คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1
Chapter 1
“นายมาทำอะไรตรงนี้”
คุโรโกะต้องแหงนหน้าจนสุดคอถึงจะมองเห็นคนที่ถามเขา สูงอย่างนี้ถึง2เมตรแหงๆเลย นี่หรอรูมเมทเรา
“เอ่อคือ ผมอยู่ห้องนี้ครับ" คุโรโกะสบตาเจ้าของเรือนผมสีม่วงที่หัวแทบจะชนขอบประตูอยู่รอมร่อ
“อ่อออ งั้นก็เข้ามาสิ” เสียงยานคางเอ่ย
คุโรโกะหิ้วของเข้ามาอย่างลำบาก ไม่คิดจะช่วยกันรึไงตายักษ์นี่ แต่คุโรโกะก็ได้แต่คิดอยู่ในใจ ไม่กล้าจะพูดออกไป ก็เขาตัวเล็กกว่าตายักษ์นี่ตั้งเยอะนี่นา
“เอ่อคือ ผมชื่อคุโรโกะ เท็ตสึยะ ฝากตัวด้วยนะครับ คุณเป็นรูมเมทผมใช่มั้ยครับ”
คุโรโกะที่อยากจะทำลายความอึดอัดนี้จึงเป็นฝ่ายถามขึ้นก่อน
“มุราซากิบาระ อัตสึชิ” เจ้าของเรือนผมสีม่วงเอ่ยด้วยน้ำเสียงยานคางที่เจ้าตัวติดทำเสียงแบบนี้จนเป็นเอกลักษณ์ไปแล้ว
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ แล้วเมื่อกี๊มุราซากิบาระคุงจะออกไปไหนหรอครับ” คุโรโกะถามคำถามที่ตนเองสงสัยออกไป เพราะถ้าตายักษ์นี่ไม่เดินมาเปิดประตูให้ เขาต้องวุ่นวายมากแน่ๆ
“เห อ๋อ แค่ได้ยินเสียงโวยวายแล้วรำคาญน่ะ” พูดเสร็จร่างสูงก็เดินเข้าห้องพร้อมถุงขนมเต็มมือ
“ห๊ายยยย ไอ้ยักษ์นี่ ทำไมปากแบบนี้นะ ชิ” คุโรโกะที่อารมณ์เสียกับคำตอบของมุราซากิบาระก็ได้แต่เอาอารมณ์ไปลงกับของที่ซื้อมา ลงที่ว่าหมายถึงกินแหลกน่ะนะ
กริ๊งงงงงงงงงง
คุโรโกะเหลือบมองโทรศัพท์อย่างเซ็งๆที่มาขัดจังหวะเขาจัดการอาหาร แต่พอเห็นว่าใครโทรมาก็รีบรับทันที
“ฮัลโหล คุณแม่" คุโรโกะเอ่ยเสียงออดอ้อนกับผู้เป็นแม่
“เท็ตสึยะ แม่ขอโทษนะลูก คุยธุระนานกว่าที่คิดมาก แม่คงไปหาลูกไม่ได้แล้วล่ะ ต้องรีบไปขึ้นเครื่องกลับบ้านแล้วน่ะลูก ไว้วันไหนแม่จะมาหานะจ๊ะ แม่สัญญา"
“ไม่เป็นไรครับ" ถึงปากจะบอกว่าไม่เป็นไรแต่ก็อดรู้สึกน้อยใจไม่ได้ ถึงจะเข้าใจก็เถอะว่าธุรกิจรัดตัว แต่ทำไงได้ล่ะ หลังจากนั้นสองแม่ลูกก็คุยกันอีกสักพักก่อนจะวางสายไป
“ห๊ายยยยยยยยยย สายแล้ววววววว” เสียงหวานตะโกนลั่นพร้อมรีบพุ่งออกจากห้อง
คุโรโกะไม่มีรถจึงต้องรีบวิ่งไปยังจุดบริการรับส่งระหว่างหอนอกกับตึกเรียน เขาไม่อยากสายตั้งแต่วันแรกของการเปิดเทอมหรอกนะ
