ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ✖ Death kid แก๊งซ่า วงดนตรีแสบ ✖

    ลำดับตอนที่ #15 : Chapter 6 : Casanova sensei! อาจารย์จอมเจ้าชู้

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 554
      1
      23 ก.ค. 54

          Chapter 6 : Casanova senpai! อาจารย์จอมเจ้าชู้

               

                เดี๋ยว! อิรุ! แกจะไปไหนหา! ฉันยังพูดไม่จบ!”

    ชายสูงอายุคนหนึ่งเดินกระทืบเท้าอย่างฉุนเฉียว ตะโกนเรียกลูกชายอย่างเหลืออด เจ้าลูกคนนี้นี่มันเลี้ยงเสียข้าวสุกเสียจริง! วันๆ หนึ่งได้แต่ทำตัวเป็นเพลย์บอยเที่ยวไปทั่ว แถมยังไม่ยอมรับช่วงต่อบริษัทจากเขาอีก!

                ผมจะไป! ไปจากบ้านหลังนี้! ไปจากพ่อ! ผมเบื่อที่จะทะเลาะกับพ่อเต็มทนแล้ว!”

                อิรุตอบกลับมา ตอนนี้เขาเองก็โกรธไม่แพ้ผู้เป็นพ่อ เขาไม่อยากรับช่วงต่อบริษัทของพ่อ เขาแค่อยากมีชีวิตเป็นของตนเอง ตอนนี้เขาเองก็โตแล้ว... ทำไมพ่อถึงยังมาบงการชีวิตเขาอีกนะ น่าเจ็บโมโหจริง... ชายหนุ่มเดินออกจากประตูคฤหาสน์แล้วเอากระเป๋าของตนโยนขึ้นรถพร้อมสตาร์ทเครื่องยนต์ทันที.. ตอนนี้คำด่าทอของผู้เป็นพ่อเป็นเพียงลมผ่านหูเท่านั้น

                แก! ไอ้ลูกไร้ค่า! ไอ้ลูกทรพี ไอ้ลูกชั่ว! เอ่อ! ได้เลย แกจะไปก็เชิญ!! อย่าโผล่หน้ามาให้ฉันเห็นอีก! ตอนนี้แกไม่ใช่คนในตระกูลคิซึงาโตะอีกต่อไป!!! จำไว้! แกไม่มีวันที่จะสู้แม่หรือพี่ชายของแกที่ตายไปได้! ไม่มีวัน!!!”

                บรื้นนนน!!!

                เสียงยางรถบดถนนดังสนั่นพร้อมกับเสียงฟ้าผ่าราวกับมีใครบางคนกำลังต่อสู้บนนั้นซึ่งตอนนี้มืดมิด ฝนโหมกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ลมกรรโชกแรงจนต้นไม้ในสวนเอียงแทบจะหักโค่น อิรุไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านั้น... เขากำพวงมาลัยแน่นแล้วเหยียบคันเร่งจนสุด รถที่ออกตัวอย่างแรงชนเข้าที่ประตูลูกกรงจนเปิดออก ชายหนุ่มยิ้มมุมปากอย่างพอใจในท่าทางโกรธเกรี้ยวของบิดาเมื่อท่านเห็นการกระทำของเขา สะใจชะมัด! จากนั้นก็ขับออกไปยังที่หมายใหม่... ที่ที่ไม่มีตาแก่จอมบงการ... ไม่มีบริษัทเฮงซวยนั่น... ที่ที่ซึ่ง... เหมือนคนธรรมดาเดินดินทั่วไป...

              นั่นแหละ! ชีวิตที่ฉันต้องการ!

     

                โรงเรียน เวลา 6.30 AM

                นักเรียนหันหน้าคุยกันอย่างออกรส ออกชาติ ไม่มีใครได้สนใจคำพูดของ ผอ. ในตอนนี้สักคน... พวกสาวๆพากันพูดถึงเรื่องดาราที่ออกทีวีเมื่อคืนแล้วเล่นละครจูบปากกันโชว์สด(โอ้ว! มายด์ก๊อด! =O=) ส่วนพวกผู้ชายคงหนีไม่พ้นเรื่องเกมส์ที่ออกใหม่กับนิตยาสารโป๊เล่มล่าสุดของนางเอกหนัง X หน้าใหม่ของวงการที่มีชื่อว่า ยานาโกะซัง ที่มีลีลาการโพสท่าไม่แพ้พวกรุ่นพี่...(เรทค่า!) แต่แล้วทุการกระทำของเด็กนักเรียนก็ต้องหยุดชะงักเมื่อผอ. พูดว่า...

                ขอเชิญอาจารย์ใหม่ขึ้นมากล่าวแนะนำตัวกับนักเรียน

                ผู้อำนวยการเดินถอยออกไปสองก้าวเพื่อให้อาจารย์ใหม่ของโรงเรียนมาพูดไมล์แทน ชายหนุ่มคนหนึ่งยิ้มให้ผู้อำนวยการแล้วก้าวออกมา... นักเรียนหลายคนอึ้งไปตามกัน... และไม่สามารถละสายตาจากอาจารย์คนนี้ไปได้ เขาผู้มีเรือนผมสีทองอร่ามส่องเป็นประกายเมื่อต้องแสงอาทิตย์ นัยน์ตาคมเฉียบสีอะพาไทต์ (Apatite) ผิวอมชมพูราวกับเด็กสาวเนียนละเอียด ริมฝีปากบางเฉียบดูมีเสน่ห์พูดขึ้น...

                สวัสดีท่านผู้อำนวยการ อาจารย์และนักเรียนทุกคน ผมมีชื่อว่า คิซึงาโตะ อิรุจะมาสอนศิลปะ... นักเรียนคนไหนมีเรื่องจะปรึกษาก็มาปรึกษาผมได้... โดยเฉพาะเรื่องหัวใจ

    ไม่พูดเปล่า เจ้าตัวยังชี้ไปที่อกของตนเองแล้วขยิบตาโปรยเสน่ห์ให้นักเรียนหลายคนจนมีเสียงกรี๊ดกร๊าดดังมาจากหมู่นักเรียนหญิงพร้อมกับเสียงจิ๊จ๊ะหมั่นไส้ของนักเรียนชาย มาวันแรกก็โปรยเสน่ย์ซะแล้ว! ผู้อำนวยการหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับเหงื่อที่ผุดขึ้นใบหน้าเพราะความเหนื่อยหน่ายและกำลังนึกย้อนไปว่าคิดถูกหรือผิดที่เอาเจ้าเพลย์บอยจอมหว่านเสน่ห์นี่เข้ามาสอนในโรงเรียน

     

    [ไซโตะบรรยาย]

                อ้ากกกก! ตั้งแต่เจ้าอาจารย์ใหม่นั่นย้ายมาได้ไม่กี่วัน หมอนั่นดันสอยนักเรียนไปกว่า 10 คนกับครูสาวอีก 5 คน! โอ้จอร์จจจ!! อะไรมันจะอิมพอสสิเบิลได้ขนาดนี้ =[]=! นี่เชื่อกันไหมผ่านมา 3 วันยังทำได้ขนาดนี้แล้วทั้งเทอมจะไปล่อมันทั้งโรงเรียนเลยเหรอ! ส่วนพวกผู้ชายบางส่วนสงสัยมันจะแค้นอาจารย์แกจัด ตั้งสมาคมคนเกีลยดอิรุแล้วสอนไสยศาสตร์มนต์ดพต่างๆนาๆใส่อาจารย์แก แต่ไม่ยักจะเป็นอะไร ผมเห็นยังเดินหลีสาวปรื๋ออยู่เลย -_- ไอ้พวกนี้มันเอาตำราอะไรมา มีอย่างที่ไหน เอารูปอาจารย์อิรุมาแล้วโยนตุ๊กแกพร้อมน้ำหอมเพื่อสาปให้มีกลิ่นตัว ถุย! มุขเผาพริกเผาเกลือแบบในเอ็มวีสาปแช่งพวกแย่งแฟนชาวบ้านยังมีประสิทธิภาพมากกว่าเลยมั้ง (เคยฟังด้วยหรอ =w=)

                อ๊ะ อย่าใช้สีแดงสิ จะทำให้ภาพดูร้อนนะ ต้องใช้สีฟ้าไม่ก็สีน้ำเงินสิ

                คะ... ค่ะ!! O!!”

