คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : [SF แก้บน] WonKyu - Love me Love my "Gaem" Special คนอวดผี ....
Last Special
ว่าด้วยสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์.. เวลาตายไปกลายเป็นผี.. แต่ไอ้อย่างหลังนี่มีคนเคยมาพูดกรอกหูผมเช้าเย็นเลยล่ะครับว่ามันมีอยู่จริง.. เหอะ.. พลังงานที่เรียกว่าผีที่ผมไม่เคยพบไม่เคยเห็นตั้งแต่เกิดมา 16 ปีเนี่ย.. ผมเองก็ชักอยากรู้เหมือนกันว่าผีมันมีจริงมั้ย?
.
.
“มึงว่าผีมีจริงมั้ยวะซีวอน” เป็นคำถามที่หลุดออกมาจากปากพี่ชายบังเกิดเกล้าของผมเองครับ..ระหว่างที่เราสามคนกำลังนั่งดูหนังผีกันอยู่ที่บ้านตอนตีสองผมหันไปมองหน้ามันก่อนจะคิ้วขมวด
“ไม่มีหรอก” คนถูกถามตอบหน้าตายพร้อมกับกระชับกอดผมแน่นขึ้นอีก..ตอนแรกแม่งก็สำออยว่ากลัวผีขอนั่งใกล้ๆผม แต่สุดท้ายดูเหมือนว่าแม่งจะหลอกแต๊ะอั๋งผมซะมากกว่านะ
“กูร้อนแล้วพี่วอน ถ้ามึงหนาวมากก็ไปกอดไอ้เหี้ยเป็ดไป” มือเรียวดันอกแกร่งที่สวมเสื้อกล้ามสีดำออกไป พอผมให้แตะเนื้อต้องตัวหน่อยทำเคยชินไงครับ..พักนี้มันจะทำอะไรไม่เคยจะขออ่ะมือไม้ถึงก่อนตลอด
“จากที่กูสังเกตนะ..ผีส่วนมากชอบมาในสภาพชุดขาว..ผมยาวๆปกหน้าปกตาเหมือนซาดาโกะ..กูอยากรู้จังเลยว่าตอนตายเนี่ยนรกเค้ามีคอสตูมให้แค่ชุดเดียวเองเหรอ..แล้วทำไมไม่รู้จักรวบผมบ้าง..ผมเผ้ายาวเกะกะแบบนี้คนที่โดนหลอกก็ไม่รู้สิว่าหน้าตาหล่อนสวยแค่ไหน” ไอ้เชี่ยเป็ดแม่งเริ่มแพร่มแล้วครับ ผมว่ามันเริ่มติดเชื้อเมียมันเข้าไปทุกทีแล้ว..ทำนองว่าคิดอะไรที่คนปกติเค้าไม่คิดกันน่ะ
“แล้วมึงจะให้ผีใส่บิกินนี่รวบผมทรงชุนหลีเหรอสัด”
“ใช่! กูอยากให้ผีทั้งโลกแต่งตัวโมเอ้ๆคนจะได้ไม่ต้องกลัวผีกันไง..ความคิดกูล้ำป่ะวะ?” หัวเราะลั่นหลังจากพูดจบ จากตอนแรกหนังผีมันก็น่ากลัวอยู่หรอกนะครับ แต่พอได้ยินเสียงหัวเราะแม่งแล้วก็กลายเป็นหนังตลกทันที
“ไร้สาระว่ะ ผีเผออะไรไม่มีหรอก” ผมพูดแล้วเดินขึ้นห้องมาปล่อยให้มันสองคนนั่งคุยเรื่องปัญหาโลกแตกที่หลายคนก็ยังหาคำตอบไม่ได้ ผี? มันมีอยู่จริงๆน่ะเหรอ?
ถึงผมจะชอบดูหนังผี ชอบเล่นเกมส์ผี.. แต่ใช่ว่าผมจะคิดว่ามันมีอยู่จริงนี่ครับ..ถ้ามีผมก็ต้องรู้สึกได้ สัมผัสได้บ้างสิ..ไอ้รายการคนอวดนมที่ฉายทุกวันพุธนั่นผมก็ดูเหมือนกัน ยิ่งช่วงล่าท้าผีนะ..แม่งดักควายสุดๆ ผีไม่ได้มีอยู่จริงหรอกครับอุปทานกันไปเองทั้งนั้น
.
.
ช่วงนี้เป็นช่วงที่ผมชอบมากที่สุดคือช่วงปิดเทอม นั่นมันทำให้ชีวิตผมโคตรฟรีจะนอนตอนไหนก็ได้ เล่นเกมส์ถึงตอนไหนก็ได้ไม่ต้องห่วงว่าจะต้องตื่นไปโรงเรียนตอนเช้า
ผมเดินลงไปข้างล่างหลังจากพึ่งตื่น..แหงนหน้ามองนาฬิกาบนผนังก็พบว่านี่เที่ยงกว่าแล้ว..พอเห็นนาฬิกาปุ๊บเท่านั้นแหละครับ..ท้องร้องทันที.. ว่าแล้วก็เดินไปที่ห้องครัวแต่ก็ต้องผงะเมื่อเห็นใครบางคนอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนสีชมพูกับเสื้อโปโลสีฟ้าอ่อน..
ฟ๊าคคคคคคคคคคคคคคคค
ไอ้เชี่ยพี่วอน...มึง...มึงหล่อมาก...
ปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้คยูฮยอนรู้สึกหน้าแดงลามไปถึงใบหูแล้ว..คุณลองคิดภาพตามนะครับ..ผู้ชายร่างสูงโปร่ง..เซทผมตั้งนิดๆ..เสื้อโปโลสีฟ้า..เดฟสีขาว..กับผ้ากันเปื้อนสีชมพูของแม่ผม..หนำซ้ำมันกำลังยืนชิมอาหารที่แม่ผมกำลังป้อนอยู่ด้วย...
โฮกกกกกกกกกกกกกก คยูต้องการยาโดมมมมมมมม
“อ้าวคนเล็ก ตื่นแล้วเหรอลูก” ผู้เป็นแม่หันมาหาลูกชายที่ยืนทำหน้าตื่นน้อยๆก่อนที่ร่างสูงจะหันมาหา.. ริมฝีปากหนายิ้มให้ก่อนจะเดินเข้ามาพร้อมกับช้อน
“ชิมดูสิ” มือแกร่งยื่นช้อนมาตรงหน้าผมพร้อมกับรอยยิ้ม.. ผมชำเลืองมองแม่ด้วยความสงสัย..มันไปตีสนิทกับแม่ผมตั้งแต่เมื่อไหร่?
