ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { Spider-Man } ทำไงดี! เมื่อฉันเป็น เพื่อนบ้าน สไปเดอร์แมน!

    ลำดับตอนที่ #3 : คุณเพื่อนบ้าน ?

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.28K
      692
      25 มี.ค. 62


    ชื่ออะไรนะ ?


    -100%-














              “น้าฝากเจ้าชูการ์ด้วยนะจ๊ะ”

     

              สาวสวยเอ่ยด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มโดยไม่ลืมจะส่งมือไม้มาทำท่าบ๊ายบาย ขนมเทียนยิ้มรับอย่างฝืนใจ ดวงตากลมดูอ่อนล้าผิดกับอากาศยามเช้าที่แสนสดใส ก่อนที่จะ(พยายาม)ปรือตามองเข้าตัวปัญหาที่มีชื่อว่า ชูการ์

     

     

              “ทำหน้าแบบนี้หมายความว่ายังไง เฮ้ ฉันไม่ใช่พวกทาสหมาหรอกนะ ฮะ-เฮ้ยยย! จะวิ่งไปไหนเนี่ยยยยย!

     

              ไม่ทันได้สนทนากับเจ้าชูการ์จบดี สุนัขพันธุ์บีเกิ้ลก็สาวเท้าทั้งสี่ของมันออกสตาร์ท ทำเอาคนจูงเกือบหน้าคะมำไปกับพื้น ขนมเทียนรีบกระชับฝีเท้าให้ทันตามเจ้าตูบนั่น

     

     

              “ก็เพราะอย่างนี้ไงฉันถึงไม่ตกเป็นทาสหมาหรอกเว้ยยยยยย!!!

     

              บ่นกระปอดกระแปรดออกมาด้วยภาษาที่ทำเอาร่างสูงของใครบางคนถึงกับขมวดคิ้วมุ่น สายตาคมมองผ่านกระจกภายในห้อง ไปยังร่างเล็กของเด็กสาวที่วิ่งตามหมา? ก่อนจะส่ายหัวเบาๆ แล้วรีบไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการไปโรงเรียน

     

     

             






     

           -Kanomtain Part-

     

     

           “ขอบใจแกมาก เป็นเช้าที่ทำเอาฉันแทบตายเลยนะ”

     

              ฉันกัดฟันพูดกับเจ้าชูการ์ที่ตอนนี้ทำเป็นแกล้งเหมือนทองไม่รู้ร้อนว่ามันทำอะไรกับฉันไว้บ้าง ไม่ใช่แค่พาฉันวิ่งไปเป็นกิโลอย่างเดียวนะ มันยังซนชอบทำเหมือนจะพุ่งชนใส่สุนัขตัวอื่นไปทั่ว ฉันได้แต่หอบหายใจ ขาก็เริ่มล้าซะด้วยสิ

     

     

              ให้ตายเถอะ นี่มันเช้าวันแรกของการไปโรงเรียนของฉันเชียวนะ !

     

     

              แต่ที่ทำได้ก็เพียงแค่บ่นในใจกับตัวเอง เพราะเจ้าตูบนั่นเป็นหมาของเพื่อนสนิทน้าเอมิลี่ ที่ตอนนี้เขาต้องไปดูงานที่อินเดียทำให้ต้องฝากมันไว้ที่นี่ อีก 2 อาทิตย์จะมารับกลับไป ฉันก็ได้แต่ภาวนาให้เธอมารับเจ้านี่กลับไปเสียที เพราะนี่แค่วันที่ 2 ก็ทำเอาฉันเกือบตายซะตายแล้วสิ ให้ตายเถอะ ฉันคงเป็นพวกเข้ากับหมาไม่ได้จริงๆ ละมั้ง

     

     

              ทันทีที่กลับมาอาบน้ำ แต่งตัว ฉันก็สำรวจร่างของตัวเอง ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาบางๆ ที่เห็นว่าชุดยูนิฟอร์มถูกสวมใส่อย่างเรียบร้อย ไม่ผิดกฎใดๆ พร้อมกับเดินไปหยิบกระเป๋าแล้วรีบลงไปข้างล่าง ทันทีที่ได้ยินเสียงเรียกของน้าเอมิลี่

     

     

              “เดี๋ยววันนี้น้าไปส่งเอง ประเดิมการไปโรงเรียนวันแรก”

     

              ทันทีที่ขึ้นมาบนรถ ฉันก็พึ่งสังเกตว่าชุดที่วันนี้น้าสวมใส่นั้นดูเป็นทางการ สมกับเป็นประชาสัมพันธ์ของบริษัทเสียจริง รถเก๋งสีดำแล่นมาเรื่อยๆ ตามทางมีร้านรวงมากมายที่พากันเริ่มเปิดร้าน บรรยากาศที่นี่ดีมากเหมือนกับที่เคยดูหนังมาไม่ผิด เห็นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเก็บภาพสักหน่อย

