คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ : จุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง
“ ….อีกแค่นิดเดียวการทดลองก็จะเป็นผลสำเร็จแล้ว “
“ อืม อีกแค่นิดเดียวฉันก็จะได้กลับไปหาลูกของฉันแล้ว “
“ ยูคุงใช่มั้ย ? ป่านนี้กี่ขวบแล้วล่ะ น่ารักขึ้นเยอะเลยสินะ “
“ 3 ขวบแล้วน่ะ เป็นเด็กดื้อสุดๆเลยล่ะ แต่ก็เพราะอย่างนั้นทำให้เจ้าตัวเป็นเด็กร่าเริงน่ะนะ “
“ ฮ่าฮ่า 3 ขวบแล้วเหรอ ? ก็เท่ากับลูกของฉันเลยล่ะสิเนี่ย ถ้าการทดลองเสร็จแล้ว ฉันจะไปเยี่ยมนะ “
เสียงพูดคุยกันระหว่างชายสองคนภายในห้องแล๊บที่มืดๆ พวกเขากำลังทำการทดลองอะไรบางอย่าง ที่คนทั่วไปไม่สามารถทำได้ และเป็นการทดลองลับๆเพื่อการพัฒนาขั้นต่อไปของชีวะวิทยา
“ เยี่ยม! ผสมเซลล์เรียบร้อยแล้วล่ะ นี่คิเคียวนายช่วยเอายาปฏิชีวนะกับเซลล์ตัวนี้ใส่ไปที่ดาวเทียมที “
ชายที่ชื่อคิเคียวกำลังผสมอะไรสักอย่างในหลอดแก้ว พอได้ยินชายคนที่หนึ่งเรียกให้เดินมา เขาจึงเก็บลงไปในเสื้อกาวน์แล้วค่อยเดินมาหา
“ ฝากด้วยนะ คิเคียว “
คิเคียวหยิบหลอดแก้วจากมือของชายคนนั้นแล้วทำการหยอดใส่เครื่องดาวเทียมที่เตรียมจะปล่อยออกนอกโลก คิเคียวล้วงมือเข้าไปที่กระเป๋าเสื้อกาวน์ แล้วหยิบหลอดแก้วอีกอันหนึ่งที่ไม่ใช่หลอดที่ชายคนนั้นส่งมาให้ แล้วหยอดลงไป
“ เฮ้ย!? คิเคียว แกทำอะไรน่ะ ใส่อะไรลงไปน่ะ เดี๋ยวเชื้อก็เกิดผิดปกติขึ้นมาหรอก หยุดเลยนะ! “
“ เคี๊ยก เคี๊ยก เคี๊ยก เคี๊ยก B-Virus ไงล่ะ เอาล่ะ สวิตช์ออน! “
คิเคียวกดปุ่มสีแดงแล้วดาวเทียมก็ถูกปล่อยออกไปอย่างรวดเร็ว แต่แรงจุดระเบิดของดาวเทียมนั้นรุนแรงมาก ทำให้ทั้งห้องแล๊บเกิดระเบิดออกมา ชายทั้งสามคนก็เกิดกระเด็นอกอมาข้างนอก
ชายคนแรกรู้สึกตัวขึ้นมา แล้วหันไปข้างหลังก็เห็นชายอีกคนกำลังนอนสลบไม่ได้สติอยู่ แต่ด้านหน้าเขามีคิเคียวกำลังยืนด้วยใบหน้าที่แฝงไปด้วยความชั่วร้าย
“ นี่แก…คิดจะทำอะไรกันแน่ คิเคียว!? “
“ หึ แน่นอนสิ ฉันรอเวลานี้มานานแล้ว ที่ควรถามน่ะมันฉันต่างหาก พวกแกคิดจะทำอะไรกันแน่ เพาะเลี้ยงเซลล์เหรอ ? มันจะทำให้ชีวะวิทยาพัฒนาขึ้นเหรอ ? เฮอะ! ไร้สาระสิ้นดี ฉันก็เลยเพิ่มความสนุกด้วย B-Virus ไปเสียหน่อย “
“ คิดจะขายวิญญาณให้กับของแบบนั้นหรือไงกัน !? “
“ ก็ไม่รู้สินะ เคี๊ยก เคี๊ยก เชิญจมอยู่ในความสิ้นหวังไปเถอะ ท่านนักวิทยาศาสตร์ทั้ง 2 ลาขาด! “
คิเคียวหัวเราะเสียงดังแล้วเดินออกไปจากบริเวณห้องแล๊บ
“ ในความมืดย่อมมีแสงสว่างไม่ใช่หรือไง ? นั่นเป็นคติที่นายพูดกับฉันไม่ใช่รึ ? “
ชายคนที่สองที่นอนสลบไม่ได้สติคนนั้น ดันตัวเองขึ้นมาจากพื้นแล้วพูดกับชายคนแรก
“ แต่ว่ามัน…ปล่อยไวรัสเข้าไปแล้ว เราทำอะไรไม่ได้แล้วล่ะ ได้แต่รอเวลาเท่านั้น “
“ ใช้ ‘ ไอ้นั่น ‘ ซะสิ “
“ ไอ้นั่น… ? จะดีเหรอ นั่นมันเป็นของที่นายใช้ทั้งชีวิตค้นคว้าหามาเลยนะ “
