คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 :
Sohall Talk พักกลางวัน
Love Band
Ceres Talk
10 วันก่อน
ฉันเดินเข้าไปในห้องซ้อม ที่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่แม้แต่คนเดียว วันนี้ไม่มีซ้อมหรอก พอดีช่วงนี้เป็น
ช่วงสอบน่ะ ซูสเลยให้พวกเราหยุดซ้อมไปก่อน แต่ที่ฉันเข้ามาในห้องนี้ก็เพราะว่าฮิว หรือที่ใครๆ
ต่างก็เรียกเค้าว่า 'อพอลโล' นั่นแหละ เค้านัดฉันให้มาเจอกันที่ห้องซ้อม แต่ฉันยังไม่เห็นวี่แววของ
เค้าเลยด้วยซ้ำไป -*- หรือว่าเค้าจะลืม... ฉันเดินสำรวจไปทั่วห้องเผื่อเค้าจะหลบอยู่ เอ๊ะ! บนโต๊ะ
มีกระดาษเมมโม่สีขาวติดไว้อยู่นี่นา ฉันเดินไปหยิบมันขึ้นมา
~ ฉันรอเธออยู่ที่ชั้นดาดฟ้าของโรงเรียน รีบๆมานะ จาก Apollo ~
นี่คือข้อความในกระดาษ ซึ่งฉันก็จำได้ว่าเป็นลายมือของพอลแน่นอน ฉันพับกระดาษเมมโม่ใส่
กระเป๋าเสื้อ แล้วเดินออกจากห้องซ้อม เพื่อไปหาเจ้าตัวการที่นัดฉันให้มาเจอ แต่ดันไปอยู่บนชั้น
ดาดฟ้าของโรงเรียนซะอย่างนั้น หวังว่าคงไม่คิดจะไปกระโดดตึกเล่นหรอกนะ =__=//
ฉันเดินไปจนถึงหน้าประตูของชั้นดาดฟ้า หมอนั่นคิดจะทำอะไรกันแน่ล่ะเนี่ย -*- ชอบทำตัวลึก
ลับเข้าใจยากกันจริงๆเลยนะ ฉันเอื้อมมือไปจับลูกบิดประตู และเปิดมันออกไป ข้างนอกมีผู้ชาย
ร่างสูง ผมตั้งชี้โด่ชี้เด่ แม้จะมองข้างหลังแต่ก็ฉายแววหล่อมาแต่ไกล ฉันไม่ได้จะชมเพื่อนตัวเอง
แต่ว่ามันคือความจริง อพอลโลเป็นคนที่มีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามมากๆเลยล่ะ แม้แต่ฉันเอง ที่เป็น
เพื่อนสนิทของเค้า ยังรู้สึกหวั่นไหวไปหลายครั้งเลย -////- เจ้าของร่างสูงเมื่อเริ่มรู้ตัวว่า มีคนจับ
จ้องเค้าอยู่ จึงหันหน้ามาหาฉันพร้อมกับส่งยิ้มแป้นแล้น ให้บุคคลที่อยู่ตรงหน้าหรือก็คือฉันเอง
" มาแล้วหรอ เซ"
" ยังไม่มามั้งเนี่ย ก็เห็นอยู่เนี่ย"
" มาถึงก็กวนคนหล่อเชียวนะ ^__^"
" นายเรียกฉันมานี่ เพื่อมาให้ฟังนายชมตัวเองหรอเนี่ย -*-"
อพอลโลไม่ได้พูดอะไรตอบกลับมา เพียงแต่ยังคงส่งยิ้มน่ารักๆนั่นมาให้ไม่ขาดสาย... -*- ยิ้มอะไร
กันนักกันหนาล่ะเนี่ย เค้าเดินเข้ามาหาฉัน จนตอนนี้เราห่างกันเพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น หมอนั่น
ยื่นดอกไม้ช่อเล็กมาให้ฉัน มันไม่ใช่ดอกกุหลาบ แต่มันเป็น....ดอกมะลิ -*- หมอนี่เห็นฉันเป็นแม่
หรือยังไงกันเนี่ย แต่ว่า...กลิ่นของดอกมะลิมันก็หอมดีเหมือนกันนะ -..-//
" ฉันให้เธอ..."
