ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ป่วนใจ...รัก yuri

    ลำดับตอนที่ #2 : ป่วนใจ...รัก 2

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.ค. 54


    “ขี่รถให้มันตรงๆหน่อยสิคุณ เดี๋ยวก็ล้มหรอก”


    “ไม่ล้มหรอกน่า เชื่อฝีมือพี่สิ น้องเอ้ย”


    ราคาคุยของคนกรุงเทพ ภาวิดาแบะปาก


    “ถนนที่นี่กันดารจังเลยแหะ ขรุขระ เป็นหลุมเป็นบ่อ นี่ถ้าเอารถยนต์มา มีหวังได้กลับไปยกช่วง


    ล่างกันทั้งแผงแน่ๆ”


    “มีรถขับด้วยหรือ ทำไมไม่ขับมาล่ะ”


    หญิงสาวถามเหมือนดูถูก


    “มีสิคร้าคุณ พี่มีใบขับขี่สากลด้วยน่ะ”


    “เอาไปขับขึ้นเขาดูกระเหรี่ยงหรือไง”


    “เกือบถูก”


    เค้าคุยอย่างอารมณ์ดี


    “พี่ผลัดกันขับกับเพื่อนผู้ชายขึ้นเขาไปพม่า แล้วทะลุออกไปถึงเมืองจีนเลย น้องเคยไปเที่ยว


    เมืองจีนหรือเปล่า”


    หญิงสาวบิดปาก โธ่ ..ทำมาคุย


    “คงไม่เคยล่ะสิ ฮ่าๆ”


    เค้าหัวเราะ


    “แล้วเคยไปกรุงเทพหรือเปล่า”


    แหม! ดูถูกกันจังเลยนะ เค้าไม่รู้หรือไงว่าจังหวัดนี้ก็มีสนามบิน มีห้างสรรพสินค้า มีโรงหนัง มี


    โน่นนี่นั่น ทุกสิ่งที่กรุงเทพมีที่นี่ก็มีเหมือนกัน


    “กรุงเทพฯ อ่ะ ต่างจากที่นี่มากเลยน่ะ ถนนไม่เคยว่างรถเลย ไม่ว่าจะเป็นเช้า กลางวัน เย็น


    หรือว่ากลางคืนจะมีรถแล่นผ่านตลอดเวลา พี่ว่าที่นี่พอตกค่ำ ก็ไม่มีรถผ่านแล้วดูสิ ขนาดพี่ยืน


    รอตั้งนานก็ยังไม่มีผ่านสักคันเค้าคงนอนกันหมดไม่มีใครเหลืออยู่สักคน ไม่ใช่เข้ามุ้งนอนกัน


    หมดแล้วเรอะ ใช่ม่ะ”


    หล่อนเมินหน้า ก็จะออกมาทำไมล่ะ กลางคืนเป็นเวลานอน ก็ต้องนอนน่ะสิ


    “แล้วน้องนอนมุ้งหรือเปล่า”


    เค้าถามล้อๆ


    “มุ้ง”


    ภาวิดาย้อน


    “ถ้าไม่ใช่มุ้งลวด ก็มุ้งผ้า ไม่นอนในมุ้งได้ยังไง ยุงกัดตาย”


    “แล้วที่โฮมสเตย์นี่ใช้มุ้งอะไรก็ไม่รู้”


    “ทำไม มุ้งผ้านี่คุณ นอนไม่ได้หรืองัย”


    “นอนได้ แต่ไม่ค่อยชอบ หายใจไม่ค่อยออก หรือไม่ก็คงไม่ชิน”


    เอาแล้วไง นี่ชักจะยังไงซะแล้ว


    “อีกอย่างก็ไม่ค่อยชอบนอนกับเพื่อนด้วย นอนมุ้งกันคงนอนเบียดกันน่าดูอึดอัดแย่”


    “แล้วมาทำไมล่ะ”


    ภาวิดาอยากจะถามสาวเซอร์สุดห้าวคนนี้ต่อว่าใคร ที่ชวนเค้ามา


    “ก็..”


    เค้านิ่งไปนิด เหมือนคิดประดิษฐ์คำพูด


    “ก็อยากจะมาอยู่กับธรรมชาติบ้าง มาอยู่กับป่าเขา ลำธารและน้ำตก ก็คงจะสบายใจดี”


    หนี อะไรมาละซิ ดูท่าทางกะล่อนซะขนาดนี้ ภาวิดาค่อนว่าในใจ


    เชอะ......ทำเป็นรักธรรมชาติ


    “บ้านน้องอยู่ตรงไหน”


    “บอกไปก็ไม่รู้จัก”


    “งั้นไปแวะบ้านน้องก่อนก็ได้ แล้วค่อยพาพี่ไปที่โฮมสเตย์”


    เรื่องอะไรล่ะ หล่อนอยากจะผลักหลังเค้าให้หล่นลงจากจักรยานซะแล้ว


    “ฉันบอกว่า ฉันไม่ได้ชื่อน้อง”


