คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4
Chapter 4
เมื่อลิฟต์ประกาศว่าถึงชั้น 3 คุโรโกะก็รีบคืนหนังสือของอาคาชิให้เจ้าตัวทันที
“ราตรีสวัสดิ์ครับ”
“เดี๋ยวก่อน เท็ตสึยะ”
“ครับ”
“ขอฉันเข้าไปในห้องนายหน่อยสิ” ไม่พูดเปล่า อาคาชิรีบก้าวออกจากลิฟต์ก่อนประตูลิฟต์จะปิดลง ส่วนคุโรโกะก็ได้แต่เบิกตากว้างพร้อมปฏิเสธ
“ไม่ครับ คุณกลับไปห้องคุณเถอะครับ”
“หึ งั้นฉันขอสั่งให้นายต้อนรับฉันเข้าห้อง แล้วก็อย่าลืมสิ เรียกฉันว่า....เซย์จูโร่”
อาคาชิเดินดุ่มๆไปยังห้องของรูมเมทเขาทันที '301'
“คุณ...เอ่อ...เซย์จูโร่รู้ได้ยังไงว่าผมอยู่ห้องนี้”
“ก็....ไม่บอก รีบๆเปิดประตูสิ ให้แขกยืนรอมันเสียมารยาทนะ”
“ชิ” คุโรโกะทำได้แค่เบ้ปาก แต่ก็ต้องมาเปิดประตูให้อาคาชิอยู่ดี
“เชิญครับ เซย์คุง”
“หืม เรียกฉันซะสนิทสนมเชียว ขออนุญาตฉันรึยัง” อาคาชิแปลกใจที่คุโรโกะเรียกเขาแบบนั้น แต่ไงก็เถอะ เรียกแบบนี้แล้วก็น่ารักดี เอ๊ะ เดี๋ยวนะ น่ารักอีกแล้วเรอะ!!!
“ก็ขี้เกียจเรียกยาวๆไงครับ แล้วก็ไม่จำเป็นต้องขอหรอกครับ คุโรโกะ เท็ตสึยะ ซะอย่าง อยากเรียกแบบไหนก็ได้” ร่างบางพูดอย่างเอาแต่ใจจนไม่ได้สนคู่สนทนาที่ส่ายหัวไปมา
“เอ๋ ทำไมอาคาจินถึงมากับคุโรจินได้หละ” มุราซากิบาระที่นั่งเคี้ยวขนมดูทีวีอยู่ที่ห้องนั่งเล่นสงสัย ก็ไหนอาคาจินว่าจะเอาคืนคุโรจินไงหละ ทำไมถึงกลับบ้านด้วยกันได้นะ
“ไม่มีอะไรมากหรอก อัตสึชิ ไว้ค่อยเล่า” อาคาชิพูดตัดบท
“อ๋อหรอ อืมๆ” มุราซากิบาระก็ไม่ได้สนใจอะไรนักก็หันมากินขนมต่อ
“เซย์คุงเข้ามาทำอะไรกันแน่ครับ” คุโรโกะแทรกขึ้นมา เพราะอยากจะรีบๆไล่ชายหนุ่มผมแดงออกไปสักที
“เอ๋ คุโรจินทำไมเรียกอาคาจินว่า เซย์คุงหละ อย่างกับคนเป็นแฟนกันแหนะ” มุราซากิบาระพูดแทรกขึ้นมา แต่คำพูดของเขาทำให้ทั้งคนหัวแดงและคนหัวฟ้าหน้าแดงแปร๊ดทันที
“ปะ..เปล่านะครับ // ป..เปล่าสักหน่อย”
“หือ หน้าแดงกันทั้งคู่เลย สุดท้ายคู่กัดก็ลงเอยเป็นคู่รักสินะ” มุราซากิบาระที่นานๆจะนึกแหย่คนขึ้นมากำลังแหย่คนสองคนตรงหน้าอย่างสนุกพร้อมกับรอยยิ้มที่นานๆจะได้เห็นของเจ้าตัวเอง
“อย่าพูดไร้สาระสิครับ อัตสึชิคุง” คุโรโกะกล่าวแก้เขิน