" ขะ...ขอบใจ นายเห็นฉันเป็นแม่ของนายหรือไง ถึงได้ให้ดอกมะลิน่ะ"
" แหะๆ เปล่าสักหน่อย ความหมายมันดีน่ะ"
ความหมายดี... ดอกมะลิมันมีความหมายว่าอะไรน่ะ ฉันรู้แค่ว่ามันหมายถึง บริสุทธิ์ ผุดผ่องและ
อ่อนโยน หมอนี่ต้องการสื่ออะไรกับฉันกันแน่เนี่ย =_=//
" อย่าทำหน้างงอย่างนั้นสิ -_-//"
" ก็ฉันงงจริงๆนี่ ตกลงมันมีความหมายว่าอะไรน่ะ ไอ้ดอกมะลิเนี่ย"
" มันแทนความหมายว่า เอ่อ...เธอคือผู้ที่ฉัน...."
" อะไร อย่าเว้นช่วงสิ - -*"
ไม่รู้ว่าอพอลโลเป็นอะไร จู่ๆก็หน้าแดงแปร๊ด...ไปจนถึงใบหู ไม่สบายหรือยังไงกันน่ะ เค้ากำลัง
ทำให้ฉันเป็นห่วงอยู่นะเนี่ย และอีกอย่างคือ...เค้ากำลังทำฉันเขิน -////-
" ว่าไง ตกลงดอกมะลิมันหมายถึงอะไร"
" หมายถึง...เธอคือผู้ที่ฉัน เอ่อ...สุดรักสุดบูชา และ เธอคือดอกฟ้าผู้สง่างามและสูงส่ง"
" หะ...หา >////<"
ฉันอึ้งไปเป็นเวลานาน เค้ากำลังจะบอกกับฉันว่าอะไรกัน ตึกตัก ตึกตัก.... ใจของฉัน มันเต้นแรง
และเร็ว จนแทบจะหลุดออกมานอกอกอยู่แล้ว และตอนนี้ฉันก็รู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้า .////.
" ฉันรักเธอ....เซเรส"
" พะ...พอล ฉันกำลังฝันอยู่ใช่มั้ยเนี่ย"
ฉันว่าก่อนจะเอามือตบหน้าตัวเองแรงๆ ไม่จริงน่ะ...ฉันเจ็บจริงๆ แปลว่า...ฉันไม่ได้ฝัน ผู้ชายที่
เป็นเพื่อนสนิทของฉัน มาสารภาพรักพร้อมกับช่อดอกมะลิหอมหวนนี่อย่างนั้นน่ะหรอ จู่ๆ ร่าง
กายของฉันก็ไร้เรี่ยวแรง ล้มลงไปกองกับพื้น และความมืดก็เข้าครอบงำทันที ฉะ...ฉันตกใจจน
สลบอย่างนั้นหรอ..... -*-
-------------------------------------------------
เฮ้อ...นึกถึงเมื่อสิบวันก่อนทีไร ฉันจะต้องหน้าแดงทุกครั้งเลยเชียว ตอนนี้เรื่องราวมากมายกำลัง
อยู่ในหัวของฉัน ทั้งเรื่องที่ฉันลาออกจากวงรวมถึงเรื่อง...ที่พอลบอกรักฉัน สองเรื่องนี้มีความเกี่ยว
พันกัน ไม่ใช่เพราะฉันไม่อยากพบหน้าอพอลโล ในทางตรงข้าม ฉันอยากพบเค้า อยากเห็นหน้าที่
ยิ้มแย้มของเค้า อยากเห็นหน้าเด๋อด๋าของเค้า แต่ว่า...มีเหตุจำเป็นที่ฉันไม่สามารถบอกให้ใครรู้ได้
ฉันต้องลาออกจากวงด้วยเหตุผลงี่เง่า คือฉันเบื่อ... แต่มันคือการโกหก เซเรสคนนี้เบื่อการร้องเพลง
ไม่ลงหรอก ฉันรักเสียงดนตรีและการร้องเพลง มากเกินกว่าจะเบื่อมันได้แล้วล่ะ -*-
ฉันนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ใช่แล้วล่ะ...มันคือห้องของฉันเอง ฉันแยก
ตัวออกมาอยู่ตามลำพัง พ่อแม่ของฉันเปิดร้านอาหารเล็กๆที่บ้าน ฉันชอบอยู่ในที่เงียบๆ จึงต้องตัด
สินใจขอออกมาเช่าห้องพักในคอนโดอยู่ ฉันนั่งมองรูปฉันที่ถ่ายกับเพื่อนๆในวงAm God ตอนนั้น
ฉันมีความสุขมากๆเลยล่ะ เราไปแข่งขันมาแต่ละครั้ง ไม่เคยแพ้กลับมาเลยสักครั้ง มันเป็นความ
ภูมิใจของฉันเลยล่ะ...
