Lupius Library หอสมุดลูเพียส [บทชิงภูตจำลอง]
เป็นนิยายแฟนตาซีในโครงการ New Blood Fantasia โดย zese ซึ่งเล่ม 2 จะวางแผงในงานหนังสือเดือนเมษายน 55 นี้ค่ะ
ผู้เข้าชมรวม
8,723
ผู้เข้าชมเดือนนี้
32
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เพื่อหนีจากอดีตที่ผิดพลาด
‘ซาซาไร’ ได้เข้าไปเป็นบรรณารักษ์
ใน ‘หอสมุดลูเพียส’
หอสมุดวิเศษ...
ที่โอบอุ้มอดีตของโลกทั้งใบ
แต่นอกจากจะหนีจากอดีตของตัวเองไม่พ้นแล้ว
เขายังต้องจัดการกับเงื่อนงำ ความลับ และศัตรูใหม่
ที่มาพร้อมกับงานใหม่อย่างเลี่ยงไม่ได้
ปกหลัง
ติดตามข่าวสาร ความคืบหน้า โปรโมชั่น
ผลงานอื่นๆ ของ NewBlood สถาพร ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ NewBlood สถาพร
"หอสมุดสรรพศาสตร์ เด็กประหลาดไร้ที่มา หนุ่มเบื่อโลกจอมมุสา ปริศนาแห่งความตาย"
(แจ้งลบ)___นามสกุลก็มั่ว ประวัติก็โม้ นิสัยก็แสร้ง อะไร ๆ ก็แต่งขึ้นมา ___ด้วยคุณวุฒิที่เปลี่ยนแปลงแปลกปลอมไปหมดตั้งแต่หัวจรดหางขนาดนี้ หนุ่มหัวหยิก ซาซาไร โฮลแลกติค คงไม่นึกแปลกใจอะไรถ้าการสมัครงานของตนจะคว้าได้แค่คำปฏิเสธ ___...ผ่าน หอสมุดลูเพียสรับเขาเข้าทำงานซะอย่างนั้น รายได้งาม แถมจัดเครื่องแบบกับอุปกรณ์อย่างหรูให้พร้อมอีกด้วยแน่ะ ___ ... อ่านเพิ่มเติม
___นามสกุลก็มั่ว ประวัติก็โม้ นิสัยก็แสร้ง อะไร ๆ ก็แต่งขึ้นมา ___ด้วยคุณวุฒิที่เปลี่ยนแปลงแปลกปลอมไปหมดตั้งแต่หัวจรดหางขนาดนี้ หนุ่มหัวหยิก ซาซาไร โฮลแลกติค คงไม่นึกแปลกใจอะไรถ้าการสมัครงานของตนจะคว้าได้แค่คำปฏิเสธ ___...ผ่าน หอสมุดลูเพียสรับเขาเข้าทำงานซะอย่างนั้น รายได้งาม แถมจัดเครื่องแบบกับอุปกรณ์อย่างหรูให้พร้อมอีกด้วยแน่ะ ___แต่...แน่นอน ก็ตามที่เขาสังหรณ์ ผลตอบแทนสูงค่าที่ได้มาง่าย ๆ นั้น...ไม่มีในโลก ___หน้าที่ 'บรรณารักษ์' ของเขามีอะไร ๆ มากกว่าที่คิด ___เพื่อนร่วมงานก็ล้วนแล้วพิลึกคน ถ้าไม่เป็นมิตรเกินเหตุก็มนุษยสัมพันธ์แย่เกินทน เหม็นหน้ากันโดยไม่มีเหตุผล ___วันดีคืนร้าย ดันมีจ๊อบพิเศษ 'เลี้ยงเด็ก' พ่วงมาให้อีกต่างหาก ___แสดงความรู้สึกอย่างเถรตรงสุดลิ่มย่อมนำมาซึ่งความบาดหมาง ___แต่มากมารยาทอย่างสุดโต่งก็อาจกลายเป็น