คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : [นอกเรื่อง] บทที่ 3 : การวิจัยติ่งทวีตเตอร์ PART 1
(ก้มกราบงามๆ สามทีแบบเบญจางคประดิษฐ์)
สวัสดีผู้หลงผิดที่หลงกดเข้ามาในลิงค์บทความนี้ ตามหัวข้อเลย ว่าด้วยเรื่อง ‘ติ่งทวีตเตอร์’
ติ่งในที่นี้ไม่ได้มีความน่ารังเกียจเหมือนอย่างที่ใครๆ ต่างกล่าวหา ติ่งทวีตเตอร์ในมุมมองของเราแล้วมันก็น่ารักน่าเอ็นดูและบางทีก็ดูส้นตีนไปพร้อมๆ กันน่ะนะ
บางทีก็แค่ว่างอ่ะ...ก็ไม่ได้ว่างหรอกนี่เป็นเวลานอนและควรจะไสหัวไปนอนได้แล้วแต่ก็คัน อยากจะหาอะไรเขียนเล่น แซะชาวบ้านไปเรื่อยสนุกดี สีสันคัลเลอร์ฟูลในชีวิต
หมายเหตุ : ขอเตือนไว้ก่อนนะว่า...ที่เราเขียนลงไปทุกอย่างในบทความนี้มันเป็นเรื่องที่เจอเองกับตัว ใครที่อ่านแล้วรู้สึกหมั่นไส้ รู้สึกคัน อยากด่าก็เม้นในนี้ได้เลยหรือจะตามไปจิกหัวด่า 140 ตัวอักษรในทวีตเตอร์ก็เมนชั่นมาได้ที่ @specialdictator
แต่!...ถ้าคุณอ่านแล้วเพลิดเพลินไปกับเรามันก็ดีไปไง แต่ท่านใดที่อ่านจบแล้วรู้สึกขุ่นมัวและคิดว่าคุณโดนเราแซะ นั่นแสดงว่าคุณเป็นอย่างที่เราว่าจริงๆ แล้วล่ะ อ่านแล้วอย่าเคืองนะ เราไม่ได้เจาะจงใครเป็นพิเศษ (อย่าดราม่าเลยกูขอร้องล่ะ)
ติ่งทวีตเตอร์ (เจาะวงแคบๆ พอและ)
เอาแค่พวกติ่งเกาหลีในหมู่เพื่อนพ้องที่ RT มาให้ได้เห็นทุกวันกันนี่แหละ มันมีอยู่ไม่กี่พวกกันหรอก จะมีอยู่หลักๆ ก็คือ
1.กลุ่ม Fanbiase
2.กลุ่มเซเลปแปล Trans
3.กลุ่มที่คุยกับเพื่อนฝูงกันเอง
4.พวกกลุ่มแอ็คกรุ๊ปเลือด แอ็คเพ้อฝัน ความรัก กลุ่มแอคคู่วาย
5.บอท
6.หลุม (นะจ๊ะ)
7.กลุ่มเซเลปทวีตเตอร์
8.กลุ่มคนพยายามอยากเป็นเซเลปทวีตเตอร์
(เท่าที่จำได้ก็มีแค่นี้ล่ะน่อ)
เรามาเริ่มเจาะกลุ่มแรกกันเลยดีกว่า...
1.กลุ่ม Fanbiase กลุ่มนี้คนจะฟอลเยอะมากแต่หลังๆ เด็กติ่งเริ่มเปลี่ยนใจยกอีนังพวกนี้ไปใส่ใน List แทน (แม่งรก TL) ก็รู้นะว่าเขาอัพข่าวสารทุกสิ่งทุกอย่างให้เราได้เสพย์ได้ติดตาม แต่แม่งก็รกอ่ะ! ก็ซึ้งในน้ำใจนะ แต่ขออันฟอลแล้วยกไปอยู่ในลิสต์เถอะ
1.1 กลุ่มพยายามจะเป็น Fanbiase... (อุ๊ย...อย่าสะดุ้งสิตัวเอง)
คนกลุ่มนี้พบเห็นเยอะมาก ถึงปากจะพร่ำบอกว่า “กูเปล่านะ กูอยากอัพอะไรก็อัพอ่ะ” คืออัพข่าวสารทุกอย่างอ่ะ เพื่อให้คนฟอลเยอะๆ ไปก๊อบเขามาให้เครดิตบ้างไม่ให้บ้างไม่สนหรอก ขอให้คน RT กูก็พอ อยากเป็นแฟนไบแอสทุกวงก็ฟอลทุกวงไปแต่หารู้ไม่มันโคตรจะน่ารำคาญอ่ะเทอว์ แล้วมาบ่นว่าโดนอันฟอลบ่นเหมือนเขาไปเอาลูกซองจ่อหัวพ่อมึง...ก็จะให้ทำยังไงล่ะ...มึงเดินไปคนละทางกับกูอ่ะ
เข้าใจป่ะ? อีนี่แบบเดี๋ยวอัพบีส เดี๋ยวอัพเอสเจ เดี๋ยวอัพเคโอติก คือมึงเดินทางสายกลางไม่ได้เหรอทำไมต้องหักเลี้ยวซ้ายหักเลี้ยวขวา กูไม่ได้ชอบวงอื่นอ่ะ แล้วรำคาญที่มึงพยายามจะอินโฟข่าวมาก กดอันไปเพื่อความสบายใจ ทวีตก็ทวีตกูแต่เสือกดราม่าอีก แล้วอีพวกพยายามจะฮาตามชาวบ้านโดยการอัพเรื่องเกรียนๆ แต่เสือกใน [INFO] ข้างหน้านี่ก็ด้วย พยายามจะกระแสอยากเกรียนไปเรื่อยไม่รู้เป็นโรคลำไส้กระแสอักเสบระยะสุดท้ายรึเปล่า