    หญิงสาวพูดแบบถือตัว ทำเอาเค้านึกชั่งใจ


    เล่นด้วยกับยัยคนนี้ ไม่ใช่ง่ายเลยนะ


    “แล้วน้องชื่ออะไรล่ะคะ พี่จะได้เรียกถูก”


    เค้าเริ่มพูดอย่างเป็นงานเป็นการ


    “คงไม่ต้องบอกมั้ง เพราะว่าก็คงไม่ได้เจอกันอีก”


    “ใจร้ายจริง”


    เค้าบ่น


    “ไม่คิดว่าคนแถวนี้ บ้านนี้เมืองนี้จะใจร้ายใจดำ”


    “นี่คุณ”


    ภาวิดาเอ็ดเอา


    “ให้อาศัยนั่งรถมาจนถึงที่นี่แล้ว ยังจะพูดมาก โน่นไง โฮมสเตย์ที่คุณจะพักน่ะ อยู่ตรงนั้น”


    เค้ามองตามแล้วเลิกคิ้ว


    สวยเหลือเชื่อ เค้ามองถนนโรยกรวดโค้งเข้าไปภายใน ถูกประดับประดาไปด้วยพุ่มไม้ต้นเล็ก


    อวดดอกสวยงามต้อนรับผู้มาเยือน ตลอดสองข้างทาง


    เค้าได้ยินเสียงลำธารน้ำไหลด้วย คาดวาคงจะมีน้ำตกอยู่ไม่ไกลจากที่นี่


    เค้าอ้าแขนรับกระเป๋าเป้ที่ถูกทุ่มคืนมา หล่อนหายใจหอบ ในขณะที่แย่งแฮนด์ถจักรยานคืน


    กลับมา


    “เดี๋ยวก่อนสิ”


    ชล ไม่ทันได้ขอบคุณหญิงสาวแปลกหน้าเลยเมื่อเธอรีบปั่นจักรยานออกไป


    ภาวิดากลับไปยังที่พักของตน โดยมีลูกจ้างวัยกลางคนของโรงแรมออกมารับ


    “คุณวิ กลับมาซะค่ำเชียวค่ะ”


    “ไปเจอคนบ้ามา”


    “อะไรนะคะ”


    ซออู้ เงี่ยหูฟัง


    “อือ ไม่มีไรหรอกค่ะ เอ้ ว่าแต่วันนี้ที่โฮมสเตย์เรียบร้อยดีมั้ย”


    “ดีค่ะ ลูกค้าบ่นว่าอยากจะได้อาหารค่ำพร้อมนางรำทุกวัน ซอ ก็บอกไปว่า นางรำต้องเรียน


    หนังสือ จะว่างเฉพาะบางวันเท่านั้น แต่ถ้าเป็นช่วงสอบนี่จะมาไม่ได้เลย”


    “แล้วเขาว่าไงคะ”


    “เขาก็บ่นว่าอยากได้ๆ ยิ่งรู้ว่าเป็นนักเรียนยิ่ง อยากได้”


    “ลามก จริงๆ”


    ภาวิดาย่นคิ้ว


    “วิละเบื่อลูกค้าประเภทนี้ อยากจะไล่ออกไปซะวันละหลายหน แต่ก็ต้องทำใจ เพราะเราเปิด


    โรงแรม”


    “คุณวิ ก็เคยไล่ออกบ่อยไป”


    “ก็เฉพาะคนที่หยาบคายจริงๆ”


    ภาวิดานึกถึงลูกค้าบางคนที่ชอบตั้งวงดื่มเหล้า พอเมาได้ที่แล้วก็ส่งเสียงเอะอะโวยวาย ไม่


    เกรงใจคนอื่น บางทีก็ลวนลามนางรำ จนหล่อนต้องคืนเงินแล้วไล่เขาให้กลับบ้านไป


    หญิงสาวออกกฏเหล็กเด็ดขาดว่าห้ามดื่มเหล้าในโฮมสเตย์ หล่อนไม่ต้องการรายได้เล็กน้อยที่


    จะมาทำลายความสงบสุขของคนส่วนใหญ่ ดีไม่ดีถ้าเกิดมีเรื่องยิงกันตาย มันจะยิ่งแล้วกันไป


    ใหญ่


    เคยมีข่าวใหญ่พาดหัวหนังสือพิมพ์เมื่อไม่กี่วันนี้เรื่องเจ้าของร้านถูกยิงตายเกือบหมดบ้าน


    เพราะไปออกปากไล่คนเมาที่มีปืนอยู่ในมือ


    “วิ ว่ากันเอาไว้ดีกว่าแก้นะ ไม่ให้เกิดปัญหาดีกว่า จะมาตามแก้ไขปัญหากันทีหลัง”
    ……………………………………………………………………………..


    แวะไปเม้นท์ ไปทวงนิยาย ไปคุย ไปแชตกันด้าย ที่facebook ........newpa per
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×