ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แค่รู้ว่ารักกัน yuri

    ลำดับตอนที่ #1 : แค่รู้ว่ารักกัน1

    • อัปเดตล่าสุด 3 มิ.ย. 54


    ใบหน้าขาวเนียนภายในกรอบเส้นผมดำสนิท มีความงดงามจับตาทีเดียว และถ้า

    หากไม่เป็นเพราะอคติที่เธอมีต่อหญิงสาวแล้วล่ะก็ต้องยอมรับว่าบางสิ่งบางอย่างน่าค้นหา......

    “ หึ อย่างนี้ไงเล่า ถึงได้มีแต่คนมาหลงเสน่ห์หลายคนนัก”

    นภัส รุจิอมรกุล ค้อนอยู่ในใจ และหากหนึ่งในจำนวนนั้นไม่มี นัท รุจิอมรกุล น้องชายของเธอรวมอยู่ด้วยแล้วล่ะก็ เธอคงไม่เดือดร้อนแค้นใจ

    ขนาดนี้.......

    นภัส มองตามจนกระทั่งเจ้าของร่างระหงส์เดินลับหายไปในอาคารนั้นแล้วจึงถอยรถออกมา เธอขับรถไปยังจุดมุ่งหมายอย่างไม่ลังเลใจเหมือน

    ตอนแรกเลย

    ผู้ที่ออกมาต้อนรับเขาเป็นชายหนุ่ม อายุรุ่นราวเดียวกันกับน้องชายของเธอ

    “หากจำไม่ผิดคุณคือ กวี”

    นภัส ทักขึ้นก่อนอย่างจำได้ กวี เป็นเพื่อนคนหนึ่งของนัท ที่เธอเคยเห็นไปไหนมาไหนกับน้องชายช่วงก่อนที่เธอจะไปต่างประเทศ

    “ใช่ครับ พี่นภัสยังเหมือนเดิมเลยนะครับ”

    กวี ทักอย่างยินดี

    ทั้งสองทักทายกันตามมารยาทอยู่ครู่หนึ่ง นภัส ก็เป็นฝ่ายเอ่ยถึงจุดมุ่งหมายที่เธอมาพบเพื่อนสนิทของน้องชายวันนี้

    “พี่ตัดสินใจจะซื้อหุ้นส่วนที่เป็นของนายไว้ทั้งหมด”

    คำพูดแบบไม่อ้อมค้อมของอีกฝ่ายหนึ่ง ทำให้กวี อึ้งไปชั่วอึดใจนึกไม่ถึงว่าพี่สาวของเพื่อนจะตอบตกลงเงื่อนไขที่เขาเสนอไป เพราะกิจการของ

    บริษัทที่เขากับนัท ทำร่วมกันนั้น กำลังอยู่ในสถานการณ์ไม่ดีนัก ประกอบกับผู้บริหารคนหนึ่งคือนัท มาเสียชีวิตไป ทำให้ทุกอย่างชะงักงันไป

    ด้วย

    “แต่เท่าที่รู้ มีคนอื่นอีกที่มีส่วนในหุ้นของบริษัท”

    นภัส เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบ คล้ายกับไม่ได้เอาใจใส่เป็นพิเศษแต่ความจริงแล้วเธอตั้งใจฟังคำตอบของกวีอยู่

    “ครับ มีหุ้นส่วนอีกคนคือ อรจิรา ซึ่งเป็นเพื่อนคนหนึ่งของเรา”

    แปลกที่นภัสไม่ได้ยินคำตอบของ กวี ว่าหุ้นส่วนอีกคนหนึ่งนั้นเป็นคนรักของ น้องชายเธอ

    “คือตอนแรกผมกับนัททำร่วมกันสองคน แล้วอาย เอ่อ อรจิรา เธอ เป็นฝ่ายออกแบบสินค้า

    อ้อ ..อาย เป็นเพื่อนของน้องสาวผม อีกทีนึงครับ ตอนหลังนัท เขาต้องการขยายกิจการก็เลยดึง อาย มารวมหุ้นอีกด้วย”

    “เท่าที่รู้ เอ่อ นายนัท กับอรจิรา มีความสัมพันธ์กันมากกว่าการเป็นหุ้นส่วนในกิจการ”

    นภัส เอ่ยถามขึ้นอย่างแรงไปแรงมา ทำเอาคนฟังถึงกับอึ้งไปอีกครั้ง

    “ก็ทำนองนั้นล่ะครับ”

    กวี ไม่ได้ขยายความให้กระจ่างแจ่ม คำตอบของเขานั้นมีความหมายว่า นัท ต่างหากที่เป็นฝ่าย หลงรักอรจิรา


    เขาคิดว่าไหนๆ นัท ก็ตายไปแล้ว จะพูดถึงเพื่อนในทางไม่ดีอีกไปทำไมกัน

    ดังนั้นเขาจึงเสริมขึ้นอีกว่า

    “แต่ที่ผมทราบ อาย เธอไม่ได้มีความคิดที่จะขายหุ้นส่วนของเธอในตอนนี้ สำหรับผมเองก็เหมือนกัน แต่มันมีความจำเป็นมากจริงๆ ครับ”

    กวี ตอบตามตรง เขาเคยบอกเหตุผลกับพี่สาวของเพื่อนไปแล้วเพราะเหตุใดเขาจึงละมือจากงานที่เขามีส่วนก่อสร้างมันขึ้นมา

