ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Let's get off, Wedlock's Darling! - TeukCin,HaeEun,WonKyu

    ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 13 : ความลับไม่มีในโลก.. ft.WonKyu

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.61K
      10
      26 เม.ย. 54

     

     


     

    ความลับไม่มีในโลก..

    ผมเองก็พึ่งรู้วันนี้นี่แหละ...

     

     

     

     

    .

    .

    .

     

     

     

    จวนจะถึงเวลาเข้าพิธีอยู่แล้ว.. หากแต่คนสี่คนกำลังนั่งทำหน้าตึงเครียดอยู่.. ร่างสูงโปร่งนั่งมองหญิงสาวสองคนละอีกคนที่เขาเรียกว่าคุณว่าเจ้าสาวด้วยอารมณ์โกรธสุดๆ

     

     

     

    “…”

     

    มีอะไรจะแก้ตัวไหม?อีทึกถามพร้อมกับมองไปยังว่าที่เจ้าสาว(?)ที่กำลังนั่งก้มหน้าก้มตาสำนึกผิดไม่ได้ต่างไปจากคิมแทยอนที่นั่งอยู่ข้างๆเลย

    คุณอีทึกคะ.. อย่าโกรธยัยแทงกูเลยนะคะ... ที่สองคนนี้ทำไปต่างก็มีเหตุผลทั้งนั้น เป็นควอนยูริเองที่เอ่ยปากแก้ตัวกับอีทึก แต่ดูเหมือนความพยายามนั้นจะสูญเปล่าเมื่อคนตรงหน้ากลับแสดงท่าทีโกรธยิ่งกว่าเดิม

     

     

    เหตุผล?

     

    อะ..อื้อ.. ก็... ก็.. แทแทไม่อยากแต่งงาน...ฮึกหญิงสาวตัวเล็กเริ่มใช้สุดยอดท่าไม้ตาย... วิชาบีบน้ำตาคร่าชีวี.. แต่ยิ่งได้ยินคำว่าแทแทจากปากคนตัวเล็กแล้วยิ่งทำให้เขาโกรธคิมฮีชอลยิ่งขึ้นไปอีก

     

    แทแท...งั้นเหรอ? หึ.. อีทึกว่าพลางกวาดสายตาไปทางร่างบางที่นั่งทำหน้าสำนึกผิดอยู่

     

    พี่ทึกช่วยแทแทด้วยนะคะ พี่เองก็ไม่อยากแต่งงานกับแทแทไม่ใช่เหรอ..หญิงสาวตัวเล็กว่าพร้อมกับเดินมานั่งข้างๆพร้อมกับเขย่าแขน.. นี่ต่างหากคิมแทยอนตัวจริงที่เขารู้จักเมื่อสิบห้าปีที่แล้ว

     

     

    ทำไมฉันต้องช่วยเธอด้วย ร่างสูงถามอย่างไร้เยื่อใย

     

    อึ่ก.. ใจร้าย.. ฮือ..

     

    คุณอีทึกคะ.. ช่วยยัยแทงกูด้วยเถอะ.. นะคะ ควอนยูริพูดพร้อมกับส่งสายตาอ้อนวอน

     

     

     

    ฉันจะยกเลิกงานแต่งงาน

     

     

     

    สิ้นสุดประโยคทำเอาทั้งสามคนเบิกตากว้าง.. ไม่นะ!!!  คิมฮีชอลนั่งระลึกชาติไปตอนที่ยัยตุ๊กตาบลายธ์พูดถึงตอนความแตกแล้วก็อดสยองไม่ได้... เขาต้องตายเหมือนหมาข้างถนนแน่ๆ..

     

    ฮะ..เฮ้ย...

     

    แต่งแล้วค่อยหย่าก็ได้นี่คะ.. เราต่างก็ได้ผลประโยชน์กันทั้งคู่.. พี่จะได้ไม่ต้องผิดคำสัญญากับพ่อแม่.. ส่วนแทแทก็ไม่ต้องแต่งงาน.. ไม่ดีเหรอคะ

     

     

    คำพูดของคิมแทยอนทำให้อีทึกชั่งใจอยู่ไม่น้อย.. แต่มันก็ยังอดโมโหไม่ได้อยู่ดี.. พอมานั่งคิดๆดูแล้วก็น่าแปลกใจอยู่หรอก..ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันยัยเจ้าสาวตัวปลอมของเขาก็ทำท่าไม่เหมือนลูกคุณหนูแม้แต่น้อย.. ไหนจะคำพูดคำจาคะขาที่เคยพูดกับเขาอีกล่ะ.. โถ่.. ปาร์คจองซูทำไมถึงได้โง่ขนาดนี้นะ

     

     

    ใกล้จะถึงเวลาแล้วนะคะคุณอีทึก.. ควอนยูริพูดขึ้นมาอีกครั้ง.. ยังไงก็ยังคงหวังไม่ให้อีทึกเปลี่ยนใจ

     

     

     

    ถ้าความแตกขึ้นมา..

    ไม่แตกแน่นอนค่ะ ฉันจะไม่ให้ความแตกแน่ คิมแทยอนรีบพูดแทรกขึ้น

     

     

    เธอจะแน่ใจได้ยังไง? เมื่อกี้ก็เห็นๆกันอยู่ พูดพร้อมกับส่งสายตาพิฆาตไปยังคิมฮีชอลอีกครั้ง.. เจ้าตัวได้แค่เบือนหน้าหนีไปทางอื่นแล้วผิวปากกลบเกลื่อนความผิด..

     

     

     

     

    ร้ายนักนะ..

     

     

     

     

    หึ..ยังไงก็จะไม่แต่งสินะคะ? คิมแทยอนถามร่างสูงด้วยน้ำเสียงเย็น.. คิมฮีชอลรู้สึกได้ถึงความน่ากลัวนั้น.. น้ำเสียงแบบนี้เหมือนที่เคยเอามาขู่เขาเป๊ะๆ

     

     

    ฉันไม่แต่ง.. เธอจะให้ฉันแต่งงานกับผู้ชายนิสัยม้าดีดกระโหลกนี่น่ะเหรอ? อีทึกแค่นเสียงหัวเราะ

     

    มือเล็กเปิดกระเป๋าสะพายข้างตัวเองออกก่อนจะหยิบเครื่องมือสื่อสารคู่ใจออกมา.. บีบีโบลด์ตัวเก่งของคิมแทยอน..นิ้วเรียวกดเปิดคลิปเสียงขึ้นมาให้ร่างสูงได้ฟังแล้วยกยิ้มมุมปาก

     

     

     

     

    เธอทำอะไรของเธอเนี่ย..