แต่พวกพยายามจะเป็น Fanbiase นี่ดีอย่างนะ หัดเรียนรู้ความพยายามตั้งแต่ยังเด็กถึงแม้มันจะโคตรน่ารำคาญก็เถอะ
2.กลุ่มเซเลปแปล [Trans]
คนกลุ่มนี้ช่างน่ายกย่องยิ่งนัก เป็นผู้มีน้ำใจแปลทรานส์จากศิลปินให้พวกเราได้อ่านกันอยู่เสมอ ไม่รู้จะแซะอะไรดีอ่ะ คือต่อให้พวกเขามีประวัติกูก็ไม่สนอ่ะ กูสนทรานส์อย่างเดียว งั้นข้ามแล้วกัน (โบกมือปัดๆ)
3.กลุ่มที่คุยกับเพื่อนฝูงกันเอง
คนกลุ่มนี้มักจะติดทวีตลิมิตกันบ่อยมากเนื่องจากเมนชั่นคุยกันอย่างต่อเนื่องประหนึ่งแชท msn บางคนโทรคุยกันอยู่ยังเมนชั่นหากันไม่รู้เป็นอะไร แต่พวกนี้ยังธรรมดาลองมาเจอพวกนี้ดิ แปะทวีตในสยามโซนใครฟอลมาฉันฟอลกลับ เอาวะ! เพิ่มจำนวนฟอลโลวเวอร์! หลังจากนั้นก็มา Introduce กันทางทวีต ฉันชื่ออะไร เธอชื่ออะไร ชอบคู่ไหน อ้าวอีห่ากูเกลียดคู่นี้ บายค่ะมึง...อ้าวอีเหี้ย! อันฟอลกูทำไม กูเสียความรู้สึกนะ! <- โถ...เฮี้ยนมากนะเทอว์
4.พวกกลุ่มแอ็คกรุ๊ปเลือด แอ็คเพ้อฝัน ความรัก กลุ่มแอคคู่วาย ฯลฯ
กลุ่มพวกนี้จะมีคนฟอลเยอะเนื่องจากอัพอะไรโดนใจวัยรุ่นโดยเฉพาะกรุ๊ปเลือดและแอคคู่วาย ซึ่งอันหลังนี่กูว่าค่อนข้างจะโน้มน้าวไปทางมโนกันซะเยอะ มโนกันก็พอทำใจหรอกแต่ใส่ INFO ข้างหน้านี่ประหนึ่งตั้งกล้องวงจรปิดไว้ในหอพักศิลปิน ฟอลไปก็สนุกดีนะอ่านเพลินๆ แต่สักพักหมดความเพลิดเพลินก็กลายเป็นความเบื่อหน่าย จำเจ (จับมันเข้าลิสต์ไปอยู่กลุ่มเดียวกับพวกแฟนไบแอสซะ)
5.บอท
บอทมีเยอะมากสมัยนี้ไม่ได้ต่างอะไรไปจาก ufo เลย บอทที่คุยกับพวกแฟนคลับมันก็โอเคอยู่แต่พวกสร้างแอคมาวายแล้วกระเด้ากันโชว์ในทวีตนี่เป็นโรคหงี่หรืออย่างไร แล้วไบโอแต่ละนางนี่อื้อหือ
‘ผมแรง ผมยั่ว ผมร่าน อยากเข้ามาในตัวผมก็ทักมาสิฮะ (เลียปาก)’ <- พ่องเป็นปอปยายสาเหรอ
‘ผมหื่น อยากให้ผมกระแทกตัวคุณแรงๆ ไหมล่ะ’ <- มึงมีปิกาจู้เหรอจะไปกระแทกคนอื่นอ่ะ
บางทีก็แอบคิดนะว่าน้องๆ เค้าอาจจะเบื่อโลก ufo แล้วถึงได้มาเยือนถึงทวีตเตอร์ หรือบางทีพวกนางอาจจะอยากเข้าถึงทุกรูปแบบของโซเชียลเนตเวิร์ค ก่อนหน้านี้กูก็เห็นพวกมันรุกรานไปถึงเฟสบุ้คแล้วนะ มีสร้างผ่งสร้างเพจยูเพจคลับ ถามว่ามีติ่งแถวไหนไปกดไลค์ไหม...ก็ไม่มีอ่ะ อย่างเก่งกูให้ 20 ไลค์เลยเอ้า (แล้วอี 20 ไลค์นั่นก็ไม่ใช่ใคร คนในยูปาไปเกือบสิบแล้วไปบังคับให้เพื่อนกดไลค์ด้วย) บางคนก็สร้างแอคเฟสบุ้คเป็น ufo ขึ้นมา กูไม่เห็นว่ามันจะมีเนื้องอกอะไรนอกจากสร้างแฟมโคตรเหง้าสักราชแถบซ้ายมือยาวเหมือนส่วนสูงซีวอน จนปัจจุบันก็ลามมาถึงทวีตเตอร์แล้ว ซึ่งคิดว่าคงเป็นแหล่งศูนย์รวมอารยธรรมของพวกเด็กติ่ง ufo ขั้นสุดท้าย...