    “พี่เข้าใจนะว่า นายกำลังแต่งงานในเมื่อคนที่นายจะแต่งงานด้วยจะต้องย้ายไปอยู่ต่างประเทศ นายก็ต้องตามไปด้วย อีกอย่างหนึ่งเพราะบริษัท

    นี้มันเป็นสิ่งที่นัท รัก มันเป็นความภาคภูมิใจของเขา พี่จึงอยากรักษาเอาไว้”

    น้ำเสียงคนพูดอ่อนโยนบอกถึงความรู้สึกที่มีต่อน้องชายของเธอได้เป็นอย่างดี นัทเป็น น้องชายคนเล็กของนภัส แม้จะต่างมารดา ไม่ได้สนิท

    สนมกันมากเพราะอยู่กันละที่ นภัส มีความรักความเอาใจใส่กับน้องชายคนนี้เสมอมา


    สิ่งใดที่นัทรัก เธอจะให้มันคงอยู่ได้อย่างภาคภูมิใจและใครที่ ทำให้น้องต้องช้ำน้ำใจเขาก็ควรจะตอบแทนสิ่งนั้นกับคนๆนั้นไม่ใช่หรือ

    และแล้วนภัส ก็อดที่จะนึกย้อนไปเมื่อสองสามเดือนก่อนที่เธอโทรทางไกลมาคุยกับน้องชายเสียไม่ได้


    เขาเล่าถึงกิจการงานของบริษัทที่เขาสร้างขึ้นมา เล่าถึงเจ้าของงาน โน่นนี่นั่น ตามประสาวัยหนุ่มไฟแรง

    เขามีสิ่งหนึ่งคล้ายกับ นภัส ซึ่งเป็นสิ่งที่ถ่ายทอดมาจากบิดานั่นคือความเป็น คนสู้งาน และภูมิใจกับความสำเร็จของตัวเองนักหนา

    “แล้วก็อย่าทำงานจนลืมหา น้องสะใภ้ให้พี่ล่ะ”


    เธอบอกกับน้องชาย

    “รับรองฮะ ว่าพี่ต้องได้น้องสะใภ้แน่ แต่อย่าใจร้อนสิฮะ ผู้หญิงดีๆที่มีอะไรๆที่น่าชื่นชมนะใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆเมื่อไหรกันฮะ”

    “แล้วเราเจอเขาบ้างริยังล่ะ”

    “พี่ว่าหล่อๆอย่างนาย คงหาไม่ยากหรอก จริงไหม”

    “ก็เจอแล้วครับ แต่ว่ายังไม่แน่ใจว่าเขาจะ...”

    “เราอย่าเลือกมากนักก็แล้วกัน ไม่มีใครดีพร้อมไปเสียทุกอย่างหรอกนะ ขอเพียงแต่ว่ามีส่วนใหญ่ที่ไปกันได้กับเธอก็แล้วกัน”

    “ครับพี่ อาย เค้าดีพร้อมทุกอย่าง”

    “อ้อ ผมลืมบอกไป ว่าเขาชื่ออรจิราฮะ เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งของบริษัทด้วย”

    “ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย จะได้มีเวลาใกล้ชิดศึกษานิสัยใจคอกันมากๆไงล่ะ ชื่ออรจิรา คงสวยมากใช่ไหม”

    “ฮะ อาย เค้า ทั้งสวยทั้งเก่งเลยฮะ”

    น้ำเสียงที่บอกถึงความชื่นชมในตัวผู้หญิงคนนั้นยังคงดังก้องอยู่ในความทรงจำของนภัส และครั้งนั้นเธอก็พลอยมีความสุขใจไปด้วย

    แต่ไม่นาน เธอก็ได้ข่าวร้ายว่านัท เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์

    “ถ้าหากเขาไม่ทะเลาะกับแฟนสาว......ก็คงไม่ตาย”

    คำบอกเล่าของน้าน้ำ ทำเธอ อึ้งไป

    น้าน้ำเป็นภรรยาคนหนึ่งของบิดาเธอซึ่ง มีลูกสาวคือ นท และ นัท

    “แม่คะ ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะคะแม่”

    นท ผู้เป็นพี่สาวของนัท ท้วงขึ้น

    “ทำไมจะพูดไม่ได้ล่ะ ในเมื่อเป็นเรื่องจริง หากไม่ทะเลาะกับแม่ผู้หญิงคนนั้น นัทคงไม่ตาย”

    น้าน้ำ พูดซ้ำๆอยู่อย่างนั้น เธอรู้ว่าแม่เลี้ยงรักลูกชายคนเล็กมากแค่ไหน จึงทำให้เป็นที่เจ็บแค้นแทนลูกชายด้วย

    นภัส เองก็เป็นเพียงพี่สาวต่างมารดา ก็ยังนึกชิงชังและสงสัยอยู่ในใจว่า น้องชายของเธอ กับแม่ อรจิราคนนั้นมีเรื่องอะไรกัน ถึงได้เป็นสาเหตุ

    ให้มีอันเป็นไปอย่างนี้

    ซึ่งเรื่องนี้เธอต้องหาคำตอบให้ได้ และเจ้าหล่อนผู้นั้นไม่ใช่หรือที่จะต้องเป็นคนให้คำตอบกับเธอ

    deleted
    aoom_rak@hotmail.com deleted
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×