    โอเคๆ ฉันสัญญา..

    สัญญาว่าอะไรคะพูดให้จบ

    ฉันสัญญาว่าจะเข้าร่วมพิธีแต่งงานกับเธอ พอใจแล้วใช่มั้ย?”

     

    ดีจังเลย~ แทแทไม่อยากเป็นหม้ายขันหมาก~”

    พูดอะไรของเธอ..

    เราจะต้องแต่งงานกันนะคะโอป้า

     

     

     

     

     

     

     

     

    จบสิ้นกันแล้วสินะ.. อนาคตของปาร์คจองซู..

     

     

     

     

     

     

    คุณคิม.. พูดอะไรกับคุณอีทึกหน่อยสิคะ ควอนยูริเอื้อมมือไปสะกิดขาของร่างบาง

    ก็..

    ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ยังไม่ทันได้พูดอะไรอีทึกก็เบรคเขาซะแล้ว.. ฮีชอลได้แค่อ้าปากค้างพลางมองไปยังว่าที่เจ้าบ่าว.. จะเถียงก็ไม่ได้.. มันเป็นความผิดของเขาทั้งนั้นนี่นะ

     

     

    ทำไมถึงไม่ให้พูด....T[]T” ฮีชอลถามเสียงเย็น.. ทำไมไม่ให้พูดบ้าง.. เขาเองก็อยากพูดแบบเป็นตัวของตัวเองมานานแล้วนะ  

     

    ฉันยังช็อคอยู่.. เธอ... ไม่สิ.. นะ..นายนี่มัน...ฮึ่ยยย!!!” อีทึกชี้หน้าคาดโทษร่างบางก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วคว้าข้อมือเล็กเอาไว้

     

    ดะ..เดี๋ยว..จะพาฉันไปไหน? ฮีชอลถามพลางกับมองข้อมือตัวเองที่ถูกพันธนาการไว้

     

     

     

     

     

    ก็อยากแต่งงานนักไม่ใช่เหรอ? ฉันก็จะพานายไปแต่งแล้วนี่ไง

     

     

     

     

     

    พูดจาได้ซีรี่เกาหลีมาก.. แต่ประเด็นหลักคือเรื่องนี้มันไม่ใช่ซีรี่เกาหลี.. คิมฮีชอลไม่ได้อยากแต่งงานกับปู้จาย... คิมฮีชอลโดนบังค้าบบบบบบบบบบบบบบบ T[]T

     

     

     

     

     

     

    .

    .

    .

     

     

     

     

     

    ถ้าพูดถึงโบสถ์แล้ว.. คิมฮีชอลคงนึกถึงแสงแดดตอนสายๆในวันอาทิตย์

    และเสียงเพลงขับร้องสรรเสริญพระเจ้าที่คิมฮีชอลไม่เคยฟัง...











     

    มากกว่าพิธีแต่งงานที่ตัวเองกำลังพบเจออยู่ในตอนนี้..

     

     

     

     

     

     

    .

    .

    .

     

     

     

     

     

     

     

    ในพิธีวิวาห์ของคู่รักตระกูลผู้ดีเก่าที่มีหน้ามีตาในสังคม.. ผู้คนมากหน้าหลายตาต่างปรบมือยินดีให้กับคู่บ่าวสาว..

     

     

    หมวกแต่งงานสีขาวที่สั่งทำแบบพิเศษเพื่อใช้ปิดบังใบหน้าของคิมฮีชอล เมื่อร่างบางเดินเข้ามาในโบสถ์ทุกคนต่างเพ่งมองใบหน้าที่อยู่ใต้ผ้าสีขาว.. อยากรู้จริงๆว่าคุณหนูคิมแทยอนลูกสาวคนเดียวของท่านฑูตจะมีใบหน้างดงามสักแค่ไหน

     

     

    ร่างบางเกร็งไปหมด.. กว่าจะเดินออกทีละก้าวมันช่างยากเย็นแสนเข็ญเสียเหลือเกิน.. ในมือเรียวถือช่อดอกไม้อยู่.. แต่ตอนนี้ก้านดอกไม้คงหักเละไปหมดแล้วเพราะความตื่นเต้นของคิมฮีชอล...

     

     

     

    ร่างสูงมองมายังเจ้าสาวตัวปลอมของตัวเองที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า.. บาทหลวงกำลังจะเริ่มทำพิธีแล้ว.. ถ้าเกิดเขายกเลิกงานแต่งตอนนี้มันคงไม่ทันแล้วล่ะ.. เพราะหันไปตรงที่นั่งก็พบกับพ่อแม่ของเขาที่กำลังนั่งยิ้มอย่างภาคภูมิใจอยู่..

     

     

     

     

     

    ปฏิเสธไม่ได้แล้วนะปาร์คจองซู...

     

     

     

     

     

     

    ปาร์คจองซูจะรับคิมแทยอนเป็นภรรยาหรือไม่...

     

     

     

     

     

     

    ถึงตอนจบแล้วสินะ..

    ไม่สิ.. มันคือจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ต่างหาก..

     

     

     

     

     

     

    .

    .

    .

     

     

     

     

     

    คำถามนี้ทำเอาคิมแทยอนตัวจริงที่ปลอมตัวเป็นผู้ชายนั่งลุ้นจนตัวโก่ง.. ตอบไปซะ.. แต่ง!! เจ้าสาวตัวปลอมได้เพียงแค่ภาวนา.. ขอให้ช่วงเวลานี้ผ่านไปให้เร็วที่สุด

     

     

    รับครับ ตอบเสียงหนักแน่นทำเอาคนที่ยืนก้มอยู่เงยหน้าขึ้นมามองอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง

     

     

     

    คิมแทยอน.. จะยอมรับปาร์คจองซูเป็นสามีหรือไม่..

