ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { Spider-Man } ทำไงดี! เมื่อฉันเป็น เพื่อนบ้าน สไปเดอร์แมน!

    ลำดับตอนที่ #17 : วัยรุ่นเลือดร้อน (อย่าดูเเฟนอาร์ตเพลิน จนเผลอข้ามตอนไปนะ!)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.91K
      269
      13 เม.ย. 63


    ทำตัวกร่าง 
    เดี๋ยวได้ ต า ส ว่ า ง ที่โรงบาล

    -100%-
    [ #KTspi ]




         สิ้นเสียงออดหมดเวลา ปากกาที่กำลังยุกยิกกับการเขียนกระดาษคำตอบนั้นก็ต้องหยุดลง สีหน้านักเรียนภายในห้องแสดงออกมาพร้อมกับเสียงพ่นลมหายใจที่กำลังบ่งบอกว่าพวกเขานั้นได้ผ่านเวลาอันแสนยากลำบากและน่าอึดอัดใจนี้ได้แล้ว ก่อนที่แต่ละคนจะเดินออกจากห้องเชือดแห่งนี้ ใช่...เพราะมันคือห้องที่จะเชือดคะแนนพวกเขาไปไง !

     

     

     

     

         “มิดเทอมนี้ ปิดชีวิตชะเอิงเอย...”

     

     

     

     

        -Kanomtien Part-

     

     

        ทันทีที่ได้ส่งกระดาษคำตอบไปนั้น ก็เหมือนว่ามันได้พรากเอาจิตวิญญาณของฉันไปด้วยอย่างไงอย่างงั้น มันน่าเจ็บใจไหมล่ะทุกคน ! ที่อุตส่าห์อ่าน ติว ทำแบบฝึกหัดมาอย่างดี !



         แต่กลับลืม !!!



         ลืมอย่างไร้สาเหตุ มันน่างงใจมาก ทั้งๆ ที่ฉันก็โน้ตแล้วโน้ตอีก แต่พอเห็นโจทย์บนกระดาษคำถามแล้วก็เหมือนกับว่าสมองมันเดดแอร์ไปซะอย่างงั้น จนเกิดคำถามขึ้นมาในใจขึ้นว่า

     

     

         “อะไรวะ...?

     

     

     

     

         “โอ้ยยยย! ข้อนั้นฉันไม่น่าพลาดเลย ทั้งๆ ที่เมื่อคืนก็ฟิตมาอย่างดี”

     

         ฉันบ่นกระปอดกระแปดให้กับเพื่อนข้างกายทั้ง 2 ฟัง สีหน้าของปีเตอร์ได้แต่อมยิ้มบางๆ เหมือนกำลังให้กำลังใจ ประมาณว่า...มันผ่านมาแล้วน่า ส่วนเจ้าเน็ดที่ยืนอีกข้างก็ดูเหมือนจะสติหลุดไปแล้ว เนื่องจากเบลอจากการทำข้อสอบที่ไม่ได้เตรียมตัวมาเลยแม้แต่น้อย

     

     

         “มันผ่านมาแล้ว กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อยู่ดี ถ้ามันแย่ก็รอแก้มือใหม่ตอนไฟนอลก็ได้”

     

         ปีเตอร์พูดปลอบใจเราสองคนที่ดูเหมือนจะกังวลกับเรื่องสอบไม่เลิก แม้จะหมดเวลาไปสักพักแล้ว ฉันและเน็ดถอนหายใจออกมาพร้อมกัน ก่อนจะพยักหน้ารับอย่างยอมรับความจริง ในเมื่อมันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ค่อยรอแก้มือใหม่ตอนไฟนอลอย่างที่เขาว่าก็รึกัน

     

     

         “เฮ้! ฉันรู้แล้ว!

     

         จู่ๆ เจ้าเน็ดที่คอตกก็โพล่งเสียงดังออกมาอย่างตื่นเต้น จนทำเอาฉันและปีเตอร์มองหน้ากันอย่างงุนงง

     

     

         “สอบมาเครียดๆ เราไปเกมเซนเตอร์กั-”

     

        

         แต่น้ำเสียงร่าเริงที่กำลังหระดี๊กระด๊านั้นก็หยุดชะงักไป เมื่อมีเสียงหนึ่งแทรกขึ้นมา...