“เดี๋ยวนะ” ว่าแล้วก็ก้มลงเป่าไล่ความร้อนออกจากน้ำซุปที่อยู่ในช้อนก่อนจะยื่นช้อนมาให้ผมอีกครั้ง.. แม่งเอาอีกแล้ว.. ทำแบบนี้กูก็เขินเป็นนะเว้ย.. T///////T
ผมชิมมันไปเพียงนิดเดียว..ดูเหมือนเจ้าตัวจะลุ้นมาก..สีหน้ามันดูจริงจังสุดๆ...หึ...อาหารมื้อนี้มึงคงไปเสนอหน้าขอทำเองสินะ..มึงคงเตรียมมาแบบบทพระเอกง่อยๆในซีรี่เกาหลีที่เกิดมาเพอเฟคทำกับข้าวไม่เป็นแล้วจู่ๆนึกอยากทำอาหารให้นางเอกกินดูบ้าง.. แต่มึงคิดผิดแล้วพี่วอน..กูจะไม่ชมมึง..ถึงที่กูชิมไปเมื่อกี้รสชาติมันจะอร่อยโคตรพ่อโคตรแม่ก็เถอะ
“มึงใช้มือหรือใช้ตีนทำเนี่ย?” คิ้วขมวดพร้อมกับแลบลิ้นแหยะออกมาทำเอาอีกคนหน้าเจื่อนผมมองไปยังหม้อซุปที่ส่งกลิ่นหอมเตะจมูกแม่งใช่หม้อนั้นป่ะว่ะ..กูเล็งไว้ล่ะ..ไอ้เชี่ยนี่หันหลังเมื่อไหร่เสร็จกูแน่
“อ่า..จริงเหรอ..”
“เออดิ” ผมจ้องหน้ามันที่หุบยิ้มลงในทันที..แกล้งมันเนี่ยสนุกจังเลยครับ..
“คนเล็ก..ที่พี่เค้าเอาให้ชิมน่ะอร่อยมั้ยลูก..วันนี้แม่ทำสุดฝีมือเลยนะ~” สิ้นสุดประโยคของแม่ทำเอาซีวอนกลั้นขำแทบไม่อยู่.. ส่วนผมน่ะเหรอครับ..
( ̄(エ) ̄)
หน้าแห้งครับ..
.
.
บนโต๊ะอาหารที่มีผมกับไอ้พี่วอนนั่งกินข้าวกันอยู่สองคน ผมยังคงอับอายเรื่องเมื่อกี้เกินกว่าจะกล้าเงยหน้าขึ้นไปสู้รบกับมัน..แม่งเสือกไม่บอกตั้งแต่แรกว่าไม่ได้เป็นคนทำ.. แหม๊.. ทำเป็นเท่ห์ถือทัพพีเดินไปเดินมาที่ไหนได้แม่งก็แค่ช่วยคนหม้อ -_ -
“อร่อยมั้ย?” สีหน้ามันตอนถามนั้นคงไม่ได้อยากรู้เรื่องรสชาติหรอกครับ อมยิ้ม ยักคิ้วแบบนี้ มันจงใจกวนตีนผมอยู่ชัดๆ
“แหงดิ ฝีมือแม่กู” ซีวอนหัวเราะกับคำตอบของอีกคน.. นึกอยากจะแกล้งเค้าแต่โดนเค้าแกล้งคืนซะได้.. ชีวิตกูจะชนะมึงสักเรื่องไหมครับไอ้พี่วอน
“แม่! พี่ทึกมันไปไหน!” ตะโกนเข้าไปในห้องครัวขณะที่ยังทำสงครามทางสายตากับร่างสูงอยู่ ปากก็เคี้ยวสตูเนื้อไปด้วย..ส่วนคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามเอามือเท้าคางแล้วยิ้มสู้
กวนตีนกูตลอด...
“ฟุตฟิตๆ.. กลิ่นอะไรเนี่ยหอมที่สุด~” แม่งตายยากอีกนินทาเป็นไม่ได้เชียว
“วันนี้มีซุปสาหร่ายกับสตูเนื้อนะ” ผู้เป็นแม่พูดพร้อมกับป้อนให้กับลูกชายที่เดินเข้าไปสวมกอดทางด้านหลังอย่างออดอ้อน.. โถ..เห็นแล้วกูอยากจะถีบให้หัวทิ่มลงหม้อสักที
“อร่อยที่สุดเลยครับแม่ แม่ผมทำอาหารเก่งยิ่งกว่าเชฟกระทะเหล็กซะอีก” แม่งตอแหลประจบสอพลอ..
ร่างโปร่งเดินมานั่งบนโต๊ะอาหารที่มีคนสองคนนั่งอยู่ก่อนแล้ว..มือแกร่งล้วงซองสีขาวออกมาจากกระเป๋าก่อนจะยื่นให้คยูฮยอนอ่าน
“อะไร ซองผ้าป่าเหรอวะ?”
“เออเปิดอ่าน” ยกมือปัดๆให้น้องชายหัวฝีหัวหนองเลิกลีลาแล้วเปิดอ่านสักที..มือเรียวฉีกซองขาวออกอย่างไม่ใยดีถ้าเกิดมีเงินอยู่ในนั้นคงขาดเป็นสองชิ้นไปแล้วแน่ๆ คยูฮยอนคิ้วขมวดก่อนจะหยิบแผ่นกระดาษสีขาวที่อยู่ข้างในซองออกมาอ่าน
“คุณได้รับเชิญไปออกรายการคนอวดผีในช่วงล่าท้าผี....”
คนอวดผี..
ล่าท้าผี...
“เราจะได้ออกทีวีกันแล้วนะเว้ยไอ้แห้ง!!” คงมีแต่มันที่ทำท่าทางระริกระรี้อยู่คนเดียว ส่วนผมยังคงงงอยู่ครับ..เดี๋ยวนะ..ไอ้ช่วงล่าท้าผีนี่มันช่วง...
ลองของใช่ป่ะครับ?..
“เขาเชิญมึงไม่ใช่เหรอ?” ซีวอนถามแล้วหยิบซองที่คยูฮยอนพึ่งฉีกออกมาดู
“ไม่หรอก..เราได้รับเชิญช่วงเทปพิเศษไง..เอาไว้ฉายวันหยุดนักขัตกฤษ์..โหยตื่นเต้นว่ะมึง..กูได้โควต้ามาตั้งหกคน..มึงคิดดูดีๆนะ..วันหยุดแบบนั้นจะต้องมีคนนอนอยู่บ้านดูทีวีเพื่อรอดูเราเลยนะเว้ยยยย~~~”
“แล้วมึงชวนใครไปบ้างเนี่ยตั้งหกคน”
“นี่ไงเราสามคนแล้ว..เดี๋ยวกูชวนอ้วนด้วยเป็นสี่..ส่วนอีกสองคน...ใครดีว่ะ” อีทึกทำหน้าคิดก่อนจะเหลือบมองไปยังน้องชายที่ขยำกระดาษสีขาวทิ้งแล้วหันมากินข้าวต่อ
“คยู..ชวนเพื่อนมึงไปด้วยดิ” นั่น..แม่งหาเรื่องแล้วไงครับ
“ทำไมต้องเป็นเพื่อนกู..มึงก็ไปชวนเพื่อนมึงดิ”
“เฮ้ยชวนเพื่อนมึงแหละ มึงจะไปมีเพื่อนไปด้วยไง”
“กูยังไม่ได้บอกสักคำว่าจะไปกับมึง”
“ถ้ามึงไม่ไปกูจะตัดเน็ตห้องมึง” แม่งเอาอีกแล้วครับ.. ชอบหาเรื่องมาขู่ผมตลอดอ่ะ
“ส้นตีนละ!”
“ไปไม่ไป”
“กู-ไม่-ไป”
.
.
ตัดภาพมาอีกที.. ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเข้าทางไอ้เชี่ยเป็ดทั้งหมด.. ผมอยู่ในกองถ่ายรายการคนอวดนมแล้วไอ้คู่รักเฮจ๋าอึนจ๋าแม่งมาได้ยังไงกันครับ??
“พี่ทึกชวนกูมาเองแหละ”
“มึงไปชวนมันได้ยังไงมิทราบ?”