                ขวับ!! (-_-**)

                ผมหันไปมองเพื่อนรวมห้องหญิงอีกคนที่แกล้งใส่สีภาพผิดเพื่อให้อาจารย์เจ้าเสน่ห์เดินมาดู ไอ้ดูไม่ว่า แต่จารย์ดันจับมือทำให้ดูนี่สิ มันน่าหมั้นไส้จริงๆ - -* บอกตรงๆว่าอาจารย์อิรุทำแบบนี้เกือบทุกชั่วโมง จะว่าอาจารย์ฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ ยัยพวกนั้นก็ขยันกันวาดมั่วซะจริง ผู้หญิงทั้งโรงเรียนแทบจะพิศวาสเขากันหมดแล้ว ถ้าไม่นับ...

                ไซโตะคุง วาดผิดแล้วนะ

                คงไม่ต้องบอกนะ... =w=//

                อ๋า...

                ผมหันกลับมามองภาพตัวเอง พบว่าไม่น่าบ้านั่งพิฆาตสายตาใส่เจ้าอิรุเล้ย! TOT ดันละเลงสีดำทับภาพเป็นรอยไปเรียบร้อยแล้ว ต้องเริ่มวาดใหม่หมด อยากตายยยย!!

                เซ่อชิบ...

                ฉึก!!!!!!!!!

                หึๆ... เซ่อเรอะ! หน็อย!!

                ขวับ!! ( - -)+++(- - ) ชิ้ง!!

                ผมกับเจ้ามาโอะหันมาปะทะสายตากันอย่างดุเดือด มันกลายเป็นกิจวัติประจำของมันกับผมตั้งแต่เจอหน้ากัน ถ้าวันไหนไม่มีการส่งสายตาอำมหิตหรือกัดกันจะรู้สึกเหมือนคันปากตลอดเวลา =O= นานามิจังเข้ามาห้ามไม่ให้เราสองคนฆ่ากันทางสายตาแล้วให้ผมมาแก้ภาพตัวเองต่อ จิ๊!!เดี๋ยวเจอกันนอกรอบเจ้ามาโอะ! -_-++

     อ้ากกก!!!”

    ผมยกมือทั้งสองข้างทึ่งหัวตัวเองแรงๆ ถ้าไร้ยางอายมากกว่านี้จะลงไปกลิ้งให้ฟ้าผ่าตายเลยคอยดู =[]=!! ฮืออออ.. ภาพ! ภาพที่รักจ๋า กลับมาได้มั้ย... กลับมาได้มั้ย... กลับมาเป็นลมหายใจให้กับฉัน~~ (เข้าข่ายเพลงไทย - -*)

    เกิดอะไรขึ้นเหรอ

    เจ้าอิรุเดินเข้ามาดูทางผมอย่างตื่นๆ (แกดันแหกปากอย่างกับญาติเสียแบบนั้นนี่วะ...) ผมชี้ไปที่ภาพของผมด้วยน้ำตาตกใน ตอนนี้ทะเลที่ผมวาดหลายเป็นทะเลแห่งความตายไปแล้ว ฮึกๆ

    ไซโตะใจเย็นๆ แก้สักนิดก็สวยเหมือนเดิมแล้ว

    เฮือก! ผมสะดุ้งพร้อมกับขยับตัวให้ออกห่างจากเจ้าอิรุที่ตอนนี้...ตัวมัน(เปลี่ยนสรรพนามทันที) หัวมัน อะไรที่คือมัน อยู่ใกล้กับผมมากเกินไป! ประโยคเมื่อกี้นี้ ปากของมันก็ใกล้แทบจะมางับหูผมได้มันทำให้ผมสยิวกิ้ว รู้สึกใจหวิวๆอารมณ์อยากวิ่งออกนอกห้องไปอ้วก(แต่ก็ทำไม่ได้) อาจารย์คนนี้แกเป็นผู้ชายจริงรึป่าวฟระ!?

    ไซโตะ นายโดนดีแน่มาโอะพูดขึ้น

    เจ้ามาโอะพูดอีกทีเซะ! ฉันจะโดนดีอะไรห๊ะ?”

    รอดูไปสิ ฮึเจ้ามาโอะมันยิ้มเยาะผม...

    ว๊ากกกก!

    ผมจะว๊าก มาโอะมันจะรอดูอะไร แค่อาจารย์อิรุที่นั่งทำตาปริบๆ หันสลับไปสลับมาระหว่างผมกับมาโอะแค่นี้ก็ทำให้ผมอยากจะเป็นคนไร้ยางอายมากกว่านี้แล้ววิ่งออกนอกห้องไปซะให้รู้แล้วรู้รอด

    อาจารย์อิรุคะช่วยไซโตะคุงแก้ภาพหน่อยสิคะ

    นานามิจังไปขอร้องมันแถมทำหน้าตาอ้อนใส่มันได้ไงกัน นานามิจังอย่าทำแบบนั้นใส่มัน ผมเห็นแล้วอยากจะร้องไห้...ทำไมผู้หญิงต้องทำท่าอ้อนใส่มันกันหมดด้วยเนี่ย ไม่สบอารมณ์จริงๆ

    อืม ช่วยอยู่แล้ว...มานี่สิไซโตะ

    เฮ้ย!”

    ผะ...ผม...ผม...ผม....จะร้องไห้!!! แบบว่า..มัน...เจ้าอิ....อิรุมัน...ดึงตัวผมที่เมื่อกี้ไปนั่งเบียดกับมาโอะ(เพราะความกลัว) มานั่งชิดกับอาจารย์แก ไม่พอหยิบพู่กันยัดใส่มือผม...แล้ว...แล้วก็...ก็จับมือผมด้วย T[]T

    กรี๊ดดดด ไอ้ไซโตะ ทำไมถึงถูกอาจารย์อิรุสุดหล่อจับมือกันนะ

    อิจฉาๆๆ...หมดชั่วโมงนี้เมื่อไหร่นายเจอดีแน่

    “-__-+++++”<<สายตาพิฆาต

    อะไรกันฟระ!? ผู้หญิงพวกนั้นมันเสียสติกันแล้วหรือไง...มันน่าอิจฉาตรงไหนเนี่ย แค่นี้ผมก็รู้สึกสะอิดสะเอียดจะแย่แล้ว ฮืออออ

    ไซโตะดูนะ เทคนิคในการระบายแบบที่ครูกำลังทำอยู่นี้จะทำให้.....

    ผมไม่ได้ฟังครูเลยสักนิดทำไมน่ะเหรอก็เพราะ...เสียงที่หมอนี่พูดข้างหูผมมัน...ทำให้ผมรู้สึกว่ากำลังถูกลวนลาม ทำให้ผมรู้สึกสยิวแบบสุดๆ ทำให้ผมสะอิดสะเอียดที่สุดในโลก ทำให้ผมอยากจะวิ่งออกนอกห้อง ทำให้ผมอยากจะตาย ทำให้ผมคิดว่าอาจารย์แกเป็น...เกย์!!!