     

     

         “พวกคุณ 3 คน ช่วยยกเอกสารพวกนี้ไปไว้ที่ห้องประชาสัมพันธ์ทีนะ ครูฝากด้วยล่ะ”

     

         และไม่ทันรอคำตอบรับของพวกเรา คุณครูท่านนั้นก็เดินลิ่วไปจนลับตา ทิ้งไว้เหลือแต่ความเงียบกับกองเอกสารที่เท่าลูกภูเขา

     

     

         “เดี๋ยวพวกเรายกไปกันเอง KT เธอไปรอพวกเราที่โรงอาหารก่อนเลย”

     

     

         “ได้ไงกัน ฉันจะช่วย”

     

         ฉันขมวดคิ้วมุ่นกับคำพูดของเจ้าเพื่อนบ้าน เอกสารกองหนาขนาดนี้ ถ้าไม่ช่วยกันแล้วมันจะหมดไหมเล่า!?

     

     

         “เรื่องนี้ ไว้ให้สุภาพบุรุษอย่างพวกเราทำเถอะนะ”

     

         เน็ดพูดด้วยน้ำเสียงเข้มเหมือนพระเอกละครสมัยก่อน เอ่อ...จะว่ายังไงดี ถึงประโยคมันจะฟังดูเท่ห์ดีแต่พอกลับเป็นเขาพูดแล้วมัน...

     

     

         “คิกๆๆๆ ฮ่าๆๆอะไรของพวกนายเนี่ยย”

     

         ฉันเอ่ยอย่างอดขำไม่ได้กับท่าทางของเพื่อนชายทั้ง 2

     

     

         “น่านะ เธอเครียดๆ เรื่องสอบมาแล้วไม่ต้องมาเหนื่อยเพิ่มหรอก เดี๋ยวเรื่องนี้พวกเราจัดการเอง เธอไปรอที่โรงอาหารได้เลย”

     

         ปีเตอร์พูดพร้อมสบสายตาฉัน ซึ่ง...เห้อออ ฉันก็ต้องยอมแพ้สิ ถ้าเขาพูดมาขนาดนี้ นายคนนี้มันร้ายนะคะทุกคน!

     

     

         “โอเคๆ งั้นฉันไปหาไรกินรอละกัน”

     

         ว่าแล้วก็เดินลงมาจากตึกแยกย้ายกับเจ้า 2 คนนั้น แต่ไม่ทันเดินถึงโรงอาหารดี ก็ขอแวะซื้อน้ำจากตู้หน่อยแล้วกัน สอบมาเครียดๆ ก็ต้องเติมน้ำตาลให้กับร่างกายสักหน่อย

     

     

         “ฮะ-ฮึก อย่าทำอะไรผมเลยนะครับ”

     

         เสียงสะอื้นของเด็กผู้ชายดังออกมาจากตรอกเล็กข้างหน้านั้น ฉันที่กำลังเดินกระดกกระป๋องน้ำอัดลมถึงกับต้องชะงักฝีเท้า ให้ตายสิ...นี่ฉันไม่ใช่คนที่ชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องคนอื่นหรอกนะ แต่เสียงสะอื้นของเขา...มันกำลังแสดงว่าเขากำลังหวาดกลัวจริงๆ

     

     

         “เฮ้! สั่นเป็นลูกนกเชียว ใจเย็นๆ น่า แค่เอาเงินมาให้พวกเราก็จบเรื่องแล้ว”

     

         ก่อนจะตามมาด้วยน้ำเสียงเย้ายวนกวนบาทาของใครสักคน ขนาดไม่เห็นภาพฉันยังจินตนาการได้ถึงพวกกุ๊ยที่ชอบรีดไถเงินเหมือนที่เคยเห็นมาในหนังเลย ดูท่าเจ้ากุ๊ยพวกนั้นจะมีกันมากกว่า 2 ฟังจากเสียงหัวเราะนั้น...

    ที่กำลังสนุกกับการข่มเหงคนอื่น

     

     

    “จิ๊...”

     

    ฉันสบฟันเข้าหากันอย่างไม่พอใจ ให้ตายเหอะ! เจ้าพวกนี้มันเก่งแต่หมาหมู่! ไม่รู้ว่าจะเรียกสรรพนามเป็น คน หรือว่าเป็น ตัว ดี!!!