“เบอร์น้องเค้าลอยเข้ามาในฝันกูเมื่อคืน..เกือบเอาไปซื้อหวยแล้วมั้ยล่ะ” อีทึกตอบหน้าตาย..วันนี้มันมาในชุดเต็มยศเหมือนคนจะไปเดินแบบที่ปารีสก็ไม่ปาน.. สำเหนียกดูบ้างเถอะว่าอากาศวันนี้มันร้อนอบอ้าวแค่ไหน ไอ้แจ็คเก็ตที่มันใส่อยู่ผมเห็นแล้วโคตรจะร้อนแทน
แล้วไอ้เหี้ยนี่อีกล่ะ.. ใส่เสื้อกล้ามสีขาวข้างในข้างนอกเป็นเสื้อเชิร์ตซีทรูสีขาวอีก มึงก็คงเตรียมมาเพื่อการนี้จริงๆสินะ.. ไอ้คู่รักคู่นั้นก็คงไม่ต้องไปห่วงการแต่งตัวของพวกมันหรอกครับ ทงเฮแม่งแต่งตัวอินดี้อยู่แล้ว..แต่ไอ้เหี้ยฮยอกแจเนี่ยสิใส่ชุดวอร์มสีแดง หมวกแก๊บสีแดงอีก.. ไม่รู้มันเป็นห่วงคนอื่นบ้างไหมว่าถ้าเจอมันตอนกลางคืนแล้วมันน่ากลัวสักแค่ไหน.. ส่วนผมเหรอครับไม่อยากพูดถึงเลยสภาพผมเหมือนเด็กเนิร์ดๆที่กำลังจะไปเรียนพิเศษทำนองนั้น..อะไรกันล่ะเนี่ย? เสื้อยืดกางเกงยีนส์สามส่วนรองเท้าหนีบ..โอย..หลอกกูมาได้ว่าจะพาไปดูคอน SS3 ที่ไหนได้แม่งพาผมมาลุยบ้านร้างย่านชานเมือง
.
.
“เอาล่ะครับวันนี้ผมดีเจชินดงจะมาเป็นเอ็มซีในเทปพิเศษในค่ำคืนนี้นะครับ.. อ่า..นี่คือผู้กล้าทั้งหกคนที่สมัครเข้ามาร่วมล่าท้าผีด้วยความสมัครใจ” เสียงเอ็มซีรายการพูดกับพวกเราทั้งหกคนที่ยืนอยู่หน้าบ้านร้างในเวลาเที่ยงคืน..อะไรนะ..ความสมัครใจงั้นเหรอ..ถามกูสักคำรึยังว่ากูอยากมาที่นี่ไหม
“บ้านหลังนี้มีตำนานว่าในคืนวันหนึ่งมีผู้หญิงถูกฆ่าข่มขืนอย่างโหดเหี้ยมและถูกอำพรางศพไว้ที่ห้องน้ำ..พอตกกลางคืนชาวบ้านที่อยู่ระแวกนี้จะได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้คร่ำครวญทุกคืน..ทุกคืน...”
ทำไมต้องเป็นห้องน้ำแล้วทำไมต้องเป็นตอนกลางคืนรู้ว่าดึกแล้วยังจะเสนอหน้าออกมาข้างนอกอีกเป็นผู้หญิงยิงเรือแท้ๆ เห็นมั้ยล่ะโดนฆ่าทิ้งเลย
“แต่บางคนก็บอกมาว่าจะพบเห็นเธอยืนอยู่ตรงหน้าต่างพร้อมกับฉีกยิ้มให้กับชาวบ้านที่เดินผ่านไปมาด้วย” ห่าไรล่ะ เมื่อกี้พึ่งบอกกูไปหยกๆว่าแม่งร้องไห้ ตอนนี้มาบอกว่ายิ้ม..อีผีตนนั้นคงเป็นผีสองบุคลิกสินะ
“กล้องพร้อม..ไมค์พร้อม..เอาล่ะครับคู่ไหนจะเป็นคู่แรกเอ่ย?”
“ด้วยความที่ผมเป็นพี่.. ผมจะเสียสละให้น้องก่อนครับ” อื้อหือ..ไอ้ห่าราก..มึงพูดได้เต็มปากเต็มคำมากนะ.. เรื่องอะไรกูต้องไปลุยก่อนมึง ถึงปากกูจะบอกว่าไม่กลัวผี แต่ถ้าให้กูไปบู๊ในความมืดแบบนั้นกูก็ไม่มอยเท่าไหร่นะ
“เฮจ๋า..เค้ากลัวจังเลย” พูดพร้อมกับกอดแขนคนรักไว้แน่น เห็นแบบนั้นแล้วผมบอกตรงๆว่าโคตรหมั่นไส้เลยครับ ผมทนมองไม่ไหวเลยยกเท้าขึ้นมาถีบก้นแม่งจนหน้าคะมำไปข้างหน้าจนทงเฮมันคว้าไว้แทบไม่ทัน
“อ่า~ น้องจะเป็นคู่แรกเหรอครับ” เอ็มซีหัวเราะพร้อมกับหันไปยิ้มให้กล้อง ฮยอกแจหันมามองคยูฮยอนด้วยสายตาคาดโทษ
“อึนจ๋าไม่ต้องกลัวนะ..ถ้าเกิดแม่งออกมาเค้าจะเอาคมแฝกฟาดหน้าเอาให้แม่งไม่กล้าไปผุดไปเกิดเลย” พูดพร้อมกับบีบจมูกคนรักอย่างเอ็นดู.. มึงช่วยสร้างบรรยากาศให้น่ากลัวบ้างเถอะกูสงสารเรตติ้งรายการเค้า.. รายการผีนะครับไม่ใช่วีก๊อตแมรี่
.
.
ไม่รู้ว่านานแค่ไหน.. ผมไม่ได้ดู VCR ของคู่รักเฮอึนเลยสักช็อต ผมขอสารภาพ ณ จุดนี้เลยว่าเริ่มขนลุกขนพองขึ้นมาบ้างแล้ว พอได้มาอยู่บรรยากาศจริงแบบนี้มันทำให้กราฟปอดแหกของผมพุ่งสูงจนน่าตกใจ เอาเถอะครับ..ยังไงผมก็จะไม่ดูคนอื่นก่อนเพราะนั่นมันบั่นทอนจิตใจผมมากในระหว่างที่รอคนอื่นทำภารกิจผมก็หยิบมือถือขึ้นมากดเล่นเกมส์แก้เซ็ง
.
.
“อ่า..คู่แรกผ่านไปแล้ว..น้องครับมายืนตรงนี้แล้วมองกล้องด้วยนะ” ร่างท้วมเดินไปหยุดข้างๆทงเฮกับฮยอกแจที่กลับมาในสภาพไม่เหมือนเดิม
เดี๋ยวนะครับ.. ไอ้เหี้ยทงเฮมันไปหยิบไม้หน้าสามมาจากไหน!!