    โอ้วโนววววว!! ชะตากรรมไซโตะน้อยคนนี้กำลังจะถึงฆาตแล้วชิมิค๊าาาา~~ (ได้ข่าวว่าแกเป็นผู้ชายนะ!?)

    นี่เห็นมั้ย.. หายแล้ว

    แล้วเจ้าอิรุมันก็ยิ้ม... มันยิ้มแบบเจ้าเล่ห์นะครับ! ยิ่งมันหายใจออกลมหายใจของมันยังมาโดนหน้าหูผมอีก โฮกกกกก! ไม่! ไม่! ไม่! ออด... ออดดังสิ! TOT ประกาศอะไรก็ได้! เร็วๆ! ดังสักทีสิ ด๊างงงงงงงงง!!!!!!!! (สติไปแล้ว...) อ๊ะ.. เมื่อกี้มันกระชับมือจับมือผมด้วย การี้ดดดดด~~ เดี๊ยนยังมีอนาคตอันสดใสรออยู่ ไม่สนไม้ป่าเดียวกันนะฮ้า~ ToT ปล่อยฉันป๊ายยย~ ขอร้อง~~

    อ๊ายยย~ ไม่น๊า~ เจ้าไซโตะบังอาจเกินไปแล้ว!! >O<++”

    ใช่ๆๆ!!”

    ฉันไม่ได้บังองบังอาจอะไรเลยนะ อย่ามาเหมามัวสิ! =_= เข้าใจหน่อยได้มั้ยว่ามันเข้ามาหาเอ๊งงงง!! TTOTT

    ตุ่ง~ ตุง~ ตุ๊ง~~~’

    เยส! ออดมาแล้วว้อยยย!! =O=;;

    ในที่สุดเจ้าอิรุก็ผละจากผมไปมองลำโพงที่ติดตรงมุมเพดาน ผมได้เป็นอิสระแล้ว!... ถ้าไม่นับสายตาสยดสยองนับสิบของผู้หญิงค่อนห้องนะ T_Ta

    คณะอาจารย์ทุกท่าน กรุณามาที่ห้องประชุมด้วยค่ะ คณะอาจารย์ทุกท่านกรุณามาที่ห้องประชุมด้วยค่ะ~’

    เมื่อเสียงประกาศหยุดไป อาจารย์อิรุก็บอกให้พวกเราวาดรูปให้เรียบร้อยถ้าประชุมเสร็จแล้วจะมาดู จากนั้นก็เดินออกไปท่ามกลางดวงตารูปหัวใจของนักเรียนหญิงทั้งหลาย ผมแทบจะวิ่งตัวปริวพริวไสวไปหาอีเจ๊คนประกาศซะเหลือเกินที่ช่วยผมจากการเสียความเป็นชายให้เจ้าอิรุเสียแล้ว T^T

    ทีนี้เราก็มีเรื่องต้องสะสาง!! นายอิสึบะ ไซโตะ!”

    ต๊ายตาย~ มาซะเต็มยศเลยวุ้ย~ T..T

    เมื่อสิ้นประโยคด้านบน เหล่านักเรียนผู้คลั่งไคลอาจารย์คนใหม่ก็ร่วมใจกันเอาหลอดสีมาบีบละเลงใส่ผมเละเทะจนผมต้องรีบวิ่งหนี แต่ยัยพวกนั้นก็ยังจะตามมารังควานจนต้องสวมวิญญาณนักวิ่งที่เร็วที่สุดใน 3 โลกโกยรอบห้อง หน่ำซ้ำสีที่ยัยพวกนั้นเอามาบีบใส่ผมยังไปโดนภาพชาวบ้านที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ พวกมันเลยหันมาลงที่ผมแล้วเอาจานสีร่อนใส่หน้าผมเล่น

    โอ้เย่~! สุขสนุกหรรษากับสีซะให้เต็มคราบบบบ!!!

    22.50 น.

    Butterfly Apartment

    นี่อิรุคุง จริงหรือเปล่าที่เธอย้ายจากคฤหาสน์ของคุณพ่อแล้วน่ะ

    หญิงสาวถามขึ้นเสียงหงุดหงิดเล็กน้อย ใบหน้างดงามสมกับเป็นนางแบบชื่อดังขมวดคิ้วมุ่นเมื่อชายผู้เคยร่วมรักเล่าถึงเหตุการณ์เมื่อ 2 วันก่อนให้เธอฟัง นิ้วเรียวของหล่อนลากวนที่อกกว้าง ภาพที่เธอจะได้แต่งงานกับคนๆ นี้และอยู่ดีกินดีทั้งชาติสลายลงในพริบตา

    ฮะๆ ทำไมเหรอ เธอจะเลิกกับฉันหรือไง

    อิรุถามขึ้นแล้วโอบเอวคอด แน่นอนว่าเขาพูดจี้ใจดำเต็มๆ ดวงตาสีอัญมณีมองคู่นอนด้วยสายตารู้ทันถึงเล่ห์เหลี่ยมที่ยัยนางแบบแสนดีจอมปลอมเสแสร้งทำมาโดยตลอด... แกล้งเป็นห่วงเป็นใย... แกล้งตีสนิท... เพราะเพียงแค่ชิงผลประโยชน์อยากสบายถึงขั้นเอาตัวเข้าแลก

    หล่อนทำเสียงจิ๊จ๊ะในคอเมื่อรู้ว่าโดนอ่านจริตออก มาถึงขนาดนี้คงไม่ต้องแกล้งทำให้เหนื่อยเปล่า เธอผละออกจากอิรุแล้วจัดเสื้อผ้าแต่งตัวพร้อมเดินออกไปโดยไม่พูดไม่จา แต่คงไม่ต้องถามก็รู้ว่าคงไม่โผล่หน้ามาให้เห็นแล้วล่ะ

    หลังจากเสียงกระแทกประตู ร่างโปร่งลุกจากเตียงนอนขึ้นมาเหยียดกายคลายความเมื่อยล้า เหม่อมองวิวของเมืองใหญ่ยามค่ำคืน บาร์ผับต่างๆ มีผู้คนเข้าใช้บริการมากมาย ทั้งผู้มีอิทธิพลและพวกนักศึกษาต่างพากันมาท่องเที่ยวยามราตรีอย่างคับคั่ง ขณะนั้นเองเจ้าตัวก็เหลือบไปเห็นนางแบบชื่อดังคนเดิมกำลังยืนคุยกับชายแก่ซึ่งเป็นนักธุรกิจพันล้านอยู่ด้วยท่าทางดี๊ด๊าออกนอกหน้า ราวกับเจอของเล่นใหม่อย่างไรอย่างงั้น อิรุหัวเราะคิกเล็กน้อยหลังจากส่งภาพตรงหน้าให้สื่อต่างๆ หลังจากถ่ายไม่นาน

    เขากลับมานั่งที่เตียง ครั้นดวงตาที่หลุบลงนึกถึงภาพความทรงจำเก่าๆ ที่แทรกเข้ามาอย่างกะทันหัน ก่อนจะมองไปที่มุมห้องมีแผ่นภาพๆ หนึ่งที่เขายังคงวาดไม่เสร็จ ขนาดของมันใหญ่กว่าที่สอนนักเรียนวันนี้อยู่พอสมควร เป็นภาพที่จะต้องเขียนให้สวยงามกว่าภาพอื่นที่เขาเคยทำมา...