ก๊อก ก๊อก ก๊อก.... เสียงเคาะประตูดังเป็นจังหวะชะชะช่าดังขึ้น ใครมาเคาะประตูห้องฉันกันนะ
ฉันเดินไปเปิดประตูทันที หวังว่าคงไม่ใช่เพื่อนข้างห้อง ที่ชอบมาขอกินข้าวด้วยหรอกนะ ฉันเจอ
บ่อยจนเบื่อเลยล่ะ -*-// ทันทีที่เปิดประตูออกไป ฉันก็ต้องตะลึงตึงตึ่ง
" สวัสดี เซเรส ^___^"
" อพอลโล.... -__-"
เค้านั่นเอง อพอลโล... ฉันเปิดประตูค้างไว้ แล้วเดินนำเข้ามาในห้อง อพอลโลเหมือนรู้หน้าที่ จึง
เดินเข้ามาแล้วปิดประตูห้องให้ฉัน ฉันเดินไปนั่งบนโซฟายาวหน้าโทรทัศน์ทันที
" นายมาทำไมน่ะ -*-"
" เซเรส คือว่า...."
" ถ้าจะมาพูดให้ฉันกลับเข้าวง ก็กลับไปเถอะ ฉันตัดสินใจไปแล้ว"
" ไม่พูดก็ได้ แต่ไม่กลับนะ"
อพอลโลพูดพลางทำหน้าออดอ้อนออเซาะฉัน เค้าจะมาให้ฉันใจเต้น ตุ้มตุ้ม ต่อมต่อม เล่นทำไมกัน
นะ -///- พอเห็นหน้าเค้าแล้ว พานให้คิดถึงเรื่องเมื่อสิบวันก่อนทุกทีเลย ฉันพยายามทำหน้านิ่งเฉย
กลบเกลื่อนความอาย และความรู้สึกต่างๆเอาไว้ โอ๊ย! หัวใจฉันจะระเบิดอยู่แล้วนะ เลิกยิ้มน่ารัก
แบบนั้นได้แล้ว ไอ้เทพแห่งดวงอาทิตย์ นายกำลังทำการเผาผลาญร่างกายฉันอยู่ รู้ตัวหรือเปล่า...