“อัตสึชิ ถ้านายยังไม่หยุด ต่อให้เป็นนายฉันก็ไม่เว้นหรอกนะ” อาคาชิที่กล่าวแก้เขินเหมือนกัน แต่ดูรุนแรงกว่าคุโรโกะมาก
“โอเคๆ ไปแล้วดีกว่า เดี๋ยวอยู่ไปจะ......” เจ้าของเรือนผมสีม่วงหยุดพูดตรงหน้าประตูห้องของตนเองก่อนจะเปิดประตู
“เดี๋ยวอะไรครับ // เดี๋ยวอะไร” ทั้งอาคาชิและคุโรโกะมองไปที่มุราซากิบาระอย่างพร้อมเพรียง
“เดี๋ยวจะเป็นคนขัดขวางข้าวใหม่ปลามันน่ะสิ” พูดจบร่างยักษ์ก็รีบหันตัวเข้าห้องแล้วปิดประตูล็อคทันที
“อัตสึชิคุง!!! // ฝากไว้ก่อนเถอะ อัตสึชิ”
อาคาชินอนบนโซฟาพลางเปลี่ยนช่องทีวีไปเรื่อยๆ ส่วนคุโรโกะก็โดนคำสั่งของอาคาชิให้ไปหาอะไรให้ทาน โดยที่อาคาชิไม่รู้เลยว่า สกิลการทำอาหารของคุโรโกะแย่ขนาดไหน แต่ทำไมคุโรโกะถึงไม่บอกออกไปน่ะหรือ
ก็เพราะจะแก้เผ็ดคืนน่ะสิ วันนี้เขาโดนทั้งแกล้งทั้งแหย่สารพัด ขอเอาคืนนิดหน่อยๆละกัน ก็แค่ทำอาหารไปตามความรู้สึก ยังไงเขาก็สกิลห่วยแตกอยู่แล้ว
“เสร็จแล้วครับ” คุโรโกะยกจานข้าวผัดไปวางไว้บนโต๊ะกินข้าวพลางตะโกนเรียกอาคาชิไปด้วย
เมื่ออาคาชิเห็นว่าทำอาหารเสร็จแล้วก็รีบเดินไปกินทันทีเพราะตอนนี้เขาหิวมาก
“หน้าตาน่ากินดีนิ แต่จะกินได้รึเปล่านะ” อาคาชิมองข้าวผัดที่หน้าตาน่ารับประทาน แต่แกล้งพูดแซวคนตัวเล็กไปอย่างนั้นแหละ
“งั้นก็ไม่ต้องกินครับ” คุโรโกะหยิบจานเตรียมจะเอาไปทิ้ง แต่ก็โดนมือแกร่งยื้อเอาไว้ก่อน
“กินสิ เท็ตสึยะอุตส่าห์ทำให้เลยนี่นะ”
“งั้นก็กินให้หมดไปเลยนะครับ”
“แล้วนายไม่กินหรอ ไม่หิวรึไง หรือวางยารึเปล่า” อาคาชิถามอย่างไม่แน่ใจเพราะไม่เห็นคนตัวเล็กทำท่าจะกินอะไร นอกจากในมือที่ถือนมกล่องเอาไว้
“แค่นี้ก็พอครับ ผมไม่ค่อยหิว” คุโรโกะโชว์นมวานิลลาของตัวเองให้ดู ก็เขาไม่หิวจริงๆนี่นา
อาคาชิเห็นอย่างนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรแล้วลงมือรีบกินทันที เพราะคุโรโกะก็ดูผอมบางซะขนาดนั้นจะกินน้อยก็ไม่แปลก ส่วนคุโรโกะก็คาดหวังว่าอาคาชิต้องวิ่งไปอ้วกแน่ๆ เพราะเขารู้ตัวว่าคงไม่อร่อยแน่ๆ ไม่สิ ไม่ใช่แค่ไม่อร่อย แต่กินไม่ได้เลยต่างหาก
อาคาชิตักข้าวเข้าปากอย่างเต็มคำ จนผ่านไปสามคำ