     

     

    “ผม...ฮึก มีให้แค่นั้นแหละครับ ฮือ”

     

     

    “เห้ย! อะไรว้า นี่มันเศษเงินหลังตู้เย็นชัดๆ ฮ่าๆ”

     

    ยิ่งพวกมันประสานเสียงหัวเราะกันเท่าไหร่ ร้องเท้าทั้งสองข้างของฉันก็พร้อมจะปลิวไปโดนหัวพวกมันเท่านั้น! หนมเทียนชักจะหัวร้อนแล้วนะ!

     

     

    “ร้องไห้อยู่ได้! น่ารำคาญเว้ย! สงสัยต้องโดนสักหมั-”

     

     

     

     

    เป๊งงงงงงงงงงง!!!

     

     

     

     

    กระป๋องน้ำอัดลมปลิวล่องไปตามแรงโยน ก่อนจะกระทบเข้ากับกระบาลของเด็กหนุ่มที่ดูท่าจะเป็นหัวโจกของแก๊งค์ และใช่...การกระทำนั้นหยุดการเคลื่อนไหวของเจ้าพวกนั้นเอาไว้ได้ แต่สิ่งที่ต้องรีบเคลื่อนตัวออกไปให้ด่วนที่สุด นั่นก็คือ...

     

     

    “วิ่งสิโว้ยยยยยยยยยย! ใครจะอยู่กันเล่า!!!!!!!!!!!

     

    ใช่ค่ะแม่! วิ่งสิแม่จะรอช้าอยู่ใย จะรอให้พวกมันมาอัดฉันแทนงั้นเหร๊อะ!!!!? และในตอนนี้ฉันได้สับเท้าวิ่งอย่างไว ไวเสียยิ่งกว่าตอนแข่งวิ่งผลัดอีก แต่ไอเจ้ากุ๊ย 3 คนนั้น ก็สูงยาวเข้าดีซะเหลือเกิน วิ่งตามฉันด้วยการก้าวขาเดียวของเจ้าพวกนั้น ก็เท่ากับฉันก้าวไป 3 ก้าว!

     

     

    ขนมเทียนเอ้ยยยย เอ็งอยู่เฉยๆ กับเขาไม่ได้เลยใช่หม้ายยยยยยย!

     

     

     

     

    “แฮ่กๆ งี้ต้องหนีขึ้นบนห้องแล้ว”

     

    ฉันบ่นกับตัวเองก่อนจะเปลี่ยนทิศทางวิ่งขึ้นตึกเรียนอย่างเร็วไว ถ้ามัวแต่เล่นวิ่งไล่จับกับเจ้าพวกนั้นตรงลานกว้างๆ มีหวังโดนจับต้มแหงแก๋ ก็เล่นโยนกระป๋องน้ำใส่หัวขนาดนั้น จะว่ายังไงดีล่ะ...ก็มือมันไปก่อนที่สมองจะสั่งการอีกอ่ะ! ก็เห็นแล้วมันอยากบวกอ่ะ ฮือออออออ

     

     

    “เห้ย!! หยุดนะเว้ยยยยนังบ้า แกกล้าดียังไงห้ะ!?

     

    เสียงตะโกนไล่หลังทำให้ฉันได้แต่สับฝีเท้าให้เร็วยิ่งขึ้นไปอีก! โอ้ย! ใจฉันมันเต้นรัวยิ่งกว่าเจอพระเอกในเกมจีบหนุ่มอีกนะเนี่ย! แถมตอนนี้ขายังล้ามากแล้วด้วย เนื่องจากวิ่งหนีเจ้าพวกนี้จนจะทั่วชั้น อีกทั้งยังสมองยังเบลอๆ จากการนอนก็น้อย

     

     

    หนูขอล่ะค่ะถ้าบุญกรรมมีจริง ช่วยลูกทีค่ะ!

     

     

     

     

    ฝึบบบบบบบบ!

     

     

     

     

    “ชู่ววว...”

     

     

    “เฮ้ย! ยัยนั่นหายไปไหนแล้ววะ! แม่งเอ้ย”

     

     

    “เอาไงดีลูกพี่!?

     

     

    “ก็รีบแยกย้ายกันออกไปตามหาสิวะ! ถ้าจับได้ฉันจะเชือดเป็นไก่เลยคอยดู!!!