     

     

              เมื่อรถถูกหยุดลงตรงหน้าโรงเรียนมัธยมชื่อดัง ที่มีชื่อเสียงทางด้านวิชาการเป็นอย่างมาก ก็ทำเอาใจฉันเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ด้วยความตื่นเต้น ฉันเอ่ยลากับน้าเอมิลี่เล็กน้อยก่อนจะเอ่ยขอบคุณคำอวยพร

     

     

              “ขอให้เป็นวันที่ดีนะจ๊ะ”

     

     

              พอได้ยินแล้วก็ได้แต่นึกในใจ...

              ค่ะ หนูก็หวังเช่นนั้นเหมือนกัน

     

     

     

     

              “เอาล่ะๆ ทุกคนนั่งที่ให้เรียบร้อย”

     

              เมื่อเสียงของครูหนุ่มเอ่ยขึ้น จากห้องที่มีเสียงจอแจพูดคุยกันหลังจากที่หายหน้าหายตาจากการปิดเทอมที่ผ่านมาก็เงียบลงทันที ฉันยืนอยู่หลังประตูพลางกุมมือแน่น ความเครียด ความตื่นเต้น และความกลัวนี้มันอะไรกัน ทำไมฉันต้องสติแตกขนาดนี้ ให้ตายเถอะ ขนมเทียน! เธอไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อนเลยนะ

     

     

              “วันนี้ครูมีเพื่อนใหม่มาแนะนำให้พวกเธอรู้จัก เธอเป็นเด็กนักเรียนแลกเปลี่ยนจากประเทศไทย จะมาอยู่กับเราเป็นเวลาครึ่งปี ยังไงก็ฝากดูแลเธอด้วยล่ะ”

     

              ครูหนุ่มอธิบายจบพลางสอดส่ายตาสื่อให้ฉันเข้ามาในห้องได้ ฉันพ่นลมหายใจเพื่อเรียกสปิริตก่อนจะตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป ทุกสายตาจ้องมาที่ฉันเป็นตาเดียว แล้วเจ้าเหงื่อบ้านี่จะไหลไปถึงไหนกัน อากาศออกจะเย็นไปด้วยซ้ำ!

     

     

              “เอ่อ...ฉันชื่อขนมเทียน อายุ 15 มาจากประเทศไทย ยินดีที่ได้รู้จัก”

     

              แล้วเจ้าเส้นเสียงแกเป็นอะไรของแก๊!? ทำไมต้องสั่นตามจังหวะหัวใจที่รัวเร็วยังกับจังหวะกลองด้วยเนี่ย!!!

     

     

              Thai? Taiwan right?

     

              จู่ๆ ก็มีเจ้าเด็กผู้ชายหน้าออกอินเดียพูดขึ้นอย่างสงสัย นี่ถ้าไม่ติดว่าเขาไม่รู้จริงๆ ไม่ได้ตั้งใจกวนฉัน วันนี้คงต้องมีแลกสักหมัด ประเทศไทยว้อยยยย ไม่ใช่ไต้หวัน!!!

     

     

              “ประเทศไทยไม่ใช่ไต้หวัน Bangkokไง”

     

              ไหนๆ ไม่รู้จักประเทศไทยนักก็บอกชื่อเมืองหลวงไปเลยละกัน เผื่อเขาอาจจะรู้จัก

     

     

              “ห๊ะ?

     

              สงสัยฉันจะหวังมากไปจริงๆ - -  หน้าของเด็กชายคนนั้นยังคงมีเครื่องหมาย ? อยู่บนหัว

     

     

              “ฉันรู้จัก อาหารไทยไง”

     

              จู่ๆ ก็มีเสียงผู้ชายคนนึงพูดขึ้น ฉันเปรยตามองก่อนจะต้องเบิกกว้างด้วยความตกใจ นั่นมัน...ปีเตอร์ พาร์กเกอร์ นี่หว่า! นี่ฉันอยู่ห้องเดียวกับเขาด้วยหรอเนี่ย พระเจ้าช่วยลูกด้วย(ค่ะ)!!!

     

     

              “อ๋อออออ”

     

              ทันที่ที่ชายคนนั้นเอ่ยก็เหมือนเป็นการไขข้อสงสัยของทุกคน พวกเขาพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะรีบเอ่ยถามถึงประเทศไทยในเรื่องต่างๆ ทำเอาฉันถึงกับไปไม่เป็น

     

     

              “เอาล่ะๆ ไว้ค่อยคุยกันทีหลัง คาบโฮมรูมนี้ครูขอเช็กชื่อพวกเธอ....”