มารยา ___การสื่อสารระหว่างคนเป็นโจทย์ที่ซับซ้อนหลากแง่มุมเสมอมา ___ซาซาไร โฮลแลกติก เลือกที่จะตัดปัญหา เขาตีหน้าซื่อ ทำตาใส แม้ในใจจะลอบนินทา แหลสดพร้อมฉีกยิ้มเข้าไว้ไม่ว่าจะอยู่ในอารมณ์แบบใด ___วิธีนี้ง่ายดายและปลอดภัย ไม่ต้องขัดแย้งกับใคร สามารถใช้ชีวิตปรกติได้ฉลุยราบรื่นไปอีกพักใหญ่ ๆ ___ทว่า ผลลัพธ์จากการแอ๊บแบ๊วกลับไม่เป็นดังคาด มิตรเขาพอมี แต่อริก็รายล้อม ___แม้ไม่หวังให้คนรอบข้างมาสนิทชิดใกล้ แต่ต่อให้ตัดเรื่องนี้ออกไป เขาก็ยังคงรู้สึกค้างคาใจ ___เพราะอะไร เขารู้ แต่คร้านจะยอมรับ ___...ว่าการมีปฏิสัมพันธ์ใช่จะต้องใช้การเล่นละครเข้าตอบสนองเสมอไป ___...ว่าวิธีการของเขานั้น โดยอีกนัยหนึ่ง มันคือการไม่ใส่ใจ ผ่านเลยต่อความรู้สึกของคนที่พบเจอ ทั้งยังเมินเฉยต่อความนึกคิดของตน ___ไม่เรียนรู้ผู้อื่น และไม่เรียนรู้ตัวเอง ___อันดับแรก ขอชมเชยคุณเซเซ่ผู้แต่ง ที่ทั้งเขียนเรื่องและวาดรูปประกอบเองโดยที่คุณภาพของเนื้อหากับภาพอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ด้อยลงไป ขยันจริง ๆ = v =b ___ก่อนจะได้เปิดอ่าน ต้องบอกว่าเดาแนวของเรื่องนี้ไม่ออกเลย โทนสีของหน้าปกมืดทึมซ่อนเร้นแต่ก็ขับเน้นแสงจากปลายเทียนและจากตัวสุนัขร่างยักษ์ หน้าพินอัพสีสันสดใสแต่ก็แสดงน้ำหนักของเงาเด่นชัด ซึ่งจะว่าไปแล้ว ก็ใกล้เคียงกับสถานที่หลักของนิยายเรื่องนี้...นั่นคือหอสมุด หนึ่งในสถานที่ที่มีภาพลักษณ์ความเป็นขั้วตรงข้ามรวมอยู่ในแห่งเดียว เป็นแหล่งชุมนุมของผู้คนมากหน้าหลายตา มีการเข้าออกเคลื่อนไหว แต่ต้องรักษาความเงียบสงบเป็นสำคัญ เอกสารบันทึกที่เก็บสะสมมีความเก่าแก่โบราณ ขณะเดียวกันก็มีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มพูนสิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา ___เรื่องราวในเล่มก็เช่นเดียวกัน เน้นถ่ายทอดอารมณ์ทั้งสองด้าน มีมุกขำขัน เรื่องรักใคร่ ความเบิกบานสว่างไสว และมีความตาย เงื่อนงำดำมืดลึกลับ สลับควบคู่กันไปตลอดทั้งเล่ม ___ยามเมื่อเรากล่าวถึงหอสมุด การยืม-คืน การค้นหา สถานที่นั่งอ่าน ภาพในมุมมองผู้ใช้บริการน่าจะเป็นภาพที่เด่นชัดที่สุด แต่สำหรับเรื่องนี้ ผู้เขียนเลือกจะบอกเล่าถึงฝั่งตรงข้าม การจัดเก็บ การซ่อม การซื้อหนังสือ และยังมีการเขียน ซึ่งเป็นมุมมองของเจ้าของสถานที่แทน โดยถ่ายทอดออกมาในรูประบบการทำงานของบรรณารักษ์ผสมผสานกับความเป็นแฟนตาซี ลูกเล่นต่าง ๆ ที่ใส่ลงในตัวละคร สิ่งของ สถานที่ เป็นไอเดียง่าย ๆ แต่ประกอบกันเป็นภาพลักษณ์ที่จดจำได้ติดตาและน่าสนใจ ___ด้านการเดินเรื่อง ใช้การเล่าผ่านมุมมองของตัวเอก สภาพโลกทัศน์ 'เหนือจริง' ทั้งหลายในเรื่องจะมีทั้งสิ่งที่ 'ธรรมดา' และ 'แปลกใหม่' สำหรับเขา การปรับความรู้สึกตรงนี้ขลุกขลักนิดหน่อยในบทแรก แต่เมื่อได้ข้อมูลมากพอที่จะมองเห็นภาพในบทที่สอง และเมื่อตัวละครสำคัญเปิดตัวในบทที่สาม เนื้อหาก็ลื่นไหลไปจนจบ ผู้เขียนคุมจังหวะในการเดินเรื่องได้สมดุล ไม่มีตรงไหนที่รู้สึกว่าช้าไปหรือเร็วไป ในส่วนของปริศนา ว่าด้วยการรื้อฟื้นอดีตกับความทรงจำที่ขาดหายไปช่วงหนึ่งของซาซาไร ตลอดจนความเป็นมาของเด็กน้อยต่างจักรวาล แบ่งส่วนและจัดลำดับการตั้งคำถามกับเผยคำตอบได้ดี มีจุดที่รู้สึกแย้งกันเล็กน้อย แต่โดยภาพรวม ยังคงเก็บรายละเอียดที่แทรกไว้ตามจุดต่าง ๆ ได้ครบถ้วนตามที่ควรเป็น และนำประเด็นหลักของเรื่องคือ 'ตัวตน' ของคนคนหนึ่งมาเล่นกับบทเฉลย ก่อนจะนำไปสู่บทสรุปปิดท้ายได้อย่างลงตัว = v =b ___โลกของการทำงานที่เราจะได้เพียงนึกเดาหากแค่ฟัง จะได้เพียงคาดการณ์หากแค่ดู แต่จะไม่มีวันรู้ว่าของจริงเป็นอย่างไรจนกว่าจะได้ลงมือทำด้วยตัวเอง กฎระเบียบที่ไม่เข้าใจเหตุผลถึงการมีอยู่ หน้าที่ซึ่งมาอย่างไม่คาดหมายและไม่อาจปฏิเสธ ___สังคมที่เต็มไปด้วยคนหลากประเภท คนที่ตีสนิทกับเราได้ง่ายจนรู้สึกว่าถูกรุกล้ำ คนที่เราเข้าถึงได้ยากจนรู้สึกไม่น่าคบหา ทั้งคนที่เราไม่ชอบหน้า และคนที่ไม่ชอบหน้าเรา ___...เหล่านี้คือภาพที่ Lupius Library สะท้อนออกมา ___ตัวเอกของเรื่องนั้น หากตัดทักษะเหนือมนุษย์ออกไปแล้ว ก็จะกลายเป็นคนธรรมดาสามัญอย่างเรา ๆ มีข้อดีข้อด้อยในนิสัย เอื้อเฟื้อแก่ผู้อื่นและเห็นแก่ตนในบางกรณี มีข้อกังขาเมื่อต้องพบกับสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย วิถีปฏิบัติที่แตกต่างจากเดิม มีความกังวลเมื่อต้องอยู่ร่วมกับคนที่ไม่เคยรู้จัก เจอกับปัญหาในการปรับตัว ___และอาจเป็นอย่างที่เขากล่าวไว้ในตอนท้าย...