“ใช้ได้นี่ ฝีมือนาย” อาคาชิเอ่ยปากชม สงสัยเพราะหิวหรอก ถึงอร่อย
“เอ๋ เป็นไปไม่ได้” คุโรโกะไม่เชื่อ รีบแย่งช้อนจากอาคาชิแล้วตักเข้าปากตนเอง ถึงรู้ว่ารสชาดมัน....มันใช้ได้เลยแฮะ เป็นไปได้ยังไงกัน ทั้งๆที่คิดว่าทำๆไปไม่ต้องกินไม่ได้แน่ๆ
“เป็นไปไม่ได้อะไร แล้วกินช้อนเดียวกับฉัน อยากจูบทางอ้อมหรอ จูบปากเลยก็ได้นะ เท็ตสึยะ” อาคาชิยิ้มกริ่ม แต่ในใจก็แอบเขินเหมือนกันที่คุโรโกะแย่งช้อนไปกินแบบนั้น
“อย่าพูดบ้าๆสิครับ” เป็นไปได้ไงกันนะ คุโรโกะไม่ได้นึกเขินอายกับที่อีกคนพูดมาเลย เพราะมัวแต่ฉงนสงสัยว่า เป็นไปได้ไงกัน ทำไมอาคาชิถึงเป็นผู้โชคดีที่ได้กินอาหารฝีมือเขาที่...อร่อย
อาคาชิที่กินเสร็จก็นั่งดูคุโรโกะไปล้างจาน ไม่คิดเลยว่าคนตัวเล็กจะเก่งทำอาหารกับเขาเหมือนกัน เมื่อมองนาฬิกาก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลาดึกพอสมควรแล้ว รีบกลับห้องไปอาบน้ำนอนจะดีกว่า พรุ่งนี้มีเรียนเช้าซะด้วย แต่ความคิดนั้นก็ต้องพังทลายลงเพราะว่า.........
ปัง!!!
คุโรโกะรีบหันไปตามเสียงดังนั้น เมื่อกี้เหมือนเขาจะเห็นแสงสีแดงพุ่งเข้าห้องน้ำไปนะ เอ๊ะแล้วอาคาชิไปไหนแล้วล่ะ หรือว่าที่วิ่งเข้าห้องน้ำเมื่อกี้จะเป็นอาคาชิ
“ทำไมต้องรีบขนาดนั้นนะ” ร่างเล็กพูดกับตัวเองเบาๆ
อาคาชิเปิดประตูห้องน้ำออกมาด้วยหยาดเหงื่อที่เต็มไปทั่วหน้า
“นายแกล้งฉันหรอ เท็ตสึยะ!!” เมื่อเห็นคุโรโกะนั่งอยู่บนโซฟา อาคาชิก็รีบตะโกนออกไปทันที
“แกล้งอะไรครับ ผมไม่รู้เรื่อง” คุโรโกะงงที่อยู่ดีๆก็โดนตะคอกใส่
“นายใส่ยาถ่ายลงไปให้ฉันใช่มั้ย ไม่ต้องมาตีหน้าซื่อ” อาคาชิยังตะคอกไม่หยุด
“เอ๊ะ ก็บอกว่าเปล่าๆๆๆ จะอะไรนักหนา ผมไม่รู้เรื่องจริงๆ เซย์คุงแพ้อะไรเองหรือเปล่า” คุโรโกะสาบานได้เลยว่าเขาไม่ได้แกล้งใส่ยาถ่ายหรืออะไรลงไปเลยนะ
“แล้วไม่งั้นทำไมฉันถึง....” พูดยังไม่ทันจบเสียง ปัง!! ก็ดังอีกรอบ เพราะอาคาชิรีบกลับเข้าไปในห้องน้ำอีกรอบ
“เอะอะเสียงดังอะไรกันน่ะ” ร่างยักษ์ออกมาจากห้องพร้อมกับขนมในมือ เขากำลังกินขนมดูทีวีเพลินๆก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกจนดูหนังไม่รู้เรื่อง อะไรกัน อุตส่าห์ให้จู๋จี๋กันสองต่อสองแล้วนะ
