ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Naruto [Love in Akatsuki] องค์หญิงเดอิดาระ~ ภาค 2!!!

    ลำดับตอนที่ #21 : ~Konan&Pein story~ กว่าเราจะรักกัน : บทนำ วันที่เพื่อนรักต้องจากกัน

    • อัปเดตล่าสุด 12 ธ.ค. 52


    โฮกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!! ได้อัพซะที!!!

    ใจจะขาดตาย(ห่-า)แว้ววววววววววว!!!! =__________=^^^^

    วันนี้อัพแบบมีเวลาจำกัดน้อยมาก!

    เอ้า! สู้โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!! o(-_-o)+++

    **หมายเหตุ** เนื่องจากไลท์ยังไม่ค่อยรู้เรื่องมหาลัยมากมายบางตอนที่มันไม่เหมือนที่หมาลัยเค้าทำกันก็ต้องขออภัยอย่างสูงงงง (_ _^^)

    ปล. ฉากนี้ออกแนวเศร้าๆหน่อย แต่ถ้าฉากต่อไปล่ะก็... อิๆ -.-

    ------------------------------------------------------------------------------

    หลายปีก่อนนั้นเอง...

    ณ โรงเรียน

    "อ้ากกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!! ไม่นะ!!!!! TOT คะแนนห่วยแบบนี้มีหวังฉันโดนแม่เล่นงานแน่"

    มากิเพื่อนสาวของฉันตะโกนเสียงดังเมื่อได้ดูใบประกาศคะแนนสอบวิชาภาษาอังกฤษซึ่งไม่ค่อยจะรอดแต่ฉันกลับได้คะแนนนำลิ่วไปเลย U_U รู้สึกแปลกชะมัด

    "อ่า ใจเย็นน่าเพื่อน ตั้งใจเรียนเดี๋ยวก็ได้เองแหละ"

    ฉันยิ้มให้กำลังใจ คนข้างหน้าเงยหน้าขึ้นแล้วซับน้ำตาที่ไหลออกมาแล้วยิ้มให้ฉันตอบแต่น้ำตายังไหลพรากอยู่ =_=^^^ เอิ่ม... ไม่ต้องฝืนก็ได้มั้งคุณเพื่อน

    "อ๊ะ... รถมารับกลับแล้วล่ะ ฉันไปก่อนนะ"

    "อือ"

    มากิหิ้วกระเป๋าแล้วเดินไปทางรถของตัวเอง มากิเป็นคนขี้โรคน่ะ บางวันก็เลยต้องกลับบ้านก่อนเวลา ได้ยินมาว่าเป็นโรคอะไรซักอย่างกำลังรักษาอยู่ ส่วนฉันก็เอาใจช่วยมากิอยู่ห่างๆขอให้มากิหายเร็วๆจะได้มาร้องเพลงลาโรงเรียนนี้ด้วยกัน... ขอให้มากิหายไวๆด้วยเถ๊อะ (_/\_)






    1 อาทิตย์ต่อมา

    มากิยังไม่มาโรงเรียนเลย...

    ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ฉันว่ามันแปลกนะ ช่วงนี้มากิหายหน้าไปเลย หรือว่าอาการป่วยกำเริบ... เอ่อ... เลิกคิดดีกว่า = =

    ครืน...

    "ทุกคนนั่งที่ให้เรียบร้อย วันนี้ครูมีข่าวมาแจ้งให้ทราบ"

    ทุกคนหยุดคุยกันแล้วหันมาฟังอาจารย์ที่ยืนอยู่หน้าห้อง ดูท่าทางอาจารย์เครียดๆนะ... สงสัยข่าวร้ายของครูแต่ข่าวดีของนร.แน่เลย = =

    "เฮ้อ... ครูมีข่าว เอ่อ... เกี่ยวกับมากิน่ะ"

    "..."

    ตอนนี้ความเงียบปกคลุม ทุกคนตั้งใจฟังอาจารย์มากขึ้น ไม่มีใครพูดออกมาซักคำ อาจารย์พูดขาดช่วงไปแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดต่อ

    "ที่เค้าไม่มาหลายวันเป็นเพราะอาการป่วยกำเริบ แพทย์เลยให้รักษาตัวอยู่ที่บ้านก่อน... แต่วันนึง..."

    "รีบๆเล่าสิจารย์" นักเรียนชายคนนึงพูดเสียงเครียด นร.คนอื่นๆก็เห็นด้วยเช่นกัน

    "พวกเธอคงจะตกใจกับเรื่องนี้ แต่ครูกำลังจะบอกว่า วันนึงเค้าได้ประสบอุบัติเหตุที่โดนกระแทกอย่างแรง... จึงทำให้..."