    เผื่อเขากับพ่อจะ...

    ก็อกๆ~

    เสียงเคาะประตูเรียกอิรุให้ออกจากความคิด ผู้มาเยือนแง้มประตูเข้ามาหาพร้อมยิ้มร่าให้เขา... แน่นอน... ว่าเธอคือหนึ่งในฮาเร็มของเขาอีกคน...

    หากแต่... เธอคือเด็กนักเรียนที่เขาสอนอยู่วันนี้!!

    แหม มิโยจัง ทำไมมาช้าล่ะ ครูรอเธอจนจะหลับแล้วนะ

    เด็กสาวหัวเราะคิก เธอเดินเขามากอดคอผู้เป็นอาจารย์ราวกับคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่แต่งงานกันแล้วพร้อมชอนตาหวานหยดยั่วยวน

    ก็มิโยมัวแต่พะวงเรื่องคืนนี้น่ะสิคะ กลัวว่าอาจารย์จะ..

    พูดแค่นั้น วงแขนของร่างโปร่งคร่องเอวคอดของนักเรียนตนเองไว้พร้อมก้มลงกระซิบข้างใบหูด้วยเสียงนุ่มลึกชวนหลงใหล

    ไม่เห็นต้องพะวงเลยนี่นา... ยังไงคืนนี้ครูจะช่วยสอนแล้วกันนะ...

    ประโยคกำกวมนั้นทำให้มิโยอมยิ้ม แล้วค่อยๆ ทิ้งตัวลงบนเตียงกว้าง หลับตาพริ้มด้วยความสุขสมที่คืนนี้... จะได้มีอะไรลึกซึ้งกับอาจารย์ของตน...

    แต่ร่างสูงที่คร่อมอยู่นั้นกลับคิดอีกอย่าง เขายิ้มกริมเมื่อนึกถึงใบหน้าไร้เดียงสาของนักเรียนอีกคน เด็กสาวตัวเล็กๆ... ที่ขอให้เขาช่วยแก้ภาพให้เพื่อนตัวเอง เด็กสาวที่... มีเรือนผมสีชมพู....

    จะว่าไปก็น่ากินใช่ย่อยน้า... เด็กคนนั้น...




    พักเที่ยง 12.00 น.

     ภาพของเธอยังขาดอะไรบางอย่างนะ แต่วาดได้ดีแล้วล่ะ

    คะ... ค่ะ! *-* ขอตัวนะคะอาจารย์

    นักเรียนสองคนวิ่งออกจากห้องพักครูไปด้วยความดีใจสุดขีด อิรุถอนหายใจเล็กน้อยด้วยอาการปลงเล็กๆ กับนิสัยเจอใครหล่อแล้วกรี๊ดของนักเรียนหญิงโรงเรียนนี้ = = อยู่ต่อไปคงต้องไปพบแพทย์สักวันให้ตายสิ ว่าแล้วเขาก็ก้มลงจดจ่อกับงานต่อ แต่เสียงเล็กๆ เสียงหนึ่งกลับขัดมาซะได้

    เอ่อ อาจารย์คะ มา... ส่งงานค่ะ

    อิรุเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เขายกยิ้มให้นักเรียนคนใหม่ที่เข้ามา...

    อืม ว่าแต่นั่นของใครน่ะ

    เขาชี้ไปที่ภาพอีกภาพหนึ่งที่จำได้ว่าเป็นของนักเรียนชายที่ทำภาพเปื้อนสีวันนั้น

    ไซโตะคุงฝากมาส่งน่ะค่ะ เขาบอกว่าไม่อยากเข้าห้องพักครู(ที่จริงมันกลัวอิรุลวนลามค่ะ - -*)

    หืม.. อย่างนี้นี่เอง

    อิรุว่าพลางตรวจดูภาพทั้งสอง ภาพทะเลของไซโตะที่แก้สีวาดออกมาพอใช้ได้ ถึงจะเห็นสีดำอยู่นิดๆ ตรงน้ำทะเลก็เถอะนะ อีกภาพคือภาพวิวสวนสาธารณะของนานามิ ทั้งลายการลงสี ลายเส้น ฝีมือแย่ยิ่งกว่าภาพของไซโตะเป็นล้านเท่า!!!

    อาจารย์หนุ่มหันพรึ่บพิจารณาเด็กสาวตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยท่าทางตกใจสุดขีด เขาไม่เคยนึกเลยว่าเด็กน่ารักแบบนี้ก็วาดรูปไม่เก่งกับเขาด้วย

    แต่ว่า... คิดดูอีกที...

    เข้าแผนเลยแฮะ

    ถึงตอนนี้ริมฝีปากของชายหนุ่มก็กระตุกขึ้นแล้วส่งยิ้มให้เด็กสาว

    ภาพของเธอยังใช้ไม่ได้เลยนะ

    นานามิยิ้มแห้งให้คนตรงหน้าแล้วจิ้มนิ้วเข้าหากันพร้อมพูดอย่างอายๆ แทบจะเป็นกระซิบ

    ขอโทษค่ะ คือหนูวาดภาพได้...

    ไม่เป็นไร แรกๆ ก็แบบนี้ทุกคนนั่นแหละ ฝึกเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เก่งขึ้นเอง

    แสงแดดยาวเที่ยงที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่างกระทบกับผิวเนียนละเอียดสีขาวของร่างโปร่ง เปล่งประกายเมื่อกระทบกับเรือนผมสีบลอน ประกอบกับรอยยิ้มอ่อนโยนที่ส่งให้เด็กหญิง

    โดยซ้อนเจตนารมณ์.. ที่แท้จริงของตนไว้

    ว่างๆ ครูจะช่วยสอนพิเศษให้เอาไหม

    จะ.. จริงเหรอคะอาจารย์! ขอบพระคุณมากค่ะ!”

    สาวน้อยยิ้มทั้งปากทั้งตาแล้วพูดคุยนัดแนะวัน เวลา สถานที่กับชายตรงหน้าโดยไม่เอะใจคำพูดนั้นแม้แต่น้อย...

    ลูกแมวน้อยไร้เดียง... กำลังเดินเข้าไปในงื้อมือของปิศาจคราบเทวดาผู้นี้เสียแล้ว...

     

    หา!! ไปนัดกิ๊กกั๊กกับมันทำม๊ายยย! นานามิจัง TOT”

    คนที่คุณก็รู้ว่าใครจับไหล่ร่างบางแล้วเขย่าไปมาพร้อมงอแงเหมือนเด็กๆ ทำเอาคนรอบข้างกุมขมับ

    นั่นสิ! ทำแบบนั้นไม่ไหวจะเคลีย... ครูรับไม่ได้ รับไม่ด๊ายยย~!”

    ไดสึเกะคู่หูครูศิษน์เข้ามาสมทบพร้อมกำมือทั้งสองข้างเข่ยาขึ้นลงไปมาโวยวายยกใหญ่

    เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนนี้มีสติปัญญาพอๆ กัน ต่างเพียงอายุและถานะ = =^

    หนวกหู!!” เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลมือเบสที่นอนราบกับโซฟาตวาดทั้งสองลั่นพร้อมจ้องตาเขม็งไปที่คู่กัด แน่นอนว่าเจ้าตัวเองก็ส่งกระแสตากลับมากระทบกันดังเปรี๊ยะ แลดูจากที่เมื่อกี้วุ่นวายเป็นมาคุทันที

    จะโวยวายทำไมไซโตะ นานามิแค่ฝึกวาดภาดกับอาจารย์เองนะ เรียวเอ่ยเสียงเรียบขณะทำรายงานส่งผู้อำนวยการอยู่ แต่สองคู่หูก็บู้ปากพร้อมกันแล้วพูดคนละที

    ใครๆ เขาก็รู้เกียติศักดิ์ของเจ้าเก... เจ้าอิรุหน้าหม้อนั่น! จีบตั้งแต่ทารกยันผู้สูงวัย ฟันตั้งแต่ไททานิคสุดขอบแอคแลนด์ติก! แบบนี้ไม่ให้ฉันหวงฉันห่วงนานามิจังได้ยังไง! เกิดเป็นอะไรขึ้นมาจะไม่ให้อภัยตัวเองเลยให้ตายสิ!”

