้าและแววตาของเธอทำให้เค้า
รู้สึกว่าไม่ได้รู้สึกผิดเลย ในการจากไปของนัท ทำราวกับว่าเธอไม่ได้มีส่วนทำให้เขาจากไป
“เพราะไม่มีนัท ชั้นเข้ามานั่งทำงานแทนเขา”
เค้าหยุดพูดแล้วมองสบตาหญิงสาวอีกครั้ง
“ชั้นกับเขาไม่เหมือนกัน อะไรๆมันอาจเปลี่ยนไปได้”
เค้าไม่ได้ขยายความ
“ดิฉันยังไม่มีความคิดที่จะถอนหุ้นตอนนี้ค่ะ”
เธอบอกด้วยน้ำเสียงมั่นคง
นภัสนั้นยังไม่รู้นิสัยใจคอของอรจิรา ว่าเป็นคนอย่างไรเธอเป็นคนไม่ยอมคนง่ายๆยิ่งคนที่ทำท่าดูแคลนเธอตั้งแต่แรกพบด้วยแล้ว เธอจะไม่ยอมลง
ให้ง่ายๆเป็นอันขาด ไม่ว่าคนๆนั้นจะเป็นใคร
“ถ้าอย่างนั้นก็ขอแสดงความยินดีด้วย ที่จะได้ร่วมงานกับคุณอีก”
นภัสยื่นมือมาตรงหน้า ประกายตาคมในดวงตาเค้า ทำให้หญิงสาวอึ้งนิ่งไปแล้ว เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่า
“ดิฉันเป็นคนไทยค่ะ แล้วก็ค่อนข้างเคร่งครัด ในธรรมเนียมไทยๆค่ะ”
เธอพูดจบก็เดินมาที่โต๊ะทำงาน และทำเหมือนกับหมดเรื่องที่จะสนทนากับเค้าเพียงเท่านั้น
อรจิรานั่งคิดถึงสิ่งที่ผู้ถือหุ้นใหญ่พูด เธอคิดว่านภัสคงจะเข้าใจว่าเธอเป็นสาเหตุทำให้เพื่อนรักเสียชีวิต
อรจิรามองร่างสูงอย่างใจเหม่อลอย
“อื้มมมมมม”
นัยน์ตาคมที่เค้ามองเธอ ที่นั่งงงอย่างสำรวจตรวจตรานั้น ทำให้หญิงสาวเชิดหน้าขึ้นทันทีเช่นกัน
“ต้องขอโทษที่ทำให้ตกใจ”
นภัสเอ่ยขึ้นก่อน
ร่างสูงสมาร์ท ภายในชุดทำงานเรียบกริบที่บอกถึงความเป็นคนมีรสนิยมดีเข้ามายืนอยู่กลางห้อง
“สวัสดีค่ะ คุณ..เอ่อ”
“นภัส เป็นพี่ของ นายนัท รุจิอมรกุล”
นภัส พยักหน้ารับไหว้ พร้อมพูดต่อ
“คุณคือ คุณอรจิรา”
“คะ.. ค่ะ”
อรจิราตอบร่างสูงเธอไม่รู้จะพูดอะไรก่อนหลังดี เพราะนภัส ไม่เปิดช่องให้เอ่ยคำใดๆทั้งสิ้น
“ความจริงคุณเป็นหุ้นส่วนคนนึง ไม่น่าต้องมาทำงานเช้าแบบนี้”
น้ำเสียงของเค้า ไม่ได้บอกความจริงใจเลย
“ดิฉันก็มาเวลาเดียวกันแบบนี้ทุกวันเหมือนพนักงานทั่วไปค่ะ”
เธอบอกด้วยน้ำเสียงเรียบ น้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำทีเดียว
“นายนัท ไปรับไปส่งล่ะซิ”
ร่างสูงถามเธออย่างไม่ต้องการคำตอบ
รอยยิ้มระยับจุดประกายชึ้น ในดวงตาของนภัส เมื่อมองมายังร่างบาง
อรจิราหันมองค้อนร่างสูง เธอรู้สึกว่านภัสจะตั้งใจพูดประชดเธอตั้งแต่เข้ามาในห้องนี้แล้ว
“ดิฉันขับรถไป-กลับเองทุกวันค่ะ”
เธอตอบเสียงแข็ง
.....................