เชี่ยเอ๊ย! มึงไปเจอเด็กช่างกลในบ้านร้างหลังนั้นรึไงสัด - -
“เมื่อกี้...พี่ได้ยินเสียงกระจกแตก..?” เอ็มซีจ่อไมค์ไปที่ปากของทงเฮที่เคี้ยวหมากฝรั่งอยู่..แม่งชิลล์สัดอ่ะครับ มึงไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวอะไรเลยสินะเพื่อน
“อ๋อครับ ผมเป็นคนทำมันแตกเองแหละ” พูดพร้อมกับกระชับไม้หน้าสามไว้ในมือ ริมฝีปากหนายิ้มกว้างอย่างภาคภูมิใจ
“กูว่ามึงคิดผิดแล้วล่ะที่ชวนไอ้เหี้ยล่ำมาด้วยเนี่ย” ผมกระซิบเชี่ยเป็ดที่มันยืนคิ้วขมวดมองดูสองคนนั้นถูกสัมภาษหลังจากผ่านภารกิจทั้งสามครบเรียบร้อยแล้ว
“น้องฮยอกแจเจออะไรเหรอครับ? วิญญาณรึเปล่า? เพราะดูจากกล้องแล้วพี่เห็นน้องหันหน้าหันหลังบ่อยมากเลย” เปลี่ยนไปถามฮยอกแจบ้าง เจ้าตัวยืนมองซ้ายมองขวาอย่างหวาดระแวงราวกับเจอเหตุการณ์เลวร้ายมาก่อนหน้านี้
“คะ..คือ”
“ก็แฟนผมบอกว่ามีเงาตะคุ่มๆอยู่ตรงกระจก..ผมก็เลยหวดแม่งเลยครับ” ตอบอย่างมั่นอกมั่นใจ โอยอีห่าปลวกมึงกลับบ้านไปดูดนมแม่เถอะนะทงเฮ - -
“ฮะฮะฮ่า..ดูเหมือนน้องจะขี้ตกใจอยู่เหมือนกันนะครับ..แต่ที่น้องฟาดไปนั่นคือกระจกที่ต้องใช้ในภารกิจที่สองนะ.. เฮ้ยจงฮยอนไปหากระจกบานใหม่มาด้วย - -+” ตีแตกแบบนี้แล้วคนอื่นจะใช้ต่อยังไงวะ - -
แต่ทั้งคู่หารู้ไม่ว่า..เงาที่เห็นนั่น...มันก็คือเงาพวกมึงเองนั่นแหละ...
.
.
“เอาล่ะครับ..มาถึงคู่ที่สองกันแล้ว..น้องอีทึกกับน้องฮีชอล...อืมสองคนนี้ท่าทางจะเตรียมตัวมาดีนะครับ”
“ครับ..ผมพร้อมตั้งแต่เกิด” ร่างโปร่งเสยผมขึ้นผิดกับอีกคนที่ยืนนิ่งพร้อมกับเสื้อตัวเก่ง.. อีเสื้อตัวนี้อีกแล้วเขียวชมพูเรืองแสงนี่.. ผมเห็นแล้วร้อนแทนจริงๆครับ
“น้องฮีชอลเงียบเชียว กลัวเหรอครับ.. ไม่ต้องกลัวนะหายใจเข้าลึกๆ”
“พี่ช่วยพูดดังกว่านี้นิดนึงได้ไหม?” ร่างบางเงี่ยหูเข้าไปใกล้ๆชินดงเมื่อรู้สึกว่าได้ยินเสียงไม่ชัด
“เอ่อ..พี่บอกให้ฮีชอลหายใจเข้าลึกๆ ไม่ต้องกลัวนะ” ชินดงเอาไมค์จ่อปากใกล้มากกว่าเดิมหากแต่ฮีชอลยังคงคิ้วขมวดอยู่.. ร่างบางเงยหน้าไปตรงชั้นสองแล้วก็รีบหลุบตาลง
“เสียงไมค์ก็ดังปกติดีนี่” ร่างท้วมเอามือเคาะไมค์เบาๆ อีทึกโอบใหล่ฮีชอลไว้ก่อนจะก้มหน้าลงไปถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง
“ผู้หญิงคนนั้นบอกว่าให้ออกไป...”
เอาแล้วไงครับ.. ผมที่นั่งเล่นเกมส์มือถืออยู่ก็ต้องหยุดชะงักในทันที.. อีมนุษย์ 4D นี่มึงยังไม่ได้ก้าวเท้าเข้าไปเหยียบพื้นหญ้าในบ้านหลังนั้นเลยนะครับ..มึงจะรีบเซนส์แรงไปไหน
“ไหนๆๆๆ ผู้หญิงคนไหน~~ *0*” อีทึกผละออกจากตัวฮีชอลในทันทีพร้อมกับชะเง้อหน้าออกหน้าออกตาขณะที่คนอื่นหันมามองหน้ากันด้วยความสงสัย..มึงแสดงความรักที่มีต่อเมียได้ดีมากครับสัดเป็ด
“ที่ผมไม่ได้ยินเสียงพี่ชิ้นเมื่อกี้...ก็เพราะว่าเธอเอาแต่ตะโกนไล่พวกเราอยู่ตลอด....”
โอ้ว – มาย – ก๊าด
แม่งคุณริว จิตสัมผัสมาเอง!!!
“เฮ้ยฮีชอล..ไหวป่าววะ?” ซีวอนลุกขึ้นไปบีบใหล่ร่างบางเบาๆเมื่อฮีชอลยังคงก้มหน้าก้มตาไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองใครอีก
“อ้วน! ผู้หญิงคนนั้นเธออยู่หน้าต่างบานไหน? แล้วสวยรึเปล่า??” ไอ้เหี้ยนี่ก็ไม่ได้ห่วงเมียแถมยังมองหาผีอีก...พี่กูเป็นเอามาก
“ท่านผู้ชมครับ!! ดูเหมือนว่าน้องฮีชอลของเราจะมีสัมผัสที่หกซะด้วย นี่ขนาดยังไม่เข้าไปด้านในยังสัมผัสได้ถึงขนาดนี้..บางทีถ้าเกิดว่าน้องฮีชอลร่วมทำภารกิจกับเราจนครบทั้งสามภารกิจเราอาจจะได้เห็นสิ่งลี้ลับด้วยก็เป็นได้...”
ร่างบางเม้มปากแน่นก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปจ้องหน้าต่างชั้นสองของบ้านเขม็ง..
“เออ! กูจะรีบเข้าไปเดี๋ยวนี้แหละมึงไม่ต้องตะโกนแล้วอีเวร!” ร่างบางชี้นิ้วไปยังชั้นสองแถมยังประกาศสงครามดังลั่น
กูจะบ้า.. มนุษย์ 4D แม่งสื่อสารกับผีได้ หนำซ้ำดูท่าจะเข้าไปบวกกับผีอีก.. คยูฮยอนกุมขมับครับ..
.
.
“อ่า..ช่างเป็นการทำภารกิจที่เข้มข้นจริงๆครับท่านผู้ชม..ทางนี้ครับน้องอีทึกน้องฮีชอล!” พูดกับกล้องก่อนจะหันไปโบกมือเรียกฮีชอลที่จูงมือไอ้เชี่ยเป็ดออกมา.. ส่วนไอ้เชี่ยเป็ดแม่งเอาแต่มองกลับไปที่บ้านหลังนั้นจนทำให้ผมสงสัย
“มึงหยุดมองได้แล้วนะสัดเหนียง” ฮีชอลตบกระบาลอีทึกดังป๊าปจนเจ้าตัวสะดุ้ง ร่างโปร่งหันกลับมามองหน้าคนรักหงอยๆก่อนจะหันมายิ้มให้กล้อง
“เอ่อ..ใจเย็นๆนะน้องนะ..อะแฮ่ม...เมื่อกี้ตอนภารกิจที่สามดูเหมือนว่าน้องสองคนคุยอะไรกันแปลกๆนะครับ..ช่วยเล่าให้พี่ฟังได้ไหม?”
