คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : งานกีฬาเเสนวุ่น (1/2)
เสียงโห่ร้องกึกก้องไปทั่วท้องสนาม
นักเรียนบนแสตนด์ต่างพากันแข่งร้องเชียร์ห้องของตนเองอย่างสุดเสียง
รวมถึงเชียร์หลีดเดอร์ที่วาดลวดลายในการเต้นเสียจนเรียกให้สายตาหลายคู่ต้องจ้องมอง
ยังไม่รวมถึงหุ่นนักกีฬาที่ขยับนิดขยับหน่อย
เสื้อก็เปิดให้เห็นถึงกล้ามเนื้ออันน่าจับต้อง ทำเอาสาวๆ รวมถึงหนุ่มๆ บางคน(?) ต้องรีบปาดน้ำลายที่ไหลเยิ้มลงมาเป็นทาง
แต่ที่น่าแปลกใจ...ก็เห็นจะมีแต่
นักเรียนเกรด 9 ห้อง 3 ที่เอาแต่ทำหน้าเบื่อโลก คล้ายกับว่ากำลังโดนแม่บังคับให้กินผักเหมือนตอนเด็กๆ
บางคนก็ลงไปในสนามแบบอึนๆ งงๆ ยังกับคนนอนน้อยแล้วต้องรีบตื่นมาโรงเรียนแต่เช้า
บางคนก็ไม่ยอมเข้าร่วมกีฬาที่ตนเองลงไว้
แล้วแอบไปหลบอยู่ในหลืบเพื่ออ่านหนังสืออย่างเงียบๆ
ก็บอกแล้ว...ว่างานกีฬาประจำปีอะไรเนี่ย
ไม่เหมาะกับห้องของพวกเขาเลยสักนิด !!!!!
-Kanomtien
Part-
“We
will, we will rock you…”
เสียงเพลงที่ดังมาจากบนแสตนด์เรียกให้ฉันต้องลืมตาขึ้นมาอย่างจำใจ
ใช่ค่ะ...ตอนนี้ฉัน ไม่สิ พวกเราทั้ง 3 กำลังแอบมางีบอยู่ต่างหาก !
ก็แหม่...ดูสิ แสงแดดจ้าเสียจนนึกว่าพระอาทิตย์อยู่ติดกับโลกแบบนี้
จะให้เอาแรงจากไหนไปมีอารมณ์ร้องเชียร์
อีกทั้งห้องของพวกเรายังมีคนนั่งอยู่บนแสตนด์ไม่ถึง 10 คนด้วยซ้ำมั้ง
แล้วพวกที่มาอยู่นี่ก็ไม่ได้มามีส่วนร่วมอะไรกับงานกีฬาประจำปีนี้หรอกนะคะ มาหลับ
อ่านนิยาย/การ์ตูน แบบพวกเรานี่แหละ...
“เสียงดังอะไรกันเนี่ย”
เน็ดบ่นออกมาอย่างหัวเสีย
หลังจากที่ถูกปลุกด้วยเสียงร้องเชียร์จากฝั่งตรงข้าม เขาเกาหัวแกรกๆ
อย่างไม่สบอารมณ์นัก ก่อนจะหันไปมองปีเตอร์ที่ยังคงนอนหลับอยู่ใต้เสื้อคลุม
“ยังหลับลงได้ยังไงกัน
?”
ฉันก็คิดเช่นเดียวกับเน็ดค่ะ
เพราะอากาศร้อนระอุบวกกับเสียงดังกระหึ่มเช่นนี้ เขายังหลับลงได้อีกงั้นหรอ !?
“KT
นี่กีโมงแล้ว”
เน็ดหันหน้ามาถามฉันด้วยน้ำเสียงงัวเงีย
“11.30”
“เห้ย!
ฉันมีแข่งเที่ยงนี้นี่หว่า ต้องไปซ้อมแล้ว ไว้เจอกันนะ!!”