    "ให้อะไรจารย์... ให้อะไร!"

    ฉันตะโกนขึ้นเสียงดังจนเพื่อนๆคนอื่นต้องวิ่งมากล่อมให้ฉันนั่งลงเหมือนเดิม อาจารย์หลับตาแล้วพูดออกมา

    "ทำให้มากิไม่สามารถอยู่กับพวกเราต่อได้..."

    "...หมาย...ความ...............ว่า?...................."

    "มะ... มะ... มากิเสียชีวิตลงแล้วนักเรียน..."

    พออาจารย์พูดจบก็รีบเดินออกจากห้องไปโดยเร็ว ฉันแทบจะสลบกับที่ เพื่อนคนอื่นๆถึงกับร้องไห้ออกมา

    "ไม่จริง! ฮือออออออ"

    "ไม่มีทาง! กรี๊ดดดดดด!"

    "ฮือ มากิ!"

    "ฮึก... ฮือ..."

    "อาจารย์โกหกใช่มั้ย!"

    "ไม่นะ!!!!"

    "ม่ายยยยยยยย!"






    ต่อมา...

    "ขอให้เธอมีความสุขนะมากิ"

    ฉันพูดเบาๆแล้ววางดอกไม้ไว้หน้าหลุมศพของมากิ ทุกคนในงานมีเกือบเกินครึ่งที่ร้องไห้ออกมา บางคนก็น้ำตาคลอเบ่า แม้กระทั้งพวกคนรับใช้ของมากิยังร้องไห้กันหมด เพราะมากิเป็นคนที่ช่วยพวกเธอให้มีงานทำและส่งเงินไปให้พ่อแม่ ถึงทำงานผิดพลาดมากิเองก็ไม่เคยลดเงินเดือนเลย ฉันเดินไปนั่งข้างๆเพื่อนที่มาด้วย หนึ่งในนั้นสะกิดหลังฉันแล้วกระซิบว่า

    "นี่โคนัน ดูเด็กคนนั้นสิ"

    ฉันมองไปที่หลุมฝังศพ มีเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆผมสั้นสีขาวตาสีฟ้าคนนึงยืนอยู่ข้างหน้า สีหน้าของเธอบ่งบอกถึงความเย็นชาและไม่มีความเศร้าอยู่เลย

    "อืม ทำไมหรอ"

    "เด็กคนนั้นนั่นแหละน้องของมากิล่ะ"

    "หา จริงเหรอ"

    อีกคนเข้ามาร่วมด้วย

    "อืม ใช่"

    "แย่จังเลยนะ ตัวแค่นี้เอง สงสัยจะเสียใจมากแน่ๆ"

    "แต่ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ"

    อยู่ๆก็มีเสียงคนอีกคนแทรกขึ้นมา พวกฉันหันไปมองตามเสียง เจ้าของเสียงเป็นผู้หญิง นับได้ว่าสวยมากเลยก็ได้ แต่การแต่งตัวของเธอมันทำให้พวกฉันพากันขมวดคิ้วแน่น เพราะเธอแต่งตัวในชุดสีดำก็จริง แต่มันเป็นชุดสายเดี่ยวกระโปรงสั้นเลยมาเหนือเข่า ซึ่งฉันว่ามันไม่สุภาพมากๆเมื่อมางานศพของคนอื่นแบบนี้!

    "หมายความว่าไงหรอคะ" 

    เพื่อนคนนึงถามขึ้น ผู้หญิงคนนั้นหรี่ตามองพวกฉันเล็กน้อยแล้วพูดต่อว่า

    "ก็ดูทำหน้าเข้าสิ พี่ตัวเองพึ่งตายแท้ๆแต่กลับทำเหมือนไม่รู้สึกรู้สากับเค้าเลย เด็กแบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน!"

    "..."