    ช่ายยย~! ไซโตะพูดถูก ถ้าไม่ห้ามตอนนี้จะไปห้ามตอนไหน ไม่เอาแบบสุภาษิตไทยที่ว่า วัวหายล้อมคอกนะ!”

    แต่หนูเป็นคนนะคะครู O_o;;”

    สิ้นประโยคของเด็กสายเรือนผมชมพู ทุกสรรพสิ่งหยุดนิ่งมองมาที่จุดเดียวกัน พากันเหงื่อตกซิบๆ อำอึงพูดไม่ออก ยิ่งเจอนัยส์ตาใสซื่ออินโนเซนต์อย่างรุนแรงยิ่งกว่าอะไรดียิ่งมึน แต่สิ่งที่ทำลายความเงียบคือ...

    นานามิจ้ะ ครูแค่เปรียบเทียมน่ะ ^^;;”

    ซื่อเกินไป... เธอซื่อเกินปายยย~ T0T~

    (คู่หูครูศิษน์)

     

    แกร๊ก แกร๊ก

    ภายในห้องนอนอันใหญ่โต เสียงขีดเขียนซึ่งได้ยินชัดเมื่ออยู่ในเวลาเที่ยงคืนกว่าๆ ดังไม่ขาด ร่างของเด็กหนุ่มที่ยังคงนั่งเขียนรายงานกองพะเนินที่ยังทำไม่เสร็จ ถึงอาการง่วงเหงาหาวนอนจะคอยเล่นงานก็ไม่ได้ทำให้เขาเลิกหักโหมทำงานได้

    เรียว แกต้องเรียนให้เก่งนะ เพื่อเป็นหน้าเป็นตาให้ตระกูลเรา

    เสียงชายวัยกลางที่ดังในหัว...

    ปากกาที่หลุดจากมือ และเสียงของมันกระทบกับพื้นห้อง...

    ทำไมผลการเรียนตกล่ะ

    ภาพข้างหน้าที่เริ่มเบลอ... สติที่เริ่มหลุดลอย...

    ถ้าผลการเรียนไม่คงที่ที่อันดับหนึ่งฉันจะให้แกเรียนพิเศษอีก

    พ่อบ้าไปแล้ว...

    ทำให้ดีกว่านี้ ให้สมเป็นตระกูลฮิวาตาริ

    นึกถึงใจผมบ้างสิ

    ยังไม่ได้พอ

    ภาพของผู้เป็นพ่อโยนใบเกรดของเขาอย่างไม่ใยดี คำพูดตัดพอแสนน่าน้อยเนื้อต่ำใจ จู่โจมมาพร้อมกับสติที่กำลังจะดับวูบไป... ร่างของเรียวจิเอนไปด้านข้างและทำท่าจะตกเก้าอี้!

    หมับ...

    โครม!

    เสียงเก้าอี้ล้มดังขึ้น ทั้งๆ ที่เป็นแบบนั้น.. แต่เขากลับไม่รู้สึกถึงความเจ็บ มีวงแขนของใครบางคนมารับเขาไว้ก่อนถึงพื้น

    อีกแล้วนะเรียว ไหนบอกว่าจะไปทำโต้รุ่งไง

    นัยส์ตาสีดำจ้องหน้าเรียวจิอย่างเอาเรื่อง แต่กลับจื่อด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

    พอได้แล้วครับลุง

    ขอโทษนะ

    เรียวจิกล่าวแล้วพยายามพยุงตัวเอง แต่เพราะความเหนื่อยทำให้โซเซทำท่าจะล้มทุกเมื่อ เจ้าของดวงตาสีดำจึงต้องช่วยเป็นที่ยึดให้พร้อมว่า

    นายต้องนอนนะเรียว และถ้าไม่ฉันคงต้องใช้กำลังอีก

    เรียวจิเขาก็เหนื่อยนะครับ

    เสียงของเพื่อนที่ช่วยพูดสิ่งที่เขาไม่กล้าพูดออกไป

    ตามใจสิ

    ไซจิถอนหายใจเล็กน้อยและพาเรียวจิไปถึงเตียง จากนั้นจึงเดินไปปิดไฟให้แล้วกลับมานั่งที่เดิม

    ฉันจะอยู่นี่แหละ จะได้แน่ใจว่านายหลับจริงไม่ตื่นมาทำงานอีก

    ให้เขาพักผ่อนบ้างสิครับลุง

    อาจเพราะความมืดทำให้เขามองเห็นใบหน้าของไซจิไม่ชัดนัก แต่ก็ส่งยิ้มบางๆ ให้

    ขอบคุณไซจิ

    นอนได้แล้วน่า

    เขาบอกบัดพลางห่มผ้าให้ ไม่นานนักเรียวจิก็หลับสนิทจริงอย่างที่เขาว่าไว้ นี่ก็หลายครั้งแล้วที่เจ้าตัวชอบหักโหมทำงานหนัก เพื่อให้พอชมบ้าง อยากให้พ่อเขาดูแลบ้าง แต่คงเพราะทางนั้นงานล้นจนละออกไม่ได้จึงทำหน้าที่คนเป็นพ่อไม่ดีนัก ถึงจะทำท่าว่าเข้าใจนักหนา แต่ที่จริงเหงาแทบตาย

    แถมแม่ก็ยัง...

    ทำไมแม่ต้องทำแบบนี้

    ไม่เอา แม่อย่าทิ้งผมไป

    ภาพใบหน้าของเรียวจิตอนอายุเพียงสามปีร้องไห้ร้องหาผู้เป็นแม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าปริ่มใจจะขาด ภาพรอยยิ้มน่ารังเกียจของนังผู้หญิงคนนั้น ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เขาเข้าใจดีกว่าใคร บาดแผลในใจที่เลวร้ายกว่าการที่สูญเสีย...

    การหักหลังยังไงล่ะ...

    เรียวทนทุกข์ทรมาณกับเรื่องมาหลายต่อหลายปี...

    อ่า ช่างมันเถอะ นังผู้หญิงพันธุ์นั้นน่ะ...