.
.
“อ้วนนั่งก่อนเหอะ..อยู่ดีๆก็หายใจไม่ออกอ่ะ” อีทึกหยุดยืนอยู่กับที่พร้อมกับโบกมือพัดเอาลมเข้าหน้าตัวเองเบาๆ อากาศข้างในทั้งอับชื้น ทั้งมีกลิ่นเหม็นเหมือนซากศพอะไรบางอย่างอีก..อีทึกเริ่มไม่ไหวแล้วครับ...
“มึงลงมาเดี๋ยวนี้เลยนะ” อีทึกมองคนรักฉายแววตาสงสัย..ลง..ลงเหี้ยอะไร..
“ต้องลงไปข้างล่างเหรอ?”
“กูบอกให้ลงมาเดี๋ยวนี้” เอ่ยเสียงเย็นยิ่งกว่าเดิม.. เวรแล้วกูทำอะไรเผียด TAT
“อะไรนะ?.. มึงจะเข้าสิงกู?” พอมองเข้าในดวงตาของฮีชอลแล้วรู้สึกว่าคนที่ร่างบางกำลังคุยด้วยนั้นไม่ใช่ตนเองแต่อย่างใด..
ประเด็นคือสายตาฮีชอลมองเหนือศีรษะผมไปประมาณสองคืบ...
“ลงมาจากคอผัวกูได้แล้วอีผีขนุน!”
..คงไม่ต้องถามให้มากความอีกว่าฮีชอลคุยกับใครที่ไม่ใช่เขา บุคคลที่สามที่อีทึกมองไม่เห็นนั่นกำลังขี่คอร่างโปร่งอยู่พร้อมกับส่งสายตาอาฆาต
“อ้วนอ๊า T[]T”
.
.
“เรื่องมันก็เป็นอย่างนี้แหละ.. ดูเหมือนว่าเธอคนนั้นอยากจะได้สามีนะครับ..” ฮีชอลพูดจิกกัดพร้อมกับยืนกอดอกมองไปยังหน้าต่างชั้นสอง
“ช่างเป็นอะไรที่น่าขนลุกจริงๆ..น้องฮีชอลเจอแค่ตนเดียวเหรอครับ?”
“ถ้ามันมาเยอะกว่านั้นผมคงไม่ยืนคุยนานขนาดนี้หรอกครับพี่ชิ้น” ฮีชอลไม่ได้ห้าวหาญขนาดไปสู่รบกับผีขนาดนั้นนะ
.
.
“ครับผม..คู่ที่สองได้จบไปแล้ว..ต่อไปเป็นคู่สุดท้ายที่น่าจับตามองที่สุดเพราะแขกรับเชิญทางบ้านของเราหล่อยิ่งกว่ามาริโอ้เมาเรอร์เสียอีก..เชิญครับน้องซีวอนน้องคยูฮยอน~”
กล้องแพลนไปยังร่างโปร่งที่ยังคงง่วนกับเกมส์ในมือถืออยู่อย่างนั้นจนร่างสูงเดินไปจับข้อมืออีกคนให้ลุกขึ้นยืน
“สงสัยน้องจะเบื่อนะครับ ฮะๆๆๆๆ” พี่ชิ้นหัวเราะ
ซีวอนยิ้มให้กับเอ็มซีขณะที่ยังกุมมือผมไว้แน่น.. ไม่รู้ว่าผมหรือมันที่กลัวเพราะสังเกตุได้จากเหงื่อที่เริ่มออกมาตามมือที่ประสานกันอยู่ ผมเงยหน้าขึ้นไปมองซีวอนก่อนจะหันไปมองกล้องด้วยความตื่นเต้น
จะได้ออกทีวีครั้งแรก.... แบบไม่ได้ตั้งใจซะด้วย...
“ถามก่อนเลย..กลัวมั้ยครับ?” ถามเหี้ยอะไรของมึงครับพี่ชิ้น ถ้ากูตอบว่ากลัวมึงจะส่งกูกลับบ้านตอนนี้มั้ยละครับ
“ถ้าตอบว่าไม่กลัวก็คงโกหก.. แต่ผมจะทำภารกิจให้จบนะครับ” ซีวอนพูดเหมือน ส.ส.ที่กำลังเปิดอภิปราย..ส่วนผมเหรอครับ..ยืนเป็นแบล็คกราวน์ให้มันไปสิไมค์อ่ะไม่เคยคิดจะยื่นมาหาผมหรอก
“เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา..เราจะให้คู่สุดท้ายเข้าไปร่วมพิสูจน์ล่าท้าผีกันในตอนนี้เลยนะครับ...”
.
.
แกร่บ...แกร่บ..
เสียงฝีเท้าเหยียบลงบนพื้นที่เต็มไปด้วยเศษแก้วแตก..บรรยากาศเงียบสงัดมีเพียงแค่เสียงฝีเท้ากับเสียงลมหายใจเท่านั้น..
“เอาละครับภารกิจที่หนึ่งคือ..ทำพิธีกรรมเปิดตาเห็นผี..ให้ทั้งสองคนเดินเข้าไปตรงหน้าบันไดแล้วจุดธูปคนละหนึ่งดอกเป็นการเรียกวิญญาณครับ” พอฟังจบแล้วผมก็คิ้วขมวดเมื่อหันไปมองคนข้างๆที่กำลังทำท่าเก้ๆกังๆอยู่
“มึงเป็นเหี้ยอะไรพี่วอน”
“พี่..ไม่เคยจุดธูป”
“เอ้า!”
“ปกติก็เคยถือแต่ใบเบิ้ลสวดภาวนานี่” ร่างสูงหันมาทำหน้าเรียกร้องความสงสารจากคนรักที่กำลังทำหน้าไม่พอใจอยู่
“มันจะไปยากอะไรวะ มึงดูนี่นะ” พูดพร้อมกับหยิบไฟแช็คขึ้นมาจุดกับธูป ซีวอนพยักหน้าเข้าใจก่อนจะทำตาม
“โอยกูอยากบ้า..ทีเรื่องอื่นนะเชี่ยวจังนะมึง”
“โอเคครับน้องๆ หลังจากนั้นเดินไปข้างๆนะครับ..เห็นกระจกบานใหญ่กับถาดผลไม้มั้ย”
“เห็นครับพี่”
“หยิบแอปเปิ้ลขึ้นมาหนึ่งลูกแล้วก็ปอกเปลือกออก.. อย่าให้เปลือกขาดนะครับ”
ผมหันไปมองหน้าไอ้พี่วอนก่อนจะผายมือให้มัน..มึงปอกเลยครับ.. ร่างสูงส่ายหน้ารัวๆก่อนจะยกมือขึ้นปราม
“พี่ปอกไม่เป็น”
“อะไรของมึงเนี่ย กูถามนิด..มึงทำส้นตีนอะไรเป็นบ้างนอกจากเรื่องอย่างว่าน่ะ!”
“น้องๆครับ...” พี่ชิ้นเริ่มปรามเมื่อผมสองคนออกนอกลู่นอกทางกันมากเกินไปแล้ว.. ก็ได้วะ..ผมปอกเองก็ได้..แม่งจะไปยากอะไร..กูอยากรู้นักว่ามันจะมีจริงรึเปล่าผีเนี่ย
ผมก้มหน้าก้มตาปอกเปลือกแอปเปิ้ลอย่างตั้งใจก่อนจะหยุดชะงักเมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่มันเย็นวูบตรงท้ายทอย...