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เงียบ...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    กลับเป็นฝ่ายฮีชอลซะเองที่ไม่กล้าตอบ.. ร่างบางหันไปมองคิมแทยอนอย่างชั่งใจก่อนจะสะดุ้งเมื่อเห็นสายตาข่มขู่ของร่างเล็ก

     

     

     

    ยอม - รับ - ไป - ซะ พอจะอ่านริมฝีปากของคิมแทยอนได้อย่างนั้น

     

     

     

     

     

    ดวงตากลมโตช้อนมองร่างสูงที่ยืนจ้องเขาอยู่.. เดาไม่ออกเลยว่าอีทึกกำลังคิดอะไร

     

     

     

     

     

     

     

    รับค่ะ..

     

     

     

     

     

     

    งั้นเจ้าบ่าวจูบเจ้าสาวได้ นั่นเป็นคำพูดที่ทำให้ทั้งคู่ต้องมองหน้ากันราวกับเห็นผี..

     

     

     

     

    นั่นสินะ.. พอจบพิธีแล้วจุดไคลแมกซ์มันก็ตอนฉากจูบนี่แหละ..

    อีทึกและฮีชอลคงมัวแต่คิดเรื่องอื่นจนลืมเรื่องนี้ไป..

     

     

     

    ไม่นะ.. ต้องจูบผู้ชายเรอะ..

     

     

     

     

     

    เอ่อ.. เจ้าบ่าว..จูบเจ้าสาวได้แล้วนะลูก.. บาทหลวงกระซิบย้ำร่างสูงอีกครั้ง.. อีทึกหายใจเข้าลึกๆแล้วค่อยๆเปิดหมวกแต่งงานออกเพียงเล็กน้อยเผยให้เห็นริมฝีปากอิ่มของคนตรงหน้าที่ตอนนี้สวยไม่แพ้หญิงแท้เลย

     

     

     

    รู้จักมุมกล้องไหม? มุมกล้องน่ะ.. ร่างบางกระซิบเบาๆเมื่อเจ้าบ่าวเริ่มยื่นใบหน้าหล่อๆเข้ามาใกล้เขา

     

     

     

     

     

    ไม่รู้จัก

     

     

     

     

     

     

    พูดจบก็เชยคางอีกฝ่ายขึ้นมาประกบริมฝีปากอย่างนุ่มนวล.. คิมฮีชอลเบิกตากว้างเหมือนโดนไฟฟ้าแสนโวลต์ช๊อตแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน..

     

    นี่ไม่ใช่จูบแรกของผมก็จริง.. ผมเคยจูบแฟนสาวล่าสุดก็ตอน ม.ปลายปีหนึ่งแต่หลังจากนั้นก็โดนบอกเลิกเหตุผลเพราะผมสวยกว่าเธอ...

     

     

     

     

     

    แต่นี่ผมกำลังจูบกับผู้ชาย...

    และคำถามคือทำไมถึงได้รู้สึกใจเต้นแรงแปลกๆ

    แถมยังไม่ได้รู้สึกรังเกียจเลยด้วยซ้ำ...

     

     

     

     

    .

    .

    .

     

     

     

     

    และแล้วก็ถึงช่วงเวลาที่สาวๆรอคอยนั่นคือช่วงที่เจ้าสาวจะต้องโยนดอกไม้.. มันเป็นพิธีสืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษหรือยังไงก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้แค่ว่าใครที่ได้รับช่อดอกไม้ที่เจ้าสาวโยนนั่นแสดงว่าอีกไม่นานเธอคนนั้นต้องเป็นเจ้าสาวคนต่อไปอะไรเทือกๆนั้นแหละ

     

     

    โยนมาทางนี้~~~”

    ทางนี้ค่ะ!!”

     

     

     

     

     

    ร่างบางมองเอือมๆพลางหันหลังแล้วถอนหายใจก่อนจะโยนช่อดอกไม้ไปข้างหลังแบบสั่วๆ ทำนองว่าโดนหัวใครก็ช่างหัวมันเถอะ

     

     

    พรึ่บ!!” เวรแล้วไง! จังหวะโยนดอกไม้นั้นหมวกแต่งงานของเจ้าสาวตัวปลอมดันหลุดออกโดยที่ไม่รู้ตัว คิมแทยอน ควอนยูริ และอีทึกต่างช็อคยืนช็อค.. คิมแทยอนพอจะรู้ว่าแขกบางคนในงานนี้เคยเห็นหน้าค่าตาของเธอมาบ้างแล้ว และต้องความแตกแน่ๆถ้าเกิดคิมฮีชอลหันหน้าเข้าหาผู้คนในตอนนี้...

     

     

    เฮือก!!” ดวงตากลมโตเบิกกว้างยิ่งกว่าเดิมเมื่อดอกไม้ตกมาอยู่ในมือของหญิงสาวร่างเล็ก...

    แทงกู!” ควอนยูริสะกิดเรียกเพื่อนที่ยืนอึ้งกับช่อดอกไม้ในมือ..

     

     

     

    =[]=!!! อะ...อะไรเนี่ย!!

     

     

    ว๊ากกกกกกกก!!!” คิมแทยอนแหกปากลั่นพร้อมกับทิ้งช่อดอกไม้ในมือลงราวกับถูกของร้อนก่อนจะใช้เท้ากระทืบรัวๆ

     

     

    ไม่เอานะ ฉันไม่ยอมแต่งงานเป็นรายต่อไปเด็ดขาด!!

     

     

    ผู้คนระแวกนั้นอ้าปากหวอเมื่อเห็นคนตัวเล็กกระทืบช่อดอกไม้สีชมพูอย่างโหดร้ายทารุณ...

