ตอนที่ 2 : ตอนที่ 2
ตอนที่2
#ชิงชังแจยง
แทยงเดินเข้าไปยังโรงยิมขนาดใหญ่เบื้องหน้า พบว่าเพื่อนร่วมชั้นเรียนกำลังนั่งเรียงกันอยู่เป็นแถว มองเห็นโดยองที่โบกมือให้ รีบปรับสีหน้าให้ปกติก่อนเดินเข้าไปนั่งลงข้างเพื่อนสนิท หันไปมองที่ประตูพบว่าแจฮยอนกำลังเดินตามเข้ามา ใครอีกคนหันสบตา แทยงเบือนหน้าหนี เพียงเห็นหน้าเขาก็นึกเกลียดจนไม่รู้ว่าจะเกลียดยังไงแล้ว รอมีโอกาสเอาคืนได้เมื่อไหร่ เขาจะทบทั้งต้นทั้งดอกเลยคอยดูเถอะ คนแบบแจฮยอนจะต้องคุกเข่ากอดขาอ้อนวอนเขาสักวัน
“วันแรกโหนบาร์ฆ่าเวลาไปก่อน แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยเริ่มจริงจัง” อาจารย์ผู้สอนพูดขึ้น ขนาดครูยังหนีไม่พ้นอัลฟ่าหน้าขรึม
“แทยง”
“ครับ?”
“ออกมาทำตัวอย่างให้เพื่อนดูว่านับเซตยังไง” แทยงพยักหน้ารับ เขาลุกออกจากที่นั่ง รู้สึกเหนือกว่าเมื่อบุคคลที่อาจารย์ผู้สอนเลือกเป็นต้นแบบคือตัวเอง อย่างน้อยก็หยามหน้าแจฮยอนได้แล้วหนึ่งอย่าง ร่างกายเตรียมพร้อม เงยมองบาร์สูงที่ต้องกระโดดถึงจะคว้าจับถึง
...หมับ! .. แทยงกระโดดจับมัน เอาให้มั่นจนแน่ใจว่าได้ท่าที่เหมาะสม เขาเริ่มนับและยกตัวขึ้นลง สองขาที่ลอยหวืดอยู่บนพื้นต้องช่วยเกรงเพื่อลดอาการเหนื่อยของแขน อากาศค่อนข้างร้อน เหงื่อของเขาไหลซึมตามไรผม เนื้อตัวแทบจะเปียกโชก เพื่อนในห้องนั่งนิ่ง เฝ้ามองอย่างสนใจอย่างกับถูกต้องมนตร์ ขนาดโดยองเพื่อนสนิทยังเผลอกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ เอาเข้าจริงพวกอัลฟ่าที่ภายนอกสวยน่ารักกว่าพวกโอเมก้าก็มีเยอะมาก เดินเกลื่อนโรงเรียนไปหมด แต่แทยงให้ความรู้สึกแตกต่าง ดูดึงดูดอย่างน่าประหลาด ถึงแม้ท้ายที่สุดแทยงจะหัวเราะและปล่อยมือลงจากบาร์ ยิ้มแห้งพร้อมบอกว่าแรงจะหมดแล้ว
“โอเค คนอื่นแยกย้ายไปทำเลย...นับเซตตามนี้ แล้วท้ายชั่วโมงมารายงานด้วยว่าได้กี่เซต” อาจารย์ออกคำสั่งหลังจากที่ทั้งห้องเงียบกันอยู่นาน อัลฟ่าหนุ่มทั้งหลายอย่างลุกขึ้นยืน จับจองบาร์แต่ละอันที่สามารถโหนด้วยกันได้สองคน