สิ่งสำคัญไม่ใช่เพียง 'ตอนจบ' แต่อยู่ที่ 'ระหว่างเรื่องราว' ได้เรียนรู้อะไร... ดุจเดียวกับในโลกแห่งความเป็นจริงซึ่งไม่มีตอนจบ ตราบที่ชีวิตยังไม่สิ้นสุด เราก็คงยังต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตต่อไป ___ในโลกของนิยาย บทชิงภูตจำลองเป็นเพียงการเริ่มต้น ชีวิตบรรณารักษ์ของนายผมหยิกคงยังมีอีกหลายบทกว่าจะถึงบทอวสาน และถึงแม้ตัวเอกจะพูดอย่างนั้น แต่เชื่อว่าหลายคนที่อ่านจบเล่มนี้ นอกจาก 'เส้นทาง' ที่นายผมหยิกจะก้าวเดินในเล่มต่อ ๆ ไปแล้ว ก็น่าจะยังอยากรู้เช่นกันว่า 'ปลายทาง' ของเขาจะเป็นอย่างไร :P) อ่านน้อยลง
bluemouse | 29 พ.ย. 54
3
0
"โลกเหนือจริงที่สมจริง"
(แจ้งลบ)ตอนได้อ่านเรื่องนี้ครั้งแรก ประทับใจกับจินตนาการของคนเขียนมากๆ ที่สามารถสร้างโลกใบหนึ่งขึ้นมาได้น่าตื่นตาตื่นใจขนาดนี้ สมเป็นนิยายแฟนตาซี แล้วก็บรรยายโลกที่สร้างขึ้นมาให้คนอ่านเห็นภาพตามได้ไม่ยาก ยิ่งอ่านแล้วคิดภาพตามไปก็ยิ่งสนุก เพราะบทบรรยายในเรื่องให้ภาพชัดมาก ธีมหลักของเรื่องนี้ก็น่าสนใจแล้วก็มีเหตุผลมารองรับอย่างดี บวกกับโครงเรื่องที่ลึก ... อ่านเพิ่มเติม
ตอนได้อ่านเรื่องนี้ครั้งแรก ประทับใจกับจินตนาการของคนเขียนมากๆ ที่สามารถสร้างโลกใบหนึ่งขึ้นมาได้น่าตื่นตาตื่นใจขนาดนี้ สมเป็นนิยายแฟนตาซี แล้วก็บรรยายโลกที่สร้างขึ้นมาให้คนอ่านเห็นภาพตามได้ไม่ยาก ยิ่งอ่านแล้วคิดภาพตามไปก็ยิ่งสนุก เพราะบทบรรยายในเรื่องให้ภาพชัดมาก ธีมหลักของเรื่องนี้ก็น่าสนใจแล้วก็มีเหตุผลมารองรับอย่างดี บวกกับโครงเรื่องที่ลึก ปูเรื่องมาอย่างดี พอยิ่งอ่านมาถึงบทท้ายๆเลยยิ่งเข้มข้น แล้วก็ทิึ่งกับคนเขียนมากขึ้นว่า'คิดได้ยังไงกันนี่' ปริศนาที่ทิ้งเอาไว้แต่ละอย่างให้คนอ่านติดตามได้เรื่อยๆทำให้วางไม่ลงกันเลยทีเดียว ที่ชอบเป็นพิเศษก็คือตัวละครหลักของเรื่องนี้ที่วางไว้ได้น่าสนใจดีค่ะ ซาซาไรเป็นคาแรคเตอร์ที่ค่อนข้างแปลก เป็นคนที่มีเรื่องราวในอดีตมาพอสมควร และอยากจะทิ้งอดีตของตัวเองก็เลยค่อนข้างปิดกั้นตัวเอง แต่ไม่ได้แสดงออกมาในแนว'พูดน้อย