     

    นี่เธอ..ฮึ่ย!!..นาย!!! หมวกตกแล้วเห็นมั้ยเนี่ย!!” อีทึกว่าพร้อมกับก้มลงไปหยิบหมวกแต่งงานให้เจ้าสาวที่สุดแสนจะซื่อบื้อของเขาขึ้นมาให้ ร่างบางหันซ้ายขวาทำท่าเงอะงะที่เห็นแล้วโคตรขัดใจ อีทึกหันไปมองผู้คนมากมายที่กำลังมองคิมแทยอนที่กำลังดูเหมือนคนถูกผีเข้าเป็นตาเดียวกันจึงทำให้เขาใช้จังหวะนั้นพาฮีชอลวิ่งหายเข้าไปในโบสถ์...

     

     

     

     

    .

    .

    .

     

     

     

     

     หัวใจมีความสุขมากที่สุด..

    ก็ต่อเมื่อมันเต้นเพื่อใครสักคน..

     

    (ยอห์น 15:13)

     

     

     

     

    .

    .

    .

     

     

     

     

    เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวหายไปไหนแล้วล่ะ เสียงของผู้คนรอบข้างทำให้ร่างบางเดินฝ่าฝูงคนเข้าไปข้างในเรื่อยๆเพื่อเดินตามคนที่กำลังหายเข้าไปในโบสถ์โดยที่ไม่รู้ตัว..

     

     

     

     

    คุณจองซู.. เดี๋ยวครับ.. อย่าพึ่งไป..

     

     

     

    คุณจะไปไหน? ข้อมือเล็กถูกรั้งไว้โดยใครอีกคน ใบหน้าหวานหันกลับมามองเจ้านายก่อนจะหยุดยืนอยู่กับที่

     

    เอ่อ..นั่นสิ..

     

    นายจะเดินไปไหนน่ะคยูฮยอน.. ตามไปดูคู่บ่าวสาวเข้าห้องหอเหรอไง

     

    ผม.. ไม่ได้ไปไหนครับ.. พูดเสียงอ่อนก่อนจะตัวปลิวเพราะถูกร่างสูงจูงมือออกมาจากสถานที่แออัดตรงนั้น

     

     

    ฮึ่ย!!!” คิมแทยอนถอนหายใจพร้อมกับกระชับเสื้อให้เข้าที่พลางมองไปยังดอกไม้ช่อนั้นอย่างพึงพอใจ..

     

     

    อ้าว.. สองคนนั้น.. หายไปไหนแล้ว...

     

     

    ยัยแทงกู!!!” ควอนยูริตีแขนร่างเล็กจนหน้าบิดเบี้ยวเพราะความเจ็บ

    อะไรเล๊า!”

    คุณอีทึกหายไปแล้ว ถ้าไม่อยากถูกจับได้ก็เลิกทำตัวเป็นมาสคอสของงานสักทีเถอะ!” เพื่อนสาวกระซิบเบาๆทำให้แทยอนหันไปมองข้างๆ..

     

    เอ่อ.. ขอโทษครับ.. อะแฮ่ม... คือผม.. แพ้ดอกไม้น่ะ.. คิมแทยอนยืดอกก่อนจะควงสาวร่างผอมบางออกจากตรงนั้นหน้าตาเฉย.. ทิ้งไว้เพียงสายตาคนนับสิบที่มองเขาทั้งคู่อย่างประหลาดใจ

     

     

     

     

     

    Mission... Complete

     

     

     

     

     

    .

    .

    .

     

     

     

     

    โอ๊ยยยยยยย ปล่อยก่อนปล่อย เจ็บนะเว้ย!” ฮีชอลว่าพลางสะบัดข้อมือออกเมื่อเจ้าบ่าวของเขาลากเข้ามาในห้องแต่งตัว

     

    ยังไม่ทันไร นายก็เกือบทำให้ความแตกแล้วเห็นมั้ย? อีทึกถอนหายใจก่อนจะนั่งลงบนโซฟา ร่างบางยืนจับผมหน้าม้าตัวเองเพื่อกลบเกลื่อนความผิดพลางชำเลืองตามอง.. อารมณ์นี้เหมือนกำลังโดนพ่อดุอะไรทำนองนั้นแล

     

    ใครจะไปรู้เล่า.. แต่ก็ยังไม่มีใครจับได้นี่.. ฮีชอลพูดเบาๆด้วยความรู้สึกผิดปนแถน้อยๆ

     

    ซื่อบื้อ

     

    ฉลาดตายล่ะ.. หันไปพึมพำเบาๆแล้วเบะปาก

     

    บ่นอะไร

     

    ฉันพูดว่าอยากไปตลาด..

     

    เพ้อเจ้ออะไรของนาย.. มานั่งนี่ พูดพร้อมกับตบโซฟาเบาๆเป็นเชิงสั่ง.. ร่างบางเบะปากแล้วเดินไปนั่งแผละข้างๆร่างสูง ทิ้งระยะห่างไว้พอสมควร

     

    ไม่ต้องกลัวขนาดนั้นก็ได้ ฉันไม่ทำอะไรนายหรอกอีทึกว่าพลางมองดวงหน้าหวานที่เสตามองเขาอย่างหวาดระแวง

     

    ใครจะไปรู้ เกิดนายนึกครึ้มขึ้นมาฉันจะทำไง?

     

    คิดว่าตัวเองน่าพิศวาสนักรึไงหืม? พูดพร้อมกับขยับเข้าไปนั่งใกล้ๆคนตัวบาง คนถูกแกล้งได้เพียงแค่เอนหลังถอยไปเรื่อยๆเมื่อร่างสูงค่อยๆยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ

     

    ไม่..พิศวาส..ละ..แล้วยื่นหน้าเข้ามาทำไม? ถามพลางยกมือขึ้นดันแผงอกแกร่งเอาไว้เพื่อไม่ให้อีกคนได้รุกล้ำเข้ามามากไปกว่านี้ อีทึกหัวเราะในลำคอก่อนจะถอยออกไปนั่งในท่าสบาย

     

     

     

     

    เงียบ...

     

     

     

    บทจะเงียบก็เงียบจริงจัง.. บทจะทำให้กลัวก็เล่นเอาซะใจหายใจคว่ำ

     

     

     

     

     

    อย่างที่นายพูด

     

     

     

     

     

     

    หือ.. จะดราม่าอีกเหรอพ่อ...