“มึงเล่นก่อนเลย กูขออู้ก่อน” โดยองขอผลัด แผ่ตัวนอนลงบนพื้นและมองแทยงที่เริ่มจริงจังต่อการฝึกอีกครั้ง เขามองเพื่อนสนิท แทยงนับว่าดูดีมากขนาดตัวเขายังต้องยอมรับ บอกไม่ถูกเหมือนกัน ออร่าไอ้พวกทรูอัลฟ่านี่มันรุนแรงเสียจริง ทำอะไรก็น่ามอง อย่างเช่นในตอนนี้ที่โดยองเผลอนั่งเหม่อไล่มองตั้งแต่เรียวขาขาว ลำคอระหงที่ชื้นด้วยเหงื่อ และปากอิ่มสีอ่อน บวกกับแผงขนตาที่ชัดเจนและงอนได้รูป หากตัดเรื่องทรงผม กลิ่นของอัลฟ่าบนตัวของแทยงที่ชัดเจนจนคลุ้ง และท่าทางแสนห้าวออกไป
คงต้องยอมรับว่าแทยงน่าลิ้มลองมากกว่าพวกโอเมก้าบางคนเสียอีก
โดยองลองหลับตา เขาสูดกลิ่นของแทยงที่ลอยอยู่ตามอากาศ
กลิ่นของอัลฟ่าชัดเจนมาก หากแต่ในครั้งนี้กลับมีกลิ่นหอมอ่อนของบางอย่างที่ลอยปนออกมา
มันแผ่วเบา แสนระเหยแทบไม่มีตัวตน หากแต่กลิ่นเพียงนิดของมันกลับเรียกความสนใจจากโดยองได้
“มูเก็ตโต้ ที่สวนหลังโรงเรียนเอาดอกมูเก็ตโต้มาลงใหม่เหรอ”
“อะไรของมึง” แทยงปล่อยมือออกจากบาร์ ย่อตัวพร้อมมองเพื่อนสนิทที่กำลังนั่งเหมือนคุยอยู่กับตัวเอง อากาศก็ยิ่งร้อนเขาโคตรหงุดหงิด คว้าขวดน้ำมากระดกเข้าปากพร้อมทิ้งตัวนั่งลงข้างโดยอง
“กูได้กลิ่นมูเก็ตโต้อ่ะ รู้จักไหม...ดอกไม้สีขาวอันเล็กๆ ที่ชอบอยู่ในงานแต่ง”
“อืมหอมดี เมื่อวานเห็นอาจารย์เอามาลงที่สวนแหละ” แทยงตอบไป ดูท่าทางโดยองจะชอบมันมากเพราะชวนแทยงให้พาไปดูด้วย นั่งคุยเรื่องไร้สาระกันต่ออีกพักใหญ่ถึงเวลาที่อาจารย์เรียกรวม แทยงกำลังหัวเราะอยู่กับโดยองก็ต้องหุบยิ้มลงเมื่อพบว่ามีใครบางคนกำลังจ้องมอง เขาหันไปสบตาแจฮยอน
ชูนิ้วกลางส่งให้มัน
แถมยังโคตรสะใจเมื่อพบว่าแจฮยอนไม่สามารถโต้ตอบอะไรคืนได้
“ไปกินข้าวกัน” โดยองร้องขึ้น คว้ากอดคอของแทยงหลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้ากลับคืนสู่ชุดนักเรียนเรียบร้อย นั่งกินข้าวอยู่ด้วยกันสองคนพบว่าโต๊ะด้านข้างคือกลุ่มของแจมินไอ้หัวหน้าห้องตัวแสบ พวกนั้นทำเรื่องยุ่งกันอีกแล้ว คราวนี้โดยองส่ายหน้าเมื่อพบว่าแจมินแอบไปเด็ดดอกไม้จากสวนของโรงเรียนมา
“มึงไปขโมยดอกไม้เขามาหรอได้มิน” โดยองตะโกนท้วงข้ามโต๊ะ ทางหัวหน้าห้องรีบวิ่งเข้ามาปิดปาก
“อย่าเสียงดังดิเดี๋ยวอาจารย์ด่ากู”
“แล้วมึงไปเด็ดของเขามาทำไมเล่า”
“ก็มันหอมนี่หว่า มึงดูดิ...กูจะเอาไปปลูกที่บ้าน” ดอกไม้ที่แจมินกำลังอวดก็คือไอ้ดอกเมื่อเช้าที่โดยองได้กลิ่น ไม่แปลกที่พวกเขาจะหลงใหล ว่ายังไงดี มูเก็ตโต้หรือลิลลี่ออฟเดอะวัลเล่ย์ เป็นดอกไม้ในงานแต่ง ดอกเล็กสีขาวแต่กลิ่นกลับหอมชวนหลงใหล กลิ่นบริสุทธิ์แต่กลับเชื้อเชิญให้อยากแตะต้อง เย้ายวนให้อยากดอมดม ทั้งนี้ทั้งนั้นไอ้ดอกไม้นี้ยังถูกเอาไปทำเป็นน้ำหอมฟีโรโมนเลียนแบบของโอเมก้า ราคาแพงมากแบบหูฉีก นั่นเพราะในชีวิตจริงมีโอเมก้าแทบจะหนึ่งในล้านที่จะมีกลิ่นนี้เป็นกลิ่นประจำกาย