เย็นชา'ตามสูตรสำเร็จ ก็เลยไม่ได้น่าหมั่นไส้เท่าไหร่(ฮา) แถมยิ่งเรื่องราวในอดีตของเขาถูกเปิดเผยออกมามากเท่าไหร่ เรื่องก็ยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นตัวละครเอกที่คนอ่านอยากเอาใจช่วยมากๆ ที่สำคัญ ชอบลูเพียสมากค่ะ ฮ่า จะคอยติดตามผลงานนะคะ อ่านน้อยลง
อูฐดำดิน | 11 พ.ย. 54
2
0
ดูทั้งหมด
"หอสมุดสรรพศาสตร์ เด็กประหลาดไร้ที่มา หนุ่มเบื่อโลกจอมมุสา ปริศนาแห่งความตาย"
(แจ้งลบ)___นามสกุลก็มั่ว ประวัติก็โม้ นิสัยก็แสร้ง อะไร ๆ ก็แต่งขึ้นมา ___ด้วยคุณวุฒิที่เปลี่ยนแปลงแปลกปลอมไปหมดตั้งแต่หัวจรดหางขนาดนี้ หนุ่มหัวหยิก ซาซาไร โฮลแลกติค คงไม่นึกแปลกใจอะไรถ้าการสมัครงานของตนจะคว้าได้แค่คำปฏิเสธ ___...ผ่าน หอสมุดลูเพียสรับเขาเข้าทำงานซะอย่างนั้น รายได้งาม แถมจัดเครื่องแบบกับอุปกรณ์อย่างหรูให้พร้อมอีกด้วยแน่ะ ___ ... อ่านเพิ่มเติม
___นามสกุลก็มั่ว ประวัติก็โม้ นิสัยก็แสร้ง อะไร ๆ ก็แต่งขึ้นมา ___ด้วยคุณวุฒิที่เปลี่ยนแปลงแปลกปลอมไปหมดตั้งแต่หัวจรดหางขนาดนี้ หนุ่มหัวหยิก ซาซาไร โฮลแลกติค คงไม่นึกแปลกใจอะไรถ้าการสมัครงานของตนจะคว้าได้แค่คำปฏิเสธ ___...ผ่าน หอสมุดลูเพียสรับเขาเข้าทำงานซะอย่างนั้น รายได้งาม แถมจัดเครื่องแบบกับอุปกรณ์อย่างหรูให้พร้อมอีกด้วยแน่ะ ___แต่...แน่นอน ก็ตามที่เขาสังหรณ์ ผลตอบแทนสูงค่าที่ได้มาง่าย ๆ นั้น...ไม่มีในโลก ___หน้าที่ 'บรรณารักษ์' ของเขามีอะไร ๆ มากกว่าที่คิด ___เพื่อนร่วมงานก็ล้วนแล้วพิลึกคน ถ้าไม่เป็นมิตรเกินเหตุก็มนุษยสัมพันธ์แย่เกินทน เหม็นหน้ากันโดยไม่มีเหตุผล ___วันดีคืนร้าย ดันมีจ๊อบพิเศษ 'เลี้ยงเด็ก' พ่วงมาให้อีกต่างหาก ___แสดงความรู้สึกอย่างเถรตรงสุดลิ่มย่อมนำมาซึ่งความบาดหมาง ___แต่มากมารยาทอย่างสุดโต่งก็อาจกลายเป็น มารยา ___การสื่อสารระหว่างคนเป็นโจทย์ที่ซับซ้อนหลากแง่มุมเสมอมา ___ซาซาไร โฮลแลกติก เลือกที่จะตัดปัญหา เขาตีหน้าซื่อ ทำตาใส แม้ในใจจะลอบนินทา แหลสดพร้อมฉีกยิ้มเข้าไว้ไม่ว่าจะอยู่ในอารมณ์แบบใด ___วิธีนี้ง่ายดายและปลอดภัย ไม่ต้องขัดแย้งกับใคร สามารถใช้ชีวิตปรกติได้ฉลุยราบรื่นไปอีกพักใหญ่ ๆ ___ทว่า ผลลัพธ์จากการแอ๊บแบ๊วกลับไม่เป็นดังคาด มิตรเขาพอมี แต่อริก็รายล้อม ___แม้ไม่หวังให้คนรอบข้างมาสนิทชิดใกล้ แต่ต่อให้ตัดเรื่องนี้ออกไป เขาก็ยังคงรู้สึกค้างคาใจ ___เพราะอะไร เขารู้ แต่คร้านจะยอมรับ ___...