     

     

     

     

     

     

    มันก็แค่ละครฉากนึง.. ที่มีฉันกับนายเป็นตัวเดินเรื่อง

     

     

     

     

     

    อยากบอกว่าปรับอารมณ์ตามคุณชายไม่ทัน..

     

     

     

    พอมานั่งคิดอีกทีก็น่าขำนะ.. เราแต่งงานกันแล้ว.. แล้วที่น่าขำกว่านั้นคือฉันกับนายเป็นผู้ชายทั้งคู่ อีทึกแค่นหัวเราะพลางเอนหลังพิงพนักโซฟา ร่างบางนั่งนิ่งแต่สายตายังคงมองคนข้างๆอย่างเป็นห่วง ดูไม่ออกเลยว่าตอนนี้อีทึกคิดอะไรอยู่.. ช่างเป็นคนที่เดาใจยากจริงๆ

     

     

    นายกลัวพระเจ้าจะลงโทษเราสองคนเหรอไง?ร่างบางถามขึ้น.. อย่างที่เคยได้ยินมาตั้งแต่เด็ก

     

     

     

     

    พระเจ้ากำหนดให้ผู้ชายและผู้หญิงเกิดมาเพื่อกันและกัน

     

     

     

     

     

    นายกลัวเหรอ? ร่างสูงหันมาถามคนตัวเล็กกว่า ดวงตากลมโตค่อยๆหลุบลงต่ำ.. ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไรทั้งนั้นนั่นแหละ แต่เพราะคำพูดของอีทึกนั้นทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่าตัวเองนั้นช่างไร้ค่าเหลือเกิน

     

    ทำไมต้องกลัว เราไม่ได้รักกันสักหน่อย.. พระเจ้าของนายคงไม่ลงโทษเราหรอก พูดติดตลกไปหวังให้ใครอีกคนคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องแย่

     

     

    แล้วถ้าเกิดวันนึงเรารักกันขึ้นมาล่ะ นายกลัวโทษที่จะได้รับมั้ย? สิ้นประโยคนั้นทำให้ฮีชอลคิดไปชั่ววูบนึงว่าคนตรงหน้าไม่ได้รังเกียจเขาอย่างที่คิด นั่นสิ.. ถ้าเกิดวันนึงผมตกหลุมรักเจ้าชายหุ่นยนต์ขึ้นมาจริงๆล่ะ.. ถึงวันนั้นผมจะต้องทำยังไงนะ?

     

     

    ...อย่าพูดอะไรที่มันไม่มีวันเป็นความจริงได้ป่ะ ร่างบางว่าพลางหรี่ตามองอีกคน อีทึกหลุดหัวเราะออกมาเพราะคำพูดและท่าทางน่ารักๆของฮีชอล มันน่าแปลกเกินไปมั้ย? ที่เวลาเขาอยู่กับฮีชอลแล้วจะรู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก

     

     

     

    สิ่งเดียวที่จะไม่มีวันเป็นความจริงคือ.. พระเจ้าจะไม่มีวันลงโทษเราถึงแม้ว่าเราสองคนจะรักกันจริงๆก็ตาม

     

     

     

     

     

    .

    .

    .

     

     

     

     

    รู้มั้ยผมไม่ชอบอีทึกตรงไหน

    ผมไม่ชอบใบหน้าหล่อๆของเขาที่ชอบแสดงสีหน้านิ่งเฉย

    ผมไม่ชอบเวลาเขาฝืนหัวเราะเลยสักนิด

    ผมไม่ชอบเวลาที่เขาฝืนยิ้ม

    รู้ไหมว่านั่นมันทำให้ลดความน่ารักของเขาไปตั้ง 40% เลยนะ!

     

     

     

    แต่ผม..กลับชอบมองลักยิ้มเล็กๆของเขาเวลาหลุดหัวเราะตอนเห็นผมทำเรื่องน่าอายซะมากกว่า...นี่ผมเป็นอะไรไปเนี่ย..

     

     

     

     

    .

    .

    .

     

     

     

     

     

    หายตัวไปไม่บอกไม่กล่าวแบบนี้รู้มั้ยว่าแขกเขาตกใจกันน่ะ เสียงที่คุ้นเคยทำเอาร่างสูงหันไปมองผู้มาใหม่ก่อนจะคลี่ยิ้มบางๆ

    พี่อินฮยอง

    อุ่ย.. ฮีชอลรีบจัดเผ้าผมตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะลุกขึ้นปัดกระโปรงฟูกสีขาวฟูฟ่องแบบสั่วๆแล้วเดินมาหยุดยืนข้างหลังอีทึก

    พี่พึ่งมาถึง.. ไม่ทันเห็นนายเข้าพิธีเลย.. ต้องขอโทษด้วยนะ พี่สาวคนโตว่าพร้อมกับเดินมาจัดเผ้าผมที่เซทไว้อย่างดีให้กับน้องชายตัวเอง

     

     

    ไม่เป็นไรครับ แค่พี่มาผมก็ดีใจมากแล้ว

     

     

     

    ทีงี้ล่ะทำตัวเป็นลูกหมาแสนเชื่องเชียวนะคุณชายอีทึก..

     

     

     

     

    พูดจาห่างเหินเชียว นายทำงานหนักเกินไปเหรอจองซู.. ไม่ต้องเป็นทางการกับพี่ขนาดนั้นก็ได้นะ ว่าพลางหยิกแก้มน้องชายสุดที่รักก่อนจะหันไปมองเจ้าสาวของร่างสูงแล้วหันกลับมายิ้ม

     

    สวัสดี...ค่ะ ฮีชอลพูดเบาๆพร้อมกับโค้งหัวจนแทบติดเข่า ถึงจะพอชินบ้างแล้วกับการลวงโลกเป็นผู้หญิงแต่พอถูกจับได้แล้วจะให้มาพูดจาคะๆขาๆเหมือนเดิมมันก็กระดากปากอยู่...

     

    สวัสดี.. คิมแทยอนสินะ ร่างเล็กถามก่อนจะเดินมาหยุดตรงหน้าฮีชอล.. ดวงตากลมโตหันไปมองเจ้าบ่าวของตัวเองส่งสายตาขอความช่วยเหลืออย่างด่วน

     

     

    คะ...ค่ะ

     

    น่ารักกว่าที่คิดแฮะ..