     

     

    “อึก...”

     

    คำพูดของเจ้าหัวโจกนั่นทำให้ฉันถึงกับต้อกลืนน้ำลายลงอย่างฝืดคอ อ่า...เกิดมาเคยกินแต่ไก่ต้ม ไม่คิดว่า(เกือบจะ)ถูกต้มซะเอง

     

     

    “เกือบกลายเป็นไก่ให้ถูกเชือดแล้วนะ”

     

    เสียงกระซิบดังขึ้นข้างๆ หูหลังจากที่เจ้าพวกนั้นแยกย้ายกันไปคนละทิศคนละทาง ฉันหลบสายตาจากใบหน้าอันแสนใกล้ชิดนั้น จะว่ายังไงดีล่ะ...มันเหมือนกับฉากตอนที่พระเอกเท้าแขนลงกำแพง แล้วก้มลงคุยกับนางเอกเหมือนกับในเกมที่ฉันเคยเล่นเลยอ่ะ! แต่ฮะ-เฮ้ย! เป็นงั้นไม่ได้สิ!

     

     

    “อ่ะ-เอ่อ...ขะ-เขยิบออกไปหน่อยได้มั้ย”

     

    แม้จะดูเป็นประโยคขอร้อง แต่มันฉันก็ออกแรงผลักที่หน้าอกหมอนั่นเบาๆ ประมาณว่า ถอยไปสิเว้ยยยแล้วจ้ะแม่จ๋า หมอนั่นยอมถอยแต่โดยดีนั่นทำให้ฉันโล่งใจและรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมาก

     

     

     

    “ขอบคุณนะที่ช่วยฉัน”

     

    ฉันกล่าวขอบคุณออกมาอย่างใจจริง ถ้าไม่ได้เขาฉันคงแย่ไปแล้วละ ฮือออออ คิดสภาพตอนที่จะโดนเจ้าพวกนั้นเชือดไม่ออกจริงๆ...

     

     

    “ธัญญ์...ใช่ไหม?

     

    และเพียงประโยคคำถามสั้นๆ กลับเรียกรอยยิ้มบนใบหน้าของอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี

     

     

    “ใช่! จำชื่อผมได้ด้วยหรอครับ?

     

    เจ้าของชื่อนั้นเอ่ยถามด้วยความตื่นเต้น ก็แหม่...พ่อคุณโผล่มาแนะนำตัวต่อหน้าฉันซะขนาดนั้น จะให้ฉันลืมลงได้ยังไงกันล่ะ!?

     

     

    “แล้วไปทำอะไรมา ทำไมเจ้าพวกเท็ดดี้ถึงไล่ตามเอาได้”

     

     

    “อ๋อ...”

     

    ฉันครางรับทันทีที่รู้ว่าเจ้าหัวโจกนั่นชื่อ เท็ดดี้ เอ่อ...แต่ฉันจะขอไม่จำชื่อนี้ไปอีก ตลอดชีวิตเลยยิ่งดี!

     

     

    “คือว่า...มันมีเรื่องนิดหน่อยน่ะ แหะๆ”

     

    หัวเราะแห้งๆ พลางเกาหัวแกรกๆ ไปเพื่อทำเหมือนไม่มีอะไรมากมาย ก็แหม่...ถ้าเล่าไปว่าโยนกระป๋องใส่หัวเจ้านั่น เพราะว่าห้ามใจช่วยคนที่กำลังถูกรังแกไม่ได้ ก็จะฟังดูเอ่อ...ฮีโร่ไปรึเปล่าน่ะ

     

     

    “ละ-แล้ว...ทำไมนายถึงมาอยู่ในห้องนี้ล่ะ”

     

    ฉันแสร้งเปลี่ยนเรื่อง ก่อนจะมองดูรอบๆ ห้อง ซึ่งมันคือห้องทดลองนั่นเอง หู้วนี่ฉันก็วิ่งมาไกลเอาเรื่องเลยนะเนี่ย

     

     

    “พอดีวันนี้เป็นเวรผมที่ต้องมาปิดห้องน่ะ ก็เลยต้องรอให้นักเรียนทุกคนใช้ห้องเสร็จถึงจะปิดได้”

     