" นายมาหาฉัน เพื่อจะมายิ้มยิงฟันให้ฉันดูหรือไงกัน -*-//"
" ก็...เหงา เลยจะมาชวนไปเที่ยว"
" เที่ยว? เที่ยวที่ไหน"
" สวนสนุก.... Dream World"
" Dream World เนี่ยนะ -*-"
และแล้วในที่สุด ฉันก็อดทนต่อคำขอร้องกับใบหน้าออดอ้อนของอพอลโลไม่ได้ สุดท้ายฉันก็เลย
ตกลงที่จะมาเที่ยวสวนสนุกกับเค้า เฮ้อ....อยู่กับคนภายนอก อพอลโลดูขรึมสุดๆไปเลยล่ะ แต่ทำ
ไมเวลาอยู่กับฉัน ถึงได้...ปัญญาอ่อนอะไรเยี่ยงนี้ -*-
" ยะฮู้ววว ถึงสวนสนุกแล้ว ^__^"
ทันทีที่มาถึง เค้าก็ออกท่าทางมีความสุขแบบโอเวอร์มากๆ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเค้าเก็บกดมาจาก
ไหนกัน แต่ตอนนี้ฉันอายคนอื่นไปหมดแล้ว -///-
" นายจะตะโกนหาเห็บเหาอะไรเนี่ย พอล"
" ก็อุตส่าห์ได้มาเที่ยวทั้งทีนี่หน่า เธอก็น่าจะปลดปล่อยความทุกข์ออกไปมั้งนะ"
" รู้ได้ยังไงว่าฉันทุกข์"
" ก็หน้าเธอมุ่ย เป็นตูดอย่างนี้ ใครๆก็ดูออกว่ามีความทุกข์"
ฉันทำเป็นไม่ฟังเค้า แล้วเดินนำเข้าไปในสวนสนุกทันที ฉันไม่ได้มาเที่ยวสวนสนุกนานมากๆแล้ว
ล่ะ เฮ้อ...ได้มาเที่ยวทั้งทีก็ควรจะปลดปล่อยบ้างล่ะนะ
" นายจะเล่นอะไรก่อนล่ะ"
" เอ่อ....เล่นซูเปอร์สแปลชดีกว่า ร้อนๆแบบนี้ โดนน้ำหน่อย"
" ไม่เอาอ่ะ ฉันไม่อยากเปียก"
" เล่นเถอะนะ ฉันอยากเล่นอ่ะ *-*"
อ๊ายยยยย!!!! หมอนี่ทำหน้าตาออดอ้อนฉันอีกแล้ว แล้วทำไมฉันต้องเป็นโรคแพ้คนอ้อนด้วยเนี่ย
ในที่สุด ฉันก็ขึ้นไปนั่งบนเครื่องเล่นที่มีชื่อว่า 'ซูเปอร์ สแปลช' ไม่ได้อยากเล่นเล้ย...
" อ๊ากกกกกก!!!!! กรี๊ดดดดดดด!!!!"
นี่ไม่ใช่เสียงฉันหรอกนะ แต่เป็นเสียงอีตาบ้าที่ชวนฉันขึ้นมาเล่น ฉันนั่งร้องบ้างเล็กน้อยเวลาโดน
น้ำ( เป็นโรคกลัวน้ำหรือไง -*-) แต่พอลนี่สิ ร้องตลอดเวลา แถมกรี๊ดกร๊าดเป็นผู้หญิงอีกตะหาก -*-
" โอ้กกกก อ้ากกกก อ้วกกกกก -__-///"
ทันทีที่ลงมาจากเครื่องเล่น อพอลโลสุดขรึม ก็รีบวิ่งไปอ้วกทันที เฮ้อ...คิดถูกหรือคิดผิดเนี่ย ที่
ยอมมาเล่นกับเค้า ไม่ว่าจะเล่นกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เค้าก็อ้วกมันทุกครั้งเลย -*-
" ถ้านายไม่ไหว ทำไมถึงอยากเล่นมันเล่า"
" ก็สนุกดีนี่ แต่ว่าเล่นกี่ครั้งก็อ้วกทุกทีเลย อ้วกกก"
" นายนี่มัน...ชอบฝืนตัวเองจริงๆเลย"