     

    ขะ..ขอบคุณมากค่ะ.. ร่างบางหัวเราะแห้งๆ ก็เพราะสายตาที่ดูเหมือนจะจับผิดของคนตรงหน้านั่นแหละที่ทำให้เขาต้องเลิกลั่กแบบนี้.. อีทึกมองฮีชอลกับพี่สาวตัวเองสลับกันไปมา เดาไม่ออกเลยว่าพี่สาวของเขากำลังคิดอะไรอยู่

     

     

    จองซู.. ออกไปรับแขกสิ.. เดี๋ยวพี่จะดูแลเจ้าสาวนายให้เอง

     

     

     

    ประโยคนี้ให้ฟีลเหมือนกับตอนที่เขาอายุ 10 ขวบขณะนั่งรอหมอเรียกไปขึ้นเขียงฉีดยาอะไรทำนองนั้นไม่มีผิด.. ความรู้สึกแบบ.. บอกไม่ถูกเลย.. ให้อารมณ์เหมือนโดนเรียกไปเข้าห้องดับจิตบวกกับฉีดยาไปด้วยอะไรเทือกๆนั้นแหละ

     

     

     

    เอ่อ..อีทึกมองหน้าฮีชอลอย่างชั่งใจ.. ไม่ได้อยากทิ้งนายไปหรอกนะ.. แต่ฉันไม่อยากลองดีกับพี่อินฮยองสักเท่าไหร่..

     

    หืม? กลัวพี่ทำอะไรเจ้าสาวนายอย่างนั้นเหรอจองซู? อ๊ะ..กาฮีมาพอดีเลย..ไม่ต้องห่วงนะ.. พี่จะดูแลเจ้าสาวของนายเอง อินฮยองยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย.. ฮีชอลปาดเหงื่อ หายใจเข้าปอดลึกๆ.. เอาวะ.. วันนี้วันเดียว.. จัดเต็มมาให้หมด!

     

     

    จองซู.. เลขาใหม่ของซีวอนก็มาแน่ะ.. ออกไปทำความรู้จักกับเขาหน่อยสิ ปาร์คกาฮีเดินเข้ามาหยุดยืนข้างๆปาร์คอินฮยองยิ่งทำให้ฮีชอลอยากจะตบหน้าผากตัวเองแรงๆซะเดี๋ยวนั้น

    เขามาด้วยเหรอครับ?

    อื้ม.. มากับซีวอนน่ะ

    อ่า.. งั้น..

     

     

    โอป้าไปเถอะค่ะ... แทแทอยู่ได้...... ประชดนะอีทึก ฉันประชดอยู่ รีบตอบกลับมาแบบพระเอกเร๊ววว

     

    ก็ได้.. ฝากแทยอนด้วยนะครับพี่ อีทึกยิ้มก่อนจะหมุนตัวหันหลังกลับไป

     

     

     

     

    เฮ้ยย!! ไม่ใช่เว้ย!!  กลับม๊า...!!!

     

     

     

     

    เรามาทำความรู้จักกันหน่อยดีมั้ย? คุณหนูคิมแทยอน

     

     

     

     

    เฮือกกกกกกกกกกก...

     

     

     

     

     

    .

    .

    .

     

     

     

     

    หนทางที่ดีที่สุดที่จะลืมปัญหาของตนเอง

    ก็คือการช่วยแก้ปัญหาให้ผู้อื่น..

    "มนุษย์ อย่ามองเพียงปัญหาของตนเอง แต่ทุกคนควรมองดูปัญหาของผู้อื่น"

    (ฟิลลิปปี 2:4)

     

     

     

    .

    .

    .

     

     

     

     

    แก้วไวน์ขาวถูกถือไว้ในมือเรียวอยู่นานแล้วและปริมาณของมันกลับไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย ร่างบางยืนจ้องรูปปั้นคิวปิดสีขาวอยู่อย่างนั้นไม่ละสายตาไปไหน..

     

     

    พี่ชายคะ~” ร่างผอมบางต้องตื่นจากภวังค์เมื่อรู้สึกว่ามีใครบางคนกำลังกระตุกชายเสื้อของเขาอยู่.. ดวงตาสีน้ำตาลก้มลงมองเด็กผู้หญิงตัวเล็กราวกับตุ๊กตาในชุดแซกสีขาวกระโปรงฟูฟ่องอีกทั้งยังมีปีกนางฟ้าติดมาด้วย เด็กสาวตัวเล็กกำลังยืนมองเขาตาปริบๆ ดวงตากลมโต แก้มอมชมพูจู่ๆก็หัวเราะออกมา

     

    ตรงนี้แดดร้อนจัง ไปนั่งตรงม้านั่งกับเยอึนดีกว่านะคะ เด็กสาวว่าพลางกระพริบตาปริบๆ ริมฝีปากสีเชอรี่ที่เอ่ยเสียงเจื้อยแจ้วนั่นทำให้คนที่กำลังจมดิ่งในความเศร้าอย่างโจวคยูฮยอนยิ้มออกมาได้

     

    หนูชื่อเยอึนเหรอครับ? ร่างผอมบางถามพลางวางแก้วไวน์ไว้บนแท่นหินที่เขายืนพิงอยู่ก่อนจะนั่งลงยองๆให้ระดับสายตาตรงกัน มือเรียวยกขึ้นปัดเศษใบไม้ออกจากไรผมคนตัวเล็กให้อย่างเบามือ ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มออกด้วยความเอ็นดู

     

    ค่ะ.. แล้วพี่ล่ะค่ะชื่ออะไร~”

    พี่ชื่อคยูฮยอนครับผม

    ชื่อเพราะจังเลย~ พี่กายู.. -3-

    ชื่อเยอึนก็เพราะเหมือนกันครับ ริมฝีปากบางยิ้มกว้างยิ่งกว่าเดิมเมื่อได้ยินคำพูดที่แสนน่ารักของเด็กสาวคนนี้.. ลูกสาวใครนะ.. น่ารักจริงๆ

     

     

    เยอึนไม่มีเพื่อนเลยค่ะ เยอึนเหงา.. เยอึนลืมเอาคุณโดโมะมาด้วย ( ‘.’)