ว่าการมีปฏิสัมพันธ์ใช่จะต้องใช้การเล่นละครเข้าตอบสนองเสมอไป ___...ว่าวิธีการของเขานั้น โดยอีกนัยหนึ่ง มันคือการไม่ใส่ใจ ผ่านเลยต่อความรู้สึกของคนที่พบเจอ ทั้งยังเมินเฉยต่อความนึกคิดของตน ___ไม่เรียนรู้ผู้อื่น และไม่เรียนรู้ตัวเอง ___อันดับแรก ขอชมเชยคุณเซเซ่ผู้แต่ง ที่ทั้งเขียนเรื่องและวาดรูปประกอบเองโดยที่คุณภาพของเนื้อหากับภาพอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ด้อยลงไป ขยันจริง ๆ = v =b ___ก่อนจะได้เปิดอ่าน ต้องบอกว่าเดาแนวของเรื่องนี้ไม่ออกเลย โทนสีของหน้าปกมืดทึมซ่อนเร้นแต่ก็ขับเน้นแสงจากปลายเทียนและจากตัวสุนัขร่างยักษ์ หน้าพินอัพสีสันสดใสแต่ก็แสดงน้ำหนักของเงาเด่นชัด ซึ่งจะว่าไปแล้ว ก็ใกล้เคียงกับสถานที่หลักของนิยายเรื่องนี้...นั่นคือหอสมุด หนึ่งในสถานที่ที่มีภาพลักษณ์ความเป็นขั้วตรงข้ามรวมอยู่ในแห่งเดียว เป็นแหล่งชุมนุมของผู้คนมากหน้าหลายตา มีการเข้าออกเคลื่อนไหว แต่ต้องรักษาความเงียบสงบเป็นสำคัญ เอกสารบันทึกที่เก็บสะสมมีความเก่าแก่โบราณ ขณะเดียวกันก็มีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มพูนสิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา ___เรื่องราวในเล่มก็เช่นเดียวกัน เน้นถ่ายทอดอารมณ์ทั้งสองด้าน มีมุกขำขัน เรื่องรักใคร่ ความเบิกบานสว่างไสว และมีความตาย เงื่อนงำดำมืดลึกลับ สลับควบคู่กันไปตลอดทั้งเล่ม ___ยามเมื่อเรากล่าวถึงหอสมุด การยืม-คืน การค้นหา สถานที่นั่งอ่าน ภาพในมุมมองผู้ใช้บริการน่าจะเป็นภาพที่เด่นชัดที่สุด แต่สำหรับเรื่องนี้ ผู้เขียนเลือกจะบอกเล่าถึงฝั่งตรงข้าม การจัดเก็บ การซ่อม การซื้อหนังสือ และยังมีการเขียน ซึ่งเป็นมุมมองของเจ้าของสถานที่แทน โดยถ่ายทอดออกมาในรูประบบการทำงานของบรรณารักษ์ผสมผสานกับความเป็นแฟนตาซี ลูกเล่นต่าง ๆ ที่ใส่ลงในตัวละคร สิ่งของ สถานที่ เป็นไอเดียง่าย ๆ แต่ประกอบกันเป็นภาพลักษณ์ที่จดจำได้ติดตาและน่าสนใจ ___ด้านการเดินเรื่อง ใช้การเล่าผ่านมุมมองของตัวเอก สภาพโลกทัศน์ 'เหนือจริง' ทั้งหลายในเรื่องจะมีทั้งสิ่งที่ 'ธรรมดา' และ 'แปลกใหม่' สำหรับเขา การปรับความรู้สึกตรงนี้ขลุกขลักนิดหน่อยในบทแรก แต่เมื่อได้ข้อมูลมากพอที่จะมองเห็นภาพในบทที่สอง และเมื่อตัวละครสำคัญเปิดตัวในบทที่สาม เนื้อหาก็ลื่นไหลไปจนจบ ผู้เขียนคุมจังหวะในการเดินเรื่องได้สมดุล ไม่มีตรงไหนที่รู้สึกว่าช้าไปหรือเร็วไป ในส่วนของปริศนา ว่าด้วยการรื้อฟื้นอดีตกับความทรงจำที่ขาดหายไปช่วงหนึ่งของซาซาไร ตลอดจนความเป็นมาของเด็กน้อยต่างจักรวาล แบ่งส่วนและจัดลำดับการตั้งคำถามกับเผยคำตอบได้ดี มีจุดที่รู้สึกแย้งกันเล็กน้อย แต่โดยภาพรวม ยังคงเก็บรายละเอียดที่แทรกไว้ตามจุดต่าง ๆ ได้ครบถ้วนตามที่ควรเป็น และนำประเด็นหลักของเรื่องคือ 'ตัวตน' ของคนคนหนึ่งมาเล่นกับบทเฉลย ก่อนจะนำไปสู่บทสรุปปิดท้ายได้อย่างลงตัว = v =b ___โลกของการทำงานที่เราจะได้เพียงนึกเดาหากแค่ฟัง จะได้เพียงคาดการณ์หากแค่ดู แต่จะไม่มีวันรู้ว่าของจริงเป็นอย่างไรจนกว่าจะได้ลงมือทำด้วยตัวเอง กฎระเบียบที่ไม่เข้าใจเหตุผลถึงการมีอยู่ หน้าที่ซึ่งมาอย่างไม่คาดหมายและไม่อาจปฏิเสธ ___สังคมที่เต็มไปด้วยคนหลากประเภท คนที่ตีสนิทกับเราได้ง่ายจนรู้สึกว่าถูกรุกล้ำ คนที่เราเข้าถึงได้ยากจนรู้สึกไม่น่าคบหา ทั้งคนที่เราไม่ชอบหน้า และคนที่ไม่ชอบหน้าเรา ___...เหล่านี้คือภาพที่ Lupius Library สะท้อนออกมา ___ตัวเอกของเรื่องนั้น หากตัดทักษะเหนือมนุษย์ออกไปแล้ว ก็จะกลายเป็นคนธรรมดาสามัญอย่างเรา ๆ มีข้อดีข้อด้อยในนิสัย เอื้อเฟื้อแก่ผู้อื่นและเห็นแก่ตนในบางกรณี มีข้อกังขาเมื่อต้องพบกับสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย วิถีปฏิบัติที่แตกต่างจากเดิม มีความกังวลเมื่อต้องอยู่ร่วมกับคนที่ไม่เคยรู้จัก เจอกับปัญหาในการปรับตัว ___และอาจเป็นอย่างที่เขากล่าวไว้ในตอนท้าย...