ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The World Of Valf Master

    ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ 2 ฟากฟ้าแห่งการพานพบ III

    • อัปเดตล่าสุด 30 เม.ย. 57


    สำหรับเมืองฟอร์เทียที่เรียกได้ว่าเป็นเมืองหลวงและยังเป็นศูนย์กลางของเหล่าผู้คนนั้น ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหน ก็มีคนเดินอยู่บริเวณค้าขายเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นคนวัยทำงาน หรือเด็กๆ แต่สำหรับเวลานี้แล้วจะไม่ค่อยมีวัยรุ่นมาเดินเล่นเท่าไรนัก จะมีก็แต่พวกโดดเรียนแบบยูยะกับโชตะ หรือพวกกุ๊ยๆไม่ยอมไปเรียนก็เท่านั้น

    ห้างฯ ที่โชตะกำลังจะพายูยะไปนั้น เป็นห้างฯที่ใหญ่ที่สุดในย่านนี้แล้ว และเป็นสถานที่ ที่คนส่วนมากชอบมาเดินซื้อของกันมากที่สุด เพราะที่นี่มีทั้งร้านอาหาร ศูนย์อาหาร ของใช้ทุกอย่างก็มีหมดสารพัด เรียกว่าได้เป็นห้างฯที่ครบเครื่องในเรื่องทุกอย่าง แต่เวลานี้ยังเป็นแค่ 8 โมงเช้า แม้ว่าคนในห้างฯจะยังไม่เยอะเท่าไร แต่เพื่อเป็นการปลอดภัยไม่ให้โดนยามที่นั่นจับได้ว่าเป็นนักเรียนของอาคาริสแล้วมาโดดเรียน โชตะจึงตั้งใจพายูยะเดินอ้อมไปเข้าด้านหลังแทน

    นี่ เมื่อไรจะถึงอ่า

    อีกนิดเดียวน่า เดี๋ยวก็ได้ไปนั่งพักในห้างฯแล้ว

    ทางเข้าด้านหลังนั้น จะมีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ เพราะมันเป็นทางเข้าพิเศษสำหรับพนักงาน และส่วนมากจะเป็นที่สุมหัวของพวกกุ๊ยขยะเสียมากกว่า

    พื้นที่หลังห้างฯ จะเป็นที่ทิ้งขยะประจำของที่นี่ คนทั่วไปเลยไม่ค่อยได้เดินผ่านเท่าไร นอกเสียจากพวกถังขยะแล้ว ที่นี่ก็จะมีแต่ลังกระดาษเก่าๆเต็มไปหมด

    เฮ้ย พวกแกจะเข้าที่นี่ต้องมีบัตรผ่านนะโว้ย ~

    ไม่ก็ส่งเงินมาซะดีๆ

    ถ้าไม่อยากเจ็บตัวละก็นะ ~

    ไม่ได้เป็นไปตามที่โชตะคาดเอาไว้ เพราะตอนนี้ยังเป็นช่วงเช้าอยู่ เขาอุตส่าห์คิดว่าไอ้พวกนี้ให้ตายยังไงก็ไม่มีทางมาเช้าอย่างแน่นอน แต่ดูท่าเขาจะคาดเดาสถานการณ์เอาไว้พลาดมาก

    เฮ้อ ซวยชะมัด กลับเหอะยูยะ

    ทำไมอะ ? “

    ยังไม่เห็นอีกรึไง ขืนไปยุ่งกับเจ้าพวกนี้เข้า มีหวังเป็นเรื่องระหว่างโรงเรียนแน่

    เจ้าพวกกุ๊ยที่นั่งดักอยู่ทางเข้าด้านหลังของห้างฯ มีประมาณ 5 คนและแต่ละคนก็ใส่ชุดเครื่องแบบของนักเรียนของโรงเรียนเก็กขะ แถมแต่ละคนดูแล้วคงไม่ยอมให้ผ่านไปได้ง่ายๆ

    โรงเรียนเก็กขะขึ้นชื่อว่ามีแต่พวก เหลือขอ ศึกษาอยู่ เพราะที่นี้ไม่มีกฎระเบียบใดๆที่เคร่งครัดมาก การสอบเข้าก็ง่ายเสียยิ่งกว่าปอกกล้วย ง่ายๆก็คือพวกที่ไม่มีที่ไปต่างก็เข้ามาเรียนที่นี่กันทั้งนั้น

    อย่าเพิ่งเดินไปเด้ ! “

    ผู้ชายหนึ่งในแก๊งพวกนั้นเดินมาแล้วจับไหล่โชตะไว้

    ขอโทษครับ พอดีว่าผมจำผิดทางน่ะ

    ถ้าดูดีๆแล้ว พวกแกมันโรงเรียนอาคาริสไม่ใช่หรอวะ ? “

    อะไรนะ โรงเรียนคุณหนูนั่นน่ะเหรอ ? “

    มาที่นี่แบบนี้ แสดงว่าโดดเรียนมาล่ะสิ

    แล้วชายอีกที่เหลืออีก 4 คนก็เดินมาล้อมพวกยูยะกับโชตะเป็นวงกลม

    เอาเจ้าพวกนี้ส่งเรื่องให้ ผอ. โรงเรียนอาคาริสดูดีมั้ยเนี่ย ฮิฮิ 

    พวกผมไม่ได้โดดเรียนหรอกนะครับ แค่โรงเรียนเลิกแล้วต่างหาก

    อย่ามาหลอกซะให้ยาก! โรงเรียนห่าไรเลิก 8 โมงวะ !? ส่งเงินมาซะ ถ้าไม่อยากโดนซ้อม

    “ … “

    โชตะกำลังล้วงมือเข้าไปที่กระเป๋ากางเกง แต่ยูยะจับมือของเขาไว้ไม่ให้หยิบกระเป๋าเงินออกมา

    ไม่ต้องหรอก โชตะ

    ยูยะ… “

    แล้วยูยะก็ไปยืนประจันหน้ากับชายที่ดูแล้วน่าจะเป็นหัวหน้าของแก๊งนี้

    อะไรของแกวะ อยากมีเรื่องรึ ? “

    ได้เสียซี่ ถ้าคิดจะมาอัดเพื่อนฉัน ก็ข้ามศพฉันไปก่อน

    โชตะรู้สถานการณ์ดี จึงจะไปห้ามตัวยูยะ แต่ว่ายูยะกลับไม่สนใจอะไรที่เขาพูดเลย

    ฮึ่ย! “

    ชายหนุ่มใช้มือขวาต่อยแบบเต็มแรง โดยเป้าหมายก็คือใบหน้าของยูยะ

    กระจอก..! “

    ยูยะอ่านการเคลื่อนไหวออก แล้วจับหมัดของชายคนนั้นไว้ได้ทันก่อนที่จะมาถึงใบหน้าของเขา แล้วยูยะก็จับมือกำแน่น พร้อมกับบิดแขนของชายคนนั้นให้บิดไปในทิศทางที่ผิดธรรมชาติ

    อ๊ากกกก!!! “

    ชายหนุ่มร้องเสียงดังด้วยความเจ็บปวด พร้อมกับดีดดิ้นจะสะบัดแขนของตนให้หลุดออกจากมือของยูยะ หากดูจากรูปร่างภายนอกยูยะก็เป็นแค่เด็กหนุ่มธรรมดา ที่ดูมีเรี่ยวแรงไม่มาก แต่กลับมาบิดแขนของชายหนุ่มที่มีกล้ามขึ้นเป็นมัดๆ ได้ง่ายๆราวกับบิดแฮนด์มอเตอร์ไซด์ จึงเป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างมาก

    หนอยแน่ะแก !! “

    ปล่อยลูกพี่นะโว้ย!! “

    ปลดปล่อย..! “

    ชายอีก 4 คนพุ่งตรงเข้ามาพร้อมที่จะโจมตียูยะด้วยวาร์ฟ

    ทันใดนั้น

    *ตูม*

    มีอะไรบางอย่างตกลงมาจากฟ้าและหยุดอยู่ตรงหน้ายูยะพอดี ทำให้ชาย 4 คนที่พุ่งเข้ามาต่างก็กระเด็นกันไปคนละทิศคนละทาง ยูยะที่ก็ได้แต่ยืนมองสิ่งที่ตกลงมาด้วยความแปลกใจ