    แล้วนี่เรามากับใครครับ.. ทำไมถึงถูกปล่อยให้อยู่คนเดียวแบบนี้ ถามพร้อมกับลุกขึ้นยืนแล้วจูงมือเด็กสาวตัวเล็กเข้าไปนั่งใต้ร่มไม้

     

    มากับคุณกาฮี พี่ทงเฮ พี่ฮยอกแจ แล้วก็คุณลุงคิมด้วยคนที่พูดมาคงจะเป็นญาติพี่น้องของเด็กคนนี้สินะ.. ทำไมพ่อแม่ถึงปล่อยให้เด็กตัวแค่นี้ออกมาเดินเพ่นพล่านคนเดียวแบบนี้ล่ะ

     

     

    แล้วพวกเขาไปไหนหมดล่ะครับ

    พี่ทงเฮพาพี่ฮยอกแจไปไหนแล้วก็ไม่รู้..ไม่สนใจเยอึนเลย เยอึนงอนแล้ว.. ว่าพร้อมกับยู่ปากงอน เด็กสาวชูไม้คฑานางฟ้าที่อยู่ในมือแกว่งไปมาอย่างน่ารัก คยูฮยอนลูบหัวเด็กสาวพลางมองไปรอบๆ ป่านนี้พ่อแม่เด็กอาจจะตามหาอยู่ก็ได้

     

     

     

    แล้วคนอื่นๆละครับ~”

     

    คุณพ่อให้เยอึนมาเล่นกับพี่ชาย~ คุณพ่อบอกว่าพี่ชายใจดี จู่ๆเด็กสาวก็ยิ้มออกมาอีกครั้ง เมื่อกี้ยังหน้าบึ้งตึงเพราะโดนทิ้งอยู่เลยไม่ใช่เหรอ.. ว่าแต่คุณพ่อของเด็กคนนี้เป็นใครกันนะ? รู้จักเขาด้วย?

     

     

    คุณพ่อของเยอึน..?

     

     

     

     

     

     

     

     

    ผมเองครับ

     

     

     

     

     

     

     

    เสียงนี้อีกแล้ว..

     

     

     

    ใบหน้าหวานเงยขึ้นมองผู้มาใหม่ที่ยืนบังแสงแดดจากดวงอาทิตย์ให้กับเขา..

     

     

     

    อีกแล้วสินะ..

     

     

     

    ทั้งที่คิดว่าเสียงนี้คือเสียงของคนที่เขาคุ้นเคย.. แต่ทำไมกลับไม่ใช่คนๆนั้น..

     

     

     

     

     

    คุณซีวอน..

     

     

     

     

     

    คุณเป็นพ่อของเยอึนอย่างนั้นเหรอ?

     

     

     

     

     

    คุณ~~~~~พ่อ~~” เด็กสาวกระโดดลงจากม้านั่งแล้วเดินเข้าไปกอดของร่างสูงที่นั่งลงยองๆเพื่อมอบอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นให้ลูกสาวสุดที่รัก

     

     

    คุณพ่อให้เยอึนมาเล่นกับพี่ชาย~ คุณพ่อบอกว่าพี่ชายใจดี

     

     

     

    ทั้งที่เจอกันไม่ถึงสองวันด้วยซ้ำ.. แต่ก็อดสงสัยไม่ได้เลยว่าเขาสนใจเรื่องเล็กๆน้อยๆของลูกจ้างหน้าใหม่อย่างเขาด้วยเหรอ..

     

     

    นางฟ้าน้อยหิวรึยังเอ่ย~” ถามเด็กสาวตัวเล็กที่ถูกอุ้มอยู่.. ช็อคอยู่เหมือนกันที่รู้ว่าคุณซีวอนมีลูกแล้ว

     

    หิวมากเลยค่ะ เยอึนอยากกินเยงลี่~ คุณพ่อพาเยอึนไปกินนะคะ~” ดวงตากลมโตสบตากับผู้เป็นพ่ออย่างออดอ้อน

     

    เอ.. จะพาไปดีมั้ยนะ~~” ลักยิ้มเล็กๆผุดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มหวานที่ถูกส่งไปยังคนในอ้อมกอด

     

    ไปสิคะ คุณพ่อพาพี่กายูไปด้วยนะ ‘ ‘-” ร่างสูงหันไปมองร่างบางที่นั่งอยู่

    ไม่เป็นไรครับ คุณไปกับครอบครัวเถอะ คยูฮยอนรีบปฏิเสธ คนนอกอย่างเขาไม่ควรเข้าไปขัดเวลาครอบครัว

     

    ยังไงผมก็ต้องไปส่งคุณอยู่ดี ซีวอนพูดก่อนจะนั่งลงข้างๆคยูฮยอน ทิ้งช่องว่างไว้เพียงเล็กน้อยเพื่อไม่ให้บรรยากาศดูอึดอัด

     

    อ๊ะ! ปี๋เฉื้อ!! คุณปี๋เฉื้อรอเยอึนก่อน~~” นางฟ้าน้อยถือคฑาวิ่งไล่ผีเสื้ออย่างสนุกสนาน เสียงหัวเราะคิกคักทำให้คนสองคนที่นั่งอยู่หลุดยิ้มออกมา

     

    อย่าไปไกลนะลูกตะโกนไล่หลังด้วยความเป็นห่วง.. แต่แล้วก็กลับเข้าสู่บรรยากาศเดิมๆ..

     

     

     

     

     

    เงียบ...

     

     

     

     

    ผมมานั่งคิดๆดูแล้ว..ถ้าคุณลำบากใจ..คุณไม่ต้องจ้างผมก็ได้นะครับ มือเรียวออกแรงบีบมืออีกข้างเพราะรู้สึกกดดันอย่างบอกไม่ถูก.. ร่างสูงหันไปมองคนข้างๆที่จู่ๆยิงคำถามแปลกๆขึ้นมาก่อนจะหันกลับไปมองข้างหน้า

     

    ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะครับ ดวงหน้าหวานก้มหน้าลงยิ่งกว่าเดิม.. ถ้าบอกเหตุผลไปคงถูกหาว่างี่เง่าแน่ๆ..