สิ่งสำคัญไม่ใช่เพียง 'ตอนจบ' แต่อยู่ที่ 'ระหว่างเรื่องราว' ได้เรียนรู้อะไร... ดุจเดียวกับในโลกแห่งความเป็นจริงซึ่งไม่มีตอนจบ ตราบที่ชีวิตยังไม่สิ้นสุด เราก็คงยังต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตต่อไป ___ในโลกของนิยาย บทชิงภูตจำลองเป็นเพียงการเริ่มต้น ชีวิตบรรณารักษ์ของนายผมหยิกคงยังมีอีกหลายบทกว่าจะถึงบทอวสาน และถึงแม้ตัวเอกจะพูดอย่างนั้น แต่เชื่อว่าหลายคนที่อ่านจบเล่มนี้ นอกจาก 'เส้นทาง' ที่นายผมหยิกจะก้าวเดินในเล่มต่อ ๆ ไปแล้ว ก็น่าจะยังอยากรู้เช่นกันว่า 'ปลายทาง' ของเขาจะเป็นอย่างไร :P) อ่านน้อยลง
bluemouse | 29 พ.ย. 54
3
0
"โลกเหนือจริงที่สมจริง"
(แจ้งลบ)ตอนได้อ่านเรื่องนี้ครั้งแรก ประทับใจกับจินตนาการของคนเขียนมากๆ ที่สามารถสร้างโลกใบหนึ่งขึ้นมาได้น่าตื่นตาตื่นใจขนาดนี้ สมเป็นนิยายแฟนตาซี แล้วก็บรรยายโลกที่สร้างขึ้นมาให้คนอ่านเห็นภาพตามได้ไม่ยาก ยิ่งอ่านแล้วคิดภาพตามไปก็ยิ่งสนุก เพราะบทบรรยายในเรื่องให้ภาพชัดมาก ธีมหลักของเรื่องนี้ก็น่าสนใจแล้วก็มีเหตุผลมารองรับอย่างดี บวกกับโครงเรื่องที่ลึก ... อ่านเพิ่มเติม
ตอนได้อ่านเรื่องนี้ครั้งแรก ประทับใจกับจินตนาการของคนเขียนมากๆ ที่สามารถสร้างโลกใบหนึ่งขึ้นมาได้น่าตื่นตาตื่นใจขนาดนี้ สมเป็นนิยายแฟนตาซี แล้วก็บรรยายโลกที่สร้างขึ้นมาให้คนอ่านเห็นภาพตามได้ไม่ยาก ยิ่งอ่านแล้วคิดภาพตามไปก็ยิ่งสนุก เพราะบทบรรยายในเรื่องให้ภาพชัดมาก ธีมหลักของเรื่องนี้ก็น่าสนใจแล้วก็มีเหตุผลมารองรับอย่างดี บวกกับโครงเรื่องที่ลึก ปูเรื่องมาอย่างดี พอยิ่งอ่านมาถึงบทท้ายๆเลยยิ่งเข้มข้น แล้วก็ทิึ่งกับคนเขียนมากขึ้นว่า'คิดได้ยังไงกันนี่' ปริศนาที่ทิ้งเอาไว้แต่ละอย่างให้คนอ่านติดตามได้เรื่อยๆทำให้วางไม่ลงกันเลยทีเดียว ที่ชอบเป็นพิเศษก็คือตัวละครหลักของเรื่องนี้ที่วางไว้ได้น่าสนใจดีค่ะ ซาซาไรเป็นคาแรคเตอร์ที่ค่อนข้างแปลก เป็นคนที่มีเรื่องราวในอดีตมาพอสมควร และอยากจะทิ้งอดีตของตัวเองก็เลยค่อนข้างปิดกั้นตัวเอง แต่ไม่ได้แสดงออกมาในแนว'พูดน้อย เย็นชา'ตามสูตรสำเร็จ ก็เลยไม่ได้น่าหมั่นไส้เท่าไหร่(ฮา) แถมยิ่งเรื่องราวในอดีตของเขาถูกเปิดเผยออกมามากเท่าไหร่ เรื่องก็ยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นตัวละครเอกที่คนอ่านอยากเอาใจช่วยมากๆ ที่สำคัญ ชอบลูเพียสมากค่ะ ฮ่า จะคอยติดตามผลงานนะคะ อ่านน้อยลง
อูฐดำดิน | 11 พ.ย. 54
2
0
ดูทั้งหมด
ความคิดเห็น