    พวกฉันไม่ได้พูดอะไรต่อแต่ทำเป็นเงียบๆไม่รู้อะไร แต่แล้วพวกแขกคนอื่นๆก็พากันกระซิบกันใหญ่เพราะคนที่พูดกับพวกฉันเมื่อกี้พูดดังมากพอที่คนอื่นจะได้ยิน

    "จริงด้วยสิ คุณหนูไม่อยู่บนโลกนี้แล้วกลับไม่เสียใจซักนิด"

    "ใช่ๆ ถ้าเป็นเด็กคนอื่นร้องไห้ฟูมฟายไปแล้ว"

    "เด็กอะไรกันเนี่ย"

    "ยังกับเป็นปีศาสแหนะเด็กคนนั้นน่ะ"

    ฉันมองไปที่สายตาของน้องมากิ เธอยังคงมีสีหน้าเย็นชาไร้อารมณ์อย่างอื่นเหมือนเดิม แต่นั่นยิ่งทำให้ทุกคนเริ่มออกปากซุบซิบกันยิ่งกว่าเดิม

    "สงสัยยัยเด็กนั่นคงจะไม่เคยคิดว่าคุณมากิเป็นพี่ก็ได้"

    "ต๊าย! แบบนี้ก็ยังกล้ามางานศพอีก หน้าด้านจริงๆ"

    "หรือว่ายัยเด็กนั่นเป็นคนฆ่า!"

    ปึง!!!!!!! 

    แล้วเหตุการณ์ก็เริ่มยุ่งขึ้น เพราะเด็กผู้ชายผมสีแดงคนนึงที่น่าจะเป็นญาติของมากิเข้ามาชกคนที่พูดเมื่อกี้จนล้มลงไปกองกับพื้น แขกในงานเลิกซุบซิบทันที เขาเข้าไปกระชากคอเสื้อของคนที่พูดแล้วตะคอกใส่เสียงดัง

    "หยุด! แกหุบปากเดี๋ยวนี้ถ้าแกยังไม่อยากตาย!!! แกว่าไงนะ!! แกยังกล้าพูดแบบนั้นออกมาอีกเหรอหาไอ้สวะ!!!"

    แขกคนอื่นรีบแยกทั้งสองออกจากกันโดยเร็ว ฉันเหลือบไปเห๋นน้องของมากิวางดอกไม้ลงหน้าหลุมศพ เธอเหมือนจะไม่สนใจเหตุการณ์ด้านหลังแม้แต่น้อย ความสนใจของฉันกลับมาที่เดิม เพราะเด็กผู้ชายผมแดงคนเดิมสบัดแขกที่เข้ามาห้ามกระเด็นไปคนละทิศละทางแล้วเดินเข้าไปหาตัวการของเรื่องทั้งหมด

    "เธอกล้าพูดแบบนั้นมาได้งั้นเหรอซันนี่! อย่าคิดนะว่าฉันไม่ได้ยิน!"

    "ก็มันจริงนี่!!! ยัยเด็กนั่นไม่ได้แสดงสีหน้าเลยว่าตัวเองเสียใจที่พี่ตายซ้ำยังทำท่าทางสบายๆไม่ทุกข์ไม่ร้อนแม้แต่น้อย!!!"

    "หุบปาก! ฉันเหลืออดแล้ว ไม่ต้องเสนอหน้ามาให้ฉันเห็นอีก! เราจบกัน!"

    เขาพูดเสียงเฉียบขาด ผู้หญิงที่ชื่อซันนี่หรือคนที่ทำเรื่องทั้งหมดเบิกตากว้างด้วยความตกใจแล้วรีบจับแขนเข้าไม่ให้ไปไหนแล้วพูดเสียงดัง

    "ไม่! นายกล้าเหรอ!"

    เขาไม่พูดแต่สบัดแขนตัวเองหลุดออกจากการเกาะกุมของซันนี่ น้องของมากิเดินเข้ามาจับมือของเขา ตอนนี้เธอเอาหมวกเสื้อมาคลุมที่หัว สีหน้ายังคงเย็นชาเหมือนเดิม

    "พี่"

    "...ซะ...โซอิ..."

    "กลับบ้านเถอะ..."

    เขาถอนหายใจเล็กน้อยแล้วสองคนนั้นก็เดินไปขึ้นรถของตัวเอง พอมันขับห่างออกไปคนที่ชื่อซันนี่ก็กรีดร้องเสียงดังลั่นงาน

    "กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!"

    ------------------------------------------------------------------------------

    จบแว้วตอนนี้ พอดีอาการอยากแต่งฉากเศร้ามันกำเริบเลยแต่งดูก็ได้ด้วยประการละฉะนี้นี่แหละ = = พอดีมีคนอยากให้โคนันมีบทก็เลยให้(เพราะพากษ์ 1 ไม่มีบทซักกะจิ๊ด T^T)เดี๋ยวคงมีอีกยาวนั่นแหละ เหอๆ เม้นนะจ้ะเพราะไลท์อุตส่าห์มาอัพ ไม่เม้นจะดอง... ดองงงง... และดองงงงงง.........
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×