“ก็เซย์คุงน่ะสิครับ หาว่าผมใส่ยาถ่ายลงไปในข้าวผัด ผมยังไม่รู้เลยว่าห้องเรามียาถ่ายหรือไม่มี”
“เอ๋ มีนะ อยู่ในครัวไง” มุราซากิบาระบอก
“นี่ไงล่ะ ขวดนี้ ฉันวางติดบ้านไว้เพราะฉันกินขนมบ่อยเลยท้องไม่ค่อยดีน่ะ” มุราซากิบาระที่เดินเข้าไปหยิบมาให้ดูจากในครัว เมื่อคุโรโกะเห็นมันก็แทบจะล้มทั้งยืน เพราะมันคือสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นซอสผัด แถมใส่ลงไปซะ......เยอะทีเดียว
“ผมขอโทษจริงๆครับ เซย์คุง ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมไม่รู้” คุโรโกะขอโทษขอโพยอาคาชิอย่างรู้สึกผิดจากใจจริง
“น..นาย..มัน...” อาคาชินอนอยู่บนโซฟาในสภาพเหนื่อยอ่อน ก็เขาวิ่งเข้าออกห้องน้ำไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ แถมมันเหนื่อยนะ ถ่าย เนี่ย แต่พูดไม่จบประโยคเจ้าตัวก็เงียบไปซะดื้อๆ ก็มันหมดแรงนี่
“แหม ผมก็ยังตักเข้าไปหนึ่งคำเลยนะครับ ยังเข้าแค่ครั้งเดียว” คุโรโกะเองก็กินไปคำหนึ่งเหมือนกัน ยังไปถ่ายครั้งนึงเอง แถมตอนที่เขาเข้าไปในห้องน้ำก็ต้องโดนอาคาชิที่อยู่ข้างนอกทุบประตูไม่หยุด เพราะอาคาชิจะเข้ามาถ่ายต่อ... อืม... คิดแล้วก็ขำแฮะ
“ไม่..ต้อง..ยิ้ม..เลย” อาคาชิที่เห็นคุโรโกะยิ้มแบบนั้นก็รู้ทันทีว่าคงโดนเยาะเย้ยอยู่ในใจแน่ๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเหนื่อยมากจริงๆ
“งั้นคุโรจินพาอาคาจินเข้าไปนอนในห้องละกันเนาะ นอนตรงนี้ไม่ดีหรอก” มุราซากิบาระที่นั่งดูคนสองคนคุยกันก็พูดแทรกขึ้นมา
“ให้เซย์คุงนอนตรงนี้ก็ได้นี่ครับ อ๊ะ ผมนอนเองก็ได้ครับ” ตอนแรกคุโรโกะจะให้อาคาชินอนข้างนอก แต่พอนึกได้ว่าตัวเองเป็นต้นเหตุให้อาคาชิเป็นอย่างนี้ก็จะยอมนอนข้างนอกก็ได้
“ไม่ได้หรอก คุโรจินควรจะอยู่ดูแลอาคาจินอย่างใกล้ชิดนะ เกิดอาคาจินปวดท้องแล้วเดินไม่ไหว ต้องเลอะแน่ๆเลย ไม่ได้ๆ” มุราซากิบาระพูดพลางขยะแขยงสิ่งที่พูดไป
“อัต...สึ.........ชิ” อาคาชิพูดด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น เขาไม่เคยต้องหมดสภาพอย่างนี้มาก่อน คุโรโกะ ไอ้ตัวแสบ หมอนี่ทำให้เขาหมดสภาพบ่อยเกินไปแล้วนะ