เย็นแปลกๆ...
“พะ..พี่ชิ้นครับ.. ผมรู้สึกเหมือนมีลมเย็นๆกระทบตรงท้ายทอยผม..” ร่างโปร่งกลืนน้ำลายอย่างลำบากเมื่อจู่ๆก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างจนน่าขนลุก..แอปเปิ้ลที่ยังคงอยู่ในมือเริ่มสั่นเทิ้มไปด้วยความกลัว.. ห่าเอ๊ย.. กูไม่ลบหลู่แล้วก็ได้
"ตรงไหนน้องคยู รู้สึกตรงไหน?"
"ทะ..ท้ายทอยครับพี่.." ตอบกลับไปพร้อมกับรวมรวมความกล้าพลางหลับตาลงสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะตัดสินใจหันหลังกลับไปช้าๆ..เอาวะงานนี้เป็นไงเป็นกัน
พอหันมาเปลือกตาบางก็ค่อยๆลืมขึ้นอย่างช้าๆ..เสียงหัวใจเต้นแรงตุบตุบจนแทบทะลักออกมาข้างนอก..ภาพข้างหน้าเริ่มชัดขึ้นเรื่อยพร้อมกับกระแสลมเบาๆที่กระทบกับใบหน้ามนพร้อมกับร่างสูงที่นั่งจ่อพัดลมมือถืออยู่ตรงหน้าเขาแล้วเสยผมคลายความร้อน…………..
"ที่นี่โคตรร้อนเลยที่รักว่ามั้ย?" พูดพลางเอาพัดลมจ่อหน้าตัวเองบ้าง..
ควาย.. ที่กูรู้สึกเย็นๆเมื่อกี้นี่ฝีมือมึงเองสินะ..กูก็กลัวจนขี้หดตดหายไปแล้วมึงรู้บ้างไหม..มึงนะมึงไอ้พี่วอน
“โอเคครับน้องคยู..สรุปคือไม่มีอะไรนะ?”
“ไม่มีไรพี่ - -”
“งั้นเอาแอปเปิ้ลที่ปอกเสร็จแล้วมาแบ่งเป็นสามส่วน..ส่วนนึงให้กับผู้ตาย..แล้วสองชิ้นที่เหลือเอามาแบ่งกันนะครับ” พี่ชิ้นพูดทำให้ผมกับพี่วอนหันไปมองหน้ากันโดยอัตโนมัติ
ต้องกินพร้อมกับผีงั้นเหรอ..
มือเรียวหยิบแอปเปิ้ลที่พึ่งหั่นไปเมื่อครู่ขึ้นมาก่อนจะค่อยๆละเลียดคำเล็กๆ..ถามว่ากลัวมั้ย..ก็กลัวนะครับ..ความรู้สึกเหมือนกับว่าเรากำลังไปแย่งของกินเค้าอะไรทำนองนั้นเลย..ส่วนไอ้พี่วอนมันเริ่มทำหน้าแหยๆ พอผมเห็นแล้วก็อดเป็นห่วงไม่ได้
“รสชาติเป็นยังไงบ้างครับ? มันจืดรึเปล่า?” เสียงพี่ชิ้นยังคงดำเนินภารกิจอย่างต่อเนื่อง
“พี่วอน..เป็นไรวะ?” ผมจับบ่ามันพร้อมกับจ้องหน้า..มึงสัมผัสได้ใช่มั้ย? มึงรู้สึกอะไรใช่มั้ย?
จู่ๆพี่วอนแม่งก็คายแอปเปิ้ลออกมาจนหมด!! นั่นทำให้ผมตกใจมาก!! เยี่ยแล้วไงล่ะ!! พี่วอนโดนของแล้วแน่ๆ!! TTT[]TTT
“น้องซีวอนครับ!! เป็นอะไรรึเปล่า?” เสียงพี่ชิ้นดูกระวนกระวายไม่ต่างจากผมในตอนนี้เลย ผมลูบหลังพี่วอนพร้อมกับมองไปรอบๆตัว.. หรือว่ามันจะโดนผีเล่นของใส่เข้าซะแล้ว..
“แค่กๆ!!”
“พี่วอน! มึงเห็นอะไรใช่ไหม!”
“คะ...”
คะอะไรของมึง?
“เอ็ม...”
เอ็มเหี้ยอะไร ผู้หญิงที่ตายไปชื่อเอ็มเหรอ?!
“เค็มสัด...........”
( ̄(エ) ̄)
พอได้ยินชัดเต็มสองหูคยูฮยอนก็ปล่อยมือออกจากซีวอนทันที ร่างโปร่งยกมือตัวเองขึ้นดมๆก่อนจะเช็ดเสื้ออีกคนแรงๆ อะไรกันวะ..ก็เมื่อกี้เหงื่อมันออก..แอปเปิ้ลเลยเค็มไปบ้าง..
“ภารกิจแรกเสร็จสิ้นแล้ว..น้องซีวอนกับน้องคยูเดินขึ้นบันไดไปเพื่อทำภารกิจที่สองต่อได้เลยครับ”
ระหว่างเดินขึ้นบันไดไปผมมองไอ้พี่วอนด้วยหางตาตลอด..วันนี้เยอะนะมึงอ่ะ..กวนตีนกูโดยไม่รู้ตัวเยอะนะ
“เป็นอะไรไปคนดีของพี่”
“เงียบปากไปเลยมึงอ่ะ”
“ทำไมเล่า.. นานๆจะได้อยู่สองต่อสองแบบนี้ทั้งทีนะ”
“มึงแน่ใจเหรอว่าสองต่อสอง.......” พูดจบก็มองไปยังห้องโถงกว้างที่มีเศษใบไม้ปลิวไปตามกระแสลมชวนน่าขนลุก.. คยูฮยอนลูบแขนตัวเองเบาๆเมื่อจู่ๆก็รู้สึกขนลุกทั้งที่อากาศก็ร้อน
“ภารกิจที่สองคือ..เหยาะน้ำตาเทียนลงบนขันน้ำแล้วจะเห็นใบหน้าของผู้ตาย...ทั้งคู่เดินไปที่ขันเงินนะครับ..ตรงนั้นจะมีไฟแช็คกับเทียนอยู่สองเล่ม..จุดเทียนหลับตาแล้วสวดมนต์นะอย่าลืมเหยาะเทียนลงในน้ำตอนกำลังสวดด้วยล่ะ” ผมกับพี่วอนเดินไปนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าขันเงินและทำตามที่พี่ชิ้นบอก
“เฮ้ยไอ้พี่วอน..คือจะสวดยังไงวะ..พอดีว่ากูนับถือคริสต์” ผมหันไปถามคนข้างๆที่ทำหน้าโง่ไม่ต่างกันเลย
“นั่นคือประเด็น..นี่ไงบทสวด..” ไอ้พี่วอนพูดก่อนจะหันไปเห็นกระดาษสีขาวที่วางอยู่บนพื้นใกล้ขาเขาก่อนจะเอาไฟฉายส่องลงไป
“ถ้าจะลายมือแบบนี้วันหลังก็เอาตีนเขียนเถอะ” ว่าแล้วก็เริ่มสวดตามบทสวดที่เขียนไว้บนกระดาษสีขาว.. จู่ๆลมก็พัดแรงขึ้นจนน่าขนลุก.. แถมมีดรายไอซ์แถวๆรอบตัวผมอีก..นี่มันรายการซ่อนกล้องรึเปล่าว่ะครับ - -
.