ร่างบางรีบวิ่งออกจากล้อบบี้ข้างล่างแล้วจะข้ามถนนใต้ตึกเพื่อไปยังรถตู้ที่กำลังจะออกแล้ว แต่ด้วยความที่ลืมมองซ้ายขวาก่อนทำให้ไม่เห็นรถหรูที่กำลังขับมา
“ห๊ายยยยยยยยยย" คุโรโกะตกใจจนตะโกนลั่นเมื่อเห็นรถที่พุ่งเข้ามา
เอี๊ยดดดดดดดด
นับเป็นโชคดีที่เจ้าของรถเหยียบเบรคทัน แต่ถึงจะเหยียบทันคุโรโกะก็ลงไปนั่งที่พื้นเพราะเข่าอ่อนแล้ว
“บ้าหรือไง ไม่รู้จักดูตาม้าตาเรือ” เจ้าของรถเปิดประตูออกมาพร้อมพูดด้วยเสียงที่เกรี้ยวกราดใส่คนร่างบางที่นั่งอยู่หน้ารถ
“เอ่อคือ ขอโทษครับ ผมไม่ทันระวัง” คุโรโกะเอ่ยอย่างรู้สึกผิด เมื่อคุโรโกะเงยหน้ามองเจ้าของรถก็เห็นใบหน้าหล่อเหลามาก ดวงตาสีแดงข้างสีทองข้างที่สวยอย่างประหลาด เรือนผมสีแดงเพลิง ร่างกายสมส่วนที่ดูสูงกว่าเขาประมานหนึ่ง
“รถฉันจะเป็นอะไรไหมเนี่ย นายนี่มันแย่จริง น่ารำคาญ รีบออกไปได้แล้ว ฉันไม่อยากไปสาย” พูดเสร็จเจ้าของรถก็รีบกลับเข้าไปในรถแล้วบีบแตรดังลั่น จนทำเอาคุโรโกะเด้งตัวจากพื้นหลบไปทันที
“อะไรเนี่ย ก็ขอโทษแล้ว จะอะไรหนักหนา ตาบ้าเอ๊ย” คุโรโกะเอ่ยอย่างอารมณ์เสีย แต่อยู่ดีๆกระจกรถก็เลื่อนลงมา
“ฉันได้ยินนะ นายกล้ามากนะที่มาด่าฉัน ยังไม่เคยมีใครทำกับฉันแบบนี้ นายต้องโดนดีแน่” เจ้าของสีตาสุดประหลาดคาดโทษคุโรโกะเอาไว้ก่อนจะขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว โดยที่ขับทับหนังสือเรียนของคุโรโกะที่คุโรโกะลืมหยิบขึ้นมาพื้นตอนที่ตัวเองเด้งตัวออกมา
“ห๊ายยยยยย ไอ้โรคจิต เลวมาก” คุโรโกะรีบพุ่งไปดูหนังสือของตัวเองทันที หนังสือมีสภาพยับเยินมาก จนไม่คิดว่าจะใช้ได้แล้ว คงต้องซื้อใหม่ แต่ยังไงวันนี้คงต้องใช้ไปก่อน
“เอ๊ะ สายแล้วนี่ ต้องรีบ....” ยังพูดได้ไม่ครบประโยคก็ต้องกลืนคำพูดลงไป เพราะรถที่บริการรับส่งระหว่างหอกับตึกเรียนได้ออกไปแล้ว
“ห๊ายยยยยยยยยย อะไรกันเนี่ย” คุโรโกะตะโกนทั้งน้ำตา
เนื่องจากวันนี้คุโรโกะมาสายทำให้ต้องโดนตัดคะแนนตั้งแต่ครั้งแรกของวันเปิดเทอม แถมอาจารย์ยังสั่งงานกลุ่มตั้งแต่เจอหน้ากันครั้งแรก ทำให้ตอนนี้เขาไม่มีกลุ่มทำงานเลย แถมอาจารย์ยังลงโทษที่มาสายตั้งแต่คลาสแรกให้ทำคนเดียวไปเลย
ทุกสายตาในคลาสมองไปยังชายหนุ่มผมฟ้าที่กำลังนั่งหน้าบูดอยู่หน้าคลาสเพราะไม่มีกลุ่ม ถึงแม้จะอยากไล่เพื่อนในกลุ่มออกแล้วรับหนุ่มน่ารักที่กำลังนั่งโดดเดี่ยวอยู่เข้ากลุ่มก็ตามแต่ก็ทำไม่ได้เพราะดันส่งชื่อให้อาจารย์ไปแล้ว ถ้ารู้ว่าจะมีคนน่ารักแบบนี้ในคลาส ไม่มีทางที่จะยอมให้เจ้าของใบหน้าน่ารักต้องนั่งน่าบูดเป็นแน่แท้
