คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ก่อนแสงจันทร์พร่างพราว(๑)
๑
ก่อนแสงจันทร์พร่างพราว
เด็กหนุ่มวัยสิบปีอย่างดอว์นเพิ่งได้รับข่าวดีเมื่อไม่นานมานี้ ท่านพ่อและท่านแม่ของเขาอนุญาตให้เข้าไปในห้องเล็กของน้องสาวได้แล้ว น้องสาวที่อายุเพิ่งครบหนึ่งเดือนในวันนี้เป็นของขวัญสุดพิเศษที่พระเจ้าประทานให้ เย็นนี้จะเป็นพิธีรับขวัญเดือน เขาอยากเตรียมของขวัญให้กับน้องคนนี้ ของขวัญที่ไม่เหมือนใคร เพื่อน้องสาวคนนี้
เขาได้ข่าวมาสักระยะหนึ่งแล้วว่าโบสถ์ประจำเมืองจะมีจัดพิธีชำระล้างในวันนี้ เป็นวันเดียวที่บุคคลภายนอกจะนำสิ่งของติดกายมาทำพิธีเพื่อความสิริมงคล เขาเองก็มีสร้อยอะเมทิสเส้นหนึ่งที่ได้มาจากการแข่งขันอยากจะมอบให้น้องสาวเป็นของขวัญครบเดือน
ผู้คนมากมายหลากหลายต่อแถวอยู่หน้าทางเข้าโบสถ์ยาวมากเสียจนเขาคิดว่าวันนี้ตัวเองคงเข้าไปไม่สำเร็จ ทว่าด้วยสีผมที่โดดเด่นสะดุดตาทำให้ผู้คนต่างจำได้ว่าเขาเป็นใคร
“คุณหนูดอว์น วันนี้มาที่โบสถ์เหมือนกันหรือ มีของที่อยากชำระล้างด้วยเหมือนกันหรือ” เสียงของชายชราตรงหน้าทำให้เขาหันไปมองอีกฝ่ายที่มากันเป็นครอบครัว
“ใช่ครับ ผมอยากให้สร้อยเป็นของขวัญครบเดือนให้น้องสาวน่ะ” เขายิ้มอย่างยินดี ถ้มีโอกาสเขาก็จะพูดถึงน้องสาวคนนี้ทุกครั้ง น้องน้อยน่ารักที่เกิดมาพร้อมกับผมสีทองเหมือนเขา แต่ดวงตากลับเป็นคนละสีกัน
“กระผมจำได้วันนี้น่าจะเป็นวันฉลองครบเดือนของคุณหนูออโรร่าใช่ไหม”
“ใช่ครับ น้องผมจะอายุหนึ่งเดือนแล้วนะ” เขามองสร้อยในมือแล้วกำมันแน่น “ผมอยากให้น้องประสพแต่สิ่งดี ๆ ในชีวิต รอดพ้นจากภัยร้ายทั้งปวง”
“ปีนี้คุณหนูก็อายุสิบปีด้วย คงเข้าโรงเรียนหลวงสินะครับ”
“ใช่แล้วล่ะ เพราะว่าผมต้องไปเข้าโรงเรียนหลวงเลยอยากหาของติดตัวให้น้องสาว กลัวว่าเวลาที่เราไม่ได้พบกันน้องจะคิดถึงผมเกินไป” เขาหัวเราะเบา ๆ ปีนี้ก็ต้องไปเข้าโรงเรียนแล้ว พบกันได้แค่เดือนละครั้ง น้องสาวจะลืมเขาไปไหมนะ
“ถ้าอย่างนั้นเชิญคุณหนูดอว์นก่อนเลยขอรับ”
“ไม่ต้อง ๆ คุณตาเชิญตามสบายผมไม่ได้อยากจะแซงคิวอะไร” เขารีบโบกไม้โบกมือห้ามปราม
“เชิญคุณหนูเถิด วันสำคัญของออโรร่าก็คือวันสำคัญของชาวเมืองทุกคน เชิญเถิด” สิ้นประโยคนั้นราวกับคำประกาศิต ผู้คนล้วนแต่แหวกทางให้เขาจนไม่อาจปฏิเสธออกไปได้ เขาหยุดยืนอยู่หน้าประตูโบสถ์ เป็นบุคคลถัดไปที่จะได้เข้าไปยังโถงพิธีภายในนั้น
“โปรดมอบสิ่งของที่ท่านต้องการชำระล้างแล้วไปรอที่ด้านข้างด้วยเถิด” เด็กหนุ่มที่ดูท่าทางน่าจะอยู่ในช่วงวัยเดียวกันสวมชุดนักบวชยื่นมือออกมาข้างหนึ่งเพื่อรอรับสิ่งของจากมือของเขา ค่อนข้างแปลกใจที่พิธีการต่างจากที่คิด...ไม่ใช่ว่าเขาต้องเข้าไปในโถงพิธีหรอกหรือ?
“เจ้าลูกคนนี้ อยู่ภายในโบสถ์แท้ ๆ ตัวเองเป็นถึงผู้สืบทอดริอาจวางแผนขโมยสิ่งของเรอะ” เสียงดังกึกก้องออกมาจากภายในทำให้คนตรงหน้าแลบลิ้นออกมาเล็กน้อย
“โถ่ นิด ๆ หน่อย ๆ น่า ขำ ๆ พ่อจะคิดอะไรมาก”
“ไม่คิดมากได้เรอะเจ้าลูกคนนี้ จะไปไหนก็ไป” เขามองคนตรงหน้าที่หันมายิ้มให้เขาพร้อมกับกระซิบเสียงเบาว่าตัวเองจะออกไปทางสวนด้านข้างของโบสถ์ ถ้าสนใจละก็สามารถไปเล่นด้วยกันได้ เขามองตามหลังคนคนนั้นก่อนจะยิ้มออกมา
ยังมีเวลาเหลืออีกมากนักก่อนงานเลี้ยงค่ำคืนนี้ การชำระล้างก็ไม่ได้เสียเวลาอะไรมากมาย ถ้าเขาจะแวะเถลไถลเสียหน่อยคงไม่มีใครว่าอะไร ครั้นได้รับสร้อยอะเมทิสที่ชำระล้างเรียบร้อยแล้วเขาก็ตรงไปยังสวนด้านข้างของโบสถ์ ณ สถานที่นั้นราวกับที่รวมตัวของเด็ก ๆ รุ่นต่อไปที่จะสืบทอด รวมถึงเหล่าเด็กกำพร้าที่ทางโบสถ์รับดูแล
“มาแล้ว ๆ นี่ไงคนนี้ที่พี่บอกว่าเขาจะมาร่วมเล่นกับพวกเราด้วย”
ความคิดเห็น