“ แต่ทางเดียวที่จะพอยับยั้งเรื่องนี้ได้ก็มีแต่ทางนี้เท่านั้น “
“ อืม….. “
ชายทั้งสองเดินเข้าไปในห้องแล๊บที่ใกล้จะพังเต็มทีแล้ว เดินเข้าไปอีกห้องหนึ่ง ก็มีดาวเทียมอีกตัวหนึ่งตั้งอยู่ ชายคนที่สองหยิบหลอดแก้วสีเขียวใสออกมาจากเสื้อกาวน์ของตน แล้วหยอดสารที่เป็นของเหลวนั่นลงไปที่ดาวเทียม
“ เอาล่ะนะ สวิตช์ออน! “
ดาวเทียมอีกตัวได้ออกขึ้นไปสู่บนฟ้า คราวนี้ดาวเทียมนี้เป็นเพียงแค่ตัวเล็กๆ จึงไม่ทำให้เกิดผลกระทบใดๆ ต่อห้องแล๊บมากเท่าไร
“ กว่าระยะเวลาที่การเพาะพันธ์กับ B-Virus จะสำเร็จอย่างเร็วก็อีก 1 ปีให้หลัง… แต่ว่าที่ทำได้ตอนนี้ก็ได้แต่ เชื่อในพลังของ วาร์ฟ กับคนที่จะถูกเลือกแล้วล่ะนะ “
ชายคนที่สองพูดอธิบาย
“ อืม ฉันขอภาวนา ขอให้ทุกอย่างเป็นไปได้ดีด้วยเถอะ “
อีก1 ปีให้หลัง โลกถูกอุกกาบาตจำนวนมหาศาลเข้าโจมตีอย่างกะทันหัน แต่ก็เป็นตามที่นักวิทยาศาสตร์ทั้งสองได้คาดการณ์ไว้
สิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายกระต่ายเดินออกมาจากซากอุกกาบาต แล้วเดินทำร้ายคนไปทั่ว แต่ว่าในความมืดก็ย่อมมีแสงสว่างตามที่เคยกล่าว ในระหว่างที่อุกกาบาตตกลงมานั้น ก็ได้มีแสงสว่างลงมาปกคลุมพื้นโลกทั้งหมด และมนุษย์คนใดที่ได้อาบแสงนั้นแล้ว ก็จะใช้พลังงานที่เรียกว่า วาร์ฟ ได้
เพียงแต่ว่าผู้ที่รู้วิธีใช้งานวาร์ฟนั้นมีเพียงนักวิทยาศาสตร์ทั้งสองคนนั้น คนอื่นที่ไม่รู้ถึงวิธีใช้งานจึงได้แต่วิ่งหลบหนี คอยเวลาให้ฝ่ายรัฐบาลมาช่วยเหลืออย่างเดียว
“ พะ..พ่อฮะ “
“ ไม่ต้องกลัว ยูยะ พ่อจะปกป้องแกเอง! “
ในแถบตะวันตก บริเวณที่มีอุกกาบาตตกใส่ มีพ่อลูกคู่หนึ่งกำลังวิ่งตามถนนที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย เพื่อหลบหนีจากเหล่ากระต่าย
หลายๆคนที่พบเห็นกระต่ายนั้น บางคนก็วิ่งหนีเอาตัวรอด บางคนก็ยืนหยัดต่อสู้ เพียงแต่ไม่มีใครสามารถกำจัดกระต่ายลงได้ หากไม่เสียท่าให้กับกระต่ายก็วิ่งหนีเอาตัวรอดกันไปหมด แต่ว่ามันไม่ใช่กับชายผู้เป็นพ่อคนนี้ ชายคนนี้มีอาวุธที่รูปร่างคล้ายดาบยาวเหล็กมีลวดลาย คอยไล่ฟันเหล่ากระต่ายจนสูญสลายไปหลายชีวิต
“ หลบหลังพ่อไว้นะ ยูยะ “
“…ครับ “
พ่อลูกเดินตามทางไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงเขตปลอดภัย ซึ่งมีการตั้งป้อมปราการกั้นเมืองเอาไว้ และบริเวณนั้นก็มีทหารและผู้คนมากมายอยู่
“ ดูเหมือนว่า เราคงต้องจากกันตรงนี้แล้วล่ะนะ เอ้านี่ ลูกจงเอาจดหมายนี่ไปให้คนที่ชื่อว่ามากาเร็ตทีนะ และลูกจงมีชีวิตต่อไป พยายามผูกมิตรและหาเพื่อนให้ได้เยอะๆล่ะ “
เด็กที่ชื่อยูยะรับกระดาษจดหมายจากมือพ่อของตน
“ ลาก่อนนะ แล้วสักวันเราจะต้องได้พบกันอีกแน่ พ่อสัญญา “
พ่อลูกเกี่ยวก้อยสัญญากัน แล้วผู้เป็นพ่อ ก็เดินหายลับไปกันเส้นขอบฟ้าของเมือง
ความคิดเห็น