" เอาล่ะ หมดพุงแล้ว ไปเล่นแกรนด์แคนยอนกัน ไหนๆก็เปียกแล้ว"
ยังไม่ทันที่ฉันจะตอบตกลงเลยด้วยว้ำ เค้าก็ลากฉันไปเล่นเครื่องเล่นอื่นต่อทันที ให้ตายเถอะ จะ
ทรมานร่างกายตัวเองไปถึงไหนเนี่ย ไม่ว่าจะเล่นกี่อย่างต่อกี่อย่าง อพอลโลก็อ้วกมันทุกครั้งเลย
เห็นเค้าอ้วกแบบนี้ ทำให้นึกถึงคนแพ้ท้องเลยอ่ะ -*-//
" ไปเล่นอะไรต่อกันดี"
" นายอยากจะอ้วกให้ตายไปเลยหรือไง เราเล่นมาสี่อย่าง นายก็อ้วกมันตั้งสี่ครั้งแล้วนะ"
" ไม่เป็นอะไรหรอกน่า ฉันตายยากอยู่แล้ว"
" นายนี่มัน...ดื้อจริงๆเลยนะ"
" เหมือนเธอนั่นแหละน่า ไปเล่นสกาย โคสเตอร์ กับ ไวกิ้งส์ กันดีกว่า ^ ^"
อพอลโลพูดพร้อมกับลากฉันไปยังเครื่องเล่นสุดโหดพวกนั้นทันที
" ว๊ากกกกกก กรี๊ดดดดดดดด"
" กรี๊ดดดดดดดด"
ฉันกับเค้าต่างกรี๊ดกันจนเสียงแหบเสียงแห้ง อยากบอกเหลือเกินว่าเค้ากรี๊ดได้เสียงแหลมมากๆๆ
ถ้าไม่รู้จักกัน ฉันคงคิดว่าเค้าเป็นพวกตุ๊ดซี่ มาเที่ยวหาหนุ่มไปควงเล่นแน่ๆ -__-// และก็เป็นไป
ตามอีหรอบเดิม พอลงมาจากเครื่องเล่นเค้าก็....
" อ้วกกกก โอ้กกกก แค่กๆๆ"
" บอกแล้วว่าอย่าเล่น นายจะอ้วกให้หมดไส้หมดพุงเลยหรือไงกันเนี่ย"
" กะ...ก็ฉันชอบเล่นนี่นา =__=*"
" เฮ้อ...ทำไมนายชอบทำให้คนอื่นเป็นห่วงอยู่เรื่อยเลยนะ"
" โอ้กกกกก อ้ากกกก"
ฉันว่าเค้าพลางลูบหลังให้เค้า เฮ้อ...อ้วกได้อ้วกดีจริงๆเลย ขืนอ้วกอีกครั้ง สงสัยกระเพราะคงจะ
ออกมาพร้อมอ้วกด้วยแน่ๆเลย -*-
" เธอเป็นห่วงฉันด้วยหรอ"
" ห่วงสิ นายเป็นเพื่อนฉันนี่"
" นั่นสิเนอะ ฉันเป็นเพื่อนเธอนี่นา เพื่อน..."
เสียงของพอลเริ่มแผ่วเบาลงไปจนแทบไม่ได้ยิน เฮ้อ...ขอโทษด้วยนะ
--------------------------------------------------------------
ฉันตัดสินใจแบกร่างไร้เรี่ยวแรงของพอลเข้าไปในร้านอาหารร้านหนึ่งในสวนสนุก ก่อนจะพยุง
เขาให้นั่งลงที่เก้าอี้ ไม่นานนักพนักงานสาวก็เดินเข้ามาเพื่อจดเมนูอาหาร
" นายจะกินอะไรดีล่ะ... พอล " ฉันสะกิดถามเขาเบาๆ
" เอ่อ... เอาแฮมเบอร์เกอร์กับเฟรนซ์ฟรายละกัน - -// "
" นายจะกระเดือกมันลงเหรอไงยะ เรี่ยวแรงจะเดินยังไม่ค่อยจะมี เดี๋ยวฉันสั่งให้เองดีกว่า "
ฉันหันไปหาพี่พนักงานสาวก่อนจะสั่งข้าวต้มหมูให้กับอพอลโล แล้วสั่งข้าวผัดกุ้งให้กับตัว