“แล้วทำไมเราไม่ช่วยกันแบกเซย์คุงขึ้นไปห้องเขาล่ะครับ แค่ขึ้นลิฟต์ก็ถึงแล้วนี่”
“ฉันไม่ช่วยแบกหรอกนะ ขี้เกียจ แต่ถ้าคุโรจินอยากแบกก็เชิญ แต่คุโรจินตัวเล็กขนาดนั้น ฉันว่านายต้องทำอาคาจินเจ็บหนักกว่าเดิมแน่ๆ” มุราซากิบาระพูดแบบไม่สนใจ ก็เขาอยากเห็นสองคนนี้ลงเอยกันนี่นา รีบจัดให้อยู่ห้องเดียวกันซะเลย สองคนนี้เหมาะสมกันจะตาย คนหนึ่งก็หล่อเหลาปานเทพบุตร อีกคนก็น่ารักอย่างกับเทพธิดา โอเค คุโรจินอาจจะไม่ได้เป็นผู้หญิงแต่ก็เปรียบให้ดูคู่กันเฉยๆ เอาเป็นว่าเหมาะสมกันมากๆก็พอ
“ก็ได้ครับ งั้นอัตสึชิคุงช่วยแบกเซย์คุงเข้าห้องผมหน่อยละกันนะครับ” คุโรโกะไม่มีทางเลือก เพราะที่คนร่างใหญ่พูดมาก็ถูกต้องทั้งนั้น ก็เขาทำให้อาคาชิต้องเป็นแบบนี้นี่นะ ถึงจะสะใจแต่ก็ต้องรับผิดชอบในการกระทำเหมือนกัน
อาคาชินอนดูคุโรโกะที่คอยช่วยจัดแจงให้เขานอนอย่างสบายที่สุดหลังจากที่ช่วยกันแบกตัวเขาเข้ามากับอัตสึชิ ทั้งๆที่คุโรโกะไม่จำเป็นต้องมาสนใจใส่ใจอะไรก็ได้ เพราะเขาเองก็แกล้งคุโรโกะไปไม่น้อยเหมือนกัน
“ฉันนึกว่านายจะทิ้งให้ฉันนอนอยู่ข้างนอกซะอีก” อาคาชิที่เริ่มมีแรงกลับมาพูดขึ้น
“ยังไงผมก็เป็นคนผิดนี่ครับ ถึงจะสะใจก็เถอะ แต่ยังไงผมก็ต้องรับผิดชอบในความผิดนั้น” คุโรโกะพูดด้วยแววตาจริงจัง อาคาชิรู้ดีว่าใครเข้าหาเขาเพื่อผลประโยชน์ หรือเพื่อจะมาจีบเขา อ่อยเขา เขารู้ดี แต่คนตรงหน้าเขา ทั้งคำพูดและแววตา เขาสัมผัสได้แต่ความจริงใจที่สื่อออกมา เขาเจอคนมามากมายเพราะต้องคอยไปเรียนรู้ธุรกิจของครอบครัวและเข้างานสังคมที่มีแต่พวกใส่หน้ากาก ก็อย่างที่บอก เขามั่นใจว่าคุโรโกะพูดด้วยใจจริง อยากจะรับผิดชอบจริงๆ ไม่ได้หวังผลอะไรทั้งนั้น ซึ่งนั่นทำให้เขารู้สึกดีกับคุโรโกะ
ในชีวิตเขามีเพื่อนแค่สองคนเท่านั้นที่เขายอมรับ หนึ่งในนั้นก็คือ อัตสึชิ ส่วนอีกคนก็ช่างคนๆนั้นเถอะ รู้แค่ว่าคนๆนั้นเป็นพวกประหลาดขนานแท้
“ขอบคุณนะ” อาคาชิพูดทั้งๆที่หลับตา
คุโรโกะงงที่คนที่หลับตาอยู่พูดแบบนั้น ก็คนอย่างหมอนี่เนี่ยนะ ดูไม่หน้าจะเป็นคนที่ขอบคุณคนเป็นเลย แต่ก็นะ.....