หมอนั่นพูดขึ้นด้วยท่าทีร้อนรน
ก่อนจะโบกมือลาโดยที่ไม่หันมามองหน้าฉันเลยด้วยซ้ำ
ฉันมองภาพนั้นก่อนจะอดขำออกมาไม่ได้กับท่าทีเหลอหลาของเขา ว่าแล้วก็นึกถึงตารางกีฬาที่ตัวเองจะลงแข่งบ้าง
อ่า...14.30
สินะ
ในเมื่อยังเหลือเวลาอีกเยอะกว่าที่ตัวฉันจะต้องลงแข่ง
งั้นคงต้องหาอะไรที่มีประโยชน์ทำซะหน่อยละ ว่าแล้วก็จัดเตรียมร่างกายให้เรียบร้อย
ก่อนจะ…
ล้มตัวลงนอน
ใช่ค่ะ
กิจกรรมที่มีประโยชน์ที่สุด ก็คือ การนอน นั่นเอง!
แหม่ๆ...อย่าพึ่งมองว่าฉันเป็นคนขี้เกียจอย่างนั้นสิคะ
เขาเรียกว่า พักเอาแรง นะ
“KT
ฉันหิวแล้ว ไปหาไรกินกัน”
และแล้วเสียงของคนที่หลับอยู่นานก็ดังขึ้น
ปีเตอร์!
นายจะหิวตอนไหนก็ได้ แต่นายจะมาหิวตอนที่ฉันกำลังจะนอนไม่ด๊ายยยย!!!
“ฮอทดอกร้านป้าแมรี่นี่มันระดับมิชลินชัดๆ”
ฉันได้แต่ยิ้มขำกับคำเปรียบเปรยอันเกินจริงของคนตรงข้าม
ก่อนจะจัดการงับฮอทดอกเข้าปากตาม เอาเข้าจริง ฉันก็ยอมมาโรงอาหารกับเขาอยู่ดี
ไม่ใช่ไม่กล้าขัดใจนะ แต่จิตใจเบื้องลึกมันก็ประท้วงว่าหิวจนจะกินกระเพาะได้แล้ว
จึงต้องจำยอมเดินตามปีเตอร์มาต้อยๆ
“วันนี้คนเยอะกว่าปกติแฮะ”
ฉันพูดพลางหันซ้ายขวามองโรงอาหารที่มีผู้คนหนาตามากกว่าวันปกติ
“ฉันว่างานกีฬาประจำปี
น่าจะเปลี่ยนชื่อเป็นวันอู้งานประจำปีมากกว่านะ”
และคำพูดขบขับนั้นก็ทำให้ฉันระเบิดหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้
มีคนเคยบอกปีเตอร์บ้างไหมว่า จังหวะการพูดของเขามันดีมาก ไม่ว่าจะพูดเรื่องอะไรออกมา
ก็ดึงให้ผู้คนสนใจได้อยู่เสมอ
“แล้วเราก็เป็นหนึ่งในพวกอู้งานนะ”
ฉันพูดขึ้นอย่างติดตลก ก่อนจะที่นิ้วชี้ของคนตรงข้ามจะแกว่งไปมา
เหมือนกับจะบอกว่า ‘ไม่ใช่อย่างงั้นเสียหน่อย’
“เขาเรียกประหยัดพลังงานต่างหาก
KT”
แล้วเราสองคนก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมกันอย่างกับรู้ใจ(?)
เอาเข้าจริง ตั้งแต่ฉันมาอยู่กับพวกเขา 2 คนเนี่ย
ไม่มีวันไหนที่ไม่ได้หัวเราะออกมาเลยนะ ทุกวันนี้ยังสงสัย ว่าพวกเขาเสกคาถาใส่
หรือให้ฉันกินอะไรผิดแปลกรึเปล่า ทำไมมันถึงอารมณ์ดีได้ทั้งวัน ?
“ว่าแต่เธอจะหาที่ฝึกงานรึเปล่า ?”