6.หลุม (นะจ๊ะ)
แอคหลุม...เชื่อว่ามีใครหลายๆ คนสร้างแอคใหม่ขึ้นมาเพื่อระบายทุกสิ่งทุกอย่างที่มันอัดอั้นอยู่ในใจลงในแอคนี้ (ที่สำคัญต้องล็อคทวีตด้วยนะไม่งั้นโดนส่อง) จะฟอลคนที่สนิทเท่านั้นหรือไม่ก็บ่นแม่งคนเดียวนั่นแหละ จริงๆ จะบ่นในแอคหลักก็ได้แต่ยังมีความเกรงใจฟอลโลวเวอร์นับร้อยอยู่ เรื่องบางเรื่องก็เล่าให้ใครฟังไม่ได้
7.กลุ่มเซเลปทวีตเตอร์
ที่ไม่ว่าจะอัพห่าอะไรก็มีคน RT และสรรเสริญ (ใครปวดขี้กด RT ค่ะ)
คนพวกนี้คนจะตามฟอลเยอะ คุณปฏิเสธบ่ดั้ยดอกว่าคุณบ่จั้ยเซเลปน่ะนะ ต่อให้คนรอบข้างจะแซะจะด่าว่าคุณอยากดังแค่ไหนแต่มันปฏิเสธไม่ได้จริงๆ อ่ะ คือสังคมยกให้กูเป็นเซเลปเอง กูตั้งใจหรือเปล่า? (เออ กูตั้งใจแต่มันก็เป็นส่วนน้อย) กูไม่เชื่ออ่ะใครที่บอกว่าไม่ได้อยากดัง กูไม่เชื่อเลย แต่มันอาจจะแบบว่ากูไม่ได้อยากดังในแง่นั้น กูอยากมีเพื่อนเยอะ อยากรู้จักคนเยอะๆ แบบนี้คงฟังดูดีกว่า โคตรรำคาญลูกตาเวลาเห็นคนมาปฏิเสธว่ากูไม่ได้อยากดัง ไม่ได้อยากให้คนมาฟอลเยอะๆ ทำแบบนั้นล็อคทวีตไปเลยดิ แล้วก็คัดว่าจะให้อีหน้าไหนฟอลกูได้ อีหน้าไหนหมดสิทธิ์ติดตามชีวิตกู แบบนั้นถึงจะเรียกไม่อยากจริงๆ
ก็เข้าใจนะจุดนี้ (ขอแจงเรื่องจำนวนคนฟอลโล่วก่อน)
เชื่อว่าใครหลายๆ คนอยากมีจำนวนฟอลโลวเวอร์เยอะๆ (ใครไม่อยากมีก็เงียบปากไปไม่ต้องถกขึ้นมา) กูคนนึงก็คิดแบบนั้น อยากมีคนมาติดตามชีวิตเยอะๆ อ่ะ มีความสุขเล็กๆ ให้อารมณ์เหมือนตัวเองมีคุณค่าในสังคม (ออนไลน์) มีเพื่อนคุยเยอะ (หรือพวกมันฟอลมาสมเพชกูก็ไม่รู้)
แต่ถามว่า! จะมีใครสักกี่คนที่กล้าพูดว่ากูอยากได้ฟอลโลวเวอร์เยอะๆ?
ไม่มีอ่ะ...ไม่เห็นมีติ่งทวีตเตอร์คนไหนออกตัวพูดแบบนี้สักคน จะมีก็แค่...