เอง รอไม่นานอาหารที่สั่งไปก็ถูกยกออกมาโดยพนักงานคนเดิม
" เอ้า! ข้าวต้มมาแล้ว กินซะสิ "
" ป้อนหน่อยสิ T^T "
" มือนายด้วนเหรอไง ฉันก็จะกินของตัวเองมั้ง "
" โธ่... ฉันไม่มีแรงแล้วจริงๆ ช่วยเพื่อนแค่นี้ไม่ได้เลยเหรอ ฉันอุตส่าห์ชวนเธอมาเที่ยวเปิด
หูเปิดตาเชียวนะ ผู้หญิงอะไรใจร้ายชะมัด บลาๆๆๆ "
ควับ! ฉันจัดการตักข้าวต้มช้อนคำโตยัดใส่ปากเจ้าบ้าที่บ่นไม่หยุดจนเขาสำลัก หุหุ -,,-//
สมน้ำหน้า ฉันแสร้งทำเป็นไม่สนใจแล้วหันมากินข้าวผัดของตัวเองแทน โดยเหลือบไปมองเขา
เป็นระยะๆ
" ฉันอุตส่าห์สั่งมาให้ทำไมนายถึงไม่กินมันลงไป -*- " ฉันหันไปมองค้อนก่อนจะแหวใส่
เขาที่นั่งทอดมองออกไปข้างนอกร้านโดยไม่แตะข้าวต้มหมูแสนน่ากินสักเม็ดเดียว
" ..................... "
" ยังจะเงียบอีก โอเคๆ ฉันป้อนให้ก็ได้เลิกทำตัวเป็นเด็กไม่ยอมกินข้าวได้แล้ว "
" ไม่อยากทำก็ไม่ต้องฝืนหรอก ฉันไม่ได้บังคับเธอสักหน่อย -3- "
" ตกลงว่าจะกินหรือไม่กิน ฉันเริ่มโมโหแล้วนะ - -^ "
" แหะๆ กินสิ โอ๋ๆๆๆ อย่าทำหน้าแบบนี้สิเพื่อนรัก อ้ำๆ ^)-(^ "
เมื่อเห็นว่าฉันไม่เล่นด้วยเขาจึงรีบกินข้าวต้มที่ฉันป้อนทันที ฉันนั่งมองหน้าเขาอย่างหมั่น-
ไส้ในความเจ้าเล่ห์เจ้ากลของเขา ก่อนจะลมือกินข้าวผัดของตัวเองมั้ง พวกเราใช้เวลาไม่นาน
ก็จัดการกับอาหารตรงหน้าเสร็จ โดยพอลก็ยังมีท่าทีไร้เรี่ยวแรงเหมือนเดิมถึงแม้ว่าจะกินข้าว
ไปแล้วก็ตาม เห็นทีว่าเราคงต้องรีบกลับกันแล้วล่ะมั้ง
" กลับบ้านกันเลยละกัน ดูจากสภาพของนายแล้วเล่นต่อไม่ไหวแน่ "
" ใครบอกล่ะ ฉันยัง... โอ้กกกก "
เขาทำท่าเหมือนจะไหวแต่ก็พะอืดพะอมขึ้นมาซะก่อน เฮ้อ... หมดสภาพอพอลโล เทพเจ้าผู้
สง่าไม่เลยแฮะ ถ้าพวกผู้หญิงที่ชอบเขามาเห็นเข้าคงจะหมดศรัทธาในตัวเขาเชียวล่ะ
" ฉันจะไปส่งนายที่บ้านละกัน "
" ฉันกลับเองได้น่า "
" ยังจะมาทำเก่งอีกเหรอ นายน่ะเดินก็เซแล้ว จะกลับบ้านไหวได้ยังไง "
" แต่ว่า... "
" เอาเถอะน่า ยังไงเราก็เพื่อนกันนี่ ฉันไม่ปล่อยให้นายต้องกลับบ้านด้วยสภาพแบบนี้เอง
หรอกนะ ^__^ " ฉันช่วยพยุงร่างสูงไปโบกรถแท๊กซี่เพื่อไปส่งเขากลับบ้าน ดีนะ... ที่บ้านของ
เขาอยู่ไม่ห่างจากสวนสนุกนี้มากนัก ไม่อย่างนั้นต้องเปลืองค่าแท๊กซี่หลายขุมแน่ๆ เลย - -*
เอี๊ยดดดด!!!