ปีเตอร์ถามขึ้นหลังจากที่เราเอาแต่คุยเรื่องไร้สาระ
อ้อ!
ที่โรงเรียนนี้เขาจะมีโปรแกรมให้นักเรียนฝึกงานเป็นเวลา 2-3
เดือนด้วยนะ แต่ถ้าถามถึงฉันในตอนนี้งั้นหรอ...
“ยังไม่ได้เลย”
พูดออกมาด้วยน้ำเสียงจ๋อยๆ ก่อนจะยกขวดน้ำขึ้นมาดื่มเพื่อกลบเกลื่อนอารมณ์บ่จอยของตนเอง
“เอาน่าๆ
เดะก็หาได้เองนะ”
เขาพูดปลอบใจก่อนจะส่งยิ้มบางๆ
มาให้ ปีเตอร์...นายชักจะเป็นพ่อพระไปทุกวันแล้วนะ
“แล้วนายล่ะ
หาได้รึยัง?”
“เอ่อ...”
หมอนั่นชะงักไปครู่หนึ่ง
ก่อนจะตัวแข็งทื่อเหมือนคนกำลังปิดบังบางเรื่อง
เขาคงไม่คิดว่าฉันจะถามถึงเรื่องนี้ใช่ไหมล่ะ ฮ่าๆ ว่าแล้วก็หัวเราะออกมาในใจ
ก่อนจะเท้าคาง จ้องมองคาดคั้นคำตอบของคนตรงหน้า ฉันรู้น่าปีเตอร์...ว่านายทำงานให้ใคร
แค่อยากแกล้งเล่นเฉยๆ
“ฉันทำงานให้บริษัทคุณสตาร์ค
แต่ก็เป็นแค่เสมียนธรรมดาอ่ะ...นะ”
ว่าแล้วก็หยิบขวดน้ำขึ้นมาดื่มให้ดูเหมือนธรรมชาติเสียหน่อย
แหม่ๆ แต่ไอหยดเหงื่อบนหน้านายน่ะมันกำลังบอกชัดๆ ว่า กำลังโกหก! ฉันเลยได้แต่เเสร้งพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะเฉไฉไปเรื่องอื่น
เพราะไม่อย่างทำให้เขาอึดอัดไปมากกว่านี้
ก็บอกแล้วไง...รู้เท่าที่เขาให้รู้
แต่ถ้าอยากรู้อีก...ก็ค่อยสืบเอาเองไง !
และตอนนี้ก็เป็นเวลาที่เน็ดต้องแข่งชักเย่อ ทำให้พวกเราต้องรีบวิ่งออกจากโรงอาหาร เพื่อมุ่งตรงมายังขอบสนาม ที่กำลังจะเริ่มการแข่งขันในอีกไม่กี่นาที ทันทีที่ฉันเห็นเน็ดก็ไม่ลืมที่จะตะโกนอย่างสุดเสียงเพื่อให้กำลังใจเพื่อน
“ถ้าชนะ
ฉันจะซื้อปลอกหมอของเรมให้นายเลยนะ!!!”
และมันก็ได้ผล
หมอนั่นฮึดสู้ขึ้นมาเสียทันใด !!!
ปี๊ดดดดดดดดดด
!!!
“สู้เพื่อท่านเรมเว้ยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!”
ฉันล่ะเชื่อในพลังรักอนิเมะของเขาจริงๆ...ส่วนคนข้างกายฉันนั้นก็...
ขนลุก...?
ฉันเหลือบมองขนแขนของปีเตอร์(ฟังดูโรคจิตดีแฮะ) ก่อนจะต้องขมวดคิ้วสงสัยว่าเขาตื่นเต้นอะไรรึเปล่า
หรือการที่ดูเพื่อนซี้แข่งชักเย่อจะทำให้เขาตื่นเต้นขนาดนั้นเชียว ?
ไม่มั้ง...
“ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีเลย”
หมอนั่นพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
เอาเข้าจริงฉันก็แทบจะไม่ได้ยินเพราะเสียงรอบข้างกลบเสียจนแสบแก้วหู
แต่ดีที่อ่านรูปปากออก
“เป็นอะไรรึเปล่า
?”
ฉันจำต้องละสายตาออกจากการแข่งเบื้องหน้า
แล้วหันมองคนข้างๆ อย่างเป็นห่วงแทน
สีหน้าของปีเตอร์เหมือนคนกำลังแบกโลกทั้งโลกไว้เสียอย่างนั้น
นั่นยิ่งทำให้ฉันเป็นกังวลตามไปด้วย
“KT
ตอนซ้อมวิ่ง ฉันอาจจะไม่อยู่นะ”
และคำพูดนั้นก็ทำให้ฉันเบิกตากว้าง
หรือว่าเขาคิดจะชิ่ง...
“แต่ฉันจะกลับมาให้ทันตอนแข่งแน่นอน”
แต่น้ำเสียงหนักแน่นและสายตาอันเอาจริงนั้น ก็ทำให้ฉันเชื่อใจว่าเขาจะไม่ทิ้งการแข่งขันนี้ไป
ฉันพยักหน้าเข้าใจก่อนจะแตะเบาๆ ที่ไหล่เขา
“มีอะไรที่ไม่สบายใจก็พูดออกมาได้นะ”
ที่พูดออกไปอย่างนั้นไม่ใช่เพราะอยากรู้อยากเห็นความลับของเขา
แต่เพียงแค่อยากให้เขาได้ระบายสิ่งที่น่าหนักใจออกมา
แบ่งเบาให้คนอื่นเสียบ้าง...จะได้ไม่ต้องเป็นทุกข์อยู่คนเดียว
ไม่เคยได้ยินหรอ...
“เจอเรื่องเศร้า เล่าบ้างก็ได้”
และคำพูดนั้นก็เรียกให้มุมปากของเขายกยิ้มขึ้นมาบางๆ
ก่อนที่รูปปากของเขาจะขยับไปมา เพื่อเอ่ยคำว่า...
“Thank
you”
และแล้วการแข่งของเน็ดก็เป็นอันเสร็จสิ้น
ถือเป็นชัยชนะแรกของห้องเรา หลังจากที่แข่งกีฬากันมาครึ่งค่อนวัน
เน็ดดูท่าจะดีใจเสียยังกับว่าถูกรางวัลที่ 1 อย่างไงอย่างงั้น
หมอนั่นรีบวิ่งแจ้นมาอวดชัยชนะให้ฉันฟังด้วยท่าทีดีใจ
ก่อนจะต้องขมวดคิ้วทันควันเมื่อไม่เห็นร่างของเพื่อนอีกคน
“ปีเตอร์ไปไหนงั้นหรอ
?”
“อ่า...หมอนั่นบอกว่ารู้สึกไม่ค่อยดีน่ะ
เลยไปพักที่ห้องพยาบาล”
เอ่ยพลางไขว่นิ้วไว้ด้านหลัง
ขอโทษจริงๆ นะเน็ด ฉันไม่ได้ต้องการจะโกหกนาย
แต่อยากให้หมอนั่นพูดกับนายเองมากกว่า
“จริงดิ!? งั้นเราไปดูหมอนั่นกันเถอะ!”
ว่าแล้วเขาก็ลากฉันออกจากวงล้อม
ก่อนที่จะหันมามองอย่างสงสัย เมื่อฉันเอาแต่ยืนนิ่งไม่เดินตามไป
“เอ่อคือ...ครูที่ห้องพยาบาลบอกไม่ให้ใครเข้าไปนอกจากคนป่วยน่ะ
มันจะไปรบกวนเขาเปล่าๆ”
“งั้นหรอ...”
เน็ดพูดออกมาอย่างเสียดาย
ดูท่าจะเป็นห่วงปีเตอร์เอามากๆ เห็นดังนั้นฉันต้องเปลี่ยนเรื่องเสียหน่อยล่ะ
“เฮ้!