.
“ถึงพี่จะไม่เชื่อเรื่องผี.. แต่พี่เคยได้ยินมานะ..ว่าผีน่ะ..อยู่ห่างจากตัวเราประมาณหนึ่งช่วงแขน” ร่างสูงกระซิบเบาๆขณะที่ผมกำลังหลับตาสวดมนต์อยู่..มึงจะมาบิ๊วกูทำไม แค่บรรยากาศรอบตัวในตอนนี้ก็ทำกูเสียวสันหลังวาบแล้วนะ
“ลืมตาขึ้นมาดับเทียน..แล้วมองลงไปในขันน้ำนะครับน้องคยู” ผมลืมตาตามที่พี่ชิ้นบอกแล้วก้มลงมองลงไปในขันเงินก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นหน้าใครบางคนอยู่ในนั้น
“ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!” ร่างโปร่งทิ้งขันเงินใบใหญ่จนน้ำกระจายเต็มพื้นไปหมด คยูฮยอนคลานออกมาจากตรงนั้นแล้วไปหยุดอยู่ที่มุมห้องด้วยความหวาดกลัว
“ที่รักเป็นอะไรน่ะ?” เป็นคำถามของซีวอนที่กำลังยืนในท่าโก้งโค้งในจุดที่คยูฮยอนนั่งสวดมนต์อยู่เมื่อครู่.. งั้นไอ้ใบหน้าคนเมื่อกี้ที่เห็นในขันน้ำนั่นก็คือไอ้เหี้ยพี่วอนอ่ะดิ..
สัดเอ้ย..สองรอบแล้วนะมึงวันนี้..แม่งแกล้งกูอยู่ได้..กลับบ้านไปกูจะไม่ให้แม่งเข้าห้องเลยสัด
.
.
“ต่อไปเป็นภารกิจสุดท้ายแล้วนะครับ..ทั้งคู่อย่าทำเป็นเล่นไปนะ..ภารกิจนี้คือเล่นผีถ้วยแก้วเพื่อสอบถามข้อมูลของผู้ตาย”
ร่างสูงเดินจูงมือคนรักไปยังจุดทำภารกิจอย่างไม่รีบร้อน..มึงใจเย็นจังเลยนะครับ..ใช่สิ..เอาแต่แกล้งกูตั้งแต่ภารกิจแรกแล้ว..ตอนนี้ผมชักไม่แน่ใจแล้วล่ะครับว่าคนที่อยากให้ผมมารายการนี้ตั้งแต่แรกเป็นไอ้สัดเป็ดหรือไอ้เชี่ยพี่วอนกันแน่
“พอไปถึงแล้วจุดธูปคนละหนึ่งดอกแล้วปักไว้ตรงกองดินข้างๆนั่นน่ะเห็นรึเปล่าครับ” ร่างสูงจุดธูปตามที่พี่ชิ้นบอกก่อนจะหันหลังกลับไปมองรอบๆจนผมเองประหลาดใจ
“กะ..กลิ่นอะไรแปลกๆ..”
“น้องซีวอนได้กลิ่นอะไรเหรอครับ?”
“กลิ่นเหมือนอะไรตายอ่ะครับพี่” เอาแล้วสัด..แม่งต้องแกล้งกูอีกแน่ๆ
“สงสัยผู้ตายจะวนเวียนอยู่แถวๆนั้น.. ทั้งคู่เอานิ้วชี้วางไว้ตรงก้นแก้วแล้วเริ่มสวดมนต์ได้เลยครับ”
.
.
“หลังจากสวดมนต์เสร็จแล้วพี่ขอเตือนน้องไว้ก่อนนะว่าอย่าใช้นิ้วดันแก้ว..อ่า...ถ้าเข้าใจแล้วก็เริ่มถามได้เลยครับ” พอพี่ชิ้นพูดจบผมก็เงยหน้ามองไอ้พี่วอนทันทีครับ..จะถามหอกอะไรดีล่ะ
“ที่รักถามสิ” อ้าวอิเหี้ย โยนขี้ให้กูอีก
“กูไม่รู้จะถามอะไร”
“ถามอะไรก็ได้ พี่ไม่รู้จะถามอะไรเหมือนกัน”
“มึงแน่ใจนะว่าจะให้กูถาม?”
ร่างสูงพยักหน้าก่อนที่ผมจะหันไปมองรอบข้างๆ ยังไงซะที่ผ่านมาทั้งสองภารกิจกูก็ยังไม่เจออะไรจะๆสักที..กวนตีนคนมาก็เยอะแล้ววันนี้ขอลองกวนตีนผีบ้างแล้วกัน
“เล่นดอทเอเป็นไหมครับ? ถ้าเล่นเป็นให้ไปที่ ใช่.. ถ้าไม่เป็นให้ไปที่ ไม่ใช่”
เป็นคำถามที่ทำให้ซีวอนและคนทั้งกองถ่ายอึ้งในทันทีมีเพียงแค่อีทึกที่หัวเราะลั่นกองถ่ายจนเสียงหัวเราะลอดเข้ามาในบ้านร้าง ถือว่ากล้ามากที่คำถามที่ใม่เคยมีแขกรับเชิญคนไหนกล้าถามเลยตั้งแต่เปิดรายการมา..
“ไม่ใช่”
“เธอเล่นดอทเอไม่เป็นล่ะที่รัก” กูรู้แล้วมึงไม่ต้องย้ำ
ต่อไปถามอะไรดีวะ..
“ผมกับไอ้เหี้ยนี่ใครหล่อกว่ากัน..ถ้าผมหล่อกว่าให้ไปตรงก.ไก่..ถ้ามันหล่อกว่าให้ไปที่...ค.ควายยยยย” ผมเน้นคำสุดท้ายใส่หน้ามัน.. แลดูเหมือนรายการนี้มันจะไม่ใช่รายการผีซะแล้วล่ะครับ..
“ค.ควาย”
ซีวอนหัวเราะลั่นจนนิ้วที่แตะอยู่ก้นแก้วเกือบหลุดออกมา..ไอ้สัด...มึงโกงกูใช่ไหม
“มึงดันแก้วใช่ไหม..สารภาพมานะ” ผมมองหน้ามันอย่างเอาเรื่อง ดูเหมือนคนที่อยู่กองถ่ายเริ่มจะเอือมผมอยู่เต็มที จากตอนแรกยังมีเสียงพี่ชิ้นบรรยายภาพตอนนี้เสียงได้หายไปแล้ว
“ต”
แก้วใสจู่ๆก็เลื่อนไปหยุดตรงอักษร ต.เต่า.. ผมกับไอ้พี่วอนมองหน้ากันแล้ว..ผมไม่ได้ดัน..มันไม่ได้ดัน..แล้วใครจะดันว่ะ..
“ตี”
แก้วเลื่อนไปหยุดอยู่ที่สระอีนั้นทำให้ผมพยายามตีความหมายว่าวิญญาณในถ้วยนี้ต้องการจะสื่ออะไร
“มึงไม่ได้ดันแน่นะพี่วอน?”
“ไม่ได้ดันจริงๆ” ร่างสูงส่ายหน้าปฏิเสธ.. แล้วอะไรกันล่ะ.. ที่ว่า “ตี”
โดนตีมางั้นเหรอ? หรือเธอชื่อตี!