ฉันลงจากรถแท๊กซี่ด้วยสภาพที่ใกล้จะอ้วกเต็มที ให้ตายเถอะ... ไอ้แท๊กซี่บ้านี่จะรีบขับไป
ไหนกันนะ ถ้าฉันเป็นอะไรขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ =O=^ ฉันพยุงร่างของอพอลโลที่ใกล้จะไร้
สติขึ้นไปบนคอนโดมิเนียมของเขา ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในห้องที่ไม่ได้ล๊อคของเขาเข้าไป
เฮ้อ... เป็นแบบนี้ประจำเลยเพื่อนฉัน ชอบลืมล๊อคห้องอยู่เป็นประจำ ดีนะที่ยามของที่นี่ค่อนข้าง
เข้มงวดก็เลยไม่มีโจรมาขโมยของเหมือนกับคอนโดอื่นๆ
" เฮ้! นายยังไม่ตายใช่มั้ยเนี่ยพอล - -?? " ฉันสะกิดเขาเบาๆ
" หืออออ~ ถึงบ้านแล้วเหรอ "
" ใช่น่ะสิ! ตัวนายหนักเป็นบ้าเลยนะ ดีนะเนี่ยที่ฉันมันอึด "
" อืมๆ ช่วยเอาน้ำมาให้หน่อยได้มั้ย คอแห้งไปหมดแล้ว -///- "
" ได้ทีใช้ฉันเชียวนะยะ "
ฉันบ่นไปตามภาษาแต่ก็ยอมเดินไปเอาน้ำใส่แก้วมาให้เขากินแต่โดยดี ฉันค่อยๆพยุงเขาขึ้นมา
กินน้ำอย่างยากลำบาก
" นายไหวหรือเปล่าเนี่ย... พอล "
" ฉันเป็นผู้ชาย ไม่ตายง่ายๆ หรอก "
" ปากเก่งเหลือเกินนะ ฉันกลับบ้านก่อนดีกว่า "
" เดี๋ยว... "
ขณะที่ฉันกำลังจะเดินออกไป อพอลโลก็คว้าแขนของฉันเอาไว้แน่น ก่อนจะส่งเสียงคราง
เบาๆ ให้ฉันหยุด ฉันหันกลับไปมองเขาอย่างสงสัยในท่าทีประหลาดๆ นั่น
" มีอะไรรึเปล่า "
" เรื่องเมื่อสิบวันก่อนนั่น ฉันพูดจริงๆ นะ ฉันไม่รู้หรอกว่าเหตุผลที่เธอลาออกจากวงมันเป็น
เรื่องเมื่อวันนั้นหรือเปล่า แต่ขอร้องล่ะ... กลับมาหาพวกเราเถอะนะ ไดอาน่า "
" เอ่อ... นายพูดบ้าอะไรน่ะ ฉันชื่อเซเรสจำไว้ด้วย ฉันว่า... ฉันกลับบ้านก่อนดีกว่า "
" เซ... "
" พักผ่อนด้วยล่ะ อย่าให้วงต้องขาดมือกีต้าร์ดีๆ อย่างนายไปล่ะ "
ฉันพูดได้เพียงแค่นั้นก่อนที่จะรีบวิ่งออกมาจากบรรยากาศชวนอึดอัดเมื่อสักครู่นี้ ยิ่งเขายื้อ
ยุดฉันมากเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งใจอ่อน ยิ่งอยากกลับไปทำหน้าที่นักร้องเหมือนเดิม แต่ว่า... ฉันไม่
ต้องการให้พวกเขาต้องมาเดือดร้อนกับฉัน ฉันไม่ต้องการทำลายพวกเขา ฉันไม่ต้องการ...