“ฉันมีมารยาทน่า” อาคาชิที่หลับตาอยู่เหมือนจะรู้ว่าคุโรโกะคิดอะไรอยู่ เลยพูดดักคอซะเลย
“ก็เห็นปกติปากร้ายจะตายนี่ครับ” คุโรโกะพูดติดขำ
“หึ ถ้ากับคนอื่นฉันก็คงไม่พูดอะไรแบบนี้หรอกนะ แต่นี่เป็นนายนะ เท็ตสึยะ เอาล่ะ ฉันจะนอนละ คอยดูแลฉันด้วยล่ะ” พูดจบอาคาชิก็รีบหันนอนตะแคงทันที ก็ตอนนี้หน้าเขาแดงไปจนถึงหูแล้วน่ะสิ
คุโรโกะเองที่ได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกเขินอายเหมือนกัน ก็อยู่ดีๆมาพูดจาให้คิดทำไมกันนะ คนบ้า หน้าตาตอนหลับของหมอนี่ก็ดู.....ดี หมายถึงดูเป็นอีกแบบน่ะนะ ดูน่าพึ่งพิง ดูน่ารัก ดูเป็นอีกแบบที่เคยเห็น พินิจคนตรงหน้าเสร็จคุโรโกะก็ล้มตัวนอนลงบ้าง เขารู้สึกง่วงนอนเกินกว่าจะไปอาบน้ำอีกรอบแล้ว อย่างน้อยเขาก็แปรงฟันแล้วน่ะนะ
ก๊อกๆๆๆๆๆ
เสียงเคาะทำให้คุโรโกะต้องลืมตาตื่นไปเปิดประตู
“ทำไมตื่นสายจัง คุโรจิน ไม่มีเรียนหรอ” ที่แท้ก็รูมเมทร่างยักษ์นี่เอง
“อ๋อ วันนี้ผมไม่มีคลาสน่ะครับ” ร่างเล็กตอบอย่างงัวเงีย
“อ๋าาา แต่อาคาจินมีนะ ฉันจำได้”
“อ๊ะ งั้นเดี๋ยวผมรีบปลุกก่อนนะครับ”
“เซย์คุงครับ เซย์คุง ตื่นได้แล้วครับ” คุโรโกะเรียกอาคาชิที่นอนอยู่ให้ตื่น แต่ก็ไม่ตื่นสักที จนคุโรโกะต้องเข้าไปเขย่า แต่พอจับที่ตัวของอาคาชิก็ทำให้รู้ว่า อุณหภูมิร่างกายของอาคาชินั้นขึ้นสูงทีเดียว
“อัตสึชิคุงครับ แย่แล้ว เซย์คุงมีไข้ ตัวร้อนจี๋เลย” คุโรโกะลนลานเพราะตัวของอาคาชิร้อนทีเดียว
“อ๋า ฉันต้องรีบไปแล้วซะด้วยสิ” คนตัวสูงพูดจบก็เดินมาแตะหน้าผากเพื่อน
“หืม ตัวไม่ได้ร้อนขนาดนั้น คงไม่ต้องพาไปโรงพยาบาลหรอก แต่ก็ไปเรียนไม่ได้แน่ วันนี้คุโรจินไม่มีเรียนใช่มั้ย งั้นช่วยดูอาคาจินหน่อยนะ ฉันไปละ” พูดจบคนตัวสูงก็จ้ำอ้าวออกไปทันที
“เห อะไรกัน ไม่สนใจเพื่อนเลยหรอเนี่ย”
“เฮ้อ สงสัยจะโดนฤทธิ์ยาถ่ายจนเดี้ยงเลยสินะ” คุโรโกะพึมพำกับตัวเอง
คุโรโกะออกไปทำโจ๊กเพื่อที่จะเอามาให้อาคาชิกิน แน่นอนว่า โจ๊กกึ่งสำเร็จรูปที่แค่เติมน้ำร้อน หลังจากที่รอเวลาได้ที่ ก็จัดแจงเทใส่จาน จะได้ดูน่ากินมากกว่าอยู่ในกล่องกระดาษ
คนร่างบางตั้งใจจะนำมาให้อาคาชิถึงในห้องนอน แต่พอเข้ามาในห้องก็เห็นอาคาชิกำลังจ้องเขาอยู่พอดี
“ตื่นแล้วหรอครับ กินโจ๊กก่อนนะครับ จะได้กินยา”
“นายจะให้ฉันกินฝีมือนายอีกหรอ” อาคาชิสบประมาททันที
“โจ๊กกึ่งสำเร็จรูปครับ ผมไม่ได้ใส่อย่างอื่นลงไปเลย นอกจากน้ำเปล่า” คุโรโกะพูดพลางยิ้มๆ ก็ขำคนตรงหน้านี่นา ที่ดูจะหวาดกลัวฝีมือการทำอาหารเขาเหลือเกิน
“ป้อนหน่อย”
“เอ๋”
“ป้อน” อาคาชิย้ำ
คุโรโกะจำต้องยอมป้อนให้อาคาชิ ไม่ใช่อะไรหรอกนะ กลัวให้กินเองแล้วจะหกต่างหาก เมื่อป้อนจนเสร็จคุโรโกะก็เตรียมยามาให้อาคาชิกิน
“นี่ครับยา อ๊ะ ปากเลอะแน่ะครับ” คนหัวฟ้าเห็นโจ๊กเลอะอยู่ตรงมุมปากของคนหัวแดง ก็เอามือเช็ดให้อย่างไม่นึกรังเกียจ พร้อมกับเอาเข้าปาก
“!!!!” อาคาชิจ้องคุโรโกะอย่างตะลึง หน้าที่แดงเพราะพิษไข้อยู่แล้ว ยิ่งแดงเข้าไปอีก
“จ้องอะไรล่ะครับ ก็ผมหิวนี่นา” คุโรโกะพูดอย่างไม่สนใจ ก็หิวนี่นา นี่เป็นห่วงหรอกนะ เลยทำให้กินก่อน เอ๊ะ เป็นห่วงเรอะ!!