ด้วยความที่ทุกกลุ่มจัดกลุ่มลงตัวกันหมดแล้ว คุโรโกะจึงต้องทำงานนี้เพียงลำพัง ถึงงานนี้เป็นงานที่จะไม่ยากนักแต่ค่อนข้างเหนื่อยทีเดียว ถ้ายิ่งทำคนเดียวยิ่งแล้วใหญ่ เพราะต้องไปสัมภาษณ์คณะอื่นของมหาวิทยาลัย คุโรโกะอยู่ในคณะอักษรศาสตร์ซึ่งตัวเขาเองโดนจับให้ไปสัมภาษณ์นักศึกษาคณะการพาณิชย์และบริหาร ถึงจะมีเพื่อนกลุ่มหนึ่งที่ไปสัมภาษณ์คณะนี้เหมือนกันแต่กลุ่มนั้นไปสัมภาษณ์สาขาบัญชี ส่วนตัวเขานั้นไปสัมภาษณ์สาขาบริหาร
“เอาล่ะ ออกมาดูชื่อคนที่เธอต้องไปสัมภาษณ์ได้แล้ว อาจารย์คัดไว้ให้แล้ว ดูเสร็จแล้วก็กลับได้” เสียงของอาจารย์เรียกความสนใจของนักศึกษาในห้อง คุโรโกะอยากรู้ว่าต้องสัมภาษณ์ใครจึงเดินตามคนอื่นๆไปดูบ้าง
“อาคาชิ เซย์จูโร่” คุโรโกะอ่านชื่อที่อยู่ในใบรายชื่อที่เขาต้องไปสัมภาษณ์ออกมา
“เห นามสกุลคุ้นๆจัง อ๊าา นึกไม่ออก ช่างมันละกัน หิวละ” คุโรโกะพึมพำกับตัวเองเบาๆก่อนจะเดินออกจากคลาสเรียนไป คุโรโกะไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใครเท่าไรจึงไม่ได้ชวนเพื่อนในคลาสไปกินข้าวด้วยกัน ถึงแม้อยากจะตีสนิทเอาไว้ แต่ด้วยความหิวกับนิสัยส่วนตัวจึงคิดว่าช่างมันก่อน ยังไงก็ต้องเจอกันอีกอยู่ดี แต่คุโรโกะไม่รู้เลยว่าทั้งชายทั้งหญิงในคลาสต่างอยากเข้าไปชวนให้หนุ่มร่างบางไปกินข้าวด้วยเหลือเกิน ผู้ชายก็อยากจะไปดูแลเทคแคร์คนน่ารัก ส่วนผู้หญิงก็อยากจะดูของน่ารักๆใกล้ๆ
คุโรโกะที่รีบเดินมายังโรงอาหารก็เห็นว่าคนบางตา อาจเพราะยังไม่ถึงเวลากินข้าวกลางวัน แถมวันนี้อาจารย์ก็ปล่อยก่อนเวลา ทำให้คุโรโกะสามารถเลือกร้านอาหารได้อย่างสบาย
เมื่อกินข้าวเสร็จก็เตรียมตัวจะกลับหอ แต่นึกขึ้นได้ว่ามีงานต้องทำ ถึงจะมีกำหนดส่งอีกสามอาทิตย์ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมีงานนี้งานเดียวสักหน่อย นี่พึ่งคลาสแรก วิชาแรก เขาไม่อยากมานั่งหัวหมุนเป็นลูกข่างหรอกนะ ไหนๆก็ว่างแล้ว เดินไปดูตึกคณะบริหารฯสักหน่อยดีกว่า
จากโรงอาหารคณะอักษรศาสตร์เดินมายังตึกคณะบริหารฯไม่ไกลเลย เพราะทั้งสองตึกนี้อยู่ใกล้กัน เลยทำให้ต้องใช้โรงอาหารร่วมกัน ก็ดี เจอกันบ่อยๆจะได้ทำงานให้เสร็จเร็วๆ