“เออแฟนไอ้แจฮยอน น้องเตนล์ๆ ...เขาลือกันว่า กลิ่นน้องก็เป็นกลิ่นดอกไม้เหมือนกัน ยิ่งตอนฮีทนะมึง..ฮึ่ม”
“กูว่ามึงหื่นแล้วหละไอ้แจมิน” โดยองหัวเราะ นับวันพวกมันยิ่งดูคลั่งรักเตนล์จนเกินหน้าเกินตา
“อิจฉาไอ้แจฮยอนมันเนอะ ได้เมียแต่ละคนนี่มีแต่แบบ...”
“มึงเลิกพูดถึงมันสักที ขอร้อง!” หากแต่แทยงตวาดขึ้นอีกครั้ง เจอแบบนี้แจมินยิ้มแห้ง ถ้าไม่รู้มาก่อนหน้าว่าไม่ถูกกันเขาก็คงจะอดคิดไม่ได้แล้วหละว่าแทยงกำลังหึงแจฮยอนอยู่ พูดเรื่องเตนล์กับแจฮยอนทีไรเห็นหัวร้อนตลอด กว่าจะกลับมานิ่งได้หน้าตาของแทยงก็บึ้งตึง โดยองส่ายหน้า แจมินก็ชอบกวนประสาท แทยงก็ยิ่งอารมณ์ติดไวเสียด้วย
“เออไอ้โดยอง”
“ว่า?” ถามทั้งมองหน้าแทยง
“พรุ่งนี้กูอาจไม่มาเรียนนะ มึงก็ไปกินข้าวกับพวกไอ้แจมินแล้วกัน”
“อ้าว มึงจะไปไหน”
“ก็หาหมอไง...บางทีแม่ง พออีกวันกูชอบป่วยอ่ะ” ได้ยินแบบนี้โดยองพยักหน้ารับ เขาชินแล้วกับการที่แทยงต้องหยุดเรียนเพราะเรื่องอาการป่วย บางครั้งโดยองก็แอบกลัวนะ กลัวว่ามันจะฆ่าตัวตาย กลัวว่าวันต่อมาจะไม่มีเพื่อนที่ชื่อแทยงอีกแล้ว...
................................
“รอบนี้หมอต้องเพิ่มความแรงของยาอีกแล้ว คุณพ่อกับคุณแม่โอเคไหมครับ”
“ครับ ผมไม่มีปัญหา”
“แต่ว่าตัวน้อง...”
“แค่รักษาเขาต่อไปก็พอ” แทยงได้ยินทุกประโยค เขานั่งอยู่ภายในห้องที่ถูกทำขึ้นเพื่อนรักษาตัวของเขาโดยเฉพาะ คุณหมอกำลังปรึกษาพ่อกับแม่ของแทยง คนตรงนี้นั่งมองพื้น น้ำตาของแทยงล่วงแหมะ
เขาเหมือนตัวปัญหา
เขาไม่อยากเป็นแบบนี้...
เข็มขนาดใหญ่จ่อติดที่แขนขาว กลิ่นแอลกอฮล์ถูกเช็ดลง ก่อนที่แทยงจะหลับตาแน่นเมื่ออาการเจ็บจี๊ดคือสิ่งที่ได้รับ มันปวดหนึบ ฤทธิ์ของยาแรงมากขึ้นทุกวัน หัวใจของเขาเต้นรัว หอบหนักจนหมอต้องพยุงให้ไปนอนลงบนเตียง แทยงกุมหัว เขาเหมือนคนระบมทุกส่วน มันทรมานมากกว่าที่คิด เขาอยากจะตายไปซะนี่คือความคิดในส่วนลึก
ฝ่ายคนเป็นแม่กำลังเฝ้ามอง เธอร้องไห้
ภาพของลูกชายที่อยู่ตรงหน้าสร้างความปวดหนึบ
....................