มาเลือกลายหมอนข้างกันดีกว่า!”
พูดเเล้วก็จูงเเขนคนตัวโตไปนั่งบนแสตนด์
ก่อนจะเปิดลายหมอนข้างต่างๆ ให้เขาเลือกดู และก็ได้ผล
ดูท่า...มันจะดึงความสนใจเขาจากปีเตอร์ได้บ้างล่ะนะ
“ฉันต้องไปซ้อมวิ่งก่อนนะ”
ฉันพูดขึ้นหลังจากที่เหลือบมองนาฬิกาว่าเป็นเวลาเกือบจะ
2 โมงแล้ว เน็ดเห็นดังนั้นจึงไม่ลืมที่จะอวยพรให้
“โชคดีนะ,
แล้วเจอกัน !”
“เจอกัน !”
ทันทีที่ฉันมายังสถานที่ซ้อมวิ่งของแต่ละห้อง
ก็พบเข้ากับนักกีฬาห้องฉันมารอกันอยู่ก่อนหน้าแล้ว
กะว่าดีใจอยู่หรอกนะที่เจอเพื่อนในห้อง หากไม่ติดว่า...
“อ้าว
KT
ปีเตอร์ไม่มาด้วยหรอกหรอ หมอนั่นเกิดปอดแหกขึ้นมาแล้วว่างั้น ?”
ทำไมฉันต้องโชคร้ายมาเจอคนปากปีจอแบบหมอนี่ด้วยนะ
!
ฉันเดินผ่านแฟรชไปอย่างไม่สนใจ พยายามทำเหมือนเขาเป็นธาตุเป็นอากาศ
ก่อนจะเริ่มวอร์มอัพร่างกาย
“เห้อ...ปีเตอร์นี่แย่จริงๆ
เลยน้า...ทิ้งให้สาวน้อยต่างถิ่นต้องมารับชะตากรรมคนเดียวเนี่ย”
ยัง...
ยังไม่หยุดยุ่งเรื่องชาวบ้านอีก !!!
“ไม่มีใครทิ้งใครทั้งนั้นแหละ อีกอย่าง...ทำไมนายไม่เอาแรงที่เอาไว้พูดจาพล่อยๆ เนี่ย ไปสนใจในการแข่งซะดีกว่าล่ะ ถามจริงนะ ที่บ้านส่งเสียให้เรียนคอร์สนู่นนี่นั่น แต่ไม่มีเรียนคอร์สสอนมารยาททางสังคมบ้างหรือไง ?”
ฉันที่ควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ไหว
หันไปตอกหน้าหมอนั่นซะจนเหวอไปเลย เขาคงคิดว่าฉันเป็นพวกยอมคนสินะ แต่จะบอกให้นะ
นอกจากป๊าม๊าแล้วไอ้หนมเทียนคนนี้ไม่ยอมใครหรอกเว้ยยยยยยย!!!
แล้วคำพูดเชือดเฉือนของฉันก็เรียกเสียงโห่ร้องจากรอบข้าง
ก่อนจะตามมาด้วยเสียงผิวปากอย่างอารมณ์ดีของหญิงสาวห้องข้างๆ
“เล็กพริกขี้หนูจริงๆ”
มิเชลล์
สาวผมหยักศกที่เคยปรามาสเจ้าพวกปีเตอร์/เน็ด ว่า ‘โรคจิต’ พูดออกมาด้วยท่าทีขบขัน
ก่อนจะหันไปวอร์มอัพร่างกายต่อ เสียเหมือนกับว่าเมื่อสักครู่นี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เดี๋ยวก็รู้ว่าใครจะแน่
!!!”
แฟรชตะโกนไล่หลังฉัน
ดูท่าคงจะเสียหน้าไม่น้อย ฉันได้ยินเสียงฮึดฮัดอย่างไม่สบอารมณ์ของเขา
ก็ทำให้ต้องส่ายหัวออกมาอย่างเอือมๆ
เอาจริงนะ...นี่ฉันต้องแข่งร่วมกับคนอย่างหมอนั่นจริงๆ หรอเนี่ย !