    ไซจิเกาหัวเล็กน้อยก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียงของเขา แล้วเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว

     

    Butterfly Apartment

    เป็นอะไรไปเหรอค่ะอิรุซัง วุ่นกับรูปนี้ตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะคะ

    หญิงสาวพูดเสียงออดอ้อนพร้อมเข้ามากอดคอจากด้านหลังพร้อมเอาอกอึ๋มของเธอเบียดแผ่นหลังทำให้คนโดนเบียดเริ่มรำคาญแต่ก็พูดเสียงเรียบ

    คุณรัน ผมต้องใช้สมาธินะครับ อีกอย่างคืนนี้ผมบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าผมต้องทำงาน

    แหม อะไรกันคะ ก็รันคิดถึงคุณนี่นา

    ว่าแล้วเธอก็เอาคางไปคลอเคลียกับต้นคอของชายตรงหน้า มือเริ่มลูบไล้ใบหน้าหล่อเหลา ทว่าทางอิรุตอนนี้กลับพยายามทำใจดีเข้าสู้ หันไปเชยคางคู่นอนพร้อมก้มลงกระซิบข้างหู กรุณาดื่มรอผมได้ไหมครับคุณรัน เสร็จตรงนี้แล้วเราค่อยว่ากัน

    ถึงน้ำเสียงจะฟังดูรำคาญเล็กๆ แต่รันก็ยอมทำตามแต่โดยดี เธอละจากชายหนุ่มไปที่โต๊ะเล็กๆ ข้างเตียง ค่อยๆ รินไวน์รสเลิศใส่แก้วทรงสูง อิรุลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วหันมาลงสีภาพของเขาต่อ

    นัยส์ตาสีมรกตแสนอ่อนโยนของเธอ...

    ที่คอยปลอบโยนเวลาเขาร้องไห้...

    เรือนผมสีบลอนประบ่า...

    เช่นเดียวกับเรือนผมของเขาเขา...

    ผิวเนียนละเอียดดุจไข่มุกแสนงดงาม...

    ผู้ที่เป็นเหมือนนางฟ้าในสายตาของเขา...

    แม่...

    ซ่าาา~~!!

    “!!!”

    ว้าย! อิรุ รันขอโทษค่ะ รันนี่ซุ่มซ่ามจริง ขอโทษจริงๆ นะคะ

    เหมือนว่าสาวเจ้าจะทนรอต่อไปไม่ไหว จึงจงใจสาดของเหลวสีแดงใส่ภาพจังๆ ตอนนี้สีทีเขาพึ่งลงไปเมื่อกี้ไหลเยิ่มผสมกันมั่วซั่ว ส่วนตัวการทำท่าทำทางขอโทษขอโพย แต่นัยส์ตากลับไม่ได้แสดงแบบนั้นเลย

    เป็นภาพที่จะต้องเขียนให้สวยงามกว่าภาพอื่นที่เขาเคยทำมา...

    เผื่อเขากับพ่อจะ...

    เผื่อว่าเราจะ...

              แก! ไอ้ลูกไร้ค่า! ไอ้ลูกทรพี ไอ้ลูกชั่ว! เอ่อ! ได้เลย แกจะไปก็เชิญ!! อย่าโผล่หน้ามาให้ฉันเห็นอีก! ตอนนี้แกไม่ใช่คนในตระกูลคิซึงาโตะอีกต่อไป!!! จำไว้! แกไม่มีวันที่จะสู้แม่หรือพี่ชายของแกที่ตายไปได้! ไม่มีวัน!!!’

    ไสหัวไปซะ!!!!!!!” อิรุตวาดอย่างเดือดดาล ทำเอาคนได้ยินสะดุ้ง

    อะ... อะไรกันคะ แค่ภาพเดียวเอง อีกอย่างฉันไม่ได้ตั้ง...

    ผมยังไม่อยากถูกฟ้องข้อหาทำร้ายร่างกายหรือฆ่าคนครับ เพราะฉะนั้นไปได้แล้ว

    เขาพูดเสียงเย็นเยียบดุจน้ำแข็งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำเอารันขนบุกเกรียวไปทั้งตัว ไม่กล้าต่อปากต่อคำแต่อย่างใดพร้อมลนลานเก็บข้าวของออกจากห้องไปโดนไม่หันกลับมา

    บัดซบ!”

    เพล้ง~!

    แก้วไวน์ถูกใช้เป็นที่ระบายความโกรธแตกเป็นเสี่ยงๆ อิรุขยี้ผมแรงๆ แล้วมองภาพอย่างหงุดหงิด

    ต้องเริ่มทำใหม่ใช่ไหมเนี่ย เวรชิบ

     

    [อิรุบรรยาย]

    เห็นด้านบนแล้วทำไมถึงทำหน้าแหยแบบนั้นล่ะครับ -_-? แหม... คนเขียนก็ใจร้าย คนสร้างผมก็ใจดำทำให้ผมนิสัยแบบนี้นี่นา... ผมไม่ผิด (พลอย แกด่าใครยะ!!) (rike – เมิงด่ากู๊ว!! =[]=) ...เอาเถอะ อยากบอกว่าผมไม่ได้เจ้าชู้อะไรนักหรอก แต่สาวๆ พวกนั้นมาอ่อยผมเอง ผมก็แค่ตอบสนองความต้องการของพวกเธอเท่านั้นเอง สิ่งนี้แหละที่ทำให้ผมกล้าพูดเต็มปากว่า ผม-ไม่-ผิด(แรงเว่อร์!)

    ตั้งแต่วันแรกที่ผมไปเป็นอาจารย์ที่โรงเรียนนั่น มีแต่พวกนักเรียนหญิงกับอาจารย์เข้ามาห้อมล้อมซะแทบไม่เห็นทางเดิน บางคนก็แกล้งเดินมาชนผมจากนั้นก็ทำสายตาหวานใส่ ทำเอาผมคุมอารมณ์แทบไม่อยู่

    ยกเว้น... เด็กคนนั้น

    ผมสนใจชิบานะ นานามินะ ตอนที่นักเรียนหญิงคนอื่นจ้องผมตลอดเวลา มีเธอคนเดียวที่ตั้งใจวาดภาพ ถึงจะออกมาไม่ดีนักแต่กลับดูดีกว่าภาพของคนอื่นเสียอีก

    ผมไม่เคยเจอเด็กแบบนี้มาก่อน ได้ข่าวว่าเป็นมือกลองให้กับชมรมดนตรีที่เกือบโดนยุบด้วย ตอนที่ผมรู้ก็ตกใจเหมือนกัน ใครจะไปคิดว่าเด็กหน้าตาน่ารักตัวเล็กๆ จะไปเป็นมือกลอง บางครั้งผมแอบไปดูเธอซ้อมก็อึ้งไปเลย ลีลาท่าทางจังหวะการตีแทบไม่มีจุดบกพร่อง

    อืมมม... วันนี้สาวน้อยของเราอยู่ไหนซะล่ะ?

    แฮ่ก! แฮ่ก! ขะ.. ขอโทษค่ะอาจารย์ หนูสายไปตั้งเยอะแน่ะ!”

    ...

    ชุดแซกสีชมพู... ชายประโปรงเป็นลูกไม้สีขาว พร้อมมัดผมทรงทวิลเทล สายมัดเป็นรูปกระต่าย รองเท้าแตะไม้ กระเป๋าสะพายเล็ก หน้าไม่ได้แต่งทว่าพอถูกแดดส่องแล้วกลับดูขาวอมชมพู ผมสีชมพูนั่นดูเป็นประกายจนคนรอบช้างไม่ว่าหญิงหรือชายก็พากันเหลี่ยวหลัง...

    โม... เอะ...?

     มาแล้วเหรอจ้ะสาวน้อยตะวันส่อง

    ผมพูดแซวเล็กน้อยพร้อมส่งยิ้มให้ ส่วนนานามิจังทำท่าเหมือนจะร้องไห้แล้วจีไหล่ผมเล่นทำท่างอแง

    ช่วยไม่ได้นี่นา เมื่อคืนหนูเลือกชุดอยู่จนเผลอหลับไปเลย ตื่นมาอีกทีก็สายแล้ว

    จ้าๆ ว่าแต่เรียกครูอิรุก็ได้นะ

    ค่ะครูอิรุ

    ...