     

              เหมือนสวรรค์ทรงโปรด ทันทีที่คุณครูพูดขึ้นพวกเขาก็ต่างพากันไปให้ความสนใจแทนฉันที่ยังยืนบื้ออยู่ในตอนนี้ อ๋อใช่! ฉันต้องไปหาที่นั่งนี่หว่า

     

     

              “คานมเทียน เธอไปนั่งข้างๆ คุณพาร์กเกอร์ละกัน”

     

              ดูเหมือนคนที่นี่จะมีปัญหาในการเรียกชื่อฉันกันนะ แต่เฮ้ย! นี่มันไม่ใช่ประเด็นหลักนี่หว่า ฉันเปรยตามองคนที่ครูว่าก่อนจะจำใจเดินไปนั่งที่ข้างๆ เขา ในเมื่อมันเหลือเป็นที่สุดท้าย

     

     

              “เฮ้!

     

              ทันทีที่หย่อนก้นลงนั่ง คนข้างกายก็เอ่ยทักทายอย่างเป็นมิตร ดวงตานั้นหยีเป็นสระอิพร้อมกับส่งรอยยิ้มมาให้

     

     

              “ไง..”

     

              ให้ตายเถอะ! เวลาตื่นเต้นทีไรมักจะเป็นคนพูดน้อยทุกที ฉันได้แต่นั่งสงบปากสงบคำอย่างเจี๋ยมเจี้ยม เพราะอะไรน่ะหรอ!? คนข้างๆ ฉันนี่ไง เขาคนนี้ไง Spider-Man !!! ไหนจะเป็นเพื่อนร่วมห้องแล้วยังเป็นเพื่อนบ้านฉันอีก นี่มันโครตจะบังเอิญในบังเอิญชัดๆ!

     

     

              “ฉันปีเตอร์ พาร์กเกอร์”

     

              หมอนั่นว่าก่อนจะยื่นมือมาทักทาย ฮืออออ ป๊า ม๊า หนูได้จับมือกับ Spider-Manด้วยค่ะ ฮืออออออออออออออออ

     

     

              “ฉันขนมเทียน”

     

              ยืนมือไปจับตามมารยาท ก่อนจะต้องชะงักเมื่อดึงมือกลับไม่ได้

     

     

              “อ่ะแฮ่ม! ช่วยตั้งใจฟังครูหน่อยครับ!

     

              คุณครูพูดขึ้นเมื่อเห็นเราจับมือกันไม่ปล่อย คือไม่ใช่เลยค่ะครู!! หนูไม่ได้จะเกี้ยวพาราสีใดๆ เขาทั้งสิ้น แต่เขาไม่ปล่อยมือหนู!!!

     

     

              “ปล่อยมือฉันสิ”

     

              ฉันกดเสียงต่ำก่อนจะพยายามดึงมือออก แต่หมอนั่นกับทำหน้าประมาณว่า ไม่ใช่อย่างนั้น

     

     

              “ฉันดึงมือไม่ออกเหมือนกัน”

     

     

              ห๊ะ...?

     

     

              “ไม่ทราบว่าพวกคุณ 2 คน จะตั้งใจฟังผมได้รึยังครับ!?

             

              และแน่นอนว่าเสียงนั้นก็ทำเอาทั้งห้องหันมามองที่เราด้วยสายตาอาฆาต(?) ให้ตายเถอะ! ฉันไม่ได้ตั้งใจจะขัดเวลาเรียนของพวกเธอเลยสักนิด แต่มือเจ้ากรรมนี่มันดึง-ไม่-ออก!!!

     

     

              “ออกสิเว้ยยยยย!

     

     

     

     

     

              เพี้ยะ!!!!!!!!!

     

     

     

     

              ใบหน้าหล่อสะบัดไปตามแรงฟาดของมือฉัน(อย่างไม่ได้ตั้งใจ) ก่อนจะเห็นรอยแดงๆ เป็นรูปนิ้วมือบนใบหน้าขาวนั้น ทั้งห้องถลึงตามองฉันด้วยความตกใจเหมือนกับพึ่งเคยเห็นพวกใช้ความรุนแรงอย่างไงอย่างงั้น ก่อนที่คนข้างๆ จะหันหน้ากลับมาตามเดิมพร้อมกับบ่นพึมพำเบาๆ กับตัวเขาเอง

     

     

              “มือหนักใช้ได้...”