“ตีน”
( ̄(エ) ̄)
ผมค่อยๆก้มลงไปใต้เก้าอี้อย่างช้าๆพลางส่งสายตาบอกให้คนนั่งฝั่งตรงข้ามก้มลงมามองด้วยกัน.. ทันใดนั้นเองสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น.. ใต้เก้าอี้มีผู้หญิงคนนึงใส่ชุดสีขาวนั่งกอดเข่าผมยาวตกพื้นปิดหน้าปิดตาอยู่.. นั่นทำให้ผมเบิกตากว้างยิ่งกว่าเดิม...
ฮือ.....ชัดแล้วล่ะ......
“ที่รักเป็นอะไร?”
มึงไม่เห็นเหมือนกูเหรอไง TT-TT
“น้องคยูเป็นอะไรไปครับ??” เสียงพี่ชิ้นถามขึ้นขณะที่กำลังตั้งวงโซ้ยมาม่ารอบดึกกับพวกอีทึกอยู่
“ฮืออออ...ไม่เอาแล้ว....” เคยเป็นรึเปล่าครับ.. เวลาที่กลัวอะไรมากๆ..ต่อให้อยากวิ่งหนีสักแค่ไหนมันก็วิ่งไม่ออกหรอก...
เหมือนกับผมในตอนนี้ไง
“ซีวอนครับสวดมนต์แล้วเอานิ้วน้องคยูออกจากแก้วได้เลยครับ”
กูไม่ไหวร๊าววว..ผู้หญิงที่นั่งอยู่ใต้เก้าอี้แม่งค่อยๆหันหน้าเข้ามาหาผมพร้อมกับเสยผมที่ปิดบังใบหน้าเอาไว้.. หันมาหากูทำม๊ายยยย ทำไมไม่หันไปหาไอ้เหี้ยพี่วอนโน่น...แม่งหล่อกว่ากูไม่ใช่เหรอ…..
“สุด.........หล่อ..สอน......เล่น........ดอทเอ..............หน่อยสิจ๊ะ.....”
เสียงแม่งไม่ได้น่ารักเหมือนไอยูเลยแม้แต่น้อย..ผมเงยหน้าขึ้นมองไอ้พี่วอนที่เดินมานั่งยองๆลงข้างๆผม ส่วนผมก็ขึ้นหลังพี่วอนอย่างรู้งาน.. กูพึ่งเห็นมึงน่ารักก็วันนี้ล่ะครับพี่วอน..มึงคงรู้ว่าจุดนี้กูไม่สามารถก้าวขาออกไปไหนได้แล้ว..
“ดอท..............เอ”
ดอทกับพ่อมึง! เสียงยังคงตามไล่หลังมาเรื่อยๆผมยกมือขึ้นปิดหูตัวเองพร้อมกับหลับตาลง.. กูไม่เอาแล้วมึงไปนั่งเล่นร้านเกมส์ในนรกนู่นป๊ายยยยย
.
.
ตัดภาพมาอีกทีผมอยู่ในสภาพผ้าห่มคลุมโปงอยู่หน้ากล้อง..ไมค์ของพี่ชิ้นถูกจ่อไว้ที่ปากผมทั้งที่ก่อนหน้านี้แม่งไม่เคยมีอ่ะครับ
“เจออะไรในนั้นเหรอครับน้องคยู” ยังต้องให้กูบรรยายหน้าเธอคนนั้นอีกเหรอ... TT
“ผู้หญิง..”
“ผู้หญิงผมยาวใส่ชุดสีขาวปากสีแดง..” เป็นเสียงอิมนุษย์ 4D ที่ตอบแทนผม.. นั่นไง..แม่งเห็นเหมือนผมเด๊ะเลย
“จริงเหรอครับน้องคยู?” พี่ชิ้นถามซ้ำอีกครั้ง.. ส่วนผมได้แค่พยักหน้ากลับไปเบาๆ
“แล้วน้องซีวอนไม่เห็นอะไรเลยเหรอ?” ยื่นไมค์ไปถามคนที่นั่งโอบใหล่ผมอยู่ด้วยความเป็นห่วง.. ร่างสูงหัวเราะเบาๆก่อนจะหันไปมองกล้อง
“ผมไม่เห็นอะไรเลยครับ..แค่คุณเชื่อในพระเจ้า..ท่านก็พร้อมที่จะอ้าแขนต้อนรับคุณและกำจัดผีปีศาจไปให้พ้นแล้วล่ะ” คำพูดของซีวอนทำเอาคนในกองถ่ายปรบมือให้..ถ้าเกิดมีซาวน์ประกอบคงจะมีเสียง “ฮาเลลูย่า” ขึ้นมาหลังจากมันพูดจบก็ได้..
คำพูดของมันเหมือนจะคมแต่จริงๆแล้วไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักอย่าง กูก็เชื่อในพระเจ้าเหมือนกันแล้วทำไมผีมันถึงเลือกหลอกกูล่ะ T-T
“น้องคยูครับอยากเล่นดอทเอกับเธอคนนั้นมั้ย?” ผมสะดุ้งกับคำถามนั้นและท่าทางของผมทำให้คนทั้งกองถ่ายหัวเราะ.. พวกมึงตลกเหี้ยอะไรกันครับ.. คนเจอผีแล้วมึงขำกันเหรอไง
“ไม่บอกกูว่ะเพื่อน..กูจะเอาไม้หน้าสามฟาดหน้าแม่งให้ขาดครึ่งเป็นแตงโมให้ดู!” เสียงของทงเฮเอ่ยขึ้นจากทางด้านหลังผม.. ไม่เจอเหมือนกูแล้วอย่ามาทำเก่งเลยดีกว่า
มือหนาของไอ้พี่วอนยังคงโอบใหล่ผมไว้เหมือนเดิม.. และนั่นมันทำให้ความกลัวหายไปบ้าง ถ้าเกิดเมื่อกี้ผมไม่ได้อยู่กับมันผมจะเป็นยังไงนะ? ผมอาจจะได้ลงไปเล่นดอทเอในนรกกับเธอคนนั้นก็ได้
เรื่องที่เราไม่สามารถพิสูทธิ์ได้ยังไงก็ไม่ควรไปหลบหลู่..
ต่อให้คุณจะไม่เห็นมัน..แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีอยู่จริงนี่....
จริงมั้ยละครับ? (กระตุกยิ้ม)
talk with writer
แต่งออกมาได้ไง - - สงสัยกับตัวเองมาก
เหตุเกิดมาจากวันนั้นนั่งดูคนอวดผีแล้วคิดว่า.. ถ้าเกิดอิเกียมมันไปออกรายการบ้านมันจะเป็นยังไง
ไม่มีพล๊อตอีกเหมือนเดิม นึกอยากเกรียนก็เกรียน
ขอบคุณทุกๆคนอีกเช่นเดิม นี่คือสเปท้ายเล่ม Love me Love my Gaem
ส่วนต่อจากนี้ก็รอเจอกันได้ในเรื่องต่อไป....
สเปน้องเกียมจบแล้วโว๊ยยยยยยยยยยยยย (แหกปากลั่น)
(ทิ้งตัวลงนอน หลังจากไม่ได้นอนมาทั้งเรื่อง) credit : นูน่า (แล้วกูก็จะได้อ่านสักที)
โฮย... เพลีย
ความคิดเห็น