    ...หึๆๆ น่ารักน่ากินจริงเลยนะ...(rike : ตูกำลังคิดผิดที่แต่งตอนนี้!)

     

    ผมพานักเรียนคนพิเศษมานั่งที่ริมแม่น้ำใสแจ๋ว(ซึ่งต่างกับคลองแสนแสบลิบลับ -*-) เราเริ่มวาดภาพกันแล้วคุยเล่นกัน อิจฉาล่ะสิ ^_^+ อ๊ะๆ อย่าพึ่งโยนของมาสิครับ ล้อเล่นแค่นี้เองนะครับ ยิ่งดูเด็กคนนี้ก็ยิ่งน่ารัก ชักเริ่มเคืองพวกที่อยู่ชมรมดนตรีขึ้นมาซะแล้ว ทำไมเธอต้องไปเล่นดนตรีด้วยนะ น่าจะมาวาดภาพกับผมมากกว่า -^- ได้ยินมาว่าเคยได้รับอุบัติเหตุด้วย ยิ่งทำให้ผมอยากได้เด็กคนนี้มาอยู่ชมรมเข้าไปอีก เฮ้อออ... ถือเป็นบุญของเจ้าพวกนั้นจริงๆ ที่ได้มือกลองน่ารักแบบนี้

    ทำไมถึงอยากวาดภาพเหรอ

    เพราะอันเก่ามันเละค่ะ!”

    นานามิจังตอบทั้งที่ยังง้วนอยู่กับการลงสีภาพแม่น้ำ แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นจากการเพ่งจัดคือทำสีฟ้าผสมกับสีเขียวนั่นเอง = =^ พอเห็นแบบนั้นผมก็หยิบชิดชู่มาซับสีให้ก่อนที่จะมีการปล่อยโฮเกิดขึ้น

    ไม่เป็นไรนะนานามิ เดี๋ยวครูลงสีทับให้ก็ได้

    ผมหยิบพู่กันมาแล้วเริ่มทำใหม่ แต้มสีฟ้าตรงที่สีผสมกัน ไล่ปลายพู่กันมาอย่างเบามือ.. เติมสีขาวลงไปเพียงเล็กน้อย... ไม่รู้ว่าตั้วแต่เมื่อไหร่กันที่มุมปากผมยกขึ้น รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้จับพู่กัน... ลมเย็นพัดมาทำให้ผมปลิวตามไป เสียงนกร้องจิ๊บๆ เหมือนโน๊ตเพลงเปียโนช่วยกล่อมให้อารมณ์ดี...

    กรี๊ดดดดดดด!!!!!!!!!”

    =[]=!! มีใครโดนเหยียบหาง!

    แทนที่ว่าผมจะช่วยให้ภาพกลับมาดูดีขึ้น พอเจอเสียงกรี๊ดเมื่อกี้เข้าไปผมลากพู่กันยาวเลยทำให้เน่ากว่าเอา สีนั่นนี่ผสมกันมั่วไปหมด นานามิทำท่าจะร้องไห้ ผมก็ทำหน้าเหวอแล้วกันซ้ายหันขวาหาต้นเสียง ซึ่งนั่นคือ...

    นั่นมันอาจารย์นี่นา อาจารย์ค๊าาาา!!”

    พะ... พวกนักเรียนที่เป็นแฟนคลับผมนี่หว่า = =^

    นักเรียนหญิง 3 คนวิ่งร่าเข้ามา หนึ่งในสามมีคนนึง... เอ่อ... อย่าหาว่าผมมันไอ้หน้าตัวเมียหรือไอ้ตุ๊ดเลยน่ะ หุ่นเธอแบบ... โอ่งมังกรราชบุรีบ้านเราไซน์ XXXXXLLL ดีๆ นี่เอง ผิวนี่คงอยู่แถบแอฟริกามาก่อน สงสัยคงจะมั่นใจในตัวเองจัดเลยนุ่งสายเดี่ยวกางเกงสั้นรัดเปรี๊ยะวิ่งเอาพุงนำ...มา(รู้ๆ กันอยู่นะ) ซึ่งไอ้ที่วิ่งๆ มานี่แหละทำเอานกกาบินหายแว๊บ~ TOT

    อาจารย์มาทำอะไรที่นี่ค่ะ เอ๊ะ? หรือว่าคิดถึงอาอิ หุๆ

    สิ่งที่จะทำให้ฉันคิดถึงเธอคือ... ไขมันส่วนเกินในกระเพาะอาหาร

    ยัยบ้า! เสียมารยาท!”

    เพื่อนของเธอมาแกะมือปลาหมึกออกจากแขนผมแล้วส่งยิ้มให้ผมแทน... อยากจะบอกว่านิสัยมันก็พอๆ กันนั่นแหละ = =^

    วาดภาพอะไรอยู่เหรอคะครู สอนพวกหนูด้วยได้ไหม..

    อีกคนเข้ามาพร้อมส่งยิ้มให้อีก... อุ๊ย! ผักชีติดฟันแน่ะ(อะไรของเมิง = =^^)

    ขอโทษนะ ครูเตรียมกระดาษมาไม่พอน่ะ

    เพราะนานามิจังทำรูปเสียไปสิบกว่าแผ่นตอนนี้เลยเหลือแค่ 2-3 แผ่นน่ะสิ...

    งั้นก็ไปซื้อตรงร้านเครื่องเขียนใกล้ๆ นี้สิคะครู! พวกหนูจะได้ให้ครูสอน นะคะๆ

    ...

    ปล่อยฉันไปเถอะ!! ขอร้องล่ะ! พวกเธอกำลังทำแผนของฉันล่ม!!

    ใจจริงไอ้ผมก็อยากตะโกนไปแบบนั้นอยู่หรอก แต่ทว่าต้องรักษามาดของอาจารย์ผู้สุภาพแสนดีเอาไว้ สันดานเลวๆ ตอนนี้เลยต้องเก็บไว้ก่อน ผมพยายามฝืนยิ้มให้นักเรียนทั้งสามแล้วพูดออกไป

    ได้สิ ถ้าทำหลายๆ คนก็น่าจะสนุกอยู่หรอก

     

    อยากตายชะมัด...

    อิรุ... เจ้าโง่เอ๊ย! ไปพูดแบบนั้นทำไม สุดท้ายก็โดนลากมาที่ห้างฯ นี่น่ะ!

    ใช่... อ่านไม่ผิด นักเรียนทั้งสามไม่ได้มีจุดประสงค์จะวาดภาพ แต่พวกเธอพาผมกับนานามิจังมาเดินเตร็ดเตรซื้อของ จำพวกเครื่องสำอาง เสื้อผ้า ยังพอไหว แต่ไอ้พวกบรา กกน. โอ้ว... ในฐานะผู้ชายพอมาเจอแบบนี้แล้วน่าขายหน้ายังไงไม่รู้...

    อาจารย์ค่ะ~ ตัวนี้สวยมั้ย อะฮ้า~

    ...ผมอาจบอกว่าสวยถ้าไม่นับคนใส่...

    ตอนนี้นานามิทำท่าทางง้องแง้งเล็กน้อย คงเป็นเพราะเธอคงต้องการจะมาเพื่อฝึกวาดรูปจริงๆ เพราะตอนนี้ผมชวนท่าทางเจ้าตัวดีใจใหญ่ มาเจอแบบนี้เลยไม่สนุกสินะ อืม... ผมครุ่นคิดอยู่สักพักแล้วตัดสินใจทำหน้าเครียดใส่นักเรียนทั้งสาม พวกเธอสังเกตเห็นเลยหยุดกรี๊ดกร๊าดกับเสื้อผ้า

    ขอโทษนะ แต่ครูกับนานามิขอตัวเถอะ

    คะ... แค่มาดูนิดหน่อยเองค่ะครูอิรุ พวกหนูกำลังจะไปแล้วนี่ไง! เอ่อ...ขอดูอีกนิดนึงนะคะ

    ผ่านมา 2 ชั่วโมงแล้วยังจะดูอีกเหรอ...