นภัส ทำหน้ายิ้มมุมปาก
วันนี้เธอสวมชุดสีม่วงคราม ทำให้เธอดูสวยน่ามองอย่างประหลาดทั้งๆที่ชุดที่เธอสวมใส่อยู่เป็นชุดเรียบๆแต่ทว่ามีความหรูอยู่ที่เนื้อผ้าใบหน้า
เรียวสวยใสด้วยการแต่งแต้มสีสันบางเบา กลมกลืนกับผมยาวดำขลับพันทบเป็นมวยไว้ด้านหลัง เผยให้เห็นลำคอขาวผ่อง
ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนสวยมากมาย แต่ทว่ามีความน่ามองอย่างประหลาด เธอแต่งตัวไม่มากไม่น้อย แต่ดูเหมาะกับบุคลิกของตัวเอง
“ทราบจากคุณกวีแล้ว แต่คิดว่าคุณน่ามีสิทธิพิเศษ”
“น่าจะเป็นการเข้าใจผิดอะไรรึเปล่าค่ะ”
“ก็ไม่แน่”
“เอ่อ คุณจะสื่อถึงอะไรกันแน่ค่ะ พูดมาตามตรงดีกว่าค่ะ”
“เปล่า แค่จะบอกว่า
ดีใจนะที่ได้เพื่อนร่วมงานขยันขันแข็งอย่างคุณนับว่าเป็นความโชคดีของบริษัทเราเชียวล่ะ”
ดวงตาคมกริบที่มองมายังหญิงสาว รอยยิ้มนั่น อรจิราไม่อยากคิดว่าเค้าเอ่ยออกมาอย่างจริงใจ
“คุณอารดา ประชุมวันนั้นยังตัดสินใจแทนคุณไม่ได้เรื่องหุ้น”
เค้าเอ่ยขึ้นถึงเรื่องที่ทำให้หญิงสาวมองสบตาเขาอย่างสนใจ
“ไม่ทราบว่าคุณคิดจะถอนหุ้นคืนริเปล่า”
ร่างสูงๆของเค้าค่อยๆเดินมาใกล้อรจิรา
แม้ว่าหญิงสาวจะลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับเค้า เนื้อผ้าเบาพลิ้วสีสวนไม่ได้ทำให้เรือนร่างกลมกลึงของเธอลดความน่ามองไปได้เลย
“ไม่หรอกค่ะ”
“ไม่ทราบว่าอะไรทำให้คุณคิดแบบนั้น”
เธอถามพร้อมกับมองสบตาเค้าอย่างไม่สะทกสะท้าน
“อือ นั่นสิเพราะน้องชายของชั้นตายแล้วมั่ง”
นัยน์ตาคมเข้มของเค้ามองเธอตรงๆอย่างค้นคว้าอยากรู้สึกเข้าไปในหัวใจเธอ ใต้ดวงตาสวยหวานอย่างนี้เธอซ่อนอะไรไว้นะ
“ไม่ทราบว่าเกี่ยวอะไรกับคุณนัท”
หญิงสาวมองสบตาคมคู่นั้น ทำเจ้าของดวงตาได้แต่แปลกใจนักว่าไฉนถึงตีหน้าเป็นผู้บริสุทธิ์ได้ถึงเพียงนี้ สีหน้าและแววตาของเธอทำให้เค้า
รู้สึกว่าไม่ได้รู้สึกผิดเลย ในการจากไปของนัท ทำราวกับว่าเธอไม่ได้มีส่วนทำให้เขาจากไป
“เพราะไม่มีนัท ชั้นเข้ามานั่งทำงานแทนเขา”
เค้าหยุดพูดแล้วมองสบตาหญิงสาวอีกครั้ง
“ชั้นกับเขาไม่เหมือนกัน อะไรๆมันอาจเปลี่ยนไปได้”
เค้าไม่ได้ขยายความ
“ดิฉันยังไม่มีความคิดที่จะถอนหุ้นตอนนี้ค่ะ”
เธอบอกด้วยน้ำเสียงมั่นคง
นภัสนั้นยังไม่รู้นิสัยใจคอของอรจิรา ว่าเป็นคนอย่างไรเธอเป็นคนไม่ยอมคนง่ายๆยิ่งคนที่ทำท่าดูแคลนเธอตั้งแต่แรกพบด้วยแล้ว เธอจะไม่ยอมลง
ให้ง่ายๆเป็นอันขาด ไม่ว่าคนๆนั้นจะเป็นใคร
“ถ้าอย่างนั้นก็ขอแสดงความยินดีด้วย ที่จะได้ร่วมงานกับคุณอีก”
นภัสยื่นมือมาตรงหน้า ประกายตาคมในดวงตาเค้า ทำให้หญิงสาวอึ้งนิ่งไปแล้ว เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่า
“ดิฉันเป็นคนไทยค่ะ แล้วก็ค่อนข้างเคร่งครัด ในธรรมเนียมไทยๆค่ะ”
เธอพูดจบก็เดินมาที่โต๊ะทำงาน และทำเหมือนกับหมดเรื่องที่จะสนทนากับเค้าเพียงเท่านั้น
อรจิรานั่งคิดถึงสิ่งที่ผู้ถือหุ้นใหญ่พูด เธอคิดว่านภัสคงจะเข้าใจว่าเธอเป็นสาเหตุทำให้เพื่อนรักเสียชีวิต
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น