แค่คิดก็ไม่อยากจะชนะละ แต่ไม่ได้ๆ ท่องไว้สิขนมเทียน
ทำเพื่อห้องโว้ย
!
และทันทีที่ได้ยินเสียงของคุณครูว่าให้มาตั้งแถวเตรียมซ้อมวิ่ง
ฉันก็รีบวิ่งไปเข้าแถวทันที ซึ่งก็เรียงจาก แฟรชไม้แรก เพื่อนผู้หญิงในห้องไม้สอง
และฉันไม้สาม แต่จริงๆ แล้วเราจะแข่งกันทั้งหมด 5 ไม้ แต่ในตอนนี้ปีเตอร์ยังไม่มา
จึงหาคนในห้องที่ว่างๆ มาเติมแทน ซึ่งมันไม่เป็นปัญหาอะไร
เพราะยังไม่ถึงการแข่งจริง
ฉันวิ่งอยู่กับที่ไปมาเพื่อให้ร่างกายตื่นตัว
ก่อนจะพ่นลมหายใจเพื่อผ่อนคลายร่างกายให้มากที่สุด...ฉันมักจะทำอย่างนี้ก่อนแข่งเทควันโดเสมอ
เนื่องจากคิดว่ามันคือวิธีที่จะรวบรวมสมาธิของเราได้ดีที่สุด แล้วมันก็ได้ผลจริงๆ
นะ !
“เห้!
คู่แข่งของฉันคือสาวน้อยตัวเล็กหรอกหรอเนี่ย”
เจ้าผู้ชายที่อยู่ลู่ข้างๆ
พูดขึ้นอย่างขบขัน ก่อนจะส่งสายตาล้อเลียนมาให้
ให้ตายเถอะ...ชีวิตฉันต้องเจอแต่คนประเภทนี้จริงดิ
!!!
ว่าแล้วก็ปรายหางตามองอย่างเอือมระอา
ก่อนจะพูดออกมาลอยๆ ด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ฉันดุนะ
นายไหวหรอ ?”
มาอัพเเล้วจ้าาาา!! 555555หายหน้าหายตาเก่งงงงง ไรท์ไปดู ENDGAME มาเเล้วค่ะ ! ตอนเเรกคือเตรียมใจไปเเล้วไม่ว่ายังไงก็ไม่ร้องหรอก เเต่สุดท้าย...ดิ่งเลยจ้าช่วงท้ายของเรื่อง คือมันไม่ไหวจริงๆ มันประทับใจกับทุกตัวละครจริงๆ นะ รู้สึกผูกพันธ์กับพวกเขามานานมาก เเล้วคือฮือออออออ พอถึงตอนน้องพีทออกมา นั่นเเหละจ้าาาาา นั่งดีใจอยู่กับเพื่อน2คน 5555555555 คือมันดีมากจริงๆ สไปเดอร์เเมนชุดนี้คือร้องว้าว! เเล้วตัวอย่าง Far From Home ก็ปล่อยมาเมื่อคืน บอกเลยคิดถึงเฮียรอบ2 น้องพีทร้องไห้ด้วยฮืออออ น้ำตาซึม รอวนไป 2 ก.ค. เน้!!! ยังไงไรท์ยังไม่โดนลากใดๆ นะคะ55555555 มุขเสี่ยงคุกยังมีอีกเยอะมาก(เเต่ก็ไม่กล้าใส่ทุกมุข...)
ยังไงก็อย่าลืมติดตามเด็กเเสบซ่าเเก็งค์นี้กันต่อไปนะคะ
เเล้วเจอกันตอนหน้าค่าาาาาาา !!!
คิดถึงทุกคนเด้ออออออออออ555555
ขอบคุณค่ะ ♥
ความคิดเห็น