    ลาขาด ไปเถอะนานามิจัง

    ...

    ผมจูงมือสาวน้อยพาเดินข้ามถนน รู้สึกว่าจะไม่พูดอะไรตั้งแต่โดนลากไปที่ห้างฯ แล้ว คงจะงอนที่ผมดันบ้าจี้ตามสามคนนั้นหรือเปล่านะ ผมลองหันไปยิ้มบางให้ แต่สิ่งที่ได้คือหน้ามุ่ยพร้อมทำแก้มแดงๆ ป่อง ทำเอาผมหลุดขำนิดหน่อย

    ไม่ต้องหัวเราะเลยค่ะ

    อูย... โดนเลยเรา

    นานามิจัง ครูขอโทษนะ จะไปวาดต่อไหม

    ไม่เอา

    ไม่น่ารักเลยนะ

    “…”

    แล้วเธอก็ทำแก้มป่องอีก คราวนี้ผมเอามือไปดึงจนเจ้าตัวสะบัดหน้าไปมาแล้วโวยวายใหญ่ ผมพานานามิจังไปนั่งในคาเฟ่สั่งไอศกรีมมากินเผื่ออารมณ์จะดีขึ้น ซึ่งเป็นอย่างนั้นจริงๆ พอรายการที่สั่งมาวางก็ยิ้มซะแก้มปริแถมยังยอมคุยกับผมอีกต่างหาก เธอเอาแต่คุยเกี่ยวกับพวกเพื่อนในวง บางครั้งก็ชม บางครั้งก็แอบนินทาเล็กน้อย แต่รวมๆ คงชอบมาก แต่ยิ่งเธอเล่าผมก็ชักชะหมั้นไส้เจ้าพวกนี้เข้าไปอีก

    มีอีกค่ะ! ไซโตะคุงบอกว่าครูเป็นพวกหน้าหม้อด้วย พอหนูถามว่าแปลว่าอะไรเค้าก็บอกว่า สาวอินโนเซนห้ามรู้ความหมายนะ!’ คิกๆ

    ฉึก!! (ลูกศร หน้าหม้อ ปักเต็มกบาล)

    หึๆ... เจ้าผมสีส้มนั่นคราวหน้าพ่อจะแกล้งตัดคะแนนซะให้น้ำตาร่วงเลย

    ว่าแต่หน้าหม้อกับสาวอินโนเซนมันแปลว่าอะไรหรอคะครู

    เธอเอียงคอถามผมพร้อมตักไอศกรีมใส่ปาก ซึ่งผมสะอึก... ไอ้คำว่าสาวอินโนเซนยังพอว่า แต่หน้าหม้อนี่ถ้าแปลออกมาแล้วมีหวังโดนถามอีกแน่ว่าครูเป็นพวกนั้นจริงๆ เหรอ ถึงตอนนั้นหาคำแก้ตัวไม่ออกแน่...

    แถไปแล้วกัน...

    นานามิจัง สาวอินโนเซนที่ไซโตะบอกก็คือสาวน้อยที่มีนิสัยอ่อนต่อโลก ไม่ก็ไร้เดียงสาซะจนน่าทะนุทะหนอมน่ะ

    อ๋า หนูไม่ใช่ซะหน่อย นานามิจังเบ้ปากเล็กน้อย

    งั้นก็ต้องเรียกว่าโมเอะล่ะมั้ง

    ...โมเอะคืออะไรอีกล่ะคะ

    นี่แหละที่เค้าเรียกสาวอินโนเซน

    อาจารย์~!!”

    ฮ่าๆๆ

    ผมหัวเราะ นานามิจังทำแก้มป่องอีกครั้งแล้วตั้งหน้าตั้งตากินไอศกรีมโดยไม่สนใจผม

    ...ผมไม่รู้ว่าทำไมมุมปากถึงยกขึ้นโดยที่สมองไม่ได้สั่ง...

    นี่ผม... กำลังยิ้มจากใจ... กับเด็กคนนี้เหรอ

     

    เป็นอะไรไปเหรอนานามิจัง

    รู้สึกมึนๆค่ะ

    อ่า... ทำไมใจมันกระตุกแปลกๆ

    เธอนอนสักพักก็ได้...

    สมองสั่งไปแบบนั้น แต่ทำไมใจมันถึงกระตุกอีก...

    นานามิจัง...

    ...

    ผมเดินไปจ่ายเงินที่เคาเตอร์ แล้วอุ้มร่างเล็กเดินไปเรื่อยๆ... ใจยังกระตุกอยู่... รู้สึกเหมือนหนักอะไรสักอย่าง

    ทำไมใจไม่ดีเหมือนทุกครั้งเลยล่ะ...

     

      

     

    รุ่งเช้า ณ ห้องดนตรี

    “นานามี๊!!!!!!! บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าไปกับม๊านนน !!!!---

    ไซโตะร้องโหยหวนแล้วจับบ่าทั้งสองข้างของคนตรงพร้อมเขย่าไปมาอย่างบ้าคลั่งจนเรียวต้องรีบวิ่งมาห้าม

    “ฉันเปล่าไปทำอะไรนะคะ แค่ไปดูภาพของอาจารย์อิรุแค่นั้นเอง สวยมากๆ เลยด้วย”

    “ภาพเอ็กซ์อีโรติคน่ะสิ!! =^=+

    โป๊กกก...

    ไมค์โครโฟนในมือไซจิบินมาแต่ไกลทันที

    “หนวกหูโว้ยย ยัยนี่ไม่ได้โดนทำอะไรแกจะโวยวาย... หาพ่อง?”(ประโยคหลังเสียงเบากลัวอีกคนจำไปใช้ ไม่ดี๊ไม่ดี - -*)

    สาวน้อยเรือนผมสีชมพูเอียงคอน้อยๆ ด้วยความงงงวย...

    ก็..ภาพนั้นมันสวยจริงๆ นี่คะ... ถึงจะยังไม่สมบูรณ์ก็เถอะ

     

     

    สาวน้อยปรือตาขึ้นช้าๆ ปรับแสงด้านนอกก่อนจะยันตัวขึ้นมานั่ง พบตัวเองนอนอยู่บนเตียงนุ่ม ร่างของอาจารย์หนุ่มรูปหล่อนั่งอยู่ที่ขอบเตียงกำลังแต้มสีลงในรูปที่อยู่บนขาตั้ง นานามิคลานเข้าไปดูเล็กน้อยถึงกับตะลึงในความสวยงามทั้งที่ยังวาดไม่เสร็จแท้ๆ

    “สองคนนี้ใครเหรอคะอาจารย์”

    อิรุหันมามองอีกฝ่ายพร้อมยิ้มอย่างอ่อนโยน

    “คนสำคัญของครูน่ะ”

    แววตาของเขาดูเศร้าหมองลงเล็กน้อยจนเธอรู้สึกได้

    “ว่าแต่ตื่นแล้วเหรอ เดี๋ยวครูไปส่งนะ”


    --------------------------

    ในที่สุดก็ถึง 100% เต็มค่ะ และในที่สุดก็กลับมาอัพ เยส!!!!! T^T ตอนหน้ายาวหน่อย หุๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×