แจฮยอนกระวนกระวาย เดินวนไปมาในห้องอย่างคนไร้สมาธิ เขาไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่ไม่มีสาเหตุแต่ในหัวใจกลับรู้สึกเศร้าอย่างน่าประหลาด ชายร่างสูงถอนหายใจ หนังในหน้าจอทีวีไม่ได้น่าสนใจเลยด้วยซ้ำ แปลกเสียจนคนตัวเล็กในอ้อมแขนต้องเงยหน้ามอง มือเล็กจับสองแก้มเนียนของแจฮยอน
“พี่ครับ เป็นอะไรเหรอ” เตนล์ส่งเสียงถาม วันนี้ดูแจฮยอนไม่มีสมาธิเอาเสียเลย
“เหมือนไม่สบายนิดหน่อย แต่ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก”
“จริงหรอ ผมเป็นห่วงนะ”
“จริงสิครับ อย่าคิดมากเลย พี่ไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ” แจฮยอนยิ้มให้ กระชับกอดคนในอ้อมแขนพลางสูดดมกลิ่นหอมประจำกายของใครอีกคน เขากดจูบลงบนกลีบปากอิ่ม เล็มเลียดูดดึงก่อนจะผละออกแล้วส่งยิ้มให้
“วันนี้พี่ขอกลับก่อนนะ ว่าจะกลับไปทำการบ้านต่อ”
“อะไรอ่า เพิ่งจะสองทุ่มเอง...แล้วไม่ค้างกับผมเหรอ” เตนล์ถามขึ้นอีก ทำหน้าหงอยพลางกระชับกอด ทางแจฮยอนทำเจ้าเล่ห์
“ค้างอะไร เราเลยช่วงฮีทมาแล้วนะ...หรือว่า....”
“บ้าสิ...แค่นอนกอดกันเฉยๆ ก็ได้นี่ คิดแต่เรื่องแบบนั้นตลอดเลยนะ” ดุไปงั้น แต่ถ้าแจฮยอนจะทำจริงมีหรือใครจะปฏิเสธได้
“ค้างไม่ได้จริงๆ ช่วงนี้งานที่โรงเรียนเยอะมาก” แจฮยอนพูดปลอบ กดจูบลงบนกลุ่มผมนุ่มก่อนจะผละตัวออก เขาเดินไปคว้ากุญแจรถ หยิบเสื้อโค๊ทตัวนอกมาสวมทับ เดินลงมาจากห้องชุดสุดหรูซึ่งเป็นที่พักของคนตัวเล็ก รถยนต์คันดำเงาจอดอยู่ชั้นใต้ดิน ตอนนี้เพิ่งจะสองทุ่ม แจฮยอนกลับเร็วจริงเพราะตามปกติเขามักจะขลุกอยู่กับเตนล์ทั้งคืน
ตลอดการขับรถดวงตาคู่คมมองเหม่อ
ในหัวของเขามีแต่ภาพของใครบางคนอยู่เต็มไปหมด
...ตั้งแต่ผ่านวันเกิดตอนอายุสิบแปดมา หลายครั้งที่แจฮยอนมักจะมีความรู้สึกบางอย่างแวบเข้ามาแบบไร้สาเหตุ
หรือว่าเขาล้อแทยงว่าบ้าบ่อยเกินไป จนตอนนี้กรรมตามทันจนจะกลายเป็นบ้าเอง...
................................