    เขาตอบให้ฉันฟังอย่างฉะฉาน ฉันพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ แม้จะมีเรื่องคาใจอยู่นิดหน่อย ที่ในตอนนี้เขานั้น...ช่างดูแตกต่างจากครั้งแรกที่เจอกันซะเหลือเกิน

     

     

    “ยังไงก็...ขอบคุณที่ช่วยฉันไว้มากๆ เลยนะ แล้วก็ เอ่อ...ฉันนัดเพื่อนไว้ซะด้วยสิ ฉันขอตัวก่อนนะ แล้วเจอกัน”

     

    ฉันเอ่ยขอบคุณเขาอีกรอบ พร้อมโบกมือลา ก่อนจะเตรียมหมุนตัวออกจากห้อง แต่ก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อได้ยินเสียงเรียกของเขา

     

     

    “เดี๋ยว...KT!

     

     

    “หื้ม ?

     

    ฉันหันมองคนที่เรียกอย่างสงสัย เอ...หรือว่าฉันจะลืมอะไรไปรึเปล่านะ เอ้อ!ใช่สิ! ของตอบแทนความช่วยเหลือของเขาไง ปัดโธ่! ลืมได้ไงกันเนี่ย!

     

     

    “อ๋อ ไว้ฉันจะเอ-”

     

     

    “เรามาเป็นเพื่อนกันเถอะนะครับ!

     

     

    “ฮะ...”

     

    งง-ค่ะ งงมากด้วย...ก็คราวที่แล้วเขายังบอกไม่อยากเป็นเพื่อนกับฉันเลยนี่หน่า แล้วคราวนี้...

     

     

    “ผม...อยากรู้จัก KT จริงๆ นะ อยากรู้จัก...ให้มากขึ้นไปอีกด้วย”

     

    เด็กหนุ่มผมดำเอ่ยขึ้น ฉันสัมผัสได้ถึงความจริงใจ ไม่มีพิษภัยของเขาได้ จะว่าไปพอมองหน้าเขาชัดๆ เขามีไฝที่มุมตาด้วยหรอเนี่ย พึ่งเคยเห็นเลยแฮะ แต่เห้ยๆ ! นั่นไม่ใช่ประเด็น !

     

     

    “อื้ม! ได้สิ เรามาเป็นเพื่อนกันนะ”

     

     

    “หา! จริงหรอ!?

     

    ทันทีที่ฉันตอบรับอย่างทันควัน ก็ทำเอาใบหน้านั้นแสดงถึงความตกใจ นัยน์ตาดำแต่ในตอนนี้มันกลับดูลุกวาวแปลกๆ เหมือนมีฟิลเตอร์วิ๊งๆ แบบในอนิเมะอย่างไงอย่างงั้น ทำให้ฉันได้แต่สงสัยกในความพิลึก(น้อยๆ)ของเขา ก็ตัวเองพูดเอง ยังจะมาจริงหรออีก!

     

     

    “งั้นไว้เจอกันนะ KT!

     

    และแล้วเรา 2 คนก็แยกย้ายกันไปคนละทางหลังจากลงมาจากตึก ฉันโบกมือลาเขาก่อนจะต้องรีบย้ายตัวเองไปโรงอาหารให้เร็วที่สุด ไม่ใช่แค่อยากเจอเน็ดกับปีเตอร์ไวๆ นะ ฉันกลัวเจ้าพวกนั้นจะมาไล่ตามฉันอีกอ่ะแม่ ฮือ!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    .ตกเย็น.

     

     

    หลังจากทานอาหารค่ำกับน้าเอมิลี่ แล้วก็อาบน้ำอาบท่าเสร็จ ฉันก็พาตัวเองมานั่งอ่านหนังสือที่โต๊ะ แต่คราวนี้น่ะ ไม่ใช่หนังสือเรียนหรอกนะคะ

    หึหึ//หัวเราะแบบตัวรว้ายในละคร เพราะมันคือ...นิยายไลท์โนเวลนั่นเองค่า! ฉันขอบอกเลยนะคะ ว่าวันๆ ของฉันนอกจากจะเล่นเกม(จีบหนุ่มที่โดนเพื่อนสนิทบังคับให้เล่นด้วยจนติดใจซะเองแล้ว) ฉันก็ยังชอบดูการ์ตูนและอ่านนิยายด้วยค่ะ! แต่ขอบอกไว้เลย ฉันอ่านเฉพาะโซนเอเชียเท่านั้นนะคะ//ส่งวิ๊งคึ

     

     

         “นางเอกของเรื่องได้ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองกำลังอยู่ในโลกเสมือนจริง หรือก็คือ...โลกคู่ขนานนั่นเอง เห...”