********************************************************
Fun Night Club ( ไนท์คลับใกล้โรงเรียน )
~ When you're gone. The pieces of my heart are missing you. When you're gone.
The face I came to know is missing too. When you're gone. The words I need to hear to always
get me through the day and make it ok. I miss you. ~
เสียงร้องอันทรงพลังแต่แอบแฝงไปด้วยความหวานดังขึ้นในห้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ยักษ์ที่
บรรจุสิ่งมีชีวิตได้เกือบห้าสิบคน โดยมีชายหนุ่มหน้าตาดีสองคนที่ได้รับภารกิจบางอย่างจับจ้อง
มองร็อคเกอร์สาวอย่างตกตะลึงราวกับสิ่งที่พวกเขาพบเห็นเป็นสิ่งมหัศจรรย์ก็ไม่ปาน
" O[]O ... "
" *O* .... "
" ให้ตายเถอะจอร์ช... สมกับที่ได้รับการหมายปองโดยไอ้ท่านซูสจริงๆ เลย "
" เออ... ช่ายยยย ทั้งเสียงดี มีพลัง แถมฟังแล้วลื่นหูสุดๆ ที่สำคัญนะโว้ย... หน้าตาสวยสุดๆ
ไปเลยว่ะ -,.-// " ผมพูดอย่างเห็นด้วยกับความคิดของไอ้อาเรส ยัยนักร้องสาวที่กำลังเริงร่า
กับการถ่ายทอดเสียงอันน่าขนลุกทั้งสวย และมีคุณภาพเหมาะแก่การหมายปองของไอ้
ท่านซูสเป็นที่สุด *[]* แต่ยัยนี่ดูโหดไปหน่อยนะ
" แล้วเราควรจะทำยังไงต่อดีวะ ยัยนั่นเดินไปหลังเวทีแล้วอ่ะ... บุกเลยมั้ย Go!!! "
โป๊กกกก!!!
ผมเอื้อมมือไปตบกระโหลกไอ้อาเรสที่พูดอะไรงี่เง่าแสดงความไร้ปัญญาของมัน ก่อนจะ
อธิบายขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติต่อไปให้มันฟังไปพร้อมๆ กับด่าให้หายโง่เสียที
" นอกจากเรื่องผู้หญิงแล้วแกนี่ไม่มีอะไรดีเลยจริงๆ นะ "
" ว่าแต่คนอื่น ชิ! แกก็ไม่ได้ดีไปกว่าฉันหรอกน่า -3- "
" อย่างน้อยฉันก็คิดเป็นโว้ย ฟังนะ! นักร้องส่วนใหญ่ที่ร้องในบาร์พวกนี้ เราสามารถเชิญ
พวกหล่อนมาคุยที่โต๊ะได้ เพราะฉะนั้น... เราก็ต้องบอกให้บริกรในร้านไปเชิญตัวยัยเป้า
หมายของเราออกมา เพื่อจะได้ตกลงเรื่องวงของเราไงล่ะ "
" รู้แล้วเว้ย เดี๋ยวฉันจัดการให้ ^__^ "
ไอ้อาเรสยิ้มอย่างเข้าใจสิ่งที่ต้องทำ ก่อนจะกวักมือเรียกบริกรสาวที่กำลังเดินผ่านมาทางนี้
เมื่อเหลือบมาเห็นออร่าความหล่อเหลาของพวกเรา เจ้าหล่อนก็รีบเดินเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้ม
แย้มแจ่มใสเพื่อทักทายแขก
" ไม่ทราบว่ามีอะไรให้รับใช้เหรอคะ เอ๋! หรือว่า... ต้องการอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มดีคะ
^____^ " เธอยิ้มต้องรับตามหน้าที่
" แหม... ชื่ออะไรครับเนี่ย ยิ้มน่ารักจัง " เอาอีกแล้ว ไอ้อาเรสมันออกลายอีกแล้วครับท่าน
" เอ่อ...
ความคิดเห็น