     

    ที่พูดแบบนั้น.. เพราะผมไม่ใช่คุณจองซูใช่ไหมครับ? ถามพร้อมกับยิ้มบางๆให้กับคนข้างๆ คยูฮยอนเบิกตากว้างรีบยกมือขึ้นปฏิเสธในทันที

     

    มะ..ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ.. คือ... คือผมหมายถึงว่า.. ผม.. ร่างบางอยากเอาหัวโขกต้นไม้ให้ความจำเสื่อมไปซะให้รู้แล้วรู้รอด พูดอะไรออกไปนะโจวคยูฮยอน

     

    ถ้าไม่ใช่.. แล้วทำไมถึงอยากออกล่ะครับ?

     

    ผมไม่ได้อยากลาออกนะครับ.. ผมหมายความว่า..ถ้าเกิดผมทำได้ไม่ดีพอ.. คุณจะไล่ผมออกก็ได้..

     

    ยังไม่ทันเริ่มก็ท้อซะแล้วเหรอครับ..

     

     

     

     

    คยูฮยอนที่ผมรู้จักต้องเข้มแข็งกว่านี้สิครับ..

     

     

     

     

    คือ..ผม.. มือเรียวออกแรงบีบหนักกว่าเดิมเมื่อยิ่งคุยยิ่งกดดัน.. ทั้งที่อีกฝ่ายไม่ได้พูดจาทำร้ายจิตใจเขาเลยแท้ๆ.. แต่ทำไมถึงรู้สึกกดดันได้ขนาดนี้นะ..

     

     

     

    อ๊ะ..!!” มือเรียวถูกกุมเอาไว้โดยใครอีกคน.. ร่างสูงมองมือเรียวพลางพลิกไปมาก่อนจะเป่าลมลงบนหลังมือเบาๆ

     

    “….”

     

    ดวงหน้าหวานขึ้นสีอย่างห้ามไม่ได้.. ชเวซีวอนกำลังจะทำให้เขาเป็นบ้า..

     

    แดงหมดแล้วนะครับ อย่าบีบมันสิ มือหนาวางมือเรียวลงบนหน้าขาอีกคนพร้อมกับยิ้มให้ คยูฮยอนรู้สึกได้ถึงก้อนเนื้อตรงหน้าอกข้างซ้ายที่มันเต้นแรงจนน่ารำคาญ

     

     

    ....

     

    กลัวผมเหรอ? ร่างสูงเอ่ยถามเสียงเรียบ

     

    มันไม่เชิงเรียกว่ากลัวหรอกครับ.. แต่ผมแค่ยังไม่ชิน.. ร่างบางสบตาซีวอนได้เพียงแค่สามวิเท่านั้นก็ต้องรีบเบือนหน้าหนี

     

    ยังไม่ชินที่ต้องพบปะ พูดจา และสัมผัสกับคนอื่นเพราะช่วงที่เขาตาบอดนั้นมันทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเดินในทางที่แสนมืดมนอยู่คนเดียวมาโดยตลอด.. จนมีคนๆนึงเข้ามาในชีวิต.. เข้ามามอบแสงสว่างให้กับเขา.. และพอเขาวิ่งตามก็พบว่าแสงสว่างนั้นได้ค่อยๆเลือนหายไป...

     

     

     

     

    ถ้าคุณยังไม่ชิน.. คุณจะหลับตาคุยกับผมก็ได้นะ.. ร่างสูงยิ้มพร้อมกับหลับตาลง.. คยูฮยอนมองอีกคนด้วยความงุนงงก่อนจะค่อยๆหลับตาลงบ้าง.. มันจะช่วยได้รึเปล่านะ...

     

     

     

     

     

    อ่า.. ความมืดแบบนี้...

     

     

    ผมว่าผมคุ้นเคยกับมันนะ...

     

    รู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้างไหมครับ? ยิ่งหลับตา.. ยิ่งทำให้มั่นใจว่าคนๆนี้แหละคือคนที่เขากำลังตามหาอยู่..

     

    แต่ก็ยังพูดได้ไม่เต็มปากหรอกนะ.. ว่าคุณซีวอนคือคุณความฝันของเขา.. ถ้าเกิดใช่จริงๆ.. คุณซีวอนต้องพูดอะไรบ้างสิ.. ต้องทำเหมือนจำเรื่องราวที่เคยมีระหว่างเราได้บ้าง.. แต่นี่เขาไม่แสดงอาการอะไรออกมาเลย..

     

     

     

     

    เขาถึงได้จมปลักกับคำสามคำนั้น..

     

     

     

    ปาร์ค – จอง – ซู

     

     

     

     

    จะเรียกว่าสบายใจก็คงไม่ได้.. ผมไม่ได้ลำบากใจหรอกนะครับ.. คยูฮยอนพูดทั้งที่หลับตาอยู่ ริมฝีปากบางยิ้มออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว... ดวงตาสีน้ำตาลค่อยๆลืมขึ้นอย่างช้าๆพลางมองไปยังร่างสูงที่นั่งหลับตาอยู่ข้างๆด้วยความรู้สึกที่แยกไม่ถูก..

     

     

     

     

     

    ถ้าเกิดผมสามารถมองอะไรเห็นได้เหมือนเดิมแล้วผมจะรู้สึกแย่ขนาดนี้..

    สู้ผมตาบอดแล้วอยู่ในความฝันเหมือนเดิมซะยังจะดีกว่า...

     

    หลอกตัวเองไปวันๆว่าเขายังคงอยู่.. ไม่ไปไหน..

    หลอกตัวเองว่าคนข้างๆคือคุณความฝันที่รอมานานแสนนาน...

     

     

    สุดท้ายนายก็เป็นคนที่ชอบหลอกตัวเอง.. โจวคยูฮยอน

     

     





    talk with writer 

    มันออกมาได้ไม่ตีเพราะช่วงนี้อารมณ์แปรปรวนบ่อยมากค่ะ
    = =';

    nu eng

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×