     

     

              ให้ตายเหอะ!!!!!!!!!!!!! วันแรกของการเปิดเรียนของฉันมันช่างแสนซวยอะไรอย่างนี้ มือเจ้ากรรมดึงไม่ออก ไหนจะคนในห้องมองว่าฉันเป็นพวกใช้ความรุนแรงอีกกกกกกกกกกกกกกก!!! ป๊า  ม๊ามารับขนมเทียนกลับบ้านที!!! ฮือออออออออออ

     

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

              “รีบๆ จัดการธุระแกให้เสร็จเลยนะ”

     

              ฉันพูดกับเจ้าชูการ์ที่ตอนนี้กำลังปล่อยพลังอุนจิใส่พุ่มไม้ ทันทีที่กลับมาถึงบ้านฉันก็ต้องจำใจพามันออกมาเนื่องจากมันเห่าไม่หยุด! เหมือนคนเอาแต่ใจอย่างไงอย่างงั้น วันแรกของการไปโรงเรียนของขนมเทียนคนนี้หนักเอาเรื่อง ไหนจะเรื่องบ้าๆ ในช่วงเช้า กลางวันก็ต้องทานข้าวคนเดียวเนื่องจากไม่รู้จักใครอีกทั้งคนในห้องก็ต่างพากันทำท่าทางหวาดกลัวฉัน ฉันได้ยินพวกเขาคุยเรื่องมวยไทยกันด้วยล่ะ แต่เฮ้ย...ไม่ใช่ว่าคนไทยทุกคนจะต่อยมวยเป็นหรอกนะ - -

     

     

              เฮ้ คุณเพื่อนบ้าน!

     

              น้ำเสียงคุ้นหูเรียกให้ฉันรับหันมอง ก่อนจะพบว่าเป็นปีเตอร์ มนุษย์แมงมุม! เขาอยู่ในชุดออกกำลังกายพร้อมกับรองเท้าวิ่งแบรนด์ดัง รอยยิ้มนั้นถูกส่งมาอย่างไม่ปกติดีนัก อ่า...สงสัยจะยังเจ็บหน้าอยู่สินะ

     

     

              “ฉัน...ขอโทษนะ เรื่องที่โรงเรียน”

     

              ฉันเอ่ยออกมาอย่างสำนึกผิด ตอนอยู่ที่ห้องเรียนก็ไม่ได้ขอโทษเขาจริงๆ จังๆ เสียด้วยสิ เนื่องจากคุณครูเอาแต่มองฉันกับเขาอย่างไม่คลาดสายตา จึงทำให้ไม่กล้าเอ่ยอะไรต่อ ฉันได้แต่หลุบตามองพื้นอย่างไม่กล้าสู้หน้านัก

     

     

              “เฮ้ย! เรื่องแค่นี้เอง เธอจะคิดมากทำไม ในเมื่อเธอก็ไม่ได้ตั้งใจ”

     

              แต่น้ำเสียงสดใสเหมือนไม่ได้ติดใจอะไรนั้นก็ทำให้ฉันต้องเงยหน้ามองตาม เขาคลี่ยิ้มบางๆ ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้เมื่อเห็นว่ามีบางสิ่งอยู่ด้วย

     

     

              “เฮ้ ชื่ออะไรน่ะ?

     

              แต่คำถามนั้นกับทำเอาฉันขมวดคิ้วมุ่น แต่ก็เอ่ยปากตอบออกไป

     

     

              “ขนมเทียนไง”

     

              พร้อมกับกระพริบตาปริบๆ ด้วยความไม่เข้าใจนัก วันนี้ฉันแนะนำตัวกับเขาไป 2 รอบแล้วนะ หรือเขาจะสมองปลาทองขนาดนั้นเชียว ?

     

     

              “อุ้บ..!

     

              ร่างสูงกว่าพยายามใช้มือปิดปากคล้ายกำลังกลั้นขำสุดชีวิต ก่อนจะพ่ายแพ้ให้กับตัวเขาเองแล้วระเบิดหัวเราะออกมาอย่างกับคนบ้า...

     

     

              ฉะ-ฉันหมายถะ-ถึงชื่อ หมาของเธอน่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

     

              และคำตอบนั้นก็ทำเอาฉันหน้าชาจนอยากจะวิ่งหนีจากตรงนี้ไปให้ไกลที่สุด

     

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

     

    .

     

     

     

    อายShiftหายเลยเว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย !!!!!!!!!!

     








    -----

     หายไปหลายวันขอโทษด้วยนะคะ ไม่ค่อยว่างเลย เเต่ยังไงก็จะพยายามมาเสิร์ฟความกาวนี้เรื่อยๆ นะคะ!5555

    ตอนนี้อาจจะอ่านเเล้วมีบางจุดเเหม่งๆ สามารถติชมกันได้เลยนะคะ เพราะว่าคิดสดเเล้วก็รีบลงเลยทันที

    ยังไงก็อย่าลืมติดตามความบ้าบอของน้องขนมเทียนต่อไปนะคะ 

    ขอบคุณค่ะ  

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×