     

         ฉันขยับปากอ่านตามตัวอักษรที่ปรากฏ ก่อนจะรู้สึกตัวว่า...มันเหมือนกับชีวิตฉันเลยนี่หว่า พอนึกได้เท่านั้น ฉันก็รีบเปิดปฏิฐินดูวันเวลา

     

     

         “ผ่านมา 3 เดือนแล้ว...ฉันอยู่ที่นี่มา 3 เดือนแล้ว!

     

         แล้วระยะเวลาที่แน่ชัดล่ะมันคือเท่าไหร่!? นี่ฉันใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เพลินเสียจนลืมไปแล้วหรือว่า...ที่นี่มันไม่ใช่บ้านของฉัน นี่ฉันลืมคิดถึงเรื่องนี้ไปได้ยังไงกันนะ ทำไมฉันถึงได้ชะล่าใจขนาดนี้ ทำไมกัน...

     

         ความคิดมากมายผุดขึ้น ก่อนจะต้องวางนิยายลงกับโต๊ะ แล้วเลื่อนหาข้อความนั้นที่คือถูกส่งมาจากบุคคลปริศนา ตอบกลับก็ไม่ได้ ชื่อก็ไม่มีบอก

    -แก้ไขปริศนาให้เรียบร้อย แล้วทำให้เหมือนกับวันที่ก่อนจะมายังที่แห่งนี้-

     

     

    ทุกวันนี้...ฉันยังไม่รู้เลยว่า

    ป ริ ศ น า มันคืออะไรกัน ?

     

     

         “นึกสิขนมเทียน เธอทำได้ นึกๆๆๆๆ...เจ้าเข่งเคยเล่าอะไรให้ฟังบ้าง นึกให้ออก!

     

         ฉันพยายามรวบรวมคำพูดทั้งหมดของเจ้าเข่งที่เคยพร่ำบอกถึงตัวการ์ตูนต่างๆ ในเรื่อง Spider-Man ซึ่งฉันได้เจอและรู้จักไปบ้างแล้ว เอ๊ะ...ไม่สิ! ส่วนใหญ่ที่เจอก็เป็นตัวละครหลักในเรื่องทั้งนั้น แล้วใครกันล่ะ มีใครอีกที่ยังไม่เคยเจอ หรือยังไม่เคยได้ยินจากปากเจ้าเข่งเลย

     

     

    ใคร...?

    นึกให้ออกสิยัยขนมเทียน

     

     

     

     

     






    “เดี๋ยว...KT!

     

     

    เสียงเรียกในหัวทำให้ฉันเงยหน้าอย่างนึกขึ้นได้

     

     

    “เรามาเป็นเพื่อนกันเถอะนะครับ!

     






     

    ตัวละครที่ไม่เคยถูกเอ่ยถึงในเรื่อง

    ตัวละครที่ฉัน ไม่สิ...ไม่ใช่แค่ฉัน แฟนๆ ของเรื่องก็คงจะไม่รู้จักด้วยเช่นกัน

     

    .

    .

    .

    ธัญญ์

    นายคือใครกันนะ ?





     -----

    มาเสิร์ฟเเล้วค่าาาาาาาาาา

    บอกเลยว่า

    ต่อ-จาก-นี้-จะ-ไม่-ปรา-ณี-เเล้ว-นะ ! หึหึ//หัวเราะเเบบรว้ายๆ

    จะเข้าสู่เนื้อเรื่องอัน@##%$^IMNNRT

    ทุกคนอย่าลืมติดตามอ่านกันต่อไปนะคะ เเล้วเรามาไขปริศนาไปด้วยกัน

    เอ้อ ! ตอนนี้เรามีรูปเเฟนอาร์ตภาพเเรกเเล้วนะคะ ฮืออออดีใจม้ากกกมาย เลิฟๆ เลยยย

    รอชมกันได้เลยค่าาาาาาาาาาาา คิคิ

    #KTspi


    ขอบคุณค่ะ  

     

     

     

     

     

     

     

     

        

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×