    ขอโทษที่คนของโรงเรียนผมไปก่อความเดือดร้อนให้นะครับ

    สิ่งที่ตกลงมาคือชายหนุ่มรูปงาม เขาหันมาหายูยะด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกับก้มหัวขอโทษ

    ทะ..ท่านลูส!!! “

    ขอโทษคร๊าบ!! “

    จ๊าก ซวยแน่ตู!! “

    ชายทั้ง 4 ต่างก็ส่งเสียงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวเป็นตัวเมียกันหมด

    นายเป็นใครอะ ? “

    กระผมอัลฟองโซ่ ทาเนีย ลูส เป็นหัวหน้าคณะกรรมการโรงเรียนเก็กขะครับ ยินดีที่ได้รู้จัก แล้วก็ขออภัยด้วยที่คนในโรงเรียนของผมมาก่อความเดือดร้อนให้คุณนะครับ

    ลูสก้มหัวขอโทษยูยะอีกครั้งด้วยความนอบน้อม

    เพราะฉะนั้น รบกวนปล่อยหมอนั่นเถอะครับ เดี๋ยวแขนเขาอาจจะเสียรูปได้น่ะครับ

    อ๋อ อืม

    ยูยะยอมปล่อยชายคนนั้นแต่โดยดี พอแขนถูกปล่อยออกมาชายคนนั้นก็จับแขนขวาของตัวเองด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส เหงื่อของชายคนนั้นไหลออกมามากมายราวกับกระแสน้ำ

    กระผมขอตัวไปชำระโทษของทั้ง 5 คนก่อนนะครับ ขอโทษที่ทำให้วุ่นวายนะครับ

    ลูสจับทั้ง 5 คนใส่กุญแจมือ โดยที่ไม่มีใครกล้าขัดขืนเลยแม้แต่คนเดียว ลูสจับโซ่ล่ามต่อๆกุญแจมือต่อๆกัน แล้วพาเดินออกไปจากที่นี่

    หมอนั่น น่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ เจ้าพวกนั้นตัวสั่นกันหมดเลยแฮะ

    ก็เออสิ ลูสไง ที่ตอนนั้นบอกว่าเป็นคู่หมั้นของคุณลาเซียน่ะ! “

    อ๋อ หมอนี่เองเหรอ ก็ดูท่าทางเป็นคนดีออก แถมหน้าตาก็หล่อด้วย ยัยลาเซียจะรังเกียจหมอนี่ไปทำไมกัน

    นั่นมันก็แค่ภายนอกน่ะ ความจริงแล้วเขายังมีปริศนาอีกเยอะเลย อัลฟองโซ่ ทาเนีย ลูส เป็นลูกชายของผู้อำนวยการโรงเรียนเก็กขะ ควบกับตำแหน่งหัวหน้าคณะกรรมการนักเรียนไปด้วย เป็นคนเดียวในโรงเรียนที่ใช้พลังวาร์ฟเซคันด์ได้ และยังเป็นท๊อป 1 ของโรงเรียนเก็กขะด้วย จะให้พูดก็คือ เป็นคนที่แข็งแกร่งสุดๆเลยล่ะ ถ้าเป็นไปได้ฉันก็ไม่อยากจะพูดคุยหรือยุ่งเกี่ยวกับคนแบบนั้นหรอกนะ อันตรายเป็นบ้า

    ยูยะนึกถึงตอนที่ทั้ง 5 คนถูกจับเข้ากุญแจมือ แล้วเอาเรื่องนี้คิดไปด้วยก็เลยสันนิษฐานไปว่า หมอนี่คงแข็งแกร่งจริงๆ เพราะแต่ละคนที่ถูกจับไปนั้น มีคนนึงที่กลัวจนตัวสั่น คนนึงก็ก้มหน้าหลับตา อีกคนนึงก็ใบหน้าซีดเซียว และก็มีอีกคนที่ถึงกับร้องไห้ออกมา 


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×