แทยงหยุดโรงเรียนไปหนึ่งวันตามที่ได้บอกโดยองไว้ ก่อนจะกลับมาอีกครั้งในวันที่ทางโรงเรียนมีนัดตรวจสุขภาพประจำปี ใบรับรองแพทย์แทบจะเป็นเหมือนพาสปอร์ตที่พวกเขาต้องพก พวกเราตรวจร่างกายกันบ่อยมาก นั่นเพื่อกันการกลายพันธ์ไปเป็นเพศสภาพอื่น ถึงแม้โอกาสจะเกิดขึ้นได้น้อย แต่บางครั้งก็มี ยิ่งกับพวกเด็กมอต้นยิ่งน่าห่วง พวกนั้นยังโตไม่เต็มวัย แต่สำหรับพวกชั้นปีสุดท้ายอย่างพวกเขาคือหายห่วง เข้าสิบแปดมาได้ ก็คือไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแล้วหละ
โดยองเดินเข้าห้องตรวจไปแล้ว
ทางสะดวกสำหรับการจะเข้าไปปั่นประสาทแทยง
“ถ้าตรวจเจอว่าเป็นโอเมก้าขึ้นมาจะทำไงหละเนี่ย งี้ก็อดแข่งกับกูเลยสิ” แจฮยอนยียวน ทางคนฟังขมวดคิ้ว
“มึงน่ะสิ เอาไว้ล้อแม่มึงเถอะ”
“ทำเป็นอวดดี ไอ้เด็กโรคจิตขี้แย” คำด่าของแจฮยอนแรงอยู่แล้วแทยงไม่ได้ประหลาดใจ นอกเหนือไปกว่านั้นมาร์คและยูตะยังยืนคอยคุมต้นทางให้เพื่อกันอาจารย์อาจจะเข้ามาเจอ แทยงจ้องแจฮยอนนิ่ง
..ปึก..!
“โอ้ย!” กระทืบเท้าลงบนเท้าของแจฮยอนจนคนตัวสูงร้องลั่น เป็นจังหวะเดียวกับที่นายแพทย์ในห้องเรียก แทยงเดินหนีเข้าห้องแถมไม่ลืมจะแลบลิ้นเยาะเย้ย แจฮยอนแสนคับแค้น หันไปมองมาร์คและยูตะพบว่าสองคนนั้นหัวเราะคิกคัก
“สรุปพวกมึงอยู่ฝั่งใครกันแน่!” แจฮยอนหัวเสีย เขาเดินหงุดหงิดไปห้องน้ำเพราะแทยงเล่นซะรองเท้าเขาเปื้อน กว่าจะทำธุระเสร็จนานพอสมควร คงจะถึงคิวตรวจของเขาพอดีนั่นทำให้แจฮยอนรีบวิ่ง เขาลัดเข้าอีกทาง
แต่ระหว่างนี้ได้ยินเสียงแว่วออกมาจากในห้อง
ทางเส้นนี้คือเส้นที่ผ่านด้านหลังของห้องพยาบาล แจฮยอนหยุดเดิน เขาย่องไปที่ประตู มองลอดผ่านช่องเล็ก
...ก่อนคิ้วจะขมวด เมื่อพบว่าแทยงได้รับใบรับรองแพทย์ ทั้งที่ยังไม่ได้รับการเจาะเลือดไปตรวจเลยด้วยซ้ำ
และหมอคนนั้น ใช้สำลีปิดที่ต้นแขนของแทยง ทำเหมือนว่าเจาะเข็มเอาเลือดออกมาแล้ว ทั้งที่ยังไม่ได้ทำ...
แจฮยอนยิ้มมุมปาก ดูเหมือนจะมีเรื่องสนุกให้ได้แกล้งคนอีกแล้ว
# # # # # # #
อย่าทำลูกฉันน
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

24 ความคิดเห็น
-
#15 zzz49 (จากตอนที่ 2)วันที่ 23 มิถุนายน 2563 / 11:09ยัยแจนอย่าร้ายกับน้องง#150
-
#12 Iiiiiii (จากตอนที่ 2)วันที่ 15 มิถุนายน 2563 / 07:44พึ่งมาอ่านสนุกมากกกกกทำไมฉันพึ่งเจอออ#120
-
#2 LuckyD88 (จากตอนที่ 2)วันที่ 23 พฤษภาคม 2563 / 23:07แจฮยอนนนน สงสารน้องบ้างงงง#20