“เฮ้ย เราไม่ได้อยากให้คนมาฟอลเยอะๆ เลยนะ เราขี้เวิ่นอ่ะ อันฟอลได้เลย” <- อันนี้ประโยคแรกแม่งตอแหลไปครึ่งนึงละ ประโยคหลังเชื่อได้ 60% กูคนนึงแหละถ้าเกิดทนไม่ไหวก็กดอันฟอลไปได้เลย ไม่มีการร้องห่มร้องไห้ดราม่าตามล่าอีหน้าหยวกว่าใครชั่งกล้ากดอันฟอลกู
พวกเซเลปทวีตเตอร์แต่ละคนมีเรื่องให้อัพไม่เหมือนกันเว้ย วันนี้บ่นการบ้านเยอะแล้วมีคนกด RT พอมีคน RT มีคนถูกใจก็กดฟอลโล่วตามเผื่อว่าเซเลปนางนี้จะอัพอะไรโดนๆ อีก บางคนอัพเรื่องดราม่าโดนอันฟอลไปก็ไม่แปลก แต่อีพวกที่ปากบอกไม่ได้สำคัญตัวเอง ไม่ได้อยากให้คนมาฟอลโล่ว เชื่อเหอะร้อยทั้งร้อยแม่งนับจำนวนฟอลโลวเวอร์ทุกๆ หนึ่งชั่วโมง
คนกลุ่มนี้จะถูกพวกขี้อิจฉาหมั่นไส้เยอะ หรือไม่ก็พวกเซเลปด้วยกันนั่นแหละ ก็ไม่เข้าใจบางคนนะแบบก็ไม่ได้ชอบหนังหน้ามึงหรอกค่ะแต่กูคุยกับมึงไปงั้น เฟคใส่ทุกอย่างทำเหมือนตัวเองมีจุดยืน จะอัพจะด่าใครก็ได้กูไม่แคร์ด้วยอุดมการณ์ที่ว่า “นี่มันทวีตเตอร์แอคของกู กูจะบ่นจะทำอะไรก็ได้” อันนี้ไม่มีใครเถียง จะอัพจนติดลิมิตทั้งโคตรก็ว่ากันไป ที่กล่าวมานั่นกูก็เป็นนะแต่กูไม่ค่อยคุยกับคนที่ไม่ชอบอ่ะ เป็นคนตรงๆ ไม่ชอบเฟคเข้าหาคนที่เกลียด มันดูตอแหลเกินไป เป็นคนมีอีโก้สูงในเรื่องกากๆ แต่เชื่อว่าคงมีหลายคนคิดแบบนี้แต่ไม่กล้าพูดเพราะกลัวโดนเกลียด
8.กลุ่มคนพยายามอยากเป็นเซเลปทวีตเตอร์
อีคนพวกนี้ควรจับเข้าไปอยู่ในกลุ่มเดียวกับพวกอีพยายามเป็น Fanbiase สันดานเดียวกันอ่ะ ชอบเกาะเซเลป เกาะคนดัง ทำเหมือนสนิทกับเขามากทั้งที่จริงแล้วบางทีเขายังไม่รู้เลยว่ามึงเกิด เกาะไปเรื่อย ตามประจบสอพลอ อวดว่ารู้จักคนนั้นคนนี้ ซึ่งไม่รู้จะพยายามไปเพื่ออะไร
ทวีตเตอร์ถ้าพูดคนเดียวไม่เป็นนี่อยู่ยากนะ ถ้าเป็นเฟสบุ้คอัพอะไรไปยังมีคนมากดไลค์ คอมเมนท์บ้างอะไรบ้าง แต่ทวีตนี่ถ้าไม่มีคน RT ก็ไม่เป็นไร กูบ่นของกู
ทวีตเตอร์ทำให้เราใจเย็นขึ้น...บ่นด่าในทวีตได้สักพักก็หายไป ถ้าเทียบกับเมื่อก่อนแล้วอาจจะเหวี่ยงปาข้าวของทิ้งทุกสิ่งที่อยู่รอบข้าง บางคนรู้สึกผิดคิดว่าด่าแรงเกินไปก็ตามไปลบทวีตอันแรงๆ ทิ้งหลังจากนั้นก็จบ
วันนี้นึกได้แค่นี้อ่ะ มองนาฬิกาแล้วเพิ่งสำเหนียกได้ว่าควรไปนอนสักที
เห้ย มีคนดราม่ายังวะ 5555555555555555555
ขอบอกไว้เลยนะ ว่าถ้าใครอ่านบทความนี้แล้วดราม่า แสดงว่ามันเข้าตัวคุณแล้วล่ะ...
สวัสดี บ่ายสวัสดิ์ 06/06/55
ลงนาม - ขำจนปวดซีรีบรัม -
ความคิดเห็น