“เช็ดตัว ฉันไม่ได้อาบน้ำตั้งแต่เม่ือวาน เหนียวตัวจะแย่” อาคาชิสั่ง เพราะรู้สึกเหนียวตัวจริงๆ
“ครับๆ รู้แล้ว วันนี้ผมจะอยู่ดูแลเซย์คุงทั้งวันเลย” คุโรโกะตอบไป อาคาชิเองก็ไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะจากที่เขาให้คนสืบมา ก็รู้อยู่แล้วว่าวันนี้คนตัวเล็กไม่มีเรียน
คนตัวเล็กจัดการเอาน้ำเย็นใส่กะละมัง แล้วก็หาผ้าเพื่อจะนำมาเช็ดตัวให้อาคาชิ อาคาชิจะได้สบายตัว แล้วก็นอนหลับสบายๆ ไม่ใช่ว่าเป็นห่วงหรอกนะ ก็ถ้าหมอนั่นสบายดีแล้วจะได้รีบๆไปต่างหาก
“มาแล้วครับ” คุโรโกะหิ้วกะละมังเข้ามา แล้วก็เริ่มเช็ดหน้าเช็ดตาให้อาคาชิ ค่อยๆไล่ลงมาที่คอแล้วก็ลงมาที่......
“เอ่อ เซย์คุงเช็ดที่เหลือต่อละกันครับ ผมขอตัวก่อน” คุโรโกะไม่กล้าจะเช็ดตัวให้
อาคาชิต่อแล้ว ก็เขินนี่นา เอ๊ะ เขินเรอะ เอ๊ะ วันนี้จะเอ๊ะมากไปแล้วนะ
“ไม่มีแรง เช็ดซะ เท็ต-สึ-ยะ”
คุโรโกะจำใจต้องค่อยๆปลดกระดุมของอาคาชิ ทำให้เห็นอกแกร่ง และกล้ามหน้าท้องที่สมส่วนน่ามอง ผิวขาวแต่ก็ไม่ได้ขาวมากเหมือนอย่างเขา
“เช็ดน้ำลายหน่อย เท็ตสึยะ” อาคาชิจ้องมาที่เท็ตสึยะอย่างขำๆ ตอนแรกเขาก็เขินนะที่คนตรงหน้าปลดกระดุมให้เขาแบบนี้ แต่พอเห็นหน้าแดงแปร๊ดน่ารักๆนั่นแล้ว อยากแกล้งมากกว่า
“อย่าพูดจามั่วซั่วสิครับ” คุโรโกะพยายามรีบเช็ดตัวให้โดยที่พยายามไม่มองหุ่นของอาคาชิ
'ในที่สุดก็เสร็จสักที' คุโรโกะคิดเอาในใจ
“ถอดกางเกงสิให้ฉันสิ”
“!!!!!!”
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
มาต่อแล้ววววววววว
ตอนนี้จะยาวกว่าตอนอื่นนิดนึงน้า
เม้นกันได้เลยนะว่าอยากให้แก้อะไรตรงไหน
ขอบคุณทุกคนมากน้า
ความคิดเห็น