คุโรโกะมานั่งม้านั่งใต้ตึกคณะที่ตอนนี้คนบางตา พลางคิดว่าจะไปหาคนชื่อ อาคาชิ เซย์จูโร่ ที่ไหนดี ลองถามดีไหมนะ แต่จะรู้จักหรือเปล่า นี่พึ่งวันแรกของการเปิดเทอม แล้วก็ไม่แน่ว่านายเซย์จูโร่อะไรนี่จะมีเรียนวันนี้ไหม แต่ไหนๆก็มาแล้วลองถามดูก็ได้
“ขอโทษนะครับ รู้จักคนที่ชื่ออาคาชิ เซย์จูโร่ไหม” คุโรโกะลองไปถามกลุ่มผู้ชายที่พึ่งออกจากลิฟต์มา เมื่อกลุ่มผู้ชายเห็นหน้าคุโรโกะก็ตะลึงกันไปหมด เพราะความน่ารักของคุโรโกะที่ประดับอยู่บนหน้ากับเสียงหวานๆนั่นทำเอาอยากจะละลายลงไปกองตรงพื้นนี้เลย
“เอ่อคือ หน้าผมมีอะไรติดหรอครับ” ก็คุโรโกะเห็นทั้งกลุ่มเอาแต่จ้องหน้าเขาไม่หยุดแถมยังมีแววตาแปลกๆกันอีก ทำให้อดสงสัยไม่ได้
“ไม่มีครับๆ อาคาชิซังอยู่บนห้องเรียนน่ะครับ ห้อง 407ชั้น4 พวกเราเรียนเซคข้างๆ ตอนนี้น่าจะปล่อยแล้ว” กลุ่มชายหนุ่มรีบตอบไปเพราะกลัวจะทำให้คนน่ารักหงุดหงิด
“ขอบคุณครับ” คุโรโกะเอ่ยคำขอบคุณแล้วรีบกดลิฟต์ไปยังชั้น 4เพื่อไปหาคนที่ต้องการจะเจอ
เมื่อคุโรโกะเดินไปแล้วกลุ่มผู้ชายกลุ่มเดิมก็รีบสุมหัวคุยกันทันที
“นั่นใครวะ โคตรน่ารักอะ” หนึ่งในกลุ่มพูดขึ้นมา
“เออ น่ารักชิบหาย มีแฟนรึยังวะ อยากจีบว่ะ” อีกหนุ่มพูดขึ้นมา
“เฮ้ย อย่าคิดเลยนะมึง กูจองแล้ว” อีกคนรีบพูดขัดคอทันที
“เดี๋ยวนะ เมื่อกี้เขามาถามหาอาคาชิซัง หรือจะเป็นแฟนอาคาชิซัง” ผู้ชายที่เป็นคนให้คำตอบคุโรโกะพูดขึ้นมา
“เออจริงด้วย น่ารักแบบนั้นเป็นแฟนอาคาชิซังชัวร์”
“เห้อ” กลุ่มชายหนุ่มพร้อมกันถอนหายใจ เพราะคิดว่าเด็กหนุ่มน่ารักที่มีเรือนผมสีฟ้าอ่อนสดใสมีเจ้าของแล้ว แถมเจ้าของนั้นยังคือ อาคาชิ เซย์จูโร่ ผู้สุดแสนจะเพอร์เฟ็คทั้งหน้าตา ฐานะ การเรียน เรียกได้ว่าไม่มีด้านไหนจะไปสู้คนอย่างอาคาชิได้เลย
คุโรโกะพาตัวเองมายังหน้าห้อง 407 ที่ตอนนี้มีคนออกมาจากห้องแล้ว สงสัยจะจะเลิกเรียนแล้ว คุโรโกะจึงถามหนึ่งในผู้คนที่ออกมาจากห้อง
“เอ่อคือ อาคาชิ เซย์จูโร่ อยู่ไหมครับ”
“มีธุระอะไรกับฉัน” เสียงนุ่มทุ้มดังมาจากข้างหลัง
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระ-นายจะเจอกันแล้วววววววววววว
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ คอมเม้นติชมได้เลยน้า
ความคิดเห็น